๓.๑.๓ วันที่ทําสัญญา (Date of contract) ๒๕ ๓.๑.๔ คู่สัญญา (Parties) ๒๖
คู่มือ การร่างสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ
ของสํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
xxxxxxร้อยตรี ตอรัฐ xxxxxxxxxxxxx สํานักกฎหมาย สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
คู่มือการร่างสัญญาภาษาอังกฤษ
ในการจัดทําคู่มือ “การร่างสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ” ผู้เขียนได้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการร่างสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้พระราชบัญญัติ การจัดซื้อxxxxxxxและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ประกอบกับประกาศของคณะกรรมการ นโยบายการจัดซื้อจัดxxxx xxxxยังได้รวบรวมข้อมูลอื่นอันเป็นประโยชน์ต่อนิติกรxxxxxxใช้ประกอบการ ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการร่างสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ อาทิ ข้อสังเกต หลักเกณฑ์ทางภาษาอังกฤษ คําศัพท์ภาษาอังกฤษในสัญญาที่เป็นสัญญาทางกฎหมาย มติของคณะรัฐมนตรี รวมถึงความเห็นของ หน่วยงานราชการต่าง ๆ เกี่ยวกับการร่างสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ เป็นต้น
ผู้เขียนxxxxxxxxอย่างยิ่งว่าคู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนิติกรในการปฏิบัติหน้าที่ ร่างสัญญาเป็นภาษาอังกฤษและเป็นประโยชน์ต่อxxxxxxxxxxxxxxเกี่ยวข้องกับการร่างสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ ภายในส่วนราชการสังกัดรัฐสภาต่อไป
xxxxxxร้อยตรี
……………………………………… (ต่อรัฐ xxxxxxxxxxxxx)
สิงหาคม ๒๕๖๖
หน้า
บทที่ ๑ บทนํา ๑
๑.๑ ความเป็นมาและความสําคัญของปัญหา ๑
๑.๒ วัตถุประสงค์ ๒
๑.๓ ขอบเขตของการศึกษา ๒
๑.๔ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๕
๑.๕ นิยามศัพท์เฉพาะ ๖
๑.๖ ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ๗
บทที่ ๒ ลักษณะการใช้ภาษาอังกฤษที่เป็นภาษากฎหมายในสัญญา ๘
๒.๑ หลีกเลี่ยงการใช้สรรพนาม (Pronoun) แทนคํานาม (Noun) ๘
๒.๒ xxxxใช้คําว่า “shall” ไม่ว่าประธานของxxxxxxจะเป็นใครหรืออะไรก็ตาม ๙
๒.๓ มีการใช้กาลxxxxx (Future Tense) กาลปัจจุบัน (Present Simple Tense) ๑๑ และกาลที่ลุล่วงแล้ว (Present Perfect Tense)
๒.๔ มีการใช้ here + preposition หรือ there + preposition ๑๓ ซึ่งเป็นคําวิเศษณ์ (Adverb)
๒.๕ xxxxละ relative pronoun ที่ขึ้นต้นxxxxxxคุณศัพท์ (adjective clause) ๑๖ และใช้ present participle หรือ past participle แล้วแต่กรณีแทน
๒.๖ ใช้ passive voice เป็นเรื่องxxxx ๑๘
๒.๗ มีการใช้คําศัพท์ภาษาละติน ๑๘
๒.๘ ข้อสังเกตอื่นๆ เกี่ยวกับการใช้คําศัพท์กฎหมาย ๑๘
๒.๘.๑ การสังเกตจดจําคํานามควบคู่กับคํากริยา ๑๘
๒.๘.๒ การใช้คําบุพบท (preposition) ๑๙
๒.๘.๓ ความสม่ําเสมอ (consistency) ของการใช้ถ้อยคํา ๒๐
๒.๘.๔ ถ้อยคําสํานวนกฎหมาย ๒๐
บทที่ ๓ รูปแบบและเนื้อหาของสัญญา ๒๒
๓.๑ ส่วนนําของสัญญา (Introduction) ๒๓
๓.๑.๑ ชื่อของสัญญา (Title of contract) ๒๓
๓.๑.๒ สถานที่ทําสัญญาหรือสถานที่ลงนามในสัญญา (Place of contract) ๒๔
๓.๑.๓ xxxxxxทําสัญญา (Date of contract) ๒๕
๓.๑.๔ คู่สัญญา (Parties) ๒๖
๓.๑.๕ ที่มาหรือเจตนารมณ์ในการทําสัญญา (Xxxxxxxxxx or Recital) ๒๗
๓.๒ เนื้อหาของสัญญา (Contents) | ๒๙ |
๓.๒.๑ ข้อตกลงซื้อ/xxxx (Purchase/Employment Entente) | ๓๐ |
๓.๒.๒ วงเงินที่ซื้อหรือxxxxและการชําระเงิน (Payment) | ๓๑ |
๓.๒.๓ กําหนดการส่งมอบ/ระยะเวลาของสัญญา | |
(Inspection and Acceptance of Goods /Time of Completion) | ๓๒ |
๓.๒.๔ ค่าปรับ (Claim for Penalty) | ๓๓ |
๓.๒.๕ หลักประกันการปฏิบัติxxxxxxxx (Performance bond) | ๓๖ |
๓.๒.๖ การรับประกันความชํารุดบกพร่อง (Warranty for Defect) | ๓๖ |
๓.๒.๗ การบอกเลิกสัญญา (Termination of Contract) | ๓๘ |
๓.๒.๘ การระงับข้อพิพาท (Settlement of Disputes) | ๓๙ |
๓.๒.๙ xxxxxหน้าที่ของคู่สัญญา (Rights and Obligation) | ๔๐ |
๓.๒.๑๐ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา (Amendment) | ๔๑ |
๓.๓ ส่วนที่เป็นข้อสรุปหรือลงท้ายของสัญญา (Conclusion) | ๔๒ |
๓.๓.๑ ส่วนลงท้ายของสัญญา (Counterparts) | ๔๓ |
๓.๓.๒ ลายมือชื่อคู่สัญญา (Signed of Parties) | ๔๓ |
๓.๓.๓ พยานในการทําสัญญา (Witness) | ๔๔ |
๓.๔ ความไม่xxxxxxxหรือการไม่xxxxxxใช้บังคับได้ของข้อสัญญา | ๔๔ |
(Invalidity or unenforceability)
บทที่ ๔ เสนอตัวอย่างการตรวจร่างสัญญาประเภทต่าง ๆ ๔๗
๔.๑ สัญญาซื้อขาย (Sale Agreement) ๔๗
๔.๒ สัญญารับเหมาก่อสร้าง (Construction Contract Agreement) ๕๐
บรรณานุกรม ๕๔
ภาคผนวก ๕๖
หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- พระราชบัญญัติการจัดซื้อxxxxxxxและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐
- xxxxxxxรัฐสภาว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๕๕
- xxxxxxxสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
xxxxxxxxx ๑ ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ๗
บทที่ ๑ บทนํำ
๑.๑ ควำมเป็นมำ
สํำนักกฎหมำย สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎรเป็นส่วนรำชกำรสังกัดรัฐสภำ ได้รับงบประมำณประxxxปีในกำรxxxเนินกำรจัดซื้อ จัดจ้ำง หรือจัดหำพัสดุเพื่อใช้ในกำรบริหำรรำชกำร ของสํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร ตำมพันธกิจของสํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร ซึ่งในกำรxxxเนินกำรจัดซื้อ จัดจ้ำง หรือจัดหำพัสดุเป็นเหตุให้สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร มีหน้ำที่ในกำรลงนำมxxxนิติกรรมสัญญำประเภทต่ำง ๆ กับคู่สัญญำซึ่งเป็นบุคคลภำยนอกเป็นxxxนวนมำก และก่อนที่จะxxxxรลงนำมผูกพันตำมสัญญำจะต้องxxxxรพิจำรณำตรวจสอบควำมถูกต้องxxxxxxx ของร่ำงสัญญำเพื่อป้องกันมิให้เกิดควำมเสียหำยอันจะส่งผลกระทบต่อส่วนรำชกำรได้ ซึ่งหน้ำที่ ในกำรตรวจพิจำรณำควำมถูกต้องxxxxxxxของร่ำงสัญxxxxxสํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร จะกระxxxกับบุคคลภำยนอกเป็นหน้ำที่ควำมรับผิดชอบของสํำนักกฎหมำยตำมประกำศคณะกรรมกำร ข้ำรำชกำรฝ่ำยรัฐสภำ เรื่องกำรกํำหนดหน้ำที่ควำมรับผิดชอบของส่วนรำชกำรในสังกัดสํำนักงำน เลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยกํำหนดให้สํำนักกฎหมำยมีอํำนำจหน้ำที่ตรวจพิจำรณำ ยกร่ำงxxxxxxx ข้อบังคับ และสัญญำ รวมทั้งตรวจพิจำรณำควำมxxxxxxxของนิติกรรมต่ำง ๆ ของสํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร
ดังนั้น นิติกรสํำนักกฎหมำยผู้xxxxxxรับมอบหมำยให้มีหน้ำที่ตรวจพิจำรณำควำม ถูกต้องxxxxxxxของร่ำงสัญxx xxxต้องตรวจพิจำรณำร่ำงสัญญำด้วยควำมระมัดระวังและละเอียด รอบคอบเป็นอย่ำงยิ่ง โดยxxxนึงถึงควำมถูกต้องxxxxxxxตำมหลักกฎหมำย กฎ และxxxxxxxของทำง รำชกำรที่เกี่ยวข้อง และต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของสํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร
ควำมสํำคัญของปัญหำ
ในปัจจุบันภำษำอังกฤษที่เป็นภำษำกฎหมำยมีบทบำทในกฎหมำยไทยมำกยิ่งขึ้น ในยุคกำรค้ำxxxx กำรตกลงประกอบธุรกิจต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนต่ำงชำติ กำรเจรจำต่อรอง และร่ำงสัญญำต้องเข้ำใจกฎหมำยระบบ Common Law ที่เป็นมำตรฐำนสำกล ซึ่งแตกต่ำงกับ กฎหมำยระบบ Civil Law ที่ประเทศไทยใช้อยู่ ดังนั้น กำรจะร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษที่เป็นภำษำ กฎหมำยได้นั้น จึงต้องxxxควำมเข้ำใจทั้งรูปแบบและภำษำที่แตกต่ำงไปจำกสัญxxxxxxxxขึ้นตำม กฎหมำยไทย เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงปัญหำข้อกฎหมำยxxxxxxควรเกิดขึ้นจำกสัญญำ
กำรร่ำงสัญญำนับเป็นงำนสํำคัญอย่ำงหนึ่งที่นักกฎหมำยในสํำนักงำนกฎหมำย จะต้องทรำบและxxxxxxนอกเหนือจำกงำนคดีหรืองำนให้xxxปรึกษำอื่น ๆ กำรร่ำงสัญxxxxxจะสอดรับ กำรขยำยตัวทำงด้ำนกำรค้ำและกำรลงทุนระหว่ำงประเทศนั้น xxxxหลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องxxxเป็น ภำษำอังกฤษและคดีควำมต่ำง ทั้งนี้รับกำรประเมินเห็นว่ำคู่มือนี้จะช่วยให้กำรร่ำงสัญxxxxxเป็น ภำษำอังกฤษมีควำมชัดเจนและง่ำยขึ้น โดยได้ให้หลักเกณฑ์ในกำรร่ำงสัญxxxxxเป็นภำษำอังกฤษไว้ พร้อมทั้งxxxศัพท์ทำงกฎหมำยต่ำง ๆ ซึ่งจะxxxให้ผู้อ่ำนมีควำมเข้ำใจถึงหลักเกณฑ์ในกำรร่ำงสัญxx xxxเป็นภำษำอังกฤษและจะxxxให้สำมำรถร่ำงสัญxxxxxง่ำยขึ้น และสำมำรถนํำไปปรับใช้กับกำรร่ำงสัญญำ รูปแบบอื่น ๆ ทั้งภำษำไทยและภำษำอังกฤษได้อีกด้วย
แม้ที่ผ่ำนมำสํำนักกฎหมำยยังมิได้มียกร่ำงสัญญำหรือข้อตกลงที่เป็นภำษำอังกฤษ แต่ในปัจจุบันกฎหมำยได้เปิดช่องให้สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำมำรถxxxสัญญำ
หรือข้อตกลงเป็นภำษำอังกฤษได้ ตำมพระรำชxxxxxxxกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ มำตรำ ๙๓ หำกxxxเป็นต้องร่ำงสัญญำขึ้นใหม่ ให้ส่งร่ำงสัญญำให้สํำนักงำนอัยกำรสูงสุด พิจำรณำให้ควำมเห็นชอบก่อน เว้นแต่กำรxxxสัญญำตำมแบบที่สํำนักงำนอัยกำรสูงสุดได้เคยให้ควำม เห็นชอบมำแล้วก็ให้กระxxxxxx หำกxxxเป็นต้องxxxสัญญำเป็นภำษำต่ำงประเทศ ให้xxxเป็นภำษำอังกฤษ และต้องจัดxxxข้อสรุปสำระสํำคัญแห่งสัญญำเป็นภำษำไทยตำมหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมกำรนโยบำย ประกำxxxxหนด โดยตำมพระรำชxxxxxxxกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ มำตรำ ๙๔ ประกอบกับประกำศของคณะกรรมกำรนโนบำยกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุ ภำครัฐนั้น xxxxxxหนดให้กำรxxxสัญญำของหน่วยงำนของรัฐในต่ำงประเทศ จะxxxสัญญำเป็นภำษำอังกฤษ หรือภำษำของประเทศที่หน่วยงำนของรัฐxxxxxxxxอยู่ โดยผ่ำนกำรพิจำรณำของผู้เชี่ยวชำญของหน่วยงำน ของรัฐอีกด้วย
จะเห็นได้ว่ำเป็นควำมxxxเป็นอย่ำงยิ่งที่จะจัดให้มีคู่มือกำรร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษ ของสํำนักกฎหมำย สํำหรับเป็นแนวทำงและแนวปฏิบัติในกำรกลั่นกรอง ตรวจสอบ ให้ถูกต้องxxxxxxx ก่อนกำรเผยแพร่สู่สำธำรณะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้เป็นแนวทำงประกอบกำรxxxเนินงำนศึกษำและอ้ำงอิง ซึ่งจะxxxให้กำรตรวจร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษของสํำนักกฎหมำยอันจะเป็นกำรร่วมขับเคลื่อนxxxxศำสตร์ ของสํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎรให้xxxxxผลสํำเร็จต่อไป
๑.๒ วัตถุประสงค์
กำรจัดxxx “คู่มือร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษ” มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
๑.๒.๑ เพื่อศึกษำและสรุปหลักเกณฑ์กำรตรวจร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษ ตำมพระรำชxxxxxxxจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ และประกำxxxxเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ใหม่ที่บังคับใช้กับกำรตรวจร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษของหน่วยงำนรัฐ
๑.๒.๒ เพื่อรวบรวม ศึกษำและสรุปแนวทำงกำรบริหำรสัญxxxxxเป็นภำษำอังกฤษ ที่ปรำกฏในหน่วยงำนรำชกำรต่ำงๆเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบกำรร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษต่อไป
๑.๓ ขอบเขตxxxxxรศึกษำ
ศึกษำหลักกฎหมำยที่เกี่ยวข้อง
๑.๓.๑ ในกรณีที่เป็นสัญญำทำงxxxxxx
- พระรำชxxxxxxxจัดตั้งศำลxxxxxxและวิธีพิจำรณำคดีxxxxxx พ.ศ. ๒๕๔๒
- พระรำชxxxxxxxวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงxxxxxx พ.ศ. ๒๕๓๙
- xxxxxxกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
- กฎหมำยอื่นที่เกี่ยวข้อง
สัญญำใดจะเป็นสัญญำทำงxxxxxxตำมที่xxxxxxxไว้ในมำตรำ ๓ แห่งพระรำชxxxxxxxจัดตั้งศำลxxxxxxและวิธีพิจำรณำคดีxxxxxx พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้นั้น ประกำรแรก คู่สัญญำอย่ำงน้อยฝ่ำยหนึ่งต้องเป็นหน่วยงำนทำงxxxxxxหรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับมอบหมำยให้ กระxxxกำรแทนรัฐ ประกำรที่สอง สัญญำนั้นมีลักษณะเป็นสัญญำสัมปทำน สัญxxxxxให้จัดxxxบริกำร สำธำรณะหรือจัดให้มีสิ่งสำธำรณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จำกทรัพยำกรธรรมชำติ หรือเป็นสัญxx xxxหน่วยงำนทำงxxxxxxหรือบุคคลซึ่งกระxxxกำรแทนรัฐตกลงให้คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งxxxxxxxเนินกำร หรือเข้ำร่วมxxxเนินกำรบริกำรสำธำรณะโดยตรง หรือเป็นสัญxxxxxมีข้อกํำหนดในสัญญำซึ่งมีลักษณะพิเศษ
ที่แสดงถึงxxxxxxxxxของรัฐ ทั้งนี้ เพื่อให้กำรใช้อํำนำจทำงxxxxxxหรือกำรxxxเนินกิจกำรทำงxxxxxx ซึ่งก็คือกำรบริกำรสำธำรณะxxxxxผล ดังนั้น หำกสัญญำใดเป็นสัญxxxxxหน่วยงำนทำงxxxxxxหรือบุคคล ซึ่งกระxxxกำรแทนรัฐมุ่งผูกพันตนกับคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งด้วยxxxxxxxบนพื้นฐำนแห่งควำมเสมอภำค และมิได้มีลักษณะxxxxที่กล่ำวมำแล้วข้ำงต้น สัญญำนั้นย่อมเป็นสัญญำทำงแพ่ง
สัญญำทำงxxxxxx" หมำยถึง สัญxxxxxคู่สัญญำอย่ำงน้อยฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง เป็นหน่วยงำนทำงxxxxxxหรือบุคคลซึ่งกระxxxกำรแทนรัฐ และมีลักษณะเป็นสัญญำสัมปทำน สัญxx xxxให้จัดxxxบริหำรสำธำรณะ หรือจัดให้มีสิ่งสำธำรณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จำกทรัพยำกรธรรมชำติ
สัญญำทำงxxxxxxแบ่งได้เป็น ๒ ลักษณะ คือ
(๑) สัญญำทำงxxxxxxตำมควำมหมำยนัยบทนิยำมมำตรำ ๓ แห่งพระรำชxxxxxxx จัดตั้งฯ มีด้วยกัน ๔ กรณี ได้แก่
๑.๑ สัญญำสัมปทำน
๑.๒ สัญxxxxxให้จัดxxxบริกำรสำธำรณะ
๑.๓ สัญxxxxxจัดให้มีสิ่งสำธำรณูปโภค
๑.๔ สัญxxxxxแสวงหำประโยชน์จำกทรัพยำกรธรรมชำติ
(๒) สัญญำทำงxxxxxxตำมนัยกำรตีควำมของศำลxxxxxx (มติที่ประชุมใหญ่ ตุลำกำรในศำลxxxxxxสูงสุด ครั้งที่ ๖/๒๕๔๔ ลงxxxxxx ๑ ตุลำคม ๒๕๔๔) มีด้วยกัน ๒ กรณี ได้แก่
๒.๑ สัญxxxxxให้xxxxxxxเนินกำรหรือเข้ำร่วมxxxเนินกำรจัดxxxบริกำร สำธำรณะโดยตรง xxxx สัญญำจ้ำงลูกจ้ำงชั่วครำวของส่วนรำชกำร สัญญำรับทุนกำรศึกษำ สัญญำลำศึกษำ
๒.๒ สัญxxxxxมีข้อกํำหนดซึ่งมีลักษณะพิเศษที่แสดงถึงxxxxxxxxxของรัฐ ทั้งนี้ เพื่อให้กำรใช้อํำนำจทำงxxxxxxหรือกำรxxxเนินกิจกำรทำงxxxxxxซึ่งก็คือ “บริกำรสำธำรณะ”
xxxxxผล xxxx สัญญำซื้อขำยที่ดินที่ถูกเวนคืน
สรุปจำกนิยำมของ“สัญญำทำงxxxxxx”xxxxxxหนดไว้ในมำตรำ ๓ แห่งพระรำช xxxxxxxจัดตั้งศำลxxxxxxและวิธีพิจำรณำคดีxxxxxx พ.ศ. ๒๕๔๒ และมติที่ประชุมใหญ่ตุลำกำร ในศำลxxxxxxสูงสุด ครั้งที่ ๖/๒๕๔๔ ดังนี้คือ
ประกำรแรก คู่สัญญำอย่ำงน้อยฝ่ำยหนึ่งต้องเป็นหน่วยงำนทำงxxxxxx หรือเป็นบุคคล ซึ่งได้รับมอบหมำยให้กระxxxกำรแทนรัฐ (คู่สัญญำ)
ประกำรที่สอง สัญญำนั้นมีลักษณะเป็นสัญญำสัมปทำน สัญxxxxxให้ จัดxxxบริกำรสำธำรณะ หรือจัดให้มีสิ่งสำธำรณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จำกทรัพยำกรธรรมชำติ หรือเป็นสัญxxxxxหน่วยงำนทำงxxxxxxหรือบุคคลซึ่งกระxxxกำรแทนรัฐตกลงให้คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่ง xxxxxxxเนินกำรหรือเข้ำร่วมxxxเนินกำรบริกำรสำธำรณะโดยตรง (วัตถุประสงค์ของสัญญำ) หรือเป็น สัญxxxxxมีข้อกํำหนดในสัญญำ ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่แสดงถึงxxxxxxxxxของรัฐ (ข้อกํำหนดในสัญญำ) ทั้งนี้ เพื่อให้กำรใช้อํำนำจทำงxxxxxxหรือกำรxxxเนินกิจกำรทำงxxxxxxซึ่งก็คือกำรบริกำรสำธำรณะ xxxxxผล ดังนั้น หำกสัญญำใดเป็นสัญxxxxxหน่วยงำนทำงxxxxxxหรือบุคคลซึ่งกระxxxกำรแทนรัฐ มุ่งผูกพันตนกับคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งด้วยxxxxxxxบนพื้นฐำนแห่งควำมเสมอภำค และมิได้มีลักษณะ xxxxที่กล่ำวมำแล้วข้ำงต้น สัญญำนั้นย่อมเป็นสัญญำทำงแพ่ง
๑.๓.๒ ในกรณีที่เป็นสัญญำทำงเอกชนหรือสัญญำทำงแพ่งที่เกี่ยวกับกำรพัสดุ
- xxxxxxกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับสัญญำ อันได้แก่ หลักสํำคัญในกำรxxxสัญญำ เป็นหลักทั่วไปในกำรxxxสัญญำระหว่ำงบุคคลตั้งแต่สองฝ่ำยขึ้น
ไปโดยต้องxxxนึงถึงวัตถุประสงค์ของสัญญำว่ำชอบด้วยกฎหมำยหรือxxx xxxสัญญำมีควำมสำมำรถในกำร xxxสัญญำหรือไม่ กำรแสดงเจตนำของคู่สัญญำบกพร่องหรือไม่ รวมถึงxxxxxxตำมแบบของสัญญำ ตำมที่กฎหมำยกํำหนดหรือไม่
- พระรำชxxxxxxxกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐
- xxxxxxxรัฐสภำว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๕๕
- xxxxxxxสํำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- กฎหมำยอื่นที่เกี่ยวข้อง
- มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
๑.๓.๒ ในกรณีที่เป็นสัญญำทำงเอกชนหรือสัญญำทำงแพ่งอื่นxxxxxxเกี่ยวกับกำรพัสดุ
- xxxxxxกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
- กฎหมำยอื่นที่เกี่ยวข้อง กำรxxxxxxxสัญญำของสํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร โดยส่วนใหญ่จะเป็น
กำรxxxxxxxสัญญำในส่วนที่เกี่ยวกับพัสดุ แต่เดิมกำรตรวจสัญญำพิจำรณำหลักเกณฑ์ต่ำง ๆ ที่อยู่ใน xxxxxxxรัฐสภำว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๕๕ ประกอบกับxxxxxxxสํำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งxxxxxxxรัฐสภำว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๕๕ xxxxxxหนดให้กำรใด xxxxxxxxกํำหนดไว้ในxxxxxxxรัฐสภำว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้เป็นไปตำมxxxxxxหนดไว้ในxxxxxxx สํำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยอนุโลม เฉพำะxxxxxxขัดหรือ แย้งกับxxxxxxxxxx ซึ่งในเรื่องแบบหรือตัวอย่ำงตำมxxxxxxxรัฐสภำว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่ แก้ไขเพิ่มเติม โดยxxxxxxxสํำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ ต่อมำเมื่อxxxxรประกำศ ใช้พระรำชxxxxxxxกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งxxxxxxxรประกำศ ในรำชกิจจำนุเบกษำ เมื่อxxxxxx ๒๔ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ กํำหนดให้มีผลใช้บังคับ เมื่อพ้นกํำหนด
๑๘๐ วันนับแต่วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป โดยพระรำชxxxxxxxฉบับนี้ให้ยกเลิก บทบัญญัติเกี่ยวกับพัสดุ กำรจัดซื้อจัดจ้ำง หรือกำรบริหำรพัสดุในกฎหมำย xxxxxxx ข้อบังคับ ประกำศ ข้อบัญญัติ และข้อกํำหนดใด ๆ ของหน่วยงำนของรัฐที่อยู่ภำยใต้บังคับแห่งพระรำชxxxxxxxxxx และกํำหนดให้หน่วยงำนของรัฐต้องxxxสัญญำตำมแบบที่คณะกรรมกำรนโยบำยกํำหนด โดยควำม เห็นชอบของสํำนักงำนอัยกำรสูงสุด โดยแบบสัญญำนั้นให้ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำด้วย ดังนั้น เมื่อพระรำชxxxxxxxฉบับนี้มีผลใช้บังคับ กำรxxxสัญxxxxxเกี่ยวกับกำรพัสดุของสํำนักงำนเลขำธิกำร สภำผู้แทนรำษฎร ซึ่งถือเป็นหน่วยงำนของรัฐตำมพระรำชxxxxxxxxxx จะต้องxxxสัญญำตำมแบบ ที่คณะกรรมกำรนโยบำยกํำหนดดังนี้ คือ ตำมประกำศคณะกรรมกำรนโยบำยกำรจัดซื้อจัดจ้ำง และกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ เรื่อง แบบสัญญำเกี่ยวกับกำรจัดซื้อจัดจ้ำงตำมพระรำชxxxxxxxกำรจัดซื้อ จัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๓ กํำหนดแบบสัญญำโดยควำมเห็นชอบของ สํำนักอัยกำรสูงสุด xxxนวน ๑๔ สัญญำดังนี้
๑) แบบสัญญำจ้ำงก่อสร้ำง
๒) แบบสัญญำซื้อขำย
๓) แบบสัญญำจะซื้อจะขำยแบบรำคำxxxxxxxxxxxกัดปริมำณ
๔) แบบสัญญำซื้อขำยคอมพิวเตอร์
๕) แบบสัญญำซื้อขำยและอนุญำตให้ใช้xxxxxในโปรแกรมคอมพิวเตอร์
๖) แบบสัญญำเช่ำคอมพิวเตอร์
๗) แบบสัญญำจ้ำงบริกำรบํำรุงรักษำและซ่อมแซมแก้ไขคอมพิวเตอร์
๘) แบบสัญญำเช่ำรถยนต์
๙) แบบสัญญำจ้ำงxxxควำมสะอำดxxxxร
๑๐) แบบสัญญำจ้ำงให้บริกำรรักษำควำมปลอดภัย
๑๑) แบบสัญญำเช่ำเครื่องถ่ำยเอกสำร
๑๒) แบบสัญญำแลกเปลี่ยน
๑๓) แบบสัญญำจ้ำงออกแบบและควบคุมงำนก่อสร้ำง
๑.๔ ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
“คู่มือกำรร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษ” จะมีประโยชน์ต่อกำรxxxxxมำตรฐำน กำรปฏิบัติหน้ำที่ของนิติกรสํำนักกฎหมำยและสํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎรในเรื่อง ดังต่อไปนี้
๑.๔.๑ ประโยชน์ต่อนิติกรสํำนักกฎหมำย
๑.๔.๑.๑ นิติกรผู้ร่ำงสัญญำจะมีควำมรู้ควำมเข้ำใจในหลักเกณฑ์กำรร่ำงสัญญำ เป็นภำษำอังกฤษตำมพระรำชxxxxxxxกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ และ ประกำxxxxเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ใหม่ที่บังคับใช้ในกำรร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษของหน่วยงำนรัฐ
๑.๔.๑.๒ นิติกรผู้ตรวจร่ำงสัญญำจะมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในกระบวนกำร ร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษ xxxให้มีควำมพร้อมและสำมำรถตรวจร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษได้อย่ำง มีxxxxxxxxภำพและxxxxxxxxxxมำกยิ่งขึ้น
๑.๔.๑.๓ สํำนักกฎหมำย สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร มีฐำนข้อมูล เรื่อง กำรร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษ” สํำหรับศึกษำและนํำข้อมูลมำประยุกต์ใช้ประโยชน์ต่อกำร พิจำรณำเรื่อง กำรร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษในอนำคต
๑.๔.๑.๔ มีฐำนข้อมูลวิชำกำรเกี่ยวกับ กำรร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษ เผยแพร่ทำงเว็บไซต์ของสํำนักกฎหมำย xxxxxxxxxทำงกำรให้ควำมรู้ด้ำนกฎหมำยแก่ประชำชน
๑.๔.๒ ประโยชน์ต่อสํำนักกฎหมำยของสํำนักเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร
๑.๔.๒.๑ สํำนักกฎหมำย สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร มีคู่มือ กำรปฏิบัติงำxxxxสำมำรถใช้เป็นแนวทำงในกำรตรวจร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษ เพื่อสนับสนุนกำรปฏิบัติงำน ตำมพันธกิจหลักให้มีxxxxxxxxภำพ xxxxxxxxxรำะห์ ครอบคลุมทุกมิติ ถูกต้องตำมหลักวิชำกำร มีควำม เป็นกลำงทำงวิชำกำรและได้กำรยอมรับเชื่อถือจำกทุกฝ่ำย
๑.๔.๒.๒ นิติกรสํำนักกฎหมำย มีแนวทำงปฏิบัติที่เป็นมำตรฐำนเดียวกัน ในกำxxxxxรำะห์ร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษ และประหยัดเวลำในกำรปฏิบัติงำน เนื่องจำกลดขั้นตอน กำรกํำหนดประเด็นในกำxxxxxรำะห์
๑.๔.๒.๓ สํำนักกฎหมำยของสํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎรมีควำม น่ำเชื่อถือและสำมำรถนํำข้อมูลจำกกำxxxxxรำะห์ไปใช้ในร่ำงหรือตรวจสัญญำภำษำอังกฤษอื่น ๆ ได้ เพื่อให้เกิดควำมถูกต้อง ชัดเจน และxxxxxx มุ่งเน้นผลสํำเร็จของงำนตำมxxxxศำสตร์เป็นไปอย่ำงเหมำะสม
๑.๔.๒.๔ บุคคลที่เกี่ยวข้องในวงงำนรัฐสภำและประชำชนทั่วไปสำมำรถ ใช้ประโยชน์จำกเอกสำรวิชำกำรนี้ xxxxxxนํำข้อมูลกำxxxxxรำะห์ซึ่งมีควำมถูกต้อง ครบถ้วน และเชื่อถือ ได้ ไปใช้เป็นแนวทำงในกำรศึกษำ วิเครำะห์ และติดตำมกำรปฏิบัติตำมสัญญำให้เป็นไปอย่ำงถูกต้อง เหมำะสม xxxxxxx และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์แห่งสัญญำ
๑.๔.๒.๕ xxxให้เกิดกำรเรียนรู้ร่วมกันภำยในสํำนักกฎหมำย ในเรื่องกำร ใช้คู่มือฯ เป็นแนวทำงในกำรจัดxxxเอกสำรวิชำกำรของสํำนักกฎหมำยของรัฐสภำ เพื่อสนับสนุน กำรxxxเนินงำนให้เกิดxxxxxxxxภำพมำกที่สุด
๑.๕ นิยำมศัพท์เฉพำะ
ศัพท์เฉxxxxxxxxรร่ำงสัญญำเป็นภำษำอังกฤษ ที่สํำคัญ To make a contract = xxxสัญญำ
To conclude a contract = สรุปสัญญำ To enter into a contract = xxxxxxxสัญญำ
To execute a contract = ปฏิบัติตำมสัญญำ To perform a contract = กระxxxตำมสัญญำ
To fail to perform a contract = ไม่กระxxxตำมสัญญำ To breach a contract = บิดพริ้วต่อสัญญำ ผิดสัญญำ To sanction a contract = บังคับตำมสัญญำ
To enforce a contract = บังคับตำมสัญญำ
To terminate a contract, termination of a contract = ยุติสัญญำ To rescind a contract = บอกล้ำงสัญญำ
To disaffirm a contract = เลิกสัญญำ To form a contract = xxxสัญญำ
To have the legal capacity to a contract = มีควำมสำมำรถทำงกฎหมำยตำมสัญญำ To nullify a contract = บอกล้ำงสัญญำ
To amend a contract, amendment of a contract = แก้ไขสัญญำ To modify a contract, modification of a contract = ปรับแก้สัญญำ To construe a contract = ตีควำมสัญญำ
Addendum of a contract = ข้อเพิ่มเติมในสัญญำ
To recognize under a contract = ยอมรับตำมสัญญำ
๑.๖ ขั้นตอนกำรปฏิบัติงำน
สํำนักกำรคลังและงบประมำณ ส่งร่ำงสัญญำพร้อมเอกสำร มำให้ตรวจ/xxxเนินกำร ลงนำมในสัญญำภำษำอังกฤษ
สํำนักกฎหมำยลงทะเบียนรับ – ส่ง ผู้อํำนวยกำรสํำนักกฎหมำย มอบหมำยให้ผู้บังคับบัญชำกลุ่มงำนกฎหมำย (ระยะเวลำ ๑๐ นำที)
นิติกรผู้ร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษ พิจำรณำ ข้อเท็จจริงเพียงพอ/เอกสำรครบถ้วน (ระยะเวลำ ๗ วัน)
นิติกรผู้ร่ำงสัญxx xxxเนินกำร
- ตรวจสอบเอกสำx xxxxรำะห์ขอเท็จจริง
- ศึกษำข้อกฎหมำย xxxxxxxxxxเกี่ยวข้อง และอื่น ๆ
- ตรวจสอบวำ่ เป็นสัญญำทำงแพ่งหรือสัญญำทำงxxxxxx
- ถ้ำไม่มีรูปแบบสัญญำตำมตัวอย่ำงที่ กวพ. กำํ หนด ให้ยกร่ำงใหม่
- ตรวจเนื้อหำของสัญญำให้ตรงตำมวัตถุประสงค์
- ตรวจสอบคุณสมบัติของคู่สัญญำ
- ตรวจสอบข้อตกลงและเงื่อนไขของสัญญำฯ
- ตรวจสอบเอกสำรแนบท้ำยสัญญำฯ และอื่น ๆ
(ระยะเวลำ ๓๐ วัน)
นิติกรผู้ร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษ พิจำรณำ ข้อเท็จจริงxxxxxxxxxx/เอกสำรไม่ครบถ้วน (ระยะเวลำ ๗ วัน)
ขอเอกสำรเพิ่มเติม (ระยะเวลำ ๑ วัน)
หำกนิติกรผู้ร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษ ตรวจสอบ เห็นว่ำร่ำงสัญญำนั้นเข้ำข่ำยกรณี ข้อ ๑๓๒ วรรคสอง และวรรคสำม ดังนี้
(๑) ร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษมีรูปแบบและเนื้อหำที่เป็น สำระสํำคัญแตกต่ำงจำกตัวอยำ่ งสัญxxxxx กวพ. กำํ หนด (๒) ร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษไม่อำจxxxตำมตัวอย่ำงxxx xxxหนดและxxxเป็นต้องร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษขึ้นใหม่ ให้นิติกรเสนอบันทึกข้อควำมต่อเลขำธิกำร สภำผู้แทนรำษฎร เพื่อพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ ส่งสํำนักงำนอัยกำรสูงสุดพิจำรณำร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษ
(ระยะเวลำ ๓ วัน)
นิติกรผู้ตรวจร่ำงสัญxx xxxเนินกำรเสนอควำมเห็น ข้อเสนอแนะกำรตรวจพจำรณำร่ำงสัญญำเป็น ภำษำอังกฤษ
(ระยะเวลำ ๑ วัน)
ตั้งคณะxxxงำนภำยใน สํำนักงำนกฎหมำยฯ หรือเสนอให้ สํำนักภำษำต่ำงประเทศตรวจสอบ ควำมถูกต้องด้ำนภำษำอีกครั้ง
(ระยะเวลำ ๑๕ วัน)
เลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร เห็น ว่ำ ไม่ต้องส่งร่ำงสัญญำ ภำษำอังกฤษต่อสํำนักงำน อัยกำรสูงสุด
(ระยะเวลำ ๑ วัน)
เลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร เห็นxxxxx ส่งร่ำงสัญญำ ภำษำอังกฤษต่อสํำนักงำนอัยกำร สูงสุด
(ระยะเวลำ ๓ วัน)
แผนภำพที่ ๑ ขั้นตอนกำรปฏิบัติงำน
เลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร xxxเนินกำรสง่ ร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษให้
สํำนักงำนอัยกำรสูงสุดพิจำรณำร่ำงสัญญำ
(ระยะเวลำ ๓๐ วัน)
บทที่ ๒ ลักษณะกำรใช้ภำษำอังกฤษที่เป็นภำษำกฎหมำยในสัญญำ
ภำษำอังกฤษทำงกฎหมำยที่นํำมำใช้ในกำรร่ำงสัญญำหรือแม้แต่กำรร่ำงกฎหมำย ต่ำง ๆ นั้น จะมีลักษณะเฉพำะของตนเองแตกต่ำงจำกภำษำอังกฤษที่ใช้ในศำสตร์อื่น ๆ กล่ำวคือ จะเป็นภำษำที่ต้องอำศัยควำมถูกต้องและชัดเจนอย่ำงมำกเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหำ กำรตีควำมให้มำก ที่สุดxxxxxxxจะเป็นไปxxxxxxxหลีกเลี่ยงกำรใช้xxxสรรพนำมแทนxxxนำมที่กล่ำวถึงมำแล้วให้มำกที่สุด โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งเมื่อxxxนำมที่กล่ำวถึงมำแล้วนั้นมีมำกกว่ำ ๑ xxxกำรใช้xxxสรรพนำมแทนxxxนำม จึงอำจxxxให้เกิดควำมสงสัยว่ำxxxสรรพนำมแทนxxxนำมxxxใดกันแน่หรือกำรใช้ถ้อยxxxใดถ้อยxxxหนึ่ง อย่ำงสม่ํำเสมอตลอดทั้งสัญxxxxxxxxxว่ำ “Contract” ก็ควรจะใช้xxxxxxตลอดxxxสัญญำโดยเฉพำะ เมื่อหมำยถึงสัญxxxxxและจะไม่ใช้xxxอื่นที่มีควำมหมำยอย่ำงเดียวกัน xxxx “Agreement” มำแทน เพื่อหลีกเลี่ยงควำมสับสน และปัญหำกำรตีควำมเป็นต้น
ดังนั้นเพื่อให้xxxxxวัตถุประสงค์ดังกล่ำวภำษำอังกฤษทำงกฎหมำยที่พบในสัญญำ หรือตัวบทกฎหมำยจึงมีลักษณะเฉพำะของตนเองซึ่งพอสรุปได้ดังนี้
๒.๑ หลีกเลี่ยงกำรใช้สรรพนำม (Pronoun) แทนxxxนำม (Noun)
เนื่องจำกกำรใช้สรรพนำมแทนxxxนำมนั้นไม่เป็นที่xxxxในกำรใช้ภำษำอังกฤษ ทำงกฎหมำย ในสัญญำหรือตัวบทกฎหมำยเขำอำจก่อให้เกิดควำมสับสนและเข้ำใจผิดได้ง่ำย ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงกำรใช้สรรพนำมแทนxxxนำมให้มำกที่สุดxxxxxxxจะxxxxxxขอให้พิจำรณำตัวอย่ำง ข้อสัญญำ ดังต่อไปนี้
During the term of this Agreement, the Licensor shall convey know-how to the License by supplying the technical document to him or by providing technical training to his personnel at any time when agreed by both parties from time to time after he has received the down payment special hereunder.
xxxว่ำ “him” “his” และ “he” ในxxxxxxข้ำงต้นนี้ไม่ควรนํำมำใช้ในข้อสัญญำ เพรำะจะxxxให้เกิดควำมสับสนว่ำหมำยถึง Licensor (ผู้ให้อนุญำต) หรือ Licensee (ผู้รับอนุญำต) โดยเฉพำะxxxสรรพนำมxxxxxxหน้ำที่ประธำนของxxxxxxคือxxxว่ำ “he” นั้น มำxxxให้ไม่ชัดเจน ว่ำหมำยถึง Licensor หรือ Licensee
ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงควำมสับสนดังกล่ำวจึงควรใช้xxxนำม “Licensor” หรือ “Licensee” แทนxxxสรรพนำมเหล่ำนี้อำจจะxxxให้เกิดควำมหมำยชัดเจนขึ้นดังนี้ xxxว่ำ “him” แทนด้วย “Licensee” xxxว่ำ “his” แทนด้วย “Licensee’s” และxxxว่ำ “he” แทนด้วย “Licensor” ดังนั้นxxxxxxข้ำงต้นจะเป็นดังนี้ During the term of this Agreement, the
Licensor shall convey know-how to the License by supplying the technical document to the Licensee or by providing technical training to the Licensee’s personnel at any time when agreed by both parties from time to time after the Licensor has received the down payment special hereunder.
นอกจำกนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกำรใช้xxxสรรพนำมดังกล่ำวและเพื่อให้กำรใช้xxxนำม มีควำมชัดเจนและสม่ํำเสมอทั่วทั้งสัญญำ (consistency) ผู้ร่ำงสัญxxxxxxxxxxxxหนดxxxนำมขึ้น เป็นกำรเฉพำะเพื่อใช้แทนถ้อยxxxxxxต้องกำรกล่ำวถึงบ่อยครั้งโดยเฉพำะอย่ำงยิ่งหำกxxxxxxต้องกล่ำวถึง บ่อยครั้งนั้น มีควำมยำวxxxxชื่อของคู่สัญญำหรือลักษณะของxxxxxxที่มีหลำกหลำยชนิดเป็นต้น
โดยทั่วไปแล้วชื่อของคู่สัญxxxxxจะxxxxxxxหนดxxxเฉพำะขึ้นแทนและใช้xxxxxxกํำหนด ขึ้นนั้นแทนผู้สัญญำตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้เกิดควำมสม่ํำเสมอ (consistency) xxxxxรใช้xxx xxxx ชื่อคู่สัญญำ คือ ABC International Distribution Corporation (hereinafter called “ABC”) โดยกำร ย่อชื่อเฉพำะในสัญญำมักนิยมใช้คํำว่ำ “hereinafter called” หรือ “hereinafter referred to as” และ วำงไว้หลังชื่อคู่สัญญำที่ต้องกำรใช้แทน ส่วนถ้อยคํำอื่นๆที่ต้องกำรใช้คํำแทนเพื่อให้มีควำมหมำยเฉพำะ ก็อำจจะระบุไว้ในข้อสัญญำที่ว่ำด้วย “คํำนิยำม” (definition) หรือในข้อสัญญำที่เกี่ยวข้องก็ได้ เช่น
The term “know-how” shall mean any and all technical information concerning the list of products specified in Annex I attached herewith and incorporated as a part hereof which is owned or controlled by “ABC” on the date hereof and which will be developed during the term of this Agreement.
๒.๒ นิยมใช้คํำว่ำ “shall” ไม่ว่ำประธำนของประโยคจะเป็นใครหรืออะไรก็ตำม
โดยหลักไวยำกรณ์ภำษำอังกฤษทั่วไปแล้วเรำจะพบคํำว่ำ “shall” ใช้คู่กับประธำน ที่เป็นสรรพนำมคือคํำว่ำ “I” หรือ “We” เป็นหลัก แต่ในภำษำอังกฤษทำงกฎหมำยนั้นกำรใช้คํำว่ำ “shall” ถือเป็นลักษณะพิเศษอีกประกำรหนึ่งของภำษำอังกฤษทำงกฎหมำยโดยจะนํำคํำว่ำ “shall” มำใช้ในสัญญำหรือตัวบทกฎหมำยโดยไม่จํำกัดว่ำประธำนของประโยคจะเป็นสรรพนำม “I” หรือ “We” หรือไม่หรือจะเป็นคํำนำมใด ๆ ก็ตำม ซึ่งกำรใช้ “shall” ในภำษำอังกฤษทำงกฎหมำยนั้น จะมีควำมหมำยที่เป็นอนำคตในเชิงบังคับ (obligatory) ในลักษณะที่คล้ำยกับคํำว่ำ “must” โดยคํำว่ำ “shall” นั้นจะแปลว่ำ “จะต้อง” หรือ “ให้……..(ทํำอย่ำงนั้นอย่ำงนี้)” ในขณะที่คํำว่ำ “must” แปลว่ำ “ต้อง” ซึ่งมีควำมหมำยในเชิงบังคับที่มีลักษณะเด็ดขำด เช่น
The seller shall deliver the products hereunder to the Purchaser at the factory of the Purchaser. หรือ The Purchaser shall have the right to inspect the products which are delivered by the Seller at the Purchaser’s factory.
อำจมีข้อสงสัยว่ำหำกต้องกำรใช้ภำษำอังกฤษทำงกฎหมำยที่มีลักษณะเชิงบังคับ ในลักษณะเด็ดขำดแล้วเหตุใดจึงไม่ใช้คํำว่ำ “must” แทนคํำว่ำ “shall” เสียทั้งหมดอันจะทํำให้ มีลักษณะบังคับที่เด็ดขำด ซึ่งในควำมเป็นจริงแล้วภำษำอังกฤษทำงกฎหมำยในสัญญำกับไม่นิยม ใช้คํำว่ำ “must” เท่ำใดนักแต่จะนิยมใช้คํำว่ำ “shall” เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้เพรำะควำมหมำยของคํำว่ำ “must” ในแง่จิตวิทยำแล้วจะมีลักษณะที่บังคับกันเด็ดขำดมำกเกินไปซึ่งจะทํำให้คู่สัญญำรู้สึกอึดอัด ดังนั้น หำกข้อสัญญำทุกข้อหรือประโยคทุกประโยคเต็มไปด้วยคํำว่ำ “must” อำจจะนํำไปสู่ควำม หวำดกลัวในกำรที่จะต้องรับผิดกันตำมสัญญำเนื่องจำกลักษณะที่ผูกมัดของคํำว่ำ “must” ดํำเนิน คู่สัญญำ จึงหลีกเลี่ยงที่จะใช้คํำว่ำ “must” แต่ใช้คํำว่ำ “shall” แทน ซึ่งคู่สัญญำ จะรู้สึกสบำยใจ มำกกว่ำที่จะใช้คํำว่ำ “shall” แทนคํำว่ำ “must”
อย่ำงไรก็ดี ในแง่ของกฎหมำยแล้วกำรใช้คํำว่ำ “shall” มีลักษณะในเชิงบังคับ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ำคํำว่ำ “must” เช่นกันแต่ที่ต้องใช้คํำว่ำ “shall” นั้น เพรำะสัญญำส่วนใหญ่มีลักษณะ
ที่เป็นกำรกํำหนดสิทธิและหน้ำที่ที่ผู้สัญญำพึงมีและพึงปฏิบัติต่อกันในอนำคตแต่เพื่อเป็นกำรผูกมัด คู่สัญญำให้ต้องกระทํำกำรต่อกันตำมที่ตกลงกันไว้ในสัญญำจึงใช้คํำว่ำ “shall” ซึ่งมีควำมหมำย เชิงบังคับให้ต้องกระทํำในอนำคตและในแง่ของหลักกฎหมำยเรื่องสัญญำในระบบ Common Law แล้วกำรใช้คํำว่ำ “shall” จะมีควำมหมำยในแง่ของกำรปฏิบัติตำมสัญญำว่ำหมำยถึงสิ่งที่คู่สัญญำ ยังมิได้ทํำให้ลุล่วง (executory contract) แต่ถ้ำเป็นสิ่งที่คู่สัญญำฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ำย ได้ทํำให้ลุล่วงแล้ว (executory contract) ก็ไม่จํำเป็นต้องใช้คํำว่ำ “shall” ในประโยคนั้น แต่จะใช้ กำลปัจจุบันธรรมดำ (Present Simple Tense) ที่มีควำมหมำยว่ำสิ่งนั้นได้ทํำให้ลุล่วงไปแล้ว เช่น Present Perfect Tense เป็นต้น
กระนั้นก็ตำม มิได้หมำยควำมว่ำในสัญญำที่ร่ำงเป็นภำษำอังกฤษนั้น จะนํำคํำว่ำ “must” มำใช้ไม่ได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคู่สัญญำเป็นสํำคัญว่ำมีควำมสบำยใจที่จะใช้หรือไม่ ตัวอย่ำงเช่น ในกรณีของข้อสัญญำบำงข้อซึ่งมิได้เป็นเรื่องที่คู่สัญญำต้องปฏิบัติต่อกันแต่เป็นหน้ำที่ที่คู่สัญญำ จะต้องปฏิบัติตำมกฎหมำยอยู่แล้ว เช่นกำรเสียภำษีอำกรเป็นต้น ก็อำจนํำคํำว่ำ “must” มำใช้ก็ได้ ทํำงำนเนื่องจำกกำรเสียภำษีอำกรเป็นหน้ำที่ที่บุคคลจะมีตำมกฎหมำยอยู่แล้ว เช่น Each party hereto must by responsible for any tax imposed by the law on their respective incomes. สํำหรับคํำแปลภำษำไทยของคํำว่ำ “shall” นั้นอำจแปลได้ว่ำ “จะต้อง” หรือ “ให้... (ทํำอย่ำงนั้นอย่ำงนี้)” ก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประธำนของ “shall” ว่ำมีหนี้ (obligations) ที่จะต้อง กระทํำตำมสัญญำหรือว่ำมีสิทธิ (right) ตำมสัญญำ หำกประธำนของ shall มีหนี้ที่จะต้องกระทํำตำม สัญญำแล้ว “shall” จะแปลว่ำ “จะต้อง” เพื่อให้มีลักษณะบังคับ เช่น The Seller shall deliver the goods to the Purchaser by the date specified in this Contract. จะเห็นได้ว่ำ ประโยค ดังกล่ำว ประธำนของ “shall” คือ “The Seller” มีหนี้ตำมสัญญำที่จะต้องส่งมอบของให้แก่ผู้ซื้อ ตำมวันที่ระบุไว้ในสัญญำ คํำว่ำ “shall” จึงแปลว่ำ “จะต้อง” เพื่อบ่งชี้ว่ำเป็นสิ่งที่ผู้ขำยมีหนี้ตำม
สัญญำซื้อขำยที่จะต้องกระทํำ
แต่หำกประธำนของ “shall” มีสิทธิตำมสัญญำ “shall” จะแปลว่ำ “ให้...(ทํำอย่ำงนั้น อย่ำงนี้)” เช่น If the Seller breaches any of the clauses contained in this Contract, the Purchaser shall have the right to terminate this Contract. ตำมประโยคนี้ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิก สัญญำนี้ได้หำกผู้ขำยผิดข้อสัญญำข้อใดข้อหนึ่ง ในกรณีเช่นว่ำนี้ “shall” แปลว่ำ “ให้ผู้ซื้อมีสิทธิ์บอก เลิกสัญญำนี้ได้” คํำว่ำ “shall” ในประโยคนี้จะแปลว่ำ “จะต้อง” มิได้ ขอแทนที่จะมีควำมหมำย ให้ผู้ซื้อเลือก ใช้สิทธิ์ที่จะบอกเลิกสัญญำนี้หรือไม่ก็ได้แต่จะกลับกลำยเป็นกำรบังคับให้ผู้ซื้อจะต้อง บอกเลิกสัญญำซึ่งจะขัดกับควำมหมำยที่แท้จริงของประโยค
ข้อสังเกต กำรใช้คํำว่ำ “shall” ซึ่งแปลว่ำ “จะต้อง” หรือ “ให้…….(ทํำอย่ำงนั้น
อย่ำงนี้)” ในสัญญำที่ร่ำงเป็นภำษำอังกฤษนี้มิได้นํำมำใช้ในควำมหมำยที่เป็นอนำคตทํำนองเดียว กับคํำว่ำ “will” ในประกำดใดเพรำะคํำว่ำ “will” ให้ควำมหมำยที่เป็นกำลอนำคตธรรมดำ (Future Simple Tense) เหมือนกับที่ใช้กันโดยทั่วไป แต่คํำว่ำ “shall” นํำมำใช้ในประโยคที่มีลักษณะ เป็นกำลอนำคตในเชิงบังคับมำกกว่ำและจะนํำมำใช้ได้ตลอดเวลำโดยไม่คํำนึงว่ำประธำนของประโยค จะเป็นใคร หรือเป็นอะไรก็ตำม เช่น
The Purchaser shall pay the price for the products delivered by the Seller within ๓๐ days as from the date of receipt of invoice therefor from the Seller.
The Debtor shall pay interest to the Creditor upon any and all amounts of debts that are at any time overdue and payable to the Creditor at the rate of ๑๕ percent per annum as from the date when such debts are due and payable.
๒.๓ มีกำรใช้กำลอนำคต (Future Tense) กำลปัจจุบัน (Present Simple Tense) และกำล ที่ลุล่วงแล้ว (Present Perfect Tense)
โดยทั่วไปแล้ว กำล (Tense) สัญญำที่ร่ำงเป็นภำษำอังกฤษจะประกอบไปด้วยกำล
๓ ประเภทหลัก กล่ำวคือ กำลอนำคต (Future Tense) กำลปัจจุบัน (Present Simple Tense) และกำลที่ลุล่วงแล้ว (Present Perfect Tense) ขึ้นอยู่กับลักษณะของประโยคในสัญญำและต้องกำร ชี้ถึงกำลที่ยังมำไม่ถึง (Future Tense) หรือกำลปกติในขณะทํำสัญญำ (Present Simple Tense) หรือกำลที่ล่วงไปเรียบร้อยแล้วในขณะทํำสัญญำ (Present Perfect Tense)
๒.๓.๑ กำลอนำคต (Future Tense)
ดังกล่ำวข้ำงต้นว่ำสิทธิและหนี้ส่วนใหญ่ระหว่ำงคู่สัญญำที่กํำหนดไว้ ในสัญญำที่เขียนเป็นลำยลักษณ์อักษร เป็นสิทธิและหนี้ที่อำจจะยังไม่ได้ใช้หรือยังไม่ได้ปฏิบัติให้ลุล่วง ในขณะที่ทํำสัญญำ ดังนั้น กำลที่ใช้เพื่อแสดงว่ำสิทธิและหนี้ดังกล่ำวยังมิได้ใช้หรือยังไม่ได้ปฏิบัติ ให้ลุล่วงก็คือ กำลอนำคตโดยใช้ “shall” ช่วยบ่งบอกถึงควำมเป็นอนำคตของกำรใช้สิทธิหรือกำร ปฏิบัติกำรชํำระหนี้ เช่น The Purchaser shall upon delivery of the goods by the Seller at the Purchaser’s premises make payment therefor.
๒.๓.๒ กำลปัจจุบัน (Present Simple Tense) ในกรณีของกำรกระทํำระหว่ำงคู่สัญญำที่เกิดขึ้นตั้งแต่ขณะเวลำที่ทํำสัญญำ
เป็นต้นไป กำลที่ใช้ในประโยคเพื่อระบุถึงกำรกระทํำที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลำที่ทํำสัญญำ คือ กำลปัจจุบัน (Present Simple Tense) เช่น The Seller agrees to the deliver the goods at the premises of the Purchaser. หรือ The Seller warrants and represents that the Seller has good title to the goods to be delivered to the Purchaser.
ข้อสังเกตประกำรแรก ของกำรใช้กำลปัจจุบันในสัญญำ คือ กำรใช้กำล ปัจจุบันในประโยคคุณศัพท์ (adjective clause) ที่ใช้ขยำยคํำนำมและวำงไว้หลังคํำนำมที่ประโยค
คุณศัพท์นั้นขยำย หำกแต่กำรใช้กำลปัจจุบันในประโยคที่ว่ำนั้น มิได้แสดงออกให้เห็นชัดเจน แต่ประกำรใดเนื่องจำกจะมีกำรลดรูปหรือละคํำ relative pronoun ของประโยคคุณศัพท์ที่ใช้กำล ปัจจุบันและเปลี่ยนกริยำแท้ (infinite verb) ของประโยคคุณศัพท์นั้นเป็น present participle (v. + ing) ในกรณีที่ voice ของประโยคคุณศัพท์เป็น active voice หรือละทั้ง relative pronoun และ verb to be เหลือไว้แต่ past participle (v. ช่อง ๓) หำก voice ในประโยคคุณศัพท์นั้น เป็น passive voice เช่น
ตัวอย่ำงที่ ๑ A party breaching this Contract shall be liable to pay damages to the other party. ประโยคคุณศัพท์ที่ขยำยคํำนำม “party” คือ “who breaches” ซึ่งใช้กำลปัจจุบัน ดังนั้น ประโยคเดิมก่อนลดรูปหรือละ relative pronoun “who” คือ A party who breaches this Contract shall be liable to pay damages to the other party.
ตัวอย่ำงที่ ๒ The document attached with this Contract shall be incorporated as an integral part hereof. ประโยคคุณศัพท์ที่ขยำยคํำนำม “documents” คือ
“which are attached” ซึ่งใช้กำลปัจจุบันเช่นกัน ดังนั้น ประโยคเดิมก่อนลดรูปหรือละ relative pronoun “which” และ verb to be “are” คื อ The document which are attached with this Contract shall be incorporated as an integral part hereof.
ข้อสังเกตประกำรที่สอง ในแง่ของโครงสร้ำงภำษำอังกฤษก็คือ present participle จะมีควำมเกี่ยวข้องโดยตรงกับประโยคที่ใช้ active voice เช่น
The breaching party = The party who breaches … หรือ
The party breaching…
และ past participle จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับประโยคที่ใช้ passive voice เช่น The attached document = The document which are attached… หรือ
The document attached…
ข้อสังเกตประกำรที่สำม คือ present participle และ past participle จัดเป็นคํำในกลุ่มเดียวกันกับคํำคุณศัพท์ (adjective) ดังนั้น ตํำแหน่งของคํำคุณศัพท์ในประโยค เช่น
วำงไว้หลัง verb to be หรือหน้ำคํำนำมจึงเป็นตํำแหน่งที่สำมำรถวำง present participle และ past participle ได้เช่นเดียวกัน เช่น
ตัวอย่ำงที่ ๑ A boy is swimming in a pool. ในประโยคนี้ “swimming”
เป็น present participle ที่อยู่หลัง verb to be “is” หรือ This Contract is made this ๒๕th day of August ๒๐๑๙ ในประโยคข้ำงต้นนี้ “made” เป็น part participle ที่อยู่หลัง verb to be “is”
ตัวอย่ำงที่ ๒ The breaching party shall be liable to pay damages
to the other party. ในประโยคข้ำงต้นนี้ “breaching” เป็น present participle ที่อยู่หน้ำคํำนำม “party” ห รื อ The attached document are incorporated as an integral part of this Contract. ในประโยคข้ำงต้นนี้ “attached” เป็น past participle ที่อยู่หน้ำคํำนำม “documents”
๒.๓.๓ กำลที่ลุล่วงแล้ว (Present perfect tense)
กำลที่ลุล่วงเรียบร้อยแล้ว (present perfect tense) จะใช้ในประโยคของ สัญญำที่สิทธิของคู่สัญญำฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ำยได้ใช้แล้ว ไม่ว่ำทั้งหมดหรือบำงส่วนในขณะที่ ทํำสัญญำ หรือในประโยคที่หนี้ของคู่สัญญำฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ำยได้ปฏิบัติแล้วไม่ว่ำทั้งหมด หรือบำงส่วนในขณะที่ทํำสัญญำ ตัวอย่ำงเช่น On the date of this Contract, the Lessee has paid the amount of ๑๐ ,๐๐๐ bath to the Lessor as a security deposit for the performance of this Lease Contract.
จำกประโยคข้ำงต้น กำรวำงเงินจํำนวน ๑๐,๐๐๐ บำท โดยผู้เช่ำให้แก่ผู้ให้เช่ำ เพื่อเป็นเงินวำงประกันกำรปฏิบัติตำมสัญญำ (security deposit) ได้กระทํำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในวันที่ทํำสัญญำนี้ กำลที่แสดงถึงกำรวำงเงินประกันดังกล่ำวที่ลุล่วงไปแล้ว คือ present perfect tense ซึ่งย่อมส่งผลทำงกฎหมำยต่อไปว่ำผู้ให้เช่ำ (Lessor) ได้รับเงินวำงประกันดังกล่ำวจำกผู้เช่ำ (Lessee) เรียบร้อยแล้วเช่นกันในวันที่ทํำสัญญำ ถึงแม้จะมิได้เขียนข้อควำมไว้ชัดเจนว่ำผู้ให้เช่ำ ได้รับเงินวำงประกันดังกล่ำวจำกผู้เช่ำแล้วก็ตำม
ข้อสังเกตประกำรแรก ในกรณีข้ำงต้นจะไม่ใช้กำลอดีต (past simple tense) เนื่องจำกกำรใช้กำลอดีตเป็นเพียงกำรบ่งบอกข้อเท็จจริงว่ำเกิดอะไรขึ้นแล้วบ้ำงมิได้ติดใจถึงผลของ
ข้อเท็จจริงนั้น ซึ่งแตกต่ำงจำกกำรใช้ present perfect tense ที่คํำนึงถึงผลในปัจจุบันของเหตุกำรณ์ ที่ผ่ำนพ้นไปแล้ว ดังนั้นจึงเรียกว่ำ present perfect tense
ข้อสังเกตประกำรที่สอง คือ บทสรุปหรือส่วนลงท้ำยของสัญญำ (conclusion) มักมีกำรใช้ present perfect tense เพื่อแสดงว่ำคู่สัญญำได้อ่ำนและได้เข้ำใจข้อกํำหนดและเงื่อนไข ของสัญญำโดยตลอดแล้วจึงได้ลงลำยมือชื่อไว้ต่อหน้ำพยำน เช่น In witness whereof, this Contract is made in duplicate having corresponding terms and conditions and the parties hereto have read and understood the term and conditions herein contained and thereby affixed this signatures and corporate seals (if any) in the presence of the witnesses on the date and in the month and year first above written.
เหตุที่มีกำรใช้ present perfect tense ในบทข้อสรุปหรือส่วนลงท้ำย ของสัญญำดังตัวอย่ำงข้ำงต้นก็เพื่อเป็นกำรปิดปำกคู่สัญญำมิให้หยิบยกเหตุที่มิได้อ่ำนสัญญำหรือเหตุ ที่อ่ำนสัญญำแล้ว แต่ไม่เข้ำใจสัญญำขึ้นกล่ำวอ้ำง เพื่อที่จะไม่ต้องรับผิดตำมสัญญำหรือเพื่อมิให้สัญญำ มีผลบังคับนั่นเอง
อีกกรณีหนึ่งที่อำจพบเห็นกำรใช้ present perfect tense ในสัญญำคือ กรณีที่คู่สัญญำกํำหนดเงื่อนไขบำงประกำรให้คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งต้องทํำให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ก่อนที่ คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งจะปฏิบัติกำรชํำระหนี้ของตน ในกรณีเช่นว่ำนี้ประโยคที่เป็นเงื่อนไขบังคับก่อน (condition precedent) จะใช้ present perfect tense เพื่อแสดงว่ำกำรกระทํำเช่นว่ำนั้นจะต้องเสร็จ สิ้นลงเสียก่อน ก่อนที่คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งจะปฏิบัติกำรชํำระหนี้ของตน เช่น The Lessor shall return the security deposit to the Lessee within ๓๐ days as from the date of expiration of term of this Lease Contract provided that the Lessee has duly performed all of its obligations required hereunder.
จำกประโยคข้ำงต้นจะเห็นได้ว่ำผู้เช่ำ (Lessee) จะต้องปฏิบัติชํำระหนี้ของ จนตำมสัญญำให้เสร็จสิ้นเสียก่อนผู้ให้เช่ำ (Lessor) จึงจะคืนเงินวำงประกัน (security deposit) ให้แก่ผู้เช่ำภำยใน ๓๐ วัน กำรปฏิบัติกำรชํำระหนี้ของผู้เช้ำจึงเป็นเงื่อนไขบังคับก่อนของกำรคืนเงิน วำงประกันโดยผู้ให้เช่ำ
ถึงแม้ว่ำสัญญำที่เขียนเป็นภำษอังกฤษจะใช้กำล (tense) ทั้งสำมกำล
ดังกล่ำวข้ำงต้นเป็นหลัก ก็มิได้หมำยควำมว่ำ กำลอื่นๆ นอกจำกกำลทั้งสำมข้ำงต้นจะใช้มิได้ เพรำะกำรใช้กำลในประโยคของสัญญำย่อมขึ้นอยู่กับลักษณะของกำรใช้สิทธิและกำรปฏิบัติกำร ชํำระหนี้ตำมสัญญำประกอบกับเจตนำและควำมต้องกำรของคู่สัญญำด้วย
๒.๔ มีกำรใช้ here + preposition หรือ there + preposition ซึ่งเป็นคํำวิเศษณ์ (Adverb)
ลักษณะเฉพำะที่เด่นที่สุดของภำษำอังกฤษทำงกฎหมำยที่ปรำกฏในสัญญำหรือ ตัวบทกฎหมำย คือ กำรใช้คํำว่ำ here หรือ there ซึ่งเป็นคํำวิเศษณ์ (adverb) อยู่รวมกับคํำบุพบท (preposition) เป็นคํำเดียวกันโดยยังคงทํำหน้ำที่ในประโยค (part of speech) เป็นคํำวิเศษณ์ (adverb) เหมือนเดิม กำรนํำคํำ here + preposition และ there + preposition มำใช้ในสัญญำ หรือกฎหมำยนั้นก็เพื่อใช้แทนคํำนำม สรรพำนำมหรือวลีที่เขียนหรือกล่ำวมำแล้วเพื่อมิให้ประโยค มีควำมยืดเยื้อ ซ้ํำซำกและฟุ่มเฟือยเดินไป ซึ่งจะช่วยย่นย่อประโยคและถ้อยคํำได้เป็นอันมำกในขณะที่ ยังคงควำมหมำยชัดเจนสมบูรณ์เหมือนเดิมเพรำะคํำว่ำ here หรือ there ในที่นี้นั้น สำมำรถนํำไปแทนได้ ทั้งคํำนำม (noun) คํำสรรพนำม (pronoun) หรือ แม้กระทั่งวลี (phrase) ที่กล่ำวมำแล้ว ได้เป็นอย่ำงดี
ในกำรพิจำรณำว่ำเมื่อใดควรจะนํำคํำว่ำ “here” หรือ คํำว่ำ “there” มำใช้นั้น มีหลักพิจำรณำง่ำยๆ คือ คํำว่ำ “here” จะหมำยถึงตัวเอกสำรทั้งหมดที่กํำลังพิจำรณำอยู่นี้ หรือกล่ำวถึงอยู่นี้ เช่น หำกกล่ำวถึงจดหมำยหรือ e-mail (this letter or e-mail) ก็จะใช้คํำว่ำ “here” แทนคํำว่ำ “this letter or e-mail” หรือหำกกล่ำวถึงสัญญำนี้ (this Contract) ก็ใช้คํำว่ำ “here” แทนคํำว่ำ “this Contract” เป็นต้น โดยอำจสังเกตได้จำกคํำว่ำ “this” ที่อยู่หน้ำคํำนำมนั้น ๆ ส่วนคํำว่ำ “there” นั้นก็จะหมำยถึงสิ่งอื่นๆ นอกจำกสิ่งที่กํำลังพิจำณำอยู่
หรือกล่ำวอยู่นี้ เช่น คํำนำมหรือวลีที่เขียนไว้แล้วในข้อสัญญำและไม่ต้องกำรเขียนซ้ํำอีก เป็นต้น โดยขอพิจำรณำจำกตัวอย่ำงกำรใช้ here + preposition หรือ there + preposition ที่จะกล่ำวต่อไป ทั้งนี้ กำรใช้ here + proposition หรือ there + preposition ดังกล่ำวข้ำงต้น ต้อง มีเงื่อนไขว่ำคํำนำมหรือวลีที่ไม่ต้องกำรเขียนซ้ํำหรือต้องกำรแทนด้วย here หรือ there นั้น จะต้องมี preposition ตั ว ใด ตั วห นึ่ งอ ยู่ ห น้ ำ คํ ำนำมหรือวลีนั้น ซึ่ งจะเป็น preposition ตั ว ใด นั้ น
ก็ขึ้นอยู่กับโครงสร้ำงของประโยคตำมหลักไวยำกรณ์ภำษอังกฤษตำมปกติ
คํำบุพบท (preposition) ต่ำง ๆ ที่จะนํำมำใช้กับคํำว่ำ here หรือ there เช่น in, on, under, after, by, for, of, with หรือ to นั้น จะขึ้นอยู่กับคํำนำมหรือวลีนั้นอยู่ตำมหลัก ไวยำกรณ์ภำษำอังกฤษตำมปกติของประโยคนั้น ขอให้พิจำรณำตัวอย่ำงกำรใช้ here + preposition หรือ there + preposition ดังนี้
FORCE MAJEURE
No party to this Contract shall be liable to the other party for failure or delay in the performance of any of its obligation under this Contract, for the time and to the extent such failure and delay is caused by riots, civil commotion, war, governmental laws and regulation, embargoes and actions by the government or any agency of such government, acts of God, earthquakes, accidents or other similar or different contingencies beyond the reasonable control of the party concerned.
ข้อสังเกต คํำที่เน้นด้วยตัวหนำทั้งสำมแห่งนั้นเป็นคํำนำมและอยู่หลังคํำบุพบท
“to” “under” “of” ตำมลํำดับ โดยคํำว่ำ “this Contract” หลังคํำว่ำ “to” และ “under” นั้นมีกำรกล่ำวมำโดยตลอดในสัญญำนี้เพรำะข้อสัญญำนี้ก็เป็นข้อสัญญำอีกข้อหนึ่งของสัญญำ ซึ่งเกี่ยวกับเหตุสุดวิสัย (force majeure) ดังนั้น กำรจะนํำ here + preposition หรือ there + preposition มำใช้จึงต้องพิจำรณำว่ำในรูปแบบประโยคเดิมมี preposition อยู่หน้ำคํำนำมที่จะใช้ here หรือ there แทนหรือไม่ ถ้ำมีอยู่ก็สำมำรถใช้ here + preposition หรือ there + preposition ได้ เพรำะ preposition ในประโยคเดิมนั้นจะนํำมำวำงไว้ท้ำย here หรือ there แล้วแต่กรณี ซึ่งในตัวอย่ำง ข้ำงต้นจะเห็นได้ว่ำในประโยคเดิมมี preposition อยู่หน้ำ this Contract ทุกตํำแหน่งและคํำวำ this Contract หลัง preposition “to” และ “under” ก็ดี คํำว่ำ such government หลัง preposition “of” ก็ดีมีกำรกลำวถึงแล้วทั้งสิ้น (ในกรณีของ government นั้น government ที่กล่ำวถึงมำแล้ว คือคํำว่ำ government หน้ำคํำว่ำ or any agency) ดังนั้น คํำว่ำ this Contract ทั้งสองแห่ง และคํำว่ำ such government ก็อยู่ในข่ำยที่จะใช้ here + preposition หรือ there + preposition ได้ด้วย
หลัก คือ กำรใช้ “here” หรือ “there” แทนคํำนำมหรือวลีที่กล่ำวมำแล้วนั้น
คํำนำมหรือวลีเช่นว่ำนั้นจะต้องมี preposition ตัวใดตัวหนึ่งอยู่เสมอหรือไม่ก็จะต้องเป็นกรณี ที่จํำเป็นต้องมี preposition เช่น คํำว่ำ “thereby” ในส่วนที่เป็นข้อสรุปหรือที่ลงท้ำยของสัญญำ
ดังตัวอย่ำงที่จะกล่ำวต่อไป ส่วนคํำว่ำ here หรือ there นั้นอำจพิจำรณำได้จำกคํำนํำหน้ำ Contract หรือ government ว่ำมีคํำบ่งชี้ใดที่จะสำมำรถบอกได้ว่ำควรใช้คํำว่ำ “here” หรือ “there” ซึ่งจะเห็นว่ำ ในกรณีของ Contract นั้นมีคํำว่ำ “this” อยู่ซึ่งแสดงว่ำควรใช้คํำวิเศษณ์ here มำกกว่ำ there ส่วนคํำว่ำ government นั้นมีคํำว่ำ “such” อยู่และ government ก็หมำยถึงสิ่งอื่นนอกจำกสัญญำ (this Contract) นี้ ดังนั้น จึงควรใช้คํำว่ำ there มำกกว่ำ here
เมื่อนํำคํำว่ำ here หรือ there ไปแทนคํำนำมทั้งสำมแล้วแต่กรณีแล้วจะต้องนํำ preposition ที่มีอยู่เดิมในประโยคเดิมกลับมำเขียนต่อท้ำยคํำว่ำ here หรือ there แล้วแต่กรณี โดยเขียนติดกันเป็นคํำเดียวด้วย ดังนั้น จำกตัวอย่ำงประโยคข้ำงต้น หำกนํำคํำว่ำ here ไปแทน คํำนำม this Contract หลัง preposition “to” และ “under” และนํำคํำว่ำ there ไปแทน such government หลัง preposition “of” ก็จะได้คํำแทนในรูปของ here + preposition หรือ there
+ preposition ดังนี้ No party hereto shall be liable to the other party for failure or delay in the performance of any of its obligations hereunder, for the time and to the extent such failure and delay is caused by riots, civil commotion, war, governmental laws and regulation, embargoes and actions by the government or any agency thereof, acts of God, earthquakes, accidents or other similar or different contingencies beyond the reasonable control of the party concerned.
ส่วนตัวอย่ำงของกำรใช้ here หรือ there + preposition ที่ใช้คํำแทนวลีที่กล่ำว มำแล้ว ก็เช่นในส่วนที่เป็นบทสรุปหรือส่วนลงท้ำยของสัญญำ (conclusion) ดังนี้ In witness whereof, this Contract is made in duplicate having corresponding terms and conditions and the parties hereto have read and understood the terms and conditions herein contained and thereby affixed their respective signatures and corporate seals (if any) in the presence of the witnesses on the date, and in the month and year first above written. คํำว่ำ “thereby” ในส่วนที่เป็นบทสรุปหรือส่วนลงท้ำยของสัญญำข้ำงต้นนี้ ใช้แทน วลีที่เขียนไว้แล้วแต่ไม่ต้องกำรเขียนซ้ํำอีก โดยวลีดังกล่ำวควรมี preposition อยู่ข้ำงหน้ำ กล่ำวคือ หำกไม่ใช้คํำว่ำ “thereby” วลีที่ต้องเขียนอีกครั้ง คือ “… and by having read and understood the terms and conditions herein contained …” เมื่อใช้ there แทนวลีที่ขึ้นต้นด้วย having (participle phase) จนจบวลีและนํำ preposition “by” ที่อยู่หน้ำวลีดังกล่ำวเขียนต่อท้ำย there
ก็จะได้คํำวิเศษณ์ว่ำ “thereby” แทนวลีทั้งหมดที่เขียนมำแล้ว
ในแง่ของกำรแปลคํำว่ำ thereby ข้ำงต้น อำจแปลตำมวลีทั้งหมดที่ใช้ thereby ไปแทนก็ได้ หรือจะแปลในลักษณะย่อก็ได้ว่ำ “โดยกำรนั้น” ซึ่งหมำยถึงโดยกำรกระทํำที่กล่ำว มำแล้วนั่นเอง ดังนั้น เพื่อกำรแปลที่ถูกต้องของ here + preposition หรือ there + preposition จึงจํำเป็นต้องตรวจสอบว่ำคํำว่ำ here หรือ there ใช้แทนคํำนำมหรือวลีใดที่เขียนมำแล้ว และในกรณี เป็นที่สงสัยว่ำกำรใช้ here หรือ there แทนคํำนำมหรือวลีจะทํำให้ผู้อ่ำนเข้ำใจถูกต้องว่ำ here หรือ there ดังกล่ำวแทนคํำนำมหรือวลีใดกันแน่ก็ไม่ควรใช้ here หรือ there แทนคํำนำมหรือวลีนั้น เพรำะอำจก่อให้เกิดควำมสับสนและเข้ำใจคลำดเคลื่อนกันได้ระหว่ำงคู่สัญญำ
ข้อสังเกต
- ตํำแหน่งของ here + preposition หรือ there + preposition นั้น จะอยู่ใน ตํำแหน่งเดิมของคํำที่ here หรือ there เข้ำไปแทนที่หรืออยู่ในตํำแหน่งใกล้กับคํำที่มันขยำยคือ คํำกริยำก็ได้
- คํำที่ here หรือ there เข้ำแทนนั้นอำจจะเป็นคํำนำม คํำสรรพนำม หรือวลีก็ได้ ซึ่งเมื่อแทนแล้วคํำว่ำ here + preposition หรือ there + preposition จะยังคงทํำหน้ำที่เป็น คํำวิเศษณ์ (adverb) ต่อไป
- ไม่ควรใช้คํำ here + preposition หรือ there + preposition พร่ํำเพรื่อมำก เกินไปจนก่อให้เกิดควำมสับสนได้ ควรใช้เฉพำะในกรณีที่มีควำมชัดเจนว่ำหมำยถึงสิ่งใดหรือกรใดเท่ำนั้น ตัวอย่ำงเพิ่มเติมของกำรใช้ here + preposition หรือ there + preposition
- Document attached with this Contract
= Document attached herewith
- to be liable for the costs and expenses
= to be liable therefor
- to be bound by the award
= to be bound thereby
- Provisions contained in this Contract
= Provisions contained herein หรือ Provisions herein contained
๒.๕ นิยมละ relative pronoun ที่ขึ้นต้นประโยคคุณศัพท์ (adjective clause) และใช้ present participle หรือ past participle แล้วแต่กรณีแทน
เนื่องจำกกำรเขียนประโยคภำษำอังกฤษที่เป็นภำษำกฎหมำยนั้นมักนิยมใช้ประโยค ขยำยที่เรียกว่ำประโยคคุณศัพท์ (adjective clause) มำกเนื่องจำกต้องกำรควำมละเอียดและชัดเจน โดยวำงประโยคคุณศัพท์ไว้หลังคํำนำมที่ต้องกำรขยำยและใช้คํำ relative pronoun ขึ้นต้นประโยค คุณศัพท์ดังกล่ำว แต่บ่อยครั้งนักกฎหมำยจะนิยมละคํำ relative pronoun ดังกล่ำวเสียและ ปรับเปลี่ยนคํำกริยำ (verb) ใน clause ดังกล่ำวเสียใหม่ แต่ยังคงควำมหำยเดิมไว้ โดยกำรปรับเปลี่ยน คํำกริยำในประโยคคุณศัพท์ดังกล่ำวนั้นจะปรับเปลี่ยนเป็น present participle (verb + ing) หรือ past participle (verb ช่อง ๓) แล้วแต่กรณีขึ้นอยู่กับว่ำ “voice” ในประโยคคุณศัพท์เดิมนั้น ว่ำเป็น “active voice” กล่ำวคือประธำนของประโยคคุณศัพท์ดังกล่ำวเป็นผู้กระทํำกำรนั้น หรือเป็น “passive voice” กล่ำวคือประธำนของประโยคคุณศัพท์ดังกล่ำวถูกกระทํำ
ในกรณีที่ประโยคคุณศัพท์ดังกล่ำวเป็น active voice เมื่อละคํำ relative pronoun ที่ขึ้นต้นประโยคคํำคุณศัพท์ดังกล่ำวแล้ว ให้เปลี่ยนคํำกริยำ (verb) ในประโยคคุณศัพท์ดังกล่ำว เป็น present participle ดังตัวอย่ำงต่อไปนี้ The party receiving such confidential information shall use such confidential information only as expressly contemplated by this Agreement. คํำว่ำ “receiving” ข้ำงต้นเป็น present participle ที่มำจำกประโยคคุณศัพท์เดิมว่ำ
“who receiving” โดยคํำว่ำ who เป็น receiving pronoun ขยำยคํำว่ำ party และเป็นประธำน ของคํำกริยำ “receives” และโดยที่ประโยคคุณศัพท์ดังกล่ำวเป็น active voice ดังนั้น เมื่อต้องกำร ละคํำ relative pronoun “who” จึงต้องเปลี่ยน verb “receives” ให้เป็น present participle แทน
คือ “receiving” โดยตํำแหน่งของ present participle ดังกล่ำวก็ยังคงอยู่หลังคํำนำมที่ประโยค คุณศัพท์เดิมดังกล่ำวขยำย ซึ่งในที่นี้คือคํำว่ำ “party” โดยหน้ำที่ของ present participle ในประโยคข้ำงต้นจะทํำหน้ำที่อย่ำงเดียวกับคํำคุณศัพท์ (adjective) แต่เป็นคํำคุณศัพท์ที่อยู่หลัง คํำนำมที่คํำคุณศัพท์นั้นขยำย เนื่องจำกว่ำได้ลดรูปมำจำกประโยคคุณศัพท์เดิมนั่นเองและจะไม่นํำ มำวำงไว้หน้ำคํำนำมที่มันขยำยเหมือนคํำคุณศัพท์ธรรมดำทั่วๆ ไป
แต่ในกรณีที่ประโยคคุณศัพท์ดังกล่ำวเป็น passive voice เมื่อละคํำ relative pronoun ที่ขึ้นต้นประโยคคุณศัพท์ดังกล่ำวแล้วให้ละ verb to be ที่ใช้ใน passive voice นั้นด้วย โดยจะคงไว้เฉพำะคํำที่เป็น past participle ไว้เท่ำนั้น ดังตัวอย่ำงต่อไปนี้ Either party shall maintain in confidence all confidential information identified as such received from the other party, whether of a commercial or technical nature.
คํำว่ำ “identified” และ “received” เป็น past participle ที่คงไว้หลังจำกละคํำว่ำ “which is” หน้ำคํำว่ำ “identified” และคํำว่ำ “which is” หน้ำคํำว่ำ “received” โดยคํำว่ำ “which” เป็นคํำ relative pronoun ที่ขยำยคํำว่ำ all confidential information และเป็นประธำน ของคํำกริยำ “is identified” และ “is received” ดังนั้นเมื่อละคํำว่ำ which และ verb to be แล้ว จึงคงไว้เฉพำะคํำที่เป็น past participle ได้แก่ “identified” และ “received” ซึ่งทํำหน้ำที่ขยำย คํำนำม all confidential information เช่นเดียวกับ present participle และวำงไว้หลังคํำนำมที่ past participle ดังกล่ำวขยำยซึ่งในที่นี้คือคํำว่ำ “all confidential information” เช่นกัน
ดังนั้นกำรที่จะพิจำรณำว่ำจะใช้คํำ present participle หรือ part participle ขยำยคํำนำมข้ำหน้ำนั้น จึงต้องพิจำรณำจำก voice ในประโยคคุณศัพท์เดิมเป็นสํำคัญว่ำ เป็น active voice หรือ passive voice หำกประโยคคุณศัพท์เดิมเป็น active voice เมื่อละคํำ relative pronoun แล้วให้เปลี่ยนคํำกริยำแท้ในประโยคคุณศัพท์ดังกล่ำวเป็น present participle แต่หำกประโยค คุณศัพท์เดิมเป็น passive voice เมื่อละคํำ relative pronoun แล้วให้ละ verb to be ตำมไปด้วย และคงเหลือไว้เฉพำะคํำที่เป็น past participle เท่ำนั้น
อย่ำงไรก็ดี มิได้หมำยควำมว่ำกำรใช้ relative pronoun ขึ้นต้นประโยคคุณศัพท์ ที่ขยำยคํำนำมข้ำงหน้ำประโยคคุณศัพท์โดยไม่ละ relative pronoun จะเป็นสิ่งที่ทํำไม่ได้ ทั้งนี้ เพรำะกำรคงคํำ relative pronoun ไว้นั้น ยังถือว่ำถูกต้องตำมหลักกำรเขียนไวยำกรณ์ภำษำอังกฤษ อยู่และก็ยังใช้อยู่ในภำษำกฎหมำยที่เป็นภำษอังกฤษ หำกแต่ผู้ใช้จะเลือกกำลเทศะในกำรใช้ประโยค คุณศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยคํำ relative pronoun โดยไม่มีกำรละคํำ relative pronoun ดังกล่ำว โดยพิจำรณำถึงควำมชัดเจนในกำรคงประโยคคุณศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยคํำว่ำ relative pronoun ไว้ โดยไม่มีกำรละคํำ relative pronoun ดังกล่ำวว่ำจะช่วยให้มีควำมชัดเจนขึ้นหรือไม่ หำกกำรคงคํำ relative pronoun ไว้จะทํำให้เกิดควำมชัดเจนไม่คลุมเครือก็ควรจะคงคํำ relative pronoun ไว้ โดยไม่มีกำรละคํำดังกล่ำวก็จะเหมำะสมกว่ำ เช่น ในประโยคคุณศัพท์ที่ใช้กำลอื่นๆ นอกจำกกำล ปัจจุบัน (present simple tense) เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดควำมสับสนว่ำเมื่อละ relative pronoun ที่ ขึ้นต้นประโยคคุณศัพท์นั้นแล้ว กำล (tense) เดิมในประโยคคุณศัพท์นั้นเป็น กำล (tense) ใดกันแน่
๒.๖ ใช้ passive voice เป็นเรื่องปกติ
อำจมีผู้กล่ำวว่ำภำษำที่ใช้ในสัญญำนั้น ควรหลีกเลี่ยงกำรใช้ passive voice อันที่จริงแล้วกำรใช้ voices ไม่ว่ำจะเป็น passive voice หรือ active voice ทั้งในไวยำกรณ์ทั่วไป และภำษำสัญญำหรือภำษำกฎหมำย ย่อมเป็นเรื่องปกติของภำษำอังกฤษอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใด ที่ภำษำสัญญำจะต้องหลีกเลี่ยงกำรใช้ passive voice ตรำบเท่ำที่กำรใช้ passive voice ดังกล่ำว สื่อถึงควำมต้องกำรระหว่ำงคู่สัญญำและไม่ทํำให้ข้อสัญญำคลุมเครือ
กำรใช้ passive voice ทํำให้กำรเขียนข้อสัญญำคล่องตัวขึ้น เพรำะมีทำงเลือก ในกำรเขียนประโยคในสัญญำที่ไม่ต้องถูกจํำกัดอยู่แต่เฉพำะ active voice อย่ำงเดียวและหำก จะกล่ำวไปแล้ว ผู้ร่ำงสัญญำนิยมใช้ประโยคที่เป็น passive voice อย่ำงมำกมำยเพื่อสะท้อนถึง ควำมต้องกำรของคู่สัญญำโดยมิได้คิดว่ำกำรใช้ passive voice จะก่อให้เกิดปัญหำด้ำนภำษำหรือ ควำมเข้ำใจระหว่ำงคู่สัญญำแต่ประกำรใด ทั้งนี้ทั้งนั้นย่อมขึ้นอยู่กับทักษะและศิลปะในกำรใช้ ภำษำสัญญำมำกกว่ำว่ำกำรเขียนประโยคอย่ำงไรจึงจะเกิดควำมชัดเจนและสํำท้อนควำมต้องกำรของ คู่สัญญำมำกที่สุด
๒.๗ มีกำรใช้คํำศัพท์ภำษำละติน
ภำษำละตินเป็นภำษำกฎหมำยดั้งเดิมของระบบ Common Law จึงไม่น่ำแปลกใจ ที่อำจพบคํำศัพท์กฎหมำยภำษำละตินปะปนอยู่ในคํำศัพท์กฎหมำยที่เป็นภำษำอังกฤษอยู่บ้ำง แต่จะพบคํำศัพท์ละตินในสัญญำน้อยกว่ำที่จะพบอยู่ในตัวบทกฎหมำยหรือหลักกฎหมำย ซึ่งโดยทั่วไป แล้วคํำศัพท์ภำษำละตินเหล่ำนี้จะมีควำมหมำยที่แน่นอนและยอมรับกันเป็นยุติแล้ว จึงไม่ใคร่มีปัญหำ มำกนักในกำรนํำมำใช้ในสัญญำหรือในตัวบทกฎหมำยและสำมำรถที่จะหำควำมหมำยได้จำก พจนำนุกรมกฎหมำยที่เป็นภำษำอังกฤษโดยทั่วไป
คํำละตินที่พอจะพบเห็นอยู่ในภำษำอังกฤษที่เกี่ยวกับกฎหมำยนั้นมีจํำนวนไม่น้อย แต่คํำละตินที่ใช้อยู่ในสัญญำที่ร่ำงเป็นภำษำอังกฤษนั้น มีไม่มำกนัก เช่น
Pro rata | = | proportionately (ตำมสัดส่วน) |
Vice versa | = | conversely (ในทำงกลับกัน) |
Bona fide | = | good faith (โดยสุจริต) |
Prima facie | = | at first sight; on the face of it (ในเบื้องต้น) |
๒.๘ ข้อสังเกตอื่น ๆ เกี่ยวกับกำรใช้คํำศัพท์กฎหมำย
๒.๘.๑ กำรสังเกตจดจํำคํำนำมควบคู่กับคํำกริยำ กำรที่จะใช้คํำศัพท์กฎหมำยที่เป็นคํำนำม (noun) ได้อย่ำงถูกต้องแม่นยํำ
ในประโยคนั้น ไม่ควรที่จะจดจํำเฉพำะคํำศัพท์ที่เป็นคํำนำมนั้นแต่เพียงคํำเดียว หำกแต่ควรจะจดจํำ และสังเกตคํำกริยำ (verb) ที่ใช้ควบคู่กับคํำนำมคํำนั้นไปพร้อมกันด้วยเพรำะคํำศัพท์กฎหมำย ที่เป็นคํำนำมมักจะใช้ควบคู่กันไปกับคํำกริยำเพื่อให้มีควำมหมำยเฉพำะตำมที่ต้องกำรเสมอ เช่น คํำว่ำ payment ซึ่งเป็นคํำนำม หำกจะใช้คํำนี้ในประโยคก็จะต้องหำคํำกริยำที่ใช้ควบคู่กับคํำว่ำ payment ดังกล่ำวเพื่อให้มีควำมหมำยว่ำ “ทํำกำรชํำระเงิน” และคํำกริยำที่ใช้ควบคู่กับคํำว่ำ payment เพื่อให้มีควำมหมำยดังกล่ำวก็คือ “to make” ดังนั้น หำกจดจํำและสังเกตคํำศัพท์
กฎหมำยที่เป็นคํำนำมควบคู่ไปกับคํำกริยำแล้วก็จะทํำให้ใช้ภำษำกฎหมำยในกำรแต่งประโยค ได้ถูกต้องและง่ำยขึ้นเพรำะเมื่อทรำบคํำนำมและคํำกริยำแล้วสิ่งที่ขำดไปในประโยคก็อำจมีเพียง ประธำนของประโยคและ/หรือกรรมของประโยคเท่ำนั้นสํำหรับประโยคที่ไม่ซับซ้อนเกินไปนักขึ้นอยู่ กับว่ำจะเขียนประโยคใน voice ใด (active voice หรือ passive voice) เช่น จำกคํำนำม payment ข้ำงต้น อำจแต่งประโยคได้ เป็นดังนี้
The Purchaser makes payment to the Seller. ห รื อ Payment is
made to the Seller.
กำรสังเกตและจดจํำคํำนำมควบคู่ไปพร้อมกันกับคํำกริยำนั้น สำมำรถทํำได้
จำกกำรอ่ำนเอกสำรกฎหมำย เช่น ตํำรำกฎหมำยที่อธิบำยในเรื่องต่ำงๆ เป็นต้น ไม่ว่ำจะเป็นกฎหมำย สำรบัญญัติหรือวิธีสบัญญัติก็ตำม ตัวอย่ำงของคํำนำมที่ใช้คู่กับคํำกริยำและมีควำมหมำยเฉพำะ ตัวอย่ำงเช่น คํำว่ำ “contract” หรือ “agreement” หำกจะใช้คํำกริยำประกอบเพื่อให้มีควำมหมำยว่ำ “ทํำสัญญำ” ก็สำมำรถใช้คํำกริยำคู่กับคํำว่ำ contract หรือ agreement ได้หลำยคํำ ดังนี้
To make a contract
To conclude a contract To enter into a contract To execute a contract
หรือคํำว่ำ “active” หำกจะใช้คํำกริยำประกอบเพื่อให้มีควำมหมำยว่ำ “ฟ้องร้องคดี” ก็สำมำรถใช้คํำกริยำคู่กับคํำว่ำ action ได้ดังนี้
To file an action (against someone)
To bring an action (against someone)
To institute an action (against someone)
แต่คํำว่ำ “to take action” มิได้หมำยควำมว่ำ “ฟ้องร้องคดี” แต่จะมี ควำมหมำยว่ำ “ดํำเนินกำร” ซึ่งถ้ำเขียนว่ำ “to take legal action” ก็จะมีควำมหมำยว่ำ “ดํำเนินกำร ทำงกฎหมำย” ซึ่งจะเป็นควำมหมำยที่กว้ำงกว่ำและแตกต่ำงจำกคํำว่ำ “ฟ้องร้องคดี” ข้ำงต้น ดังนั้น กำรเลือกใช้คํำนำมควบคู่ไปพร้อมกันกับคํำกริยำที่เหมำะสมจะทํำให้กำรเขียนและกำรใช้ภำษำ กฎหมำยถูกต้องรัดกุมตำมที่ผู้เขียนหรือผู้ใช้ต้องกำรได้และกำรสังเกตจดจํำคํำนำมควบคู่ไปพร้อมกัน พับคํำกริยำก็สำมำรถทํำได้จำกกำรอ่ำนเอกสำรและตํำรำกฎหมำยที่เป็นภำษำอังกฤษ เป็นต้น
๒.๘.๒ กำรใช้คํำบุพบท (preposition) กำรใช้คํำบุพบทที่ถูกต้องในประโยคที่เขียนในสัญญำหรือในเอกสำรกฎหมำย
เป็นสิ่งที่ ไม่ควรมองข้ำมเช่นกัน เพรำะกำรใช้คํำบุพบทที่ถูกต้องย่อมหมำยถึงควำมหมำยที่ถูกต้อง ตำมไปด้วย และกำรใช้คํำบุพบทผิด ๆ ก็ทํำให้ควำมหมำยผิดพลำดคลำดเคลื่อนตำมไปด้วยเช่นกัน
กำรใช้คํำบุพบทในที่นี้หมำยควำมรวมทั้งคํำบุพบทที่ใช้ทั่วไปในประโยค ภำษำอังกฤษ และคํำบุพบทที่ใช้ควบคู่กับคํำกริยำบำงคํำที่เรียกว่ำ “two word verb” เช่น comply with, composed of, consist of, dispose of, abide by เป็นต้น ส่วนคํำบุพบททั่วไปที่ใช้ในประโยค เช่น
- The parties to this Agreement.
- The documents are filed with the authority.
- The Plaintiff files this action against the Defendant with the court.
กำรใช้คํำบุพบทผิดก็จะทํำให้ควำมหมำยผิดพลำดไปด้วย เช่น The Plaintiff files this action against the court. แทนที่จะเป็นกำรฟ้องจํำเลยต่อศำลกลับกลำยเป็นฟ้องศำล เป็นจํำเลย เป็นต้น
๒.๘.๓ ควำมสม่ํำเสมอ (consistency) ของกำรใช้ถ้อยคํำ เนื่องจำกกำรเขียนสัญญำนั้นต้องกำรควำมชัดเจนแน่นอนของกำรใช้ถ้อยคํำ
โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งถ้อยคํำที่มีควำมหมำยเฉพำะ เช่น ถ้ำกล่ำวถึงสัญญำนี้และใช้คํำว่ำ This Agreement ก็ควรจะใช้คํำว่ำ “Agreement” ตลอดทั้งสัญญำเมื่อต้องกำรกล่ำวถึงสัญญำนี้และไม่ควรใช้คํำอื่น เช่น “Contract” มำแทน “Agreement” เพรำะจะทํำให้เกิดควำมสับสนและเกิดปัญหำกำรตีควำมได้ ยิ่งถ้ำเป็นถ้อยคํำที่มีคํำนำมอยู่แล้วก็จะต้องใช้คํำตำมที่ได้นิยำมไว้แล้ว ดังนั้น กำรใช้ถ้อยคํำให้มี สม่ํำเสมอตลอดทั้งสัญญำจึงมีควำมสํำคัญอย่ำงยิ่งในกำรร่ำงสัญญำ
๒.๘.๔ ถ้อยคํำสํำนวนกฎหมำย ถ้อยคํำสํำนวนที่ใช้ในสัญญำมีอยู่หลำยถ้อยคํำสํำนวนด้วยกัน บ้ำงก็นํำมำ
จำกถ้อยคํำสํำนวนที่พบเห็นกันในตัวบทกฎหมำย บ้ำงก็เป็นถ้อยคํำสํำนวนที่ใช้เฉพำะในสัญญำ แต่ในตัวบทกฎหมำยอำจใช้ถ้อยคํำสํำนวนอื่นแทนก็มี ต่อไปนี้เป็นตัวอย่ำงของถ้อยคํำสํำนวนที่พบเห็น ได้ในสัญญำ
Subject to
คํำว่ำ “Subject to” แปลว่ำ “ภำยในบังคับ” หรือ “ภำยใต้บังคับ” เป็นคํำ ที่ใช้ทั้งในตัวบทกฎหมำยและในสัญญำ โดยคํำว่ำ “Subject to” อำจใช้ขึ้นต้นประโยคหรืออยู่กลำง ประโยคก็ได้ เช่น
- Subject to clause ๔ hereof, the Seller shall deliver the goods at the place designated by the Purchaser.
- The parties hereto agree to enter into this Contract subject to
following terms and conditions.
Unless otherwise...
คํำว่ำ “unless otherwise” แปลว่ำ “เว้นแต่...เป็นอย่ำงอื่น” อำจใช้ขึ้นต้น ประโยคหรืออยู่กลำงประโยคในรูปของวลีก็ได้ เช่น
- Unless otherwise specifically provided for herein, the following terms shall have the meaning assigned to them in this clause.
- The parties hereto shall perform the obligations contained in Annex I attached herewith unless otherwise agreed upon by the parties.
Include, including without limitation
คํำว่ำ “include (v.) หรือ including (present participle) without limitation หรือInclude/including but not limited to” มีควำมหมำยว่ำ “รวมทั้งแต่ไม่จํำกัดเฉพำะ” เป็นถ้อยคํำสํำนวนที่พบได้ในสัญญำแต่มักไม่พบในตัวบทกฎหมำยที่ต้องกำรใช้ในกรณีของกำร ยกตัวอย่ำง โดยตัวบทกฎหมำยอำจจะใช้คํำว่ำ “inter alia” (among other thing) แทนในควำมหมำย ที่เป็นกำรยกตัวอย่ำง
กำรใช้คํำว่ำ include without limitation หรือ including without limitation ขึ้นอยู่กับว่ำประโยคนั้นจะต้องใช้ include เป็นคํำกริยำของประธำนของประโยคหรือต้องใช้ including ในฐำนะที่เป็นคํำ present participle ของประโยค
Provided that
คํำว่ำ “provided that ” แปลว่ำ “ทั้งนี้ (มีเงื่อนไขว่ำ)” หรือบำงครั้งอำจ เขียนว่ำ “provided however that” ซึ่งแปลว่ำ “แต่ทั้งนี้ (มีเงื่อนไขว่ำ)” เป็นถ้อยคํำสํำนวนที่ส่วน ใหญ่มักเขียนกลำงประโยค (แต่หำกต้องกำรเน้นก็สำมำรถใช้ขึ้นต้นประโยคได้) เมื่อต้องกำรที่จะ กํำหนดเงื่อนไขของเหตุกำรณ์หรือกำรกระทํำที่อยู่ในประโยคข้ำงหน้ำ provided that เช่น IF the Seller breaches any of the clause of this Contract, the Purchaser may terminate this Contract provided that a written notice thereof is given to the Seller at least ๓๐ days in advance.
บทที่ ๓ รูปแบบและเนื้อหำของสัญญำ
ด้วยพระรำชบัญญัติกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ มำตรำ ๙๓ บัญญัติให้หน่วยงำนของรัฐต้องทํำสัญญำตำมแบบที่คณะกรรมกำรนโยบำยกํำหนด ด้วยควำมเห็นชอบของสํำนักงำนอัยกำรสูงสุด โดยแบบสัญญำนั้นให้ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำด้วย และมำตรำ ๙๓ วรรคสี่ ยังกํำหนดให้กรณีจํำเป็นที่หน่วยงำนของรัฐต้องทํำสัญญำเป็นภำษำต่ำงประเทศ ให้ทํำเป็นภำษำอังกฤษ และต้องจัดทํำข้อสรุปสำระสํำคัญแห่งสัญญำเป็นภำษำไทยตำมหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมกำรนโยบำยประกำศกํำหนด
ต่อมำโดยอำศัยอํำนำจตำมควำมในมำตรำ ๙๓ วรรคสี่ แห่งพระรำชบัญญัติกำรจัดซื้อ จัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้ำงต้น คณะกรรมกำรนโยบำยกำรจัดซื้อจัดจ้ำง และกำรบริหำรพัสดุภำครัฐจึงออกประกำศ เรื่อง “ข้อสรุปสำระสํำคัญแห่งสัญญำเป็นภำษำไทย ในกรณีต้องทํำสัญญำเป็นภำษำอังกฤษ” ขึ้นโดยใน ข้อ ๓ แห่งประกำศคณะกรรมกำรนโยบำย กำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐดังกล่ำว ได้กํำหนดให้หน่วยงำนของรัฐจัดทํำข้อสรุป สำระสํำคัญแห่งสัญญำเป็นภำษำไทย ในกรณีต้องทํำสัญญำเป็นภำษำต่ำงประเทศในเรื่อง ดังต่อไปนี้
๑) ชื่อสัญญำหรือข้อตกลง
๒) ข้อตกลงซื้อ/จ้ำง
๓) วงเงินที่ซื้อหรือจ้ำงและกำรชํำระเงิน
๔) กํำหนดกำรส่งมอบ/ระยะเวลำของสัญญำ
๕) ค่ำปรับ (ถ้ำมี)
๖) หลักประกันกำรปฏิบัติตำมสัญญำ (ถ้ำมี)
๗) กำรรับประกันควำมชํำรุดบกพร่อง (ถ้ำมี)
๘) กำรบอกเลิกสัญญำ
๙) กำรระงับข้อพิพำท (ถ้ำมี)
๑๐) สิทธิและหน้ำที่ระหว่ำงคู่สัญญำ
ทั้งในข้อ ๓ วรรคสองยังกํำหนดเพิ่มเติมถึงกรณีที่มีกำรแก้ไขสัญญำตำม ๑) – ๑๐) ให้หน่วยงำนของรัฐดํำเนินกำรจัดทํำข้อสรุปสำระสํำคัญแห่งสัญญำเป็นภำษำไทยตำมควำมในวรรคหนึ่ง ด้วย
จำกประกำศดังกล่ำวจะเห็นได้ว่ำคณะกรรมกำรนโยบำยกำรจัดซื้อจัดจ้ำง และกำรบริหำรพัสดุภำครัฐได้กํำหนดให้กำรจัดทํำสัญญำเป็นภำษำต่ำงประเทศนั้นต้องทํำเป็น ภำษำอังกฤษ ทั้งกํำหนดให้ “ชื่อสัญญำหรือข้อตกลง” “ข้อตกลงซื้อ/จ้ำง” “วงเงินที่ซื้อหรือจ้ำง และกำรชํำระเงิน” “กํำหนดกำรส่งมอบ/ระยะเวลำของสัญญำ” “ค่ำปรับ” “หลักประกันกำรปฏิบัติ ตำมสัญญำ” “กำรรับประกันควำมชํำรุดบกพร่อง” “กำรบอกเลิกสัญญำ” “กำรระงับข้อพิพำท” “สิทธิและหน้ำที่ระหว่ำงคู่สัญญำ” และ “กำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำ” เป็นสำระสํำคัญที่ต้องจัดทํำ ข้อสรุปเป็นภำษำไทยไว้อีกด้วย ดังนั้น เมื่อมีกรณีจํำเป็นที่สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร
จะต้องกำรร่ำงสัญญำเป็นภำษำต่ำงประเทศ จึงต้องร่ำงเป็นภำษำอังกฤษโดยมีสำระสํำคัญตำมหัวข้อ ดังกล่ำวสํำหรับจัดทํำข้อสรุปเป็นภำษำไทยต่อไป
กำรทํำควำมเข้ำใจถึงรูปแบบของสัญญำและกำรแยกแยะทํำควำมเข้ำใจเนื้อหำ ของสัญญำจะช่วยให้กำรร่ำงสัญญำทํำได้ง่ำยขึ้น และกรณีที่มีกำรร่ำงสัญญำก็จะทํำให้นิติกร ผู้ร่ำงสัญญำทรำบว่ำควรให้ควำมสํำคัญต่อข้อกํำหนดหรือเงื่อนไขใดก่อน โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในกรณี ที่สัญญำมีเนื้อหำมำกและนิติกรผู้ร่ำงสัญญำมีเวลำจํำกัดในกำรร่ำงสัญญำ โดยทั่วไปแล้วสัญญำ ที่ร่ำงเป็นภำษำอังกฤษมักจะมีรูปแบบที่ชัดเจน กล่ำวคือ ประกอบไปด้วยส่วนที่สํำคัญ ๓ ส่วน คือ
- ส่วนที่เป็นบทนํำ (introduction) ได้แก่ ชื่อสัญญำหรือข้อตกลง (Title of contract) สถำนที่ทํำสัญญำหรือสถำนที่ลงนำมในสัญญำ (Place of contract) วันที่ทํำสัญญำ (Date of contract) คู่สัญญำ (Parties) ที่มำหรือเจตนำรมณ์ในกำรทํำสัญญำ (Witnesseth or Recital)
- ส่วนที่เป็นเนื้อหำ (contents) ได้แก่ ข้อตกลงซื้อ/จ้ำง (Purchase/Employment Entente) วงเงินที่ซื้อหรือจ้ำงและกำรชํำระเงิน (Payment) กํำหนดกำรส่งมอบ/ระยะเวลำของสัญญำ (Inspection and Acceptance of Goods/Time of Completion) ค่ำปรับ (Claim for Penalty) หลักประกันกำรปฏิบัติตำมสัญญำ (Performance bond) กำรรับประกันควำมชํำรุดบกพร่อง (Warranty for Defect) กำรบอกเลิกสัญญำ (Termination of Contract) กำรระงับข้อพิพำท (Settlement of Disputes) สิ ทธิและหน้ำที่ระหว่ำงคู่สัญญำ (Rights and Obligation) และ กำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำ (Amendment)
- ส่วนที่เป็นบทสรุปหรือส่วนลงท้ำยของสัญญำ (conclusion) ได้แก่ ส่วนลงท้ำย ลำยมือชื่อของคู่สัญญำ และลำยมือชื่อพยำน
ซึ่งส่วนที่เป็นเนื้อหำถือว่ำมีควำมสํำคัญมำกที่สุด เนื่องจำกเป็นส่วนที่ระบุถึงข้อกํำหนด และเงื่อนไข (terms and conditions) ที่คู่สัญญำตกลงกัน ในบทที่ ๓ นี้จะกล่ำวถึงรูปแบบของสัญญำ และเนื้อหำของสัญญำไปพร้อมกัน โดยเนื้อหำของสัญญำดังกล่ำวจะเน้นเนื้อหำและคํำศัพท์กฎหมำย ที่ได้รับอิทธิพลจำกระบบ Common Law เป็นหลัก
๓.๑ ส่วนนํำของสัญญำ (Introduction)
บทนํำนับว่ำมีควำมสํำคัญในเบื้องต้นของกำรร่ำงสัญญำเพรำะจะเป็นส่วนที่แสดงว่ำ ใคร ทํำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ และมีเจตนำอย่ำงไร ซึ่งจะเป็นส่วนที่มีควำมสํำคัญในแง่กฎหมำย ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ำส่วนที่เป็นเนื้อหำของสัญญำ สำมำรถแยกพิจำรณำได้ดังนี้
๓.๑.๑ ชื่อของสัญญำ (Title of contract) ชื่อสัญญำเป็นส่วนที่มีควำมสํำคัญที่จะต้องพิจำรณำในเบื้องต้น และมีผลต่อ
กำรตีควำมสัญญำแต่ละฉบับโดยบ่งบอกถึงเจตนำในกำรทํำสัญญำ เนื้อหำโดยรวม ลักษณะของสัญญำ และวัตถุประสงค์ในกำรทํำสัญญำ ตลอดจนสิทธิและหน้ำที่ของสัญญำในแต่ละประเภท ดังนั้น ในกำรกํำหนดชื่อของสัญญำจึงต้องมีควำมชัดเจน กะทัดรัด และตรงตำมเนื้อหำของสัญญำ เช่น สัญญำซื้อขำย สัญญำเช่ำ หรือสัญญำจ้ำง เป็นต้น ทั้งนี้ ในกำรตรวจร่ำงสัญญำแต่ละประเภท จึงต้องพิจำรณำชื่อสัญญำให้สอดคล้องกับเจตนำรมณ์ในกำรทํำสัญญำเพื่อมิให้เกิดข้อผิดพลำดในกำร บริหำรและจัดกำรเกี่ยวกับสัญญำนั้น
ในทำงปฏิบัติ ชื่อสัญญำของหน่วยงำนรัฐส่วนใหญ่จะเป็นชื่อที่ได้รับกำร กํำหนดมำแล้วจำกหน่วยงำนผู้รับผิดชอบในกำรจัดทํำร่ำงสัญญำและที่ได้ประกำศไปในขั้นตอน
ของกำรจัดซื้อจัดจ้ำง ชื่อของสัญญำที่กํำหนดขึ้นจึงต้องเป็นไปตำมวัตถุประสงค์และลักษณะ ของสัญญำประกอบกับต้องคํำนึงถึงชื่อสัญญำที่ได้ประกำศไปแล้วในขั้นตอนกำรจัดซื้อจัดจ้ำงด้วย ซึ่งถือเป็นปัญหำและข้อจํำกัดประกำรหนึ่งในขั้นตอนกำรพิจำรณำตรวจร่ำงสัญญำของนิติกร ผู้รับผิดชอบ ทํำให้กำรพิจำรณำเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขชื่อของสัญญำให้สอดคล้องกับเนื้อหำ และวัตถุประสงค์ของสัญญำที่แท้จริงกระทํำได้อย่ำงจํำกัด เนื่องจำกต้องคํำนึงถึงชื่อสัญญำตำมที่ ได้มีกำรอ้ำงอิงและกํำหนดขึ้นไว้ในประกำศในส่วนขั้นตอนกำรจัดซื้อจัดจ้ำงแล้วด้วย
ตัวอย่ำงชื่อสัญญำภำษำอังกฤษ เช่น
สัญญำเช่ำอำคำร = Leased Agreement for Building สัญญำร่วมทุน = Joint Venture Agreement
สัญญำกำรจัดกำรและกำรบริกำร = Management and Service Agreement สัญญำให้บริกำรทำงเทคนิค = Technical Service Agreement สัญญำจ้ำงแรงงำน = Hire of service Agreement
สัญญำจ้ำงทํำของ = Hire of Work Agreement สัญญำซื้อขำย = Sale Agreement
สัญญำจ้ำงที่ปรึกษำ = Engagement of Consultant Agreement สัญญำรับเหมำก่อสร้ำง = Construction Contract Agreement
๓.๑.๒ สถำนที่ทํำสัญญำหรือสถำนที่ลงนำมในสัญญำ (Place of contract) สถำนที่ทํำสัญญำโดยหลักแล้วเป็นกำรแสดงให้เห็นว่ำสัญญำนั้นเกิดขึ้นที่ใด
เช่น “สัญญำฉบับนี้ทํำขึ้น ณ สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพมหำนคร... ” เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังนี้ “This Contract is made in The Secretariat of The House of Representatives, U Thong Nai Rd., Dusit, Bangkok.”
ข้อสังเกตประกำรแรก ในภำษำอังกฤษนั้น คํำว่ำ “ทํำสัญญำจะใช้คํำกริยำว่ำ “to make” หรือคํำอื่นๆที่มีควำมหมำยอย่ำงเดียวกันและสำมำรถใช้แทนได้ เช่น “to conclude”,
“to execute” หรือ “to enter into” เป็นต้น โดยจะใช้อยู่ในรูปของ passive voice (verb to be
+ past participle) เพรำะจะนิยมขึ้นต้นประโยคด้วยคํำว่ำ “Contract” ซึ่งจะทํำหน้ำที่เป็นกรรม (object) ของประโยค เช่น
The Contract is made The Contract is executed The Contract is concluded
The Contract is entered into
ข้อสังเกตประกำรที่สอง จะไม่ใช้ verb to de กับสัญญำแต่จะนิยมใช้ verb to do กับสนธิสัญญำระหว่ำงประเทศ (treaty) เช่น
This Treaty of peace is done at New York. This Convention is done at Vienna.
ซึ่งสถำนที่ทํำสัญญำที่กํำหนดนี้จะมีผลในทำงกฎหมำยเมื่อเกิดข้อพิพำทขึ้น ว่ำอยู่ในเขตอํำนำจของศำลใดในกำรพิจำรณำคดีอีกทั้งยังมีควำมสํำคัญในแง่ของกำรใช้กฎหมำย ในกรณีเป็นเรื่องกฎหมำยขัดกันหรือกรณีเรื่องกำรติดอำกรแสตมป์ เช่น กรณีสัญญำโอนขำยหุ้น หรือเรื่องเขตอํำนำจศำลในกำรฟ้องคดี กล่ำวคือ ในกรณีที่เป็นสัญญำระหว่ำงประเทศที่คู่สัญญำ
อยู่คนละประเทศหรือมีสัญชำติต่ำงกันหรือกำรปฏิบัติตำมสัญญำเกิดขึ้นในอีกประเทศหนึ่งและ คู่สัญญำมิได้แสดงเจตนำเลือกกฎหมำยที่ใช้บังคับแก่สัญญำ (applicable law) กันไว้ เช่นนี้ตำมหลัก กฎหมำยขัดกัน สถำนที่ ที่ทํำสัญญำจะเป็นตัวชี้ว่ำ กฎหมำยสำรบัญญัติของประเทศใดจะเป็น กฎหมำยที่ใช้บังคับแก่สำระสํำคัญและผลแห่งสัญญำ ดังเช่นจะเห็นได้จำก บทบัญญัติของ พระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรขัดกันแห่งกฎหมำย พ.ศ. ๒๔๘๑ มำตรำ ๑๓ ที่บัญญัติไว้ว่ำ
“ปัญหำว่ำจะพึงใช้กฎหมำยใดบังคับสํำหรับสิ่งซึ่งเป็นสำระสํำคัญหรือ ผลแห่งสัญญำนั้น ให้วินิจฉัยตำมเจตนำของคู่กรณี ในกรณีที่ไม่อำจหยั่งทรำบเจตนำชัดแจ้งหรือ โดยปริยำยได้ ถ้ำคู่สัญญำมีสัญชำติอันเดียวกัน กฎหมำยที่จะใช้บังคับ ก็ได้แก่กฎหมำยสัญชำติ อันร่วมกันแห่งคู่สัญญำ ถ้ำคู่สัญญำไม่มีสัญชำติอันเดียวกัน ก็ให้ใช้กฎหมำยแห่งถิ่นที่สัญญำนั้นได้ทํำขึ้น
ถ้ำสัญญำนั้นได้ทํำขึ้นระหว่ำงบุคคลซึ่งอยู่ห่ำงกันโดยระยะทำง ถิ่นที่ถือว่ำ สัญญำนั้นได้เกิดเป็นสัญญำขึ้นคือถิ่นที่คํำบอกกล่ำวสนองไปถึงผู้เสนอ ถ้ำไม่อำจหยั่งทรำบถิ่นที่ว่ำนั้นได้ ก็ให้ใช้กฎหมำยแห่งถิ่นที่จะพึงปฏิบัติตำมสัญญำนั้น
สัญญำย่อมไม่เป็นโมฆะ ถ้ำได้ทํำถูกต้องตำมแบบอันกํำหนดไว้ในกฎหมำย ซึ่งใช้บังคับแก่ผลแห่งสัญญำนั้น”
ข้อสังเกตประกำรที่สำม กำรไม่ระบุสถำนที่ทํำสัญญำไม่มีผลทํำให้สัญญำ
ที่ทํำขึ้นนั้นเสียไปทั้งฉบับแต่อำจมีผลในประเด็นเกี่ยวกับเขตอํำนำจศำลที่จะพิจำรณำคดีได้โดยตรง เนื่องจำกสถำนที่ทํำสัญญำเป็นข้อกํำหนดตกลงระหว่ำงคู่สัญญำว่ำกรณีหำกเกิดข้อพิพำทและมีกำร ฟ้องร้องที่ต้องบังคับกำรตำมสัญญำนอกเหนือไปจำกภูมิลํำเนำของจํำเลยแล้วคู่สัญญำจะต้องยื่นฟ้อง คดีต่อศำลใด ซึ่งโดยหลักแล้วบุคคลย่อมมีสิทธิเสนอคํำฟ้องต่อศำลที่จํำเลยมีภูมิลํำเนำอยู่ในเขตศำล หรือต่อศำลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศำลก็ได้ตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่ง มำตรำ๔ (๑) ที่กํำหนดว่ำ เว้นแต่จะมีบทบัญญัติเป็นอย่ำงอื่น คํำฟ้องให้เสนอต่อศำลที่จํำเลยมีภูมิลํำเนำอยู่ในเขตศำล หรือต่อศำลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศำลไม่ว่ำจํำเลยจะมีภูมิลํำเนำอยู่ในรำชอำณำจักรหรือไม่ โดยกรณีนี้ ถือได้ว่ำสถำนที่ทํำสัญญำเป็นท้องที่ที่มูลคดีนั้นเกิดขึ้นคู่สัญญำย่อมมีสิทธิเสนอคํำฟ้องต่อศำล ที่มีเขตอํำนำจตำมท้องที่ทํำสัญญำอันเป็นท้องที่ที่มูลคดีเกิดขึ้นได้ด้วย
๓.๑.๓ วันที่ทํำสัญญำ (Date of contract) กำรระบุวันที่ทํำสัญญำมีควำมสํำคัญในผลทำงกฎหมำยหลำยประกำร
ไม่ว่ำจะเป็นกำรเริ่มต้นของกำรมีนิติสัมพันธ์ระหว่ำงกัน กำรนับระยะเวลำผูกพันตำมสัญญำ หรือกำรใช้บังคับของสัญญำ โดยปกติแล้ววันที่ทํำสัญญำจะเป็นวันที่มีกำรลงนำมในสัญญำนั้น เพื่อมีผลบังคับและมักระบุวันทํำสัญญำควบคู่กับสถำนที่ทํำสัญญำ เช่น “สัญญำฉบับนี้ทํำขึ้น ณ สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพมหำนคร เมื่อวันที่ ...๒๕... เดือน...สิงหำคม...พ.ศ ...๒๕๖๒....” นั่นหมำยถึงว่ำ สัญญำฉบับนี้จะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๒๕ สิงหำคม ๒๕๖๒ เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังนี้ “This Contract is made in The Secretariat of The House of Representatives, U Thong Nai Rd., Dusit, Bangkok this ๒๕th day of August
๒๐๑๙.” ดังนั้นวันทํำสัญญำจึงเป็นวันเริ่มต้นนับระยะเวลำต่ำง ๆ ที่กํำหนดไว้ในเนื้อหำของสัญญำ ให้คู่สัญญำต้องปฏิบัติต่อกัน เช่น กํำหนดกำรส่งมอบ กํำหนดกำรชํำระรำคำ กำรนับอำยุควำม เป็นต้น
กำรเขียนวันที่ทํำสัญญำนั้นอำจเขียนได้ ๒ ลักษณะ คือ
- This + ordinal number + day + of + month + year เช่น This contact is made in… this ๒๕th day of August ๒๐๑๙. หรือ
- On + ordinal number + day + of + month + year This contact is made in… on ๒๕th day of August ๒๐๑๙.
ข้อสังเกต แม้ว่ำกำรไม่ระบุวันที่ทํำสัญญำจะไม่ทํำให้สัญญำเสียเปล่ำ
แต่อย่ำงใด แต่อำจก่อให้เกิดปัญหำข้อกฎหมำยตำมมำได้ เช่น จะถือว่ำสัญญำนั้นเริ่มต้น (term of contract) และสิ้นสุดลงเมื่อใดหรือทํำนองเดียวกันอำจมีประเด็นว่ำอำยุควำมจะเริ่มต้นและสิ้นสุด ลงเมื่อใด หรือระหว่ำงคู่สัญญำว่ำจะใช้สัญญำบังคับระหว่ำงกันเป็นระยะเวลำเท่ำใด อย่ำงไรก็ตำม เพื่อเป็นกำรป้องกันมิให้เกิดปัญหำในกำรบังคับใช้สัญญำ จึงควรระบุวันที่ทํำสัญญำแต่ละฉบับ ให้ชัดเจนทุกครั้ง ในกรณีเช่นว่ำนี้อำจแก้ไขได้ด้วยกำรมีข้อสัญญำระบุไว้ชัดเจนให้อำยุสัญญำ เริ่มนับตั้งแต่วันที่ทํำสัญญำนี้ เช่น “The term of this Contract is ๒๕ (twenty-five) months Commencing from the date of this contract.”
๓.๑.๔ คู่สัญญำ (Parties) โดยทั่วไปแล้วชื่อของคู่สัญญำและที่อยู่ของคู่สัญญำจะปรำกฏอยู่ในวรรคแรก
หรือส่วนต้นของสัญญำ ข้อมูลส่วนนี้จะระบุชื่อและที่อยู่ตำมกฎหมำยของผู้มีอํำนำจลงนำมในสัญญำ รวมถึงระบุสถำนะที่จะใช้เรียกขำนคู่สัญญำแต่ละฝ่ำย เพื่อให้ทรำบถึงสถำนะของคู่ สัญญำ ว่ำอยู่ในฐำนะใดในสัญญำ เช่น ผู้ซื้อ ผู้ขำย ผู้ว่ำจ้ำง ผู้รับจ้ำง ผู้ให้เช่ำ ผู้เช่ำ ซึ่งจะระบุฐำนะเอำไว้ท้ำยชื่อ และที่อยู่ของคู่สัญญำฝ่ำยนั้นเพื่อใช้เรียกขำนคู่สัญญำและเป็นกำรบ่งบอกถึงสิทธิและหน้ำที่ของ คู่สัญญำแต่ละฝ่ำยได้อย่ำงชัดเจน
โดยในกำรทํำสัญญำ คู่สัญญำผู้เข้ำทํำสัญญำจะต้องเป็นบุคคลตำมกฎหมำย โดยอำจเป็นบุคคลธรรมดำหรือนิติบุคคลก็ได้ ซึ่งบุคคลที่จะเป็นคู่สัญญำในกำรเข้ำทํำสัญญำฉบับหนึ่ง ๆ จะต้องเป็นผู้มีอํำนำจกระทํำกำรและมีควำมสำมำรถในกำรทํำนิติกรรมตำมกฎหมำยด้วย กล่ำวคือ หำกคู่สัญญำเป็นบุคคลธรรมดำ บุคคลนั้นจะต้องเป็นผู้มีควำมสำมำรถในกำรทํำนิติกรรมตำมกฎหมำย และหำกคู่สัญญำเป็นนิติบุคคล ผู้ที่เข้ำเป็นคู่สัญญำและมีอํำนำจลงนำมในสัญญำต้องเป็นบุคคล ที่มีอํำนำจกระทํำกำรแทนนิติบุคคลตำมกฎหมำยด้วย เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังนี้
This Contact is made in Bangkok ๒๕th day of August ๒๐๑๙ by (and between) Mr. A residing at (hereinafter called the “Lessee”) of the one part and B Co., Ltd., by Mr. C, a duly authorized director, having its principal place of business located at (hereinafter called the “Lessor”) of the other part.
ข้อสังเกตประกำรแรก ในกรณีของคู่สัญญำก็คือ กำรระบุชื่อที่จะใช้เรียก คู่สัญญำแต่ละฝ่ำยไว้ท้ำยชื่อและที่อยู่ของคู่สัญญำฝ่ำยนั้น ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ทรำบสถำนะของคู่สัญญำ
ว่ำอยู่ในฐำนะเช่นไร ในสัญญำ เช่น กรณีตำมตัวอย่ำงข้ำงต้น Mr. A มีสถำนะเป็น “ผู้เช่ำ” (Lessee) ในขณะที่ B Co., Ltd., จํำกัด มีสถำนะเป็น “ผู้ให้เช่ำ” (Lessor) เป็นต้น ซึ่งทั้งคํำว่ำ “Lessee” และ “Lessor” ข้ำงต้นนี้ จะเป็นคํำที่ใช้ต่อไปในสัญญำโดยไม่ต้องระบุถึง Mr. A หรือ B Co., Ltd., อีก เพื่อให้สัญญำมีควำมสม่ํำเสมอ (consistency) ของกำรใช้ถ้อยคํำทั้งฉบับ
อย่ำงไรก็ดี ในกรณีที่ไม่สำมำรถระบุสถำนะของคู่สัญญำได้ว่ำเป็น “Lessor” กับ “Lessee” หรือ “Seller” กับ “Purchaser” เพรำะเหตุว่ำนิติสัมพันธ์ของคู่สัญญำไม่ชัดเจน ว่ำควรจัดอยู่ในนิติสัมพันธ์ลักษณะใด เนื่องจำกสิทธิและนี่ระหว่ำงคู่สัญญำมีลักษณะผสมผสำน ไม่อำจระบุได้แน่นอนว่ำมีนิติสัมพันธ์ลักษณะใดเป็นสํำคัญ ในกรณีเช่นว่ำนี้กำรระบุสถำนะของ คู่สัญญำแต่ละฝ่ำยไว้ท้ำยชื่อและที่อยู่ของคู่สัญญำอำจก่อให้เกิดควำมเข้ำใจผิดถึงลักษณะ (nature)
ที่แท้จริงของคู่สัญญำได้ ดังนั้นกำรระบุสถำนะของคู่สัญญำแต่ละฝ่ำยไว้ทำยชื่อและที่อยู่ของคู่สัญญำ แต่ละฝ่ำยจึงเป็นกำรไม่ถูกต้องนั้น สิ่งที่ควรทํำก็คือกำรใช้ชื่อย่อของคู่สัญญำแต่ละฝ่ำยแทน เช่น ABC Co., Ltd., แล้วใช้ ชื่อย่อว่ำ ABC โดยเขียนว่ำ ABC Co., Ltd., hereinafter called “ABC” เป็นต้น ข้อสังเกตประกำรที่สอง ในกรณีที่คู่สัญญำฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ำย
เป็นนิติบุคคล เช่น เป็นบริษัทจํำกัดนั้น จะมีกำรระบุชื่อบุคคลผู้มีอํำนำจในกำรลงลำยมือชื่อในสัญญำ เพื่อผูกพันบริษัท ซึ่งได้แก่กรรมกำรผู้รับมอบอํำนำจโดยชอบ (duly authorized director) โดยสำมำรถตรวจสอบได้จำกข้อบังคับของบริษัทนั้น ๆ
ในกำรระบุชื่อคู่สัญญำ ถือเป็นองค์ประกอบที่เป็นสำระสํำคัญประกำรหนึ่ง ของสัญญำ และเป็นส่วนที่ขำดไม่ได้เนื่องจำกเป็นกำรระบุตัวบุคคลผู้เข้ำทํำสัญญำและสร้ำงนิติสัมพันธ์ ให้ผลของสัญญำที่ทํำขึ้นนั้นตกอยู่แก่ตนเอง กล่ำวคือ เป็นกำรระบุส่วนที่เป็นสำระสํำคัญเพื่อทรำบว่ำ คู่สัญญำเป็นใคร และสัญญำทํำขึ้นเพื่อกํำหนดนิติสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคลใดบ้ำง หำกมีข้อพิพำท เกี่ยวกับกำรบังคับตำมสัญญำ คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งจะได้ใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยื่นฟ้องคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่ง ต่อศำลให้ปฏิบัติตำมสัญญำได้อย่ำงถูกต้อง ทํำนองเดียวกันกับข้อมูลเกี่ยวกับสถำนที่อยู่ของคู่สัญญำ ที่ถือเป็นข้อกํำหนดที่มีควำมสํำคัญมำกเช่นกัน เนื่องจำกเป็นเครื่องบ่งบอกถึงสถำนที่ในกำรติดต่อ และรับส่งคํำบอกกล่ำว (notice) ต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็นกำรบอกกล่ำวกรณีผิดนัดชํำระหนี้ (default) หรือผิดสัญญำ (breach) รวมทั้งเป็นสิ่งที่ใช้วินิจฉัยถึงเขตอํำนำจศำลเมื่อเกิดข้อพิพำทกรณีที่ต้อง ฟ้องคดีต่อศำลที่จํำเลยมีภูมิลํำเนำอยู่ในเขตศำลอีกด้วย
สํำหรับคู่สัญญำฝ่ำยผู้ให้สัญญำ หรือผู้ว่ำจ้ำง หรือผู้ซื้อนั้น โดยส่วนใหญ่ จะเป็นหน่วยงำนของรัฐหรือหน่วยงำนทำงปกครอง หรือบุคคลซึ่งกระทํำกำรแทนรัฐ และต้องมีฐำนะเป็น นิติบุคคลจึงจะสำมำรถทํำนิติกรรมได้ โดยผู้มีอํำนำจลงนำมในสัญญำจะเป็นหัวหน้ำส่วนรำชกำรนั้น ๆ เว้นแต่หัวหน้ำส่วนรำชกำรจะมอบอํำนำจให้บุคคลอื่นในส่วนรำชกำรปฏิบัติรำชกำรแทน ส่วนคู่สัญญำ ฝ่ำยผู้รับสัญญำ หรือผู้รับจ้ำง หรือผู้ขำย ไม่มีข้อจํำกัดว่ำต้องเป็นเอกชนเท่ำนั้น คู่สัญญำอำจเป็น หน่วยงำนของรัฐ หรือรัฐวิสำหกิจ หรือเอกชนซึ่งจะเป็นบุคคลธรรมดำหรือนิติบุคคลก็ได้
นอกจำกนี้ผู้ลงนำมในสัญญำต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย (Impartiality) ในโครงกำรหรือกิจกำรที่หน่วยงำนจะเข้ำทํำสัญญำด้วย ทั้งสัญญำที่ทํำขึ้นยังต้องอยู่ในอํำนำจหน้ำที่ ตำมกฎหมำยของหน่วยงำนด้วย เช่น สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎรย่อมไม่สำมำรถทํำสัญญำ จ้ำงเอกชน เพื่อปลูกป่ำได้แต่สำมำรถทํำสัญญำจัดหำวัสดุอุปกรณ์ต่ำง ๆ เพื่อใช้สอยและอํำนวย ควำมสะดวกในกำรปฏิบัติงำนตำมภำรกิจของหน่วยงำนได้ ในกำรร่ำงสัญญำนิติกรจึงควรคํำนึงถึง รำยละเอียดในสัญญำเกี่ยวกับคู่สัญญำให้มำก เนื่องจำกหำกปรำกฏทั้งนี้ควรพิจำรณำรำยละเอียด ทั้งในส่วนที่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับคู่สัญญำฝ่ำยผู้ให้สัญญำ และคู่สัญญำฝ่ำยผู้รับสัญญำข้อมูลที่เกี่ยวกับ ตัวคู่สัญญำผิดพลำด อำจก่อให้เกิดควำมเสียหำยต่อส่วนรำชกำรได้ เช่น ระบุชื่อของคู่สัญญำผิด จนมีกำรฟ้องผิดตัวทํำให้ศำลยกฟ้อง เป็นต้น
๓.๑.๕ ที่มำหรือเจตนำรมณ์ในกำรทํำสัญญำ (Witnesseth or Recital) เป็นเครื่องบ่งบอกว่ำสัญญำนั้นมีควำมมุ่งประสงค์ต่อกำรชํำระหนี้อย่ำงไร
ซึ่งเจตนำรมณ์หรือวัตถุประสงค์ของสัญญำที่ทํำจะต้องอยู่ในอํำนำจหน้ำที่ของหน่วยงำนรัฐตำมที่ กฎหมำยจัดตั้งหน่วยงำนรัฐนั้นกํำหนดด้วย โดยทั่วไปข้อสัญญำที่กล่ำวถึงที่มำหรือเจตนำรมณ์ ของคู่สัญญำในกำรเข้ำทํำสัญญำมักอยู่ภำยใต้หัวข้อที่เรียกว่ำ “Witnesseth” ซึ่งมีควำมหมำยว่ำ เพื่อเป็นพยำนในกำรเข้ำทํำสัญญำ โดยในบำงครั้งก็อำจใช้ถ้อยคํำอื่นซึ่งมีในทํำนองเดียวกันกับ
Witnesseth เช่น “Recital” ซึ่งหมำยถึงกำรทบทวนถึงที่มำหรือกำรเท้ำควำมถึงเจตนำรมณ์ของ คู่สัญญำในกำรเข้ำทํำสัญญำ โดยถ้อยคํำที่ใช้ในส่วนที่เป็น Witnesseth หรือ Recital นี้ มักจะขึ้นต้น ด้วยคํำว่ำ “Whereas” ซึ่งตรงกับภำษำไทยว่ำ “โดยที่” เช่น ในกรณีของสัญญำเช่ำดังตัวอย่ำงต่อไปนี้ Whereas the Lessor being in the owner of an office space
covering the area of approximately ๒๐๐ square meters which is located on the ๑๒th
floor of XYZ Building located at (hereinafter called the
“Premises”) wishes to lease the same to the Lessee and Whereas the Lessee seeking an office space for his own business wishes to take hold of such lease of the Premises from the Lessor,
Now, therefore, both parties agree to execute this Contract containing the terms and conditions as follows:
จะเห็นได้ว่ำ ข้อควำมหลัง “Whereas” นั้นแสดงถึงเจตนำรมณ์ของคู่สัญญำ แต่ละฝ่ำยที่จะเข้ำทํำสัญญำเช่ำสํำนักงำนซึ่งต่อไปในสัญญำนี้จะใช้คํำว่ำ “Premises” (สถำนที่เช่ำ) แทน โดยควำมสํำคัญของ Witnesseth หรือ Recital นี้ นอกจำกจะแสดงถึงที่มำและเจตนำรมณ์ของ คู่สัญญำแล้ว ยังเป็นกำรสะท้อนให้เห็นว่ำกำรเข้ำทํำสัญญำนั้นเกิดขึ้นโดยไม่มีกำรข่มขู่ (duress) ฉ้อฉล (fraud) หรือสํำคัญผิด (mistake) แต่ประกำรใด จึงเป็นสัญญำที่มีผลสมบูรณ์ในแง่ของกำร แสดงเจตนำของคู่สัญญำเพื่อเข้ำทํำสัญญำ
ส่วนควำมไม่สมบูรณ์ (invalidity) หรือควำมเป็นโมฆะเสียเปล่ำ (null and void) ของตัวสัญญำหรือของข้อสัญญำใดๆ นั้นก็ยังอำจเกิดขึ้นได้อีกหำกปรำกฏว่ำข้อสัญญำข้อใดข้อหนึ่ง หรือหลำยข้อต้องตกเป็นโมฆะเสียเปล่ำตำมที่กฎหมำยบัญญัติไว้ เช่น ตำมมำตรำ ๑๕๐ แห่งประมวล กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ซึ่งบัญญัติไว้ว่ำ “มำตรำ ๑๕๐ กำรใดมีวัตถุประสงค์เป็นกำรต้องห้ำมชัดแจ้ง โดยกฎหมำยเป็นกำรพ้นวิสัยหรือเป็นกำรขัดต่อควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชน กำรนั้นเป็นโมฆะ” ในกรณีดังกล่ำวนี้สัญญำที่ใช้กันโดยทั่วไปมักจะมีกำรระบุไว้ในสัญญำว่ำ หำกข้อสัญญำ ข้อใดข้อหนึ่งหรือหลำยข้อแห่งสัญญำนี้ตกเป็นอันไม่สมบูรณ์ (invalidity) หรือไม่สำมำรถใช้บังคับได้ (unenforceable) ด้วยเหตุใด ๆ ก็ตำม ควำมไม่สมบูรณ์ (invalidity) หรือกำรไม่สำมำรถใช้บังคับได้ (unenforceable) ของข้อสัญญำเช่นว่ำนั้นจะไม่กระทบกระเทือนต่อข้อสัญญำข้ออื่น ๆ ซึ่งจะยังคง มีผลบังคับต่อไปอย่ำงสมบูรณ์ เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อนี้
“Should any of the clauses hereunder becomes invalid or unenforceable for any reason whatsoever, such invalidity or unenforceable shall not affect other clauses which shall remain in full force and effect.”
กำรร่ำงข้อสัญญำในลักษณะนี้นับเป็นกำรป้องกันกำรที่คู่สัญญำฝ่ำยใด ฝ่ำยหนึ่งจะหยิบยก เอำควำมเป็นโมฆะหรือควำมไม่สมบูรณ์แห่งข้อสัญญำข้อใดข้อหนึ่งขึ้นกล่ำวอ้ำง เพื่อให้สัญญำทั้งฉบับตกเป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ เช่น ตำมที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๗๓ แห่งประมวล กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ซึ่งบัญญัติว่ำ “ถ้ำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิติกรรมเป็นโมฆะนิติกรรมนั้น ย่อมตกเป็นโมฆะทั้งสิ้นเว้นแต่จะพึงสันนิษฐำนได้โดยพฤติกำรณ์แห่งกรณีว่ำคู่สัญญำเจตนำให้ส่วนที่ ไม่เป็นโมฆะนํำแยกออกจำกส่วนที่เป็นโมฆะได้” ดังนั้นกำรระบุไว้ชัดแจ้งในข้อสัญญำว่ำ คู่สัญญำ เจตนำแยกส่วนที่ไม่เป็นโมฆะออกจำกส่วนที่เป็นโมฆะจึงใช้บังคับได้
นอกจำกนี้เนื่องจำกสัญญำอำจมีอำยุหลำยปี เช่น สัญญำเช่ำอสังหำริมทรัพย์ ซึ่งอำจมีอำยุได้ถึง ๓๐ ปีตำมมำตรำ ๕๔๐ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ จึงเป็นไปได้ว่ำ ในช่วงอำยุแห่งสัญญำนั้นอำจมีกำรแก้ไขกฎหมำยที่เกี่ยวข้องทํำให้มีควำมแตกต่ำงไปจำกกฎหมำย ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะที่ทํำสัญญำ ส่งผลให้ข้อสัญญำบำงข้อขัดกับบทบัญญัติกฎหมำยที่ได้มีกำรแก้ไข เพิ่มเติมนั้น ดังนั้น กำรร่ำงข้อสัญญำที่กํำหนดให้เฉพำะข้อสัญญำที่ขัดต่อกฎหมำยเท่ำนั้นที่จะไม่มี ผลบังคับจะทํำให้คู่สัญญำสำมำรถปฏิบัติกำรชํำระหนี้ตำมข้อสัญญำอื่น ๆ ต่อไปได้โดยไม่จํำเป็น ต้องทํำกำรเจรจำทํำสัญญำกันอีก ทั้งนี้เว้นแต่ข้อสัญญำที่ตกเป็นอันใช้บังคับมิได้นั้นจะเป็นสำระสํำคัญ แห่งสัญญำ ซึ่งถ้ำหำกว่ำตกเป็นอันใช้บังคับไม่ได้แล้วจะทํำให้กระทบกระเทือนต่อนิติสัมพันธ์ ขั้นพื้นฐำนระหว่ำงคู่สัญญำหรือกระทบกระเทือนต่อวัตถุประสงค์แห่งสัญญำ (frustration)
เมื่อได้แสดงถึงแสดงถึงเจตนำรมณ์หรือควำมต้องกำรของคู่สัญญำไว้ใน ข้อควำมส่วนที่ขึ้นต้นด้วย Whereas แล้ว สัญญำก็จะระบุถึงข้อควำมหลักของประโยคที่ว่ำ “คู่สัญญำ จึงตกลงทํำสัญญำนี้ขึ้นโดยมีข้อกํำหนด (term) และเงื่อนไข (conditions) ดังต่อไปนี้” ดังตัวอย่ำง ข้ำงต้น
ทั้งนี้ในกำรทํำสัญญำ คู่สัญญำทั้งสองฝ่ำยจะต้องแสดงเจตนำรมณ์ให้เห็นว่ำ มีควำมประสงค์ตรงกันในกำรเข้ำทํำสัญญำนั้น ๆ จึงทํำให้เกิดสัญญำขึ้น เจตนำรมณ์ของคู่สัญญำ อำจมีที่มำจำกนโยบำยของหน่วยงำนนั้นเอง หรือออกมำจำกมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งออกมำใช้บังคับ กับสัญญำนั้น โดยทั่วไปสำมำรถค้นหำเจตนำลงได้จำกข้อกํำหนดขอบเขตของโครงกำร (Terms of Reference : TOR) ซึ่งจะทํำตั้งแต่แรกเริ่ม ก่อนที่จะออกประกำศเชิญชวนให้เอกชนเข้ำยื่นประกวด ข้อเสนอ ดังนั้นเมื่อถึงขั้นตอนที่จะทํำสัญญำกันหำกพิจำรณำข้อเสนอ (Proposal) ของฝ่ำยเอกชน ที่ผ่ำนกำรคัดเลือกแล้ว พิจำรณำเห็นว่ำ เงื่อนไขในสัญญำข้อใดไม่สอดคล้องกับเจตนำรมณ์ดังกล่ำว ก็จะต้องมีกำรแก้ไขเงื่อนไขในสัญญำข้อนั้น อย่ำงไรก็ดีในสัญญำสํำเร็จรูปตำมแบบมำตรฐำนทั่วไป มักไม่ปรำกฏข้อควำมวรรคเจตนำรมณ์อยู่ในร่ำงสัญญำ แต่มักจะปรำกฏเนื้อหำวรรคเจตนำรมณ์ อยู่ในสัญญำที่มีควำมสํำคัญมำกเท่ำนั้น ทั้งนี้ เนื่องจำกคู่สัญญำสำมำรถค้นหำเจตนำรมณ์และ วัตถุประสงค์ในกำรทํำสัญญำได้จำกเนื้อหำของสัญญำโดยรวมทั้งฉบับได้อยู่แล้ว
๓.๒ เนื้อหำของสัญญำ (Contents)
ส่วนที่เป็นเนื้อหำของสัญญำหรือส่วนที่เป็นข้อกํำหนด (terms) และเงื่อนไข (conditions) แห่งสัญญำนี้มีควำมสํำคัญที่สุดในสัญญำเพรำะเป็นส่วนที่แสดงถึงสิทธิ (rights) หน้ำที่ (duties) หรือหนี้ (obligations) และควำมรับผิด (liabilities) ของคู่สัญญำโดยตรง ซึ่งกำรร่ำง สัญญำโดยทั่วไป ซึ่งได้รับอิทธิพลจำกระบบ Common Law นั้น มักจะระบุข้อสัญญำต่ำง ๆ ระหว่ำง คู่สัญญำไว้โดยละเอียดเท่ำที่จะเป็นไปได้โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งในสัญญำซึ่งมีองค์ประกอบในทำงระหว่ำง ประเทศ ซึ่งคู่สัญญำแต่ละฝ่ำยต่ำงก็ไม่ทรำบหรือไม่คุ้นเคยกับระบบกฎหมำยของคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่ง ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือกำรระบุข้อสัญญำระหว่ำงคู่สัญญำให้ละเอียดที่สุดเท่ำที่จะเป็นไปได้ เพื่อควำม ชัดเจนในกำรปฏิบัติตำมสัญญำหรือกำรใช้สิทธิตำมสัญญำโดยที่คู่สัญญำทั้งสองฝ่ำยต้องเข้ำใจดีว่ำ ไม่ว่ำจะเป็นสัญญำในระบบ Common Law หรือในระบบ Civil Law หำกมีข้อพิพำทเกิดขึ้นจำก เคำรพเจตนำของคู่กรณีตำมที่ปรำกฏอยู่ในสัญญำ เว้นแต่ในส่วนของข้อสัญญำที่อำจตกเป็นโมฆะ เสียเปล่ำหรือไม่สำมำรถใช้บังคับได้ตำมกฎหมำยที่ใช้บังคับแก่สัญญำนั้นเท่ำนั้น
ส่วนที่เป็นเนื้อหำของสัญญำคือส่วนที่เป็นข้อกํำหนดและเงื่อนไขแห่งสัญญำนี้ ประกอบด้วยส่วนที่เป็นข้อกํำหนดและเงื่อนไขเฉพำะ (Specific terms and conditions) และส่วนที่ เป็นข้อกํำหนดและเงื่อนไขทั่วไป (general terms and conditions) อันเป็นข้อกํำหนดและเงื่อนไข ที่เป็นมำตรฐำนซึ่งมีอยู่ในสัญญำทั่ว ๆ ไป โดยเนื้อหำของสัญญำส่วนใหญ่จะมีข้อสัญญำที่เป็นหลัก ดังนี้
๓.๒.๑ ข้อตกลงซื้อ/จ้ำง (Purchase/Employment Entente)
ในกำรทํำสัญญำนั้นสิ่งที่สมควรพิจำรณำก่อนก็คือ สัญญำที่จะทํำกำร มีวัตถุประสงค์ชอบด้วยกฎหมำยหรือไม่ เพรำะถ้ำวัตถุประสงค์หรือควำมมุ่งหมำยในกำรทํำสัญญำ เป็นเรื่องต้องห้ำมตำมกฎหมำยหรือผิดกฎหมำย สัญญำนั้นก็เป็นโมฆะหรือเสียเปล่ำ หรือถ้ำมี วัตถุประสงค์เป็นไปตำมกฎหมำยแล้วก็จะต้องพิจำรณำถึงควำมสำมำรถของคู่สัญญำว่ำกฎหมำย ให้สิทธิทํำได้หรือไม่เพียงใด
เมื่อพิจำรณำถึงวัตถุประสงค์และควำมสำมำรถของผู้จะเป็นคู่สัญญำแล้ว ลํำดับต่อไปที่ควรพิจำรณำก็คือเจตนำของคู่สัญญำ ซึ่งจะต้องเป็นไปตำมหลักของกำรทํำนิติกรรมสัญญำ เช่น ต้องกระทํำด้วยใจสมัครอันเป็นเจตนำที่แท้จริง และมุ่งจะผูกนิติสัมพันธ์ หรือให้มีควำมผูกพันกัน ตำมกฎหมำย (the immediate purpose of which is to establish between persons relations) เป็นต้น คู่สัญญำทั้งสองฝ่ำยจะต้องแสดงเจตนำรมณ์ให้เห็นว่ำ มีควำมประสงค์ตรงกันในกำรเข้ำทํำสัญญำนั้น ๆ จึงทํำให้สัญญำเกิดขึ้น เจตนำรมณ์ของคู่สัญญำอำจมีที่มำจำกนโยบำยของหน่วยงำนนั้นเอง หรือออกมำจำกมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งออกมำใช้บังคับกับสัญญำนั้น โดยทั่วไปสำมำรถค้นหำเจตนำรมณ์ ได้จำกข้อกํำหนดขอบเขตของโครงกำร (Terms of Reference : TOR) ซึ่งจะทํำตั้งแต่แรกเริ่ม ก่อนที่จะออกประกำศเชิญชวนให้เอกชนเข้ำยื่นประกวดข้อเสนอ ดังนั้นเมื่อถึงขั้นตอนที่จะทํำสัญญำ กันหำกพิจำรณำข้อเสนอ (Proposal) ของฝ่ำยเอกชนที่ผ่ำนกำรคัดเลือกแล้ว พิจำรณำเห็นว่ำ เงื่อนไข ในสัญญำข้อใดไม่สอดคล้องกับเจตนำรมณ์ดังกล่ำว ก็จะต้องมีกำรแก้ไขเงื่อนไขในสัญญำข้อนั้น
ตัวอย่ำงของข้อตกลงซึ่งแสดงให้เห็นได้ในข้อสัญญำ เช่น
- สัญญำเช่ำ The Lessor agrees to lease and the Lessee agrees to take hold of such lease of the (leased property) from the Lessor for restaurant business subject to the terms and conditions herein contained.
- สัญญำซื้อขำย The Seller agrees to sell and the Purchaser agrees to purchase the (goods to be sold) subject to the terms and conditions herein contained.
- สั ญญำร่วมทุน The parties hereby agree to establish a joint venture company to be called (name of the joint venture company) in order to engage in (type of business) subject to the terms and conditions herein contained.
นอกจำกนี้สิ่งที่อำจนํำมำประกอบกำรพิจำรณำวัตถุประสงค์และเจตนำรมณ์ ของคู่สัญญำได้อีกประกำร คือ “เอกสำรแนบท้ำยสัญญำ” (Contract Documents) โดยเอกสำร แนบท้ำยสัญญำถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญำด้วยเช่นกัน เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังนี้
The following documents are attached to this contract and made an integral part of this Contract as though fully written out and set forth herein:
A. Invitation to Bid
B. Instructions to Bidders
C. …
All of the foregoing documents, together with this Contract, are referred to herein as the Contract Documents. Also incorporated into this Contract, and made part hereof.
“ภำษำ” (Language) ที่ใช้ในกำรทํำสัญญำ และกำรกํำหนด “นิยำม” (Definitions) เองก็ทํำหน้ำที่ในกำรบ่งบอกถึงวัตถุประสงค์และเจตนำรมณ์ของคู่สัญญำด้วยเช่นกัน โดยเขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
All notices, instruction, correspondence of any other written documentation concerning the Contract shall be in Thai and English as the parties agree. แปลควำมได้ว่ำ คํำบอกกล่ำว คํำสั่งคํำ และแนะนํำกำรใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัญญำจะต้องเป็น ภำษำไทยและภำษำอังกฤษตำมที่คู่สัญญำตกลงกัน
In the Contract, words shall have the meanings assigned to hereunder except as the context requires otherwise. แปลควำมได้ว่ำ ในสัญญำ ถ้อยคํำ ดังต่อไปนี้ มีควำมหมำยตำมที่กํำหนดไว้ เว้นแต่จะกํำหนดเป็นอย่ำงอื่น
ส่วนของกฎหมำยที่ใช้บังคับในสัญญำ (Law of Contract) ก็มีควำมสํำคัญ เช่นกัน เนื่องจำกเป็นเครื่องกํำหนดขอบเขตของสัญญำได้ว่ำอยู่ภำยใต้กฎหมำยของประเทศใด ฉบับใดบ้ำง ในกรณีกฎหมำยที่ใช้บังคับต่อร่ำงสัญญำของสํำนักงำนเลขำธิกำรจึงควรเป็นกฎหมำยไทย ทั้งนี้เพื่อง่ำยต่อกำรตีควำมและกำรทํำควำมเข้ำ โดยเขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้ This Contract shall be subject to and construed in accordance with the Law of the Kingdom of Thailand.
๓.๒.๒ วงเงินที่ซื้อหรือจ้ำงและกำรชํำระเงิน (Payment) ในกำรซื้อขำยหรือกำรจ้ำงจะต้องไม่เกินวงเงินตำมที่ได้รับจำกสํำนักงำน
เลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร และจะต้องกํำหนดในสัญญำให้ชัดเจน ดังนี้
กรณีเป็นสัญญำซื้อขำย จะต้องกํำหนดว่ำ “ผู้ซื้อจะชํำระรำคำสิ่งของ ซึ่งได้รวมภำษีมูลค่ำเพิ่มจํำนวน….บำท ตลอดจนภำษีอำกรอื่น ๆ และค่ำใช้จ่ำยทั้งปวงไว้ด้วยแล้ว เมื่อผู้ซื้อได้รับมอบสิ่งของถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว” เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้ The Purchaser shall pay the purchase price in amount of. Bath inclusive of taxes and
other expenses when the goods are properly and completely received by the Purchaser. กรณีเป็นสัญญำจ้ำง จะต้องกํำหนดว่ำ “เงินค่ำจ้ำงได้รวมภำษีมูลค่ำเพิ่ม
จํำนวน...บำท ตลอดจนภำษีอำกรอื่น ๆ และค่ำใช้จ่ำยทั้งปวงไว้ด้วยแล้วโดยถือรำคำเหมำรวม หรือรำคำต่อหน่วยเป็นเกณฑ์” เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้ Wages in amount of… Baht inclusive of taxes and other expenses, whereas, the criteria can be based on lump sum price or price per unit.
ข้อสังเกต ในกำรร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษตำมระบบ Common Law
เพิ่งเข้ำมำมีบทบำทในระบบกฎหมำยของประเทศไทยนั้นมักจะมีกำรกล่ำวถึงคํำว่ำ “consideration” ซึ่งเป็นศัพท์กฎหมำยในเรื่องของสัญญำในระบบ Common Law โดยเฉพำะ ซึ่งหมำยถึงประโยชน์ หรือสิ่งตอบแทนแลกเปลี่ยนหรือสิ่งจูงใจที่คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งให้แก่คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งเพื่อเป็นกำร ตอบแทนกำรที่คู่สัญญำรำยนั้นปฏิบัติกำรอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งให้แก่ตน เช่น กำรชํำระรำคำสินค้ำ เพื่อตอบแทนกำรส่งมอบสินค้ำ กำรชํำระค่ำเช่ำเพื่อตอบแทนกำรใช้สอยทรัพย์สินซึ่งเช่ำกัน กำรชํำระ
ค่ำใช้สิทธิ เพื่อตอบแทนกำรได้รับอนุญำตให้ใช้สิทธิ เป็นต้น ซึ่งถือว่ำเป็นสำระสํำคัญของกำรทํำสัญญำ และเป็นข้อกํำหนดและเงื่อนไขเฉพำะที่คู่สัญญำตกลงกัน เช่น
In consideration of the promises and covenants herein contained, the Lessee agrees to pay to the Lessor the rent of ๒๐๐,๐๐๐ bath per month for the use of the [leased property]
กำรใช้คํำว่ำ “consideration” ในสัญญำที่ร่ำงเป็นภำษำอังกฤษตำมระบบ Common Law ก็คือ จะใช้ในรูปของวลีที่ว่ำ “in consideration of” และมักจะตำมด้วยถ้อยคํำ ที่มีควำมหมำยเกี่ยวกับคํำมั่นสัญญำและข้อตกลงระหว่ำงคู่สัญญำ เช่น ตำมด้วยข้อควำมว่ำ “the promises and covenants contained herein” เป็ นต้น เหตุ ที่ ใช้ คํ ำว่ ำ “the promises and covenants” ก็เนื่องจำกว่ำสัญญำส่วนใหญ่ที่คู่สัญญำตกลงกลำงจะเป็นสัญญำที่คู่สัญญำ “ยังไม่ได้ปฏิบัติให้ลุล่วง” (executory) ดังนั้นจึงนํำคํำว่ำ “the promises and covenants” มำใช้ เพื่อแสดงถึงคํำมั่นสัญญำที่คู่สัญญำให้แก่กันไว้ในขณะทํำสัญญำเพื่อที่จะปฏิบัติตำมสัญญำกันต่อไป
๓.๒.๓ กํำหนดกำรส่งมอบ/ระยะเวลำของสัญญำ (Inspection and Acceptance of Goods/Time of Completion)
โดยปกติระยะเวลำในกำรส่งมอบจะพิจำรณำจำกประกำศกำรจัดซื้อจัดจ้ำง เป็นสํำคัญ ซึ่งเป็นกำรกํำหนดระยะเวลำแล้วเสร็จของงำน และจะต้องมีกำรกํำหนดสถำนที่ส่งมอบ ไว้ให้ชัดเจนโดยส่วนใหญ่จะเป็นที่ทํำกำรของผู้ซื้อ หรือผู้ว่ำจ้ำง ในกำรส่งมอบนี้เป็นเรื่องที่จะต้อง ใช้ควำมระมัดระวังและต้องกํำหนดเงื่อนไขให้เป็นไปได้ในทำงปฏิบัติ โดยคํำนึงถึงประโยชน์ ของทำงรำชกำรเป็นสํำคัญ ในกรณีที่สิ่งของตำมสัญญำหรืองำนที่ส่งมอบตำมสัญญำต้องมีกำรทดสอบ ก่อนส่งมอบ ก็ควรระบุเกี่ยวกับกำรดํำเนินกำรทดสอบดังกล่ำวไว้ในสัญญำด้วย ในขณะเดียวกัน ก็ต้องกํำหนดรำยละเอียดขั้นตอนกำรปฏิบัติให้ชัดเจน เช่น กำรส่งมอบของเป็นชุดที่ไม่สำมำรถ แยกใช้งำนได้ ก็ต้องกํำหนดให้ส่งทั้งหมดในครำวเดียวกัน หรือกำรส่งมอบล่ำช้ำ ส่งมอบไม่ถูกต้อง หรือส่งมอบไม่ครบ จะต้องดํำเนินกำรแจ้งผู้ขำยหรือผู้ส่งมอบโดยเร็ว เป็นต้น
โดยในกำรตรวจรับมอบผู้ซื้อมักแต่งตั้งคณะกรรมกำรตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบสินค้ำที่ส่งมอบภำยใต้สัญญำ ณ สถำนที่ที่ผู้ซื้อจะระบุไว้ ซึ่งหำกคณะกรรมกำร ตรวจสอบมีควำมมั่นใจว่ำสินค้ำดังกล่ำวถูกต้องและเป็นไปตำมสัญญำอย่ำงสมบูรณ์จึงจะมีกำรออก หนังสือรับรองกำรยอมรับให้แก่ผู้ขำย เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้ “The Purchaser will appoint an Inspection Committee to inspect the Goods delivered under the Contract at the place to be specified by the Purchaser. If the inspection Committee is satisfied that the Goods are correct and in full compliance with the Contract, the Certificate of Acceptance will be issued to the Seller.”
หรือในกรณีที่มีกำรกํำหนดให้ผู้รับจ้ำงจะต้องทํำงำนให้แล้วเสร็จภำยใน ระยะเวลำที่กํำหนด เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้ “The Contractor shall complete the work within ; days from the date stipulated in the Notice to proceed, issued by the Employer.” นอกจำกนี้หำกต้องกำรขอขยำยระยะเวลำ (Extension of Time for Completion) ในกำรส่งมอบหรือกำรปฏิบัติงำนนั้นเป็นอํำนำจของหัวหน้ำส่วนรำชกำรที่จะพิจำรณำอนุญำต ได้ตำมจํำนวนวันที่มีเหตุเกิดขึ้นจริง ในกรณีเหตุเกิดจำกควำมผิดหรือควำมบกพร่องของส่วนรำชกำร เหตุสุดวิสัย หรือเหตุเกิดจำกพฤติกำรณ์อันหนึ่งอันใดที่คู่สัญญำไม่ต้องรับผิดตำมกฎหมำย
ส่วนรำชกำรต้องระบุไว้ในสัญญำ โดยคู่สัญญำต้องแจ้งเหตุดังกล่ำวให้ส่วนรำชกำรทรำบภำยใน
๑๕ วันนับแต่เหตุนั้นได้สิ้นสุดลง หำกมิได้แจ้งภำยในเวลำที่กํำหนดคู่สัญญำจะยกมำกล่ำวอ้ำง เพื่อขอขยำยระยะเวลำภำยหลังไม่ได้ เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
Should the Contractor be delayed in the completion of the Works by any act or neglect of the Employer, or of any employee of the Employer or by any other contractor employed by the Employer or by Force Majeure or by any causes which the Contractor is not responsible, then an extension of time sufficient to compensate for the delay will be granted by the Employer.
ข้อสังเกต เมื่อส่วนรำชกำรได้ทํำหนังสือแจ้งอนุมัติให้ขยำยระยะเวลำได้
ถือว่ำกำรขยำยเวลำสมบูรณ์แล้ว ไม่จํำต้องทํำสัญญำแก้ไขเพิ่มเติมอีก เนื่องจำกกำรขอขยำย ระยะเวลำไม่มีแบบหรือต้องทํำเป็นหนังสือหรือทํำหลักฐำนเป็นหนังสือ
๓.๒.๔ ค่ำปรับ (Claim for Penalty)
ค่ำปรับในสัญญำ มีควำมหมำยเดียวกับ เบี้ยปรับ (fine) ตำมประมวล กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ ซึ่งหมำยถึง ค่ำเสียหำยหรือค่ำสินไหมทดแทนควำมเสียหำย (Damages) ที่คู่สัญญำกํำหนดไว้ล่วงหน้ำก่อนที่จะเกิดควำมเสียหำยขึ้นจริง โดยคู่สัญญำฝ่ำยที่เป็นลูกหนี้ ได้ให้สัญญำว่ำถ้ำตนไม่ชํำระหนี้หรือชํำระหนี้ไม่ถูกต้องสมควร คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งซึ่งเป็นเจ้ำหนี้ มีอํำนำจที่จะริบหรือเรียกเอำเบี้ยปรับอันเกิดจำกกำรนั้นได้ ต่ำงจำกค่ำเสียหำยโดยทั่วไปที่เป็นสิทธิ อันเกิดขึ้นจำกสภำพบังคับของกฎหมำยภำยหลังจำกที่มีควำมเสียหำยเกิดขึ้นแล้ว กำรกํำหนดค่ำปรับ ในสัญญำมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
๓.๒.๔.๑ กำรปรับทั้งระบบ เป็นกรณีกำรกํำหนดค่ำปรับเมื่อคู่สัญญำ ฝ่ำยที่มีหน้ำที่ต้องดํำเนินกำรตำมสัญญำ (ผู้รับจ้ำงหรือผู้ขำย) ส่งมอบงำนหรือสิ่งของล่ำช้ำเกิน กํำหนดเวลำ กำรคิดค่ำปรับจะคํำนวณจำกรำคำของวงเงินทั้งหมดของงำนจ้ำงหรือสิ่งของที่ซื้อขำย ตำมสัญญำนั้น รำคำค่ำปรับในแต่ละประเภทดังนี้
- กรณีซื้อขำย กํำหนดค่ำปรับในอัตรำร้อยละ ๐.๐๑ - ๐.๐๒ บำท ของรำคำพัสดุที่ยังไม่ได้รับมอบ แต่จะต้องไม่ต่ํำกว่ำวันละ ๑๐๐ บำท
- กรณีจ้ำงทํำของ กํำหนดค่ำปรับในอัตรำร้อยละ ๐.๐๑ - ๐.๑๐ บำทของรำคำงำนจ้ำงนั้น (รำคำตำมวงเงินทั้งหมดของสัญญำจ้ำง) แต่จะต้องไม่ต่ํำกว่ำวันละ ๑๐๐ บำท
๓.๒.๔.๒ กำรปรับแยกเป็นส่วน โดยปกติกำรคิดค่ำปรับจำกรำคำพัสดุ ที่ยังไม่รับมอบนั้น หำกเป็นกำรส่งมอบพัสดุในงวดที่ ๑ จะต้องคํำนวณจำกวงเงินทั้งหมดตำมสัญญำ ซื้อขำยเป็นฐำน แต่หำกเป็นกำรวัสดุในงวดที่ ๒ (ซึ่งอำจเป็นงวดสุดท้ำย) ให้คิดค่ำปรับลดลง โดยคํำนวณจำกวงเงินที่เหลือเป็นฐำน
๓.๒.๔.๓ กำรปรับเป็นชุด เป็นกรณีกำรจัดหำสิ่งของที่ต้องประกอบกันเป็นชุด หำกขำดส่วนประกอบส่วนหนึ่งส่วนใดไปแล้วจะไม่สำมำรถใช้กำรได้สมบูรณ์ เช่น กำรซื้อขำย คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง โต๊ะประชุม หรือกรณีกำรจัดหำสิ่งของที่ต้องมีกำรติดตั้งหรือทดสอบ เช่น กำรซื้อขำยระบบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น กรณีดังกล่ำวข้ำงต้นนี้หำกมีกำรส่งมอบสิ่งของส่วนหนึ่งส่วนใด เกินกํำหนดเวลำ หรือมีกำรติดตั้งหรือทดสอบระบบเกินกว่ำกํำหนดเวลำในสัญญำ กำรคิดค่ำปรับ
จะต้องคํำนวณจำกรำคำของวงเงินทั้งหมดตำมสัญญำในลักษณะเดียวกันกับในกรณีแรก จะปรับลดลง โดยแยกส่วนไม่ได้
จํำแนกออกได้ ๒ ประเภท ดังนี้
กำรคิดค่ำปรับตำมข้อตกลงซึ่งได้กํำหนดลงไว้ในสัญญำนั้นสำมำรถ
๑. กำรปรับก่อนบอกเลิกสัญญำ เป็นกรณีที่ส่วนรำชกำรซึ่งมีฐำนะ
เป็นผู้ซื้อหรือผู้ว่ำจ้ำง ตำมสัญญำจะทํำกำรปรับผู้ขำยหรือผู้รับจ้ำงที่ส่งมอบสิ่งของหรือส่งมอบงำน ล่ำช้ำเกินกํำหนดเวลำตำมสัญญำโดยยังไม่ได้ทํำกำรบอกเลิกสัญญำ เป็นกำรปรับตั้งแต่เวลำที่ผิดนัด ตำมสัญญำไปจนกว่ำผู้ขำยหรือผู้รับจ้ำงตำมสัญญำจะส่งมอบสิ่งของหรือส่งมอบงำนให้แล้วเสร็จ ถูกต้องครบถ้วนตำมสัญญำ
๒. กำรปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญำ เป็นกรณีที่ส่วนรำชกำร ซึ่งมีฐำนะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ว่ำจ้ำงตำมสัญญำจะทํำกำรปรับผู้ขำยหรือผู้รับจ้ำงที่ส่งมอบสิ่งของหรือ ส่งมอบงำนล่ำช้ำเกินกํำหนดเวลำตำมสัญญำในลักษณะเดียวกันกับกรณีแรก แต่จะแจ้งให้ทรำบด้วย ว่ำจะทํำกำรปรับจนถึงวันที่ส่วนรำชกำรนั้นบอกเลิกสัญญำในกรณีที่ผู้ขำยหรือผู้รับจ้ำงไม่สำมำรถ ส่งมอบสิ่งของหรือทํำงำนให้แล้วเสร็จภำยในกํำหนดเวลำตำมสัญญำหรือในกรณีหนึ่งกรณีใดที่สัญญำ ได้กํำหนดไว้
ตัวอย่ำงกำรใช้ถ้อยคํำเพื่อกํำหนดค่ำปรับในสัญญำ
๑. กรณีสัญญำซื้อขำย
“ในกรณีที่ผู้ขำยไม่สำมำรถส่งมอบสิ่งของให้แล้วเสร็จ ตำมเวลำที่กํำหนดไว้ในสัญญำและผู้ซื้อยังไม่ได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญำ ผู้ขำยจะต้องชํำระค่ำปรับ ให้แก่ผู้ซื้อเป็นรำยวัน จํำนวนวันละ .... บำท คิดเป็นอัตรำร้อยละ ๐.๐๒(๒)% ของรำคำสิ่งของที่ยัง ไม่ได้รับมอบนับแต่วันถัดจำกวันครบกํำหนด ตำมสัญญำจนถึงวันที่ผู้ขำยได้นํำสิ่งของมำส่งมอบให้ ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วน
กำรคิดค่ำปรับในกรณีสิ่งของที่ตกลงซื้อขำยประกอบกันเป็นชุด แต่ผู้ขำยส่งมอบเพียงบำงส่วน หรือขำดส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งไป ทํำให้ไม่สำมำรถใช้กำรได้ โดยสมบูรณ์ ให้ถือว่ำยังไม่ได้ส่งมอบสิ่งของนั้นเลย และให้คิดค่ำปรับจำกสิ่งของเต็มทั้งชุด
ในระหว่ำงที่ผู้ซื้อยังมิได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญำนั้น หำกผู้ซื้อ เห็นว่ำผู้ขำยไม่อำจปฏิบัติตำมสัญญำต่อไปได้ผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญำและริบหลักประกัน หรือเรียกร้องจำกธนำคำรผู้ออกหนังสือค้ํำประกัน กับเรียกร้องให้ชดใช้รำคำที่เพิ่มขึ้นตำมที่กํำหนดไว้ ในสัญญำก็ได้ และถ้ำผู้ซื้อได้แจ้งข้อเรียกร้องให้ชํำระค่ำปรับไปยังผู้ขำย เมื่อครบกํำหนดส่งมอบแล้ว ผู้ซื้อมีสิทธิที่จะปรับผู้ขำยจนถึง วันบอกเลิกสัญญำได้อีกด้วย” เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
In the event that the Seller cannot deliver the goods within the period prescribed in the Agreement and the Purchaser has yet exercise the right to terminate the Agreement, the Seller shall be imposed penalty on a daily basis in amount of … Baht per day which can be computed at the rate ๒ (two)
% of the purchase price which has yet received since the due date under this Agreement until the date that the Seller delivers the goods to the Purchaser, and the Purchaser has properly and completely received such goods.
The calculation of penalty in case the delivered goods is a set, but the Seller delivers some parts or lack of some part which affect the goods cannot work properly, it will be deemed the goods has yet delivered and the penalty shall be imposed from the set of goods.
During the period that the Purchaser has yet to exercise the right to terminate the Agreement, if the Purchaser foresees that the Seller cannot comply with the Agreement, the Purchaser shall exercise the termination and seize the deposit or make a demand from the bank which issued the letter of guarantee and demand for compensate the increased price following the Agreement. In case the Purchaser has notified the request for a payment of penalty to the Seller, when it is due, the Purchaser is entitled to penalize the Seller until the termination date.
๒. กรณีสัญญำจ้ำง “หำกผู้รับจ้ำงไม่สำมำรถทํำงำนให้แล้วเสร็จตำมเวลำที่
กํำหนดไว้ในสัญญำจ้ำงและผู้ว่ำจ้ำงยังมิได้บอกเลิกสัญญำ ผู้รับจ้ำงจะต้องชํำระค่ำปรับให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง เป็นจํำนวนเงินวันละ …. บำท และจะต้องชํำระค่ำใช้จ่ำยในกำรควบคุมงำนในเมื่อผู้ว่ำจ้ำงต้องจ้ำง ผู้ควบคุมงำนอีกต่อหนึ่งเป็นจํำนวนเงินวันละ …. บำท นับถัดจำกวันที่กํำหนดแล้วเสร็จตำมสัญญำ หรือวันที่ผู้ว่ำจ้ำงได้ขยำยให้จนถึงวันที่ทํำงำนแล้วเสร็จจริง นอกจำกนี้ผู้รับจ้ำงยอมให้ผู้ว่ำจ้ำง เรียกค่ำเสียหำยอันเกิดขึ้นจำกกำรที่ผู้รับจ้ำงทํำงำนล่ำช้ำเฉพำะส่วนที่เกินกว่ำจํำนวนค่ำปรับและ ค่ำใช้จ่ำยดังกล่ำวได้อีกด้วย
ในระหว่ำงที่ผู้ว่ำจ้ำงยังไม่ได้บอกเลิกสัญญำนั้น หำกผู้ว่ำจ้ำง เห็นว่ำผู้รับจ้ำงจะไม่สำมำรถปฏิบัติตำมสัญญำต่อไปได้ผู้ว่ำจ้ำงจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญำและใช้สิทธิ ภำยหลังบอกเลิกสัญญำตำม ข้อ … ก็ได้ และถ้ำผู้ว่ำจ้ำงได้แจ้งข้อเรียกร้องไปยังผู้รับจ้ำงเมื่อครบ กํำหนดแล้วเสร็จของงำนขอให้ชํำระค่ำปรับแล้วผู้ว่ำจ้ำงมีสิทธิผู้รับจ้ำงจนถึงวันบอกเลิกสัญญำได้ อีกด้วย” เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
If the Contractor is not capable to complete the assignment within the time prescribed in the Agreement and the Employer has yet exercise the right to terminate the Agreement, the Contractor shall be imposed penalty to the Employer in amount of …. Baht per day and shall be borne the expenses which incurred as the Employer needs to hire another contractor in amount of …. Baht per day since the date after the due date following the Agreement or the actual complete date extended by the Employer. Moreover, the Employer is entitled to the compensation which occurred from the Contractor completes the assignment late especially the portion which exceeding such penalty and expenses.
During the period that the Employer has yet to exercise the right to terminate the Agreement, if the Employer foresees that the Contractor cannot comply with the Agreement, the Employer is entitled to exercise the termination and exercise the right after the termination following Clause If the
Employer has notified the request for a payment of penalty, when it is due, to the Contractor, the Employer is entitled to penalize the Contractor until the termination date.
๓.๒.๕ หลักประกันกำรปฏิบัติตำมสัญญำ (Performance bond) หลักประกันสัญญำ คือหลักประกันที่ต้องกํำหนดไว้ในสัญญำเพื่อใช้เป็น
กำรประกันให้ผู้ขำยหรือผู้รับจ้ำงหรือคู่สัญญำฝ่ำยเอกชนปฏิบัติตำมสัญญำ หำกไม่ปฏิบัติตำมสัญญำ หรือทํำให้เกิดกำรเสียหำยคู่สัญญำฝ่ำยผู้ว่ำจ้ำงหรือผู้ซื้อหรือภำครัฐก็สำมำรถบังคับหรือริบ หลักประกันสัญญำนั้นได้ โดยหลักจะใช้เป็นหลักประกันตลอดอำยุสัญญำ ผู้ว่ำจ้ำงหรือผู้ซื้อจะคืน หลักประกันสัญญำโดยไม่มีดอกเบี้ยให้แก่ผู้รับจ้ำงหรือผู้ขำยเมื่อพ้นข้อผูกพันตำมสัญญำแล้ว ซึ่งหลักประกันสัญญำจะแตกต่ำงจำกหลักประกันกำรจ่ำยเงินล่วงหน้ำหรือหลักประกันผลงำน สิ่งที่นํำมำใช้เป็นหรือหลักประกันกำรปฏิบัติตำมสัญญำ ประกอบด้วย
- เงินสด (Cash)
- เช็คที่ธนำคำรสั่งจ่ำย (Cheque issued by the bank)
- หนังสือค้ํำประกันของธนำคำรภำยในประเทศ (Letter of Guarantee issued by the domestic bank)
- หนังสือค้ํำประกันของบรรษัทเงินทุนอุตสำหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญำตให้ประกอบกิจกำรเงินทุนเพื่อกำรพำณิชย์ และประกอบธุรกิจค้ํำประกันตำมรำยชื่อบริษัทเงินทุนที่ธนำคำรแห่งประเทศไทยแจ้งเวียนให้ส่วนรำชกำร ต่ำง ๆ ทรำบ (Letter of Guarantee issued by the Thai Military Bank (“TMB” or previously know as “IFCT”) or licensed funding companies or licensed securities companies in the list issued by the Bank of Thailand, in the form of circular letter, to the government agencies. It is allows to use the form of the letter of guarantee as specified by GorWorPor.)
- พันธบัตรไทย (Thai Bonds)
- หนังสือค้ํำประกันของธนำคำรในต่ำงประเทศสำมำรถใช้เป็นหลักประกัน ซองกรณีประกวดรำคำนำนำชำติ (Letter of Guarantee issued by the foreign bank can be used in the event of international bidding.)
๓.๒.๖ กำรรับประกันควำมชํำรุดบกพร่อง (Warranty for Defect)
กำรรับประกัน (warranty) เป็นคํำศัพท์กฎหมำยในระบบ Common Law ที่นํำมำใช้ในสัญญำและเข้ำมำมีบทบำทในระบบกฎหมำยของประเทศไทยเช่นกัน ในแง่ของระบบ Common Law นั้นถือว่ำ กำรผิดข้อสัญญำเกี่ยวกับกำรรับประกันนี้ไม่มีผลทํำให้คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่ง อันเป็นเหตุในกำรบอกเลิกสัญญำ (termination of agreement) เพียงแต่สำมำรถเรียกร้องให้แก้ไข เยียวยำหรือรับผิดในควำมเสียหำยที่เกิดขึ้นเท่ำนั้น ซึ่งต่ำงจำกกำรผิดเงื่อนไข (conditions) แห่งสัญญำซึ่งคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งสำมำรถบอกเลิกสัญญำได้ อย่ำงไรก็ดีกำรเลิกสัญญำเพรำะเหตุ แห่งกำรผิดข้อสัญญำว่ำด้วยกำรรับประกันก็อำจทํำได้ค่ะคู่สัญญำตกลงกันเช่นนั้น ตัวอย่ำงของกำร รับประกัน (warranty) และผลของกำรผิดกำรรับประกัน เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
The Supplier agrees to assume all warranty and representation obligations for the products sold to the Distributor. The Supplier covenants and agrees to indemnify and hold the Distributor harmless from and against any and all losses,
claims, damages, expenses, judgments, award, petitions, demands or liabilities of any type either jointly or severally to which the Distributor may become subject directly or indirectly on account of the manufacture, sale, distribution, advertising or promotion or similar activity related to the product.
มีข้อพึงสังเกตจำกกำรใช้ถ้อยคํำในประโยคข้ำงต้นคือคํำว่ำ “indemnify and hold the Distributor harmless from and against” ซึ่งมีควำมหมำยว่ำ หำก Distributor ถูกฟ้องเรียกร้องให้รับผิดตำมกรณีที่ระบุไว้ และ Distributor รับผิดชดใช้ไปก่อนแล้วก็ดีหรือแจ้งให้ Supplier ทรำบก็ดี Supplier จะต้องเข้ำมำรับผิดชอบต่อ Distributor สํำหรับส่วนที่ Distributor รับ ผิดชดใช้ไปก่อนหรือเข้ำชดใช้แทน Distributor แล้วแต่กรณี
อันที่จริงแล้วกำรรับประกันอำจถือเป็นเงื่อนไขสํำคัญของสัญญำก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกำรตกลงของคู่สัญญำ เช่น The Seller hereby warrants and represents that the Seller has good title to the goods to be sold and delivered to the Purchaser. เป็นกรณีที่หำกปรำกฏว่ำผู้ขำยไม่มีสิทธิเหนือสินค้ำดังกล่ำวแล้วกำรโอนกรรมสิทธิ์ตำมสัญญำซื้อขำยนี้ ย่อมกระทํำมิได้
กำรรับประกันควำมชํำรุดบกพร่องของงำนจ้ำง (Warranty for Defect) หมำยถึง กำรรับประกันควำมชํำรุดบกพร่องหรือเสียหำยที่เกิดจำกควำมบกพร่องของผู้รับจ้ำง อันเนื่องจำกกำรใช้วัสดุไม่ถูกต้องหรือทํำไว้ไม่เรียบร้อยหรือทํำไม่ถูกต้องตำมมำตรฐำนแห่งหลักวิชำ ส่วนระยะเวลำกำรรับประกันเป็นกำรกํำหนดเวลำในกำรคืนหลักประกันแก่ผู้รับจ้ำง โดยกำรกํำหนดเวลำ กำรรับประกันกำรชํำรุดบกพร่องกรณีสัญญำจ้ำงให้กํำหนดเวลำที่
กรณีสัญญำจ้ำง ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบในควำมชํำรุดบกพร่องของงำนจ้ำง เมื่องำนเสร็จบริบูรณ์และผู้ว่ำจ้ำงได้รับมอบงำนแล้ว โดยหำกได้รับแจ้ง ผู้รับจ้ำงจะต้องแก้ไข ควำมบกพร่องดังกล่ำวโดยไม่ชักช้ำ และผู้ว่ำจ้ำงไม่จํำต้องไม่เสียค่ำใช้จ่ำยในข้อบกพร่องหรือ ควำมเสียหำยใด ๆ อันเนื่องมำจำกวัสดุหรือฝีมือที่บกพร่องของผู้รับจ้ำง เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ว่ำ The Contractor shall correct without delay, free of cost to the Employer, any defects or damages arising out of faulty materials or workmanship.
สํำหรับกรณีสัญญำซื้อขำยมักกํำหนดให้ผู้ขำยรับประกันควำมชํำรุดบกพร่อง ของสินค้ำเป็นระยะเวลำ… เดือนนับจำกวันที่ผู้ซื้อได้ออกหนังสือรับรองกำรยอมรับ เมื่อสินค้ำดังกล่ำว ถูกพบว่ำมีข้อบกพร่องหรือขำดประสิทธิภำพที่เกี่ยวข้องกับกำรดํำเนินงำน เนื่องจำกคุณภำพของวัสดุ กำรออกแบบ กำรประกอบกำรประกอบ หรือกำรผลิต โดยผู้ขำยจะต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนวัสดุ หรือส่วนประกอบโดยไม่เสียค่ำใช้จ่ำยภำยในระยะเวลำอันสมควร เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้ The Seller undertakes to warrant against the defect of the Goods
for a period of … months from the date of issue of the Certificate of Acceptance. Should there be any defect or lack of efficiency associated with its operation due to the quality of materials, design, assembly, fabrication or production, the Seller shall repair or replace the material or component free of charge within a reasonable time. ข้อสังเกต คู่สัญญำอำจตกลงให้ยกเว้นควำมรับผิดจำกควำมชํำรุดบกพร่อง หรือตกลงให้รับผิดมำกกว่ำที่กฎหมำยกํำหนดก็ย่อมทํำได้ เช่น กำรกํำหนดให้รับผิดรวมถึงกรณี ที่ควำมชํำรุดบกพร่องนั้นเกิดขึ้นภำยหลังกำรส่งมอบก็ได้ เป็นต้น เนื่องจำกไม่มีกฎหมำยเช่นว่ำนี้
บัญญัติไว้โดยตรงเหมือนกับกฎหมำยของประเทศที่ใช้ระบบ Common Law เมื่อข้อสัญญำดังกล่ำว เป็นข้อสัญญำที่มีประโยชน์และไม่ขัดต่อกฎหมำยและควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชำชนแต่ประกำรใดก็สำมำรถกระทํำได้นั่นเอง
๓.๒.๗ กำรบอกเลิกสัญญำ (Termination of Contract)
กำรบอกเลิกสัญญำ (Termination of Contract) เป็นเพียงกำรระงับข้อผูกพัน หรือหนี้ที่อำจเกิดขึ้นในอนำคต แต่ไม่เป็นกำรทํำลำยควำมผูกพันที่มีหรือเกิดขึ้นก่อนกำรเลิกสัญญำ ทั้งนี้คู่สัญญำจํำต้องให้อีกฝ่ำยหนึ่งกลับคืนสู่ฐำนะเดิม เว้นแต่มีกฎหมำยบัญญัติไว้เป็นพิเศษในเรื่องนั้น ๆ สิทธิกำรเลิกสัญญำมีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์มำตรำ ๓๘๖ วรรคหนึ่งว่ำ “ถ้ำคู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญำโดยข้อสัญญำหรือบทบัญญัติแห่งกฎหมำยกำรเลิกสัญญำ เช่นว่ำนั้นย่อมทํำได้ด้วยกำรแสดงเจตนำแก่อีกฝ่ำยหนึ่ง” ซึ่งเป็นนิติกรรมฝ่ำยเดียว เมื่อกระทํำ โดยชอบแล้วย่อมมีผลเป็นกำรเลิกสัญญำ แบ่งออกเป็น ๒ ประกำร ได้แก่
๓.๒.๗.๑ สิทธิเลิกสัญญำโดยบทบัญญัติของกฎหมำยตำมมำตรำ ๓๘๗ มำตรำ ๓๘๘ และมำตรำ ๓๘๙ แบ่งออกเป็น ๒ กรณีคือกรณีลูกหนี้ไม่ชํำระหนี้และกรณีกำรชํำระหนี้ กลำยเป็นพ้นวิสัย
๓.๒.๗.๒ สิทธิเลิกสัญญำโดยข้อสัญญำเป็นกำรเปิดโอกำสให้คู่สัญญำ แสดงเจตนำเลิกสัญญำได้ควำมประสงค์เว้นแต่จะต้องห้ำมชัดแจ้งโดยกฎหมำยหรือขัดต่อควำมสงบ เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชนและกฎหมำยยังยอมรับให้คู่สัญญำตกลงกํำหนดกำรเลิก สัญญำไว้ในสัญญำแตกต่ำงกับบทบัญญัติของกฎหมำยได้ด้วย
หัวหน้ำส่วนรำชกำรสำมำรถใช้สิทธิกำรเลิกสัญญำได้ ในกรณี ที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ำผู้รับจ้ำง ไม่สำมำรถทํำงำนให้แล้วเสร็จภำยในระยะเวลำที่กํำหนด อย่ำงไรก็ตำม หัวหน้ำส่วนรำชกำรพึงพิจำรณำได้เฉพำะกรณีที่เป็นประโยชน์แก่ทำงรำชกำรโดยตรง หรือเพื่อแก้ไข ข้อเสียเปรียบของทำงรำชกำรในกำรที่จะปฏิบัติตำมสัญญำนั้นต่อไปเท่ำนั้น เหตุแห่งกำรบอกเลิกสัญญำ เช่น กำรไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงซื้อขำยกัน กำรไม่ปฏิบัติตำมสัญญำข้อใดข้อหนึ่ง กำรไม่ปฏิบัติ กำรชํำระหนี้ ในบำงกรณีคู่สัญญำอำจไม่ได้ทํำกำรเลิกสัญญำในทันที แต่จะส่งคํำบอกกล่ำวให้แก้ไข ควำมบกพร่องภำยในกํำหนดเวลำก่อนที่จะมีกำรบอกเลิกสัญญำอีกครั้งแทน
ข้อกํำหนดและเงื่อนไขทั่วไปอีกข้อหนึ่งก็คือ กำรบอกเลิกสัญญำ โดยข้อสัญญำนี้จะระบุถึงเหตุแห่งกำรผิดสัญญำของคู่สัญญำฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง เช่น กำรไม่ชํำระค่ำเช่ำ ในสัญญำซื้อขำย ตลอดทั้งกำรไม่ปฏิบัติตำมข้อสัญญำข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งจะถือว่ำคู่สัญญำฝ่ำยที่ไม่ ปฏิบัติกำรชํำระหนี้ของตนหรือไม่ปฏิบัติตำมข้อสัญญำนั้น ๆ เป็นฝ่ำยผิดสัญญำ ผลของกำรผิดสัญญำ คู่สัญญำอำจตกลงกันให้สิทธิคู่สัญญำฝ่ำยที่มิได้ผิดสัญญำในกำรบอกเลิกสัญญำได้โดยสิทธิในกำรบอก เลิกสัญญำเช่นว่ำนั้นย่อมไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิอื่น ๆ ตำมกฎหมำยในกำรที่คู่สัญญำฝ่ำยที่ไม่ได้ ผิดสัญญำจะพึงมีในกำรเรียกร้องค่ำเสียหำยอื่น ๆ อีก
นอกจำกนี้คู่สัญญำที่ไม่ได้ผิดสัญญำอำจให้โอกำสแก่คู่สัญญำ ที่ผิดสัญญำในกำรแก้ตัวก่อนก็ได้ โดยทํำกำรอำจบอกกล่ำว (Notices) ให้คู่สัญญำ ฝ่ำยที่ผิดสัญญำนั้น แก้ไขกำรประพฤติผิดข้อสัญญำภำยในเวลำที่กํำหนดไว้ในคํำบอกกล่ำวซึ่งหำกไม่มีกำรแก้ไข กำรผิดสัญญำ คู่สัญญำฝ่ำยที่มิได้ผิดสัญญำและได้ส่งคํำบอกกล่ำวให้แก้ไขกำรผิดสัญญำแล้วก็มีสิทธิ ที่จะบอกเลิกสัญญำได้ เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
Unless otherwise provided for in this Contract, when either party breaches any provision hereof, the other party shall give a written notice to such party requiring such party to correct such breach within … days as from the date of receipt of such notice. Failure to company with such notice on the part of the defaulting party shall entitle the party giving such notice to terminate this Contract. Such termination, however, shall be without prejudice to the tights and remedies of the party giving such notice provided for hereunder or under the applicable law.
ข้อสังเกตประกำรแรก กำรบอกเลิกสัญญำในกรณีผิดสัญญำ
จะใช้คํำว่ำ “termination” ซึ่งจะทํำให้สัญญำสิ้นสุดลงนับแต่มีกำรบอกเลิกสัญญำหรือเมื่อสิ้นสุด ระยะเวลำหนึ่งนับแต่มีกำรบอกเลิกสัญญำตำมที่คู่สัญญำจะตกลงกันไว้ คํำว่ำ “termination” แตกต่ำงจำกคํำว่ำ “rescission” ซึ่งหมำยถึงกำรเลิกสัญญำเช่นกันแต่มีผลในทำงกฎหมำยที่แตกต่ำงกัน ในกรณีของกำรบอกเลิกสัญญำแบบ “termination” นั้น สัญญำจะสิ้นสุดลงนับแต่เวลำบอกเลิกสัญญำ หรือในเวลำใดนับแต่มีกำรบอกเลิกสัญญำตำมที่คู่สัญญำตกลงกันไว้ และจะไม่กระทบถึงกำรใด ๆ ที่คู่สัญญำได้กระทํำหรือปฏิบัติต่อกันก่อนมีกำรเลิกสัญญำ ดังนั้น กำรใดที่คู่สัญญำได้ปฏิบัติไปแล้ว หรือสิทธิเรียกร้องใด ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนกำรบอกเลิกสัญญำและยังมีได้ชดใช้ต่อกันก็ยังสำมำรถบังคับกันได้ แม้จะบอกเลิกสัญญำกันแล้วก็ตำม
ส่วนกรณีของกำรเลิกสัญญำแบบ “rescission” นั้นมีลักษณะ เหมือนกำรบอกล้ำงสัญญำที่เป็นโมฆียะ (voidable contract) กล่ำวคือ ทํำให้สัญญำนั้นเสียเปล่ำ (null) เสมือนหนึ่งว่ำไม่มีสัญญำเกิดขึ้นเลย ผลที่ตำมมำก็คือคู่สัญญำแต่ละฝ่ำยต้องทํำให้คู่สัญญำ อีกฝ่ำยหนึ่งกลับคืนสู่ฐำนะเดิม (restitution) ก่อนที่จะมีกำรทํำสัญญำกัน กำรเลิกสัญญำ โดย “rescission” จึงอำจกระทํำโดยควำมตกลงร่วมกันของคู่สัญญำก็ได้หรือเป็นกำรบอกเลิกสัญญำ ในลักษณะเดียวกันกับกำรบอกล้ำงนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ เช่น เกิดจำกกำรฉ้อฉล (fraud) กำรข่มขู่ (duress) หรือสํำคัญผิด (mistake) ก็ได้ ซึ่งจะทํำให้นิติกรรมนั้นเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น (void ab initio) หรือจะเป็นกำรบอกเลิกโดยคํำสั่งศำลก็ได้ ซึ่งจะใช้ในกรณีที่เป็นกำรชดใช้เยียวยำตำมหลัก Equity (equitable remedies) ในระบบ Common Law ซึ่งแตกต่ำงจำกกำรชดใช้ตำมกฎหมำย (legal remedies) ที่ชดใช้ค่ำเสียหำยกัน เป็นวงเงิน (money damages)
ข้อสังเกตประกำรที่สอง คํำบอกกล่ำว (Notices) มักถูกกํำหนด
ไว้เป็นข้อตกลงข้อหนึ่งในสัญญำด้วย โดยจะระบุถึงวิธีกำรในกำรส่งคํำบอกกล่ำว เช่น All notices called for by the terms of the Contract Documents shall be delivered by hand or by registered mail to the party's address to which it is given.
๓.๒.๘ กำรระงับข้อพิพำท (Settlement of Disputes) อำจกระทํำได้โดยวิธีกำรระงับข้อพิพำทผ่ำนระบบ “อนุญำโตตุลำกำร”
(arbitrator) กล่ำวคือ คู่สัญญำตกลงกันกํำหนดบุคคลที่สำมซึ่งอำจเป็นบุคคลเดียวหรือหลำยคน ให้ทํำหน้ำที่พิจำรณำวินิจฉัยชี้ขำดข้อพิพำทตำมที่ตกลงกันไว้ในสัญญำ โดยในกำรดํำเนินกระบวน พิจำรณำอนุญำโตตุลำกำรจะเปิดโอกำสให้คู่กรณีพิพำทแสดงข้อเรียกร้องและข้อต่อสู้พร้อมทั้ง นํำพยำนหลักฐำนต่ำง ๆ มำสืบเพื่อรับฟังข้อเท็จจริง ตลอดจนสำมำรถดํำเนินกระบวนพิจำรณำตำม วัน เวลำ และสถำนที่ตำมที่คู่กรณีพิพำทตกลงกันได้ รวมทั้งคู่กรณีพิพำทสำมำรถตกลงกันกํำหนดวิธี พิจำรณำโดยไม่ขัดต่อกฎหมำยและควำมสงบเรียบร้อยของประชำชนเพื่อใช้ในกำรดํำเนินกระบวน
พิจำรณำแก่ข้อพิพำทได้ และเมื่อรับฟังข้อเท็จจริงตำมพยำนหลักฐำนในกำรดํำเนินกระบวนพิจำรณำแล้ว อนุญำโตตุลำกำรจึงมีคํำวินิจฉัยข้อพิพำทต่อไป เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
Any dispute or difference arising out of or in connection with this Contract or the implementation of any of the provisions of this Contract which cannot be settled amicably shall be referred to arbitration.
อย่ำงไรก็ตำม เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๕๒ คณะรัฐมนตรีมีมติ เรื่อง “กำรทํำสัญญำระหว่ำงรัฐกับเอกชน” ในกรณีที่เกิดข้อพำท เช่น ข้อพิพำททำงปกครอง ขนำดของโครงกำร แหล่งเงินของโครงกำร ซึ่งล้วนเป็นข้อพิพำทที่อำจเกิดปัญหำด้ำนกำรตีควำม ในทำงปฏิบัติตำมมำ โดยเปิดกว้ำงให้สัญญำระหว่ำงรัฐและเอกชนสำมำรถใช้วิธีอนุญำโตตุลำกำร ในกำรระงับข้อพิพำทได้ ทั้งนี้หำกเป็นสัญญำทำงปกครองหรือสัญญำสัมปทำนใดที่รัฐเห็นว่ำ จะกระทบต่อผลประโยชน์สำธำรณะหรือควำมมั่นคงของประเทศแล้ว อำจพิจำรณำสงวนสิทธิ์ในกำร ไม่ใช้วิธีอนุญำโตตุลำกำรในสัญญำ โดยนํำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นกรณีไป ส่งผลให้กำรทํำสัญญำ ระหว่ำงรัฐกับเอกชนในเวลำต่อๆมำที่เป็นเรื่องกระทบต่อผลประโยชน์สำธำรณะหรือควำมมั่นคง ของประเทศไม่ได้มีกำรกํำหนดเป็น “สัญญำอนุญำโตตุลำกำร” อีก เช่นในกรณี สัญญำจัดหำเงินกู้ เพื่อชํำระค่ำเครื่องบินแอร์บัส A๓๓๐-๓๐๐ จํำนวน ๖ ลํำ ของบริษัท กำรบินไทย จํำกัด (มหำชน) โดยในขณะนั้นกระทรวงกำรคลังได้ถือหุ้นของบริษัท กำรบินไทย จํำกัด (มหำชน) ไม่ต่ํำกว่ำร้อยละ ๕๑ ได้มีหนังสือที่ กค๐๙๐๔/๓๔๙๕ ลงวันที่ ๒๓ กุมภำพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ พิจำรณำในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กำรระงับข้อพิพำทโดยวิธีอนุญำโตตุลำกำรว่ำ “สัญญำทุกประเภทที่หน่วยงำนของรัฐทํำกับเอกชน ในไทยหรือต่ำงประเทศ ไม่ว่ำจะเป็นสัญญำทำงปกครองหรือไม่ ไม่ควรเขียนข้อผูกมัดในสัญญำ ให้มอบข้อพิพำทให้คณะอนุญำโตตุลำกำรเป็นผู้ชี้ขำด เว้นแต่มีควำมจํำเป็นหรือเป็นข้อเรียกร้อง ของคู่สัญญำอีกฝ่ำยที่มิอำจหลีกเลี่ยงได้ ก็ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจำรณำอนุมัติเป็นรำย ๆ ไป”
ดังนั้นหำกนิติกรผู้ร่ำงสัญญำเห็นว่ำสัญญำใดมีวัตถุประสงค์หรือเจตนำรมณ์ ที่อำจกระทบต่อผลประโยชน์สำธำรณะหรือควำมมั่นคงของประเทศแล้ว ก็ควรกํำหนดวิธีกำรระงับ ข้อพิพำททำงศำลแทน โดยระบุให้ชัดเจนว่ำ
ถึงกรณีที่ไม่สำมำรถแต่งตั้งอนุญำโตตุลำกำรหรือในกรณีที่ไม่เห็นด้วย กับกำรแต่งตั้งอนุญำโตตุลำกำรคู่สัญญำแต่ละฝ่ำยมีสิทธิยื่นคํำฟ้องต่อศำลไทยเพื่อตัดสินตำม ควำมเหมำะสม เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
Should either party be unable to appoint an arbitrator or in case of disagreement as regards to the appointment of an umpire. Each party shall have the right to institute suit against the other in the Civil Court in Bangkok, Thailand.
๓.๒.๙ สิทธิหน้ำที่ของคู่สัญญำ (Rights and Obligation) สัญญำก่อให้เกิดผลผูกพันกันตำมกฎหมำยระหว่ำงคู่สัญญำซึ่งควำมผูกพันนี้
คือ “หนี้” ซึ่งคู่สัญญำมีหน้ำที่จะต้องปฏิบัติต่อกันในลักษณะ ๓ ประกำรดังนี้
๓.๒.๙.๑ สัญญำซึ่งก่อให้เกิดหน้ำที่ซึ่งคู่สัญญำจะต้องกระทํำให้แก่กัน เช่น สัญญำจ้ำงเหมำก่อสร้ำงฝ่ำยผู้รับจ้ำงมีหนี้หรือหน้ำที่ต้องทํำกำรก่อสร้ำงจนแล้วเสร็จให้กับผู้ว่ำจ้ำง ฝ่ำยผู้ว่ำจ้ำงก็มีหนี้หรือหน้ำที่ต้องจ่ำยเงินค่ำจ้ำงให้กับผู้รับจ้ำงตำมที่ตกลงกันไว้ เขียนเป็นภำษำอังกฤษ ได้ดังต่อไปนี้
Obligation of the Contractor : The Contractor agrees to perform efficiently and faithfully all of the work and to furnish all of the equiprnents and materials described in the Contract Documents and to supply or provide all equiprnents, materials, supplies, labor and other facilities requisite for or incidental to the successful completion of the work and in carrying out all duties and obligations imposed by the Contract Documents.
Obligation of the Employer : The Employer agrees, subject to the terms and conditions of the Contract Documents, to pay the contractor the amount specified, and at the rates and terms and in the manner set forth in the Contract Documents.
๓.๒.๙.๒ สัญญำซึ่งก่อให้เกิดหน้ำที่ซึ่งคู่สัญญำจะต้องงดเว้นไม่กระทํำ เช่น สัญญำเช่ำอำคำรฝ่ำยผู้เช่ำมีหน้ำที่ตำมเงื่อนไขของสัญญำที่ห้ำมผู้เช่ำทํำกำรต่อเติมหรือ ดัดแปลงอำคำรที่เช่ำ หรือสัญญำรับเหมำก่อสร้ำงที่ห้ำมมิให้มอบหมำยหน้ำที่ให้แก่ผู้รับเหมำช่วง (Assignment and Subletting) เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
- The Contractor shall not assign the Contract or any part thereof, or any benefit or interest therein or thereunder without the prior written consent of the Employer. Provided that the Contractor may transfer any monies due or to become due under the Contract in favour of his bankers without written consent of the Employer but he shall notify the Employer of such transfer.
- The Contractor shall not sublet the whole of the Works. Except where otherwise provided by the Contract, the Contractor shall not sublet any part of the Works without the prior written consent of the Employer. Such consent, if given, shall not relieve the Contractor from any liability or obligation under the Contract and he shall be liable for the defaults and neglects of any sub-contractor, his agents or workmen.
๓.๒.๙.๓ สัญญำซึ่งก่อให้เกิดหน้ำที่ซึ่งคู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งจะต้องส่งมอบ ทรัพย์สินให้แก่อีกฝ่ำยหนึ่ง เช่น สัญญำซื้อขำยอำคำรชุด ผู้ขำยมีหน้ำที่ต้องส่งมอบอำคำรชุดตำมที่ ตกลงกันให้แก่ผู้ซื้อ ส่วนผู้ซื้อมีหน้ำที่ต้องชํำระรำคำให้แก่ผู้ขำย เช่น The Seller agrees to sell and the Purchaser agrees to purchase the goods as described and referred in the Contract Documents as "the Goods".
เมื่อสัญญำก่อให้เกิดหน้ำที่หรือหนี้ซึ่งจะต้องปฏิบัติต่อกันแล้ว คู่สัญญำซึ่งอยู่ในฐำนะเป็นเจ้ำหนี้ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้คู่สัญญำฝ่ำยที่เป็นลูกหนี้ปฏิบัติกำรชํำระหนี้ ตำมข้อตกลงในสัญญำได้โดยฝ่ำยที่อยู่ในฐำนะเป็นลูกหนี้จะปฏิเสธกำรชํำระหนี้หรือกำรปฏิบัติหน้ำที่ ตำมสัญญำไม่ได้ เว้นแต่สัญญำซึ่งต่ำงฝ่ำยต่ำงมีหนี้หรือหน้ำที่ต่อกันและกัน ถ้ำฝ่ำยหนึ่งบิดพลิ้ว ไม่ชํำระหนี้อีกฝ่ำยหนึ่งก็มีสิทธิที่จะไม่ชํำระหนี้ได้ เช่น สัญญำซื้อขำยอุปกรณ์สํำนักงำน ถ้ำผู้ขำยไม่ส่ง มอบอุปกรณ์สํำนักงำนให้ผู้ซื้อตำมระยะเวลำกํำหนดผู้ซื้อย่อมปฏิเสธที่จะชํำระรำคำได้
๓.๒.๑๐กำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำ (Amendment)
ในกรณีของกำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำ (Amendment) นั้น ควรพิจำรณำ ถึงควำมจํำเป็นโดยไม่ทํำให้ทำงรำชกำรเสียเปรียบหรือเป็นกำรแก้ไขเพื่อประโยชน์ของทำงรำชกำร (ซึ่งหมำยควำมรวมถึงควำมเป็นธรรมที่คู่สัญญำเอกชนควรจะได้รับด้วย) เช่น คู่สัญญำเอกชน วำงหลักประกันสัญญำเป็นเงินสดแล้วมีควำมจํำเป็นต้องใช้เงินสดแล้วมำขอเปลี่ยนแปลงใช้เป็น หนังสือค้ํำประกันของธนำคำรภำยในประเทศแทน ซึ่งรำชกำรไม่เสียประโยชน์และตำมหลัก แห่งควำมเป็นธรรมส่วนรำชกำรต้องอนุมัติให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำได้ เป็นต้น
กำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำนั้นคู่สัญญำฝ่ำยเอกชนจะแก้ไขเปลี่ยนแปลง สัญญำในช่วงระยะเวลำใดก็ได้ แม้จะเลยกํำหนดเวลำแล้วเสร็จตำมสัญญำแล้วก็ตำม แต่จะต้องขอ แก้ไขก่อนสัญญำสิ้นสุดซึ่งหมำยถึงก่อนรับมอบสิ่งของหรืองำนจ้ำงงวดสุดท้ำย กำรที่กํำหนดระยะเวลำ ตำมสัญญำสิ้นสุดลง และส่วนรำชกำรยังให้ทํำงำนต่อไปยังถือไม่ได้ว่ำสัญญำสิ้นสุดลง เพรำะส่วนรำชกำร ยังให้โอกำสผู้รับจ้ำงทํำงำนต่อโดยยังไม่ได้รับมอบงำนงวดสุดท้ำย โดยปรับผู้รับจ้ำงเป็นค่ำเสียหำย เช่นนี้คู่สัญญำเอกชนยังสำมำรถแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำได้
กรณีกำรแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำซึ่งมีควำมจํำเป็นต้องเพิ่ม หรือลดวงเงิน หรือเพิ่มงำน ลดงำน หรือต้องเพิ่ม หรือลดระยะเวลำส่งมอบของหรือขยำยระยะเวลำในกำรทํำงำน จะต้องตกลงพร้อมกันไปซึ่งหมำยควำมว่ำ หำกมีกำรเพิ่มงำนระยะเวลำกำรทํำงำนและเงินอำจเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับเมื่อมีกำรลดเนื้องำนระยะเวลำกำรทํำงำนและเงินอำจจะต้องลดลง ดังนั้นเงินค่ำพัสดุ หรือค่ำจ้ำงและระยะเวลำส่งมอบของหรืองำนของคู่สัญญำก็จะต้องมำตกลงกันใหม่ ดังนั้นกรณีที่มี กำรตกลงเพิ่มงำนและเพิ่มระยะเวลำส่งมอบ ก็จะมีผลทํำให้กํำหนดระยะเวลำแล้วเสร็จเปลี่ยนแปลง ขยำยระยะเวลำเพิ่มขึ้นไปด้วยนั่นเอง
ข้อสังเกตประกำรแรก สัญญำที่ทํำขึ้นเป็นลำยลักษณ์อักษรต่อมำคู่สัญญำ
ได้มีกำรแก้ไขเพิ่มเติมด้วยวำจำแล้วในกำรประชุมร่วมกันหรือตำมที่ได้พูดคุยกันทำงโทรศัพท์ หรือในพฤติกำรณ์อื่นใด กำรมีข้อสัญญำว่ำด้วยกำรแก้ไขเพิ่มเติมสัญญำจะเป็นกำรมิให้เกิดโทรศัพท์ ป้องกันหรือในพฤติกำรณ์อื่นใดนั้นจะถือเป็นกำรแก้ไขสัญญำหรือไม่ คู่สัญญำมักตกลงกันว่ำกำรแก้ไข เพิ่มเติมข้อสัญญำหรือตัวสัญญำจะต้องทํำเป็นลำยลักษณ์อักษรและลงลำยมือชื่อคู่สัญญำเป็นสํำคัญ มิกำรถกเถียงกันว่ำกำรแก้ไขเพิ่มเติมด้วยวำจำแล้วในกำรประชุมร่วมกันหรือตำมที่ได้พูดคุยกันทำง เช่นนั้นจะไม่มีผลเป็นกำรแก้ไขเปลี่ยนแปลง เช่น
This Contract many by amended only by instrument made in writing and signed by the parties hereto. ห รื อ Any amendment of this Contract shall be made in writing and signed by the parties hereto.
“กำรแก้ไขเพิ่มเติมสัญญำฉบับนี้ไม่ถือว่ำมีผลผูกพันเว้นแต่จะได้ทํำเป็น ลำยลักษณ์อักษรและลงลำยมือชื่อของคู่สัญญำทั้งสองฝ่ำย”
ข้อสังเกตประกำรที่สอง ข้อสัญญำว่ำด้วยกำรแก้ไขเพิ่มเติมสัญญำ ตำมแบบ ของสัญญำที่ กวพ. กํำหนด และที่เคยผ่ำนกำรตรวจพิจำรณำของสํำนักงำนอัยกำรสูงสุด ๑๓ ตัวอย่ำงนั้น
ไม่ได้กํำหนดข้อสัญญำว่ำด้วยกำรแก้ไขเพิ่มเติมสัญญำไว้แต่อย่ำงใด ทั้งนี้หำกมีเหตุจํำเป็นต้องมีกำร แก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญำต้องทํำเป็นหนังสือตำมแบบและพิธีกำรและลงลำยมือชื่อของคู่สัญญำ ทั้งสองฝ่ำยเช่นเดียวกับกำรทํำสัญญำหลัก
๓.๓ ส่วนที่เป็นข้อสรุปหรือลงท้ำยของสัญญำ (Conclusion)
ส่วนลงท้ำยของสัญญำเป็นส่วนที่แสดงถึงกำรรับรู้ และเข้ำใจของคู่สัญญำว่ำ ข้อสัญญำนั้นถูกต้องตรงกับเจตนำของคู่สัญญำทุกฝ่ำย ซึ่งประกอบไปด้วยกำรลงลำยมือชื่อของคู่สัญญำ และกำรลงลำยมือชื่อของพยำนในสัญญำ ดังนี้
๓.๓.๑ ส่วนลงท้ำยของสัญญำ (Counterparts)
เมื่อคู่สัญญำได้กํำหนดเนื้อหำซึ่งมีสำระสํำคัญตำมที่ได้ตกลงกันแล้ว ในส่วนท้ำยของสัญญำก็จะระบุเป็นกำรปิดท้ำยสัญญำให้ทรำบว่ำ สัญญำที่ได้ทํำกันนั้นได้ทํำไว้กี่ฉบับ ถ้ำมีคู่สัญญำ ๒ ฝ่ำย จะทํำสัญญำเป็นคู่ฉบับ (duplicate) สํำหรับคู่สัญญำแต่ละฝ่ำยถือไว้หรือหำก มีคู่สัญญำมำกกว่ำสองฝ่ำยก็ทํำคู่ฉบับให้ครบตำมจํำนวนคู่สัญญำซึ่งคู่ฉบับเหล่ำนี้ถือเป็นต้นฉบับ (original) เสมอกัน กรณีที่ได้ทํำสัญญำ ๒ ภำษำ ทั้งภำษำไทยและภำษำอังกฤษตำม ควรมีข้อควำมว่ำ “สัญญำฉบับนี้ทํำขึ้นทั้งภำษำไทยและภำษำอังกฤษ โดยจัดทํำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อควำมถูกต้อง ตรงกัน คู่สัญญำทั้งสองฝ่ำยต่ำงถือไว้ฝ่ำยละหนึ่งฉบับ” เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้อังต่อไปนี้
Done in duplicate, Thai and English, each being equally authentic, each party holding one copy.
นอกจำกนี้สัญญำแต่ละฉบับต้องมีข้อควำมถูกต้องตรงกัน พร้อมกันนั้น ก็จะระบุข้อควำมเป็นกำรยืนยันว่ำ คู่สัญญำได้ทํำสัญญำด้วยใจสมัคร ได้ถูกบังคับหลอกลวงหรือ มิได้เกิดจำกกำรฉ้อฉล (fraud) สํำคัญผิด (mistake) และมีเจตนำที่จะผูกพันกันตำมกฎหมำย โดยใช้ข้อควำมที่แสดงว่ำ “คู่สัญญำได้อ่ำนและเข้ำใจข้อควำมในสัญญำดีแล้วหรือโดยตลอดแล้ว จึงได้ลงลำยมือชื่อไว้เป็นหลักฐำนต่อหน้ำพยำน ส่วนที่เป็นข้อสรุปหรือลงท้ำยของสัญญำ” เขียนเป็น ภำษำอังกฤษได้อังต่อไปนี้
In witness whereof, this Contract is made in duplicate having corresponding terms and conditions and the parties hereto have read and understood the terms and conditions hereof and thereby affixed their respective signatures and corporate seals [if any] in the presence of the witnesses on the date and in the month and year first above written.
๓.๓.๒ ลำยมือชื่อคู่สัญญำ (Signed of Parties) แม้ว่ำในสัญญำจะได้ระบุชื่อคู่สัญญำไว้ในส่วนแรกของสัญญำแล้วก็ตำม
แต่ถ้ำคู่สัญญำมิได้ลงลำยมือชื่อในสัญญำด้วย สัญญำนั้นก็จะไม่มีผลบังคับได้ตำมกฎหมำย เพรำะตำมหลักเหตุผลแล้วเพียงแต่มีข้อควำมของสัญญำเท่ำนั้น ผู้หนึ่งผู้ใดย่อมเขียนหรือทํำขึ้นเองได้ โดยที่ผู้ถูกอ้ำงว่ำเป็นคู่สัญญำอำจมีส่วนรู้เห็นหรือตกลงด้วย ดังนั้น กำรลงลำยมือชื่อในสัญญำ จึงเป็นสิ่งสํำคัญมำกในสัญญำ เพรำะเป็นกำรแสดงให้เห็นว่ำคู่สัญญำซึ่งได้ตกลงทํำสัญญำกันแล้วนั้น เป็นกำรแสดงเจตนำที่จะมีผลผูกพันกัน ดังนี้
- ตกลงยอมรับที่จะผูกพันกันดังเงื่อนไขของข้อสัญญำต่ำง ๆ ที่ได้ระบุไว้
ในสัญญำนั้น และ
- ตกลงให้สัญญำมีผลเกิดขึ้น (ไม่ว่ำจะให้เกิดขึ้นทันที หรือให้เกิดขึ้น ณ เวลำใด
เวลำหนึ่งหลังจำกที่มีกำรลงนำมในสัญญำนั้น)
ดังนั้นควำมตกลงใด ๆ แม้จะมีสำระสํำคัญและรูปแบบของสัญญำก็ตำม แต่ถ้ำปรำศจำกลำยมือชื่อของคู่สัญญำซึ่งจะต้องรับผิดตำมสัญญำแล้ว สัญญำนั้นย่อมไม่สมบูรณ์ และไม่มีผลผูกพันกันตำมกฎหมำย
ส่วนในกรณีที่คู่สัญญำเป็นนิติบุคคล กรรมกำรหรือหุ้นส่วนผู้มีอํำนำจจัดกำร แทนนิติบุคคลจะเป็นผู้มีอํำนำจลงลำยมือชื่อแทนนิติบุคคล ทั้งนี้จะต้องเป็นไปตำมวิธีกำรแสดงเจตนำ ของนิติบุคคลซึ่งระบุไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทหรือระบุไว้ในหนังสือรับรองของกระทรวง พำณิชย์ ซึ่งโดยทั่วไปจะต้องมีลำยมือชื่อของบุคคลเหล่ำนี้และจะต้องมีกำรประทับตรำของบริษัท หรือห้ำงหุ้นส่วนซึ่งเป็นนิติบุคคลประกอบด้วย จึงจะมีผลผูกพันตำมกฎหมำย โดยถือว่ำคู่สัญญำ ซึ่งเป็นนิติบุคคลได้ลงลำยมือชื่อแล้ว
ในกำรลงลำยมือชื่อหรือกำรเซ็นสัญญำนั้น มีข้อควรทรำบเพิ่มเติมว่ำ ผู้เป็นคู่สัญญำควรใช้ลำยเซ็นแบบที่เคยเซ็นมำก่อน เพื่อป้องกันปัญหำโต้เถียงเกี่ยวกับลำยเซ็น ทั้งนี้กำรลงลำยมือชื่อหรือกำรเซ็นสัญญำควรมีพยำนรู้เห็นด้วยและถ้ำเป็นไปได้ควรใช้พยำนที่ เป็นบุคคลที่น่ำเชื่อถือหรือมีฐำนะหน้ำที่กำรงำนน่ำเชื่อถือ เขียนเป็นภำษำอังกฤษได้ดังต่อไปนี้
[Signed] Party [ ]
๓.๓.๓ พยำนในกำรทํำสัญญำ (Witness) แม้กฎหมำยจะไม่ได้บังคับให้กำรทํำสัญญำโดยทั่วไปจะต้องมีพยำนในกำร
ทํำสัญญำนั้นก็ตำม แต่กำรมีพยำนรับรู้และรับรองกำรทํำสัญญำจะทํำให้สัญญำมีควำมน่ำเชื่อถือ และคู่สัญญำจะมีควำมระมัดระวังในกำรปฏิบัติให้เป็นไปตำมสัญญำมำยิ่งขึ้น เพรำะมีพยำนซึ่งเป็น บุคคลอื่นร่วมรับรู้ในกำรทํำสัญญำด้วย นอกจำกนี้ในกรณีที่มีปัญหำข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญำ คู่สัญญำ แต่ละฝ่ำยก็อำจให้พยำนมำยืนยันควำมถูกต้องได้ซึ่งเป็นกำรป้องกันกำรบิดพลิ้วหรือไม่ปฏิบัติตำม สัญญำและหำกมีคดีเกี่ยวกับสัญญำต้องขึ้นสู่ศำล คู่สัญญำก็อำจเบิกพยำนในกำรทํำสัญญำมำให้ กำรยืนยันข้อเท็จจริงและควำมถูกต้องในสัญญำนั้นได้ สํำหรับจํำนวนพยำนนั้นในทำงปฏิบัติมักนิยม ให้มีพยำนในสัญญำเพียงสองคน
[Signed] Witness [ ]
๓.๔ ควำมไม่สมบูรณ์หรือกำรไม่สำมำรถใช้บังคับได้ของข้อสัญญำ (Invalidity or unenforceability) เนื่องจำกสัญญำที่ได้รับอิทธิพลจำกระบบ Common Law จะมีกำรร่ำงข้อกํำหนด และเงื่อนไขไว้ค่อนข้ำงละเอียดเพื่อสำมำรถใช้บังคับกันได้ระหว่ำงคู่สัญญำไม่ว่ำกฎหมำยที่ใช้บังคับ แก่สัญญำเช่นว่ำนั้น (applicable law) จะเป็นกฎหมำยในระบบ Common Law หรือ Civil Law ก็ตำมหรือเป็นกฎหมำยของประเทศใดก็ตำม ในกรณีเช่นว่ำนี้จึงเป็นไปได้ว่ำข้อสัญญำในสัญญำนั้น อำจขัดกับบทบัญญัติของกฎหมำยที่ใช้บังคับอยู่หรือเป็นไปได้ว่ำในขณะที่ทํำสัญญำนั้น ไม่มีข้อสัญญำใด ที่ขดกับกฎหมำยที่ใช้บังคับแต่ต่อมำมีกำรเปลี่ยนแปลงกฎหมำยทํำให้ข้อสัญญำบำงข้อขัดกับกฎหมำย ที่ใช้บังคับอยู่ ดังนั้นเพื่อมีให้สัญญำต้องตกเป็นอันไม่สมบูรณ์หรือใช้บังคับไม่ได้ทั้งหมดคู่สัญญำ จึงระบุข้อสัญญำที่มีให้ข้อสัญญำที่ตกเป็นอันไม่สมบูรณ์หรือใช้บังคับมีได้นั้ นกระทบกระเทือน
ข้อสัญญำอื่น ให้ต้องมีผลไม่สมบูรณ์หรือใช้บังคับไม่ได้ตำมไปด้วย เช่น
Whenever possible, each provision of this Contract shall be interpreted in such a manner as to be effective and valid under the applicable laws. However, if any provision of this Contact shall be held to be invalid or prohibited under applicable laws, such provision shall be ineffective only to the extent of such invalidity or prohibition without affecting the validity of the remainder of such provision or the remaining provisions of this Contract, which shall remain in full force and effect.
บทที่ ๔ เสนอตัวอย่ำงกำรตรวจร่ำงสัญญำประเภทต่ำง ๆ
ปัจจุบันรูปแบบสัญญำมำตรฐำนที่เป็นภำษำอังกฤษตำมพระรำชบัญญัติกำรจัดซื้อ จัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ มำตรำ ๙๓ ที่หำกจํำเป็นต้องร่ำงสัญญำขึ้นใหม่ ให้ส่งร่ำงสัญญำให้สํำนักงำนอัยกำรสูงสุดพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบก่อน เว้นแต่ กำรทํำสัญญำ ตำมแบบที่สํำนักงำนอัยกำรสูงสุดได้เคยให้ควำมเห็นชอบ มำแล้ว ก็ให้กระทํำได้ หำกจํำเป็นต้องทํำ สัญญำเป็นภำษำต่ำงประเทศให้ทํำเป็นภำษำอังกฤษ และต้องจัดทํำข้อสรุปสำระสํำคัญแห่งสัญญำ เป็นภำษำไทยตำมหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมกำรนโยบำยประกำศ กํำหนด โดยตำมพระรำชบัญญัติ กำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ มำตรำ ๙๔ ประกอบกับประกำศของ คณะกรรมกำรนโนบำยกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐนั้น ได้กํำหนดให้กำรทํำสัญญำ ของหน่วยงำนของรัฐในต่ำงประเทศ จะทํำสัญญำเป็นภำษำอังกฤษหรือภำษำของประเทศที่หน่วยงำน ของรัฐนั้นตั้งอยู่ โดยผ่ำนกำรพิจำรณำของผู้เชี่ยวชำญของหน่วยงำนของรัฐอีกด้วย ยังไม่ได้มีกํำหนด รูปแบบสัญญำมำตรำฐำนไว้ แต่เคยมีรูปแบบสัญญำมำตรฐำนภำษำอังกฤษตำมระเบียบสํำนัก นำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติมเดิมดังนี้
๔.๑ สัญญำซื้อขำย Sale Agreement
This Contract is made in The Secretariat of The House of Representatives, U Thong Nai Rd., Dusit, Bangkok this ๒๕th day of August ๒๐๑๙.
Between The Secretariat of The House of Representatives represented by................ (hereinafter called the “Purchaser”) of the one part and
……………………..………………, a duly authorized director, having its principal place of business located at (hereinafter called the “Seller”) of the other part.
The Purchaser and the Seller mutually agree as follows:
๑. Purchase/Employment Entente
๑.๑ The Seller agrees to sell and the Purchaser agrees to buy the goods as described and referred in the Contract Documents as "the Goods" at the total price of ……………………..……………….(… )
(i) …
(ii) …
(iii) …
๑.๒ All notices, instruction, correspondence of any other written documentation concerning the Contract shall be in Thai and English as the parties agree.
๑.๓ In the Contract, words shall have the meanings assigned to hereunder except as the context requires otherwise
(i) "the Seller" means the person or persons, partnership or company whose bid has been accepted by the Purchaser and agrees to supply and deliver goods to the Purchaser
(ii) "the Goods" means all of the equipment and/or materials to be purchased as stated in sub-paragraph the Purchaser.
(iii) …
๑.๔ The following documents are attached to this contract and made an integral part of this Contract as though fully written out and set forth herein
(i) …
(ii) …
(iii) …
๑.๕ This Contract shall be subject to and construed in accordance with the Law of the Kingdom of Thailand.
๒. Payment
๒.๑ The Purchaser shall pay the purchase price in amount of. Bath
inclusive of taxes and other expenses when the goods are properly and completely received by the Purchaser.
๒.๒ …
๒.๓ …
๓. Inspection and Acceptance of Goods /Time of Completion
๓.๑ The Purchaser will appoint an Inspection Committee to inspect the Goods delivered under the Contract at the place to be specified by the Purchaser. If the inspection Committee is satisfied that the Goods are correct and in full compliance with the Contract, the Certificate of Acceptance will be issued to the Seller.
๓.๒ …
๓.๓ …
๔. Claim for Penalty
๔.๑ In the event that the Seller cannot deliver the goods within the period prescribed in the Agreement and the Purchaser has yet exercise the right to terminate the Agreement, the Seller shall be imposed penalty on a daily basis in amount of … Baht per day which can be computed at the rate ๒ (two) % of the purchase price which has yet received since the due date under this Agreement until the date that the Seller delivers the goods to the Purchaser, and the Purchaser has properly and completely received such goods.
๔.๒ …
๔.๓ …
๕. Performance bond
๕.๑ Cash or Cheque issued by the bank
๕.๒ …
๕.๓ …
๖. Warranty for Defect
๖.๑ The Seller undertakes to warrant against the defect of the Goods for a period of … months from the date of issue of the Certificate of Acceptance. Should there be any defect or lack of efficiency associated with its operation due to the quality of materials, design, assembly, fabrication or production, the Seller shall repair or replace the material or component free of charge within a reasonable time.
๖.๒ The Seller hereby warrants and represents that the Seller has good title to the goods to be sold and delivered to the Purchaser.
๖.๓ …
๗. Termination of Contract
๗.๑ Unless otherwise provided for in this Contract, when either party breaches any provision hereof, the other party shall give a written notice to such party requiring such party to correct such breach within … days as from the date of receipt of such notice. Failure to company with such notice on the part of the defaulting party shall entitle the party giving such notice to terminate this Contract. Such termination, however, shall be without prejudice to the tights and remedies of the party giving such notice provided for hereunder or under the applicable law.
๗.๒ All notices called for by the terms of the Contract Documents shall be delivered by hand or by registered mail to the party's address to which it is given.
๗.๓ …
๘. Settlement of Disputes
๘.๑ Any dispute or difference arising out of or in connection with this Contract or the implementation of any of the provisions of this Contract which cannot be settled amicably shall be referred to arbitration.
๘.๒ …
๘.๓ …
๙. Rights and Obligation
๙.๑ The Seller agrees to sell and the Purchaser agrees to purchase the goods as described and referred in the Contract Documents as "the Goods".
๙.๒ …
๙.๓ …
๑๐. Amendment
๑๐.๑ This Contract many by amended only by instrument made in writing and signed by the parties hereto.
๑๐.๒ …
๑๐.๓ …
Done in duplicate, Thai and English, each being equally authentic, each party holding one copy.
In witness whereof, this Contract is made in duplicate having corresponding terms and conditions and the parties hereto have read and understood the terms and conditions hereof and thereby affixed their respective signatures and corporate seals [if any] in the presence of the witnesses on the date and in the month and year first above written.
[Signed] Party [ ]
[Signed] Party [ ]
[Signed] Witness [ ]
[Signed] Witness [ ]
๔.๒ สัญญำรับเหมำก่อสร้ำง Construction Contract Agreement
This Contract is made in The Secretariat of The House of Representatives, U Thong Nai Rd., Dusit, Bangkok this ๒๕th day of August ๒๐๑๙.
Between The Secretariat of The House of Representatives represented by................ (hereinafter called the “Employer”) of the one part and
……………………..………………, a duly authorized director, having its principal place of business located at (hereinafter called the “Contractor”) of the other part.
The Employer and the Contractor mutually agree as follows :
๑. Purchase/Employment Entente
๑.๑ The Contractor agrees to perform efficiently and faithfully all of the work and to furnish all of the equiprnents and materials described in the Contract Documents and to supply or provide all equiprnents, materials, supplies, labor and other facilities requisite for or incidental to the successful completion of the work and in carrying out all duties and obligations imposed by the Contract Documents.
(i) …
(ii) …
(iii) …
๑.๒ All notices, instruction, correspondence of any other written documentation concerning the Contract shall be in Thai and English as the parties agree.
๑.๓ In the Contract, words shall have the meanings assigned to hereunder except as the context requires otherwise
(i) "Employer" means the Department of Ministry of
.......................................... and its authorized representatives.
(ii) "Engineer" means the Engineer designated by the Employer to supervise the Works in the Contract or other Engineer appointed from time to time by the Employer and notified in writing to the Contractor to act as Engineer for the purposes of the Contract.
(iii) …
๑.๔ The following documents are attached to this contract and made an integral part of this Contract as though fully written out and set forth herein
(i) …
(ii) …
(iii) …
๑.๕ This Contract shall be subject to and construed in accordance with the Law of the Kingdom of Thailand.
๒. Payment
๒.๑ Wages in amount of… Baht inclusive of taxes and other expenses, whereas, the criteria can be based on lump sum price or price per unit.
๒.๒ …
๒.๓ …
๓. Inspection and Acceptance of Goods /Time of Completion
๓.๑ The Contractor shall complete the work within ; days from the date stipulated in the Notice to proceed, issued by the Employer.
๓.๒ Should the Contractor be delayed in the completion of the Works by any act or neglect of the Employer, or of any employee of the Employer or by any other contractor employed by the Employer or by Force Majeure or by any causes which the Contractor is not responsible, then an extension of time sufficient to compensate for the delay will be granted by the Employer.
๓.๓ …
๔. Claim for Penalty
๔.๑ If the Contractor is not capable to complete the assignment within the time prescribed in the Agreement and the Employer has yet exercise the
right to terminate the Agreement, the Contractor shall be imposed penalty to the Employer in amount of …. Baht per day and shall be borne the expenses which incurred as the Employer needs to hire another contractor in amount of …. Baht per day since the date after the due date following the Agreement or the actual complete date extended by the Employer. Moreover, the Employer is entitled to the compensation which occurred from the Contractor completes the assignment late especially the portion which exceeding such penalty and expenses.
๔.๒ …
๔.๓ …
๕. Performance bond
๕.๑ Cash or Cheque issued by the bank
๕.๒ …
๕.๓ …
๖. Warranty for Defect
๖.๑ The Contractor shall correct without delay, free of cost to the Employer, any defects or damages arising out of faulty materials or workmanship.
๖.๒ …
๖.๓ …
๗. Termination of Contract
๗.๑ Unless otherwise provided for in this Contract, when either party breaches any provision hereof, the other party shall give a written notice to such party requiring such party to correct such breach within … days as from the date of receipt of such notice. Failure to company with such notice on the part of the defaulting party shall entitle the party giving such notice to terminate this Contract. Such termination, however, shall be without prejudice to the tights and remedies of the party giving such notice provided for hereunder or under the applicable law.
๗.๒ All notices called for by the terms of the Contract Documents shall be delivered by hand or by registered mail to the party's address to which it is given.
๗.๓ …
๘. Settlement of Disputes
๘.๑ Should either party be unable to appoint an arbitrator or in case of disagreement as regards to the appointment of an umpire. Each party shall have the right to institute suit against the other in the Civil Court in Bangkok, Thailand.
๘.๒ …
๘.๓ …
๙. Rights and Obligation
๙.๑ Obligation of the Contractor :
(i) The Contractor agrees to perform efficiently and faithfully all of the work and to furnish all of the equiprnents and materials described in the Contract Documents and to supply or provide all equiprnents, materials, supplies, labor and other facilities requisite for or incidental to the successful completion of the work and in carrying out all duties and obligations imposed by the Contract Documents.
(ii) …
(iii) …
๙.๒ Obligation of the Employer
(i) The Employer agrees, subject to the terms and conditions of the Contract Documents, to pay the contractor the amount specified, and at the rates and terms and in the manner set forth in the Contract Documents.
(ii) …
(iii) …
๙.๓ …
๑๐. Amendment
๑๐.๑ This Contract many by amended only by instrument made in writing and signed by the parties hereto.
๑๐.๒ …
๑๐.๓ …
Done in duplicate, Thai and English, each being equally authentic, each party holding one copy.
In witness whereof, this Contract is made in duplicate having corresponding terms and conditions and the parties hereto have read and understood the terms and conditions hereof and thereby affixed their respective signatures and corporate seals [if any] in the presence of the witnesses on the date and in the month and year first above written.
[Signed] Party [ ]
[Signed] Party [ ]
[Signed] Witness [ ]
[Signed] Witness [ ]
คํำศัพท์ท้ำยเล่ม
A
accept = (v.) สนอง เช่น to accept an offer ; ยอมรับ เช่น to accept delivery of the goods ; รับรอง เช่น to accept a bill of exchange
acceptance = (n.) คํำสนอง ; กำรยอมรับ ; กำรรับรอง
acceptor = (n.) ผู้รับรอง เช่น (ตั๋วเงิน)acceptor of a bill of exchange
account payable = (n.) หนี้ที่ต้องชํำระ account receivable = (n.) หนี้ที่จะเรียกเก็บ acquire = (v.) หำมำ ; ได้มำ
acquisition = (n.) กำรหำมำ ; กำรได้มำ
action = (n.) กำรฟ้องร้อง ; คดีควำม
affiliate = )n.) บริษัทในเครือ
agency = (n.) กำรเป็นตัวแทน
agent = (n.) ตัวแทน
agree = (v.) ตกลง
agreement = (n.) ควำมตกลง ; สัญญำ
amend = )v.) แก้ไขเพิ่มเติม
amendment = )n.) กำรแก้ไขเพิ่มเติม
applicable law = )n.) กฎหมำยที่ใช้บังคับ articles of association = (n.) ข้อบังคับ บริษัท (incorporation)
arbitration = (n.) อนุญำโตตุลำกำร
assent = (v.) ยินยอม ; (n.) ควำมยินยอม
assign = (v.) โอน to assigen the rights and obligations under the contract
= (n.) ผู้รับโอน
assignment = (n.) กำรโอน
assignee = (n.) ผู้รับโอน
assignor = (n.) ผู้โอน
audit = (v.) ตรวจ ; (บัญชี), (n.) กำรตรวจ
auditor = (n.) ผู้ตรวจบัญชี
avoid = (v.) บอกล้ำงสัญญำที่เป็นโมฆยะ
award = (n.) คํำชี้ขำดของอนุญำโตตุลำกำร
B
bailment = (n.) กำรฝำกทรัพย์
bailee = (n.) ผู้รับฝำกทรัพย์
bailor = (n.) ผู้ฝำกทรัพย์
bearer = (n.) ผู้ถือ
beneficiary = (n.) ผู้รับประโยชน์
bill = (n.) ตั๋วเงิน
bill of exchange = (n.) ตั๋วแลกเงิน
bill of lading = (n.) ใบตรำส่ง
breach = (v.) ผิดสัญญำ เช่น to breach a contract ; (n.) กำรผิดสัญญำ
broker = (n.) นำยหน้ำ
brokerage = (n.) กำรเป็นนำยหน้ำ
C
capacity = (n.) ควำมสำมำรถ
carrier = (n.) ผู้ขนส่ง
claim = (v.) เรียกร้อง เช่น to claim damages : (n.) กำรเรียกร้อง
claimant = (n.) คู่ควำมที่เป็นโจทก์ในข้อพิพำทที่พิจำรณำโดยอนุญำโต ตุลำกำร (claimant # respondent)
compensate = (v.) ชดใช้ ; ชดเชย
compensation = (n.) กำรชดใช้ ; กำรชดเชย ; ค่ำสินไหมทดแทน
composition = (n.) กำรประนอมหนี้กับเจ้ำหนี้ เช่น composition agreement
between a debtor and his/her creditors
compromise = (v.) ประนีประนอมยอมควำม (n.) กำรประนีประนอมยอมควำม
conclude = (v.) ทํำสัญญำ เช่น to conclude a contract
conclusion = (n.) กำรทํำสัญญำ
condition = )n.) เงื่อนไข condition precedent = (n.) เงื่อนไขบังคับก่อน condition subsequent = )n.) เงื่อนไขบังคับหลัง
consideration = (n.) สิ่งจูงใจหรือสิ่งแลกเปลี่ยนในกำรทํำสัญญำ เช่น in con-
sideration of the promises and covenants given under this contract
consignment = (n.) กำรตรำส่ง
consignee = (n.) ผู้รับตรำส่ง
consignor = (n.) ผู้ตรำส่ง
consolidation = (n.) กำรรวมบริษัทเข้ำด้วยกันแล้วตั้งเป็นบริษัทใหม่ เช่น
A + B = C
commission = (n.) ค่ำบํำเหน็จตอบแทน : กำรกระทํำ
contract = )v.) ทํำสัญญำ (n.) สัญญำ
contractor = (n.) ผู้รับจ้ำงในสัญญำจ้ำงทํำของ) contractor # employer) covenant = (v.) ตกลง) n.) กำรตกลง
creditor = (n.) เจ้ำหนี้ )creditor # debtor)
D
damage = (v.) ทํำให้เสียหำย ; (n.) ควำมเสียหำย เช่น )v.) to damage other persons' property ; (n.) to suffer damage
damages = (n.) ค่ำเสียหำย เช่น to claim damages for a breach of contract
compensatory (general) = (n.) ค่ำเสียหำยที่เป็นกำรชดใช้หรือค่ำเสียหำยทั่วไปซึ่งเป็น
ค่ำเสียหำยที่เกิดขึ้นจริงอันเป็นผลโดยตรงและคำดเห็นได้อัน
damages เนื่องมำจำกกำรผิดสัญญำหรือละเมิด
consequential (special) = (n.) ค่ำเสียหำยที่เป็นผลตำมมำหรือค่ำเสียหำยพิเศษจำกกำร damages กำรผิดสัญญำนอกเหนือจำกค่ำเสียหำยอันเป็นผลโดยตรงและคำด
เห็นได้
liquidated damages = (n.) ค่ำเสียหำยที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้ำระหว่ำงคู่สัญญำ
nominal damages = (n.) ค่ำเสียหำยแต่เพียงในนำม (เพื่อแสดงว่ำจํำเลยผิดจริง โดยที่
โจทก์มิได้รับควำมเสียหำยที่แท้จริงแต่ประกำรใด) punitive damages = (n.) ค่ำเสียหำยที่เป็นกำรลงโทษ (ซึ่งศำลเป็นผู้กํำหนด) default = (n.) กำรผิดนัด
(v.) ผิดนัด
debt = (n.) หนี้เงิน
debtor = (n.) ลูกหนี้ (debtor # creditor)
defect = (n.) ควำมชํำรุดบกพร่อง
defend = (v.) ต่อสู้คดี
defendant = (n.) จํำเลย
defense = (n.) ข้อต่อสู้
defense attorney = (n.) ทนำยจํำเลย
delay = (v.) หน่วงเหนี่ยว : (n.) ควำมล่ำช้ำ
director = (n.) กรรมกำรบริษัท board of directors(n.) = (n.) คณะกรรมกำรบริษัท
discharge = (v.) หลุดพ้น เช่น to discharge from liability ; (n.) กำรหลุดพ้น
disclaim | = | (v.) ปฏิเสธ เช่น to disclaim a warranty |
disclaimer | = | (n.) กำรปฏิเสธ |
dispose of | = | (v.) จํำหน่ำยจ่ำยโอน |
disposal | = | (n.) กำรจํำหน่ำยจ่ำยโอน |
dispute | = | (n.) ข้อพิพำท |
dissolve | = | (v.) เลิก เช่น to dissolve a company |
dissolution | = | (n.) กำรเลิก |
distributor | = | (n.) ผู้จัดจํำหน่ำย |
distributorship | = | (n.) กำรจัดจํำหน่ำย |
draft | = | (n.) ตั๋วแลกเงิน (bill of exchange) |
drawer | = | (n.) ผู้ออกตั๋ว |
drawee | = | (n.) ผู้จ่ำยเงิน |
duress | = | (n.) กำรข่มขู่ |
E easement | = | (n.) สิทธิกำรผ่ำนที่ดินของผู้อื่น เช่น ทำงจํำเป็น easement |
employ | = | of necessity (v.) จ้ำง : ใช้ |
employer | = | (n.) นำยจ้ำงในสัญญำจ้ำงแรงงำน ; ผู้ว่ำจ้ำงในสัญญำจ้ำงทํำของ |
employee | = | (n.) ลูกจ้ำง |
employment | = | (n.) กำรจ้ำงงำน |
empower | = | (v.) ให้อํำนำจ |
enact | = | (v.) ออกกฎหมำย |
enactment | = | (n.) กำรออกกฎหมำย |
encumbrance | = | (n.) กำรติดพัน |
enforce | = | (v.) บังคับให้เป็นไปตำม |
enforceable | = | (adj.) ที่บังคับได้ เช่น enforceable contract |
estoppel | = | (n.) กำรปิดปำก |
execute | = | (v.) ทํำ เช่น to execute a contract |
executed | = | (adj.) ที่ปฏิบัติลุล่วงแล้ว เช่น executed contract |
executory | = | (adj.) ที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ลุล่วง เช่น executory contract |
evict | = | (v.) ขับไล่ ; รอนสิทธิ |
eviction | = | (n.) กำรขับไล่ ; กำรรอนสิทธิ |
F fiscal year | = | (n.) ปีงบประมำณ ; ปีบัญชี |
force majeure | = | (n.) เหตุสุดวิสัย |
forfeit foreseeable fraud frustration | = = = = | (v.) ริบ (adj.) ที่คำดเห็นได้ (n.) ฉ้อฉล ; ฉ้อโกง (n.) ควำมเสื่อมวัตถุประสงค์ของสัญญำ |
G good faith | = | (n.) สุจริต |
I impossible | = | (adj.) พ้นวิสัย |
impossibility | = | (n.) กำรพ้นวิสัย |
indemnify | = | (v.) ชดใช้ |
indemnity | = | (n.) กำรชดใช้ |
infringe | = | (v.) ละเมิด เช่น to infringe a copyright |
injunction | = | (n.) คํำสั่งของศำลที่ห้ำมจํำเลยมิให้กระทํำกำรใดกำรหนึ่งต่อไป |
instrument | = | (n.) ตรำสำร |
negotiable instrument | = | (n.) ตรำสำรเปลี่ยนมือ |
J joint venture | = | (n.) กำรร่วมทุน |
L Landlord | = | (n.) ผู้ให้เช่ำ )landlord # tenant) |
Lease | = | (v.) ให้เช่ำ ; (n.) กำรเช่ำ ; สัญญำเช่ำ |
lessee | = | (n.) ผู้เช่ำ |
lessor | = | (n.) ผู้ให้เช่ำ |
liable | = | (adj.) รับผิด |
liability | = | (n.) ควำมรับผิด |
libel | = | (n.) กำรใส่ควำมผู้อื่นโดยทํำเป็นลำยลักษณ์อักษร |
libellant | = | )n.) คู่ควำมที่เป็นโจทก์ในคดีพำณิชยนำวี) libellant # respondent |
license | = | (n.) กำรอนุญำต ; ใบอนุญำต |
licensee | = | )n.) ผู้รับอนุญำต |
licensor | = | (n.) ผู้ให้อนุญำต |
lien | = | (n.) สิทธิยึดหน่วงที่มีบุริมสิทธิ |
liquidate | = | (v.) ชํำระสะสำงบัญชี |
liquidation | = | (n.) กำรชํำระสะสำงบัญชี |
liquidity | = | (n.) สภำพคล่อง |
M meeting of shareholders | = | (n.) กำรประชุมผู้ถือหุ้น |
memorandum | = | (n.) หนังสือบริคณห์สนธิ |
merchantable | = | (adj.) ที่เป็นไปตำมวัตถุประสงค์ตำมปกติของกำรใช้สินค้ำ |
merger | = | (n.) กำรควบบริษัทเข้ำด้วยกันโดยที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งยังคงอยู่ |
minor | = | เช่น A + B = A (n.) ผู้เยำว์ |
minority | = | (n.) กำรเป็นผู้เยำว์ ; เสียงข้ำงน้อย |
minute | = | (n.) รำยงำนกำรประชุม |
misrepresentation | = | (n.) กำรแสดงข้อควำมอันเป็นเท็จ |
mistake | = | (v.) สํำคัญผิด ; (n.) กำรสํำคัญผิด |
mortgage | = | (n.) กำรจํำนอง |
N nominate | = | (v.) แต่งตั้ง |
nomination | = | (n.) กำรแต่งตั้ง |
nominee | = | (n.) ผู้ได้รับกำรแต่งตั้ง |
notice | = | (n.) คํำบอกกล่ำว; กำรบอกกล่ำว |
notary public | = | (n.) โนตำรี่ พับลิค |
novation | = | (n.) กำรแปลงหนี้ใหม่ |
null | = | (adj.) เสียเปล่ำ |
0 obligation | = | (n.) หนี้ ; หน้ำที่ ; พันธกรณี |
offer | = | (v.) เสนอ เช่น to offer for sale |
offeree | = | (n.) คํำเสนอ เช่น to make an offer (n.) ผู้รับคํำเสนอ |
offeror | = | (n.) ผู้ทํำคํำเสนอ |
P partner | = | (n.) หุ้นส่วน |
limited partner | = | (n.) หุ้นส่วนจํำกัดควำมรับผิด |
general partner | = | (n.) หุ้นส่วนทั่วไป (ไม่จํำกัดควำมรับผิด) |
party | = | (n.) คู่สัญญำ เช่น party to a contract ; คู่ควำม เช่น party |
perform | = | to a legal proceeding (v.) ปฏิบัติ เช่น to perform a duty |
performance | = | (n.) กำรปฏิบัติ เช่น performance of contract |
specific performance | = | (n.) กำรบังคับชํำระหนี้โดยเฉพำะเจำะจง |
plaint | = | (n.) คํำฟ้อง |
plaintiff | = | (n.) โจทก์ในคดีแพ่ง |
pledge | = | (v.) จํำนํำ |
policy | = | (n.) กำรจํำนํำ (n.) กรมธรรม์ |
possession | = | (n.) กำรครอบครอง ; สิทธิครอบครอง |
power of attorney | = | (n.) หนังสือมอบอํำนำจ |
preemptive right | = | (n.) สิทธิในกำรซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม |
premium | = | (n.) เบี้ยประกันภัย |
premises | = | (n.) สถำนที่ |
principal | = | (n.) ตัวกำร (principal # agent) |
privity of contract | = | (n.) ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงคู่สัญญำ |
promise promoter | = = = | (v.) ให้คํำมั่น (n.) คํำมั่น (n.) ผู้เริ่มก่อกำร |
property | = | (n.) ทรัพย์สิน |
personal property | = | (n.) สังหำริมทรัพย์ |
real property | = | (n.) อสังหำริมทรัพย์ |
provision | = | (n.) บทบัญญัติ (กฎหมำย) ; ข้อกํำหนด (สัญญำ) |
proxy | = | (n.) ผู้รับมอบฉันทะ |
instrument of proxy | = | (n.) หนังสือมอบฉันทะ |
Q quorum= (n.) องค์ประชุม | ||
R ratify | = | (v.) ให้สัตยำบัน |
ratification | = | (n.) กำรให้สัตยำบัน |
receiver | = | (n.) เจ้ำพนักงำนพิทักษ์ทรัพย์ |
reimburse | = | (v.) กำรใช้เงินคืน |
reject | = | (v.) ปฏิเสธ เช่น to reject an offer |
remedy | = | (n.) กำรชดใช้เยียวยำ |
representation | = | (n.) กำรแสดงตน |
rescind | = | (v.) เลิกสัญญำในลักษณะที่ทํำให้สัญญำเสียเปล่ำตั้งแต่ต้น |
rescission | = | )n.) กำรเลิกสัญญำ |
resolve | = | (v.) มีมติ |
resolution | = | (n.) มติ |
respondent restitution | = = | (n.) คู่ควำมที่เป็นจํำเลยในคดีพำณิชยนำวี หรือในกำรพิจำรณำ โดยอนุญำโตตุลำกำร) respondent # libellant ; respondent # claimant) (n.) กำรทํำให้กลับคืนสู่ฐำนะเดิม |
revoke | = | (v.) ถอน เช่น to revoke an offer |
revocation | = | (n.) กำรถอน |
royalty | = | (n.) ค่ำใช้สิทธิ |
S security | = | (n.) หลักทรัพย์, หลักประกัน |
security deposit | = | (n.) เงินประกันควำมเสียหำยในทรัพย์สินที่เช่ำ |
debt security | = | )n.) หลักทรัพย์ที่เป็นหนี้ เช่น พันธบัตร) bond) |
equity security | = | (n.) หลักทรัพย์ที่เป็นทุน เช่น หุ้น) Share) |
share | = | (n.) หุ้น |
share capital | = | (n.) ทุนเรือนหุ้น |
share certificate | = | (n.) ใบหุ้น |
shareholder | = | (n.) ผู้ถือหุ้น |
signatory | = | (n.) ผู้ลงลำยมือชื่อ |
slander | = | (n.) กำรใส่ควำมผู้อื่นด้วยวำจำ |
sub-contractor | = | (n.) ผู้รับจ้ำงช่วง |
subscribe | = | (v.) จองซื้อหุ้น |
subscription | = | (n.) กำรจองซื้อหุ้น |
subsidiary | = | (n.) บริษัทลูก |
T tenant | = | (n.) ผู้เช่ำ (tenant # landlord) |
term | = | (n.) ระยะเวลำ เช่น term of a contract ; ข้อกํำหนด เช่น |
terminate | = | terms and conditions of a contract (v.) บอกเลิก เช่น to terminate a contract |
termination | = | (n.) กำรบอกเลิก |
title | = | (n.) กรรมสิทธิ์ |
tort | = | (n.) ละเมิด |
tort-feaser | = | (n.) ผู้ทํำละเมิด |
transfer | = | (v.) โอน |
transferee | = | (n.) กำรโอน (n.) ผู้รับโอน |
transferor | = | (n.) ผู้โอน |
V valid | = | (adj.) สมบูรณ์ เช่น a valid contract |
validity | = | (n.) ควำมสมบูรณ์ |
void | = | (adj.) โมฆะ |
voidable | = | (adj.) โมฆยะ |
W waive | = | (v.) สละ เช่น to waive the rights |
waiver | = | (n.) กำรสละ |
warrant | = | (v.) รับประกัน เช่น to warrant the merchantability |
warranty | = | of the goods sold (n.) กำรรับประกัน |
winding up | = | (n.) กำรชํำระสะสำงบัญชี |
บรรณำนุกรม
หนังสือทั่วไป
จุมพต สำยสุนทร. (๒๕๖๐). การร่างสัญญาภาษาอังกฤษสํา👉รับนักกฎ👉มาย. กรุงเทพฯ : วิญญูชน.
สํำนักกฎหมำย สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร. (๒๕๖๐). คู่มือกำรตรวจร่ำงสัญญำ. กรุงเทพฯ : สํำนักกำรพิมพ์ สํำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร.
สื่ออิเล็กทรอนิกส์
กรมบัญชีกลำง. (ธันวำคม๒๕๖๒). แบบฟอร์มมำตรฐำนสัญญำภำษำอังกฤษ. สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๒ ธันวำคม
๒๕๖๐, จำก http://www.gprocurement.go.th/wps/portal/egp/manual/Standard_form/
form_contract/!ut/p/z๑ / jZDLTsMwEEW_hUWWzYzbKg๓ sUqtNW๙ UK๐ AfBm๘ qJEidSYkeuIYKvxzw๒ RRCY๓ YzO๓ HtngEMKXInnWgpbayUa๑ z_y๔ MRIPCaUIov๓๘ wCj๒ XIZ๗ uOAbLZTePgA๘JeKEPh_๙gcAPiy_cvAXTA๒jDIJvBO๒GtWq๑JCW๒rSnXCtrRG๕dCH๔pEy๗uF๐๕ mxnYBmZPkevodSI๖Td๕๙bRpO๗FSIlX๘BwUtno๗POpkcomoYtkirIwhfGfjBtX๑nbnGw๘๙๗ Pvel๑ rLpvBz๓ Xr๔๐๐ qlzxbSSxK๖๙ pC-bsvdesSzlz๖๖egM-๕CXJ/dz/d๕/L๒dBISEvZ๐FBIS๙ nQSEh/.
๕๖
ภำคผนวก
ตัวอย่ำงร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษตำมระเบียบ สํำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ปัจจุบันตำมพระรำชบัญญัติกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ยังไม่ได้กํำห แบบสัญญำมำตรฐำนเป็นภำษำอังกฤษ แต่เคยมีรูปแบบสัญญำมำตรฐำนเป็นภำษำอังกฤษ ตำมระเบียบสํำนักนำยกรัฐมนตรีว่ำด้วยกำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
รูปแบบตัวอย่ำงร่ำงสัญญำภำษำอังกฤษตำมระเบียบสํำนักนำยกรัฐมนตรี ว่ำด้วยกำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- สัญญำจ้ำง Hire of Work Agreement . Contract No .
This Contract is executed and delivered this days of .. B.E (A.D ), at . Bangkok, Thailand, between. represented by . (hereinafter called "the Employer") of the one part and . incorporated under the law of . with its registered business office at. represented by (hereinafter called "the Contractor") of the other part.
The Employer and the Contractor mutually agree as follows :
C- ๑ Contract Documents :
The following documents are attached to this contract and made an integral part of this Contract as though fully written out and set forth herein: A. Invitation to Bid B. Instructions to Bidders C. Bid Form D. Conditions of Contract E. Supplementary Conditions of Contract (if any) F. Specifications G. Bill of Quantities H. Drawings I. Standard Requirement of the Loan Source (if any) J. Addenda - as issued All of the foregoing documents, together with this Contract, are referred to herein as the Contract Documents. Also incorporated into this Contract, and made part hereof, are all codes, designations, standards, standard specifications, and similar requirements which are referred to in the Conditions and Specifications.
C- ๒ Obligation of the Contractor :
The Contractor agrees to perform efficiently and faithfully all of the work and to furnish all of the equiprnents and materials described in the Contract Documents and to supply or provide all equiprnents, materials, supplies, labor and other facilities requisite for or incidental to the successful completion of the work and in carrying out all duties and obligations imposed by the Contract Documents.
It is agreed that the contract or shall, in the performance of the works, shall provide and employ technicians who have passed the technical standard test from . or have obtained a professional Certificate or a High Professional Certificate or a Technical Training Certificate or equivalents from the institution approved by the Office of the Civil Service Commission for entering the government service for not less than ( %) of each technicial branch. However there must be at least one technician in each of the following branches :
๑ . ๒ . etc .
๒
The Contractor shall prepare a list showing the number of all technicians categorised according to their technical branches and levels, and the names of the technicians who have passed the technical standard test or acquire the Certificate as mentioned above. The list together with related evidence shall be submitted to the Inspection Committee or Engineer before the commencement of the Works and shall be kept ready for inspecture at any time by the Employer or his representative during the term of this Contract.
C - ๓ Obligation of the Employer :
The Employer agrees, subject to the terms and conditions of the Contract Documents, to pay the contractor the amount specified, and at the rates and terms and in the manner set forth in the Contract Documents.
C - ๔ Value of Work and Completion Time :
The Employer agrees to pay for the cost of the work and the Contractor agrees to accept the cost of work done for the total cost of the following amounts in the following currencies : a) Baht
( ); b) in the foreign currency of ( )
The above amounts are based on the unit cost of the work specified in the Bill of Quantities and such other sums as may be ascertained under the Conditions of Contract.
The Contractor shall complete the work within ; days from the date stipulated in the Notice to proceed, issued by the Employer.
C-๕ Notice :
All notices called for by the terms of the Contract Documents shall be in writing in the English language and shall be delivered by hand or by registered mail to the party's address to which it is given. All notices shall be deemed to be duly made when received by the party to whom it is addressed at the following addresses or such other addresses as such party may subsequently notify to the other one : Employer. Contractor
C - ๖ Integration :
The Employer and the Contractor agree that this Contract, including the Contract Documents, expresses all of the agreements, understandings, promises, and covenants of the parties, and that it integrates, combines, and supersedes all prior and contem poraneous negotiations, understandings, and agreement, whether written or oral and that no modification or alteration of this Contract shall be valid or binding on
๓
either party, unless expressed in writing and executed with the same formality as this Contract, except as may otherwise be specifically provided in the Contract Documents.
C - ๗ Counterparts :
This Contract is executed in identical counterparts, one for the Employer, one for the Contractor, .. Both parties have read and understood all details in this Contract and all of the Contract Documents and have hereto appended their respective signatures and affixed their seals (if any) in the presence of witnesses.
The Employer The Contractor By .. By . ( ) ( ) Witness Witness ( ) ( )
CONDITIONS OF CONTRACT
Clause ๑ - Definitions and Interpretations
๑.๑ Definitions:
The following words and expressions, wherever used in the Contract (as hereinafter defined), shall have the meaning herein assigned to them except where the context requires otherwise:
*"Addendum or Addenda" means the additional contract provision(s) issued in writing by the Employer.
*"Approval" means written approval of the Employer or the Engineer on the particular and specified subject including subsequent written confirmation of previous verbal approval or consent and" Approved" means approved in writing, including as aforesaid.
*"Construction Drawings" means the combination of Contract drawings and shop drawings.
*"Constructional Plant" means all appliances or things of whatever nature required in or for the execution, completion of maintenance of the Works (as hereinafter defined) but does not include materials or other things intended to form of forming part of the Permanent Works.
*"Contract" means the Contract No .. Dated between the Employer
and the Contractor.
*"Contract Documents" means the same as defined in clause C - ๑
of the Form of Contract.
*"Contractor" means the person or persons, firm or company whose Bid has been accepted by the Employer and agrees to accomplish the Works for the Employer and includes the Contractor's personal representatives, legal successors and permitted assignees.
๔
*"Contract Price" means the sum named in the Contract (Clause C
- ๔ of the Form of Contract), subject to such additions thereto or deductions therefrom as may be made under the provisions hereinafter contained.
*"Days" means consecutive calendar days unless otherwise
specified. representatives.
*"Employer" means the Department of Ministry of and its authorized
*"Director" means the person designated by the Employer for the
purposes of the Contract, the Project Director, and also means the authorized representative of the Director.
*"Drawings" means the Drawings referred to in the Contract Documents and any modification of such drawings as may be furnished or approved in writing by the Engineer.
*"Engineer" means the Engineer designated by the Employer to supervise the Works in the Contract or other Engineer appointed from time to time by the Employer and notified in writing to the Contractor to act as Engineer for the purposes of the Contract.*
*"Engineer's Representative" means any resident engineer or assistant of the Engineer, or any clerk of works appointed from time to time by the Engineer to perform the Engineer's duties set forth in the Contract, whose authority shall be notified in writing to the Contractor by the Engineer. *
*"Inspection Committee" means the representatives of the Employer, and has the right of final construction inspection. The Inspection Committee shall be appointed to make final construction inspection as stipulated in the Clause
๒๓ hereof and any other inspections necessary at any time while the Contractor is preparing to work or is working.
*"Modification" or "Variation Order" means written interpretations, changes or revisions to the Contract issued by the Engineer, and received by the Contractor after award of the Contract.
*"Month" means calendar month according to Gregorian Calendar.
*"Notice of Award" is a written notice to the successful Bidder stating that his Bid has been accepted and that he is required to execute the Contract and furnish the required performance security.
*"Force majeure" means any event, the happening or pernicious results of which could not be prevented even though a person against whom it
happened or threatened to happen were to take such appropriate care as might be expected from him in his situation.
*"Nominated Sub-contractor" means an individual, firm or company who will be nominate by the Contractor to execute particular part of the Works, and notified in writing to the Engineer to act as Sub-contractor.
*"Permanent Works" means permanent structures to be constructed and completed in accordance with the Contract Documents.
*"Site" means the lands and other places on, under, in or through which the works are to be executed or carried out and any other lands or places provided by the Employer for the purposes of the Contract together with such other places as may be specifically designated in the Contract Documents as forming part of the said lands and places.
*"Special Risks" means war, hostilities (whether war be declare or not), invasions, act of foreign enemies, or insofar as it relates to Thailand, rebellion, revolution, insurrection, military or usurped power, civil war, ionising radiations or contamination by radio-activity from any nuclear fuel or from any nuclear waste from the combustion of nuclear fuel, nuclear assembly or nuclear component thereof, or pressure waves caused by aircraft or other aerial devices travelling at sonic or supersonic speeds, provided that the happening of the foregoing events could not be prevented eventhough a party against whom it happened or threatened to happen were to take such appropriate care as might be expected from him in his situation.
°In case where the Engineer is not designated or appointed by the Employer, this definition should be deleted and the words "Engineer" inevery respective clause of this Conditions ofContract shall berepealed and replaced by the words "Employer"
ci. - \g,ci. ·"Sub-contractor" means any person or persons to whom any part of the Contract has been assigned with the consent, in writing, of the Employer and the legal personal representative, successors and permitted assignees of such persons.
"Successful Bidder" means the person or persons or firm or company whose bid to do the Works has been accepted by the Employer.
"Supplier" means an individual, firm or corporation that sells materials, equipment or services to the Contractor or his Sub-contractors.
"Temporary Works" means all temporary works of every kind required in or for the execution, completion or maintenance of the Works.
"Working Drawing" means the same as Construction Drawings. "Works" means the Temporary Works and the Permanent Works to
be executed in accordance with the Contract Documents.
๑.๒ Singular and Plural
Words importing the singular only also include the plural and vice versa where the context requires.
Clause ๒ - Performance Security
Before or at the time of signing of the Contract the Successful Bidder shall furnish to the Employer a Performance Security in the prescribed form issued by a bank in Thailand and acceptable to the Employer. The amount of Performance Security shall be . percent ( ๐๑๐) of the Contract Price.
The said security shall be released after the expiry of the specified Maintenance Period or at such later time as the Contractor has discharged all his obligations to the Employer under the Contract. The Contractor shall maintain the validity of the security accordingly.
Clause ๓ - Assignment and Subletting
๓.๑ The Contractor shall not assign the Contract or any part thereof, or any benefit or interest therein or thereunder without the prior written consent of the Employer. Provided that the Contractor may transfer any monies due or to become due under the Contract in favour of his bankers without written consent of the Employer but he shall notify the Employer of such transfer. ๓ .๒ The Contractor shall not sublet the whole of the Works. Except where otherwise provided by the Contract, the Contractor shall not sublet any part of the Works without the prior written consent of the Employer. Such consent, if given, shall not relieve the Contractor from any liability or obligation under the Contract and he shall be liable for the defaults and neglects of any sub-contractor, his agents or workmen.
Clause ๔ - Drawings
๔.๑ The Drawings shall remain in the sole custody of the Employer, but two copies thereof shall be furnished to the Contractor free of charge. The Contractor shall provide and make at his own expense any further copies required by him.
๔.๒ One copy of the Drawings, furnished to the Contractor as aforesaid, shall be kept by the Contractor on the Site and one copy shall at all reasonable times be available for inspection and use by the Employer and by any other person authorized by the Employer in writing.
๔ .๓ The Contractor shall give written notice to the Engineer whenever planning or progress of the Works in likely to be delayed or disrupted. The notice shall include details of the drawing or order required and of why and by when it is required and of any delay or disruption likely to be suffered if it is late.
Clause ๕ - General Obligations
๕ .๑ The Contractor shall take full responsibility for the adequacy, liability and safety of all site operations and methods of construction.
๕ .๒ The Employer shall have made available to the Contractor the technical data which shall have been obtained by or on behalf of the Employer from investigations undertaken relevant to the Works and the Bid is deemed to have been based on such data, but the Contractor shall be responsible for his own interpretation thereof.
๕.๓ The Contractor shall be deemed to have inspected and examined the Site and its surroundings and the information available in connection therewith and shall be deemed to have satisfied himself before submitting his bid, as to the form and nature thereof, including the subsurface conditions, the hydrological and climatic conditions, the extent and nature of work and materials necessary for the completion of the Works, the means of access to the Site and the accommodation he may require, and in general, the Contractor shall be deemed to have obtained all necessary information, subject to the above-mentioned, as to risks, contingencies and all other circumstances which may influence or affect his bid.
๕ .๔ The Contractor shall be deemed to have satisfied himself before bidding as to the correctness and sufficiency of his bid for the Works and of the rates and prices stated in the priced Bill of Quantities and the Schedule of Rates and Prices, if any, which bid rates and prices shall, except insofar as it is otherwise provided in the Contract, cover all his obligations under the Contract and all matters and things necessary for the proper execution and maintenance of the Works.
๕.๕ Save insofar as it is legally or physically impossible, the Contractor shall execute and maintain the Works in strict accordance with the Contract to the satisfaction of the Employer and shall comply with and adhere strictly to the instructions and directions of the Employer or the Engineer on any matter whether mentioned in the Contract or those not, touching or concerning the Works.
๕.๖ The Contractor shall give or provide all the necessary superintendence during the execution of the Works and as long thereafter as the Engineer may consider necessary for the proper fulfilling of the contractor's obligations under the Contract. The Contractor, or a competent and authorized agent or representative approved in writing by the Engineer, whose approval may at anytime be withdrawn, is to be constantly on the Works and shall give his
d. - ~b
whole time to the superintendence of the same. If such approval is withdrawn by the Engineer, the Contractor shall, as soon as practicable, having regard to the requirement of replacing him as hereinafter mentioned, after receiving notice of such withdrawal, remove the agent from the Works and shall not thereafter employ him again on the Works in any capacity and shall replace him by another agent approved by the Engineer, Such authorized agent or representative shall receive, on behalf of the Contractor, directions and instructions from the Engineer.
๕.๗ (I) The Contractor shall provide and employ on the Site in connection with the execution and maintenance of the Works:
(a) only such technical assistants as are skilled and experienced in their respective callings and such subagents, foremen and leading hands as are competent to give proper supervision to the Works they are required to supervise, and
(b) such skilled, semi-skilled and unskilled labor as is necessary for the proper and timely execution and maintenance of the Works.
๕.๗ (๒) The Engineer shall be at liberty to object and require the Contractor to remove forthwith from the Works any person employed by the contractor in or for the execution or maintenance of the Works who, in the opinion of the Engineer, misconducts himself, or is incompetent or negligent in the proper performance of his duties, or whose employment is otherwise considered by the Engineer to be undesirable and such person shall not be again employed upon the Works without the written permission of the Engineer, Any Person so removed from the Works shall be replaced as soon as possible by a competent substitute approved by the Engineer.
๕.๘ The Contractor shall in connection with the Works provide and maintain at this own cost all lights, guards, fencing and watch when and where necessary of required by the Engineer for the protection of the Works, or for the safety and convenience of the public or others.
Clause ๖ - Care of Works
From the commencement of the Works until the date stated in the Certificate of Completion for the whole of the Works pursuant to Clause ๒๓ hereof the Contractor shall take full responsibility for the care thereof. When the Employer has issued a Certificate of Completion in respect of the Permanent Works the Contractor shall cease to be liable for the care of the Permanent Works from the date stated in the Certificate of Completion and the responsiblity for the care of the Works shall pass to the Employer. Provided that the Contractor shall take full responsibility to complete any outstanding work as specified in Clause ๒๓ hereof. In the case of
damage, loss or injury shall happen to the Works, or to any part thereof, from any cause whatsoever, save and except "Special Risks" and the cause due to the design of the Works for which the Contractor is not responsible, while the Contractor shall be responsible for the care thereof the Contractor shall, at his own cost, repair and make good the same, so that at completion the Works shall be in good order and condition and in conformity in every aspect with the requirements of the Contract. In the event of any such damage, loss or injury occurring from Special Risks, and the aforementioned cause the Contractor shall, if and to the extent required by the Engineer and subject to the provisions of Clause ๓๒ hereof, repair and make good the same as aforesaid at the cost of the Employer.
The Contractor shall also be liable for any damage to the Works occasioned by him in the course of any operations carried out by him for the purpose of complying with his obligations under Clause ๒๔ hereof.
Clause ๗ - Insurance of Works
๗.๑ Without limiting his obligations and responsibilities under Clause ๘ hereof, the Contractor shall, so far as insurable by using his best effort and at his own cost, insure in the joint names of the Employer and the Contractor against all loss or damage to the Works from whatever cause including strike, riot, and civil commotion, arising during the performance under this Contract and in such manner that the Employer and the Contractor are covered for the period stipulated in Clause ๖ hereof and are also covered during the Period of Maintenance, and for any loss or damage occasioned by the Contractor in the course of any operations carried out by him for the purpose of complying with his obligations under Clause ๒๔ hereof. (a) The Works for the time being executed to the estimated current contract value thereof, or such additional sum as may be specified together with the materials for incorporation in the Works at their replacement value. (b) The Constructional Plant and other things brough on to the Site by the Contractor to the replacement value of such Constructional Plant and other things.
๗.๒ Such insurance shall be effected with an insurer registered or authorized to do business in Thailand, and in terms approved by the Employer, whose approval shall not be unreasonably withheld, and the Contractor shall, whenever required, produce to the Employer the policy or policies of insurance and the receipts for payment of the current premiums.
Clause ๘ - Damage to Persons and Property
The Contractor shall, except if and in so far as the Contract provides otherwise, indemnify and save harmless the Employer against all losses and claims in respect of injuries or damage to any person or material or physical damage to any property whatsoever which may arise out of or in consequence of the execution and maintenance of the Work and against all claims, proceedings, damages, costs, charges and expenses whatsoever in respect of or in relation thereto except any compensation or damages for or with respect to :
(a) The permanent use or occupation of land by the Works or any part thereof which is not caused by the fault of the Contractor, his agents or his employee contributed.
(b) The right of the Employer to execute the Works or any part thereof on, over, under, in or through any land,
(c) Injuries or damages to persons or property solely resulting from any act or neglect of the Employer or his employees.
Clause ๙ - Liability Insurance
๙.๑ Without in anyway limiting the Contractor's obligations and esponsibilities under Clause ๘ above the Contractor shall carry insurance, at his own cost, wit an insurer registered or authorized to do business in Thailand as follows :
(a) For all workmen and employees employed on the projec . This insurance shall cover against all liabilities of the ontractor, including those of any subcontractors, in respect of any damag s or compensations payable according to the law in consequence of any acci ent or injury to any workman or other person in the employment of the Cont actor or any subcon tractors.
(b) For Third Party
Before commencing the execution of the Works the Co tractor (but without limiting his obligations and responsibilities under Clause hereof) shall insure against damage, Loss or injury which may occur to an property (including that of the occur to any property) or to any person (inclu ing any employee of the Employer and Engineer) by or arising out of the exec tion of the Works or Temporary Works or in the carrying out of the Contract. Such insurance shall be effected with an insurer and in terms approved by he Employer (whose approval shall not be unreasonably withheld) for at least Baht for Bodily Injury and Baht for Property Damage in respect of anyone accident r series of accidents arising out of anyone event and the Contractor shall whenever required, produce to the Employer the policy or policies of insuran e and the receipts for payment of the current premiums.
๙.๒ If the Contractor shall fail to effect and keep in force the in urance referred to in Clause ๗ and ๙.๑ hereof, or any other insurance which he may be requir d to effect under the terms of the Contract, then and in any such case the Employer may effect nd keep in force any such insurance and pay such premium as may be necessary for that purpose and from time to time deduct the amount so paid by the Employer as aforesaid from any monies due or which may become due to the Contractor, or recover the same as a debt due from the Contractor.
Clause ๑๐ - Compliance with laws and Regulations etc.
๑๐.๑ The Contractor shall give all notices and pay all fees required to be given or paid by any law or any regulation, if any local or other duly constituted authority in relation to the execution of the Works and by the rules and regulations of all public bodies and companies whose property or rights are affected or may be affected in any way by the Works.
๑๐.๒ The Contractor shall conform in all respects with the provisions of any such laws as aforesaid and the regulations or by-laws of any local or other duly constituted authority which may be applicable to the Works and with such rules and regulations of public bodies and companies as aforesaid and shall keep the Employer indemnified against any penalty and liability of every kind for breach any such Statute, Ordinance or Law, regulation or by-law.
Clause ๑๑ - Access to Other Contractors
The Contractor shall afford all reasonable opportunities for carrying out their work to any other contractors employed by the Employer and their workmen and to the workmen of the Employer and of any other duly constituted authorities who may be employed in the execution on or near the Site of any work not included in the Contract or of any contract which the Employer may enter into in connection with or ancillary to the Works.
Clause ๑๒ - Contractor to Keep Site Clean
๑๒.๑ During the progress of the Works the Contractor shall keep the Site reasonably free from all unnecessary obstruction and shall store or dispose of any Constructional Plan and surplus materials and clear away and remove from the Site any wreckage, rubbish or Temporary Works no longer required.
๑๒.๒ On the completion of the Works the Contractor shall clear away and remove from the Site all Constructional Plant, surplus materials, rubbish and Temporary Works of every kind, and leave the whole of the Site and works clean and in workmanlike condition to the satisfaction of the Engineer and the Employer.
Clause ๑๓ - Labor
๑๓.๑ The Contractor shall make his own arrangements for the engagement of all labor, local or otherwise, and save insofar as the Contract otherwise provides, for the transport, housing, feeding and payment thereof.
๑๓.๒ The Contractor shall, so far as is reasonably practicable, having regard to local conditions, provide on the Site to the satisfaction of the Engineer, an adequate supply of drinking and other water for the use of the Contractor's staff and workmen.
๑๓.๓ The Contractor shall not, other than in accordance with the laws and regulations or orders being in force, import, sell, give, barter or otherwise dispose of any alcoholic liquor or drugs, or permit or suffer his sub-contractors, agents or employees to import, sell, give, barter or dispose of such alcoholic liquor or drugs.
๑๓.๔ The Contractor shall not give, barter or otherwise dispose of to any person or persons, any arms or ammunition of any kind or permit or suffer the same as aforesaid.
๑๓.๕ The Contractor shall in all dealings with labor in his employment have due regard to all recognized festivals, days of rest and religious or other customs.
๑๓.๖ In the event of any outbreak of illness of an epidemic nature, the Contractor shall comply with and carry out such regulations, orders and reguirements as may be made by the Government, or the local medical or sanitary authorities for the purpose of dealing with and overcoming the same.
๑๓.๗ The Contractor shall at all times take all reasonable precautions to prevent any unlawful, riotous or disorderly conduct by or amongst his employees and for the preservation of peace and protection of persons and property in the neighborhood of the Works against the same.
ci. - '"๐
Clause ๑๔ - Material and Workmanship
๑๔.๑ All Material and workmanship shall be of the kinds described in the Contract and in accordance with the Engineer's instructions and shall be subjected from time to time to such tests as the Engineer may direct at the place of manufacture or fabrication, or on the Site or at such other place or places as may be specified in the Contract, on at all or any of such places. The Contractor shall provide such assistance, instruments, machines, labor and materials as are normally required for examining, measuring and testing any work and the quality, weight of quantity of any material used and shall supply samples of materials before incorporating in the Works for testing as may be selected and required by the Engineer.
๑๔.๒ All samples shall be supplied by the Contractor at his own cost if the supply thereof is clearly intended by or provided for in the Contract, otherwise the cost will be borne by the Employer.
๑๔.๓ The cost of making any test shall be borne by the Contractor if such test is clearly intended or provided for in the Contract and, in the case only of a test under load or if a test to ascertain whether the design of any finished or partially finished work is appropriate for the purposes which it was intended to fulfil, is stated in the Contract in sufficient detail to enable the Contractor to price or allow for the same in his Bid.
๑๔.๔ If any test is ordered by the Engineer, which is either:
(a) not so intended or provided for, or (b) (in the cases above mentioned) not so stated, or (c) though so intended or provided for, is ordered by the Engineer to be carried out by an independent person at any place other than the Site or the place of manufacture or fabrication of the materials tested. Then the cost of such test shall be borne by the Contractor, if the test shows the workmanship or materials not to be in accordance with the provisions of the Contract or the Engineer's instructions but otherwise by the Employer.
Clause ๑๕ - Inspection of Operations
๑๕.๑ The Employer and any person authorized by him shall at all times have access to the Works and to all workshops and place where work is being prepared or where materials, manufactures, articles or machinery are being obtained for the Works and the Contractor shall afford every facility for the every assistance on or in obtaining the right to such access.
๑๕.๒ No work shall be covered up or put out of view without the approval of the Engineer or the Engineer's Representative, and the Contractor shall afford full opportunity for the Engineer to examine and measure any work which is about to be covered up or put out of view and to examine foundations before permanent work is placed thereon. The Contractor shall give due notice to the Engineer whenever any such work or foundations is or are ready or about to be ready for examination and the Engineer shall, without unreasonable delay, unless he considers it unnecessary and advises the Contractor accordingly, attend for the purpose of examining and measuring such work or of examining such foundation.
Clause ๑๖ - Removal of Improper Work and Materials
๑๖.๑ The Engineer shall during the progress of the Works have power to order in writing from time to time :
(a) the removal from the Site, within such item or times as may be specified in the order, of any materials which, in the opinion of the Engineer, are not in accordance with the Contract; (b) the substitution of proper and suitable materials; and (c) the removal and proper re-execution, notwith-standing any previous test thereof or interim payment therefor, of any work which in respect of materials or workmanship is not in the opinion of the Engineer, in accordance with the Contract.
๑๖.๒ In case of default on the part of the Contractor in carrying out such order, the Employer shall be entitled to employ and pay other persons to carry out the same and all expenses consequent thereon or incidental thereto shall be recovered from the Contractor to the Employer, or may be deducted by the Employer from any money due or which may become due to the Contractor.
Clause ๑๗ - Suspension of Works
๑๗.๑ The Contractor shall, on the written order of the Employer, suspend the progress of the Works or any part thereof for such time or times and in such manner as the Engineer may consider necessary and shall during such suspension properly protect and secure the Works, so far as is necessary in the opinion of the Engineer. The extra cost incurred by the Contractor in giving effect to the Engineer's instruction under this Clause shall be borne and paid by the Employer unless such suspensions are : (a) otherwise provided for in the Contract; or (b) necessary by reason of some default on the part of the Contractor; or (c) necessary by reason of climate conditions on the Site; or (d) necessary for the proper execution of the Works or for the safety of the Works or any part thereof insofar as such necessity does not arise from any act or default by the Engineer or the Employer. The Contractor shall not be entitled to recover any such extra cost unless he gives written notice of his intention to claim to the Engineer within Twenty-Eight (๒๘) days of the Engineer's order. The Engineer shall consider and recommend to the Employer for determination such extra payment and/or extension of time under Clause ๒๐ hereof to be made to the Contractor in respect for such claim as shall be fair and reasonable.
๑๗.๒ If the progress of the Works or any part thereof is suspended in the written order of the Engineer and if permission to resume work is not given by the Engineer within a period of . days from the given by the date of suspension then, unless such suspension is within paragraph (a), (b) or (d) of sub-clause (๑) of this Clause, the Contractor may serve a written notice on the Engineer requesting permission within
days from the receipt thereof to proceed with the Works or that part thereof in regard to which progress is suspended and, if such permission is not granted within that time, the Contractor by a further written notice so served may, but is not bound to, elect or treat the suspension where it affects only part of the Works as an omission of such part under Clause ๒๕ hereof, or, where it affects the whole Works, as an abandonment of the Contract by the Employer.
Clause ๑๘ - Notice to Proceed
The "Notice to Proceed" will stipulate the date on which it is expected the Contractor will begin the construction and from which date contract time will be reckoned. The Contractor shall not begin the Works before such stipulated date.
Clause ๑๙ - Commencement Time and Time of Completion
๑๙.๑ The Contractor shall commence the Works on Site within days from the date stipulated in the Notice to Proceed from the Employer. The Contractor shall commence construction operations on Site within days thereafter except as may be expressly sanctioned or ordered by the Employer, or be wholly beyond the Contractor's control.
๑๙.๒ Save insofar as the Contractor may prescribe, the extent of portions of the Site which the Contractor is to be given possession from time to time and the order on which such portions shall be made available to him and, subjeet to any requirement in the Contract as to the order in which the works shall be executed, the Employer will give to the Contractor possession of so much of the Site as may be required to enable the Contractor to commence and proceed with the execution of the Works in accordance with the agreed program. If the Contractor suffers delay or incurs cost from failure on the part of the Employer to give possession, the Employer shall grant an extension of time for the completion of the Works, provided that the Contractor shall not claim any cost for such delay.
๑๙.๓ The Contractor shall bear all costs and charges for special or temporary way required by him to connection with access to the Site. The Contractor shall also provide at his own cost any additional accommodation outside the Site required by him for the purpose of the Works.
Clause ๒๐ - Extension of Time for Completion
๒๐.๑ Should the Contractor be delayed in the completion of the Works by any act or neglect of the Employer, or of any employee of the Employer or by any other contractor employed by the Employer or by Force Majeure or by any causes which the Contractor is not responsible, then an extension of time sufficient to compensate for the delay will be granted by the Employer. Provided that the Employer is not bound to take into account any act or circumstance by which the Contractor claims to have been delayed unless the Contractor has within days after such act or circumstance has arisen, submitted to the Engineer's Representative full and detailed particulars of any extension of time towhich he may consider himself entitled in order that such submission may be investigated at the time. No claim for extension of time will be considered by the Engineer and the Employer unless full and detailed particulars are submitted to the Engineer before expiry of the time stipulated in the Contract for completion of [he Works.
Extension of time will not be granted for delays caused by unfavorable hydrological and climatic conditions, unsuitable subsurface or ground conditions, inadequate construction force, or labor, or inadequate budget or the failure of the Contractor to place orders for equipment or materials sufficiently in advance to ensure delivery when needed.
๒๐.๒ Should the amount of extra or additional work of any kind referred to in these Conditions of Contract be such as fairly to entitle the Contractor an extension of time for the completion of the Works, the Employer shall determine the length of such extension and shall notify the Contractor accordingly.
Subject to the provision of Clause ๓๒ (Special Risks) hereof, the Contractor shall not be entitled to claim for expenses or any damages incurred from the delay in the completion of the Works by Force Majeure.
Clause ๒๑ - Rate of Progress
If for any reason, which does not entitle the Contractor to an extension of time, the rate of progress of the Works or any section is at any time, in the opinion of the Engineer, too slow to ensure completion by the prescribed time or extended time for completion, the Engineer shall so notify the Contractor in writing and the Contractor shall thereupon take such steps as are necessary which the Engineer may approve to expedite progress so as to complete the Works or such section by the prescribed time or extended time. The Contractor shall be liable for any expenses which may incur from taking such steps and shall not be entitled to any additional payment.
Clause ๒๒ - Supervisory Expense and Liquidated Damages for Delay
If the Contractor fails to complete the Works within the time prescribed for the completion of the Works provided for in the Contract or extended time allowed under Clause ๒๐ hereof, the Contractor shall pay to the Employer the sum of as liquidated damages and the sum of as compensation of Supervisory Expense (if any) for such default; for every day or part of a day which shall elapse between the time for completion prescribed in the Contract or extended time allowed, as the case may be, and the date of certified completion of the Works. The Employer may, without prejudice to any other method of recovery, deduct the amount of such liquidated damages from any money in his hands due or which may become due to the Contractor. The payment or deduction of such liquidated damages shall not relieve the Contractor from his obligation to complete the Works, or from any other obligations or liabilities under the Contract.
Clause ๒๓ - Certificate of Completion
๒๓.๑ When the whole of the Works have been substantially completed and have satis- factorily passed any final test that may be prescribed by the Contract, the Contractor may give a notice to that effect to the Employer accompanied by an undertaking to finish any outstanding work during the Period of Maintenance. Such notice and undertaking shall be in writing and shall be deemed to be a request by the Contractor for the Employer to issue a Certificate of Completion in respect of the Works. The Employer or the Inspection Committee shall, within ( ) days of the date of delivery of such notice, either issue to the Contractor a Certificate of Completion stating the date on which, in his opinion, the Works were substantially completed in accordance with the Contract, or give instructions in writing to the Contractor specifying all the work which, in the Inspection Committee's opinion, requires to be done by the Contractor before the issue of such Certificate. The Inspection Committee shall also notify the Contractor of any defects in the Works affecting substantial completion that may appear after such instructions and before completion of the work specified therein.
๒๓.๒ For the purpose of this clause the Works will be considered to be substantially complete when they are fully operational. Minor items of work can be outstanding provided these do not in any way affect full operation of the Permanent Works. The decision of the Inspection Committee with respect to what constitutes substantial completion shall be final and not subject to question by the Contractor.
๒๓.๓ When the Certificate of completion is issued to the Contractor, the liability of the Contractor to pay liquidated damages under Clause ๒๒ shall cease but, however, the Contractor shall still be liable to pay for Supervisory Expense, under Clause ๒๒ actually and necessary incurred during the performance of the outstanding work.
Clause ๒๔ - Guarantee Against Defects and Liability for Defective Works
๒๔.๑ In these Conditions the expression "Period of Maintenance" shall mean a period of guarantee for one year" from the date stipulated in the Certificate of Completion determined in accordance with Clause ๒๓ hereof.
๒๔.๒ During the Period of Maintenance and upon notification from the Engineer or the Employer, the Contractor shall correct or reconstruct without delay, free of cost to the Employer, any defects or damages arising out of faulty materials or workmanship.
๒๔.๓ If the Contractor fails to carry out any such work within Fifteen (๑๕) days of being required to do so by the Engineer or the Employer, the Employer shall be entitled to carry out such work by its own workmen or to employ and pay other persons to carry out the same and all expenses consequent thereon or incidental thereto shall be recoverable from the Contractor, or may be deducted by the Employer from any money due or which may become due to the Contractor or from any of the Contractor's guarantees.
๒๔.๔ Where the Contract is terminated prior to completion of the Works, the liability of the Contractor for faulty materials or defective workmanship shall apply to the partially completed work for a period of one year after the partially completed work has been completed and taken over by the Employer.
Clause ๒๕ - Alterations, Additions and Omissions
๒๕.๑ The Engineer shall make any variation of the form, quality or quantity of the Works or any part thereof that may, in his opinion, be necessary; and for that purpose the
The Period of Maintenance may be specified for more than one year if the Employer deems appropriate
Engineer shall have power to order the Contractor to do and the Contractor shall do any of the Following:
(a) increase or decrease the quantity of any work included in the Contract, (b) omit any such work, (c) change the character or quality or kind of any such work, (d) change the levels, lines, positions and dimensions of any part of any part of the Works, and (e) execute additional work of any kind necessary for the
๑๙
completion of the Works. and no such variation shall in any way vitiate or invalidate the Contract, but the value, if any, of all such variations shall be taken into account in ascertaining the amount of the Contract Price.
๒๕.๒ No such variation shall be made by the Contractor without an order in writing of the Engineer. Provided always that the powers of the Engineer under this Clause shall be subject to the approval of the Employer.
๒๕.๓ All extra or additional work done or work omitted by order of the Engineer shall be valued at the rates and prices set out in the Contract if, in the opinion of the Employer, the same shall be applicable. If the Contract does not contain any rates or prices applicable to the extra or additional work, then suitable rates or prices shall be agreed upon between the Employer and the Contractor. In the event of disagreement the Employer shall fix such rates or prices as shall, in his opinion, be reasonable and proper.
Clause ๒๖ - Plant, Temporary Works and Materials
๒๖.๑ All Constructional Plant, Temporary Works and materials provided by the Contractor shall, when brought on the Site be deemed to be exclusively intended for the execution of the Works and the Contractor shall not remove the same or any part thereof, except for the purpose of moving it from one part of the Site to another, without the consent, in writing of the Engineer.
The location, operation and maintenance of all buildings and facilities of the Temporary Works shall be subject to the approval of the Engineer.
๒๖.๒ Upon completion of the Works the Contractor shall remove from the Site all the said Construction Plant and Temporary Works remaining thereon and any unused materials providing by the Contractor.
๒๖.๓ The Employer shall not at any time be liable for the loss or damage to any of the said Constructional Plant, Temporary Works or materials.
Clause ๒๗ - Measurement of Quantities
๒๗.๑ The quantities set out in the Bill of Quantities are the estimated quantities of the Works, but they are not to be taken as the actual and correct quantities of the Works to be executed by the Contractor in fulfillment of his obligations under the Contract.
๒๗.๒ The Engineer shall, except as otherwise stated, ascertain and determine by measurement the value in terns of the Contract of work done in accordance with the Contract. I He shall, when he requires any part or parts of the Works to be measured, give notice to the Contractor's authorized agent or
๒๐
representative who shall forthwith attend or send a qualified agent to assist the Engineer in making such measurement, and shall furnish all particulars required by either of them. Should the Contractor not attend, or neglect or omit to send such agent, the measurement made by the Engineer shall be taken to be the correct measurement of the Works.
๒๗.๓ The works shall be measured net notwithstanding any general or local practices, except where otherwise specifically described or prescribed in the Contract.
Clause ๒๘ - Adjustment of Contract Price Due to Variations in Quantities
๒๘.๑ Should the total aggregate sum of all monthly progress payments excepting payment for alterations, additions or omissions under Clause ๒๕ and all provisional sum (if applicable) items exceed or fall short of the sum named in the Contract, then adjustment shall be made to the sum named in the Contract upon completion of the Works as follows:
(a) In the case of the total aggregate sum of all monthly payments being more than One Hundred and Twenty percent (๑๒๐๐๑๐) of the sum named in the Contract, then the amount exceeding One Hundred and Twenty percent (๑๒๐ %) of the sum named in the Contract shall be calculated and paid at Eighty percent (๘๐%) of the amount.
(b) In the case of the total aggregate sum of all monthly progress payments being less than Eighty percent (๘๐ %) of the sum named in the Contract, then the difference between Eighty percent (๘๐%) of the sum named in the Contract and the total aggregate sum of all monthly progress payments will be paid at Twenty percent (๒๐ %)& of the amount to compensate the contractor for overhead and loss of profit.
(c) Provided that adjustment of Contract Price under this Clause shall not apply in the event of termination of the Contract as provided for in Clause
๓๑. Settle ment of payment for the adjusted amount shall be made to the final payment or any payment before the final payment as the Employer deems appropriate. No adjustment of Contract Price shall be made for an increase or decrease in the quantity of individual items of the Works in the schedule.
๒๘.๒ The Contractor shall send to the Employer through the Engineer and his represen tative every month an account giving particulars, as full and detailed as possible, of all claims for any additional payments which the Contractor may consider himself to be entitled and of all extra or additional work ordered by the Engineer which he has executed during the preceding month.
๒๑
No final or interim claim for payment for any such work or expense will be considered if it has not been included in such particulars. The Employer shall be entitled to authorize payment to be made for any such work or expense, notwithstanding the Contractor's failure to comply with this condition, if the Contractor has, at the earliest practicable opportunity, notified the Engineer in writing that he intends to make a claim for such work.
Clause ๒๙ - Provisional Sums
๒๙.๑ "Provisional Sums" means a sum included in the Contract and so designated in the Bill of Quantities for the execution of Works or the supply of goods, materials, or services or for contingencies.
๒๙.๒ Provisional sums may be used, in whole or in part, or not at all, at the direction and discretion of the Employer. The final certified value of the Works carried out under the Contract shall include the value of works, goods, materials or services supplied in respect of the Provisional Sum as the Employer has approved or determined.
๒๙.๓ The Contractor shall, when required by the Engineer, produce all quotation, invoices, vouchers and accounts or receipts in connection with expenditure in respect of Provisional Sum.
Clause ๓๐ - Payment and Retention
๓๐.๑ If the Contractor so requests, the Employer will make an advance payment to the Contractor of an amount equal to percent ( ๐J๐) of the Contract Price. Such payment will be made after the Contractor has deposited with the Employer an Advance Payment Guarantee in the prescribed form issued by a bank in Thailand an acceptable to the Employer, in the full amount of the advance money. The Contractor shall acknowledge the receipt of the advance payment in the form prescribed by the Employer. The advance payment shall be subject to the following conditions concerning the use and repayment of the advance money :
๓๐.๑.๑ The Contractor shall use the advance payment only to cover expenses incurred by him in the performance of the Works under the Contract. Should the Contractor put the advance money or any part thereof to any other use, the Department may immediately recover the whole amount of the advance money, either directly from the Contractor or against the Advance Payment Guarantee.
๓๐.๑.๒ Whenever requested by the Employer to do so, the Contractor shall, within ( ) days from the receipt of such request, produce proof of how much of the avance money has been spent and that such expenditure was in accordance with Clause
๒๒
๓๐.๑.๑ hereof. Should the Contractor fail to produce such proof within ( ) days as aforesaid, the Department may immediately recover the advance money either directly from the Contractor or against the Advance Payment Guarantee.
๓๐.๑.๓ Towards the repayment of the advance money. the Department will deduct from each interim payment made to the Contractor•..................
percent ( ๐,๑๐) of the amount of the relevant interim certificate, until the full amount of the advance money has been repaid. In any event the outstanding advance money shall be deducted in full from the final payment to the Contractor. Should the outstanding advance money exceed the amount of the final payment, the Contractor shall pay such excess within (. ) days after having received a written request from the Engineer, on behalf of the Employer, to do so.
๓๐.๑.๔ Any money payable by the Contractor to the Employer as debts or under any obligation arising out of the Contract, shall be deducted from interim payments due to the Contractor before any deduction is made towards the repayment of the advance money under Clause ๓๐.๑.๓ hereof.
๓๐.๑.๕ Should the Contractor not perform the Works in accordance with the terms of the Contract or any of the condition attached thereto, the Employer shall be entitled to deduct from any money due to the Contractor under the Contract for repayment of all the advance money or any outstanding amount thereof but subject to the provisions in Clause ๓๐.๑.๔ hereof.
If on termination of the Contract, the outstanding amount of advance money exceeds the amount then due to the Contractor after all other deduction have been made, the Contractor shall pay such excess to the Department within Seven (๗ ) days after receiving a request in writing to do so by the Engineer or the Employer.
๓๐.๒ The Contractor shall present his statement for monthly progress payment to the Employer through the Engineer as soon as possible after the end of each calendar month. The statement shall be in the form approved by the Employer and shall be accompanied by copies of records of measurement and calculations to support the amounts claimed. The Employer after due certification of the statement of payment by the Engineer shall release for payment to the Contractor the net amount after deduction of the retention amount specified. The final payment will be made on issuance of the Certificate of Completion.
๓๐.๓ The Employer shall retain Ten percent (....... ๐ ,๑๐ ) of each monthly progress payment as retention money. In case retention money has been deducted for any number of periods, each period of not less than ๖ months, the
๒๓
Contractor has the option to furnish a bank guarantee (s) issued by a commercial bank in Thailand acceptable to the Employer in the sum equal to the amount of retention money so deducted and in the form required by the Employer in exchange for the release of such accumulated retention money. The Employer will release the said retention money or the bank guarantee as the case may be to the Contractor after the Certificate of Completion has been issued.
๓๐.๔ The Contractor shall pay to all workmen employed by him, wages at the rate and on a schedule agreed upon. In case of failure of payment of wages to the workmen, the Employer shall make direct payments to the Contractor's workmen and shall treat such payments as being made by the Contractor and shall deduct such amount of payments from any money due or which may become due to the Contractor.
๓๐.๕ Unless otherwise expressly stipulated in the Contract.
(๑) The Contractor shall accept the payment, as herein provided, for the full payment and the full compensation for furnishing all materials, labour, tools, equipment and incidental necessary to the completed work and for performing all work contemplated and embraced under the Contract, for all losses or damages arising from the nature of the work or from the action of the elements or from any unforeseen difficulties which may be encountered from the commencement of the Works until the Maintenance Certificate shall have been issued to the Contractor, for all risks of every description connected with the prosecution of the Works and for all expenses incurred in consequence of the suspension of the Works as herein authorized. (๒) In whatsoever cases, the Employer shall not be liable to pay
the Contractor any sum apart from the Contract price.
Clause ๓๑ - Termination of Contract by the Employer
๓๑.๑ If the Contractor shall become bankrupt, or shall be brought into the bankruptcy procedure or, being a juristic person, shall go into liquidation (other than a voluntary liquidation for the purposes of amalgamation or reconstruction), or if the Contractor assigns the Contract, without, having first obtained the consent in writing of the Employer, or has an execution levied on his property, or if, in the opinion of the Employer, the Contractor:
(a) has abandoned the Contract, or (b) without reasonable excuse, has failed to commence the Works within the time specified in the Contract or refused or failed to execute the Works or any part of it with such diligence as will ensure its completion within the times specified in the Contract or any authorized extension of those times or failed to complete the said work within such times; or (c)
๒๔
has committed any breach of or failed to comply with or observe any provision of the Contract; or (d) has failed to remove materials from the Site or to pull down and replace work for .... ( ) days after receiving from the Engineer written notice that the
said materials or work has been condemned and rejected by the Engineer under these conditions, or (e) despite previous warnings by the Engineer or the Employer in writing, has failed to execute the Works in accordance with the contract, or persistently or flagrantly neglected to carry out his obligations under the Contract, or (f) has, to the detriment of good workmanship, or in de finance of the Engineer's instructions to the contrary, sublet any part of the Contract. Then in any of such events the Contractor shall be in default under the Contract and the Employer may, after giving days notice in writing to the Contractor, be entitled to terminate the Contract and/or enter upon the Site and the Works and expel the Contractor thereform. In such event the Employer may himself, complete the Works or may
ci. - d»
where the Employer
employ any other contractor to complete the Works. In case
employs any other contractor to complete the Works, the
Employer or such other contractor may use for such completion so much of the Constructional Plant, Temporary Works and materials, which have been deemed to be reserved exclusively for the execution of the Works, under the provisions of the Contract, as he or they may think proper, and the Employer may at any time, sell any of the said Constructional Plants, Temporary Works and unused materials and apply the proceeds of the sale in or towards the satisfaction of any sums due or which may become due to him from the Contractor under the Contract.
The Contractor shall be responsible for all costs, and charges incurred by the Employer together with the increased construction and supervision cost for completing the Works under the Contract, which shall be deducted from any money due or which may become due to the Contractor. Any amount of costs incurred to the Employer in excess of normal Contract completion costs which may be incurred as a result of the Contractor's default shall be deemed a debt due to the Contractor and shall be paid by the Contractor accordingly. If there are any residues, the Contractor shall be paid accordingly in reasonable time after the aforesaid deduction.
๓๑.๒ The Engineer shall, as soon as may be practicable after any such entry and expulsion by the Employer, fix and determines ex parte, or by or after reference to the parties, or after such investigation or enquiries as he may think fit to make or institute, and shall certify what amount, if any, had at the time or such entry
๒๕
and expulsion been reasonable earned by or would reasonable accrue to the Contractor in respect of work then actually done by him under the Contract and the value of any of the said unused or partially use materials, any Constructional Plant and any Temporary Works.
๓๑.๓ If the Employer shall enter and expel the Contractor under this Clause, he shall not be liable to pay to the Contractor any money on account of the Contract until the expiration of the Period of Maintenance and thereafter until the costs of execution and maintenance, damages for delay in completion, if any, and all other expenses incurred by the Employer have been ascertained. The Contractor shall then be entitled to receive only such sum or sums, if any, as would have been payable to him.
Clause ๓๒ - Special Risks
Notwithstanding anything contained in the Contract:
๓๒.๑ Neither the Contractor nor the Employer shall be under any liability whatsoever whether by way of indemnity or otherwise in respect of destruction of or damage to the Works, or to property whether of the Employer or third parties, or for or in respect of injury or loss of life which is the consequence of any Special Risks save that the Contractor shall remain responsible for work condemned under the provisions of Clause ๑๖ hereof prior to the occurrence of any Special Risks.
๓๒.๒ If the Works shall sustain destruction or damage by reason of any of the said Special Risks, the Contractor shall be entitled to payment only for:
(a) any Permanent Works so destroyed or damaged, insofar as such amounts shall not have already been covered by payments on account made to the Contractor, (b) replacing or making good any such destruction or damage to the Permanent Works, so far as may be required by the Employer, or as may be necessary for the completion of the Permanent Works.
The Contractor shall not be entitled to payment for replacing or making good any materials intended to be used for the purposes of the Works but not incorporated therein which shall sustain destruction or damage by reason of any of the said Special Risks.
๓๒.๓ If, during the period of the Contract, there should be an outbreak of war, whether war is declared or not, in any part of the world which whether financially or otherwise materially affects the execution of the Works, the Contractor shall, unless and until the Contract is terminated under the provisions of this Clause, continue to use his best endeavours to complete the execution of the Works. Provided always the Employer shall be entitled, at any time after such outbreak of war to
๒๖
terminate the Contract by giving written notice to the Contractor and upon such notice being give, this Contract shall, except as to the rights of the parties under this Clause and to the operation of Clause ๓๔ hereof, terminate, but without prejudice to the rights of either party in respect of any antecedent breach hereof.
๓๒.๔ If the Contract shall be terminate under the provisions of the last preceding sub Clause, the Contractor shall, with all reasonable dispatch, remove from the Site all Constructional Plant and shall give similar facilities to his sub-contractors to do so.
๓๒.๕ If the Contract is terminated as aforesaid, the Contractor shall be paid by the Employer, insofar as such amount or items shall not have already been covered by payments on account made to the Contractor, for all work executed prior to the date of termination at the rates and prices provided in the Contract:
Provided always that, against any payments due from the Employer under this Clause, the Employer shall be entitled to be credited with any outstanding balances due from the Contractor and any other sums which at the date of termination were recoverable by the Employer from the Contractor under the terms of the Contract.
Clause ๓๓ - Settlement of Disputes and Arbitration
๓๓.๑ Any dispute or difference arising out of or in connection with the Contract of the implementation of any of the provisions of the Contract which cannot be settled amicably shall be referred to arbitration.
๓๓.๒ Unless both parties agree in the appointment of a single arbitrator, either party shall serve upon the other a notice of intention to submit the dispute or difference to arbitration and specify the name of an arbitrator to be appointed by him. Then, the dispute or the difference shall be referred to two arbitrators, one to be appointed by the issuing party as aforesaid and the other one to be appointed by the other party within thirty (๓๐) days after receipt of the said notice. If the two arbitrators are unable to agree on such dispute or difference, an umpire shall be appointed by the two arbitrators within thirty (๓๐) days from the date of disagreement. The umpire so appointed shall resolve the dispute or difference.
๓๓.๓ Should either party be unable to appoint an arbitrator or in case of disagreement as regards to the appointment of an umpire, each party is entitled to refer the matter to the Civil Court in Bangkok, Thailand for the appointment of arbitrator or umpire as the case may be.
๓๓.๔ Any decision or award given by the single arbitrator or the two arbitrators jointly, or the umpire in case the two arbitrators disagree, shall be final, conclusive and binding upon the parties hereto. The arbitration proceedings shall
๒๗
follow the Rule of Arbitration of the Ministry of Justice's Arbitration Office or any rule as agreed by both parties and shall be conducted in Bangkok.
๓๓.๕ Each party shall bear the cost of his own arbitrator's service and share equally other cost of all proceeding. In case a single arbitrator or an umpire is appointed, the cost of the single arbitrator's service or the cost of the umpire's service shall be decided by the arbitrator, or the umpire, as the case may be.
๓๓.๖ The submission of any matter in dispute or difference to the arbitration proceedings as aforesaid, shall be a condition precedent to the right of institution of court action.
๓๓.๗ The Contract shall be construed according to the laws of the Kingdom of Thailand. Each party shall have the right to institute suit against the other in the Civil Court in Bangkok, Thailand, to enforce any decision or award rendered in arbitration proceedings.
Clause ๓๔ - Termination of Contract by the Contractor
If the whole of the Works should be completely stopped, for a period of more than (. ) days, through no act or fault of the Contractor or of anyone
employed by him, or in the event of the occurence of Special Risks longer than the said period the Contractor may, without prejudice to any other right or remedy and after giving the Employer (. ) days written notice, terminate the Contract.
If the Contract is terminated as provided above, the Employer shall be under the same obligations to the Contractor in regard to payments as if the Contract had been terminated in accordance with Clause ๓๒ hereof.
Clause ๓S - Liabilities of the Parties
Termination of the Contract for whatever reason, shall not prejudice or affect any accrued rights, claims or liabilities under the Contract.
Clause ๓๖ - Assistance by the Employer
The Employer will upon application from the Contractor provide reasonable assistance in obtaining the issuance of all necessary permits or in issuing any certificate, which are required in order to perform the Works of the Contractor. ci. - ci.r:n
Clause ๓๗ - Notices
๓๗.๑ All certificates, notices or written orders to be given by the Employer or the Engineer to the Contractor under the terms of the Contract shall be served by sending by registered post, or delivering the same by hand to the
Contractor's principal place of business, or such other address as the Contractor shall nominate for this purpose in the Contract.
๓๗.๒ All notices to be given to the Employer or the Engineer under the terms of the Contract shall be served by sending by registered post, or delivering the same by hand to the respective addresses nominated for this purpose in Contract.
Clause ๓๘ - Language
All notices, instruction, correspondence of any other written documentation concerning the Contract amongst the Department, the Engineer and the Contractor shall be in Thai or in English as the parties agree, provided however that all documents to be submitted to the loan source shall be in English.
Clause ๓๙ - Law of the Contract
The Contract shall be governed by the law of the Kingdom of Thailand.
Clause ๔๐ - Laws to be Observed
In connection with the performance of Works under the Contract, the Department, the Engineer and the Contractor, their representatives, personnel, technicians or dependents shall observe and comply with the Thai laws.
แบบสัญญำซื้อขำย (Sale Agreement)
CONTRACT NO. ..........................BETWEEN THE DEPARTMENT AND
FOR THE SUPPLY AND DELIVERY OF
This Contract is executed and delivered this day of
................................. , B.E ............................. (A.D.................................. ) at ,Bangkok,
Thailand, between ............................................................................................................. .
represented by ..................................................................................................... .
(hereinafter called "the Buyer") of the one part and ...................................................... .
incorporated under the law of ......................................................................... with its
registered business office of ................................................................. , represented by
.................................................................................................. (hereinafter called
"the Seller") of the other part.
The Buyer and the Seller mutually agree as follows:
๑. CONTRACT DOCUMENTS
The following documents are attached to this Contract and made an integral part of this Contract, as though fully written out and set forth herein: Volume I - TERMS AND CONDITIONS
PART A. Conditions of Contract PART B. Instructions of Bidders PART C. Bid PART D. Supplemental Notice (if any)
PART E. Special Provisions of the Source of Fund (if any)
Volume II SPECIFICATIONS AND DRAWINGS
PART A. Specifications PART B. Drawings
All of the foregoing documents, together with this Contract, are referred to herein as "the Contract Documents"
๒. AGREEMENT FOR SALE
The Seller agrees to sell and the Buyer agrees to buy the goods as described and referred in the Contract Documents as "the Goods" at the total price of
....................................... .
( ......................................................... )
Both parties mutually agree to perform, fulfill, abide by, and submit to any and all of the provisions and requirements and all matters and things contained of expressed in, or reasonably to be inferred from the Contract Documents.