Contract
สารบัญ
A. คําแนะนําการใช้ไอวี่ชีทกฎหมาย (xxxxxอ่านเพื่อเข้าใจ Step การใช้ชีท) 2
B. สถิติข้อสอบเก่า 6
Part A: หลักเนื้อหา, พื้นฐานสําคัญ และสิ่งที่ต้องรู้เพื่อนําไปสอบ (LAW1103(3) นิติกรรมสัญญา)
บทที่ 1* ภาพรวมความเข้าใจของวิชานิติกรรมสัญญา (**ห้ามอ่านข้ามบทนี้**) 9
บทที่ 2 นิติกรรมและการแสดงxxxxx 17
บทที่ 3 วัตถุประสงค์และแบบของนิติกรรม 25
1. นิติกรรม
บทที่ 4 xxxxxxxxxเร้นและxxxxxลวง
ออกสอบ 2 ข้อ 33
บทที่ 5 สําคัญผิด,กลฉ้อฉล,ข่มขู่ 37
บทที่ 6 โมฆะกรรมและโมฆียะกรรม 48
บทที่ 7 เงื่อนไขฯ, ระยะเวลาและอายุความ (ข้อตัดเกรด)
ออกสอบ 1 ข้อ*** 54
บทที่ 8 คําเสนอและคําxxxx 69
2. สัญญา
บทที่ 9 ผลของสัญญาและการเลิกสัญญา
ออกสอบ 1 ข้อ 75
Part B: ตะลุยโจทย์ตัวอย่างและวิธีการเขียนตอบข้อสอบ 88
Part C: แบบฝึกหัดแบบปรนัย (กากบาท) พร้อมเฉลย 111
วิชานี้ใช้สมองxxxxxxxxมากและต้องมี [ความเข้าใจ**] + [ตัวบทแม่นครบ] + [เขียนอธิบาย] = A
**ถ้านักศึกษาทําข้อ 3 xxxxxx โอกาสตกxxxxxxxxสูงมากเพราะเป็นเรื่องที่นักนิติศาสตร์ทุกคนต้องรู้**
วิชาพื้นฐานของคณะxxxxxxxxxxในส่วนของ กฎหมายแพ่ง (นิติกรรม, หนี้, ละเมิด, ทรัพย์) xxxxxxเก็บเกรด B,B+ หรือ A
ข้อ 1 – 2
ออกได้ 5 แบบ
เลือกออก 2 แบบ
ข้อ 3
ออกได้ 2 แบบ
ข้อ 4 (ห้ามทิ้ง)
ออกได้ 5 แบบ
วิชานี้จัดเป็นวิชาพื้นฐานของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทั้งหมด โดยเนื้อหาจัดอยู่ในบรรพที่ 2 อัน เป็นเรื่องของหลักกฎหมายทั่วไป (เป็น Subset ของวิชาหนี้) และเป็นวิชาแม่ของเอกเทศสัญญา บรรพ 3 ทั้ง 26 เอกเทศสัญญา ถ้าวิชานี้ทําเกรดได้ B ขึ้นไป ชีวิตต่อจากนี้ไม่ยากแล้ว
A. คําแนะนําการใช้ไอวี่ชีทกฎหมายวิชา LAW1103(3) นิติกรรมและสัญญา
สูตรสมการที่จะใช้ในไอวี่ชีทกฎหมายทุกวิชาเพื่อใช้สอบผ่านครั้งเดียวหรือทำเกรด
[1. รู้และเข้าใจ] x [2. ปรับใช้เป็น] x [3. เขียนxxxxx] = [A,B+,B..F]
*** การศึกษาเล่าเรียนกฎหมายในระดับชั้นxxxxxxตรี คนที่เรียนจบออกไปเป็นxxxxxx ทุกคน อาจจะไม่ใช่คนเก่ง แต่ทุกคนที่จบออกไปต่างเป็น “xxxxxxและxxxxxxxx” ต่างหาก ***
1. SET (เซ็ต) = กลุ่มของสมาชิก, SUBSET (ซับเซ็ต) = เซ็ตที่มีสมาชิกทั้งหมดเป็นของสมาชิกในเซ็ต ตรง นี้เป็นสิ่งที่เรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งจะถูกนำมาใช้ในการเรียนและทำความเข้าใจของคณะนี้ xxxxxxxxมาก ดูจากรูปได้เลย
กำหนดให้ A = เซ็ตของxxxxxxx 7 ในสัปดาห์ {xxxxxxx,จันทร์,xxxxxx,พุธ,พฤหัสบดี,ศุกร์,เสาร์}
กำหนดให้ B = แม่สีหลักทั้งหมด {xxxxxxx, แดง, xxxxxx} กำหนดให้ C = สีใดๆ
2. จากข้อ 4. (ทำความเข้าใจตรงนี้ให้ได้ เพราะใช้ตลอดชีวิต) จะเห็นได้ว่า U แทนxxxxxสัมพัทธ์มัน คือ สมาชิกที่เป็นไปได้ทั้งหมด โดยจะประกอบไปด้วย 3 เซ็ต ได้แก่ U = {A, B, C} ต่อมาถ้ากำหนดโจทย์ให้
a. จงหาสมาชิกที่เป็นแม่สีหลัก และ อยู่ในสัปดาห์ ผลลัพธ์ของคำตอบ คือ { (xxxxxxx, แดง), (จันทร์, xxxxxx) } จะได้ 2 คำตอบเท่านั้น เพราะสีน้ำเงินไม่มีในxxxxxxx 7
i. ยกตัวอย่างการตอบคำถามนอกเซ็ต หรือ ไม่xxxxxxx ได้แก่
1. ตอบวันxxxxxxxxxx x (ขาดการเชื่อมโยงสีแดง)
2. ตอบวันศุกร์, xxxxxxx (วันศุกร์ไม่ใช่สีน้ำเงินแต่เป็นxxxxx เหมือนจะถูกแต่ผิด)
3. ตอบวันxxxxxx, ส้ม (อันนี้ตอบนอกเซ็ต)
ii. โยงไปในเรื่องของคำถามทางคณะxxxxxxxxxx
1. ข้อใดคือพระบิดาแห่งกฎหมายมหาชนไทย และยกตัวอย่างความสำคัญที่เกิดใน ยุคxxxxxxพอสังเขป
a. เซ็ตคำตอบ = {การxxxxxxกฎหมาย, การxxxxxxระบบราชการ, การxxxxxxระบบศาล}
U
B
X
A
Y
Z
C
b. ตอบนอกเซ็ต = {การสร้างทางรถไฟ, การเลิกทาส (ใช่แต่ไม่ใช่เซ็ตที่โจทย์ถาม)}
c. สิ่งเหล่านี้จะxxxxxจากธงคำตอบของทางคณะ ดังนั้นเรื่องเซ็ตจึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ มีนักศึกษาหลาย xx xxxแยกประเด็นไม่ออกเลย การตอบจะxxxxx xxxแม่น ไม่ตรง ผู้ตรวจเวลาอ่านกระดาษคำตอบจะ อ่านและตัดคะแนนได้ง่าย คล้าย ๆ กับการถามว่า “ไปเชียงใหม่อย่างไรจากกรุงเทพฯ นักศึกษาxxxxxxแม่น กฎหมาย จะตอบว่าเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังถนนสุขุมวิท ... ตามด้วยข้อความอธิบายเหตุผล ซึ่งถ้าอ่านไปเรื่อย ๆ อาจจะวกเข้าเส้นนครสวรรค์ได้ แต่ไปกลับรถตอนก่อนเข้าชลบุรี แบบนี้ คือ เขียน xxxxx คะแนนจะได้xxxxxเลย เพราะxxxxxxผิด”
3. ในการเรียนและทำข้อสอบวิชา LAW1103(3) นิติกรรมสัญญา ในวิชานี้ ถ้าหากเป็นกรณีของการลงครั้งแรก เมื่อผ่านวิชา LAW1102(2) หลักกฎหมายเอกชนมาแล้ว ลักษณะการลวงของข้อสอบจะคล้าย ๆ กัน แต่จะ สลับxxxxxxxกว่ามาก นักศึกษาxxxxxจำวิธีการเขียนตอบข้อสอบในข้อ 2. และ ข้อ 3. มาใช้อธิบาย โดยทาง ทีมงานอยากให้นักศึกษาวางรูปแบบในการเขียนตอบข้อสอบออกเป็น 3 ส่วน + 1 ส่วน กล่าวคือ
a. ส่วนแรก : วางหลักกฎหมาย
b. ส่วนที่สอง : วินิจฉัยข้อเท็จจริงเข้ากับข้อกฎหมาย
c. ส่วนสุดท้าย : สรุป สั้น ๆ ตามประเด็นที่โจทย์ถาม
d. ***ให้แทรก การอธิบายหลักกฎหมายลงไปในส่วนแรกด้วย***
i. ยกตัวอย่างxxxx หากข้อสอบออกเรื่องมาตรา 150 ยกตัวอย่าง ว่าด้วยเรื่องของการซื้อขาย xxxxxxxxxxxสีดำเพศผู้ตัวหนึ่ง ราคา 5 แสนบาทจากฟาร์มนายไก่ โดยมีการพูดคุยกันกับ นายไข่ จากนั้นนายไข่จึงตอบตกลงกันและโอนเงินให้ทันที แต่ก่อนหน้าxxxxxxxสีดำเพศผู้ตัว นั้นเกิดป่วยตายขึ้นมากระทันและเสียชีวิต ทั้งนายไก่และนายไข่ต่างก็ไม่ทราบ กรณีxxxxนี้ คือ ทรัพย์ซึ่งเป็นวัตถุสำคัญแห่งxxxxxxxxxxxxเป็นการxxxxxxxx คือ เกิดขึ้นxxxxxxแน่นอน และไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะม้าสีดำเพศผู้xxxxxxxxตัวนี้มีตัวเดียวในโลก นิติกรรมซื้อขายนี้ จึงตกเป็นxxxx
xx. ในกรณีการไล่ Step นักศึกษาจะต้องบอกก่อนว่า นิติกรรมหรือสัญญาเกิดขึ้นหรือยัง ? xxx xxxxแล้วมีชื่อสัญญาอะไร ? และเกิดขึ้นตอนไหน ? ผลเป็นอย่างไรก่อน ? หากไม่เกิด หรือ มีกรณีผิดพลาดแบบใด ? ให้ขึ้นย่อหน้าใหม่แล้วอธิบาย
iii. การเขียนอธิบายในข้อ 1 และ ข้อ 2 บางครั้งใช้มาตราสั้น ๆ ไม่ยาว (สมัยก่อนยาว) ให้ นักศึกษาxxxxxxจับคีย์เวิร์ดให้ได้ โดยxxxxxถึงรูปแบบของมาตรา 149 เป็นหลัก แล้วค่อย ๆ แยกออกมา ข้อสอบจะxxxxxxสร้างรูปแบบที่มีการแสดงxxxxxxxxวิปริตหรือผิดไปจาก ใจจริง แล้วถามว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคืออะไร ? (โมฆียะ หรือ xxxx xxxx xxxxxxxใช้บังคับได้ เป็นต้น)
4. จากxxxxxxเกริ่นไปแล้วในไอวี่ชีทวิชา LAW1102(2) หลักกฎหมายเอกชน ที่นักศึกษาจะเจอรูปแบบของ xxxxxx S + V + O และ V ก็คือ วิชาหนี้ ซึ่งนิติกรรมสัญญาเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ดังนั้น เวลาxxxxx มันจะมาได้หลากหลายกรณีมาก ไม่ว่าจะเป็น LAW2105(2) ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้,
LAW2108(2) เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ, LAW2109(2) ยืม ฝากทรัพย์ฯ , LAW2110(2) ค้ำประกัน, LAW2112(2) ประกันภัย, LAW2113(2) ตั๋วเงิน ได้ทั้งหมด แต่เราจะต้องxxxxหรือขยายความที่ตัว V (กรรมเท่านั้น) อย่าไป ยุ่งกับ S (ประธาน) เพราะได้แบ่งเอาไปสอบแล้วในวิชาหลักกฎหมายเอกชนของบุคคล 4 กรณีที่เข้าไปทำนิติ กรรม และไม่ไปยุ่งกับ O (กรรม) เพราะมันจะไปอยู่ในวิชา LAW2101(3) ทรัพย์แทน
5. วิชานี้ ถ้านักศึกษา xxxxxxจำรูปแบบของเซ็ตทั้ง 13 แบบที่อยู่ใน Part B: ได้หมด และ ถ้าหากกลัวลืม เมื่อ ไปถึงห้องสอบ ให้นักศึกษาลิสต์เซ็ตทั้งหมดนี้ เขียนลงในด้านหลัง พร้อมกับชื่อมาตราย่อลงไปด้วย เพราะ หากทำ ๆ ไปอาจจะลืมได้ โดยเฉพาะในข้อ 3 การนับระยะเวลา หรือ อายุความ (xxxxxเรียกร้อง)
6. *****ข้อสอบวิชานี้มักจะออกซ้ำ***** ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่อีกอย่าง คือ การเอาข้อสอบเก่าออกมาทำ หรือ ดู ลักษณะของข้อสอบเก่าให้ได้มากที่สุด หากย้อนหลังได้เกิน 5 ปี จะยิ่งดี กล่าวคือ บางอย่างจะออกไปที่xxxx ซึ่งเวลาทำนักศึกษาจะต้องใช้ความรู้ในหลักกฎหมาย และ รู้ข้อยกเว้น ถ้าหากไม่ทราบ xxxxจะเป็นตัวที่วัด ความเข้าใจของท่านxxxxx
7. ***** xxxxในการไล่ หรือ การจำ วิชาxxxxxxxxxxx ถือเป็น “หลักกฎหมายทั่วไป” xxxxxxxไว้ในบรรพ 2 แห่ง xxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น สิ่งที่ตามมาจาก “หลัก” คือ “ข้อยกเว้นหลักทั่วไป” นักศึกษาต้อง ทราบ เมื่อหากกรณีที่จะปรับมันไม่เข้าทั้งหลัก หรือ เข้าทั้งข้อยกเว้น ต่อไปมันจะวิ่งไปที่ “หลักกฎหมาย เฉพาะ” ยกตัวอย่างxxxx วิ่งxxxxxxxxxหลักของซื้อขาย, หลักของเช่าทรัพย์, หลักของสัญญายืม เป็นต้น จากนั้น ถ้ามันไม่เข้า “หลักของกฎหมายเฉพาะ” มันก็จะวิ่งไปเข้า “ข้อยกเว้นหลักกฎหมายเฉพาะ” นั่นเอง ฉะนั้น ถ้าหากเจอข้อเท็จจริงxxxxxxได้ใช้หลักอะไรได้เลย xxxx การxxxxxxxการนับระยะเวลา หรือ อายุความอะไรต่าง ๆ เจ้ากฎหมายเฉพาะจะไม่ยุ่ง แต่มันจะเอามาสร้างไว้ที่ บรรพ 2 เรื่องระยะเวลาและอายุความแทน
8. ยกตัวอย่าง กรณีของปลาและพวกอีกหลายคนได้แต่งตัวคล้ายตำรวจเข้าไปในบริเวณบ้านของนายไก่ โดย บอกว่า “บ้านและที่ดินตกเป็นของตนแล้ว หากต้องการที่จะxxxxxxการทำที่ดินผืนนี้เป็นโรงงานต่อจะต้องให้ เงินแก่ตนเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท” ซึ่งจริง ๆ แล้วนายไก่เป็นหนี้แก่นายปลาเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท ดังนั้น นายไก่เกิดความxxxxxxxได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากนายปลา อยากทราบว่าสัญญากู้ยืมเงินนี้มีผลเป็น อย่างไร ?
a. Step แรกที่ต้องวิเคราะห์ คือ หาให้ได้ก่อนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอะไร คำตอบคือ การข่มขู่
b. ต่อมาจะเหลือตัวเลือก คือ ข่มขู่แบบ มาตรา 164 หรือ 165
c. จากกรณีจะเห็นได้ว่า “โจทย์ได้ใช้คำว่า เกิดความกลัว, ปลาและพวกอีกหลายคน บ้านและที่ดินตก เป็นของตนแล้ว” จึงตีความข้อเท็จจริงเข้ากับมาตรา 164 เพราะถ้าจะใช้ 165 ปลาจะต้องใช้เป็นจะ ขู่ว่าจะฟ้องคดีต่อศาลในมูลหนี้ก่อนหน้า 3 ล้านบาท
สรุป สัญญากู้ยืมเงินนี้มีxxxxxxxxxใช้บังคับกันได้ เพราะการข่มขู่ตาม 164 ต้องเป็นภัยร้ายแรงและใกล้จะถึง โดยการติดตามxxxxxxชำระหนี้เป็นxxxxxxxxxxxxใช้คำพูดไม่เหมาะสมเท่านั้น
9. วิชานี้ถูกทําขึ้นมาอัปเดตชีทตัวเดิมให้มีความxxxxxxxxxง่ายขึ้น ดังนั้น มันจะเปลี่ยนวิธีการเตรียมตัวไปสอบของ นักศึกษาไปตลอด และxxxxxอย่านําออกไปเผยแพร่ทางสื่อใดๆ
10. xxxxการเรียนในวิชากฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะมุ่งให้เราเข้าใจพื้นฐานก่อน แต่อันนี้จะเป็นอีกวิธีการหนึ่ง คือ ใช้วิธีการดูข้อสอบเก่าก่อน แล้วค่อยโยงมาถึงเนื้อหาปัจจุบัน (ใช้กับวิชาที่มีเนื้อหาxxxxxxxxมาก) เราจะได้ รู้วิธีการที่จะแบ่งเนื้อหาและความสําคัญ โดยสรุปได้ดังนี้ คือ
a. ข้อสอบข้อที่ 1 จะxxxxxxออกได้ 5 แบบ (เลือกออก 1 แบบ) **ใช้ 5 แบบเดียวกันกับข้อ 2
b. ข้อสอบข้อที่ 2 จะxxxxxxออกได้ 5 แบบ (เลือกออก 1 แบบ) **ใช้ 5 แบบเดียวกันกับข้อ 1
c. ข้อสอบข้อที่ 3 จะxxxxxxออกได้ 2 แบบ (เลือกออก 1 แบบ)
d. ข้อสอบข้อที่ 4 จะxxxxxxออกได้ 5 แบบ (เลือกออก 1 แบบ)
e. เมื่อไปถึงห้องสอบ ให้พลิกข้อสอบแล้วเขียนข้อมูลทั้ง 12 แบบนี้ลงไป (จะอยู่ใน Part B: หน้าแรก)
f. จากนั้นค่อยเปิดดูเนื้อหาข้อสอบว่าอาจารย์ออกสอบในเรื่องอะไรก่อน แล้วค่อยลิสต์มาตราออกมา จากนั้นขยาย โดยให้อธิบายหลักกฎหมายก่อนทุกครั้ง xxxx เมื่อดูข้อสอบข้อ 1 พบว่า :-
i. ถ้าข้อสอบออกในเรื่อง “ผิดแบบ ผิดบุคคล ผิดทรัพย์” ซึ่งไปอยู่ในเรื่องของ “เหตุแห่งโมฆะ กรรม” ในชุด B มาตรา 150, 152, 154, 155, 156
ii. กล่าวคือ ข้อสอบชุดนี้ เค้าเลือกที่จะออกข้อสอบ ชุด B ไปแล้วในข้อ 1. ดังนั้น xxxxxxx 5 แบบ จะไม่มาออกเหตุแห่งโมฆะกรรมอีก เค้าจะเหลือชุดข้อสอบ A การแสดงxxxxx, C เหตุแห่งโมฆียะกรรม ม. 157, 159, 160, 161, 162 (กลฉ้อฉล), D ม.164, 165, 166 (การ แสดงxxxxxเพราะถูกข่มขู่) และ ชุดสุดท้าย E ผลแห่งโมฆะกรรม ม. 172 // ผลแห่ง xxxxxxxxx ม. 175, 176, 177 (ซึ่งโอกาสออกจะน้อยในชุดนี้)
iii. ดังนั้น นักศึกษาก็จะทราบได้ทันทีว่า ข้อสอบ ข้อ 2. จะออกได้จากชุดที่เหลือ คือ A, C, D, E เท่านั้น นี่คือตัวอย่างการประยุกต์ใช้ ซึ่งเวลาอยู่ในห้องสอบ เราจะxxxxxxเลือกมาตราผิด และ เป็นการเลือกxxxxxxxxxให้ตรงกันกับข้อสอบ
iv. หมายเหตุ *** มีบ้างบางครั้งที่ข้อสอบอาจจะออกซํ้ากันในชุดเดียวกันแต่เป็นคนละมาตรา
g. ถึงแม้นักศึกษาจะมีเวลาสอบน้อย แต่วิชานี้จะออกข้อสอบแบบล็อค ดังนั้น ถ้าเขียนและทําความ เข้าใจในระยะเวลาอันสั้นก็xxxxxxสอบได้ แต่ถ้าxxxxxxเขียน “อธิบายและยกหลักกฎหมาย รวมถึงอธิบายวิธีการให้อาจารย์มากขึ้น ยกตัวอย่างxxxx ถ้าข้อสอบออกมาตรา 156 การแสดง xxxxxโดยสําคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสําคัญของนิติกรรม อันดับแรก นักศึกษาต้องเขียนลงไปขยาย นอกจากตัวบทด้วยว่า xxxxxxx 3 ความสําคัญผิดมีอะไรบ้าง และจากโจทย์เค้าไปอยู่ในเรื่องอะไร xxxx ซื้อขายที่ดินกัน แต่เวลาส่งมอบดันโอนที่ดินอีกแปลงให้แล้วก็รับมา แบบนี้ คือ ผิดวัตถุแห่งนิติกรรม หรือ ผิดทรัพย์สินไปเลย = มีผลเป็นโมฆะ
B. สถิติข้อสอบเก่าวิชา LAW1103(3) – นิติกรรมสัญญา
*** วิชานี้จะใช้การจํามาตราได้ทั้งหมดเป็นการเขียนชีทแบบใหม่ ให้นักศึกษาแยกชุดข้อสอบออกเป็น A-L รายละเอียดจะอยู่ใน Part B: ให้นักศึกษาเปิดขึ้นมาได้เลยภายในเล่ม โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน 12 เซ็ตชุดข้อสอบ ให้นักศึกษาxxxโน้ตชุดข้อสอบต่อท้ายเอง อีกครั้ง และจําส่วนที่ 1-4 + หัวเรื่องนั้นๆ ให้ ได้ เวลาเขียนตอบข้อสอบมันจะจําออกมาได้เป็น Step xxxx การแสดงxxxxx 168, 169 (เชื่อม ข้อยกเว้น 360), 170 *** ตรงนี้ คือ ชุดข้อสอบรุ่นคุณพ่อคุณแม่ จะxxxxxxxนํามาออกข้อสอบแล้ว แต่ก็ จะต้องจําเป็นหลักพื้นฐานเอาไว้ใช้ และอาจจะโยงไปเรื่องของ ส่วนที่ 4 สัญญา ได้ ตรงคําเสนอ 354, 355, 356, 357 (ชุด H), คําxxxx 358, 359, 360 (ชุด I)*** | ||||
LAW1003 | ข้อ 1 (พื้นฐาน) | ข้อ 2 (พื้นฐาน) | ข้อ 3 (ข้อตัดเกรด) | ข้อ 4 (ช่วยหรือฆ่า) |
ซ่อม 1/64 (ออนไลน์) | ??? | ??? | ??? | ??? |
1/64 (ออนไลน์) | 150 | 157 | 193/3ว.2/5ว.2 | 377, 391ว.1, 383ว.1 |
S/63 (ออนไลน์) | 150 | 154 | 193/3ว.2/5ว.2 | 380, 381 |
2/63 (ออนไลน์) | 169 ว.2, 360 | 156 Vs. 157 | 193/3ว.2/5ว.2 | 374, 375 |
ซ.1/63 | 156 Vs. 157 | 154 | 193/3/5 | 374, 375 |
1/63 | 360 (A) | 157 (C) | 193/14(1)/15 (G) | 357, 359 ว.2 (H, I) |
ซ.2+S/62 | 150, 155 (B) | 164, 165 ว.1 (D) | 193/3ว.2/5 วรรคแรก (F) | 370 ว.1 (J) |
S/62 | 150, 155 (B) | 172 ว.2 (E) | 193/28 (G) | 370 (J) |
1/62 | 156 ฎ. 1716/2500 (B) | 164, 166 (D) | 193/3/5/7 (F) | 374, 375 (K) |
ซ.2+S/61 | 150 ฎ. 3516/2560 (B) | 159 (C) | 193/2/5/8 (F) | 380 (L) xxxxxxxxxxxได้ออก |
S/61 | 150, 155 (B) | 172 ว.2,176ว.1(E) | 193/30/14 (G) | 370 (J) |
2/61 | 150 ฎ. 3516/2560 | 157, 158 | 193/34(15)/14(1) | 370 ว.1 |
ซ.1/61 | 155 ฎ. 165/2527 | 166 | 193/3 ว.2/5 ว.1 | 374, 375 |
1/61 | 156, 158 | 176, 177 | 193/14(1)/18 ว.2/35 | 377, 378, 389 |
ซ.2+S/60 | 164, 165 | 193/3ว.2/5ว. 2/14/15/30 | 193/3ว.2/5ว.2 | 354, 355 |
จากตารางต่อไปนี้ ขอให้นักศึกษาทําความเข้าใจสั้นๆ ง่ายๆ แล้วผ่านไปโดยรวดเร็ว
ประธาน (xxxxxxxxxxสภาพบุคคล) | กริยา (เป็นกรณีที่ยากสุดของกม.แพ่ง และพาณิชย์) | กรรม (มองในกรรมซึ่งมีสิทธิ์เพียงใด ,ใครเป็นเจ้าของสิทธิ์,ใช้อะไรได้ บ้าง,มรดกตกไปยังไง ฯลฯ) |
LAW1102 - เอกชน, LAW2111 – ตัวแทน นายหน้า, LAW3102 – บริษัท ห้างหุ้นส่วน, LAW3103 – ครอบครัว *** ความยากของตรงนี้ คือ การ หลอกของข้อสอบ เล็ก ๆ น้อย ๆ xxxx วิชา LAW3102 ถ้าพลาดนิด เดียวเกรดจะหายไปทีละ 1 ประจุ | LAW2102 – หนี้*** (หัวใจของ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์) ประกอบด้วย {LAW1103 – นิติกรรมและ สัญญา , LAW2103 - ละเมิด} ในส่วนของเอกเทศสัญญา (กฎหมายเฉพาะให้ลงลึกและตั้งใจ อีกครั้งในไอวี่ชีท LAW1103 - นิติ กรรมและสัญญา) -> LAW2105 - ซื้อขาย, LAW2108 – เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ, LAW2109 –ยืม ฝากทรัพย์ ฯ, LAW2110 – คํ้าประกัน จํานองฯ, LAW2112 - ประกันภัย, LAW2113 – ตั๋วเงิน บัญชีฯ | LAW2101 - ทรัพย์ (สําคัญมาก), LAW3109 - มรดก (ทําให้ทัน เป็นวิชาคู่กับ LAW3103 ครอบครัว) *** วิชาที่มองเรื่องกรรม จะเป็น วิชาxxxxxxเด็กใหม่เรียนครั้งแรก มั่นใจเต็มที่อาจจะงง โดยเฉพาะ วิชาทรัพย์ ซึ่งถ้าเขียนออกมาxxxxx เกรดจะร่วงจาก A ไปที่ C,C+ ส่วนพวกที่ B,B+ แสดงว่าคุณ พลาดนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น |
9 หน่วยกิต | 20/21 หน่วยกิต | 5/6 หน่วยกิต |
ตารางนี้ผู้ที่อ่านไอวี่ชีทวิชา LAW1102(2) หลักกฎหมายเอกชนก็จะทราบแล้วว่าเราก็ล้อมาจาก “ลิง กินกล้วย” xxxxเดิม และขอให้อย่าพลาด วิชานี้ “นิติกรรมและสัญญา” โจทย์เวลาออกข้อสอบเค้าจะถาม เกี่ยวกับ “กริยา” คือ “กิน” ซึ่งจะตัดหนี้และละเมิดออกไปเลย เอกเทศสัญญาxxxxxxออกข้อสอบได้ ยกตัวอย่าง xxxx ซื้อขาย, ให้, เช่าทรัพย์, เช่าซื้อ, xxxxแรงงาน (ยังไม่เคยเจอ), xxxxทําของ ( ถ้าออกยาก), ยืม (ออกxxxxxx
ยาก), ฝากทรัพย์, เก็บของในคลังสินค้า (ไม่ออก), คํ้าประกัน (ยังไม่เคยออก), จํานอง (ยังไม่ออก), ประกันภัย (ไม่ออก), ตั๋วเงิน (ไม่ออก) ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้นักศึกษารีบขึ้น LAW2105(2) ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้ และวิชา LAW2108(2) ให้เร็วที่สุดก่อน เพื่อที่จะได้มาขึ้นวิชา LAW2102(3) หรือ ลงพร้อมกันในเทอมเดียว แต่ให้จบทีละวิชา เป็นต้น
จากที่เกริ่นมาทั้งหมดตั้งหลายหน้า วิชานี้จัดเป็นวิชาแรกๆ xxxxxxxxxเป็นพื้นฐานที่สําคัญ ที่นักศึกษา จะต้องล้อตัวบทและใช้หลักความเข้าใจกับเนื้อหาxxxxxxxxxxxมาก แต่มันxxxxxxยากอะไรเลย + ข้อสอบ รามคําแหงก็ออกซํ้าออกวนไปวนมา แต่นักศึกษาจะต้องเริ่มจําเกี่ยวกับ “หลักในxxxxxxxสําคัญ” บ้างแล้ว เพื่อ มาใช้เป็นจุดตัด หรือ กระบวนการคิด เพราะวิชาหลักกฎหมายเอกชน LAW1102(2) มันxxxxxxสลับxxxxxxx ส่วนวิชา LAW2101(3) ก็ยังไม่ต้องถึงกับขนาดใช้xxxx แต่วิชานี้ “ใช้ครับ 100%”
เมื่อกล่าวย้อนไปในสมัยที่ประเทศไทยเริ่มมีประมวลกฎหมายฉบับที่ 1 ในปี พ.ศ. 2468 สมัยนั้นเราได้ ประกาศใช้xxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้วนั้น โดยก่อนหน้าเรามีพระxxxxxxลักษณะมรดกxxxxx บทบัญญัติว่าด้วยพินัยกรรม (xxxxxxเป็นนิติกรรมฝ่ายเดียว) และพระxxxxxxลักษณะกู้หนี้xxxxxบทบัญญัติว่าด้วย สัญญาผูกดอกเบี้ย (xxxxxxเป็นนิติกรรมหลายฝ่าย) เมื่อมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ เราก็ได้ใช้หลักของ กฎหมายลักษณะสัญญา (Law of Contract) ของประเทศอังกฤษ และหลักกฎหมายว่าด้วยนิติกรรมของไทย ในxxxxxxกฎหมายแพ่งฉบับที่ 1 นี้ เราเอาหลักเกณฑ์ส่วนใหญ่มาจากxxxxxxกฎหมายแพ่งเยอรมัน
และตั้งแต่xxxxxx “นิติกรรมและสัญญา” ก็xxxxxxเป็นวิชาที่ใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการสร้างxxxxxxxxxxxx
ระหว่างกัน โดยอาจจะวางหลักหรือข้อกฎหมายตกลงกันไว้ในรูปแบบของ “นิติกรรมฝ่ายเดียว” หรือ “นิติ กรรมหลายฝ่าย” ก็ได้ โดยอาจจะมีวางหลักxxxxxมากกว่าเนื้อหาในกฎหมายที่xxxxxxxxxxxx แต่ห้ามขัดหรือแย้ง กับกฎหมายหลัก นักศึกษาเมื่อเรียน ๆ ไป นักศึกษาจะเจอกรณี เอ๊ะ ทําไมสัญญาฉบับนี้ กําหนดให้มี
อัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่า ร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่สัญญาตัวนี้กลับใช้บังคับได้ นั่นเพราะอาจจะไปเข้า หลักเกณฑ์ในส่วนของกฎหมายตัวอื่นxxx xxxx เกี่ยวกับไฟแนนซ์ หรือ พวกบัตรเครดิตต่างๆ หรือ การกู้ยืม เงินต่างๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต
ในการทําความเข้าใจกับวิชานี้ซึ่งมีเนื้อหามาก แต่การออกข้อสอบจะตายตัว ***ทุกเทอม*** ดังนั้น นักศึกษาจําเป็นต้องแยกองค์ประกอบและความสําคัญของมาตราให้ได้ โดยวิชานี้จะเป็นวิชาในลําดับที่ 3 ของ การศึกษาเล่าเรียน หากนักศึกษาจะใช้เรียนคู่กันเป็นในรูปแบบการไล่รหัส วิชาต่อไป ควรจะเป็น LAW2101(3) ทรัพย์, LAW2102(3) หนี้ – โดยให้มีการเรียนเอกเทศสัญญา หรือ พอรู้ทฤษฎีบ้าง หากต้องการลงวิชาหนี้ xxxx LAW2105(2) ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้ฯ หรือ LAW2108(2) เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ xxxxแรงงาน xxxxทําของ ก่อน จากนั้นจึงจะทําการเรียน LAW2110(2) คํ้าประกันได้
อนึ่งความที่วิชานี้มีเนื้อหาxxxxxxxxมาก แต่xxxxxxxxxเพื่อให้xxxxxxและนําไปใช้ การxxxxxxxxxจึงเป็น ส่วนสําคัญ ยกตัวอย่างxxxx ไม่เคยมีการออกข้อสอบเพื่อถามมาตราแม่ 149 ของนิติกรรมว่า มีความหมายว่า
อย่างไร แต่เวลานําไปใช้ เราต้องแยกองค์ประกอบของนิติกรรมให้ได้ 5 องค์ประกอบ โดยเวลาจะดูว่านิติกรรม
อันนี้เป็นนิติกรรมหรือไม่ ? ให้ไล่จากองค์ประกอบข้อ 5. ขึ้นมาหา 1. จะเร็วกว่า กล่าวคือ ไปxxxxxxว่า “มัน
รูปภาพแสดงการขยายให้เห็นในส่วนข้อสอบของข้อ 1 และ ข้อ 2 ที่xxxxxxออกข้อสอบได้ในส่วนของ xxxxxxxxxxxไม่xxxxxxx หรือ ในส่วนของการแสดงxxxxx
ความหมายของนิติกรรม
ความหมายของนิติกรรม มีความหมายตามมาตรา 149 xxxxxxxว่า “นิติกรรม หมายความว่า การใด ๆ อันทําลงโดยชอบ ด้วยกฎหมายและด้วยxxxxxxx มุ่งโดยตรงต่อการผูกxxxxxxxxxxxxขึ้น ระหว่างบุคคลเพื่อ จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งxxxxx” จากบทบัญญัติดังกล่าวเพื่อให้xxxxxxxเคลื่อนไหวแห่งxxxxx xxxx การก่อxxxxx xxxเปลี่ยนแปลงxxxxx xxxโอนxxxxx หรือการระงับซึ่งxxxxx จากการเคลื่อนไหวxxxxxดังกล่าว ทําให้เกิดหนี้ ซึ่งนิติกรรมเป็นหนึ่งในบ่อเกิดแห่งหนี้ที่สําคัญ และยังมีxxxxxxxxซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้xxxxเดียวกัน
นิติกรรมเป็นบ่อเกิดแห่งนี้เกิดจากการแสดงxxxxxของผู้แสดงxxxxx เพื่อให้xxxxxxxเคลื่อนไหวxxxxx บางอย่าง ส่วนxxxxxxxxxxทําให้xxxxxxxเคลื่อนไหวในxxxxxxxxxเดียวกัน หากวิธีการได้มาซึ่งการเคลื่อนไหวxxxxxนั้น มิได้เกิดจากการที่xxxxxอยากให้เกิดความผูกพันกับxxxxxxx xxxx xxxxxเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนxxxxxxมาจากมูล ละเมิด รวมถึงลาภมิควรได้ และการจัดการงานนอกสั่งด้วย เป็นต้น ทําให้เกิดxxxxxเรียกร้องบางอย่างจาก ผู้กระทํา
นิติกรรม คือเหตุที่เกิดจากการการกระทําของบุคคลxxxxเดียวกันกับxxxxxxxx แต่นิติกรรมเกิดจากการ กระทําของบุคคลโดยที่ผู้กระทําสมัครใจที่จะก่อหนี้xxx xxxxxทั้งxxxxxxxxจะมุ่งผูกxxxxxxxxxxxxระหว่างกันด้วย นิติกรรมแบ่งได้เป็นนิติกรรมฝ่ายเดียวและนิติกรรมหลายฝ่าย
ประเภทของนิติกรรม แยกxxxxxxxxxx 2 ประเภท ได้แก่ 1.นิติกรรมฝ่ายเดียว 2.นิติกรรม👉ลายฝ่าย
1. นิติกรรมฝ่ายเดียว เป็นxxxxxxxxxxxเกิดจากการแสดงxxxxxของบุคคลฝ่ายเดียว xxxx การทํา พินัยกรรม คํามั่นว่าจะให้รางวัล การบอกล้างโมฆียะกรรม การให้สัตยาบันแก่โมฆียะกรรม การบอกเลิกสัญญา การทําคํา เสนอคําxxxx คํามั่นจะซื้อขาย เป็นต้น
ตัวอย่าง นาย ก. พลัดพรากกับสุนัขของตนขณะxxxxxxxสาธารณะ นาย ก. จึงอยากได้สุนัขของตน คืนจึงประกาศออกไปว่า หากมีผู้ใดเก็บสุนัขของตนได้ตนจะมอบทองคําแท่งจํานวน 3 รถบรรทุกให้ ดังนั้น หากมีผู้เก็บสุนัขมาให้นาย ก. ได้ นาย ก. ก็ต้องให้ทองคําแท่งนั้นเป็นรางวัลตามคํามั่นนั้น ซึ่งคํามั่นนี้เกิดจาก การแสดงxxxxxฝ่ายเดียวของนาย ก.
2. นิติกรรมหลายฝ่ายหรือที่xxxxเรียกกันว่าสัญญา โดยที่มีคู่กรณีสองฝ่ายหรือมากกว่าสองฝ่ายก็ได้ แล้วแต่ละฝ่ายจะมีจํานวนกี่คนก็ได้ ซึ่งจะต้องมีฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่า “ผู้ทําคําเสนอ/ผู้รับคําxxxx” ส่วนอีกฝ่าย เรียกว่า “ผู้ทําคําxxxx/ผู้รับคําเสนอ”ซึ่งต่างฝ่ายต่างเป็นทั้งผู้รับและผู้ทํา และเมื่อคําเสนอและคําxxxxถูกต้อง ตรงกันแล้วย่อมทําให้เกิดสัญญา โดยมีผลผูกพันให้xxxxxxxxxxxxสองฝ่ายต่างต้องชําระหนี้แก่กัน xxxx ส .จะซื้อ ขาย ส.xxxxแรงงาน ส.xxxxxxxxxx x.xxxxทําของ ส.xxxxxxxxxxx เป็นต้น
ตัวอย่าง นาย ก. อยากซื้อxxxxxบริเวณใกล้กับ BTS นาย ก. เห็นนาย ข. ประกาศขายxxxxx จึง ติดต่อกับนาย ข. เพื่อทําสัญญาจะซื้อxxxxx ราคา 1,000,000,000 บาท และนาย ข. ก็ได้ตกลงขายบ้านให้แก่ นาย ก. ดังนั้น นิติกรรมการซื้อxxxxxจึงxxxxxxxแสดงxxxxxสองฝ่ายระหว่างนาย ก. และ ข. ซึ่งมุ่งให้xxxxxx ในทางกฎหมาย คือนาย ก. ต้องชําระค่าราคาxxxxxให้แกนาย ข. และนาย ข. ต้องส่งมอบกรรมสิทธิ์ในxxxxx ห้องดังกล่วงให้แก่นาย ก. ตามกฎหมาย
บทที่ 5 สําคัญผิด,กลฉ้อฉล,ข่มขู่
3. กระทําลงด้วยความสมัครใจ (ออกข้อสอบบ่อยในข้อ 2.) --- เรื่องที่ 3 ที่จะต้องจําxxxx
xxxแสดงxxxxxโดยไม่สมัครใจ มีความแตกต่างจากการแสดงxxxxxโดยมิได้มุ่งของxxxxxxxxxxxx คือ การแสดงxxxxxโดยมิได้ไม่ผูกxxxxxxxxxxxxนั้น ผู้แสดงxxxxxแสดงxxxxxแสดงxxxxxไปด้วยความสมัครใจโดยที่ ตนรู้ตัวว่าตนแสดงxxxxxxxxไม่ตรงกับxxxxxภายในใจของตน แต่ถ้าเป็นการแสดงxxxxxโดยไม่สมัครใจนั้นผู้ แสดงxxxxxแสดงxxxxxออกมาภายนอกตรงกับxxxxxxxxอยู่ในใจของตน เพียงแต่ผู้แสดงxxxxxแสดงxxxxx ออกมาโดยไม่สมัครใจ เนื่องจากได้มีเหตุทําให้การแสดงxxxxxวิปริตไป xxxx เรื่องสําคัญผิด กลฉ้อฉล หรือ การข่มขู่ ทําให้การแสดงxxxxxนั้นไม่xxxxxxx ขาดองค์ประกอบนิติกรรมข้อ 4 กฎหมายต้องเข้ามาควบคุม การแสดงxxxxxดังกล่าวเพื่อคุ้มครองคู่กรณีหรือบุคคลภายนอก มิให้ต้องได้รับความเสียหายจากการแสดง xxxxxโดยวิปริตนั้น
เหตุที่ทําให้xxxxxxxแสดงxxxxxโดยวิปริต จนทําให้xxxxxxxแสดงxxxxxโดยไม่สมัครใจ มี 3 ข้อ
1. การแสดงxxxxxโดยสําคัญผิด (ต้องจําไปทั้ง 156 และ 157 ผลของกฎหมายต่างกันนะ)
2. การแสดงxxxxxเพราะถูกกลฉ้อฉล
3. การแสดงxxxxxเพราะถูกข่มขู่
การแสดงxxxxxโดยสําคัญผิด (เวลาไปออกข้อสอบมักจะxxxxxนะ)
การแสดงxxxxxโดยสําคัญผิดเหตุสําคัญประการหนึ่งที่ทําให้การแสดงxxxxxวิปริต เมื่อแสดงxxxxx วิปริตนิติกรรมนั้นก็ไม่xxxxxxx
ความสําคัญผิด หมายความว่า ความเข้าใจหรือเชื่อโดยไม่ตรงกับความจริง เป็นเหตุทําให้xxxxxxxxxxx xxxxxxx ซึ่งการแสดงxxxxxโดยสําคัญผิด แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. การแสดงxxxxxโดยสําคัญผิดในสาระสําคัญตามมาตรา 156 (ออกข้อสอบ)
2. การแสดงxxxxxโดยสําคัญผิดในคุณสมบัติตามมาตรา 157 (ออกข้อสอบ)
1. การแสดงxxxxxโดยสําคัญผิดในสิ่งที่เป็นสาระสําคัญแห่งนิติกรรม
มาตรา 156 xxxxxxxว่า “การแสดงxxxxxโดยสําคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสําคัญแห่งนิติกรรมเป็นโมฆะ ความสําคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสําคัญแห่งนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง ได้แก่ ความสําคัญผิดใน
ลักษณะของนิติกรรม ความสําคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรมและความสําคัญผิดใน ทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม เป็นต้น”
จากบทบัญญัติดังกล่าว กฎหมายกําหนดให้xxxxxxxxxxxเกิดจากความสําคัญผิด ในสาระสําคัญของนิติ กรรม ตกเป็นโมฆะ สาระสําคัญแห่งนิติกรรม คือสิ่งที่ต้องมีอยู่ในxxxxxxxx xxxไม่มีนิติกรรมนั้นจะไม่เกิดขึ้น กฎหมายจึงจําเป็นต้องเข้ามาควบคุมการแสดงxxxxxxxxด้วยการทําให้ตกเป็นโมฆะ ตามวรรคแรก
และความสําคัญผิดในทางตํารากฎหมาย มีอยู่ 3 ประการ คือ 1. สําคัญผิดในลักษณะแห่งนิติกรรม
2. สําคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรม 3. สําคัญผิดในทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม
1. ความสําคัญผิดในลักษณะแห่งนิติกรรม หมายถึง ผู้แสดงxxxxxxxxxxxแสดงxxxxxทํานิติกรรม อย่างหนึ่ง แต่เวลาแสดงxxxxxออกมากลับไปแสดงxxxxxทํานิติกรรมอีกอย่างหนึ่ง โดยเข้าใจว่าเป็นนิติ กรรมอันเดียวกับxxxxxxxxxxxxจะแสดงxxxxx ลักษณะของนิติกรรม 👉มายถึง xxxxxxxxxxxระบุไว้ในบรรพ 3
👉รือ กลุ่มเอกเทศสัญญา xxxx ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ใ👉้ เช่าทรัพย์ จํานอง จํานํา xxxxxxxxxxxxxxxx xxxxxxxxxxx และอาจ👉มายความรวมถึง สัญญาอื่นๆที่ไม่มีชื่อตามกฎ👉มายสัญญานอกเอกเทศสัญญา xxxx สัญญาxxxxแชร์ เปีย👉วย สัญญาแฟรนไชส์ สัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าการเช่า เป็นต้น
ตัวอย่าง xxxxxและนายบี เป็นเพื่อนกัน xxxxxxxxxxรถยนต์จากนายบี เพื่อขับไปธุระxxxxx xxxหนึ่ง xxxxxจะไปต่างจังหวัดนาน 5 เดือน จึงขอยืมรถยนต์xxxxเดิม นายบีจึงรําคาญที่xxxxxยืมxxxxx xxxบอกขาย รถยนต์ก็xxxxx ในราคา 500,000 บาท และส่งมอบรถยนต์ให้xxxxxรับไป โดยคิดว่าxxxxxตกลงซื้อ xxxxxxx รับรถยนต์ไปโดยคิดว่า นายบีให้ยืม ต่อมาxxxxxกลับจากต่างจังหวัดแล้ว นายบีจึงทวงเงินค่ารถยนต์จากxxx xx xxxxxแจ้งว่ายืมรถยนต์ไม่ใช่ซื้อ นายบีคัดค้านว่านายบีตกลงขายให้xxxxxต่างหาก ไม่ใช่ยืมอย่างเคย จาก กรณีนี้ เป็นความสําคัญผิดในลักษณะของนิติกรรม ซึ่งเป็นผลทําให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะ เพราะ xxxxxรับ รถยนต์โดยสําคัญผิดคิดว่า นายบีให้ยืม ส่วนนายบีส่งมอบรถยนต์ให้xxxxxไปโดยความสําคัญผิดคิดว่า xxxxx รถยนต์ตน
2. ความสําคัญผิดในตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรม หมายถึง ผู้แสดงxxxxxxxxxxxแสดงxxxxx ทํานิติกรรมกับบุคคลหนึ่ง แต่เวลาแสดงxxxxxจริงๆ กลับไปแสดงxxxxxต่ออีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละคนกัน โดยเข้าใจผิดว่า เป็นคน คนเดียวกับตนxxxxxxxxxจะทํานิติกรรมนั้นด้วย (ผิดคน)
ความสําคัญผิดในตัวบุคคล ที่จะทําให้นิติกรรมตกเป็นโมฆะ ต้องเป็นสาระสําคัญด้วย หากตัวบุคคล ไม่ใช่สาระสําคัญ แม้จะมีความสําคัญผิด ก็ไม่ทําให้นิติกรรมนั้นตกเป็นโมฆะ xxxxxxxxxxxถือตัวบุคคลเป็น สาระสําคัญ ได้แก่ สัญญาxxxxทําของ สัญญาxxxxแรงงาน สัญญายืม สัญญาให้ สัญญาตัวแทนสัญญาเช่าทรัพย์ เป็นต้น หากนิติกรรมเหล่านี้หากมีความสําคัญผิดในตัวบุคคลเมื่อใด ย่อมตกเป็นโมฆะ
ตัวอย่าง นายเอกต้องการขายที่ดินให้นายโท แต่เวลาแสดงxxxxxเข้าใจว่า นายตรี คือ นายโท จึงได้ แสดงxxxxxทํานิติกรรมขายที่ดินให้นายตรี จากกรณีดังกล่าวตกเป็นโมฆะตามมาตรา 156
นายเต่า ต้องการxxxxนายปลา มาเป็นแม่ครัว แต่เวลาแสดงxxxxxเข้าใจว่า กระต่ายคือนาย ปลา จึงได้แสดงxxxxxทําxxxxxxxxxxxxนายกระต่าย จากกรณีนิติกรรมการxxxxตกเป็นโมฆะตามมาตรา 156
นายดํา ปกปิดความจริงโดยแอบอ้างแสดงว่าตนกระทําในฐานะผู้แทนของบริษัทนางสาวขาว จึงหลงเชื่อทําสัญญาด้วย กรณีนี้เป็นโมฆะตามมาตรา 156
ข้อสังเกต
มีข้อยกเว้น ในเรื่องความสําคัญผิดในตัวบุคคลอยู่ 1 อย่าง คือความสําคัญผิดในตัวบุคคลที่เป็นคู่สมรส ซึ่งกรณีการสมรสดังกล่าว แม้สําคัญผิดในตัวบุคคลที่เป็นคู่สมรส นิติกรรมนั้นก็ไม่ตกเป็นโมฆะ เพียงตกเป็น
วิธีการนับตามหลักทั่วไป (ความยากของข้อ 3. คือ ตรงนี้เลย นักศึกษาต้องจําวิธีการนับให้ได้เป็น step)
**อย่าเพิ่งจํามาตรา ให้จําวิธี หรือ รูปแบบการนับก่อน มาตรามาxxxxxxxxx** ยํ้าอีกครั้ง ให้จําวิธีการนับให้ ถูกต้องก่อน การxxxxxxxxxในส่วนนี้ไม่สําคัญเลย อาจารย์จะตรวจข้อสอบดูจากว่า “เรานับระยะเวลาเป็น หรือไม่ ? คํานวณหาวันเริ่มต้น เวลาเริ่มต้น ระยะเวลา จุดสิ้นสุดได้หรือไม่เท่านั้นก่อน (xxxxxxเน้นจํามาตรา)
--- ในxxxxxคดีขาดอายุความ นับระยะเวลาผิด ฟ้องผิด แบบนี้ อย่าหาทํา !!!! คํานวณก่อนดีๆ ช้าๆ
1. หลักทั่วไปให้คํานวณระยะเวลาเป็นวัน
- หลักกฎหมายที่ให้คํานวณเป็นวัน และ ข้อยกเว้น (มาตรา 193/2)
- ความหมายของคําว่าวัน (มาตรา 193/4)
2. การคํานวณนับระยะเวลาในลักษณะต่างๆ
- การเริ่มต้นการนับระยะเวลา (มาตรา 193/3)
- การสิ้นสุดการนับระยะเวลา (มาตรา 193/5)
- กรณีกําหนดระยะเวลาเป็นเดือนและวันหรือกําหนดเป็นเดือนและส่วนของเดือน (มาตรา 193/6)
- การขยายระยะเวลา (มาตรา 193/7)
- กรณีวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาเป็นวันหยุด (มาตรา 193/8)
1. หลักทั่วไปให้คํานวณระยะเวลาเป็นวัน
- หลักกฎหมายที่ให้คํานวณเป็นวันและข้อยกเว้น (มาตรา 193/2)
มาตรา 193/2 xxxxxxxว่า “การคํานวณระยะเวลา ให้คํานวณเป็นวัน แต่ถ้ากําหนดเป็นหน่วย เวลาที่สั้นกว่าวัน ก็ให้คํานวณตามหน่วยเวลาที่กําหนดนั้น”
จากหลักกฎหมายดังกล่าว ได้กําหนดหลักทั่วไปว่า การคํานวณระยะเวลาให้คํานวณเป็นวัน คือให้คิด เป็น 1 xxxxxxxเสมอ โดยไม่ต้องคํานึงถึงว่าวันนั้นตอนไหน เพราะกฎหมายไม่ต้องการให้คํานวณละเอียดเกินไป จนกระทั่งเป็นชั่วโมงหรือนาที xxxx ก. ทําสัญญากู้เงิน ข. ในเวลา 20:00 น. ถือเป็นการกู้วันหนึ่งxxxxxxx แต่ถ้ากรณีที่การทํานิติกรรมต้องการกําหนดนับระยะเวลาเป็นหน่วยเวลาที่สั้นกว่าxxx xxxx ชั่วโมง นาที วินาที ย่อมทําได้โดยคํานวณตามหน่วยเวลาที่กําหนดนั้นในนิติกรรมบางประเทศมีการกําหนดหน่วยเวลาที่สั้นกว่าxxx xxxx นิติกรรมการเช่าใช้อินเทอร์เน็ต ระยะเวลาให้บริการxxxxจะกําหนดการเป็นหน่วยชั่วโมง
- ความหมายของคําว่าวัน (มาตรา 193/4)
คําว่า วัน ตามxxxxจะมี 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 00:00 น (หลังxxxxxxxxxของวันหนึ่ง) จนถึง 24:00 น (xxxxxxxxxของวันถัดไป) รวมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่เนื่องจากการดําเนินกิจการต่างๆ ตามxxxxxxxได้ทําการ ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับการดําเนินกิจกรรมต่างๆ
มาตรา 193/34 จึงxxxxxxxว่า “xxxxxเรียกร้องดังต่อไปนี้ ให้มีกําหนดอายุความสองปี ”
จากบทบัญญัติดังกล่าว เห็นได้ว่า วัน หมายถึง เวลาทําการของกิจการนั้นๆ ซึ่งวันหนึ่งอาจจะมีเพียง 5 ชั่วโมง 8 ชั่วโมงหรือ 10 ชั่วโมงก็ได้ แล้วแต่ประเภทของกิจการ xxxx งานราชการ หรือศาล จะเปิดตั้งแต่
8:30 น ถึง 16:30 น ถ้าเกิน 16:30 น xxxxxxหมดวันทําการแล้ว
ตัวอย่าง นายเขียวกู้เงินจากธนาคารฟ้า ที่ถึงกําหนดชําระxxxxxx 18 มิถุนายน 2564 นายเขียวต้องนํา เงินไปชําระภายในเวลาที่ทําการของธนาคารคือไม่เกิน 15:30 น เขียวจะนําเงินไปชําระหลังเวลา 15:30 น โดยอ้างว่ายังไม่หมดxxxxxxได้
ถ้าข้อสอบวิชานี้ออก 193/34 โดยส่วนมากมักจะกําหนดมาให้นักศึกษาxxxxx xxxx 193/34 (14) ครูหรือ
อาจารย์ เรียกเอาค่าสอน เราก็จะไปหยิบมาตรานี้มาใช้ได้เลย คือ กําหนดอายุความ 2 ปี (ไม่ใช่ 10 ปี)
2. การคํานวณนับระยะเวลาในลักษณะต่างๆ
-การเริ่มต้นการนับระยะเวลา (มาตรา 193/3)
มาตรา 193/3 xxxxxxxว่า “ถ้ากําหนดระยะเวลาเป็นหน่วยเวลาที่สั้นกว่าวันให้เริ่มต้นนับในขณะที่ เริ่มการนั้น
ถ้ากําหนดระยะเวลาเป็นวัน สัปดาห์ เดือนหรือปี มิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้นรวมเข้าด้วยกัน เว้นแต่จะเริ่มการในxxxxxxxxxxตั้งแต่เวลาที่ถือได้ว่าเป็นเวลาเริ่มต้นทําการงานกันตามประเพณี”
จากบทบัญญัติดังกล่าว เรื่องการเริ่มต้นการนับระยะเวลาแยกพิจารณาออกเป็น 2 กรณี คือ
1. กรณีนับระยะเวลาเป็นหน่วยเวลาที่สั้นกว่าวัน
ใช้มาตรา 193/3 วรรคแรก
ถ้ากําหนดระยะเวลาเป็นหน่วยเวลาที่สั้นกว่าxxx xxxx ชั่วโมง นาที วินาที กฎหมายให้เริ่มนับในขณะที่ เริ่มการนั้นเลย xxxx xxxและเพื่อนๆ เช่าเจ็ทสกี นายหิน ตั้งแต่เวลา 15:00 น กําหนดระยะเวลาก็ต้องเริ่ม นับตั้งแต่ 15:00 น เป็นต้นไป
ส่วนเรื่องการสิ้นสุดระยะเวลาที่กําหนดเป็นหน่วยเวลาที่สั้นกว่าวัน ไม่มีกฎหมายxxxxxxxไว้จะสิ้นสุด เมื่อใด จึงต้องถือหลักการคํานวณนับธรรมดา คือ สิ้นสุดเมื่อครบกําหนดระยะเวลาที่ตกลงกัน
1. กรณีกําหนดเริ่มนับระยะเวลาเป็นวัน สัปดาห์ เดือนหรือปี
ใช้มาตรา 193/3 วรรค 2
บทบัญญัติดังกล่าว ได้กําหนดหลักการต่อไปสําหรับระยะเวลาที่กําหนดไว้เป็น วัน สัปดาห์ เดือน หรือ ปี ว่าในการนับระยะเวลาต่างๆดังกล่าว ไม่ให้นับวันแรกรวมเข้าด้วยกัน xxxxนี้ หมายความว่า การใดxxxxxxทําขึ้น ตกลงใจว่าจะทํา หรือxxxxxกัน หรือทําสัญญากัน ไม่ว่ากิจการค้าขาย อุตสาหกรรม ทางราชการ หรือในทาง คดีความ ซึ่งมีระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง กฎหมายกําหนดไว้ทีเดียวกันว่า ไม่ให้นับวันแรกรวมเข้าด้วยกัน จึง เท่ากับว่า วันรุ่งขึ้นจะต้องถูกนะเป็นวันแรกเสมอ เหตุที่เป็นxxxxนี้ เพราะ 1 xxxxx 24 ชั่วโมง การเริ่มต้นตกลง หรือทํากิจการงานใด มักxxxxxxเริ่มแต่ชั่วโมงแรก อาจเกิดขึ้นในระหว่างชั่วโมงใดชั่วโมงหนึ่งในวันนั้น xxxx เวลา 11:00 น หรือเวลา 18:00 น ของวันใดวันหนึ่ง ซึ่งจะทําให้เกิดปัญหาการได้xxxxxxxxxxxxxxxxระหว่างคู่กรณี หรือคู่สัญญาว่า เหลือเศษเวลาของวันนั้นอีกมากxxxxxxxxxใด อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติเราจําเป็นต้องทราบ xxxxxxจะเป็นจุดตั้งต้นในการคํานวณนับระยะเวลาในลักษณะต่างๆ ด้วยเสมอเพื่อที่จะxxxxxxนับไปจนถึงวัน สัปดาห์ เดือน หรือปี อันเป็นที่สิ้นสุด แห่งระยะเวลาที่กําหนดไว้ได้
ในบทยกเว้นตามมาตรา 193/3 วรรคสองตอนท้าย ได้xxxxxxxว่าถึงเรื่อง ทําการงาน ฉะนั้นคําว่า เริ่ม การ ในที่นี้หมายความถึง เริ่มทําการงาน xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxอื่น xxxx การxxxx xxxสร้างxxxxxxละเมิดใน การคํานวณอายุความฟ้องละเมิด การทราบถึงความตายของxxxxxxxxในกรณีคํานวณอายุฟ้องร้องคดีมรดก เพราะฉะนั้น คนที่เกิดเวลา 07:00 น ของxxxxxx 2 xxxxxx 2520 กับคนที่เกิดเวลา 13:00 น ของxxxxxx 2
xxxxxx 2520 จะมีอายุแก่กว่ากัน 1 วัน ตามกฎหมายซึ่งไม่น่าจะเป็นดังนั้น
ตัวอย่างมาตรา 193/3 วรรค 2 ตอนต้น ใบอนุญาตให้ขนข้าวระบุว่ามีกําหนดอายุ 30 วันนับแต่วัน อนุญาต วันอนุญาตตรงกับxxxxxx 8 พฤษภาคม 2502 ต้องเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่xxxxxx 9 เดือนนั้นเป็นต้นไป ครบ
กําหนด 30 วัน ในxxxxxx 7 มิถุนายน 2502 (xxxxxxx 235/ 2505)
จําเลยกระทําละเมิดต่อโจทก์เมื่อxxxxxx 20 พฤษภาคม 2518 ดังนี้ การนับระยะเวลาจะนับxxxxxx 20
พฤษภาคม 2518 ซึ่งเป็นวันแรกคํานวณเข้าในอายุความ 1 ปีด้วยxxxxxx เพราะไม่มีการเริ่มอะไรในวันนั้นต้อง
เริ่มนับตั้งแต่xxxxxx 21 พฤษภาคม 2518 โจทก์ฟ้องจําเลยเมื่อxxxxxx 20 พฤษภาคม 2519 อันเป็นวันสุดท้ายที่ ครบ 1 ปี คดีของxxxxxxxxไม่ขาดอายุความ (xxxxxxx 2499/2524)
ตัวอย่างมาตรา 193/3 วรรคสองตอนท้าย บริษัทxx xxxกําหนดเวลาเริ่มงานไว้ตั้งแต่เวลา 10:00 น ถึง 17:00 น หาบริษัทxxxxxxxนาย ก มาเป็นพนักงานบัญชีในxxxxxx 1 กุมภาพันธ์เต็มวัน ดังนั้นระยะเวลาxxxxxxx ต้องเริ่มนับxxxxxx 1 กุมภาพันธ์นั้นเป็น 1 xxxxxxx จะตัดทิ้งโดยไปนับหนึ่งในวันรุ่งขึ้นxxxxxx แต่ถ้านาย ก มาเริ่ม ทํางานในxxxxxx 1 กุมภาพันธ์ เวลา 12:00 น ดังนี้เท่ากับว่า นาย ก มิได้เริ่มทําการงานในวันเริ่มทําการตาม ประเพณี จึงถือxxxxxxว่าเริ่มทํางานเต็มวันในxxxxxx 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งตามหลักทั่วไปในการนับระยะเวลาจึงต้องเริ่ม นับหนึ่งในวันรุ่งขึ้น
- การสิ้นสุดการนับระยะเวลา (มาตรา 193/5)
มาตรา 193/5 xxxxxxx “ถ้ากําหนดระยะเวลาเป็นสัปดาห์ เดือนหรือปี ให้คํานวณตามxxxxxxxx xxxระยะเวลามิได้กําหนดนับแต่วันต้นแห่งสัปดาห์ วันต้นแห่งเดือนหรือปี ระยะเวลาย่อมสิ้นสุดลง
ในวันก่อนหน้าจะถึงวันแห่งสัปดาห์ เดือนหรือปีสุดท้ายอันเป็นวันตรงกับวันเริ่มระยะเวลานั้น ถ้าใน ระยะเวลานับเป็นเดือนหรือปีนั้นไม่มีวันตรงกันในเดือนสุดท้าย ให้ถือเอาวันสุดท้ายแห่งเดือนนั้นเป็นวัน สิ้นสุดระยะเวลา”
จากบทบัญญัติดังกล่าว แยกxxxxxxxxxxดังนี้
1. ถ้าได้กําหนดระยะเวลานับแต่วันต้นแห่งสัปดาห์ เดือน หรือปี (มาตรา 193/5 วรรคแรก)
2. เวลาxxxxxxกําหนดนับเป็นวันต้นแห่งสัปดาห์ เดือนหรือปี ( มาตรา 193/5 วรรค 2 ตอนต้น)
3. ถ้าปีสุดท้ายแห่งระยะเวลาไม่มีวันตรงกับวันเริ่มระยะเวลา (มาตรา 193/5 วรรค 2 ตอนท้าย)
1. ถ้าได้กําหนดระยะเวลานับแต่วันต้นแห่งสัปดาห์ เดือน หรือปี (มาตรา 193/5 วรรคแรก) ในกรณีระยะเวลาได้เริ่มต้นนับในวันต้นแห่งสัปดาห์ เดือนหรือปี คํานวณตามปีปฏิทิน
กรณีนี้ วันเริ่มต้นนับคือ xxxxxxเริ่มต้นนับระยะเวลาที่เป็นวันต้นแห่งสัปดาห์/วันต้นแห่งเดือน/ วันต้นแห่งปีเท่านั้น
- กรณีนับกันเป็นสัปดาห์ เริ่มต้นนับวันxxxxxxx เพราะวันxxxxxxxเป็นวันต้นแห่งสัปดาห์
-กรณีนับกันเป็นเดือน เริ่มต้นนับเมื่อเป็นxxxxxx 1 ของทุกๆเดือน (xxxxxx 1 ของเดือนxxxxxx-ธันวาคม)
-กรณีนับกันเป็นปี เริ่มต้นนับเมื่อxxxxxx 1 xxxxxx ของปี เท่านั้น
และกรณีนี้วันสิ้นสุดการนับ คือ xxxxxxxสัปดาห์/เดือน/ปี ของ สัปดาห์/เดือน/ปี สุดท้าย เมื่อคํานวณหา วันที่สุดการนับ ตามxxxxxxxxxxxกฎหมายกําหนดไว้ตามมาตราดังกล่าว จะพบว่า วันที่สุดการนับ จะเป็นวัน สุดท้ายของสัปดาห์เดือนหรือปี สุดท้ายที่นับไปถึงเสมอ ดังจะเห็นตามกรณีตัวอย่างต่อไปนี้
กรณีระยะเวลากําหนดรับการเป็นสัปดาห์ วันเริ่มต้นนับเป็นวันxxxxxxx xxxสิ้นสุดต้องเป็นวันเสาร์ ของสัปดาห์สุดท้ายที่นับไปถึงเท่านั้น
ยกตัวอย่างxxxx นายสี ทําสัญญากู้เงินจาก นายสา ในวันเสาร์ที่ 12 xxxxxx มีกําหนดชําระคืน ภายใน 2 สัปดาห์ กรณีนี้ให้เริ่มนับหนึ่งในวันรุ่งขึ้นตามมาตรา 193/3 วรรค 2 คือวันxxxxxxx xxx 13 xxxxxx ซึ่งวันxxxxxxxเป็นวันเริ่มต้นแห่งสัปดาห์ จึงตรงตามหลักเกณฑ์มาตรา 193/5 วรรคแรก คือ ระยะเวลาเริ่มต้น นับในวันต้นแห่งสัปดาห์ ดังนั้น ระยะเวลาสิ้นสุด ต้องคํานวณตามปฏิทิน เวลาสิ้นสุดจะตรงกับวัน เสาร์ที่ 26 xxxxxx อันเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์
กรณีระยะเวลากําหนดนับกันเดือน วันเริ่มต้นนับเป็นxxxxxx 1 ของทุกเดือน วันสิ้นสุดอานัส ต้อง เป็นxxxxxxxเดือนของเดือนสุดท้ายที่รับไปถึง ตัวอย่าง นายปากกาทําสัญญาเช่าบ้าน กับนายดินสอ ในxxxxxx 31 มีนาคม กําหนดเวลาเช่า 1 เดือน กรณีนี้ให้เริ่มนับหนึ่งในวันรุ่งขึ้นตามมาตรา 193/3 วรรค 2 คือ xxxxxx
1 เมษายน ซึ่งเป็นวันต้นแห่งเดือน จึงตรงตามหลักเกณฑ์มาตรา 193/5 วรรคแรก ระยะเวลาที่สิ้นสุดที่ คํานวณตามปีปฏิทินคือxxxxxx 30 เมษายนอันเป็นวันสุดท้ายของเดือน
กรณีระยะเวลากําหนดกันเป็นปี วันเริ่มต้นนับต้องเป็นxxxxxx 1 xxxxxx xxxสิ้นสุดต้องเป็นxxxxxxxปี คือxxxxxx 31 ธันวาคม ของปีสุดท้ายที่นับไปถึง ตัวอย่าง นายxxxx ทําสัญญาเช่าบ้านกับนายหอย ในxxxxxx 31 ธันวาคม 2562 มีกําหนดเวลาเช่า 1 ปี กรณีนี้ วันเริ่มต้นนับคือวันรุ่งขึ้นตามมาตรา 193/3 วรรค 2 ตรง กับxxxxxx 1 xxxxxx 2563 ซึ่งเป็นวันต้นแห่งปี จึงต้องตามหลักเกณฑ์มาตรา 193/5 วรรคแรก ระยะเวลา ที่สิ้นสุดคํานวณตามปีปฏิทิน คือxxxxxx 31 ธันวาคม 2563
2. เวลาxxxxxxกําหนดนับเป็นวันต้นแห่งสัปดาห์ เดือนหรือปี ( มาตรา 193/5 วรรค 2 ตอนต้น) ตัวอย่าง ทําสัญญาเช่าบ้านxxxxxx 29 กุมภาพันธ์ 2540 มีกําหนด 1 ปี ระยะเวลาเริ่มต้นนับตั้งแต่xxxxxx 1
มีนาคม เป็นกรณีที่ระยะเวลามิได้กําหนด นับแต่วันต้นแห่งปี ระยะเวลาจึงสิ้นสุดลงในxxxxxx 28 กุมภาพันธ์ 2541
3. ถ้าปีสุดท้ายแห่งระยะเวลาไม่มีวันตรงกับวันเริ่มระยะเวลา (มาตรา 193/5 วรรค 2 ตอนท้าย)
ข้อxxxxxx xxxเดือนสุดท้ายต้นเดือนกุมภาพันธ์ ให้ถือเอาวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์เป็นวันสิ้นสุด ซึ่งอาจจะตรงกับxxxxxx 28 หรือ 29 ของเดือนกุมภาพันธ์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับปีปฏิทินนั้น ถ้าเดือนสุดท้าย ลงท้ายด้วย ยน จะมี 30 วัน ซึ่งก็ให้ถือเอาวันสุดท้ายของเดือนนั้น เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลา
คําxxxx
ลักษณะของคําxxxx
คําxxxx คือ การแสดงxxxxxของผู้xxxxรับต่อผู้เสนอตกลงรับทําสัญญาตามคําเสนอเมื่อคําเสนอคํา xxxxถูกต้องตรงกันแล้ว และคําxxxxนั้นไปถึงผู้เสนอโดยไม่ล่วงเวลาสัญญาก็ย่อมเกิดขึ้น
คําxxxxมีลักษณะสําคัญ 5 ประการดังนี้
1. คําxxxxเป็นนิติกรรมฝ่ายเดียว ซึ่งต้องมีผู้รับการแสดงxxxxx
2. คําเสนออาจแสดงxxxxxโดยชัดแจ้ง โดยปริยาย หรือโดยการนิ่งก็ได้ ดังอุทาหรณ์xxxxxxส่งรถยนต์มาเสนอขาย ในราคา 200,000 บาทแก่ขาว โดยแจ้งว่า ถ้าขาวตก
ลงซื้อให้ตอบภายใน 3 วัน ขาวไม่ตอบแต่นํารถยนต์ของxxxxxxไปขับขี่ใช้งาน พฤติการณ์ย่อมเป็นที่ คาดหมายได้ว่า xxxxxxxxxxxxxจะตอบตกลงคําเสนอของxxxxxx
3. คําxxxxต้องมีข้อความชัดเจนแน่นอนปราศจากเงื่อนไข การเพิ่มเติมข้อความ แก้ไขข้อจํากัด หรือข้อแก้ไขอย่างอื่นประกอบด้วย ซึ่งมีลักษณะเป็นการต่อรองคําเสนอxxxxxxเป็นการบอกปัดคําเสนอ (มาตรา 359 วรรคสอง)
4. คําxxxxต้องแสดงxxxxxต่อบุคคลโดยเจาะจง คือแสดงxxxxxต่อผู้เสนอ
5. คําxxxxต้องไม่มาถึงผู้เสนอเมื่อล่วงเวลา
ผลของคําxxxx
คําxxxxเป็นนิติกรรมฝ่ายเดียวซึ่งเกิดขึ้นโดยการแสดงxxxxxของบุคคลฝ่ายเดียว แต่ก่อให้เกิด สัญญาซึ่งเป็นนิติกรรมหลายฝ่ายมีผลดังนี้
1. เมื่อมีการxxxxรับตามคําเสนอก่อนคําเสนอสิ้นความผูกพันสัญญาย่อมเกิดขึ้น สัญญาย่อมเกิดขึ้น ระหว่างผู้เสนอและผู้xxxx
2. คําxxxxนั้นถอนxxxxxxเพราะเมื่อมีการxxxxรับตามคําเสนอสัญญาก็เกิดขึ้นตามมาตรา 361 ถ้ายอม ให้ถอนคําxxxxxxxก็เท่ากับเป็นการยอมให้เลิกสัญญาได้โดยไม่มีเหตุที่จะเลิกสัญญานั้นตามกฎหมาย
3. ***คําxxxxxxxสิ้นความผูกพันเพราะเหตุผู้xxxxรับตาย หรือตกเป็นผู้ไร้ ความxxxxxx***
ตัวอย่าง xxxxxx ซึ่งอยู่กรุงเทพฯ เขียนจดหมายถึง ขาว ซึ่งอยู่จังหวัดกระบี่เสนอขายรถยนต์ ในราคา 800,000 บาท โดยกําหนดไว้ในคําเสนอว่าถ้าขาวตกลงซื้อขอให้ตอบxxxxมาภายใน 14 วัน หลังจากขาว เขียนจดหมายตอบตกลงซื้อทางไปรษณีย์แล้ว ขาว ประสบอุบัติเหตุถึงแก่ความตาย วันรุ่งขึ้นจดหมายถึงบ้าน xxxxxx xxxxนี้เป็นเรื่องผู้xxxxแสดงxxxxxxxxไม่เข้ามาตรา 360 แต่เข้ามาตรา 169 วรรคสอง ดังนั้นแม้ ขาว ผู้ xxxxตายแต่คําxxxxนั้นก็ไม่เสื่อมเสีย เมื่อคําxxxxตรงกับคําเสนอสัญญาซื้อขายรถยนต์ก็เกิดขึ้น เมื่อผู้xxxx ตายก็เป็นมรดกตกทอดแก่xxxxx เป็นต้น
ก่อนจะไปสอบ ให้นักศึกษาเตรียมตัวในส่วนของตารางทั้ง 12 ชุด + การเตรียมเขียนแยก Mind Map ออกมาในแต่ละมาตราที่ออกข้อสอบได้ ยกตัวอย่างxxxx มาตรา 150 วัตถุประสงค์ที่ทําให้นิติกรรมเป็นโมฆะ มาตรา 152 แบบ มาตรา 154 xxxxxxxxxเร้น มาตรา 155 ว.1 xxxxxลวง ชุด B มาตรา 155 ว. 2 นิติกรรมอําพราง มาตรา 156 สําคัญผิดในสาระสําคัญแห่งนิติกรรม … ให้ทําแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกข้อ เขียนหลังข้อสอบ (อย่าเพิ่งเปิดอ่านโจทย์ข้อสอบนะ ทําแบบนี้ทุกวิชา นี่คือ เคล็ดลับวิธีการเก็บเกรด A ในการเรียนชั้นxxxxxxตรี แม้กระทั่งในxxxxxxxxจะต้องเจอวิชากฎหมาย ครอบครัว หรือ กฎหมายมรดก เราก็จะไม่หวั่น หรือ xxxxxxxxxใดๆ เพราะเรา “เตรียมตัวมาดี” |
Part B: ตัวอย่างวธีการเขียนตอบข้อสอบ |
ขอบเขตเนื้อหาวิชา LAW1103 – นิติกรรมสัญญา แบ่งตามลักษณะของชุดข้อสอบที่เป็นไปได้ A – M
[ ข้อสอบแต่ละข้อจะออกในแต่ละชุดดังนี้:-] ***ใ👉้นักศึกษาสังเกตว่าอาจารย์ท่านใดในเทอมนั้นจะออกสอบ ข้อใด ตรงส่วนนี้ คือ สไตล์ผู้สอนแต่ละท่าน xxxx ข้อ 1 และ 2 มักจะวนเพียงxxxxxxมาตราเท่านั้น
ข้อสอบข้อที่ 1 : A, B, C (ปัจจุบันไม่ออกชุด A นานแล้ว) ข้อสอบข้อที่ 2 : C, D, E (มีโอกาสออก B ซํ้า) ข้อสอบข้อที่ 3 : G, H เท่านั้น (ข้อตัดเกรดห้ามพลาด) ข้อสอบข้อที่ 4 : I, J, K, L
ส่วนที่ 1
xxxxxxออกซํ้ากันได้ (ชุด G,H) หรือ สลับข้อ กันได้ โดยxxxxวางไว้เรียงข้อทั้งเทอมหลักและ เทอมซ่อม โดยxxxxxxxxxxxจะอธิบายข้อ 2.
ส่วนที่ 2
ส่วนที่ 3
- ความหมายของนิติกรรม -> ม.149
การแสดงxxxxx -> ม. 168, 169 (เชื่อมข้อยกเว้น 360), 170 ชุดข้อสอบ A |
-
เหตุแห่งโมฆะกรรม -> ม. 150, 152, 154, 155, 156 ชุดข้อสอบ B |
-
o ม. 157, 159, 160, 161, 162 (กลฉ้อฉล), ชุดข้อสอบ C |
o ม. 164, 165, 166 (การแสดงxxxxxเพราะถูกข่มขู่) ชุดข้อสอบ D |
ผลแห่งโมฆะกรรม -> ม. 172 ชุดข้อสอบ E ผลแห่งโมฆียะกรรม -> ม. 175, 176, 177 ,178, 179, 180, 181 |
- เหตุแห่งโมฆียะกรรม ->
-
-
ระยะเวลา -> ม. 193/1 – 193/8 ชุดข้อสอบ F |
อายุความ -> ม. 193/9 – 193/35 ชุดข้อสอบ G |
-
-
ส่วนที่ 4
o คําเสนอ -> ม. 354, 355, 356, 357 ชุดข้อสอบ H |
o คําxxxx -> ม. 358, 359, 360 ชุดข้อสอบ I |
-
สัญญา = (ม. 354 – 394) ออกข้อสอบ ตรงนี้ 1 ข้อ
- ผลแห่งสัญญา
o สัญญาต่างตอบแทน -> ม. 369, 370, 371, 372 ชุดข้อสอบ J |
o สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก -> ม. 374, 375, 376 ชุดข้อสอบ K |
o มัดจํา -> ม. 377, 378 ชุดข้อสอบ L o เบี้ยปรับ -> ม. 380 - 383 |
Mind Map แสดงภาพชุดส่วนที่ 1 และ 2
A, B, C, D, E (ให้นับ 172 ผสม + 175 – 181 ให้น.ศ.ท่องให้ได้ยกชุด)
Part C: แบบฝึกหัดแบบปรนัย (กากบาท) พร้อมเฉลย
คําสั่ง จงเลือกข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว และควรทําหลังจากอ่านรายละเอียดและเตรียมตัวจากชีทด้านบน เรียบร้อยแล้วเท่านั้น (ใช้ในการดูว่าเราเข้าใจในเนื้อหาสําหรับการเตรียมสอบแล้วหรือไม่)
แบบฝึกหัดชุดที่ 1 ☺
1. เพราะเหตุใดวิชานี้หลายๆ คนจึงได้ยินชื่อเสียงในนามของ “กรรมของเด็กนิติ”
ก. เป็นวิชาที่ยากที่สุดในกลุ่มแพ่งและพาณิชย์ ข. เป็นวิชาออกข้อสอบโหดที่สุด ค. เป็นวิชาที่มีเนื้อหาเยอะxxxxxxxและเจอเล่มแรกๆ ง. ถูกทุกข้อ
2. เอกเทศสัญญาภายใต้บรรพ 3 ซึ่งเป็นวิชาลูกของนิติกรรมและสัญญามีทั้งสิ้นกี่เรื่อง ก. 21 ข. 22 ค. 23 ง. 24
3. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับ “นิติกรรมและสัญญา”
ก. เริ่มต้นในบรรพ 1 และมีเนื้อหาต่อในสัญญาของบรรพ 2
ข. เป็นวิชาที่สําคัญที่สุดอันดับต้นๆ ของกลุ่มวิชากฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ค. ใช้เป็นพื้นฐานในการเชื่อมต่อไปยังวิชาทรัพย์ได้ ข้อสอบมักจะออกเอกเทศสัญญาซื้อขาย ง. ในสมัยก่อนตําราที่เป็นที่xxxxกัน ได้แก่ ของ อาจารย์จี๊ด เศรษฐบุตร
4. ถ้าหากนักศึกษาเขียนxxxxxxxxxและไม่อธิบายหลักกฎหมายอย่างละเอียดแต่ท้ายxxxxxxxนี้ผลลัพธ์เกรดได้ A เพราะตอบครบถ้วนทุกประเด็น อยากทราบว่าวิชาทรัพย์ และวิชาซื้อขาย หากเขียนตอบได้xxxxx และใช้วิธีแบบ xxxธง เกรดจะเหลืออยู่ประมาณเท่าใดสูงสุด
ก. B ข. C ค. C+ ง. B+
5. ในxxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 4 นิติกรรมมีทั้งหมดกี่หมวด และ ลักษณะ 5 และ ลักษณะ 6 เป็นเรื่องของอะไร (เปิดxxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็ได้)
ก. 3 หมวด / ระยะเวลา / xxxxxxxxxx ข. 3 หมวด / ระยะเวลา / อายุความเสียxxxxx ค. 4 หมวด / การแสดงxxxxx / อายุความ ง. 4 หมวด / ระยะเวลา / อายุความ
6. ข้อสอบเก่าวิชานี้ จะxxxxxxxออกในหมวดใดของลักษณะใด
ก. บทเบ็ดเสร็จทั่วไป / ลักษณะ 4 นิติกรรม ข. การแสดงxxxxx / ลักษณะ 4 นิติกรรม
ค. บทเบ็ดเสร็จทั่วไป / ระยะเวลา อายุความ ง. เงื่อนไขและxxxxxxxxxx / ลักษณะ 4 นิติกรรม
7. ในเรื่องของ “สัญญา” มีทั้งหมด 4 หมวด ข้อใดเรียงลําดับได้ถูกต้อง
ก. ก่อให้เกิดสัญญา / ผลแห่งสัญญา / มัดจําและกําหนดเบี้ยปรับ / การเลิกสัญญา ข. ผูกพันให้เกิดสัญญา / ผลของสัญญา / มัดจําและเบี้ยปรับ / การสิ้นสุดสัญญา ค. ผูกพันให้เกิดสัญญา / มัดจําและเบี้ยปรับ / ผลของสัญญา / การสิ้นสุดสัญญา ง. ก่อให้เกิดสัญญา / มัดจําและกําหนดเบี้ยปรับ / ผลแห่งสัญญา / การเลิกสัญญา
8. ข้อใดเป็น Subset ของวิชานิติกรรมและสัญญาทั้งหมด
ก. ลาภมิควรได้ / การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ ข. การจัดการงานนอกสั่ง / สัญญาไม่มีชื่อ
ค. ละเมิด / การแสดงxxxxxวิปริต ง. คําxxxxมาเนิ่นเวลา / หลอกให้เข้าทําสัญญา
9. ข้อใดไม่เกิดนิติกรรมขึ้นมาเลย
ก. สัญญาว่าถ้าแต่งงานแล้วและอยู่ดูแลกันไปตลอดจะให้ค่าxxxxเป็นรายเดือนตอบแทน ข. ตกลงจะยกมรดกทั้งหมดให้แก่อีแต๋นแมวxxxxxx
ค. เอาตีนกระทืบพื้นหน้าบ้านสามครั้ง แล้วบอกว่าจะยกที่ดินแปลงนี้ของตนให้แก่วัดลิงขบ
ง. ยกมือขึ้นxxxมือพลางพูดxxxxxxxxxxxxxxxว่าจะขายม้าxxxxxxxxxxxxราคา 1 แสนบาท แก่ตาเอก เพื่อนข้างบ้าน จากxxxxxxเอกตอบตกลงxxxxxxxxxxxxxxว่า “เออ เข้าเอา” แล้วร้องกลับไปว่า “เดี๋ยวมีของแถม ให้xxxxxเป็นหมูสีนิล 3 ตัว เอาไว้เสริมxxxxx”
10. xxxxxxxxxxxเกิดจากการกระทําโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือข้อใด
ก. ละเมิด ข. จัดการงานนอกสั่ง ค. ลาภมิควรได้ ง. ถูกทุกข้อ
11. xxxxxxxxxxxเกิดขึ้นโดยxxxxxxxx และมีผลในกฎหมาย คือข้อใด
ก. การเกิด - เริ่มต้นสภาพแห่งบุคคล ข. การบรรลุนิติภาวะเมื่ออายุครบ 20 ปีxxxxxxxx ค. การตาย - ทําให้สิ้นสภาพบุคคล ง. ถูกทุกข้อ
12. การแสดงxxxxxต่อบุคคลผู้อยู่ห่างเฉพาะหน้า การแสดงxxxxxจะมีxxxxxxxxxเมื่อใด ก. ผู้แสดงxxxxxxxxส่งการแสดงxxxxxออกไปแล้ว
ข. ผู้รับการแสดงxxxxxxxxแสดงxxxxxนั้นให้ปรากฏออกมา
ค. ผู้แสดงxxxxxxxxส่งการแสดงxxxxxไปถึงผู้รับการแสดงxxxxxแล้ว ง. ผู้รับการแสดงxxxxxxxxทราบxxxxxxแสดงนั้น
13. การแสดงxxxxxต่อบุคคลผู้อยู่ห่างโดยระยะทาง การแสดงxxxxxจะมีxxxxxxxxxเมื่อใด ก. ผู้รับการแสดงxxxxxxxxทราบxxxxxxแสดงนั้น
ข. การแสดงxxxxxนั้นได้ถูกส่งออกไป
ค. การแสดงxxxxxนั้นได้ไปถึงผู้รับการแสดงxxxxxแล้ว
ง. การแสดงxxxxxนั้นได้ไปได้ไปถึงผู้รับการแสดงxxxxxและต้องทราบข้อความในการแสดงxxxxx ของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย
14. เมื่อผู้แสดงxxxxx “ตาย” หรือ “ตกเป็นคนไร้ความสามารถในภายหลังจากการส่งxxxxxไปแล้ว” การ แสดงxxxxxจะมีผลเป็นอย่างไร
ก. โมฆะ ข. โมฆียะ ค. xxxxxxx x. ไม่xxxxxxx
15. การแสดงxxxxxทําให้แก่บุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้า มีผลนับตั้งแต่ ก. เวลาxxxxxxส่งการแสดงxxxxxไปแล้ว
ข. เวลาที่แสดงxxxxxนั้นให้ปรากฏออกมา
ค. เวลาที่คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ทราบxxxxxxแสดงxxxxxนั้น ง. เวลาที่การแสดงxxxxxนั้นไปถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง
16. การแสดงxxxxxทําให้แก่บุคคลผู้อยู่ห่างโดยระยะทาง มีผลนับตั้งแต่
ก. เวลาxxxxxxส่งการแสดงxxxxxไปแล้ว
ข. เวลาที่แสดงxxxxxนั้นให้ปรากฏออกมา
ค. เวลาที่คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ทราบxxxxxxแสดงxxxxxนั้น ง. เวลาที่การแสดงxxxxxนั้นไปถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง
17. กรณีการแสดงxxxxxตามข้อใด ที่เป็นการแสดงxxxxxโดยชัดแจ้งเพื่อทํานิติกรรม
ก. เดินเข้าไปในร้านขนม ต้องการชิมขนมว่าอร่อยหรือเปล่า เลยหยิบขนมชิ้นนั้นขึ้นมากินเข้าปาก ข. เจ้าหนี้เงินกู้ได้ให้คืนxxxxxxxxxxxxเงินกู้คืนแก่ลูกหนี้
ค. ต้องการขาย Iphone 16 Pro X จึงบอกขายให้กับเพื่อนๆ ในวงเหล้า ง. ถูกทุกข้อ
18. “xxxxxxxxจะทํานิติกรรม” หมายถึง
ก. กระทําโดยรู้สํานึกและในขณะเดียวกันผู้กระทํามีความxxxxxxxต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการ กระทํานั้น
ข. ความรู้สํานึกของผู้กระทําในการแสดงออกซึ่งข้อความหรือการกระทําของเขา
ค. xxxxxในการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อแจ้งให้บุคคลอื่นทราบถึงข้อความที่ผู้แสดงxxxxxxxxxxxx ง. xxxxxxxxมุ่งโดยตรงจะให้xxxxxxในกฎหมาย มีการเคลื่อนไหวในxxxxx
19. xxxxxxต้องการส่งจดหมายทางไปรษณีย์แสดงxxxxxบอกเลิกสัญญาเช่าบ้านไปยังxxxxxxx แต่บุรุษ ไปรษณีย์ส่งจัดหมายนั้นxxxxxxถึง 3 ครั้ง xxxxxxxxxนําจดหมายแสดงxxxxxบอกเลิกสัญญาเช่านั้นไปปิดไว้ที่บ้าน เช่า ดังนี้ การแสดงxxxxxบอกเลิกสัญญาของxxxxxx มีผลอย่างไร
ก. ยังไม่ถือxxxxxxว่าได้ไปถึงxxxxxxxผู้เช่าแล้ว ข. ไปถึงxxxxxxxxxxx xxxไม่มีผลเป็นการบอกเลิก ค. ยังไม่มีผลเป็นการบอกเลิกสัญญา ง. ไปถึงxxxxxxxแล้ว และมีผลเป็นการบอกเลิก
20. xxxxxxอยู่จังหวัดราชบุรีส่งจดหมายแสดงxxxxxไปยัง xxxxxxxxxxอยู่จังหวัดกรุงเทพ เสนอขายพ่อxxxxxxxxxxx 1 ตัว แก่xxxxxxx ในราคา 240,000 บาท หลังจากส่งจดหมายไปได้ 2 วัน xxxxxxถึงแก่ความตาย ข้อใดสรุป ได้ถูกต้อง
ก. การแสดงxxxxxของxxxxxxยังไม่เสื่อมเสียไป
ข. การแสดงxxxxxของxxxxxxยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้xxxxxของxxxxxxxxxได้ ค. การแสดงxxxxxxxxตกเป็นโมฆะตั้งแต่ xxxxxxถึงแก่ความตาย
ง. ถูกทุกข้อ
21. xxxxxป่วยเป็นมะเร็งอาศัยอยู่ที่ จ.ลําปาง ได้เขียนจดหมายส่งการแสดงxxxxxไปยัง บัวคลี่เพื่อนxxxxxxซึ่ง อยู่ที่ จ.สงขลา การแสดงxxxxxของxxxxx มีxxxxxxxxxเมื่อใด
ก. เมื่อxxxxxเขียนจดหมายเสร็จ ข. เมื่อxxxxxxxxส่งจดหมายไปยังบัวคลี่แล้ว ค. เมื่อจดหมายของxxxxxไปถึงบัวคลี่แล้ว ง. เมื่อบัวคลี่ได้รับจดหมายและเปิดแกะอ่าน
22. เด็กขายพวงมาลัยและลูกอมเอาพวงมาลัย 1 พวง และลูกอมห่อเล็กๆ 1 ถุง มาส่งให้ขณะคุณกําลังนั่งกิน หมูกระทะหลังมหาวิทยาลัยรามคําแหง ด้วยความสงสารและอยากสนับสนุนการศึกษาจึงได้ให้แบงค์ร้อย 1 ใบ ไป ดังนี้ การกระทําของxxxxxผลเป็นการแสดงxxxxxจะซื้อพวงมาลัย กับ ลูกอมห่อเล็ก ๆ นั้นหรือไม่อย่างไร
ก. เป็นการแสดงxxxxxโดยปริยาย ข. เป็นการแสดงxxxxxโดยการนิ่ง
ค. เป็นการแสดงxxxxxโดยชัดแจ้ง ง. xxxxxxxxxมีผลเป็นการแสดงxxxxxใดๆ เลย
23. คําว่า “การแสดงxxxxx” ตามความหมายของxxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมายถึง ก. การเผยxxxxxของบุคคลในทางแพ่งซึ่งมุ่งต่อผลในกฎหมาย
ข. การใดๆ อันทําลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยxxxxxxx
ค. การกระทําโดยรู้สํานึกและในขณะเดียวกันผู้กระทําxxxxxxxต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทํานั้น
ง. ถูกทุกข้อ
24. xxxxxxxxมอบแหวนเพชรxxxxxx 1 ล้านบาทแก่xxxxxx กลางห้างดังxxxxxxxxxxx กรณีนี้ถือได้ว่า การกระทํา ของxxxxxนั้น ...
ก. xxxxxxxที่จะทํานิติกรรม ข. xxxxxxxที่จะกระทํา
ค. xxxxxxxที่จะแสดงออก ง. ถูกทั้งข้อ ข. และ ค.
25. การแสดงxxxxxฝ่ายเดียวโดยแท้ จะมีxxxxxxxxxเมื่อใด
ก. ได้มีการทําหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้แสดงxxxxxนั้น ข. ผู้แสดงxxxxxxxxเผยxxxxxออกมา
ค. ผู้แสดงxxxxxxxxส่งการแสดงxxxxxไปแล้ว
ง. คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ทราบxxxxxxแสดงxxxxxนั้น
26. หลักการตีความการแสดงxxxxxนั้น กฎหมายให้xxxxxxxxถึงข้อใด
ก. xxxxxอันแท้จริง ข. ถ้อยคําสํานวนตามตัวxxxxx ค. ถ้อยคําสํานวนตามตัวxxxxxยิ่งกว่าxxxxxอันแท้จริง
ง. xxxxxอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคําสํานวนตามตัวxxxxx
27. ลูกค้าธนาคารแบงค์สีxxxxแห่งหนึ่งได้นําเงินสดจํานวน 10,000 บาทไปฝากไว้กับธนาคาร พนักงานธนาคาร รับเงินและใบฝากพร้อมบัญชีฝากเงินของลูกค้าโดยxxxxxxพูดอะไร แล้วดําเนินการรับฝากเงินนั้นตามขั้นตอน xxxx อยากทราบว่าการกระทําของพนักงานธนาคารนี้มีผลอย่างไร
ก. เป็นการแสดงxxxxxโดยชัดแจ้ง ข. เป็นการแสดงxxxxxโดยปริยาย
ค. เป็นการแสดงxxxxxโดยการนิ่ง ง. ไม่เป็นการแสดงxxxxxแต่อย่างใด
28. ในการแสดงxxxxxเป็นเรื่องที่สําคัญมาก ในส่วนของข้อสอบรามคําแหงจะxxxxxxพูดหรือเน้นอะไรตรงน้ีนัก ข้อใดสรุปถูกต้อง
ก. การแสดงxxxxxเป็นองค์ประกอบข้อแรกที่ทําให้xxxxxxxxxxxxxxx ข. หากไม่มีการแสดงxxxxxออกมา xxxxxxxxxxxxxxxxจะเกิดขึ้นได้
15. นัทขอยืมเงินเอกจํานวน 50,000 บาท นัทไม่ชําระหนี้เงินจํานวนนี้คืนแก่เอกภายในกําหนด เอกจึงข่มขู่นัx xxxxxxxxxความพนักงานสอบสวนฐานฉ้อโกง และจะฟ้องทางแพ่งเรียกเงินนั้นคืน ด้วยความกลัว นัท จึงลง ลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คจํานวนเงิน 50,000 บาทให้แก่เอก การนี้มีผลเป็นอย่างไร
ก. โมฆะ ข. โมฆียะ
ค. xxxxxxx xxxเสียไปเพราะการข่มขู่ ง. ไม่xxxxxxx เสื่อมเสียไปเพราะการข่มขู่
16. เงื่อนไข หมายถึงข้อกําหนดในนิติกรรม ซึ่งผู้ทํานิติกรรมกําหนดขึ้น เพื่อบังคับให้นิติกรรมนั้นxxxxxxหรือ สิ้นผล ในเมื่อ ...
ก. มีเหตุการณ์อันใดอันหนึ่งเกิดขึ้นในxxxxx
ข. มีเหตุการณ์อันใดอันหนึ่งเกิดขึ้นในxxxxxxxxแน่นอน ค. มีเหตุการณ์อันใดอันหนึ่งเกิดขึ้นในxxxxxและแน่นอน
ง. มีเหตุการณ์อันใดอันหนึ่งเกิดขึ้นในxxxxxและไม่แน่นอน
17. xxxxxxxxxxxเป็นxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ก. นิติกรรมเป็นผลต่อเมื่อถึงเวลากําหนด ข. นิติกรรมเป็นผลต่อเมื่อเงื่อนไขสําเร็จแล้ว ค. นิติกรรมสิ้นผลเมื่อถึงเวลากําหนด ง. นิติกรรมสิ้นผลต่อเมื่อเงื่อนไขสําเร็จแล้ว
18. xxxxxxxxxxxเป็นxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ก. นิติกรรมสิ้นผลต่อเมื่อถึงเวลากําหนด ข. นิติกรรมสิ้นผลต่อเมื่อเงื่อนไขสําเร็จแล้ว ค. นิติกรรมเป็นผลต่อเมื่อเงื่อนไขสําเร็จแล้ว ง. นิติกรรมเป็นผลต่อเมื่อถึงเวลากําหนด
19. กรณีเงื่อนไขสําเร็จแล้วในเวลาทําxxxxxxxx xxxเป็นxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ก. นิติกรรมเป็นโมฆะ ข. นิติกรรมเป็นโมฆียะ
ค. xxxxxxxxxxxxxxx x. xxxxxxxxxxxxxxxxxx
20. กรณีที่รู้แน่นอนว่าเงื่อนไขxxxxxxสําเร็จได้เลย ถ้าเป็นxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ก. นิติกรรมเป็นโมฆะ ข. นิติกรรมเป็นโมฆียะ
ค. xxxxxxxxxxxxxxx x. xxxxxxxxxxxxxxxxxx
21. xxxxxตกลงเช่ารถยนต์วันร้าย ต่างมีข้อตกลงว่า ถ้ารถยนต์คันใหม่ของxxxxxxxxสั่งซื้อมาจากต่างประเทศได้ เดินทางมาถึงท่าเรือกรุงเทพฯ แล้ว ก็ให้สัญญาเช่ารถยนต์ระงับ แต่ขณะทําสัญญา เรือบรรทุกรถยนต์คันใหม่ ของxxxxxเกิดอับปางลงในทะเลพร้อมรถยนต์ทั้งหมด สัญญาเช่ารถยนต์ระหว่างxxxxxและวันร้ายมีผลอย่างใด
ก. โมฆะ ข. โมฆียะ ค. xxxxxxx x. ไม่xxxxxxx
22. xxxxxxxxxxxมีเงื่อนไขxxxxxxxx xxxเป็นxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ก. นิติกรรมเป็นโมฆะ ข. นิติกรรมเป็นโมฆียะ
ค. xxxxxxxxxxxxxxx x. xxxxxxxxxxxxxxxxxx
23. ระยะเวลา หมายความถึงข้อใด ก. นาที ชั่วโมง วัน หรือปี
ข. ช่วงที่กําหนดเป็นนาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน หรือ ปี
ค. วัน เดือน หรือปี อย่างใดอย่างหนึ่ง
ง. ช่วงความยาวของเวลา ซึ่งอาจกําหนดเป็นนาที ชั่วโมง สัปดาห์ เดือน หรือปีก็ได้
24. โดยทั่วไปแล้วกฎหมายให้คํานวณระยะเวลาเป็น
ก. นาที ชั่วโมง ข. วัน
ค. สัปดาห์ เดือน หรือ ปี ง. นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน หรือ ปี หรืออย่างใดๆ
25. ถ้าระยะเวลานับเป็นชั่วโมง จะเริ่มต้นและสิ้นสุดเมื่อใด
ก. เริ่มต้นนับในชั่วโมงถัดไป และสิ้นสุดลงเมื่อครบจํานวนชั่วโมง
ข. เริ่มต้นนับทันใดนั้น ถ้าเริ่มการอันนั้นตามประเพณีและสิ้นสุดเมื่อครบจํานวนชั่วโมง ค. เริ่มต้นนับในทันใดนั้น และสิ้นสุดเมื่อครบจํานวนชั่วโมง
ง. .เริ่มต้นนับทันใดนั้น และสิ้นสุดลงในชั่วโมงถัดไป
26. xxxxxxxxxบ้านบาสเมื่อxxxxxx 1 xxxxxx พ.ศ. 2564 กําหนดระยะเวลาเช่า 1 ปี ข้อใดถูกต้อง ก. เริ่มต้นxxxxxx 1 xxxxxx 2564 สิ้นสุดลงxxxxxx 31 ธันวาคม 2564
ข. เริ่มต้นxxxxxx 2 xxxxxx 2564 สิ้นสุดลงxxxxxx 31 ธันวาคม 2564
ค. เริ่มต้นxxxxxx 1 xxxxxx 2564 สิ้นสุดลงxxxxxx 1 xxxxxx 2565
ง. เริ่มต้นxxxxxx 2 xxxxxx 2564 สิ้นสุดลงxxxxxx 2 xxxxxx 2565
27. ไก่กู้เงินไข่ไปเมื่อxxxxxx 9 มีนาคม 2564 กําหนดชําระคืนภายใน 3 เดือน ข้อใดถูกต้อง ก. เริ่มต้นxxxxxx 9 มีนาคม 2564 สิ้นสุดxxxxxx 9 มิถุนายน 2564
ข. เริ่มต้นxxxxxx 10 มีนาคม 2564 สิ้นสุดxxxxxx 9 มิถุนายน 2564
ค. เริ่มต้นxxxxxx 9 มีนาคม 2564 สิ้นสุดxxxxxx 10 มิถุนายน 2564
ง. เริ่มต้นxxxxxx 10 มีนาคม 2564 สิ้นสุดxxxxxx 10 มิถุนายน 2564
28. ดาด้าเช่าตึกแถวของน้อยไปเมื่อxxxxxx 9 ธันวาคม 2563 กําหนดอายุสัญญาเช่า 15 ปี ข้อใดถูกต้อง ก. เริ่มต้นxxxxxx 9 ธันวาคม 2563 สิ้นสุดxxxxxx 9 ธันวาคม 2578
ข. เริ่มต้นxxxxxx 9 ธันวาคม 2563 สิ้นสุดxxxxxx 10 ธันวาคม 2578
ค. เริ่มต้นxxxxxx 10 ธันวาคม 2563 สิ้นสุดxxxxxx 9 ธันวาคม 2578
ง. เริ่มต้นxxxxxx 10 ธันวาคม 2563 สิ้นสุดxxxxxx 9 ธันวาคม 2578
29. หน้าต่างกู้เงินของประตูไปเมื่อxxxxxx 28 กุมภาพันธ์ 2564 (วันสุดท้ายของเดือน) กําหนดชําระคืนภายใน 1 เดือน xxxxนี้ หน้าต่างจะต้องชําระหนี้เงินกู้คืนแก่ประตู อย่างช้าภายในวันใด
ก. xxxxxx 28 มีนาคม 2564 ข. xxxxxx 29 มีนาคม 2564
ค. xxxxxx 30 มีนาคม 2564 ง. xxxxxx 31 มีนาคม 2564
30. อุนจิกู้เงินขี้มูกไปเมื่อxxxxxx 30 ธันวาคม 2563 กําหนดชําระคืนภายใน 2 เดือน xxxxนี้ระยะเวลาจะเริ่มต้น เมื่อใด และอุนจิจะต้องชําระเงินขี้มูกคืนอย่างช้าภายในวันใด
ก. เริ่มต้นxxxxxx 30 ธันวาคม 2563 ชําระฯ คืนภายในxxxxxx 31 มีนาคม 2564
ข. เริ่มต้นxxxxxx 30 ธันวาคม 2563 ชําระฯ คืนภายในxxxxxx 28 กุมภาพันธ์ 2564
ค. เริ่มต้นxxxxxx 31 ธันวาคม 2563 ชําระฯ คืนภายในxxxxxx 1 มีนาคม 2564
ง. เริ่มต้นxxxxxx 31 ธันวาคม 2563 ชําระฯ คืนภายในxxxxxx 28 กุมภาพันธ์ 2564
แบบฝึกหัดชุดที่ 4 ☺
1. ถ้ากฎหมายxxxxxxxxxxxxxอายุความไว้โดยเฉพาะแล้ว ให้xxxxxxอายุความนั้นมีกําหนดเท่าใด ก. 6 เดือน ข. 1 ปี ค. 5 ปี ง. 10 ปี
2. อายุความสําหรับxxxxxเรียกร้องทั่วไป ให้เริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด ก. ขณะxxxxxxบังคับxxxxxเรียกร้องได้
ข. วันทําสัญญากู้
ค. วันรุ่งขึ้นจากที่ครบกําหนดชําระหนี้ ง. วันรุ่งขึ้นจากxxxxxxได้มีการxxxxxx
3. อายุความสําหรับxxxxxเรียกร้องเพื่อให้งดเว้นกระทําการ ให้เริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด
ก. ขณะxxxxxxบังคับxxxxxเรียกร้องได้ ข. เมื่อมีการxxxxxxตามxxxxxเรียกร้อง ค. ตั้งแต่เวลาแรกที่ละเมิดxxxxxหรือฝ่าฝืนข้อห้าม
ง. ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นจากวันแรกที่ละเมิดxxxxxหรือฝ่าฝืนข้อห้าม
4. เจ้าหนี้ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้xxxxxxxxxxxxxxมีกําหนดเวลาใช้เงินคืน จะเริ่มนับอายุความตั้งแต่เมื่อใด
ก. xxxxxxมีการใช้xxxxxเรียกร้องให้ชําระหนี้ ข. วันรุ่งขึ้นจากxxxxxxครบกําหนดชําระหนี้ ค. xxxxxxทําสัญญากู้ ง. xxxxxxได้มีการxxxxxxให้ชําระหนี้
5. ไก่ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้จากไข่xxxxxxxxxxxxxxไม่มีกําหนดเวลาใช้เงินคืน ไก่จะใช้xxxxxxxxxเรียกได้ตอนใด ก. xxxxxxมีการใช้xxxxxเรียกร้องให้ชําระหนี้ ข. xxxxxxได้มีการxxxxxxให้ชําระหนี้
ค. วันรุ่งขึ้นจากxxxxxxทําสัญญากู้ ง. xxxxxxทําสัญญากู้เงิน
6. xxxxxเรียกร้องที่เกิดจากการบอกล้างxxxxxxxxx ให้เริ่มนับตอนใด
ก. xxxxxxได้มีการxxxxxxให้ชําระหนี้ ข. xxxxxxได้มีการใช้xxxxxเรียกร้องให้ชําระหนี้ ค. วันรุ่งขึ้นจากxxxxxxครบกําหนดชําระหนี้ ง. xxxxxxก่อโมฆียะกรรมนั้น
7. เหตุxxxxxxทําให้อายุความสะดุดหยุดลง คือ
ก. ลูกหนี้ส่งดอกเบี้ยหรือให้ประกันแก่เจ้าหนี้ ข. ลูกหนี้ใช้เงินบางส่วน
ค. เจ้าหนี้ถอนฟ้อง ง. ลูกหนี้รับสภาพหนี้ตามxxxxxเรียกร้อง
8. ผลตามกฎหมายเมื่ออายุความสะดุดหยุดลงคือข้อใด
ก. ระยะเวลาxxxxxxxxxxไปแล้วไม่นับเข้าในอายุความ และไม่เริ่มนับอายุความใหม่
ข. ระยะเวลาxxxxxxxxxxไปแล้วไม่นับเข้าในอายุความ และให้เริ่มนับอายุความใหม่ตามกําหนดใหม่
ค. ระยะเวลาxxxxxxxxxxไปแล้วไม่นับเข้าในอายุความ และให้เริ่มนับอายุความใหม่ตามกําหนดเท่าเดิม ง. ระยะเวลาxxxxxxxxxxไปแล้วไม่นับเข้าในอายุความ แต่ไม่นับอายุความใหม่
9. ถ้าลูกหนี้ชําระหนี้ หรือรับสภาพความผิดโดยสัญญา หรือให้ประกันในหนี้เงินที่ขาดอายุความแล้วแก่เจ้าหนี้ มีผลเป็นดังข้อใด