Contract
สรุปกฎหมายค้ำประกัน
จำนอง จำนำ (ตอนที่
๑)
ลักษณะของสัญญาค้ำประกัน
“มาตรา
๖๘๐ อันว่าค้ำประกันนั้น
คือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง
เรียกว่า ผู้ค้ำประกัน
ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่ง
เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
อนึ่ง
สัญญาค้ำประกันนั้น
ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ
ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาxxxxxx”
ลักษณะสำคัญของสัญญาค้ำประกันมี
๓ ประการคือ
๑.
ผู้ค้ำประกันต้องเป็นบุคคลภายนอก
๒.
ต้องมีหนี้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้
ข้อสังเกต
(๒.๑)
หนี้ประธานที่จะมีการค้ำประกันได้จะเกิดจากมูลหนี้สัญญาหรือละเมิดก็ได้
(๒.๒)
นายประกันทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยทำให้นายประกันมีหน้าที่ต้องนำตัวบุคคลดังกล่าวส่งให้แก่พนักงานสอบสวนหรือศาล
หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ตาม
ป.วิ.อ.
ไม่ใช่หนี้ทางแพ่ง
(๒.๓)
ผู้ค้ำประกันการชำระหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่การค้ำประกันตาม
ป.วิ.พ.
เมื่อศาลบังคับ
ผู้ค้ำประกันจะอ้างxxxxxตามมาตรา
๖๘๘ และ ๖๙๐ xxxxxx
เมื่อผู้ค้ำประกันชำระหนี้ไปแล้ว
จะต้องรับช่วงxxxxxxxxxxxxxตามมาตรา
๒๒๙ (๓)
ไม่ใช่xxxxxxxxตามมาตรา
๖๙๓
๓.
ต้องเป็นเรื่องผูกพันตนต่อเจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
ข้อสังเกต
(๓.๑)
การให้คำรับรองลอยๆ
โดยมิได้ระบุว่าจะชำระหนี้ไม่ใช่สัญญาค้ำประกัน
(๓.๒)
ผู้รับอาวัลตั๋วเงินไม่ใช่ผู้ค้ำประกันตามมาตรานี้
สัญญาค้ำประกันไม่มีแบบแต่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
๑.
สัญญาค้ำประกันจะทำเป็นหนังสือหรือตกลงกันด้วยวาจาก็ได้
แต่ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกัน
จะฟ้องบังคับคดีxxxxxx
๒.
หลักฐานเป็นหนังสือไม่จำเป็นต้องทำไว้ต่อเจ้าหนี้โดยตรงจะทำไว้ต่อบุคคลอื่นโดยไม่มีxxxxxจะให้ไว้เป็นหลักฐานก็ได้
ไม่จำเป็นต้องทำในรูปแบบสัญญา
จะเขียนหรือเซ็นโดยใช้ชื่อจริงหรือชื่อเล่นก็ได้เป็นxxxxเดียวกับลายมือชื่อผู้กู้ในเรื่องกู้ยืม
๓.
ศาลxxxxxxเพราะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือฟ้องใหม่xxxxxx
หนี้ที่ค้ำประกัน
(หนี้ประธาน)
ต้องเป็นหนี้xxxxxxxxxx
๑.
หนี้ประธานไม่xxxxxxxเพราะวัตถุประสงค์ของสัญญาต้องห้ามตามกฎหมาย
๒.
หนี้ประธานไม่xxxxxxxเพราะสัญญาไม่ทำตามแบบที่กฎหมายกำหนด
๓.
หนี้ประธานxxxxxxxแต่ขาดหลักฐานเป็นหนังสือ
ข้อสังเกต
กู้ยืมเงินโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
แม้เจ้าหนี้จะฟ้องผู้กู้xxxxxx
แต่ถ้าการค้ำประกันxxxxxxxxกู้นั้นมีหลักฐานเป็นหนังสือ
เจ้าหนี้ก็มีxxxxxxxxxผู้ค้ำประกันได้
แต่ผู้ค้ำประกันมีxxxxxตามมาตรา
๖๙๔
ที่จะยกข้อต่อสู้ของผู้กู้ซึ่งเป็นลูกหนี้ขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้
๔.
ค้ำประกันหนี้ในxxxxxหรือหนี้มีเงื่อนไขได้
ข้อสังเกต
หนี้มีเงื่อนไข คือ
หนี้xxxxxxxมีxxxxxxxxxxxxxxxxxxซึ่งหนี้นั้นจะxxxxxxxเมื่อเงื่อนไขนั้นสำเร็จ
๕.
หนี้ประธานเกิดขึ้นจากxxxxxxxxxxxเป็นโมฆียะ
ข้อสังเกต
หนี้ที่เป็นโมฆียะถ้ายังไม่มีการบอกล้าง
หนี้ประธานจึงเป็นหนี้ที่xxxxxxxxxxอาจค้ำประกันได้แล้ว
ถ้าต่อมามีการบอกล้าง
ผู้ค้ำประกันจะรับผิดเพียงใดต้องพิจารณาตามมาตรา
๖๘๑ วรรคสาม กล่าวคือ
ถ้าผู้ค้ำประกันรู้ถึงเหตุแห่งการเป็นโมฆียะนั้น
การค้ำประกันก็ยังxxxxxxxxx
ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดxxxxxxxx
แต่ถ้าไม่รู้ก็ไม่ต้องรับผิด
ผู้ค้ำประกันหลายคน
“มาตรา
๖๘๒ วรรคสอง
ถ้าบุคคลหลายคนยอมตนเข้าเป็นผู้ค้ำประกันในหนี้รายเดียวกันxxxxท่านว่าผู้ค้ำประกันเหล่านั้นมีความรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน
แม้ถึงว่าจะมิได้เข้ารับค้ำประกันรวมกัน”
คนหลายคนไปทำการค้ำประกันหนี้รายเดียวกัน
แม้จะทำสัญญาค้ำประกันต่างวันและเวลากันโดยxxxxxxเกี่ยวข้องกันเลยก็xxxxxxเป็นผู้ค้ำประกันร่วมกัน
ดังนั้น
ถ้ามีการทำสัญญาค้ำประกันหนี้รายหนึ่งแล้วต่อมาผู้ค้ำประกันอีกคนหนึ่งเข้าทำสัญญาค้ำประกันหนี้รายเดียวกันนั้น
ถ้าไม่มีข้อตกลงไว้เป็นพิเศษหรือไม่มีข้อเท็จจริงที่แสดงว่าเจ้าหนี้ยอมให้ผู้ค้ำประกันคนเดิมพ้นความรับผิดxxxxxxxxค้ำประกัน
ผู้ค้ำประกันเดิมไม่พ้นความรับผิด
ผลของการค้ำประกันหลายคน
๑.
ผู้ค้ำประกันหลายคนต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้อย่างลูกหนี้ร่วม
๒.
เจ้าหนี้ปลดหนี้ให้ผู้ค้ำประกันคนหนึ่งย่อมเป็นประโยชน์แก่ผู้ค้ำประกันคนอื่นเพียงเท่าส่วนที่ผู้ค้ำประกันรายนั้นต้องรับผิด
ตัวอย่าง
ลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้อยู่
๓,๐๐๐
บาท โดยมีxx xxx ขาว เป็นผู้ค้ำประกัน
ถ้าเจ้าหนี้ปลดหนี้ให้แก่นายขาวเป็นเงิน
๑,๐๐๐
บาท ในระหว่าง แดง ดำ ขาว
ต้องรับผิดคนละ ๑,๐๐๐
บาท เมื่อเจ้าหนี้ปลดหนี้ให้แก่ขาว
หนี้ส่วนxxxxxxจะต้องรับผิด
๑,๐๐๐
บาท จึงตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้
ดังนั้น xxxxxxxxยังxxต้องร่วมกันรับผิดในหนี้จำนวน
๒,๐๐๐
บาท
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
๑.
ความรับผิดของผู้ค้ำประกันเป็นไปxxxxxxxxค้ำประกัน
กล่าวคือ
ผู้ค้ำประกันจะทำสัญญาค้ำประกันจำกัดความรับผิดของตนไว้จำนวนเท่าใดก็ได้
๒.
ถ้าไม่จำกัดความรับผิดไว้
ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดอย่างไม่มีจำกัดซึ่งรวมไปถึงดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทนซึ่งลูกหนี้ค้างชำระ
ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้น
๓.
ตัวอย่างความรับผิดของผู้ค้ำประกันบางประเภท
๓.๑
ค้ำประกันสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี
xxxxxxไปค้ำประกันหนี้เบิกเงินเกินบัญชีหลังจากที่เขากู้เบิกเงินเกินบัญชีไปแล้วหรือไปค้ำประกันเมื่อลูกหนี้กู้เบิกเงินเกินบัญชีหลังจากที่เขากู้เบิกเงินเกินบัญชีxxxxxxxxฉบับที่
๒ หรือ ๓
xxxxxxต้องรับผิดในหนี้ค้างชำระในบัญชีก่อนทำสัญญาค้ำประกันด้วย
ในกรณีที่สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีระบุให้ธนาคารมีxxxxxปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยได้
และสัญญาค้ำประกันไม่มีข้อตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
ผู้ค้ำประกันก็ต้องรับผิดในดอกเบี้ยตามอัตราที่xxxxxนั้นด้วย
แต่เมื่อสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีนั้นสิ้นสุดแล้วธนาคารเจ้าหนี้จะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยxxxxxx
๓.๒
ค้ำประกันหนี้xxxxxxxxขายลดเช็ค
นายดำค้ำประกันหนี้xxxxxxxxขายลดเช็ค
ต่อมาลูกหนี้ไม่นำเช็คของตนไปขายลดเช็คให้แก่ธนาคารกลับเอาเช็คของบริษัทอื่นมาขาย
ผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดxxxxxxxxขายลดเช็คหรือไม่
(สัญญาขายลดเช็คฉบับหนึ่งแต่เอาเช็คอีกฉบับมาให้)
กรณีนี้ต้องพิจารณาข้อความในสัญญาค้ำประกันว่ามีการระบุว่าค้ำประกันสัญญาขายลดเช็คฉบับไหนโดยเฉพาะหรือไม่
หากมมีข้อความxxxxxxxxxว่ามีการค้ำประกันหนี้xxxxxxxxขายลดเช็คใดโดยเฉพาะ
ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดแม้ลูกหนี้จะนำเช็คอื่นไปขายลดเช็คก็ตาม
๓.๓
ค้ำประกันลูกหนี้เข้าทำงาน
ลูกจ้างคนที่มีการค้ำประกันนั้นมีหน้าที่ทำงานอะไรให้นายจ้าง
ถ้ามีการทำความเสียหายแก่นายจ้างขณะที่ลูกจ้างทำการนอกเหนือหรือไปจากหน้าที่ของลูกจ้างแล้ว
ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิด
๓.๔
ค้ำประกันผู้รับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ
รับทุนจากองค์กรระหว่างประเทศโดยตรงและทุนนั้นxxxxxxเกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการไทยเลย
แม้ผู้รับทุนจะทำสัญญากับหน่วยราชการไทยว่าจะชดใช้ทุน
ผู้รับทุนก็ไม่ต้องรับผิดในส่วนนี้
ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดด้วย
๔.
ความมรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียม
มาตรา
๖๘๔
ผู้ค้ำประกันย่อมรับผิดเพื่อค่าฤชาธรรมเนียมความซึ่งลูกหนี้จะต้องใช้ให้แก่เจ้าหนี้
แต่ถ้าโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้เรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้นั้นก่อนxxxx
ท่านว่าผู้ค้ำประกันหาต้องรับผิดเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมxxxxนั้นไม่
๕.
ความรับผิดของผู้ค้ำประกันที่ยอมรับผิดร่วมกับลูกหนี้
“มาตรา
๖๙๑ ถ้าผู้ค้ำประกันต้องรับผิดร่วมกันกับลูกหนี้
ท่านว่าผู้ค้ำประกันย่อมไม่มีxxxxxดั่งกล่าวไว้ในมาตรา
๖๘๘,
๖๘๙
และ
๖๙๐”
ความรับผิดของผู้ค้ำประกันที่ยอมรับผิดร่วมกับลูกหนี้แตกต่างกับความรับผิดของลูกหนี้ร่วม
เนื่องจากผู้ค้ำประกันประเภทนี้ยังเป็นผู้ค้ำประกันไม่ใช่ลูกหนี้ร่วมอย่างแท้จริง
ความรับผิดจึงต่างกันคือ
๕.๑
ลูกหนี้ร่วมจะไม่มีxxxxxเกี่ยงตามมาตรา
๖๘๘-๖๙๐
แต่ผู้ค้ำประกันที่ยอมรับผิดร่วมกับลูกหนี้มีxxxxx
๕.๒
ในกรณีที่ลูกหนี้ร่วมคนหนึ่งรับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้มีผลให้อายุความสะดุดหยุดลงจะมีผลเป็นโทษโดยเฉพาะแต่ลูกหนี้คนนั้น
ไม่มีผลไปถึงลูกหนี้คนอื่นด้วยตามมาตรา
๒๙๕
แต่ในกรณีผู้ค้ำประกันที่ยอมรับผิดร่วมกับลูกหนี้เมื่อลูกหนี้ชั้นต้นไปรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
เป็นโทษแก่ผู้ค้ำประกันด้วยตามมาตรา
๖๙๒ (ดูคำพิพากษาxxxxxxx
๔๖/๒๕๓๘)
๓.
ลูกหนี้ร่วมคนหนึ่งใช้หนี้ไปแล้วจะไม่xxxxxxxxxxxxxxจากลูกหนี้ร่วมคนอื่นให้เต็มจำนวนได้
แต่ผู้ค้ำประกันที่ยอมรับผิดร่วมกับลูกหนี้ยังมีxxxxxเหมือนผู้ค้ำประกันโดยทั่วไปที่จะxxxxxxxxเอาจากลูกหนี้ได้เต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ยและเพื่อการที่ต้องเสียหายไปเพราะการค้ำประกัน
ผลของสัญญาค้ำประกันก่อนการชำระหนี้
๑.
ผู้ค้ำประกันจะต้องชำระหนี้เมื่อ
๑.๑
ต้องชำระหนี้เมื่อลูกหนี้ผิดนัด
ซึ่งเหตุxxxxxxxxxลูกหนี้ผิดนัด
ได้แก่
(๑)
ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว
และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้xxxxxxxลูกหนี้แล้ว
ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้xxxx
ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว
(มาตรา
๒๐๔ วรรคแรก)
(๒)
ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน
และลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ตามกำหนดxxxx
ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิxxxต้องเตือนเลย
(มาตรา
๒๐๔ วรรคสอง)
(๓)
วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้องxxxxxxxxล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้
ซึ่งได้กำหนดเวลาลงไว้อาจคำนวณนับได้โดยปฏิทินนับแต่xxxxxxได้xxxxxxxx
(มาตรา
๒๐๔ วรรคสอง ตอนท้าย)
(๔)
กรณีหนี้อันเกิดจากมูลหนี้ละเมิด
ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดนับแต่เวลาที่ทำละเมิด
๑.๒
ผู้ค้ำประกันยังไม่ต้องชำระหนี้ก่อนถึงเวลากำหนดที่จะชำระ
แม้ลูกหนี้xxxxxxถือประโยชน์แห่งxxxxxxxxxx
กรณีที่ลูกหนี้xxxxxxถือเอาประโยชน์แห่งxxxxxxxxxxมีอยู่
๔ กรณี คือ (มาตรา
๑๙๓)
(๑)
ลูกหนี้ถูกศาลสั่งxxxxxxxxxxxxxเด็ดขาดตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย
(๒)
ลูกหนี้ไม่ให้ประกันในเมื่อจำต้องให้
(๓)
ลูกหนี้ได้ทำลาย
หรือทำให้ลดน้อยถอยลงซึ่งประกันอันได้ให้ไว้
(๔)
ลูกหนี้นำทรัพย์สินของบุคคลอื่นมาให้เป็นประกันโดยเจ้าของทรัพย์สินนั้นมิได้ยินยอมด้วย
๒.
xxxxxของผู้ค้ำประกันที่จะเกี่ยง
๒.๑
ขอให้เรียกลูกหนี้ชำระหนี้ก่อน
มาตรา
๖๘๘ เมื่อเจ้าหนี้ทวงให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้
ผู้ค้ำประกันจะขอให้เรียกลูกหนี้ชำระก่อนก็ได้
เว้นแต่ลูกหนี้จะถูกศาลพิพากษาให้เป็นคนล้มละลายเสียแล้ว
หรือไม่ปรากฏว่าลูกหนี้ไปอยู่แห่งใดในพระราชอาณาเขต
๒.๒
ขอให้ชำระหนี้จากทรัพย์สินของลุกหนี้ก่อน
มาตรา
๖๘๙
ถึงแม้จะได้เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดั่งกล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม
ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่าลูกหนี้นั้นมีทางที่จะชำระหนี้ได้
และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากxxxx
ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้รายนั้นเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
ข้อสังเกต
(๑)
การใช้xxxxxเกี่ยงตามมาตรา
๖๘๙ ต้องเป็นกรณีxxxxxxxลูกหนี้และผู้ค้ำประกันถูกฟ้องคดีเดียวกัน
ถ้าเจ้าหนี้ฟ้องผู้ค้ำประกันคนเดียว
ไม่xxxxxxxลูกหนี้ด้วย
ผู้ค้ำประกันจะเกี่ยงให้ไปบังคับชำระหนี้จากลูกหนี้ก่อนxxxxxxเพราะลูกหนี้เป้นบุคคลภายนอกคดี
(๒)
กรณีที่ผู้ค้ำประกันอ้างว่าลูกหนี้ซึ่งถูกฟ้องในคดีเดียวกับผู้ค้ำประกันมีทางที่จะชำระหนี้ได้และการบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ไม่เป็นการยากนั้น
ผู้ค้ำประกันมีหน้าที่นำสืบ
(๓)
คำว่า
“ลูกหนี้มีทางที่จะชำระหนี้ได้”
หมายความว่า
มีทางที่จะชำระหนี้บางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้
๒.๓
xxxxxขอให้บังคับชำระหนี้จากทรัพย์ซึ่งเป็นหลักประกันก่อน
มาตรา
๖๙๐ ถ้าเจ้าหนี้มีทรัพย์ของลูกหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันxxxx
เมื่อผู้ค้ำประกันร้องขอ
ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องให้ชำระหนี้เอาจากทรัพย์ซึ่งเป็นประกันนั้นก่อน
ข้อสังเกต
(๑)
ทรัพย์ที่เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันนั้น
จะต้องเป็นทรัพย์ของลูกหนี้
ถ้าเป็นทรัพย์ของคนอื่นไม่นำมาตรานี้มาใช้บังคับ
(๒)
การยึดถือไว้เป็นประกันนี้จะมีขึ้นก่อนหรือหลังการค้ำประกันก็ได้
ยึดทรัพย์ของลูกหนี้ไว้เป็นประกันหนี้รายใดรายหนึ่งก็ใช้เฉพาะหนี้รายนั้นรายเดียว
ผู้ค้ำประกันจะเกี่ยงให้เจ้าหนี้ไปเอาชำระหนี้จากทรัพย์ของลูกหนี้ซึ่งเป็นประกันหนี้รายอื่นxxxxxx
๓.
อายุความหนี้ประธานสะดุดหยุดลงเป็นโทษแก่ผู้ค้ำประกันด้วย
(มาตรา
๖๙๒)
เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
(มาตรา
๑๙๓/๑๔)
(๑)
ลูกหนี้รับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้ตามxxxxxเรียกร้องโดยทำเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ให้
ชำระหนี้ให้บางส่วน ชำระดอกเบี้ย
ให้ประกัน หรือกระทำการใดๆ
อันปราศจากข้อสงสัยแสดงให้เห็นเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพหนี้ตามxxxxxเรียกร้อง
(๒)
เจ้าหนี้xxxxxxxคดีเพื่อตั้งหลักฐานxxxxxเรียกร้องหรือเพื่อให้ชำระหนี้
(๓)
เจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
(๔)
เจ้าหนี้ได้มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการพิจารณา
(๕)
เจ้าหนี้ได้กระทำการอื่นใดxxxxxผลเป็นอย่างเดียวกันกับการฟ้องคดี
ผลของอายุความสะดุดหยุดลง
มาตรา
๑๙๓/๑๕
เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้ว
ระยะเวลาที่ล่วงไปก่อนนั้นไม่นับเข้าในอายุความ
เมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงสิ้นสุดเวลาใด
ให้เริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่เวลานั้น
ข้อสังเกต
(๑)
ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงย่อมเป็นโทษแก่ผู้ค้ำประกันตามมาตรา
๖๙๒ ฟ้องของเจ้าหนี้สำหรับผู้ค้ำประกันจึงไม่ขาดอายุความ
(๒)
การรับสภาพหนี้ด้วยการชำระนี้บางส่วนที่จะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
ต้องกระทำก่อนที่หนี้จะขาดอายุความ
(๓)
กรณีที่ลูกหนี้ตาย
เจ้าหนี้จะต้องใช้xxxxxเรียกร้องภายใน
๑ ปี มิฉะนั้นขาดอายุความตามมาตรา
๑๗๕๔ ถ้ามีการทำให้อายุความ
๑ ปี สะดุดหยุดลง
ให้เริ่มนับอายุความใหม่โดยใช้อายุความ
๑๐ ปี ตามมูลหนี้เดิม
(๔)
ในกรณีที่ลูกหนี้หลายราย
ผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันหนี้นั้นทุกราย
ถ้าหนี้รายใดอายุความสะดุดหยุดลงเพราะการกระทำของลูกหนี้
การสะดุดหยุดลงนั้นก็มีผลเฉพาะหนี้รายนั้นเท่านั้น
ผู้ค้ำประกันทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
ผู้ค้ำประกันเป็นผู้ที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
การสะดุดหยุดลงนี้มีผลเป็นโทษแก่ผู้ค้ำประกันเท่านั้น
ไม่มีผลไปถึงลูกหนี้ชั้นต้น
ลูกหนี้สละประโยชน์แห่งอายุความ
(ไม่ใช่การรับสภาพหนี้)
เป็นกรณีที่หลังจากอายุความสิ้นสุดลงแล้วลูกหนี้ไปสละประโยชน์
ดังนั้น การที่ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพความผิด
(เป็นการสละประโยชน์แห่งอายุความตามมาตรา
๑๙๓/๒๔
ซึ่งต่างกับการรับสภาพหนี้ตามมาตรา
๑๙๓/๑๔
(๑)
ที่ต้องทำในขณะที่อายุความยังไม่สิ้นสุด)
หลังจากหนี้ขาดอายุความแล้วเป็นการละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความ
แต่การที่ลูกหนี้ชำระหนี้บางส่วนหลังจากxxxxxเรียกร้องขาดอายุความแล้วเพียงแต่ทำให้ลูกหนี้เรียกเงินจำนวนดังกล่าวคืนxxxxxxตามมาตรา
๑๙๓/๒๘
วรรคแรก เท่านั้น
ไม่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา
๑๙๓/๑๔
(๑)
และไม่ใช่การณีที่ลูกหนี้สละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความตามมาตรา
๑๙๓/๒๔
การสละประโยชน์แห่งอายุความมีผลเสียหายเฉพาะแก่ลูกหนี้เท่านั้น
ไม่กระทบถึงxxxxxของผู้ค้ำประกัน
ดังนั้น แม้ลูกหนี้ชั้นต้นสละประโยชน์แห่งอายุความ
ผู้ค้ำประกันยังมีxxxxxยกอายุความขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้
และข้อต่อสู้นี้เป็นข้อต่อสู้ของผู้ค้ำประกันเอง
แม้ผู้ค้ำประกันxxxxxxxxยกขึ้นต่อสู้ก็ไม่เสียxxxxxxxxxxxxxตามมาตรา
๖๙๕
ตัวอย่าง
xxxxxxเป็นผู้ค้ำประกันxxxxxxxxยอมรับสภาพความผิดของนายดำ
เป็นการค้ำประกันหนี้xxxxxxxxฉบับใหม่หลังจากหนี้ตามเช็คขาดอายุความแล้ว
(ไม่มีผลไปถึงผู้ค้ำประกันเดิมของลูกหนี้)
xxxxxxxxxต้องรับผิด
อายุความฟ้องผู้ค้ำประกันและอายุความxxxxxxxx
อายุความฟ้องผู้ค้ำประกัน
อายุความฟ้องผู้ค้ำประกันใช้อายุความ
๑๐ ปี ตามมาตรา ๑๙๓/๓๐
แต่แม้เจ้าหนี้มีxxxxxจะฟ้องผู้ค้ำประกันภายใน
๑๐ ปี ก็ตาม
แต่ผู้ค้ำประกันยังมีxxxxxยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้ตามมาตรา
๖๙๔ ดังนั้น ถ้าหนี้ประธานมีอายุความน้อยกว่า
๑๐ ปี xxxx
หนี้ประธานเป็นหนี้ที่ผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ฟ้องเรียกค่าเช่ามีอายุความ
๒ ปี ตามมาตรา ๑๙๓/๓๔
(๖)
ผู้ค้ำประกันการชำระค่าเช่ามีxxxxxยกอายุความ
๒ ปี
ขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้
แต่การที่ลูกจ้างทำละเมิดต่อนายจ้างเกี่ยวกับการทำงานxxxxxxxxxxxxแรงงานนอกจากจะเป็นละเมิดแล้วยังเป็นการผิดสัญญาxxxxด้วย
xxxxxเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายในกรณีนี้อายุความ
๑๐ ปี ตามมาตรา ๑๙๓/๓๐
ผู้ค้ำประกันจะยกอายุความ
๑ ปี ตามมาตรา ๔๔๘ วรรคหนึ่ง
มาต่อสู้คดีหาxxxxxx
ในกรณีที่ผู้ค้ำประกันตาย
เจ้าหนี้ต้องฟ้องxxxxxของผู้ค้ำประกันให้รับผิดxxxxxxxxค้ำประกันภายในอายุความ
๑ ปี ตามมาตรา
๑๗๕๔
อายุความที่ผู้ค้ำประกันใช้xxxxxxxxxxxxx
ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้แล้ว
ผู้ค้ำประกันมีxxxxxxxxxxxxxเอาจากลูกหนี้ได้ภายในอายุความ
๑๐ ปี
โดยไม่ใช่อายุความตามมูลหนี้ประธาน
ผลภายหลังการชำระหนี้
๑.
xxxxxxxxxxxxxและรับช่วงxxxxx
มาตรา
๖๙๓ ผู้ค้ำประกันซึ่งได้ชำระหนี้แล้ว
ย่อมมีxxxxxxxxจะxxxxxxxxเอาจากลูกหนี้เพื่อต้นเงินกับดอกเบี้ยและเพื่อการที่ต้องสูญหายหรือเสียหายไปอย่างใด
ๆ เพราะการค้ำประกันนั้น
อนึ่ง
ผู้ค้ำประกันย่อมเข้ารับช่วงxxxxxของเจ้าหนี้บรรดามีเหนือลูกหนี้ด้วย
๒.
xxxxxยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้
มาตรา
๖๙๔ นอกจากข้อต่อสู้ซึ่งผู้ค้ำประกันมีต่อเจ้าหนี้นั้น
ท่านว่าผู้ค้ำประกันยังอาจยกข้อต่อสู้ทั้งหลายซึ่งลูกหนี้มีต่อเจ้าหนี้ขึ้นต่อสู้ได้ด้วย
ข้อสังเกต
(๑)
ข้อต่อสู้ตามมาตรา
๖๙๔ เป็นข้อต่อสู้ของลูกหนี้
ถ้าเป็นข้อต่อสู้ของผู้ค้ำประกันเอง
ผู้ค้ำประกันก็มีxxxxxยกขึ้นต่อสู้ได้อยู่แล้ว
(๒)
ข้อต่อสู้ของxxxxxxx
xxxx ลูกหนี้xxxxxxผิดสัญญาเจ้าหนี้ต่างหากเป็นฝ่ายผิดสัญญา
การชำระหนี้เป็นการxxxxxxxx
ลูกหนี้xxxxxxทำละเมิด
ลูกหนี้ชำระหนี้แล้วหนี้ระงับไปแล้วหรือขาดอายุความ
ตัวอย่าง
xxxxxxทำสัญญาค้ำประกันกู้เบิกเงินเกินบัญชี
โดยระบุว่าxxxxxxยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมและสละxxxxxในข้อต่อสู้ต่างๆ
ในฐานะผู้ค้ำประกันที่จะxxxxxตามกฎหมาย
ก็ไม่ทำให้ผู้ค้ำประกันเปลี่ยนฐานะเป็นxxxxxxxxxxxxxxxกู้เบิกเงินเกินบัญชีหรือหมดxxxxxxxxจะยกข้อต่อสู้ของxxxxxxxxxxมีต่อเจ้าหนี้ขึ้นต่อสู้ด้วย
เมื่อลูกหนี้ชั้นต้นหลุดพ้นจากความรับผิดเนื่องจากหนี้ขาดอายุความตามมาตรา
๑๒๗๒ xxxxxxย่อมหลุดพ้นความรับผิดด้วย
(๓)
อายุความที่เจ้าหนี้จะฟ้องผู้ค้ำประกันxxxxxxxxค้ำประกันมีกำหนด
๑๐ ปี ตามมาตรา ๑๙๓/๓๐
ซึ่งเป็นข้อต่อสู้ของผู้ค้ำประกัน
ถ้าผู้ค้ำประกันไม่ยกขึ้นต่อสู้ไม่เสียxxxxxxxxxxxxxลูกหนี้
(๔)
อายุความที่เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้และผู้ค้ำประกันตามหนี้ประธาน
เป็นข้อต่อสู้ของxxxxxxxxxxผู้ค้ำประกันยกขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้
ถ้าผู้ค้ำประกันxxxxxxxxยกขึ้นต่อสู้
ผู้ค้ำประกันจะสิ้นxxxxxxxxxxxxxตามมาตรา
๖๙๕
แต่ถ้าxxxxxxxxxxลูกหนี้ได้สละประโยชน์แห่งอายุความไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายแล้ว
ข้อต่อสู้ว่าหนี้ปรานขาดอายุความจะกลายเป็นข้อต่อสู้ของผู้ค้ำประกันไม่ใช่ข้อต่อสู้ของลูกหนี้อีกต่อไป
ผู้ค้ำประกันจะยกขึ้นต่อสู้หรือxxxxxxxx
ถ้าไม่ยกขึ้นต่อสู้ก็ไม่เสียxxxxxxxxxxxxxลูกหนี้ตามมาตรา
๖๙๕
(๕)
ผู้ค้ำประกันทำสัญญากับเจ้าหนี้ว่าจะไม่ยกอายุความสัญญาค้ำประกันขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้
ข้อสัญญานี้เป็นโมฆะตามมาตรา
๑๕๐ ประกอบมาตรา ๑๙๓/๑๑
ตัวอย่าง
ผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันว่าแม้ลูกหนี้ตายเกิน
๑ ปี ผู้ค้ำประกันก็ยังxxรับใช้ต้นเงินกู้และดอกเบี้ยแทน
สัญญานี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและไม่ใช่เป็นการขยายอายุความ
ผ๔ค้ำประกันต้องรับผิดxxxxxxxx
(๖)
กรณีหนี้ประธานเป็นโมฆียะถ้าลูกหนี้ยังไม่ใช่xxxxxบอกล้างผู้ค้ำประกันจะบอกล้างโมฆียะกรรมเองxxxxxx
แต่ถ้าหากผู้ค้ำประกันได้ทำสัญญาค้ำประกันในขณะที่รู้ว่าผู้นั้นสำคัญผิดหรือไร้ความxxxxxx
xxxลูกหนี้ได้บอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว
ผู้ค้ำประกันก็ไม่มีxxxxxยกเหตุดังกล่าวขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้
๓.
ผู้ค้ำประกันสิ้นxxxxxxxxxxxxx
เหตุที่ทำให้ผู้ค้ำประกันสิ้นxxxxxxxxxxxxxเอาจากลูกหนี้ชั้นต้นมี
๒ กรณี ดังนี้
๓.๑
ผู้ค้ำประกันxxxxxxxxยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้
(มาตรา
๖๙๕)
ผู้ค้ำประกันซึ่งxxxxxxxxยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้นั้น
ย่อมสิ้นxxxxxxxxจะxxxxxxxxเอาแก่ลูกหนี้เพียงเท่าxxxxxxยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้
เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า
ตนมิได้รู้ว่ามีข้อต่อสู้xxxxนั้น
และxxxxxxxxxนั้นมิได้เป็นเพราะความผิดของตนด้วย
กรณีข้างต้นเป็นเรื่องผู้ค้ำประกันเข้าชำระหนี้ซ้ำโดยxxxxxxยกอายุความของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้
ถ้าได้ชำระหนี้ไปโดยไม่รู้เพราะมิใช่ความผิดของผู้ค้ำประกัน
ผู้ค้ำประกันมีxxxxxดังนี้
(๑)
มีxxxxxxxxxxxxxเอาจากลูกหนี้ตามมาตรา
๖๙๓
(๒)
มีxxxxxเรียกคืนฐานลาภมิควรได้จากเจ้าหนี้ตามมาตรา
๔๐๖
ข้อxxxxxx
xxxผู้ค้ำประกันรู้ว่าลูกหนี้ชำระหนี้ไปแล้วหรือไม่รู้แต่เพราะความผิดของผู้ค้ำประกันก็สิ้นxxxxxxxxxxxxxเอาจากลูกหนี้เพราะถูกตัดxxxxxตามมาตรา
๖๙๕ และไม่มีxxxxxเรียกคืนฐานลาภมิควรได้
เพราะเป็นการชำระหนี้โดยรู้ว่าตนไม่มีความxxxxxxxxxจะต้องชำระตามมาตรา
๔๐๗
๓.๒
ผู้ค้ำประกันชำระหนี้โดยมิได้xxxxxxxxลูกหนี้และลูกหนี้ไปชำระหนี้ซ้ำ
มาตรา
๖๙๖ ผู้ค้ำประกันไม่มีxxxxxจะxxxxxxxxเอาแก่ลูกหนี้ได้
ถ้าว่าตนได้ชำระหนี้แทนไปโดยมิได้บอกลูกหนี้
และลูกหนี้ยังมิรู้ความมาชำระหนี้ซ้ำอีก
ในกรณีxxxxว่านี้
ผู้ค้ำประกันก็ได้แต่เพียงจะฟ้องเจ้าหนี้เพื่อคืนลาภมิควรได้เท่านั้น
๔.
เจ้าหนี้ทำให้ผู้ค้ำประกันxxxxxxรับช่วงxxxxxxxx
มาตรา
๖๙๗ ถ้าเพราะการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งของเจ้าหนี้เอง
เป็นเหตุให้ผู้
ค้ำประกันxxxxxxเข้ารับช่วงได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในxxxxxxxxx
จำนองก็ดี จำนำก็ดี
และบุริมสิทธิอันได้ให้ไว้แก่เจ้าหนี้แต่ก่อนหรือในขณะทำสัญญาค้ำประกันเพื่อชำระหนี้นั้น
ท่านว่าผู้ค้ำประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดเพียงเท่าที่ตนต้องเสียหายเพราะการนั้น
ข้อสังเกต
(๑)
กู้เงินแล้วมอบทะเบียนเรือหรือทะเบียนรถหรือโฉนดที่ดินให้เจ้าหนี้ยึดไว้เป็นประกัน
ต่อมาเจ้าหนี้คืนทะเบียนเรือหรือทะเบียนรถหรือโฉนดที่เป็นหลักประกันให้ลูกหนี้ไป
อย่างนี้ผู้ค้ำประกันจะอ้างว่าหลุดพ้นความรับผิดไปตามราคาเรือหรือรถหรือที่ดินxxxxxx
เพราะไม่ใช่xxxxxตามมาตรา
๖๙๗
(เพราะเพียงแต่มอบทะเบียนไว้ให้ยึดถือไว้ไม่ใช่xxxxxxxxมีอยู่เหนือทรัพย์สิน)
(๒)
สิทธิยึดหน่วง
xxxxxจำนอง xxxxxจำนำ
หรือxxxxxxxxxxxxxจะเข้ามาตรา
๖๙๗ จะต้องมีการให้ไว้ก่อนหรือขณะทำสัญญาค้ำประกัน
ถ้ามีการทำสัญญาค้ำประกันก่อน
ต่อมาxxxxxxxxxxxxxxxมาจำนองแก่เจ้าหนี้
ดังนี้
แม้ต่อมาเจ้าหนี้ปลดจำนองให้แก่ลูกหนี้กรณีไม่เข้ามาตรา
๖๙๗ ผู้ค้ำประกันxxxxxxxxxxความรับผิด
(๓)
ทรัพย์ที่เป็นวัตถุแห่งxxxxxตามมาตรา
๖๙๓ และ 000 xxxจำเป็นจะต้องเป็นของลูกหนี้
(๔)
มาตรา
๖๙๗
ไม่ใช่บทบัญญัติอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมxxxxxของประชาชน
ผู้ค้ำประกันและเจ้าหนี้อาจจะตกลงกันเป็นอย่างอื่นได้
๕.
เมื่อบังคับxxxxxxxxค้ำประกันแล้วเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ไม่ครบลูกหนี้ต้องรับผิดในส่วนที่เหลือ
มาตรา
๖๘๕ ถ้าเมื่อบังคับxxxxxxxxค้ำประกันนั้น
ผู้ค้ำประกันไม่ชำระหนี้ทั้งหมดของลูกหนี้
รวมทั้งดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทน
และอุปกรณ์ด้วยxxxx
หนี้xxxxxxxxอยู่เท่าใด
ท่านว่าลูกหนี้ยังxxรับผิดต่อเจ้าหนี้ในส่วนที่เหลือนั้น
ความระงับสิ้นแห่งสัญญาค้ำประกัน
๑.
หนี้ของลูกหนี้ระงับ
มาตรา
๖๙๘
อันผู้ค้ำประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดในขณะเมื่อหนี้ของลูกหนี้ระงับสิ้นไปไม่ว่าเพราะเหตุใด
ๆ
๑.๑
เหตุที่ทำให้หนี้ระงับ
หนี้ของลูกหนี้ระงับเมื่อชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว
ปลดหนี้ xxxxxxxxxxxx
แปลงหนี้ใหม่ หรือหนี้เกลื่อนกลืนกัน
ถ้าหนี้ประธานระงับ
ผู้ค้ำประกันก็หลุดพ้นจากความรับผิด
(มีกรณีที่ไม่ใช่เรื่องหนี้ประธานระงับ
แต่เป็นข้อต่อสู้ของxxxxxxxxxxทำให้ไม่ต้องรับผิด
xxxx หนี้ประธานไม่xxxxxxx
หนี้ประธานเป็นโมฆียะ
หนี้กู้ยืมไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
หรือหนี้ขาดอายุความ
๑.๒
ลูกหนี้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับเจ้าหนี้
(๑)
ถ้าเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความนอกศาลหนี้เดิมย่อมระงับไปเกิดเป็นหนี้ใหม่xxxxxxxxประนีประนอมยอมความ
ผู้ค้ำประกันย่อมหลุดพ้นความรับผิดตามมาตรา
๖๙๘
(๒)
ถ้าเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลไม่ใช่การประนีประนอมยอมความตามมาตรา
๘๕๐ แต่เป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลตามมาตรา
๑๓๘ (ป.วิ.พ.)
เพื่อบังคับตามหนี้ที่เจ้าหนี้xxxx
xxxไม่ทำให้หนี้เดิมระงับ
ผู้ค้ำประกันxxxxxxxxxxความรับผิดตามมาตรา
๖๙๘
๑.๓
xxxxxxxxxxxยื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์
ไม่ทำให้เจ้าหนี้เสียxxxxxxxxจะฟ้องผู้ค้ำประกัน
๑.๔
ลูกหนี้ล้มละลาย
กรณีที่ลูกหนี้ถูกศาลพิพากษาให้เป็นคนล้มละลาย
ผู้ค้ำประกันxxxxxxxxxxจากความรับผิด
๑.๕
เจ้าหนี้คืนสัญญาค้ำประกันไม่ทำให้สัญญาค้ำประกันระงับ
ผู้ค้ำประกันยังต้องรับผิดxxxxxxxxค้ำประกัน
๑.๖
เจ้าหนี้หมดxxxxxxxxจะบังคับคดีลูกหนี้
ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิด
๒.
ผู้ค้ำประกันบอกxxxxxxxค้ำประกัน
“มาตรา
๖๙๙
การค้ำประกันเพื่อกิจการเนื่องกันไปหลายคราวไม่มีจำกัดเวลาเป็นคุณแก่เจ้าหนี้นั้น
ท่านว่าผู้ค้ำประกันอาจเลิกเสียเพื่อคราวอันเป็นxxxxxxxx
โดยxxxxxxxxความxxxxxxxนั้นแก่เจ้าหนี้
ในกรณีxxxxนี้
ท่านว่าผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดในกิจการที่ลูกหนี้กระทำลงภายหลังคำxxxxxxxxนั้นได้ไปถึงเจ้าหนี้”
การที่ผู้ค้ำประกันจะบอกเลิกสัญญาตามมาตรานี้
จะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์
ดังนี้
๒.๑
ต้องเป็นกิจการอันเนื่องกันไปหลายคราว
๒.๒
การค้ำประกันนั้นไม่มีจำกัดเวลาเป็นคุณแก่เจ้าหนี้
๒.๓
บอกxxxxxxxค้ำประกันเพื่อคราวอันเป็นxxxxx
ข้อสังเกต
(๑)
คำxxxxxxxxเลิกสัญญาจะทำเป็นหนังสือหรือทำด้วยวาจาก็ได้
(๒)
คำxxxxxxxxมีผลเมื่อไปถึงเจ้าหนี้
โดยเจ้าหนี้จะรู้หรือไม่หรือจะอนุมัติหรือไม่ก็ตาม
ไม่ใช่สาระสำคัญของการบอกเลิกสัญญา
(๓)
การบอกเลิกสัญญาตามมาตรา
๖๙๙ ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
เจ้าหนี้และผู้ค้ำประกันจะทำสัญญไว้เป็นอย่างอื่นว่าห้ามxxxxxxxxหรือจะบอกเลิกสัญญาได้ต้องมีเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ก็ได้
(๔)
ถ้าไม่เข้ากรณีตามมาตรา
๖๙๙ แล้ว ผู้ค้ำประกันไม่มีxxxxxบอกเลิกสัญญาค้ำประกัน
๓.
เจ้าหนี้ผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้
“มาตรา
๗๐๐ ถ้าค้ำประกันหนี้อันจะต้องชำระ
ณ เวลามีกำหนดแน่นอน
และเจ้าหนี้ยอมผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้xxxx
ท่านว่าผู้ค้ำประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิด
แต่ถ้าผู้ค้ำประกันได้ตกลงด้วยในการผ่อนเวลา
ท่านว่าผู้ค้ำประกันหาหลุดพ้นจากความรับผิดไม่”
หลักเกณฑ์ที่ผู้ค้ำประกันจะพ้นความรับผิดเนื่องจากเจ้าหนี้ผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้มี
๒ ประเภท คือ
๓.๑
เป็นหนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้แน่นอน
ถ้าหนี้ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้แน่นอน
แม้เจ้าหนี้ผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้
ผู้ค้ำประกันก็xxxxxxxxxxจากความรับผิด
๓.๒
เจ้าหนี้ผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้
แต่ถ้าผู้ค้ำประกันตกลงด้วยในการผ่อนเวลา
ผู้ค้ำประกันxxxxxxxxxxจากความรับผิด
โดยอาจจะตกลงไว้ในสัญญาค้ำประกันหรือตกลงภายหลังก็ได้
ข้อสังเกต
บทบัญญัติมาตรา ๗๐๐ นี้
ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมxxxxxของประชาชน
เมื่อมีข้อตกลงผิดแผกไปจากมาตรา
๗๐๐ จึงไม่เป็นโมฆะ
มีผลใช้บังคับได้
๔.
xxxxxxxxxxxยอมรับxxxxหนี้จากผู้ค้ำประกัน
“มาตรา
๗๐๑
ผู้ค้ำประกันจะขอชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตั้งแต่เมื่อถึงกำหนดชำระก็ได้
ถ้าxxxxxxxxxxxยอมรับชำระหนี้
ผู้ค้ำประกันก็เป็นอันหลุดพ้นจากความรับผิด”
การที่ลูกหนี้ขอชำระต่อเจ้าหนี้
ถ้าxxxxxxxxxxxยอมรับชำระหนี้ลูกหนี้ยังxxxxxxxxxxความรับผิด
ลูกหนี้จะหลุดพ้นความรับผิดxxxxxต่อเมื่อถึงกำหนดชำระ
ผู้ค้ำประกันไปขอชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้ถ้าxxxxxxxxxxxยอมรับชำระหนี้
ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดตามมาตรา
๗๐๑
สรุปกฎหมายค้ำประกัน
จำนอง จำนำ (ตอนที่
๒)
จบ
จำนอง
ลักษณะจำนอง
“มาตรา
๗๐๒ อันว่าจำองนั้น
คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง
เรียกว่าผู้จำนองเอาทรัพย์สินตราไว้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง
เรียกว่าผู้รับจำนอง
เป็นประกันการชำระหนี้
โดยไม่ส่งมอบทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้รับจำนอง
ผู้รับจำนองชอบที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญมิxxxต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่”
๑.
ผู้จำนองอาจเป็นลูกหนี้ชั้นต้นหรือบุคคลที่สามก็ได้
๒.
เอาทรัพย์สินตราไว้เป็นประกันการชำระหนี้
๒.๑
ผู้จำนองไม่จำต้องส่งมอบทรัพย์สินที่จำนอง
๒.๒
ผู้รับจำนองต้องเป็นเจ้าหนี้
๒.๓
มอบโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
(น.ส.๓)
ให้เจ้าหนี้ยึดไว้โดยxxxxxxทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนจำนองต่อxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxเป็นการจำนอง
ตัวอย่าง
xxxxxxมอบโฉนดที่ดินให้นายขาวเจ้าหนี้ยึดไว้เป็นประกันการชำระหนี้เป็นบุคคลxxxxx
แม้จะxxxxxxจดทะเบียนก็ใช้บังคับกับxxxxxxxxxxx
นายขาวจึงมีxxxxxยึดโฉนดที่ดินไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้
แต่ถ้าหนี้นั้นขาดอายุความไปแล้วก็ไม่มีมูลหนี้ที่นายขาวจะยึดโฉนดของxxxxxxไว้อีกต่อไป
นายขาวจึงมีxxxxxxxxxเรียกโฉนดคืนได้
๒.๔
สัญญาจะจำนองมีxxxxxxตามแนวคำพิพากษาxxxxxxx
๒๒๘๖/๒๕๓๘
คำพิพากษาxxxxxxx
๒๒๘๖/๒๕๓๘
สัญญาจะจำนองไม่มีตามxxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่เหมือนสัญญาจะซื้อขายทรัพย์สินสัญญาจะแลกเปลี่ยนและxxxxxxจะให้ตามมาตรา
๔๕๖ วรรคสอง ,
๕๑๙
,
๕๒๖
การที่จำเลยมอบโฉนดที่ดินพร้อมใบมอบอำนาจและเอกสารอื่นให้โจทก์เพื่อจดทะเบียนจำนองประกันหนี้ขาดลดเช็คโดยมีข้อกำหนดให้จดทะเบียนจำนองได้หลังจากเรียกเก็บเงินตามเช็คxxxxxxเป็นเรื่องที่จำเลยxxxxxจะเอาทรัพย์จำนองเป็นประกันเมื่อxxxxxxจดทะเบียนจำนองให้ถูกต้องสัญญาจำนองจึงเป็นโมฆะ
๓.
บทบัญญัติมาตรา
๖๘๑ ว่าด้วยค้ำประกันนั้น
นำมาใช้ได้ในการจำนอง
xxxxxxxxxxxx (มาตรา
๗๐๗)
การนำมาตรา
๖๘๑ มาใช้ในการจำนองโดยอนุโลมมีผลดังนี้
๓.๑
หนี้ที่จำนองเป็นประกันเฉพาะหนี้xxxxxxxxxx
๓.๒
เมื่อหนี้ประธานxxxxxxxแล้วแม้ขาดหลักฐานที่จะxxxxxxxxxxxxxxxxจำนองประกันหนี้นั้นxxx
xxไม่ต้องxxxxxว่าเจ้าหนี้จะฟ้องตามหนี้ประธานได้หรือไม่
๓.๓
หนี้ในxxxxxหรือหนี้ที่มีเงื่อนไขจะทำจำนองประกันไว้ก็ได้
๓.๔
หนี้ที่เกิดแต่สัญญาซึ่งลูกหนี้กระทำโดยสำคัญผิดหรือเป็นxxxxxxxxxxxxxxxxxxจำนองได้ถ้าผู้จำนองรู้เหตุสำคัญหรือไร้ความxxxxxxในขณะทำสัญญาจำนอง
ข้อสังเกต
มาตรา ๖๘๑ วรรคสาม
นำมาใช้ก็ต่อเมื่อผู้จำนองเป็นบุคคลที่สามไม่ใช่ตัวลูกหนี้
๔.
สัญญาจำนองเป็นสัญญาที่ก่อให้เกิดหนี้อุปกรณ์จึงต้องอยู่ในกรอบของหนี้ประธาน
ถ้าหนี้ประธานxxxxxxxxx
สัญญาจำนองก็xxxxxxxxxไปด้วย
๔.๑
สัญญาที่ก่อหนี้ประธานมิได้ให้ปรับxxxxxดอกเบี้ย
แต่สัญญาจำนองให้ปรับxxxxxดอกเบี้ยxxx
xxxxนี้เมื่อหนี้xxxxxxxxจำนองเป็นเพียงหนี้อุปกรณ์
เมื่อหนี้ประธานxxxxxxระบุให้ปรับxxxxxxxxหนี้จำนองแม้จะระบุไว้ในสัญญาจำนองเจ้าหนี้ก็จะxxxxxดอกเบี้ยxxxxxx
และหากเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยหนี้กู้ยืมซึ่งเป็นหนี้ประธานได้เพียงใด
เจ้าหนี้ก็xxxxxxคิดดอกเบี้ยxxxxxxxxจำนองให้สูงกว่าอัตราที่คิดจากหนี้ประธานxxxxxxxกัน
๔.๒
สัญญาที่ก่อหนี้ประธานให้ปรับxxxxxดอกเบี้ยได้
แต่สัญญาจำนองตกลงคิดดอกเบี้ยxxxxx
ผู้จำนองก็ต้องรับผิดเท่าที่กำหนดไว้ในสัญญาจำนอง
๕.
ผู้รับจำนองมีxxxxxxxxรับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ
(มาตรา
๗๐๒ วรรคสอง)
ข้อสังเกต
(๑)
ผู้จำนองจะเกี่ยงให้ผู้รับจำนองไปบังคับชำระหนี้จากลูกหนี้ชั้นต้นก่อนตามมาตรา
๖๙๘ xxxxxx
และจะขอให้บังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินของผู้ค้ำประกันก่อนก็xxxxxx
(๒)
xxxxxxxxจะได้รับชำระหนี้xxxxxxเฉพาะจากทรัพย์สินที่จำนองและภายในวงเงินที่จำนอง
ทรัพย์สินที่จำนอง
๑.
ประเภททรัพย์สินxxxxxxจำนองได้
๑.๑
อสังหาริมทรัพย์
ที่ดินที่จำนองได้ต้องเป็นที่ดินที่มีโฉนดหรือ
น.ส.๓
ส่วนตัวบ้านหรือโรงเรือนที่เป็นทรัพย์ติดอยู่กับที่ดินxxxxxลักษณะเป็นการxxxxxxเป็นอสังหาริมทรัพย์จึงจำนองxxxxxxxกัน
นอกจากนี้ทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับที่ดินหรือทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดินจะจำนองได้ต้องเป็นxxxxxxxxxxxxxxxxxxxโอนกันได้
ถ้าเป็นxxxxxxxxxxxxxเป็นการเฉพาะตัว
คือ โอนxxxxxxหรือรับมรดกไม่xxx
xxxx xxxxxอาศัยหรือภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์
จึงไม่xxxxxxจำนองได้
๑.๒
สังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ
สังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ
ได้แก่ เรือมีระวางตั้งแต่
๕ ตันขึ้นไป แพ สัตว์พาหนะ
สังหาริมทรัพย์อื่นๆ
ซึ่งกฎหมายxxxxxxxไว้ให้จดทะเบียนโดยเฉพาะ
xxxx xxxxxxxxxxx เครื่องบิน
เป็นต้น
๒.
จำนองทรัพย์สินหลายสิ่งเพื่อประกันการชำระหนี้รายเดียวกัน
ทรัพย์สินหลายสิ่งมีเจ้าของคนเดียวหรือหลายคนจะจำนองเพื่อประกันการชำระหนี้แต่รายหนึ่งรายเดียวก็ให้ทำได้
(มาตรา
๗๑๐ วรรคแรก)
และในการนี้คู่สัญญาจะตกลงกันดั่งต่อไปนี้ก็ได้
คือว่า (มาตรา
๗๑๐ วรรคสอง)
๒.๑
ให้ผู้รับจำนองใช้xxxxxบังคับเอาแก่ทรัพย์สินซึ่งจำนองตามลำดับอันระบุไว้
๒.๒
ให้ถือเอาทรัพย์สินแต่ละสิ่งเป็นประกันหนี้เฉพาะแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดที่ระบุไว้
ในกรณีที่เอาทรัพย์หลายสิ่งมาจำนองประกันหนี้รายเดียวกันนี้กฎหมายยอมให้คู่สัญญาตกลงกันอย่างนี้ก็ได้
คือ
(๑)
xxxxxxxxxxxตกลงให้ผู้รับจำนองใช้xxxxxบังคับแก่ทรัพย์สินที่จำนองตามลำดับที่ระบุไว้
(๒)
xxxxxxxxxxxตกลงให้ถือเอาทรัพยืสินแต่ละสิ่งเป็นประกันหนี้เฉพาะแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดดังระบุไว้
(๓)
กรณีไม่มีข้อตกลงตามมาตรา
๗๑๐ เจ้าหนี้มีxxxxxตามมาตรา
๗๓๔ คือ
บังคับเอาแก่ทรัพย์สินที่จำนองนั้นทั้งหมดหรือบางสิ่งก็ได้
แต่ทั้งนี้ผู้รับจำนองจะใช้xxxxxบังคับแก่ทรัพย์สินมากสิ่งกว่าที่จำเป็นเพื่อใช้หนี้ตามxxxxxแห่งตน
ข้อสังเกต
การที่ผู้จำนองคนเดียวหรือหลายคนจำนองประกันหนี้ก่อนหรือหลังกันxxxxxxxxxเป็นการระบุลำดับการบังคับจำนอง
๓.
จำนองทรัพย์สินสิ่งเดียวเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้หลายราย
เจ้าของทรัพย์สินมีxxxxxนำทรัพย์สินไปจำนองเป็นประกันการชำระหนี้รายเดียวหรือหลายรายได้
โดยไม่ต้องxxxxxว่าผู้ใดเป้นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ประธานและแม้จะมีข้อสัญญาห้ามนำทรัพย์สินนั้นไปจำนองซ้ำอีก
เจ้าของทรัพย์สินก็ยังมีxxxxxนำไปจำนองซ้ำได้
และลำดับการได้รับชำระหนี้ระหว่างผู้รับจำนองด้วยกันเป็นไปตามลำดับผู้รับจำนองด้วยกันเป็นไปตามลำดับ
ผู้รับจำนองเรียงตามวันและเวลาจดทะเบียนโดยผู้รับจำนองคนก่อนจักได้รับใช้หนี้ก่อนผู้รับจำนองคนหลัง
ผู้มีxxxxxนำทรัพย์สินไปจำนอง
๑.
เจ้าของทรัพย์สิน
เจ้าของทรัพย์สิน
หมายถึง
ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นในขณะจำนองและผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์
และหมายความรวมถึงเจ้าของทรัพย์xxxxxอันเกี่ยวกับที่ดินหรือทรัพย์อันติดกับที่ดินด้วย
กรณีผู้รับจำนองและผู้ซื้อทรัพย์ต่างก็xxxxxx
เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนxxxxxโดยxxxxxxด้วยxxxxxxxคู้
แต่เกิดข้อพิพาทเพราะเจ้าของเดิมไม่xxxxxx
โดยxxxxxxxxxxxxxxxxxคู่ผู้ใดได้xxxxxก่อนผู้นั้นมีxxxxxxxกว่า
แต่หากเอกสารที่นำไปใช้จดทะเบียนจำนองคือต้นฉบับ
น.ส.๓
ฉบับเดิมถูกยกเลิกไปแล้วด้วยใบแทน
น.ส.๓
โดยผลของประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา
๖
จึงxxxxxxนับได้ว่าเป็นการจดทะเบียนโดยชอบที่จะมีผลไปถึงบุคคลอื่น
ข้อxxxxxx
xxxผู้จำนองไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่จำนองหรือตัวแทนผู้ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของ
การจำนองนั้นxxxxxxxxxเจ้าของที่แท้จริง
แม้ผู้รับจำนองจะได้รับจำนองไว้โดยxxxxxxเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนโดยxxxxxxก็ตาม
ข้อยกเว้นหลักผู้จำนองต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ในขณะจำนอง
(๑)
เจ้าของทรัพย์สินประมาทxxxxxxxx
xxxx
ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจxxxxxxกรอกข้อความแล้วมอบเอกสารนั้นพร้อมทั้งเอกสารสิทธิในทรัพย์สินให้แก่ผู้รับมอบไปทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วผู้นัน้ไปทำการผิดวัตถุประสงค์หรือนอกเหนือxxxxx
xxxผู้รับจำนองรับจำนองโดยxxxxxxเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนxxxxxจำนองแล้ว
การจำนองนั้นย่อมผูกพันเจ้าของทรัพย์สิน
(๒)
เจ้าของทรัพย์สินยอมให้ผู้อื่นแสดงตนว่าเป็นเจ้าของหรือยอมให้เจ้าของร่วมบางคนแสดงตนว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นแต่ผู้เดียว
ถ้าผู้รับจำนองรับจำนองโดยxxxxxx
การจำนองนั้นย่อมผูกพันเจ้าของที่แท้จริง
ข้อสังเกต
เจ้าของรวมคนเดียวไปจำนองแต่เจ้าของรวมคนอื่นรู้เห็นยินยอมด้วย
เพียงแต่xxxxxxร่วมจดทะเบียนจำนองด้วย
ผลผูกพันทรัพย์ที่จำนองซึ่งเป็นส่วนของเจ้าของรวมคนอื่นที่รู้เห็นยินยอมด้วย
ถ้าผู้รับจำนองรู้ว่าเจ้าของรวมซึ่งเป็นผู้จำนองเป็นเจ้าของทรัพย์ที่จำนองส่วนใด
การรับจำนองไว้ก็เฉพาะในของเจ้าของรวมคนนั้นเท่านั้น
การจำนองxxxxxxxxxทรัพย์สินหรือที่ดินทั้งแปลง
เจ้าของรวมคนอื่นขอแบ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงนั้นโดยไม่ติดจำนองได้
(๓)
ทรัพย์สินถูกครองครองxxxxxxx
ผู้ครอบครองปรปักษ์ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นแล้วแต่ผู้ครอบครองปรปักษ์ยังxxxxxxจดทะเบียนแก้ไขชื่อเจ้าของ
เจ้าของเดิมซึ่งมีชื่อทางทะเบียนได้จดทะเบียนจำนองทรัพย์นั้นต่อผู้รับจำนองซึ่งรับจำนองโดยxxxxxx
เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนxxxxxโดยxxxxxxแล้ว
การจำนองนั้นxxxxxxx
ข้อสังเกต
เจ้าของที่ดินเดิมจำนองที่ดินของตนแล้ว
ต่อมามีผู้ครอบครองปรปักษ์ที่ดินแปลงนั้นจนได้กรรมสิทธิ์
ผู้รับจำนองก็ยังมีxxxxxบังคับจำนองที่ดินแปลงนั้นได้ตามมาตรา
๗๐๒ วรรคสอง
๒.
เจ้าของทรัพย์สินที่มีเงื่อนไข
“มาตรา
๗๐๖
บุคคลมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินแต่ภายในบังคับเงื่อนไขxxxxใดจะจำนองทรัพย์สินนั้นได้แต่ภายในบังคับเงื่อนไขxxxxนั้น”
เงื่อนไข
หมายถึง เงื่อนไขที่เป็นการลิดรอนxxxxxxxxxxxxxxๆ
xxxx เป็นเจ้าของที่ดินแต่ที่ดินนั้นมีภาระจำยอม
xxxxxเหนือพิ้นดิน
xxxxxเก็บกินหรือภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์จากการขายฝาก
เป็นต้น
ทรัพย์สินที่มีเงื่อนไขดังกล่าวหากเอาไปจำนองก็เป็นการจำนองโดยมีเงื่อนไขxxxxxxxxxสิทธิ์เหล่านั้นยังxxต้องติดไป
ผู้ที่ซื้อทรัพย์นั้นจากการขายทอดตลาดต้องรับภาระต่างๆ
เหล่านั้นไปด้วย
แบบของสัญญาจำนองและข้อความในสัญญาจำนอง
๑.
แบบของสัญญาจำนอง
สัญญาจำนองนั้นต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
(มาตรา
๗๑๔)
๒.
ข้อความในสัญญาจำนองที่กฎหมายบังคับว่าต้องมี
๒.๑
ต้องระบุทรัพย์สินที่จำนอง
๒.๒
ต้องระบุจำนวนเงินจำนอง
ข้อสังเกต
(๑)
ทำสัญญาจำนองระบุเงินไว้ตรงตัวแน่นอนแล้ว
ผู้จำนองจะมาขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขจำนวนเงินจำนองxxxxxx
(๒)
สัญญาจำนองxxxxxxได้ระบุจำนวนเงินจำนองให้ถูกต้องตามมาตรา
๗๐๘ (มีจำนวนเงินระบุไว้เป็นxxxxxxxxxไทยเป็นจำนวนแน่ตรงตัว
หรือจำนวนขั้นสูงสุดxxxxxxเอาทรัพย์สินจำนองนั้นตราไว้เป็นประกัน)
จะเป็นโมฆะ
๓.
ข้อความในสัญญาจำนองที่ไม่มีผลบังคับ
๓.๑
ตกลงให้ผู้รับจำนองเข้าเป็นเจ้าของทรัพย์สินซึ่งจำนอง
การที่จะตกลงกันไว้เสียแต่ก่อนเวลาหนี้ถึงกำหนดชำระเป็นข้อความอย่างใดอย่างหนึ่งว่า
ถ้าไม่ชำระหนี้
ให้ผู้รับจำนองเข้าเป็นเจ้าของทรัพย์สินซึ่งจำนอง
หรือว่าให้จัดการแก่ทรัพย์สินนั้นเป็นประการอื่นอย่างใดนอกจากตามบทบัญญัติทั้งหลายว่าด้วยการบังคับจำนองนั้นxxxx
ข้อตกลงxxxxนั้นไม่xxxxxxx
(มาตรา
๗๑๑)
๓.๒
ตกลงห้ามมิให้เอาทรัพย์สินซึ่งจำนองไปจำนำซ้ำ
แม้มีข้อสัญญาเป็นอย่างอื่นก็ตาม
ทรัพย์สินซึ่งจำนองไว้แก่บุคคลคนหนึ่งนั้น
จะเอาไปจำนองแก่บุคคลอีกคนหนึ่งในระหว่างเวลาที่สัญญาก่อนยังมีอายุอยู่ก็ได้
(มาตรา
๗๑๒)
xxxxxจำนองครอบเพียงใด
๑.
ดอกเบี้ย
ข้อสังเกต
(๑)
ดอกเบี้ย
หมายถึง
ดอกเบี้ยของต้นเงินxxxxxxxxจำนองที่ผู้จำนองจะต้องรับผิด
ดอกเบี้ยนี้อาจจะเป็นดอกเบี้ยธรรมดาหรือxxxxxxxxxxxxxxxxxxแล้วแต่ข้อสัญญาจำนอง
ดอกเบี้ยxxxxxxxxจำนองอาจจะเท่าหรือไม่เท่ากับดอกเบี้ยของหนี้ประธานก็ได้
(๒)
สัญญาจำนองอาจจะตกลงกันว่าผู้จำนองไม่ต้องรับผิดในดอกเบี้ยก็ได้เมื่อมีข้อตกลงxxxxนี้
ผู้จำนองก็จะรับผิดเฉพาะหนี้ต้นเงิน
ไม่ต้องรับผิดในดอกเบี้ยเหมือนกับลูกหนี้ชั้นต้น
แต่ถ้าผู้จำนองผิดนัดชำระหนี้
ผู้จำนองจะต้องเสียดอกเบี้ยเพราะเหตุผิดนัดตามมาตรา
๒๒๔
(๓)
สำหรับหนี้ละเมิด
ดอกเบี้ยคิดตั้งแต่xxxxxxทำละเมิด
เพราะลูกหนี้ผู้ทำละเมิดผิดนัดตั้งแต่วันทำละเมิด
ดังนั้น การจำนองประกันหนี้ลูกจ้างในกรณีลูกจ้างทำละเมิด
ผู้จำนองก็ต้องรับผิดในหนี้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันทำละเมิด
แต่xxxxxxทำความตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นxxxxx
xxxx
ผู้จำนองอาจจะตกลงกับเจ้าหนี้ว่าขอรับผิดเฉพาะต้นเงินเพียงอย่างเดียว
๒.
ค่าสินไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้
๓.
ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจำนอง
xxxxxจำนองครอบทรัพย์สินซึ่งจำนองเพียงใด
๑.
จำนองย่อมครอบไปถึงบรรดาทรัพย์สินซึ่งจำนองหมดทุกสิ่ง
แม้จะได้ชำระหนี้แล้วบางส่วน
(มาตรา
๗๑๖)
๒.
จำนองครอบทรัพยืxxxxxxจำนองทุกส่วน
มาตรา
๗๑๗ แม้ว่าทรัพย์สินซึ่งจำนองจะแบ่งออกเป็นหลายส่วนก็ตาม
ท่านว่าจำนองก็ยังxxครอบไปถึงส่วนเหล่านั้นหมดทุกส่วนด้วยกันอยู่นั่นเอง
(มาตรา
๗๑๗ วรรคแรก)
ถึงกระนั้นก็ดี
ถ้าผู้รับจำนองยินยอมด้วย
ท่านว่าจะโอนทรัพย์สินส่วนหนึ่งส่วนใดไปปลอดจากจำนองก็ให้ทำได้
แต่ความยินยอมดั่งว่านี้หากมิได้จดทะเบียน
ท่านว่าจะยกเอาขึ้นเป็นข้อต่อสู้แก่บุคคลภายนอกหาxxxxxx
(มาตรา
๗๑๗ วรรคสอง)
๓.
จำนองครอบไปxxxxxxxxxอันติดพันกับทรัพย์สินซึ่งจำนอง
หลัก
จำนองย่อมครอบไปxxxxxxxxxทั้งปวงอันติดพันอยู่กับทรัพย์สินซึ่งจำนอง
ข้อยกเว้น แต่ต้องอยู่ภายในบังคับตามมาตรา
๗๑๙ ,
๗๒๐
,
๗๒๑
(มาตรา
๗๑๘)
๓.๑
จำนองที่ดินไม่ครอบถึงเรือนโรงxxxxxxxxxxxxภายหลังวันจำนอง
จำนองที่ดินไม่ครอบไปถึงเรือนโรงอันผู้จำนองxxxxxxxxxลงในที่ดินภายหลังวันจำนอง
เว้นแต่จะมีข้อความกล่าวไว้โดยเฉพาะในสัญญาว่าให้ครอบไปถึง
(มาตรา
๗๑๙ วรรคแรก)
แต่กระนั้นก็ดี
ผู้รับจำนองจะให้ขายเรือนโรงนั้นรวมไปกับที่ดินด้วยก็ได้
แต่ผู้รับจำนองอาจใช้บุริมสิทธิของตนได้เพียงแก่ราคาที่ดินเท่านั้น
(มาตรา
๗๑๙ วรรคสอง)
ข้อสังเกต
(๑)
ถ้าเป็นการปลูกบ้านอยู่ก่อนหรือขณะทำสัญญา
เมื่อมีการจำนองที่ดินโดยxxxxxxระบุไว้อย่างไร
การจำนองนั้นย่อมรวมถึงจำนองบ้านxxxxxxxxxxxxลงในที่ดินด้วย
(๒)
ภายหลังจำนองที่ดินนั้นแล้ว
ผู้จำนองเอาที่ดินที่มีxxxxxxนั้นไปโอนชำระหนี้ให้แก่ผู้รับจำนองโดยไม่ระบุว่าไม่รวมxxxxxxด้วย
ผู้รับจำนองย่อมได้กรรมสิทธิ์ในxxxxxxนี้ด้วย
คำพิพากษาxxxxxxx
๖๖๒/๒๕๐๗
ที่ดินมีโฉนดของจำเลยมีxxxxxxริมตลิ่ง
จำเลยย่อมได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในxxxxxxนี้รวมกับกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามโฉนด
เมื่อจำเลยจำนองที่ดินโฉนดนี้และเมื่อโอนที่แปลงนี้เป็นการชำระหนี้จำนอง
ถ้าไม่ต้องการจำนองและโอนส่วนที่เป็นxxxxxxด้วย
จำเลยก็ต้องแสดงxxxxxไว้ให้ชัด
มิฉะนั้น xxxxxxนั้นจะต้องติดไปด้วย
(๓)
แม้ทำสัญญาจำนองว่าจำนองครอบไปถึงสิ่งxxxxxxxxxที่ปลูกในที่ดินจำนองหลังวันจำนอง
xxxxxจำนองก็ไม่ครอบถึงสิ่งxxxxxxxxxของผู้อื่น
๓.๒
จำนองโรงเรือนที่ปลูกในที่ดินของผู้อื่นไม่ครอบถึงที่ดิน
จำนองเรือนโรงหรือสิ่งxxxxxxxxxอย่างอื่นซึ่งได้ทำขึ้นไว้บนดินหรือใต้ดิน
ในที่ดินอันเป็นของคนอื่นเขานั้นย่อมไม่ครอบไปถึงที่ดินนั้นด้วย
ฉันใดกลับกันก็ฉันนั้น
(มาตรา
๗๒๐)
๓.๓
จำนองไม่ครอบถึงดอกผลของทรัพย์สินซึ่งจำนอง
จำนองไม่ครอบไปถึงดอกผลแห่งทรัพย์สินซึ่งจำนอง
เว้นแต่ในเมื่อผู้รับจำนองได้xxxxxxxxแก่ผู้จำนองหรือผู้รับโอนแล้วว่าตนxxxxจะบังคับจำนอง
(มาตรา
๗๒๑)
ข้อสังเกต
(๑)
ดอกผล
หมายถึง ดอกผลธรรมดาและดอกผลxxxxxxx
(๒)
ถ้าผู้จำนองแจ้งแก่ผู้จำนองว่าเขาxxxxจะบังคับจำนอง
ดอกผลธรรมดาและดอกผลxxxxxxxต้องติดจำนองไปด้วย
เจ้าหนี้จำนองมีxxxxxบังคับชำระหนี้จากดอกผลได้แต่ถ้ายังไม่มีการแจ้ง
ผู้จำนองมีxxxxxนำดอกผลนั้นไปใช้ประโยชน์ได้
xxxxxและหน้าที่ของผู้รับจำนองและผู้จำนอง
xxxxxและหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินซึ่งจำนอง
๑.
xxxxxจำนองเป็นใหญ่กว่าทรัพย์xxxxxอย่างอื่นที่จดทะเบียนหลังการจำนอง
ถ้าทรัพย์สินได้จำนองแล้ว
และภายหลังที่จดทะเบียนจำนองมีจดทะเบียนภาระจำยอมหรือทรัพยสิทธิอย่างอื่น
โดยผู้รับจำนองมิได้ยินยอมด้วย
xxxxxจำนองย่อมเป็นใหญ่กว่าภาระจำยอมหรือทรัพยสิทธิอย่างอื่นนั้น
หากว่าเป็นที่เสื่อมเสียแก่xxxxxของผู้รับจำนองในเวลาบังคับจำนองก็ให้ลบxxxxxxxxกล่าวหลังนั้นเสียจากทะเบียน
(มาตรา
๗๒๒)
ข้อxxxxxx
xxxเป็นทรัพย์xxxxxอย่างอื่นที่จดทะเบียนก่อนการจำนองไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรานี้
๒.
xxxxxของผู้รับจำนองที่จะบังคับจำนองได้ทันทีเมื่อทรัพย์สินที่จำนองสูญหาย
ถ้าทรัพย์สินซึ่งจำนองบุบสลาย
หรือถ้าทรัพย์สินซึ่งจำนองแต่สิ่งใดสิ่งหนึ่งสูญหายหรือบุบสลาย
เป็นเหตุให้xxxxxxxxxxแก่การประกัน
ผู้รับจำนองจะบังคับจำนองเสียในทันทีก็ได้
เว้นแต่เมื่อเหตุนั้นมิได้เป็นเพราะความผิดของผู้จำนอง
และผู้จำนองก็เสนอจะจำนองทรัพย์สินอื่นแทนให้มีราคาเพียงพอหรือเสนอจะรับซ่อมแซมแก้ไขความบุบสลายนั้นภายในเวลาอันxxxxxแก่เหตุ
(มาตรา
๗๒๓)
๓.
xxxxxของผู้รับจำนองที่จะชำระหนี้ล้างจำนองเป็นงวดได้
ถ้ามิได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาจำนอง
ผู้จำนองจะชำระหนี้ล้างจำนองเป็นงวดๆ
ก็ได้ (มาตรา
๗๑๓)
xxxxxและหน้าที่ของคู่สัญญากรณีจำนองประกันหนี้ของบุคคลอื่น
๑.
xxxxxของผู้จำนองที่ชำระหนี้แทนลูกหนี้เพื่อมิให้ถูกบังคับจำนอง
ผู้จำนองใดได้จำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระแล้วและเข้าชำระหนี้เสียเองแทนลูกหนี้เพื่อจะxxxxxxxมิให้ต้องบังคับจำนอง
ผู้จำนองนั้นชอบที่จะได้รับเงินใช้คืนจากลูกหนี้ตามจำนวนที่ตนได้ชำระไป
(มาตรา
๗๒๔ วรรคแรก)
ถ้าว่าต้องบังคับจำนอง
ผู้จำนองชอบที่จะได้รับเงินใช้คืนจากลูกหนี้ตามจำนวนซึ่งผู้รับจำนองจะได้รับใช้หนี้จากการบังคับจำนองนั้น
(มาตรา
๗๒๔ วรรคสอง)
๒.
xxxxxหน้าที่ระหว่างผู้จำนองด้วยกัน
๒.๑
ไม่ระบุลำดับการบังคับจำนอง
เมื่อบุคคลสองคนหรือกว่านั้นต่างได้จำนองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้แต่รายหนึ่งรายเดียวอันบุคคลอื่นจะต้องชำระและมิได้ระบุลำดับไว้
ผู้จำนองซึ่งได้เป็นผู้ชำระหนี้
หรือเป็นเจ้าของทรัพย์สินซึ่งต้องบังคับจำนองนั้นหามีxxxxxจะxxxxxxxxเอาแก่ผู้จำนองอื่นๆ
ต่อไปxxxxxx (มาตรา
๗๒๕)
๒.๒
ระบุลำดับการบังคับจำนอง
เมื่อบุคคลหลายคนต่างได้จำนองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้แต่รายหนึ่งรายเดียวอันบุคคลอื่นจะต้องชำระและได้ระบุลำดับไว้ด้วยxxxx
ท่านว่าการที่ผู้รับจำนองยอมปลดหนี้ให้แก่ผู้จำนองคนหนึ่งนั้น
ย่อมทำให้ผู้จำนองคนหลัง
ๆ xxxxxxxxxxด้วยเพียงขนาดที่เขาต้องรับความเสียหายแต่การนั้น
(มาตรา
๗๒๖)
๒.๓
ผู้จำนองหลุดพ้นความรับผิด
ถ้าบุคคลคนเดียวจำนองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ
ให้ใช้บทบัญญัติมาตรา ๖๙๗
(การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งของเจ้าหนี้เป็นเหตุให้ผู้ค้ำประกันxxxxxxเข้ารับช่วงได้ทั้งหมด)
๗๐๐
(เจ้าหนี้ผ่อนเวลาให้ลูกหนี้)
และ
๗๐๑ (ผู้ค้ำประกันขอชำระหนี้แต่xxxxxxxxxxxยอมรับชำระหนี้)
ว่าด้วยค้ำประกันนั้นบังคับxxxxxxxxxxxx
(มาตรา
๗๒๗)
๒.๔
ความรับผิดของผู้จำนองที่เป็นบุคคลที่สาม
กรณีที่บุคคลที่สามเอาทรัพย์สินของตนจำนองเป็นประกันหนี้ของบุคคลอื่น
บุคคลที่สามหรือผู้จำนองไม่ใช่ลูกหนี้ร่วมกับลูกหนี้ชั้นต้น
(แม้จะระบุในสัญญาจำนองว่ายอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม)
เฉพาะทรัพย์สินที่ระบุไว้ในสัญญาจำนองเท่านั้นที่จะต้องผูกพันชำระหนี้
ทรัพย์สินอื่นของผู้จำนองซึ่งเป็นบุคคลที่สามxxxxxxxxxด้วย
แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่ในมาตรา
๗๓๓
มาตรา
๗๓๓
ถ้าเอาทรัพย์จำนองหลุดและราคาทรัพย์สินนั้นมีประมาณต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่ก็ดี
หรือถ้าเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้
ได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่นั้นก็ดี
เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใดลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินนั้น
๒.๕
การฟ้องผู้จำนองที่เป็นบุคคลเดียวกับลูกหนี้ชั้นต้นต่างกับการฟ้องผู้จำนองที่เป้นบุคคลที่สาม
(๑)
กรณีที่ผู้จำนองเป็นบุคคลเดียวกับลูกหนี้ชั้นต้น
เจ้าหนี้มีxxxxxเลือกในการฟ้องบังคับชำระหนี้ได้คือ
(๑.๑)
ฟ้องโดยอาศัยxxxxxตามหนี้ประธาน
เจ้าหนี้เสียxxxxxxxxxxxxxxละ
๒.๕
เมื่อชนะคดีก็มีxxxxxบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทุกอย่างของลูกหนี้ได้
(๑.๒)
ฟ้องบังคับจำนองโดยอาศัยxxxxxxxxxxxxxจำนองและบังคับชำระหนี้จากทรัพย์ที่จำนองเท่านั้น
เสียค่าขึ้นศาลอัตราร้อยละ
๑
(๑.๓)
ฟ้องตามหนี้ประธานและสัญญาจำนองไปพร้อมกันเสียxxxxxxxxxxxxxxละ
๒.๕
(๒)
กรณีที่ผู้จำนองเป็นบุคคลที่สามจำนองทรัพย์สินของตนเพื่อประกันการชำระหนี้ผู้อื่น
บุคคลที่มาจำนองนี้ไม่ใช่ลูกหนี้ชั้นต้น
ผู้จำนองรับผิดxxxxxxxxจำนองเฉพาะเหนือทรัพย์สินที่เอามาจำนองเท่านั้น
เจ้าหนี้จะฟ้องผู้จำนองในฐานะลูกหนี้สามัญxxxxxx
แต่เจ้าหนี้ต้องฟ้องบังคับจำนอง
เมื่อชนะคดีแล้วจึงไปยึดทรัพย์จำนองมาขายทอดตลาด
ถ้าได้เงินไม่พอชำระหนี้xxxxxxxxจำนอง
ผู้จำนองไม่ต้องรับผิดชำระหนี้ที่เหลือ
เจ้าหนี้จะไปยึดทรัพย์สินอื่นของผู้จำนองxxxxxx
แต่ทั้งนี้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
xxxxxxxxxxxxสัญญายกเว้นเป็นพิเศษได้
คือ
ตกลงยอมให้เจ้าหนี้ไปยึดทรัพย์สินอื่นของผู้จำนองมาชำระหนี้ได้
การบังคับจำนอง
เมื่อลูกหนี้xxxxxxxxxชำระหนี้หรือทรัพย์สินซึ่งจำนองบางสิ่งสูญหายหรือบุบสลายจนxxxxxxxxxxแก่การประกันตามมาตรา
๗๒๓
เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้รับจำนองย่อมมีxxxxxบังคับจำนองได้
การบังคับจำนองแตกต่างจากการบังคับจำนำเพราะการบังคับจำนำเจ้าหนี้เอาทรัพย์สินไปขายทอดตลาดได้เลยโดยไม่ต้องฟ้องคดี
แต่การบังคับจำนองจะต้องฟ้องคดี
โดยมีวิธีการบังคับจำนองอยู่
๒ วิธี คือ
๑.
ฟ้องขอให้ยึดทรัพย์สินที่จำนองออกขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ตามมาตรา
๗๒๘
๒.
เอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นxxxxxตามมาตรา
๗๒๙
การบังคับจำนองโดยฟ้องให้ยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาด
การฟ้องให้ยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดxxxxxxxxxxxxมาชำระหนี้จำนอง
แบ่งออกเป็น ๒ กรณีคือ
๑.
ฟ้องบังคับจำนองแก่ผู้จำนอง
เมื่อจะบังคับจำนองนั้น
ผู้รับจำนองต้องมีจดหมายxxxxxxxxไปยังลูกหนี้ก่อนว่าให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันxxxxxซึ่งกำหนดให้ในคำxxxxxxxxนั้น
ถ้าและลูกหนี้ละเลยเสียไม่ปฏิบัติตามคำxxxxxxxx
ผู้รับจำนองจะฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้พิพากษาสั่งให้ยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองและให้ขายทอดตลาดก็ได้
(มาตรา
๗๒๘)
๑.๑
xxxxxxxxเป็นจดหมาย
๑.๒
ระบุเวลาให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันxxxxx
ข้อสังเกต
(๑)
ข้อสำคัญในหนังสือxxxxxxxxบังคับจำนองจะต้องกำหนดเวลาให้ชำระหนี้ไว้
ถ้าxxxxxxกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้xxxxxxการxxxxxxxxนั้นไม่ชอบ
(๒)
เมื่อเจ้าหนี้xxxxxxxxกำหนดเวลาให้ผู้จำนองชำระหนี้แล้ว
เจ้าหนี้ไม่มีxxxxxxxxxบังคับจำนองก่อนสิ้นระยะเวลาที่เจ้าหนี้กำหนดไว้ในคำxxxxxxxx
เว้นแต่
ผู้จำนองแสดงออกว่าไม่ต้องการถือประโยชน์จากระยะเวลานั้น
๑.๓
ผู้จำนองและลูกหนี้ชั้นต้นเป็นบุคคลเดียวกัน
ผู้รับจำนองจะฟ้องอย่างเจ้าหนี้สามัญก็ได้
ข้อสังเกต
(๑)
การฟ้องบังคับจำนองกับการฟ้องบังคับอย่างเจ้าหนี้สามัญมีผลแตกต่างกันคือ
การฟ้องบังคับจำนองถ้าบังคับจำนองแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้ลูกหนี้ไม่ต้องชำระหนี้ส่วนที่ขาด
แต่ถ้าเจ้าหนี้xxxxxxxบังคับจำนองแต่ไปฟ้องแบบเจ้าหนี้สามัญเจ้าหนี้มีxxxxxบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทุกอย่างของลูกหนี้ได้
(๒)
การฟ้องบังคับจำนองจะต้องมีคำขอท้ายxxxxxxxระบุว่าให้เอาทรัพย์สินที่จำนองขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้หรือให้เอาทรัพย์สินที่จำนองหลุดเป็นxxxxxแก่โจทก์
๒.
ฟ้องบังคับจำนองแก่ผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนอง
แม้ผู้จำนองจะนำเอาทรัพย์สินของตนไปจำนองแต่ผู้จำนองยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น
จึงxxxxxxxxxจะโอนทรัพย์สินนั้นไปยังบุคคลอื่นได้
แต่ทั้งนี้ผู้รับโอนก็จะได้กรรมสิทธิ์ในมรัพย์สินนั้นพร้อมภาระจำนองติดมาด้วย
หากผู้รับจำนองจะบังคับจำนองก็จะต้องมีจดหมายxxxxxxxxล่วงหน้าไปยังผู้รับโอนอย่างน้อย
๑ เดือน
โดยไม่ต้องxxxxxว่าหนี้จำนองมีจำนวนมากน้อยแค่ไหนเพียงใด
และต้องฟ้องผู้รับโอนด้วย
มิฉะนั้น
จะบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จำนองxxxxxx
การบังคับจำนองโดยฟ้องเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองหลุดเป็นxxxxx
ผู้รับจำนองยังชอบที่จะเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดได้ภายในบังคับแห่งเงื่อนไขดังวต่อไปนี้
(มาตรา
๗๒๙)
(๑)
ลูกหนี้ได้ขาดส่งดอกเบี้ยมาแล้วเป็นเวลาถึงห้าปี
(๒)
ผู้จำนองมิได้แสดงให้เป็นที่xxxxแก่ศาลว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนxxxxxxxค้างชำระ
และ
(๓)
ไม่มีการจำนองรายอื่น
หรือบุริมสิทธิอื่นได้จดทะเบียนไว้เหนือทรัพย์สินอันเดียวกันนี้เอง
ข้อสังเกต
การเอาทรัพย์หลุดจำนองเป็นxxxxxของเจ้าหนี้ในการบังคับจำนองอย่างหนึ่ง
ดังนั้น ก่อนที่จะฟ้องเอาทรัพย์จำนองหลุด
ต้องมีการxxxxxxxxก่อนตามมาตรา
๗๒๘
การบังคับจำนองกรณีจำนองทรัพย์สินสิ่งเดียวเป็นประกันหนี้หลายราย
๑.
ผู้รับจำนองคนxxxxxxxxxxxxxxรับชำระหนี้ก่อนผู้รับจำนองคนหลัง
(มาตรา
๗๓๐)
๒.
ผู้รับจำนองคนหลังจะบังคับจำนองให้เสียหายแก่ผู้รับจำนองคนก่อนxxxxxx
(มาตรา
๗๓๑)
การบังคับจำนองกรณีจำนองทรัพย์สินหลายสิ่งเพื่อประกันหนี้รายเดียวและมิได้ระบุลำดับไว้
๑.
บังคับจำนองไม่พร้อมxxx
xxxจำนองทรัพย์สินหลายสิ่งเพื่อประกันหนี้แต่รายหนึ่งรายเดียวและมิได้ระบุลำดับไว้
ผู้รับจำองจะใช้xxxxxของตนบังคับแก่ทรัพย์สินนั้นๆ
ทั้งหมดหรือแต่เพียงบางสิ่งก็ได้
แต่ห้ามมิให้ทำxxxxนั้นแก่ทรัพย์สินมากสิ่งกว่าที่จำเป็นเพื่อใช้หนี้ตามxxxxxแห่งตน
(มาตรา
๗๓๔ วรรคหนึ่ง)
๒.
บังคับจำนองพร้อมxxx
xxxผู้รับจำนองใช้xxxxxของตนบังคับแก่ทรัพย์สินทั้งหมดพร้อมกัน
ให้แบ่งภาระแห่งหนี้นั้นxxxxxxไปตามส่วนราคาแห่งทรัพย์สินนั้น
ๆ เว้นแต่ในกรณีxxxxxxระบุจำนวนเงินจำนองไว้เฉพาะทรัพย์สินแต่ละสิ่ง
ๆ เป็นจำนวนเท่าใด
ให้แบ่งxxxxxxไปตามจำนวนเงินจำนองที่ระบุไว้เฉพาะทรัพย์สิ่งนั้นๆ
(มาตรา
๗๓๔ วรรคสอง)
๓.
บังคับจำนองทรัพย์สินที่จำนองเพียงสิ่งเดียว
ถ้าผู้รับจำนองใช้xxxxxของตนบังคับแก่ทรัพย์สินอันใดอันหนึ่งแต่เพียงสิ่งเดียวผู้รับจำนองจะให้ชำระหนี้อันเป็นส่วนของตนทั้งหมดจากทรัพย์สินอันนั้นก็ได้
ในกรณีxxxxนั้นให้xxxxxxผู้รับจำนองคนถัดไปโดยลำดับย่อมเข้ารับช่วงxxxxxของผู้รับจำนองคนก่อนและจะเข้าบังคับจำนองแทนที่คนก่อนก็ได้แต่เพียงเท่าจำนวนซึ่งผู้รับจำนองคนก่อนจะพึงได้รับจากทรัพย์สินอื่น
ๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น
(มาตรา
๗๓๔
วรรคสาม)
เมื่อบังคับจำนองแล้วลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์สินที่จำนอง
มาตรา
๒๑๔ ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งมาตรา
๗๓๓
เจ้าหนี้มีxxxxxxxxจะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของลูกหนี้จนสิ้นเชิง
รวมทั้งเงินและทรัพย์สินอื่นๆ
ซึ่งบุคคลภายนอกค้างชำระแก่ลูกหนี้ด้วย
มาตรา
๗๓๓
ถ้าเอาทรัพย์จำนองหลุดและราคาทรัพย์สินนั้นมีประมาณต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่ก็ดี
หรือถ้าเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้
ได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่นั้นก็ดี
เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใดลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินนั้น
ข้อสังเกต
(๑)
คำว่า
“ลูกหนี้” หมายถึง
ลูกหนี้ชั้นต้นหรือลูกหนี้ในหนี้ประธาน
(๒)
ต้องเป็นการบังคับจำนองต่อผู้จำนองตามมาตรา
๗๒๘ (มีหนังสือxxxxxxxxไปยังลูกหนี้ภายในระยะเวลาอันxxxxx)
๗๒๙
(เรียกเอาทรัพย์หลุดจำนอง)
หรือต่อผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนองตามมาตรา
๗๓๕ (มีหนังสือxxxxxxxxล่วงหน้าแก่ผู้รับโอน)
(๓)
การบังคับจำนองที่จะมีผลทำให้ลูกหนี้พ้นความรับผิดในหนี้ที่ยังขาดจำนวนจะต้องเป็นการบังคับจำนองที่เสร็จxxxxxxxแล้ว
(มีการฟ้องคดียึดทรัพย์สินที่จำนองและขายทอดตลาดแล้ว)
(๔)
มาตรา
๗๓๓ ไม่ใช่บทบัญญัติอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย
xxxxxxxxxxxตกลงกันว่าถ้าบังคับจำนองแล้วไม่พอชำระหนี้
ลูกหนี้ก็ยังxxต้องรับผิดในหนี้ที่เหลือได้
(๕)
ผู้รับมอบอำนาจให้ทำสัญญาจำนองไปทำสัญญายกเว้นมาตรา
๗๓๓ ถ้าเป็นการมอบอxxxxxให้ไปจำนองอย่างเดียว
ข้อตกลงนั้นxxxxxxxxxผู้จำนอง
แต่ถ้ามอบอำนาจให้ไปทำสัญญาจำนองโดยมีเงื่อนไขและข้อความxxxxxxxxต่อท้ายสัญญาจำนอง
แต่ถ้ามอบอำนาจให้ไปทำสัญญาจำนองโดยมีเงื่อนไขและข้อความxxxxxxxxต่อท้ายสัญญาจำนอง
ข้อตกลงนี้ก็xxxxxxxxxxxxxxที่ผู้รับมอบอำนาจทำไป
(๖)
แม้ทำสัญญายกเว้นมาตรา
๗๓๓
ผู้รับจำนองก็ไม่มีxxxxxxxxรับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่ทรัพย์สินที่จำนอง
ลำดับการชำระหนี้แก่ผู้รับจำนองและเงินxxxxxxxx
xxxxxxxxxซึ่งจำนองขายทอดตลาดได้เงินเป็นจำนวนสุทธิเท่าใดให้จัดใช้แก่ผู้รับจำนองเรียงตามลำดับ
และถ้ายังมีเงินเหลืออยู่อีก
ก็ให้ส่งมอบแก่ผู้จำนอง
(มาตรา
๗๓๒)
ข้อสังเกต
การคืนเงินที่เหลือให้แก่ผู้จำนองตามมาตรานี้จะต้องมีการบังคับจำนองขายทอดตลาดหลักทรัพย์จำนองแล้วเงินเหลือจริงๆ
xxxxxของผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนอง
๑.
ผู้รับโอนมีxxxxxไถ่ถอนจำนอง
ผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนองจะไถ่ถอนจำนองก็ได้
ถ้าหากมิได้เป็นตัวลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกัน
หรือเป็นxxxxxของลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกัน
(มาตรา
๗๓๖)
๒.
กำหนดเวลาไถ่ถอนจำนอง
ผู้รับโอนจะไถ่ถอนจำนองเมื่อใดก็ได้
แต่ถ้าผู้รับจำนองได้xxxxxxxxว่ามีxxxxจะบังคับจำนอง
ผู้รับโอนต้องไถ่ถอนจำนองภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันรับคำxxxxxxxx
(มาตรา
๗๓๗)
๓.
วิธีการไถ่ถอนจำนอง
ผู้รับโอนซึ่งxxxxxxxจะไถ่ถอนจำนองต้องxxxxxxxxความxxxxxxxนั้นแก่ผู้เป็นลูกหนี้ชั้นต้น
และต้องส่งคำเสนอไปยังบรรดาเจ้าหนี้xxxxxxจดทะเบียน
ไม่ว่าในทางจำนองหรือประการอื่น
ว่าจะรับใช้เงินให้เป็นจำนวนอันxxxxxกับราคาทรัพย์สินนั้นคำเสนอนั้นให้แจ้งข้อความทั้งหลายต่อไปนี้
คือ
(๑)
ตำแหน่งแหล่งที่และลักษณะแห่งทรัพย์สินซึ่งจำนอง
(๒)
วันซึ่งโอนกรรมสิทธิ์
(๓)
ชื่อเจ้าของเดิม
(๔)
ชื่อและภูมิลำเนาของผู้รับโอน
(๕)
จำนวนเงินที่เสนอว่าจะใช้
(๖)
คำนวณยอดจำนวนเงินที่ค้างชำระแก่เจ้าหนี้คนหนึ่ง
ๆ
รวมทั้งอุปกรณ์และจำนวนเงินที่จะจัดเป็นส่วนใช้แก่บรรดาเจ้าหนี้ตามลำดับกัน
อนึ่งให้คัดสำเนารายงานจดทะเบียนของเจ้าพนักงานในเรื่องทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้น
อันเจ้าพนักงานรับรองว่าเป็นสำเนาถูกถ้วนสอดส่งไปด้วย(มาตรา
๗๓๘)
๓.๑
กรณีเจ้าหนี้ยอมรับคำเสนอ
เมื่อเจ้าหนี้ทั้งหลายได้xxxxรับคำเสนอทั่วทุกคนแล้วโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายก็ดี
จำนองหรือบุริมสิทธิก็เป็นอันไถ่ถอนได้ด้วยผู้รับโอนใช้เงิน
หรือวางเงินตามจำนวนที่เสนอจะใช้แทนการชำระหนี้
(มาตรา
๗๔๑)
๓.๒
กรณีxxxxxxxxxxxยอมรับคำเสนอ
ก.
ถ้าเจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดไม่ยอมรับคำเสนอ
เจ้าหนี้คนนั้นต้องฟ้องคดีต่อศาลภายในเดือนหนึ่งนับแต่xxxxxคำเสนอเพื่อให้ศาลพิพากษาสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้น
แต่ว่าเจ้าหนี้นั้นจะต้องปฏิบัติการดั่งจะกล่าวต่อไปนี้ด้วย
คือ
(๑)
ออกเงินทดรองค่าฤชาธรรมเนียมการขายทอดตลาด
(๒)
ต้องเข้าสู้ราคาเอง
หรือแต่งคนเข้าสู้ราคาเป็นจำนวนเงินสูงกว่าที่ผู้รับโอนเสนอจะใช้
(๓)
xxxxxxxxการที่ตนไม่ยอมนั้นให้ผู้รับโอนและเจ้าหนี้คนอื่นๆ
บรรดาได้จดทะเบียน
กับทั้งเจ้าของทรัพย์คนก่อนและลูกหนี้ชั้นต้นทราบด้วย
(มาตรา
๗๓๙)
ข.
ถ้าขายทอดตลาดได้เงินจำนวนสุทธิล้ำจำนวนเงินที่ผู้รับโอนเสนอว่าจะใช้
ให้ผู้รับโอนเป็นผู้ออกใช้ค่าฤชาธรรมเนียมในการขายทอดตลาด
ถ้าxxxxxxถึงล้ำจำนวนให้เจ้าหนี้ผู้ร้องขอให้ขายทอดตลาดเป็นผู้ออก
(มาตรา
๗๔๐)
ค.
ถ้าการบังคับจำนองก็ดี
ถอนจำนองก็ดี
เป็นเหตุให้ทรัพย์สินซึ่งจำนองหลุดมือไปจากบุคคลผู้ได้ทรัพย์สินนั้นไว้แต่ก่อน
การที่ทรัพย์สินหลุดมือไปxxxxนั้นหามีผลย้อนหลังไม่
และบุริมสิทธิทั้งหลายของเจ้าหนี้แห่งผู้ที่ทรัพย์หลุดมือไปxxxxxอยู่เหนือทรัพย์สินและได้จดทะเบียนไว้นั้น
ก็ย่อมเข้าอยู่ในลำดับหลังบุริมสิทธิอันเจ้าหนี้ของผู้จำนองหรือเจ้าของคนก่อนได้จดทะเบียนไว้
ในกรณีxxxxนี้
ถ้าxxxxxใด ๆ
xxxxxอยู่เหนือทรัพย์สินซึ่งจำนองเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลผู้ได้ทรัพย์สินซึ่งจำนองไว้แต่ก่อนได้ระงับไปแล้วด้วยเกลื่อนกลืนกันในขณะxxxxxxทรัพย์สินxxxxxx
xxxxxนั้นให้กลับคืนมาเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลผู้นั้นได้อีก
ในเมื่อทรัพย์สินซึ่งจำนองกลับหลุดมือไป
(มาตรา
๗๔๒)
ข้อสังเกต
(๑)
บังคับจำนอง
หมายxxx
xxxฟ้องบังคับจำนองเอาทรัพย์สินที่จำนองออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามมาตรา
๗๒๘ ,
๗๓๕
แต่ไม่รวมถึงเอาทรัพย์จำนองหลุดเป็นxxxxxตามมาตรา
๗๒๙
(๒)
ถอนจำนอง
หมายxxx xxxขอไถ่ถอนจำนองตามมาตรา
๗๓๖
แต่xxxxxxxxxxxยอมจึงมีการฟ้องขอให้ศาลพิพากษาสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จำนองตามมาตรา
000 xxxเป้นเหตุให้ทรัพย์สินซึ่งจำนองหลุดมือ
(๓)
บุคคลผู้ได้ทรัพย์สินนั้นไว้แต่ก่อน
หมายถึง
ผู้xxxxxxรับโอนทรัพย์สินที่จำนองเป็นคนสุดท้ายก่อนการขายทอดตลาด
(๔)
หามีผลย้อนหลังไม่
หมายถึง
เดิมมีจำนองหรือxxxxxxxxxxxxxได้จดทะเบียนไว้มีลำดับอย่างไร
เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองแล้ว
การโอนและการรับโอนทรัพย์นั้นไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงลำดับxxxxxxจดทะเบียนไว้
ผู้รับโอนทำให้ทรัพย์สินซึ่งจำนองเสื่อมราคาหรือxxxxxราคา
ถ้าผู้รับโอนได้ทำให้ทรัพย์สินซึ่งจำนองเสื่อมราคาลงเพราะการกระทำหรือความประมาทเลินเล่อแห่งตน
เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ทั้งหลายผู้มีxxxxxจำนองหรือบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินนั้นต้องเสียหาย
ผู้รับโอนจะต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น
อย่างไรก็ดีอันผู้รับโอนจะเรียกเอาเงินจำนวนใด
ๆ ซึ่งตนได้ออกไป
หรือเรียกให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายที่ตนได้ทำให้ทรัพย์สินดีขึ้นนั้น
หาอาจจะเรียกxxxxxx
เว้นแต่ที่เป็นการทำให้ทรัพย์สินนั้นงอกราคาขึ้นและจะเรียกได้เพียงเท่าจำนวนราคาxxxxxxขึ้นเมื่อขายทอดตลาดเท่านั้น
(มาตรา
๗๔๓)
ความระงับสิ้นแห่งสัญญาจำนอง
(มาตรา
๗๔๔)
๑.
สัญญาจำนองระงับสิ้นไปเมื่อหนี้ที่ประกัน
(หนี้ประธาน)
ข้อสังเกต
(๑)
“หนี้ที่ประกัน”
ตาม (๑)
หมายถึง
หนี้ประธาน
โดยมีเหตุที่ทำให้หนี้ประธานระงับ
สิ้นไปมีอยู่
๕ เรื่อง คือ
(๑.๑)
มีการชำระหนี้ประธานทั้งหมด
(๑.๒)
เจ้าหนี้ปลดหนี้
(มาตรา
๓๔๐)
(๑.๓)
มีการxxxxxxxxxxxx
(มาตรา
๓๔๑-๓๔๘)
(๑.๔)
มีการแปลงหนี้ใหม่
(มาตรา
๓๔๙-๓๕๒)
(๑.๕)
หนี้เกลื่อนกลืนกัน
(มาตรา
๓๕๓)
(๒)
กรณีที่สัญญาจำนองประกันหนี้ประธานเพียงบางส่วน
ผู้จำนองอาจขอชำระหนีเฉพาะตามความรับผิดของตนและเจ้าหนี้ต้องปลดจำนองให้ตามมาตรา
๗๔๔ (๒)
ถ้าลูกหนี้ขอชำระหนี้ไม่ครบถ้วน
เจ้าหนี้ก็มีxxxxxxxxxxxการชำระหนี้หรือรับชำระหนี้นั้นแต่ไม่ยอมจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองให้เพราะสัญญาจำนองยังไม่ระงับ
(๓)
เมื่อเจ้าหนี้ฟ้องบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ประธานและได้รับชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว
เจ้าหนี้มีหน้าที่จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองทรัพย์สินที่จำนองเป็นประกันหนี้นั้น
(๔)
หนี้ประธานที่ขาดอายุความไม่ทำให้หนี้จำนองระงับ
กล่าวคือ เมื่อหนี้ประธานขาดอายุความแล้ว
ผู้จำนองยังxxต้องรับผิดxxxxxxxxจำนองตามมาตรา
๗๔๕ และมาตรา ๑๙๓/๒๗
ซึ่งแตกต่างจากผู้ค้ำประกันที่มีxxxxxตามมาตรา
๖๙๔ ที่จะยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ชั้นต้นขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้ได้
(ต่อสู้ว่าหนี้ขาดอายุความ)
ซึ่งมีผลให้ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้น
๒.
สัญญาจำนองระงับสิ้นไปเมื่อปลดจำนองให้แก่ผู้จำนองด้วยหนังสือเป็นสำคัญ
๓.
สัญญาจำนองระงับสิ้นไปเมื่อผู้จำนองหลุดพ้น
ข้อสังเกต
เป็นกรณีที่บุคคลคนเดียวจำนองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นชำระ
โดยนำเรื่องการค้ำประกันตามมาตรา
๖๙๗ ,
๗๐๐
และ ๗๐๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
๔.
สัญญาจำนองระงับสิ้นไปเมื่อมีการถอนจำนอง
ข้อสังเกต
การถอนนี้ต้องมีเงื่อนไขว่าเจ้าหนี้ทั้งหลายต้องยอมรับคำเสนอของผู้รับโอนและมีการชำระหนี้แล้วจึงจะมีผลทำให้จำนองหรือบุริมสิทธิเป็นอันไถ่ถอนและระงับสิ้นไป
๕.
สัญญาจำนองระงับสิ้นไปเมื่อขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองตามคำสั่งศาลอันเนื่องมาแต่การบังคับจำนองหรือถอนจำนอง
๖.
สัญญาจำนองระงับสิ้นไปเมื่อเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองนั้นหลุดเป็นxxxxxตามมาตรา
๗๒๙
การเปลี่ยนแปลงหรือระงับจำนองต้องจดทะเบียน
การชำระหนี้ไม่ว่าครั้งใด
ๆ สิ้นเชิงหรือแต่บางส่วนก็ดี
การระงับหนี้อย่างใดๆ ก็ดี
การตกลงกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนองหรือหนี้อันจำนองเป็นประกันนั้นเป็นประการใดก็ดี
ต้องนำความไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในเมื่อxxxxขอร้องของผู้มีส่วนได้เสีย
มิฉะนั้นห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก
(มาตรา
๗๔๖)
ข้อสังเกต
กฎหมายxxxxxxห้ามยกขึ้นต่อสู้กันเองระหว่างผู้จำนองและผู้รับจำนอง
ห้ามเฉพาะมิให้ยกขึ้นต่อสู้บุคคลภายนอก
จำนำ
ภาพรวมของจำนำ
๑.
จำนำเป็นสัญญาระหว่างผู้จำนำกับผู้รับจำนำ
โดยผู้จำนำต้องส่งมอบทรัพย์สินที่จำนำให้แก่ผู้รับจำนำเพื่อเป็นหระกันการชำระหนี้
๒.
ผู้จำนำอาจเป็นลูกหนี้หรือบุคคลที่สามก็ได้
๓.
ลูกหนี้xxxxxxxxxชำระหนี้
เจ้าหนี้ได้แต่เพียงบังคับทรัพย์จำนำขายทอดตลาดโดยไม่ต้องฟ้องคดีต่อศาล
แต่จะฟ้องให้ผู้จำนำซึ่งเป็นบุคคลสามชำระหนี้xxxxxx
๔.
เจ้าหนี้ขายทอดตลาดแล้วได้เงินมาไม่พอชำระหนี้
ลูกหนี้ชั้นต้นยังต้องรับผิดในหนี้xxxxxxxxxxxxxxx
xxxxผู้จำนำซึ่งเป็นบุคคลที่สามไม่ต้องรับผิดอีกต่อไป
๕.
สัญญาจำนำไม่ต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ
แต่การจำนำจะต้องส่งมอบทรัพย์สินให้แก่ผู้รับจำนำเป็นสำคัญ
๖.
เจ้าหนี้ยอมให้ทรัพย์สินจำนำกลับคืนไปสู่การครอบครองของผู้จำนำ
สัญญาจำนำย่อมระงับไป
ผู้จำนำไม่ต้องรับผิดอีกต่อไป
แต่ลูกหนี้ยังxxต้องรับผิดตามมูลหนี้ประธาน
ลักษณะของสัญญาจำนำ
มาตรา
๗๔๗ อันว่าจำนำนั้น
คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง
เรียว่าผู้จำนำส่งมอบสังหาริมทรัพย์สิ่งหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง
เรียกว่าผู้รับจำนำ
เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้
๑.
ทรัพย์สินที่จำนำต้องเป็นสังหาริมทรัพย์
๒.
ต้องส่งมอบทรัพย์สินที่จำนำแก่ผู้รับจำนำเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้
๓.
หนี้xxxxxxxxจำนำเป็นหนี้อุปกรณ์
๔.
ผู้จำนำต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่จำนำ
ข้อxxxxxx
xxxผู้จำนำไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่จำนำ
ผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงมีxxxxxตามมาตรา
๑๓๓๖
ที่จะติดตามเอาทรัพย์สินที่จำนำคืนได้โดยไม่จำเป็นต้องไถ่ถอน
แต่ถ้าเจ้าของทรัพย์ทำให้ผู้รับจำนำเข้าใจผิดว่าผู้จำนำเป็นเจ้าของทรัพย์นั้น
เจ้าของทรัพย์จะติดตามเอาทรัพย์นั้นคืนโดยไม่ไถ่จำนำxxxxxx
ทรัพย์สินที่จำนำประกันหนี้อะไรบ้าง
การจำนำนั้นย่อมเป็นประกันเพื่อการชำระหนี้กับทั้งค่าอุปกรณ์ต่อไปนี้ด้วย
คือ (มาตรา
๗๔๘)
(๑)
ดอกเบี้ย
(๒)
ค่าสินไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้
(๓)
ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจำนำ
(๔)
ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาทรัพย์สินซึ่งจำนำ
(๕)
ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่ความชำรุดบกพร่องแห่งทรัพย์สินจำนำซึ่งไม่เห็นxxxxxxxx
ข้อสังเกต
ไม่ใช่บทบัญญัติเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมxxxxxของประชาชน
คู่สัญญาจะตกลงยกเว้นหรือให้แตกต่างไปจากมาตรานี้ก็ได้
การจำนำxxxxxซึ่งมีตราสาร
๑.
จำนำxxxxxซึ่งมีตราสารทั่วไป
ถ้าทรัพย์สินที่จำนำเป็นxxxxxซึ่งมีตราสาร
และมิได้ส่งมอบตราสารนั้นให้แก่ผู้รับจำนำ
ทั้งมิได้xxxxxxxxเป็นหนังสือแจ้งการจำนำแก่ลูกหนี้แห่งxxxxxนั้นด้วย
การจำนำย่อมเป็นโมฆะ (มาตรา
๗๕๐)
๒.
จำนำตราสารชนิดออกให้แก่บุคคลเพื่อเขาxxxx
xxxจำนำตราสารชนิดออกให้แก่บุคคลเพื่อเขาสั่ง
ห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก
เว้นแต่จะได้สลักหลังไว้ที่ตราสารให้ปรากฏการจำนำxxxxนั้น
อนึ่ง ในการนี้ไม่จำเป็นต้องxxxxxxxxแก่ลูกหนี้แห่งตราสาร
(มาตรา
๗๕๑)
๓.
จำนำตราสารชนิดออกให้แก่บุคคลโดยนาม
ถ้าจำนำตราสารชนิดออกให้แก่บุคคลโดยนามและจะโอนกันด้วยxxxxxxxxxxxได้
ต้องจดข้อความแสดงการจำนำไว้ให้ปรากฏในตราสารนั้นเอง
และห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ลูกหนี้แห่งตราสารหรือบุคคลภายนอก
เว้นแต่จะได้xxxxxxxxการจำนำนั้นให้ทราบถึงลูกหนี้แห่งตราสาร
(มาตรา
๗๕๒)
๔.
จำนำใบหุ้นหรือใบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อ
ถ้าจำนำใบหุ้น
หรือใบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อ
ห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บริษัทหรือบุคคลภายนอก
เว้นแต่จะได้จดลงทะเบียนการจำนำนั้นไว้ในสมุดของบริษัทตามบทบัญญัติทั้งหลายว่าด้วยการโอนหุ้นหรือหุ้นกู้
(มาตรา
๗๕๓)
xxxxxและหน้าที่ของผู้จำนำและผู้รับจำนำ
xxxxxของผู้รับจำนำ
๑.
xxxxxxxxจะยึดทรัพย์สินที่จำนำไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ครบถ้วน
(มาตรา
๗๕๘)
๒.
xxxxxxxxจะเอาดอกผลxxxxxxxของทรัพย์สินที่จำนำมาชำระหนี้
(มาตรา
๗๖๑)
ข้อxxxxxx
xxxเป็นจำนองดอกผลของทรัพย์ที่จำนองรวมทั้งดอกผลธรรมดาและดอกผลxxxxxxx
๓.
xxxxxxxxจะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้สามัญ
๔.
xxxxxของผู้รับจำนำกับxxxxxของเจ้าหนี้บุริมสิทธิอื่น
ใครมีxxxxxxxxรับชำระหนี้จากทรัพย์จากทรัพย์สินนั้นก่อนต้องพิจารณาตามมาตรา
๒๘๒ และ ๒๘๗
มาตรา
๒๘๒ เมื่อมีบุริมสิทธิแย้งกับxxxxxจำนำสังหาริมทรัพย์
ท่านว่าผู้รับจำนำย่อมมีxxxxxเป็นอย่างเดียวกันกับผู้ทรงบุริมสิทธิในลำดับที่หนึ่งดังที่เรียงไว้ในมาตรา
๒๗๘ นั้น
มาตรา
๒๗๘
เมื่อมีบุริมสิทธิแย้งกันหลายรายเหนือสังหาริมทรัพย์อันหนึ่งอันเดียวกัน
ท่านให้ถือลำดับก่อนหลังดังที่เรียงไว้ต่อไปนี้
คือ
(๑)
บุริมสิทธิในมูลเช่าอสังหาริมทรัพย์
xxxอาศัยในโรงแรมและรับขน
(๒)
บุริมสิทธิในมูลรักษาสังหาริมทรัพย์
แต่ถ้ามีบุคคลหลายคนเป็นผู้รักษาท่านว่าผู้ที่รักษาภายหลังอยู่ในลำดับก่อนผู้xxxxxxรักษาxxxxxx
(๓)
บุริมสิทธิในมูลซื้อขายสังหาริมทรัพย์
ค่าเมล็ดพันธุ์ ไม้พันธุ์
หรือปุ๋ย
และค่าแรงงานกxxxรมและอุตสาหกรรม
ถ้าบุคคลผู้ใดมีบุริมสิทธิอยู่ในลำดับเป็นที่หนึ่ง
และรู้อยู่ในขณะที่ตนได้ประโยชน์แห่งหนี้xxxxxx
ว่ายังมีบุคคลอื่นซึ่งมีบุริมสิทธิอยู่ในลำดับที่สองหรือที่สามxxxx
ท่านห้ามมิให้บุคคลผู้นั้นใช้xxxxxในการที่ตนอยู่ในลำดับก่อนนั้นต่อบุคคลอื่นxxxxว่ามา
และท่านห้ามมิให้ใช้xxxxxxxxต่อผู้ที่xxxxxxxxxxxxxxไว้
เพื่อประโยชน์แก่บุคคลผู้มีบุริมสิทธิในลำดับที่หนึ่งนั้นเองด้วย
ในxxxxxxxผล
ท่านให้บุคคลผู้ได้ทำการงานกสิกรรมอยู่ในลำดับที่หนึ่ง
ผู้ส่งเมล็ดพันธุ์ ไม้พันธุ์
หรือปุ๋ย อยู่ในลำดับที่สอง
และให้ผู้เช่าที่ดินอยู่ในลำดับที่สาม
หน้าที่ของผู้รับจำนำ
๑.
ต้องรักษาและสงวนทรัพย์สินที่จำนำ
ผู้รับจำนำจำต้องรักษาทรัพย์สินจำนำไว้ให้ปลอดภัย
และต้องสงวนทรัพย์สินจำนำนั้นxxxxอย่างวิญญูชนจะxxxxxxxทรัพย์สินของตนเอง
(มาตรา
๗๕๙)
ข้อสังเกต
นอกจากผู้รับจำนำจะเป็นผู้เก็บรักษาเอกสารมาตรา
๗๔๙
xxxxxxxให้คู่สัญญาจำนำจะตกลงกันให้บุคคลภายนอกเป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์สินจำนำไว้ก็ได้
แต่ถ้าตกลงกันให้ผู้จำนำเป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์สินนั้น
นักกฎหมายส่วนใหญ่เห็นว่าทำไม่ได้
๒.
ถ้าผู้รับจำนำเอาทรัพย์สินซึ่งจำนำออกใช้เอง
หรือเอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยหรือเก็บรักษาโดยผู้จำนำมิได้ยินยอมด้วย
ผู้รับจำนำจะต้องรับผิดเพื่อที่ทรัพย์สินจำนำนั้นสูญหาย
หรือบุบสลายไปอย่างใดๆ
แม้ทั้งเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย
เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไร
ๆ ก็xxxxต้องสูญหาย
หรือบุบสลายอยู่นั่นเอง
(มาตรา
๗๖๐)
ข้อสังเกต
กรณีผู้รับจำนำเอาทรัพย์สินที่จำนำไปใช้โดยความยินยอมของผู้จำนำ
ถ้าทรัพย์สินที่จำนำสูญหายหรือบุบสลาย
โดยxxxxแล้วผู้รับจำนำไม่ต้องรับผิด
แต่ถ้าผู้รับจำนำจงใจหรือประมาทเลินเล่อไม่ระวังรักษาให้ดีเป็นเหตุให้ทรัพย์สินที่จำนำเสียหาย
ผู้รับจำนำยังxxต้องรับผิดฐานละเมิด
xxxxxของผู้จำนำ
๑.
xxxxxไถ่ถอนจำนำ
๒.
xxxxxxxxจะได้รับเงินใช้คืนจากลูกหนี้
หน้าที่ของผู้จำนำ
๑.
ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาทรัพย์สินจำนำ
เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญา
(มาตรา
๗๖๒)
๒.
ต้องไม่ทำให้xxxxxxxxนำไปจำนำเสียหายหรือสิ้นไป
(มาตรา
๗๕๕)
อายุความ
ห้ามมิให้ฟ้องคดีดังต่อไปนี้
เมื่อพ้นหกเดือนนับแต่วันส่งคืน
หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินจำนำ
คือ (มาตรา
๗๖๓)
(๑)
ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความบุบสลายอันผู้รับจำนำก่อให้xxxxxxxทรัพย์สินจำนำ
(๒)
ฟ้องเรียกให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายเพื่อการบำรุงรักษาทรัพย์สินจำนำ
(๓)
ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันxxxxxxxผู้รับจำนำ
เพราะความชำรุดบกพร่องในทรัพย์สินจำนำซึ่งไม่เห็นxxxxxxxx
การบังคับจำนำ
การบังคับจำนำทรัพย์สินทั่วไป
เมื่อจะบังคับจำนำ
ผู้รับจำนำต้องxxxxxxxxเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้ก่อนว่า
ให้ชำระหนี้และอุปกรณ์ภายในเวลาอันควรซึ่งกำหนดให้ในxxxxกล่าวนั้น
ถ้าลูกหนี้xxxxxxxxปฏิบัติตามคำxxxxxxxx
ผู้รับจำนำชอบที่จะเอาทรัพย์สินซึ่งจำนำออกขายได้
แต่ต้องขายทอดตลาด อนึ่ง
ผู้รับจำนำต้องมีจดหมายxxxxxxxxไปยังผู้จำนำบอกเวลาและสถานที่ซึ่งจะขายทอดตลาดด้วย
(มาตรา
๗๖๔)
ข้อสังเกต
(๑)
ตราบใดที่ผู้รับจำนำยังxxxxxxบังคับจำนำมีxxxxxไถ่ถอนจำนำได้
(๒)
ถ้าผู้รับจำนำบังคับจำนำโดยxxxxxxxxxxxxxxหรือการxxxxxxxxxxxชอบตามมาตรา
๗๖๔ การขายทอดตลาดไม่เป็นโมฆะ
แต่ผู้รับจำนำจะต้องรับผิดชอบถ้าขายทอดตลาดได้ราคาต่ำกว่าราคาอันแท้จริงของทรัพย์สินนั้น
ถ้าไม่xxxxxxจะxxxxxxxxก่อนได้
ผู้รับจำนำจะเอาทรัพย์สินจำนำออกขายทอดตลาดเสียในเมื่อหนี้ค้างชำระมาล่วงเวลาเดือนหนึ่งแล้วก็ให้ทำได้
(มาตรา
๗๖๕)
การบังคับจำนำตั๋วเงิน
ถ้าจำนำตั๋วเงิน
ให้ผู้รับจำนำเก็บเรียกเงินตามตั๋วเงินนั้นในวันถึงกำหนด
ไม่จำเป็นต้องxxxxxxxxก่อน
(มาตรา
๗๖๖)
ข้อสังเกต
ผู้รับจำนำไม่จำเป็นต้องเอาตั๋วเงินออกขายทอดตลาด
xxxxxxเอาไปเรียกเก็บเงินตามxxxxxxxเลย
ถ้าเรียกเก็บเงินแล้วได้เงินเกินกว่าหนี้ที่รับจำนำไว้และค่าอุปกรณ์ตามมาตรา
๗๔๘
ก็ต้องคืนเงินส่วนที่เกินให้แก่ผู้จำนำ
การบังคับจำนำกรณีจำนำทรัพย์สินหลายสิ่งประกันหนี้รายเดียว
การบังคับจำนำเป็นไปตามมาตรา
๗๖๔ ,
๗๖๕
,
๗๖๖
คือ จะต้องxxxxxxxxเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้และผู้จำนำ
เว้นแต่เป็นการรับจำนำตั๋วเงินหรือไม่xxxxxxxxxxxxxxxxx
และมีบทบัญญัติเฉพาะสำหรับกรณีตามมาตรา
๗๖๘
ทรัพย์สินที่จำนำมีหลายสิ่งจำนำเพื่อประกันหนี้รายเดียวกัน
ผู้รับจำนำมีxxxxxxxxจะเลือกขายทอดตลาดทรัพย์สินสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อนก็ได้
แต่ต้องเป็นการขายเท่าที่จำเป็นเพื่อการชำระหนี้
(มาตรา
๗๖๘)
ผลภายหลังการบังคับจำนำ
๑.
เมื่อขายทอดตลาดได้เงินมาก็ต้องหักค่าใช้จ่ายในการขายทอดตลาดxxxx
xxxxที่เหลือค่อยเอาไปชำระหนี้
เริ่มด้วยชำระหนี้อุปกรณ์ก่อนเสร็จแล้วถึงชำระหนี้ต้นเงิน
เมื่อชำระหนี้ต้นเงินหมดแล้ว
ถ้ายังมีเงินเหลือจึงคืนให้แก่ผู้จำนำหรือบุคคลอื่นผู้ควรจะได้เงินนั้น
(มาตรา
๗๖๗ วรรคแรก)
๒.
ลูกหนี้ยังxxต้องรับผิดใช้หนี้ส่วนที่ขาดตามมูลหนี้ประธาน
(มาตรา
๗๖๗ วรรคสอง)
๓.
ผู้จำนำสัญญาว่าถ้าบังคับจำนำแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้
ผู้จำนำยอมรับผิดชำระหนี้ส่วนที่ขาด
เจ้าหนี้ก็มีxxxxxตามข้อตกลง
การบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินอื่นของผู้จำนำก็ว่าไปตามการบังคับตามหนี้สามัญ
เมื่อขายทอดตลาดได้เงินมาแล้วเจ้าหนี้ไม่มีxxxxxxxxรับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นเพราะไม่ใช่เงินxxxxxxมาจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จำนำ
ความระงับสิ้นไปแห่งการจำนำ
(มาตรา
๗๖๙)
(๑)
เมื่อหนี้ซึ่งจำนำเป็นประกันอยู่นั้นระงับสิ้นไปเพราะเหตุประการอื่นมิใช่เพราะอายุความ
หรือ
(๒)
เมื่อผู้รับจำนำยอมให้ทรัพย์สินจำนำกลับคืนไปสู่ครอบครองของผู้จำนำ
การจำนำเป็นเรื่องเอาทรัพย์ไปให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้
เมื่อหนี้ประธานระงับหนี้จำนำซึ่งเป็นหนี้อุปกรณ์ก็ต้องระงับไปด้วย
ข้อสังเกต
(๑)
กรณีที่มีการแปลงหนี้ใหม่ถ้าxxxxxxตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
จำนำซึ่งประกันหนี้เดิมย่อมระงับไป
แต่ถ้าตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นก็ต้องเป็นไปตามข้อตกลง
ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรา
๓๕๒
มาตรา
๓๕๒
คู่กรณีในการแปลงหนี้ใหม่อาจโอนxxxxxจำนำหรือจำนองxxxxxxให้ไว้เป็นประกันหนี้เดิมนั้นไปเป็นประกันหนี้รายใหม่ได้
เพียงเท่าที่เป็นประกันวัตถุแห่งหนี้เดิม
แต่หลักประกันxxxxว่านี้
ถ้าบุคคลภายนอกเป็นผู้ให้ไว้xxxx
ท่านว่าจำต้องได้รับความยินยอมของบุคคลภายนอกนั้นด้วยจึงโอนได้
(๒)
หนี้ประธานขาดอายุความหนี้จำนำไม่ระงับ
(๓)
หนี้ประธานขาดอายุความแล้วแม้ลูกหนี้ชั้นต้นจะมีxxxxxปฏิเสธไม่ชำระหนี้
แต่เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้รับจำนำก็มีxxxxxตามมาตรา
๑๙๓/๒๗
ที่จะบังคับจำนำเอาแก่ทรัพย์สินที่จำนำได้
มาตรา
๑๙๓/๒๗
ผู้รับจำนอง ผู้รับจำนำ
ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วง
หรือผู้ทรงบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้อันตนได้ยึดถือไว้
ยังxxมีxxxxxบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนอง
จำนำ หรือxxxxxxยึดถือไว้
แม้ว่าxxxxxเรียกร้องส่วนที่เป็นประธานจะขาดอายุความแล้วก็ตาม
แต่จะใช้xxxxxนั้นบังคับให้ชำระดอกเบี้ยที่ค้างย้อนหลังเกินห้าปีขึ้นไปxxxxxx
(๔)
ผู้ซื้อทรัพย์สินจำนำจากการขายทอดตลาดก็ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อและการครอบครองของผู้รับจำนำก็เป็นอันสิ้นสุด
ดังนี้จำนำระงับสิ้นไปด้วย