Contract
ประเด็น ในกรณีที่สัญญาให้ที่ดินมีข้อตกลงเพิ่มเติมว่า “ผู้รับการให้ต้องไปแบ่งแยกที่ดินโอนให้พี่น้อง ทุกคนภายหลัง” มิใช่นิติกรรมอําพราง เพราะมีเพียงนิติกรรมเดียว คือ สัญญาให้ แต่มีลักษณะเป็น สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก ตามมาตรา 374
คําพิพากษาxxxxxxx 11228/2553
นิติกรรมอําพรางตาม ป.พ.พ.มาตรา 155 วรรคสอง เป็นเรื่องคู่กรณีแสดงxxxxx ทํานิติกรรมขึ้นสองนิติกรรม นิติกรรมหนึ่งแสดงให้xxxxxออกมาโดยไม่xxxxxxxจะให้มีผลบังคับตาม กฎหมาย ส่วนอีกนิติกรรมหนึ่งอําพรางปกปิดไว้โดยคู่กรณีxxxxxxxจะทําxxxxxxxxxxxอําพราง ปกปิดไว้นั้น ใช้บังคับระหว่างxxxxxxxxx ในเรื่องของนิติกรรมอําพรางจึงต้องมีสองนิติกรรม แต่ข้อเท็จจริงคดีนี้โจทก์ ตกลงทํานิติกรรมยกที่ดินพิพาทให้แก่จําเลยเพียงนิติกรรมเดียว การให้ดังกล่าวมิได้เป็นการแสดง xxxxxลวงโดยสมรู้กับจําเลยเพื่อปกปิดนิติกรรมอีกนิติกรรมหนึ่งแต่อย่างใด เพียงแต่โจทก์อ้างมีข้อตกลง เพิ่มเติมในสัญญาไว้ว่าจําเลยต้องไปดําเนินการแบ่งแยกที่ดินพิพาทแล้วโอนให้แก่พี่น้องทุกคนในภายหลัง เท่านั้น สัญญาให้ที่ดินพิพาททั้งสองแปลงตามคําxxxx xxxมิใช่นิติกรรมอําพรางที่โจทก์จะฟ้องขอให้ เพิกถอนได้ และหากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่โจทก์กล่าวอ้างในฟ้องจริง กรณีก็เป็นเรื่องโจทก์จําเลยทํา สัญญาตกลงว่าจะชําระหนี้แก่บุคคลภายนอก ตาม ป.พ.พ.มาตรา 374 วรรคหนึ่ง กรณีนี้โจทก์ชอบที่จะ ใช้xxxxxเรียกร้องให้จําเลยโอนท่ีดินพิพาทให้แก่บุตรทุกคนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้รับประโยชน์xxx xxxxx มิใช่มาฟ้องเพิกถอนสัญญาให้แล้วบังคับให้จําเลยโอนที่ดินพิพาทxxxxxxเป็นของโจทก์ เพราะไม่มี กฎหมายxxxxxxxให้โจทก์กระทําxxxxนั้นได้ ดังนี้ แม้จะฟังได้ตามที่โจทก์นําสืบว่ามีข้อตกลงให้จําเลยแบ่ง โอนที่ดินพิพาทให้แก่พ่ีน้องทุกคนจริง กรณีก็xxxxxxบังคับให้จําเลยโอนท่ีดินพิพาทให้แก่พ่ีน้องทุกคน ได้ เพราะจะเป็นการพิพาทเกินไปกว่าxxxxxxxxในคําฟ้อง ตองห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา 142 กรณีก็ไม่ จําต้องวินิจฉัยxxxxโจทก์ในข้อที่ว่ามีข้อตกลงให้จําเลยแบ่งโอนที่ดินพิพาทให้แก่พี่น้องทุกคน หรือไม่ เพราะไม่มีผลทําใหคดีเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น