Contract
โครงสร้างสัญญา
แม้ว่าxxxxxxxxxxxเลือกใช้ตัวอย่างสัญญาที่มีพร้อมใช้งานได้เพียงเติมคําในช่องว่าง แต่ในทางการร่าง สัญญาขึ้นมาโดยเฉพาะกับxxxxxxxxxxxคู่สัญญาต้องการย่อมเหมาะสมมากกว่า เพราะสัญญานั้นจะได้มีเนื้อตาม ความxxxxxxxของคู่สัญญาและมีรายละเอียดครบถ้วน นอกจากนี้กฎหมายก็xxxxxxบังคับให้คู่สัญญาต้องตกลงกัน ให้ชัดเจนในรายละเอียดของสัญญา เพราะเมื่อสัญญานั้นเข้าลักษณะหนึ่งของสัญญาตามที่กฎหมายกําหนดใน xxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ xxxxสัญญาซื้อขาย สัญญาเช่า สัญญาค้ําประกัน xxxxx หน้าที่ และความ รับผิดชอบของxxxxxxxxxxให้เป็นไปตามทกฎหมายกําหนด
อย่างไรก็ดี คู่สัญญาxxxxxxตกลงให้แตกต่างไปจากที่กฎหมายกําหนดก็ได้ เว้นแต่เป็นข้อตกลงที่ผิด กฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมxxxxxของประชาชน xxxx การซ่อมแซมxxxxxxxxxxxมีความชํารุด และเสียหายขนาดใหญ่ xxxxxxxxxxxตกลงให้ผู้เช่าเป็นฝ่ายซ่อมแซมก็ได้ แม้กฎหมายจะกําหนดให้เป็นหน้าที่ของ ผู้ให้เช่า เป็นต้น ในทางการทํานิติกรรมต่างๆ จึงจําเป็นอย่างยิ่งที่คู่สัญญาจะได้ทําสัญญาขึ้นมาโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ โดยทั่วไปสัญญาควรประกอบด้วยรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1. ชื่อของสัญญา
ชื่อของสัญญาแสดงให้เห็นถึงความxxxxxxxของคู่สัญญาว่าต้องการทําสัญญาอะไร xxxx สัญญาซื้อขาย ที่ดิน สัญญาค้ําประกันเงินกู้ สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ และเป็นที่เข้าใจตรงกันตามชื่อที่กําหนดไว้ในสัญญา ทั้งนี้ ข้อสําคัญของการกําหนดชื่อของสัญญา คือ หากคู่สัญญาตกลงทําสัญญาที่มีกฎหมายกําหนดไว้แล้ว xxxx สัญญา ซื้อขาย สัญญาอนุญาโตตุลาการ ก็ควรกําหนดชื่อของสัญญาตามที่กฎหมายกําหนดเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน ถึงพื้นฐานของสัญญา ไม่ยุ่งยากแก่คู่สัญญาและบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้อถกเถียงกันว่าคือสัญญาอะไร ในกรณี xxxxนี้แสดงให้เห็นว่าคู่สัญญาต้องการปฏิบัติตามที่กฎหมายกําหนดในเรื่องxxxxx หน้าที่ และความรับผิดชอบของ คู่สัญญา แต่หากกฎหมายกําหนดไว้ไม่ตรงตาม ความต้องการ xxxxxxxxxxxxxxxxตกลงให้แตกต่างจากที่กฎหมาย กําหนดได้แต่ต้องกําหนดเรื่องดังกล่าวในสัญญาให้ชัดเจน
แต่หากเป็นสัญญาที่ไม่มีกฎหมายกําหนดชื่อไว้ xxxxxxxxxxควรxxxxxxxxxxxxxตั้งชื่อให้เหมือนกับสัญญา อื่นๆ ที่กฎหมายกําหนดไว้แล้ว เพราะxxxxxxxนั้นก็จะทําให้เกิดความสับสนและอาจเป็นผลให้นํากฎหมาย ในเรื่อง ดังกล่าวมาใช้กับคู่สัญญาซึ่งอาจไม่เป็นไปตามความxxxxxxxของคู่สัญญา หรืออาจทําให้คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง xxxxxxxxxxxxx นอกจากนี้การระบุรายละเอียดเกี่ยวกับxxxxx หน้าที่และความรับผิดของคู่สัญญาต้องระมัดระวัง และต้องกําหนดกันอย่างละเอียดเพื่อป้องกันความขัดแย้งในภายหลัง
อย่างไรก็ดี แม้สัญญาจะกําหนดชื่ออย่างชัดเจนแล้ว xxxx สัญญาซื้อขายที่ดิน แต่หากข้อความในสัญญา ตกลงกันว่ายังไม่มีการชําระราคา และกําหนดว่าจะยังไม่มีการส่งมอบจนกว่าจะไปจดทะเบียนกันตามแบบที่ กฎหมายว่าจะยังไม่มีการส่งมอบจนกว่าจะไปจดทะเบียนกันตามแบบที่กฎหมายกําหนด ก็ต้องxxxxxxคู่สัญญา xxxxxทําสัญญาจะซื้อจะขาย ไม่ใช่สัญญาซื้อขายที่ดิน (เบ็ดเสร็จเด็ดขาด) เพราะหากxxxxxxเป็นสัญญาซื้อขาย เสร็จเด็ดขายต้องxxxxxxสัญญาเป็นโมฆะ เพราะไม่ทําตามแบบของสัญญา ตามที่กฎหมายกําหนด xxxxนี้ก็ต้องxxxxx เนื้อหาของสัญญาเป็นสําคัญ
2. คู่สัญญา
คู่สัญญา คือ บุคคลที่ผู้ที่ถูกผูกพันให้ปฏิบัติการชําระหนี้xxxxxxxxจึงต้องระบุ “ชื่อ” และรายละเอียด อื่นๆ ให้ชัดเจนและเป็นทางการ ดังนี้
2.1. ชื่อคู่สัญญา ต้องระบุให้ชัดเจนว่าหมายถึงใคร ทั้งนี้ xxxxxxxx xxxเป็น “บุคคลธรรมดา” หรือ
“นิติบุคคล” xxxx ห้างหุ้นส่วนจํากัด บริษัทจํากัด ก็ได้ การระบุชื่อจึงควรระบุชื่อที่เป็นชื่อทางการที่มีกฎหมาย รับรอง xxxx ชื่อตามบัตรประชาชน ชื่อบริษัทตามxxxxxxจดทะเบียนไว้
2.2. ที่อยู่ เพื่อไว้ใช้ติดต่อเพื่อปฏิบัติหน้าที่xxxxxxxx xxxx ส่งมอบสินค้า ชําระราคา รวมxxxxxx ส่ง
เอกสารที่สําคัญ xxxx จดหมายทวงหนี้ หมายศาล เป็นต้น และเพื่อประโยชน์ในการฟ้องร้อง เพราะโดยหลักการ ฟ้องร้อง คู่สัญญาให้ทําxxxxxxxx ต้องฟ้องร้องต่อศาลที่จําเลยxxxxxxลําเนาอยู่ในเขตศาล
2.3. ประเทศ ในที่นี้หมายถึง สัญชาติ ของคู่สัญญา กรณีบุคคลธรรมดา หรือประเทศที่นิติบุคคลนั้นจด
ทะเบียนจัดตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ในการหาประวัติของคู่สัญญาหรือติดตาม นอกจากนี้ ข้อพิจารณาเรื่องคนต่างด้าว ที่ กฎหมายไทยก็อาจห้ามไม่ให้ทํานิติกรรมบางอย่าง xxxx เจ้าของที่ดิน หรือกิจการบางอย่างที่ห้ามคนต่างด้าวทํา เป็นต้น
ทั้งนี้ ในกรณี นิติบุคคล อาจมีที่อยู่หลายประเทศที่แตกต่างกันxxx xxxx บริษัทจัดตั้งที่ประเทศอังกฤษ แต่ที่สํานักงานทําการค้าขายอยู่ในอีกประเทศหนึ่ง
ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าในทางปฏิบัติการเข้าทํานิติกรรมต่างๆ xxxxxxxxxxxต้องถูกบังคับให้ยื่นเอกสารที่ออก โดยหน่วยงานราชการ xxxx กรณีบุคคลธรรมดา คือ สําเนาบัตรประชาชน หรือกรณีบริษัท คือ หนังสือรับรอง บริษัท รวมถึง สําเนาบัตรประชาชนของกรรมการที่มีอํานาจลงนามในสัญญาหรือผู้แทนนิติบุคคล
3.วันท
xxxxxxในสัญญานี้หลายแบบขึ้นอยู่กับความxxxxxxxของคู่สัญญาเพราะxxxxxxxxxxxxxxxxxต้องการให้มีการ
ปฏิบัติหน้าที่xxxxxxxxตั้งแต่xxxxxxสัญญาเกิด ทั้งนี้ หากไม่มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่น xxxxxxxxxxต่างมีหน้าที่ต้องทํา xxxxxxxxนับตั้งแต่xxxxxxสัญญาเกิด อย่างไรก็ดี xxxxxxxxxxxได้ดําเนินการxxxxxxxxไปก่อนหน้านั้นxxxxxxxxxxxx มาทําสัญญาเป็นหนังสือในภายหลัง (โดยลงxxxxxxย้อนหลังไปตั้งแต่xxxxxxปฏิบัติหน้าที่) ก็ทําได้
3.1. xxxxxxของสัญญา คือ xxxxxxสัญญาเกิดขึ้น หรือxxxxxxคําเสนอและคําxxxxของคู่สัญญาถูกต้องตรงกัน
หรือในทางปฏิบัติก็คือxxxxxxxxxxxxxxxxxลงลายมือชื่อในสัญญาที่เป็นหนังสือ
3.2. xxxxxxสัญญามีผลบังคับใช้ คือ xxxxxxคู่สัญญามีหน้าที่ต้องปฏิบัติxxxxxxxxซึ่งอาจเป็นวันเดียวกับ xxxxxxของสัญญา หรือวันอื่นหลังจากนั้นโดยคู่สัญญายังไม่มีหน้าที่ต้องทําxxxxxxxxก็ได้ หากตกลงกันให้มีเงื่อนไข หนึ่งและต้องให้เงื่อนไขนั้นเกิดขึ้นก่อน xxxxxxxxxxxมีหน้าที่ปฏิบัติxxxxxxxx ที่เรียกว่า xxxxxxxxxxxxxxxxxx xxxx สัญญากู้ยืมเงินธนาคารผู้ให้กู้กําหนดให้ผู้กู้ซึ่งเป็นบริษัทต้องได้รับอนุมัติโดยที่ประชุมผู้ถือหุ้น ให้เข้าทําสัญญา เสียก่อน ในกรณีนี้สัญญากู้ยืมเงินก็จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่xxxxxxที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ข้อควรระวัง สําหรับการลงxxxxxxย้อนหลัง ซึ่งเป็นความยินยอมของคู่สัญญาเอง ซึ่งอาจมีผลให้xxxxxxxx xxxผิดสัญญาทันที xxxx xxxxxx 1 xxxxxx ผู้ขายและผู้ซื้อตกลงกันซื้อขายxxxxxxxxxxx แต่xxxxxxxxxxxยังมีความ ชํารุด ผู้ขายจึงต้องซ่อมแซมให้เรียบร้อยแล้วจึงส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อและxxxxxxxxxxxมาลงนามสัญญาภายหลังจากที่ ผู้ขายซ่อมแซมเสร็จแล้ว แต่ลงxxxxxxย้อนหลังไปxxxxxx 1 xxxxxx โดยมีข้อสัญญาว่า “ผู้ขายรับรองว่า ณ xxxxxxของ สัญญานี้xxxxxxxxxxxที่ซื้อขายกันนั้นอยู่ในสภาพดีและxxxxxxx.”xxxx นี้ต้องxxxxxxผู้ขายผิดสัญญาทันที
xxxxxxของสัญญามีประโยชน์เพื่อให้คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งเรียกหรือxxxxxxให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทําxxxxxxxx และหากไม่ทําหน้าที่xxxxxxxxก็จะก่อให้เกิดxxxxxฟ้องร้อง และอายุความ ซึ่งเป็นกําหนดระยะเวลาให้เจ้าหนี้ใช้ xxxxxเรียกร้องก็จะเริ่มต้น การกําหนดxxxxxxในสัญญาจึงสําคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่xxxxxxxxxxxจะได้รู้ xxxxxและหน้าที่ของตนเอง
4. คํานิยามหรือคําจํากัดความ
การมีคํานิยามหรือคําจํากัดความเพื่อให้คู่สัญญาหรือคนที่เกี่ยวข้องเข้าใจตรงกันว่าคําหนึ่งคํานั้นมี ความหมายว่าอย่างไร และให้สัญญาเขียนได้กระชับขึ้น xxxx “ผู้ซื้อ” “ผู้ขาย” “ค่าใช้จ่าย” “ราคา” “วันทําการ” เป็นต้น xxxx “สัญญาซื้อขายฉบับนี้ทําขึ้นระหว่าง นาย ก ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญาเรียกว่า “ผู้ซื้อ” และนาย ข ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญาเรียกว่า “ผู้ขาย”” เป็นต้น
คําจํากัดความมีความสําคัญมากหากสัญญามีขนาดใหญ่หรือมีความxxxxxxxมาก การมีคํานิยามจะช่วย ให้การเขียนสัญญาทําได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้วิธีการกําหนดคํานิยามนั้นมีหลายลักษณะขึ้นอยู่กับความตกลงของคู่สัญญา ว่าต้องการให้คํามีความหมายอย่างไร xxxx
4.1. การกําหนดเพื่อให้คํากระชับขึ้นหรือการกําหนดคําย่อ
xxxx “ป.พ.พ.” หมายถึง xxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ “พ.ร.บ.” หมายถึง
พระราชบัญญัติ
4.2. การกําหนดเพื่อให้มีความหมาย “แคบ” กว่าคําสามัญ
xxxx สัญญาซื้อขายห้องชุด ซึ่งต้องกําหนดความหมายชัดเจนในตอนต้นให้คําว่า “ห้องชุด” หมายถึง อาคารชุดไหน ตั้งอยู่ที่ไหน ชั้นอะไร เลขห้องอะไร
4.3. การกําหนดเพื่อให้มีความหมาย “กว้าง” กว่าคําสามัญ
xxxx สัญญาซื้อขายที่ดิน ก็อาจกําหนดให้ชัดเจให้คําว่า “ที่ดิน” หมายถึง อาคาร โรงเรือน สิ่งxxxxxxxxx และxxxxxต่างๆ ที่ติดอยู่กับที่ดิน (xxxx xxxxxใช้ทางจําเป็น)
4.4. การกําหนดเพื่อให้ “แตกต่าง” จากคําสามัญ
xxxx กฎหมาย หมายถึง กฎ กฎหมาย xxxxxxx ประกาศ ข้อบังคับ และคําสั่งใดๆ ที่ออกโดย เจ้าหน้าที่ผู้มีอํานาจให้ต้องปฏิบัติตาม
5. สาระสําคัญ หรือข้อตกลง
สาระสําคัญ หรือข้อตกลงของคู่สัญญา คือ หัวใจของสัญญา แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์หรือวัตถุประสงค์ ของคู่สัญญาว่าเข้าทําสัญญากันทําไม ซึ่งข้อตกลงนี้จะแตกต่างกันตามลักษณะของนิติกรรม ตลอดจนการกําหนด
ถึงเหตุการณ์ในxxxxxxxxอาจมีผลต่อการปฏิบัติการชําระหนี้ของxxxxxxxxxxxว่า หากเกิดเหตุการณ์นั้นๆ xxxx รัฐกัก สินค้าไว้เพื่อตรวจสอบโรคร้ายแรงxxxxxxติดมากับสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ทั้งหมด xxxxนี้ผู้ขายย่อมxxxxxxส่งมอบ สินค้าได้ด้วยไม่ใช่ความผิดของผู้ขาย xxxxนี้xxxxxxxxxxอาจเขียนในสัญญาว่าเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเหตุสุดวิสัย ผู้ขายไม่ต้องรับผิด เป็นต้น
โดยทั่วไป สัญญาควรต้องมีสาระสําคัญ ดังนี้
5.1. xxxxxและหน้าที่ของxxxxxxxx xxxx สัญญาซื้อขาย ผู้ขายมีหน้าที่ส่งมอบสินค้าและมีxxxxxเรียกให้ ผู้ขายชําระค่าสินค้า และผู้ซื้อก็มีxxxxxเรียกให้ผู้ส่งมอบและมีหน้าที่เรียกชําระค่าสินค้า เป็นต้น
5.2. คุณสมบัติของสินค้า หรือลักษณะของงานที่ส่งมอบ xxxx สัญญาสร้างอาคาร อาคารที่ผู้รับจ้าง
ต้องส่งมอบต้องมีลักษณะตามที่กําหนด และต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ระดับดีตามมาตรฐานที่ผู้xxxxxxxกําหนดไว้ อ้างอิง เป็นต้น
5.3. สถานที่ปฏิบัติการชําระหนี้ คือ การกําหนดให้คู่สัญญาต้องปฏิบัติหน้าที่ตามสถานที่
เฉพาะxxxxxx xxxxสัญญาสร้างอาคาร ผู้รับจ้างต้องสร้างอาคารลงบนที่ดินที่กําหนด หรือ การชําระหนี้เงินกู้ต้อง โอนเขาบัญชีธนาคารxxxxxxระบุไว้ในสัญญา เป็นต้น
5.4. กําหนดระยะเวลา คือ การกําหนดให้คู่สัญญาต้องปฏิบัติหน้าที่เมื่อใด มีระยะเวลาโดย
เฉพาะxxxxxx xxxx สัญญาสร้างอาคารต้องส่งมอบให้แก่ผู้xxxxxxxในxxxxxx 31 ธันวาคม พ.ศ หรือมีกําหนด
ระยะเวลาที่แน่นอน xxxxสัญญาให้บริการ ที่กําหนดให้ต้องบริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฉพาะในเวลานอกทํา การ เป็นต้น
6. คํารับรองและคํารับประกัน
ในการเข้าทําสัญญากันคู่สัญญาแต่ละฝ่ายย่อมต้องการให้สัญญาxxxxxxบังคับใช้กันจริง ในสัญญาจึง ควรมีส่วนที่เรียกว่า คํารับรองและคํารับประกันของคู่สัญญาในแต่ละxxxxxxxให้คํารับรองและคํารับประกันใน ข้อเท็จจริงบางอย่างที่คู่สัญญาอีกฝ่ายต้องการรู้เพื่อให้มั่นใจเพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวอาจเป็นการยากหรือเป็น ภาระค่าใช้จ่ายหรือเสียเวลามากแก่คู่สัญญา เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง ในขณะเดียวกันเป็นการแสดงความโปร่งใส และจริงใจของxxxxxxxxxxxเป็นเจ้าของข้อมูลดังกล่าวในการเข้าทําสัญญา
ทั้งนี้ ลักษณะการรับรองและการรับประกันอาจเป็นการรับรองข้อเท็จจริงที่มีอยู่แล้วหรือรับรอง ข้อเท็จจริงในxxxxxxxxxx การรับรองและการรับประกันที่ใช้กันเป็นการทั่วไปจึงมีได้หลายแบบ ตัวอย่าง xxxx
6.1. การรับรองความxxxxxxในการเข้าทําสัญญา
การรับรองความxxxxxxของคู่สัญญาเพื่อให้มั่นใจว่า คู่สัญญามีความxxxxxxในการเข้าทําสัญญาจริง ไม่ ว่าจะเป็นการมีตัวตนมีการจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย สัญชาติของคู่สัญญา วัตถุประสงค์ของนิติบุคคล รวมxxx xxxยืนยันข้อเท็จจริงxxxxxxกระทบต่อสถานะของxxxxxxxx xxxx “คู่สัญญาเป็นบริษัทจํากัดจัดตั้งขึ้นอย่างถูกต้อง ตามกฎหมายไทย” “บุคคลที่ลงนามในสัญญาเป็นกรรมการผู้มีอํานาจลงนามในสัญญาผูกพันบริษัท” “xxxxxxxx xxxรับความเห็นชอบให้เข้าทําสัญญาจากคณะกรรมการบริษัทหรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว” “การเข้าทําสัญญานี้ไม่ เป็นการผิดสัญญาอื่น” “การเข้าทําสัญญานี้ไม่เป็นการผิดสัญญาอื่น” เป็นต้น
6.2. การรับรองสินค้า
การรับรองลักษณะหรือคุณภาพของทรัพย์หรือสินค้าที่ต้องส่งมอบกันเพื่อคู่สัญญาอีกฝ่ายมั่นใจxxxxxxxxx หรือสินค้านั้นมีลักษณะหรือคุณภาพตามที่คู่สัญญาฝ่ายนั้นคาดxxxxไว้ xxxx ในสัญญาซื้อขาย ผู้ขายก็อาจรับรอง xxxx “ผู้ขายมีกรรมสิทธิ์” “สินค้าที่ส่งมอบมีคุณภาพตามมาตรฐาน...” “ที่ดินที่ซื้อขายกันนั้นไม่มีภาระผูกพันอื่น” เป็นต้น
ทั้งนี้ การให้คํารับรองหรือรับประกันถือเป็นข้อตกลงแบบหนึ่งที่คู่สัญญาต้องผูกพัน หากผิดคํารับรอง หรือคํารับประกันที่ให้ไว้ย่อมมีผลให้เกิดความรับผิดชอบตามที่คู่สัญญาจะได้กําหนดกันไว้ขึ้นอยู่กับความสําคัญ ของข้อเท็จจริงxxxxxxรับรองหรือรับประกันไว้ ถ้าหากข้อเท็จจริงนั้นเป็นเรื่องสําคัญมาก ก็อาจกําหนดไว้ว่า “หากผิดคํารับรองหรือคํารับประกันที่ให้ไว้ย่อมเป็นผลให้เป็นการผิดสัญญาและทําให้สัญญาเลิกกันทันที” หรือ หากข้อเท็จจริงนั้นไม่สําคัญมากถึงกับต้องให้สัญญาเลิกกันทันที (xxxxxxxxxxยังอยากจะทํานิติกรรมกันต่อไป) และ xxxxxxแก้ไขxxx xxxตกลง “ให้มีการเยียวยาแก้ไขภายในกําหนดระยะเวลา” เป็นต้น
นอกจากนี้ คู่สัญญาต้องพิจารณาขนาดหรือความสําคัญของข้อเท็จจริงที่ให้คํารับรองให้สอดคล้องกับ ความเป็นจริงว่าเป็นข้อเท็จจริงที่สําคัญขนาดไหนถึงกับเป็นการผิดสัญญาหรือไม่ หรือแก้ไขได้หรือxxx xxxx การรับรองในสัญญาซื้อขายกิจการว่า “ผู้ขายรับรองว่าไม่เป็นผู้ผิดนัดชําระหนี้ในสัญญาใดๆ” และ “หากคู่สัญญา ผิดคํารับรองในข้อใดให้ถือเป็นการผิดสัญญานี้และให้สัญญาเลิกกัน” การรับรองxxxxนี้ย่อมหมายความว่า แม้ผิด สัญญาเพียงเล็กน้อยก็xxxxxxเป็นการผิดคํารับรองและเป็นผลให้สัญญาเลิกกัน ซึ่งในความเป็นจริงคู่สัญญาย่อมไม่ อยากต้องเลิกสัญญาxxxxxxxxเพราะผู้ขายค้างชําระค่าประปา
7. การระงับข้อพิพาท
ในทางปฏิบัติของxxxxxxxxxxxมีระยะเวลาผูกพันเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อกันนาน xxxx สัญญาผู้ถือหุ้น สัญญา ให้สินเชื่อ มักเกิดข้อพิพาทระหว่างกัน คู่สัญญาหรือผู้ปฏิบัติงานอาจมีความเห็นxxxxxxxxxxx ก่อให้xxxxxxx xxxxxxx xxxxxxx จนเป็นคดีความและท้ายที่สุดอาจต้องเลิกกิจการไปอย่างที่คู่สัญญาต่างไม่มีฝ่ายใดไประโยชน์ ดังนั้น ในการทํานิติกรรมต่างๆ ตั้งแต่ในขั้นตอนทําสัญญา xxxxxxxxxxxให้ความสําคัญแก่การกําหนดวิธีการระงับ ข้อพิพาทระหว่างกันก่อน และหลีกเลี่ยงการดําเนินคดีในศาล เนื่องจากความยุ่งยาก ค่าใช้จ่าย และศาลอาจไม่ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ซึ่งก่อให้เกิดความยุ่งยากในเรื่องการนําเสนอข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน อีกทั้ง ในบางครั้งข้อพิพาทอาจเป็นเรื่องที่xxxxxxxxxxxพอไกล่เกลี่ย ปรับปรุง แก้ไข ได้เองหากมีxxxxxxxxxเหมาะสมเป็น ที่ไว้วางใจ แก่คู่กรณีทุกxxxxxxช่วยจัดการxxxxxxxxxxx
xxxxxxx กระบวนการแก้ไขเพื่อการแก้ไขข้อขัดแย้ง อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ
7.1. ข้อพิพาทระดับผู้ปฏิบัติการ ในกรณีxxxxนี้มักเกิดขึ้นxxxxxxxในการร่วมกันดําเนินการในรูปแบบ สัญญาxxxxทําของ สัญญาให้บริการสัญญาร่วมลงทุน จึงอาจตกลงไว้ว่าเมื่อเกิดข้อพิพาทให้ดําเนินการแจ้งต่อ เจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือคณะกรรมการเพื่อให้เป็นคนกลางเจรจาหาข้อยุติ
7.2. ข้อพิพาทระดับคู่สัญญา ในกรณีที่xxxxxxxxxxxxxxxxxจัดการข้อพิพาทได้เอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ข้อพิพาทที่เป็นเรื่องร้ายแรงและยากแก่การที่คู่สัญญาจะดําเนินนิติกรรมร่วมกันต่อไปได้อย่างxxxxxxxหรือ
xxxxxxxxxxxเห็นได้แต่เริ่มต้นในขั้นตอนการทําสัญญาก็อาจตกลงกันล่วงหน้าว่า ในบางเรื่องต้องมีคนกลางเข้ามา ไกล่เกลี่ย ทั้งนี้ ในส่วนอาจตกลงให้มีรูปแบบการไกล่เกลี่ยหรือเพื่อยุติข้อพิพาทได้หลายรูปแบบ
7.2.1 การไกล่เกลี่ยโดยมีบุคคลที่สามเป็นคนกลาง ซึ่งอาจเป็นบุคคลที่เชื่อถือ และให้ความ
ไว้วางใจในความxxxxxxxx xxxx ผู้พิพากษา ทั้งนี้ คําไกล่เกลี่ยไม่มีผลผูกพันคู่กรณี ขึ้นอยู่กับความยินยอมของ xxxxxxxxxxxจะxxxxxรับและยอมรับคําไกล่เกลี่ยเพื่อยุติข้อพิพาท
7.2.2 ยุติด้วยความเห็นชอบของบุคคลที่สามที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะxxxx xxxใช้ในกรณีที่
คู่สัญญาตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่าให้บางเรื่องเป็นไปตามที่บุคคลที่สามกําหนด ซึ่งอาจxxxxxxxxxให้ต้องปฏิบัติตาม
7.2.3 อนุญาโตตุลาการ ในปัจจุบันสัญญาทางธุรกิจส่วนใหญ่xxxxxxxxxxxตกลงกันให้มี อนุญาโตตุลาการ เนื่องจากกระบวนการดําเนินไปได้รวดเร็ว มีความxxxxxxxxxเฉพาะต่อข้อพิพาท อีกทั้งการเป็น ความลับของกระบวนอนุญาโตตุลาการก็เป็นข้อxxxxxxxxxxคู่กรณีเห็นประโยชน์ เพราะคู่กรณีอาจไม่ต้องการ เปิดเผยข้อพิพาทหรือข้อเท็จจริงบางอย่างในข้อพิพาทต่อสาธารณชน ทั้งนี้ ผลของคําxxxxxxxxxมีผลบังคับแก่คู่กรณี ให้ต้องปฏิบัติตาม
ทั้งนี้ ข้อพิจารณาต่อความตกลงในส่วนนี้ที่สําคัญ คือ การเลือก Arbitration rules คือ กฎ xxxxxxx สําหรับการดําเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ซึ่งมีมากมายให้xxxxxxxxxxxเลือกตกลงใช้กัน ทั้งนี้ ใน กรณีที่คู่สัญญาเป็นไทยทั้งหมด xxxx กาตกลงใช้ตามข้อบังคับสํานักงานศาลยุติธรรมว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ สถาบันอนุญาโตตุลาการ หรือ ในระดับที่เป็นxxxx xxxx ICC Rules of Conciliation and Arbitration ของ International Court of Arbitration ที่xxxxใช้กันในประเทศทางยุโรป หรือสัญญาที่มีคู่สัญญาเป็นบริษัท สัญชาติยุโรป เป็นต้น ซึ่งในกรณีการเลือกกระบวนการอนุญาโตตุลาการนอกประเทศ คู่สัญญาต้องพิจารณาเรื่อง ค่าใช้จ่ายเป็นสําคัญด้วย และคู่สัญญาต้องคํานึงxxxxxxตกลงเพื่อจัดสรรภาระค่าใช้จ่ายจาการระงับข้อพิพาทที่ เกิดขึ้น xxxxxxx
xxxมา
กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม. (2559). คู่มือการเจรจาและxxxxxxxxxxxxxxxxxx. สืบค้นจาก