บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (INSET-W1)
ข้อกำหนดว่าด้วยxxxxxและหนาที่ของผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxx และผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของ
บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (INSET-W1)
สำหรับผู้ถือหุ้นเดิม ลงxxxxxx 25 xxxxxx 2564
ข้อกำหนดว่าด้วยxxxxxและหน้าที่ของผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxxและผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx xxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1
ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (“ใบสำคัญแสดงxxxxx” หรือ “INSET-W1”) ออกโดยบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) (“ผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxx” หรือ “บริษัทฯ”) ตามมติที่ประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 เมื่อxxxxxx 6 xxxxxx 2564
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะได้รับxxxxxตามxxxxxxกำหนดไว้ในข้อกำหนดxxxxx โดยผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxxและผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxจะต้องผูกพันตามข้อกำหนดxxxxxxxxทุกประการ และให้xxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxรับทราบและเข้าใจ ข้อกำหนดต่างๆ ในข้อกำหนดxxxxxเป็นอย่างดีแล้ว รวมxxxxxxxให้ความเห็นชอบกับการแต่งตั้งนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx และข้อกำหนดต่าง ๆ ในสัญญาแต่งตั้งนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxด้วย ทั้งนี้ ผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxx จะจัดให้มีการเก็บ รักษาสำเนาข้อกำหนดxxxxxไว้ ณ สำนักงานใหญ่ของผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxx เพื่อให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxขอตรวจสอบ สำเนาข้อกำหนดxxxxxและสัญญาต่าง ๆ ดังกล่าวได้ในวันและเวลาทำการของผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxx
1. คำจำกัดความ
คำและข้อความต่างๆ ที่ใช้อยู่ในข้อกำหนดxxxxx ให้มีความหมายดังต่อไปนี้
“ข้อกำหนดxxxxx” | หมายถึง ข้อกำหนดว่าด้วยxxxxxและหน้าที่ของผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxx และผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 ฉบับนี้ (รวมxxxxxxxมีการแก้ไขเพิ่มเติม (ถ้ามี) |
“ใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 ชนิดระบุชื่อผู้ถือและโอนเปลี่ยนมือxxx xxxจัดสรรให้แก่ผู้ ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น หรือใบแทนใบสำคัญแสดง xxxxx |
“ใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง ใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxออกโดยบริษัท ศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อใช้แทนใบสำคัญแสดงxxxxx |
“ผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxx” หรอื “บริษัทฯ” | หมายถึง บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) |
“ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง ผู้ทรงxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxx และ/หรือ ใบแทนใบสำคัญแสดง xxxxx (แล้วแต่กรณี) |
“วันทำการ” | หมายถึง xxxxxxธนาคารพาณิชย์เปิดทำการxxxxในกรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ใช่ วันเสาร์หรือวันxxxxxxxหรือวันอื่นใดที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศให้ เป็นวันหยุดของธนาคารพาณิชย์ |
“xxxxxxออกใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง xxxxxx 25 xxxxxx 2564 |
“วันกำหนดการใช้xxxxx” | หมายถึง xxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxx ของบริษัทฯ ได้ ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 2.2.1 ของข้อกำหนดxxxxx |
“วันกำหนดการใช้xxxxxครงั้ แรก” | หมายถึง xxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx xxxxxxใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดง xxxxxxxxเป็นครั้งแรก (xxxxxx 31 มีนาคม 2565) ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ใน ข้อ 2.2.1 ของข้อกำหนดxxxxx |
“วันกำหนดการใช้xxxxxครงั้ สุดท้าย” | หมายถึงxxxxxx 24 xxxxxx 2566 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับxxxxxxครบกำหนดอายุ ของใบสำคัญแสดงxxxxx xxxxxxx ในกรณีxxxxxxกำหนดการใช้xxxxxตรงกับวันหยุด ทำการ ให้ใช้xxxxxในวันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวันครบอายุของใบสำคัญ แสดงxxxxx ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 2.2.1 ของข้อกำหนดxxxxx |
“ระยะเวลาการแจ้งความxxxxใน การใช้xxxxx” | หมายถึง ระยะเวลาที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxซึ่งxxxxxxxจะใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญของบริษัทฯ xxxxxxแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดง xxxxxxxx ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 2.2.2 ของข้อกำหนดxxxxx |
“สำนักงาน ก.ล.ต.” | หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ |
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ” | หมายถึง ตลาดหลักทรัพย์xxxx xx ไอ และ/หรือ ตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย |
“นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด |
“ประกาศ ทจ.34/2551” | หมายถึง ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.34/2551 เรื่อง การ ขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นที่ ออกใหม่และหุ้นที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงxxxxx ลงxxxxxx 15 ธันวาคม 2551 (รวมxxxxxxxมีการแก้ไขเพิ่มเติม) |
2. รายละเอียดของใบสำคัญแสดงxxxxx
ตามxxxxxxประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ซึ่งประชุมเมื่อxxxxxx 6 xxxxxx 2564 ได้มีมติอนุมัติการออกและเสนอ ขายใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 307,999,983 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ โดย กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีxxxxxxxxรับการจัดสรรใบสำคัญแสดงxxxxx (Record Date) ในxxxxxx 15 xxxxxx 2564 โดยไม่คิดxxxxxx ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ ใบสำคัญแสดงxxxxx 1 หน่วย (ในกรณีที่มีเศษให้ปัดเศษทิ้ง) โดยมีรายละเอียดของใบสำคัญ แสดงxxxxx ดังนี้
2.1 ลักษณะสำคัญของใบสำคัญแสดงxxxxx
ประเภทของใบสำคัญแสดงxxxxx : ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน)
ครั้งที่ 1
ชนิดของใบสำคัญแสดงxxxxx : ระบุชื่อผู้ถือและโอนxxxxxxxxxxxxx
อายุของใบสำคัญแสดงxxxxx : 2 ปี นับตั้งแต่xxxxxxออกใบสำคัญแสดงxxxxx (วันครบกำหนดอายุใบสำคัญแสดง
xxxxxจะตรงกับวันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้ายในxxxxxx 24 xxxxxx 2566
และใบสำคัญแสดงxxxxxจะพ้นสภาพในวันถัดไป) จำนวนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxออก : ไม่เกิน 307,999,983 หน่วย
จำนวนหุ้นสามัญที่ออกเพื่อรองรับ การใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxx
: ไม่เกิน 307,999,983 หุ้น (xxxxxxที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท) คิดเป็นไม่เกินร้อย ละ 50.00 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ จำนวน 615,999,966 หุ้น
อัตราการใช้xxxxx : ใบสำคัญแสดงxxxxx 1 หน่วย มีxxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxได้ 1 หุ้น (อาจ
เปลี่ยนแปลงได้ตามเงื่อนไขการปรับxxxxx ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 2.3
ของข้อกำหนดxxxxx)
ระยะเวลาการใช้xxxxx : ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxฯ xxxxxxใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxฯ ได้ในวันทำ
การสุดท้ายของเดือนมีนาคมและกันยายน ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงxxxxxฯ โดยxxxxxxเริ่มใช้xxxxxครั้งแรกได้ในเดือนมีนาคม 2565 และวันใช้xxxxxครั้ง สุดท้าย คือ xxxxxxใบสำคัญแสดงxxxxxฯ มีอายุครบ 2 ปี ทั้งนี้ให้ยกเว้นเดือน กันยายนปี 2566 ที่จะไม่มีวันกำหนดการใช้xxxxx xxxxxxxในกรณีxxxxxxใช้xxxxxตรง กับวันหยุดทำการของบริษัทฯ หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้เลื่อน วันใช้xxxxxดังกล่าวเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวันใช้xxxxxดังกล่าว
ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการ ใช้xxxxx
: ไม่น้อยกว่า 5 วันทำการก่อนวันใช้xxxxx ระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 16.00 น. ยกเว้นการแจ้งใช้xxxxxครั้งสุดท้ายจะไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนวันใช้xxxxx ระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 16.00 น.
ราคาการใช้xxxxx : 2.00 บาทต่อหุ้น (xxxxxxที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท) (อาจเปลี่ยนแปลงได้ตาม
เงื่อนไขการปรับxxxxx ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 2.3 ของข้อกำหนดxxxxx) ลักษณะการเสนอขาย : จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีxxxxxxxxรับการ
จัดสรรใบสำคัญแสดงxxxxx (Record Date) ในxxxxxx 15 xxxxxx 2564 ใน อัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ ใบสำคัญแสดงxxxxx 1 หน่วย (ในกรณีที่มีเศษ ให้ปัดเศษทิ้ง)
ราคาเสนอขายต่อหน่วย : 0.00 บาทต่อหน่วย xxxxxxออกใบสำคัญแสดงxxxxx : xxxxxx 25 xxxxxx 2564
ตลาดรองของใบสำคัญแสดงxxxxx : บริษัทฯ จะนำใบสำคัญแสดงxxxxxเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์xxxxxxไอ
ตลาดรองของหุ้นสามัญที่เกิดจาก การใช้xxxxx
2.2 การใช้xxxxxและเงื่อนไขการใช้xxxxx
2.2.1 วันกำหนดการใช้xxxxx
: บริษัทฯ จะนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxเข้าจด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์xxxxxxไอ
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx xxxxxxใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxxxxในวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคมและเดือน กันยายนของแต่ละปี ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงxxxxx โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxใช้xxxxxครั้งแรกได้ในxxxxxx 31 มีนาคม 2565 (“วันกำหนดการใช้xxxxxครั้งแรก”) สำหรับการใช้xxxxxครั้งต่อๆ ไป xxxxxxใช้xxxxxxxxในวันทำการสุดท้ายของ เดือนมีนาคมและเดือนกันยายนของแต่ละปี ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงxxxxx xxxxxxxให้ยกเว้นเดือนกันยายนปี 2566 ที่จะไม่มี วันกำหนดการใช้xxxxx โดยให้ไปใช้xxxxxครั้งสุดท้ายได้ในxxxxxxครบกำหนดอายุของใบสำคัญแสดงxxxxxในxxxxxx 24 xxxxxx 2566 (“วันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย”) ทั้งนี้ ในกรณีxxxxxxกำหนดการใช้xxxxxตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทฯ หรือวันหยุดทำ การของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือวันหยุดทำการของนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx ให้เลื่อนวันกำหนดการใช้xxxxxดังกล่าวเป็น วันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวันกำหนดการใช้xxxxxดังกล่าวxxxxxxตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทฯ วันหยุดทำการของตลาด หลักทรัพย์ฯ และวันหยุดทำการของนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx
2.2.2 ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxซึ่งxxxxxxxจะใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จะต้องแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญของบริษัทฯ โดยมีระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ดังนี้
การแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญในแต่ละครั้ง (ยกเว้นการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย)
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxซึ่งxxxxxxxจะใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จะต้องแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญของบริษัทฯ ระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 16.00 น. ในทุกวันทำการของบริษัทฯ ภายในระยะเวลา 5 วันทำการก่อนวัน กำหนดการใช้xxxxxแต่ละครั้ง (“ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx”)
การแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญครั้งสุดท้าย
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxซึ่งxxxxxxxจะใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จะต้องแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญของบริษัทฯ ระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 16.00 น. ในทุกวันทำการของบริษัทฯ ภายในระยะเวลา 15 วันก่อนวัน กำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย (“ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย”)
ทั้งนี้ การแจ้งข่าวเกี่ยวกับการใช้xxxxx อัตราการใช้xxxxx ราคาการใช้xxxxx ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx และวันกำหนดการใช้xxxxx บริษัทฯ xxxxxxรายละเอียดดังกล่าวอย่างน้อย 5 วันทำการก่อนวันเริ่มระยะเวลาการแจ้งความ xxxxในการใช้xxxxxแต่ละครั้งผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) สำหรับการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย บริษัทฯ xxxxxxข่าวล่วงหน้า 14 วันก่อนวันปิดสมุดทะเบียนxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxxผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาด หลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) และจะส่งรายละเอียดดังกล่าวทางไปรษณีย์ลงทะเบียนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx ตาม รายชื่อที่ปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx
บริษัทฯ จะไม่มีการปิดสมุดทะเบียนxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxx ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้
1. ในการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย โดยบริษัทฯ จะปิดสมุดทะเบียน 21 วันก่อนวันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำการขึ้นเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย (SP) ล่วงหน้า 2 วันทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนวันปิดสมุดทะเบียนxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxx จนถึงวันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย
2. ในกรณีที่มีการจัดประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx บริษัทฯ อาจปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนด รายชื่อผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxมีxxxxxเป็นระยะเวลาไม่เกิน 21 วันก่อนวันประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxฯ โดยผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxฯที่มีxxxxxเข้าร่วมประชุมต้องมีรายชื่อเป็นผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxก่อนวันปิดสมุดทะเบียน ดังกล่าว (วันก่อนวันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XM) ในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx ตาม รายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 5 ของข้อกำหนดxxxxx
xxxxxxx ในกรณีxxxxxxปิดสมุดทะเบียนxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxx ตรงกับวันหยุดทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ วันหยุดทำการของนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx ให้เลื่อนวันปิดสมุดทะเบียนดังกล่าวเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวันปิด สมุดทะเบียนxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxxดังกล่าว xxxxxxตรงกับวันหยุดทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ และวันหยุดทำการของ นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx
2.2.3 นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx
บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 93 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
โทรศัพท์ : 00-000-0000
โทรสาร : 00-000-0000 Website : xxx.xxx.xx.xx/xxx
E-mail : XXXXxxxxxxXxxxxx@xxx.xx.xx
นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxจะรับผิดชอบต่อการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx ซึ่งในสมุดทะเบียน จะต้องประกอบด้วย ชื่อและนามสกุล สัญชาติ และที่อยู่ของผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx และรายละเอียดอื่นๆ ที่บริษัท ศูนย์รับ ฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด จะกำหนด ในกรณีที่ข้อมูลไม่ตรงกัน จะxxxxxxข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนั้น ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxมีหน้าที่ในการแจ้งขอเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อผิดพลาด ในรายละเอียดในการลงบันทึกสมุดทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxต่อนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxโดยตรง
บริษัทฯ ขอxxxxxxxxxในการเปลี่ยนแปลงนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx โดยxxxxxxการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้แก่ ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxทราบผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) โดยxxxxxxxxx
2.2.4 สถานที่ติดต่อในการใช้xxxxx
บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 165/37-39 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220
โทรศัพท์ : 0-2092-7444
โทรสาร : 0-0000-0000 Website : xxx.xxxxxxxx.xx.xx
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ติดต่อในการใช้xxxxx บริษัทฯ xxxxxxการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้แก่ ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxทราบผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) โดยxxxxxxxxx
2.2.5 วิธีการ และขั้นตอนในการใช้xxxxx
(1) ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxติดต่อขอรับแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ xxxxxxบริษัทฯ หรือดาวน์โหลดจากเว็ปไซต์ของบริษัทฯ (xxx.xxxxxxxx.xx.xx) ในระหว่าง ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx หรือระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxครั้งสุ ดท้าย ตาม รายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 2.2.2 ของข้อกำหนดxxxxx และนำส่งใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxxxx ระบุว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxนั้นมีxxxxxตามจำนวนที่ระบุอยู่ในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxx ของบริษัทฯ โดยในกรณีที่ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxในระบบใบหุ้น ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxใช้ใบสำคัญแสดง xxxxxเป็นหลักฐานในการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxxxxทันที
ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxในระบบไร้ใบหุ้น (Scripless System) ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxต้องการใช้xxxxxต้อง แจ้งความxxxxและกรอกแบบคำขอให้ออกใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxตามที่ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยกำหนด โดยยื่นต่อบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) ของตน และบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวจะxxxxxxการแจ้งกับนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxเพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงxxxxx สำหรับนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxกับบริษัทฯ โดยนายทะเบียนใบสำคัญแสดง xxxxxจะออกใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxเพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญxxxxxxxxกับบริษัทฯ ต่อไป
(2) ชำระเงินตามจำนวนในการใช้xxxxxตามที่ระบุในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด และไม่เกินวันกำหนดการใช้xxxxxแต่ละครั้ง โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxxจะใช้ xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ จะต้องชำระเงินโดยเช็ค แคชเชียร์เช็ค ตั๋วแลกเงินธนาคาร หรือคำสั่งจ่ายเงิน
ธนาคาร ที่xxxxxxเรียกเก็บเงินได้ในเขตกรุงเทพมหานครภายในวันกำหนดการใช้xxxxxแต่ละครั้ง โดยxxxxxxxxสั่ง จ่าย “บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน)” โดยเขียนชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ไว้ด้านหลัง
ทั้งนี้ การใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxดังกล่าวจะxxxxxxxต่อเมื่อบริษัทฯ xxxxxxเรียกเก็บเงินจำนวนดังกล่าวได้แล้ว เท่านั้น หากบริษัทฯ เรียกเก็บเงินxxxxxxด้วยเหตุผลใดๆ xxxxxxxxเกิดจากบริษัทฯ ให้xxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxแสดง xxxxxยกเลิกการใช้xxxxxดังกล่าว และบริษัทฯ ตกลงให้ถือเป็นการยกเลิกการขอใช้xxxxxในครั้งนั้น โดยบริษัทฯ จะ จัดส่งใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxพร้อมกับเช็ค แคชเชียร์เช็ค ตั๋วแลกเงินธนาคาร หรือคำสั่ง จ่ายเงินธนาคาร ที่เรียกเก็บเงินxxxxxxคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุไว้ใน แบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ ภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้xxxxxแต่ละ ครั้ง ซึ่งบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อดอกเบี้ย และ/หรือ ค่าเสียหายอื่นใด ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
ทั้งนี้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxได้ใหม่ในวันกำหนดการใช้xxxxx ครั้งต่อไป เว้นแต่การใช้xxxxxครั้งนั้นจะเป็นการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย ให้xxxxxxใบสำคัญแสดงxxxxxนั้นสิ้นสภาพลงและ หมดxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxดังกล่าวอีกต่อไป
หมายเหตุ : ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxxจะใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxจะต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายทางภาษี และ/หรือ อากรแสตมป์ทั้งหมด (ถ้ามี) ตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรว่าด้วยอากรแสตมป์ หรือข้อบังคับหรือ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือบังคับใช้ในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxx (ถ้ามี)
(3) ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ ตามใบสำคัญ แสดงxxxxxxxxตนถืออยู่ทั้งหมด หรือบางส่วนก็ได้ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxx จะใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx และจะต้อง ปฏิบัติให้ถูกต้องตามข้อบังคับหรือกฎหมายต่างๆ ที่ใช้บังคับเกี่ยวกับการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ ด้วย และxxxxxxการส่งมอบเอกสารดังต่อไปนี้ ให้แก่บริษัทฯ ตามสถานxxxxxxระบุในข้อ 2.2.4
(3.1) แบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ xxxxxxกรอกข้อความถูกต้อง ชัดเจน และ ครบถ้วนแล้วทุกรายการ พร้อมลงนามโดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสทธิ หากผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxเป็นนิติบุคคล จะต้องลงนามโดยผู้xxxxxxxลงนามของนิติบุคคลนั้นพร้อมประทับตราสำคัญของบริษัท (ถ้ามี)
(3.2) ใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxระบุว่าผู้ถือนั้นมีxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxxตามจำนวนที่ ระบุอยู่ในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ โดย
(ก) จำนวนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxขอใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxจะต้องเป็นจำนวนเต็มเท่านั้น โดยอัตราการ ใช้xxxxxเท่ากับใบสำคัญแสดงxxxxxหนึ่งหน่วยต่อหนึ่งหุ้นสามัญ เว้นแต่จะมีการปรับxxxxxตามที่ระบุไว้ใน ข้อ 2.3 และ
(ข) ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะต้องใช้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxไม่ต่ำกว่า 100 หุ้น อย่างไรก็ตาม ใน กรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxมีxxxxxในการซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxต่ำกว่า 100 หุ้น จะต้องใช้xxxxxในการ ซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxครั้งเดียวทั้งจำนวน ยกเว้นในการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะ xxxxxxใช้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxโดยไม่มีการกำหนดจำนวนหุ้นสามัญขั้นต่ำ
(3.3) เช็ค แคชเชียร์เช็ค ตั๋วแลกเงินธนาคาร หรือคำสั่งจ่ายเงินธนาคาร ที่จะใช้ชำระเงินตามจำนวนในการใช้xxxxx ตามที่ระบุในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ
(3.4) หลักฐานประกอบการใช้xxxxx
(ก) บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย :
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาบัตรข้าราชการ/สำเนาบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ยังไม่ หมดอายุ (ในกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ซึ่งทำให้ชื่อหรือนามสกุลไม่ตรงกับใบสำคัญแสดง xxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxx ให้แนบเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ xxxx ทะเบียนสมรส ใบหย่า ใบแจ้งเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล เป็นต้น) พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง (กรณีผู้ใช้xxxxx เป็นผู้เยาว์ จะต้องแนบหนังสือยินยอมของ บิดาหรือมารดา หรือผู้xxxxxx (แล้วแต่กรณี) สำเนาบัตร ประชาชนของบิดาหรือมารดาหรือผู้xxxxxx และสำเนาทะเบียนบ้านที่ผู้เยาว์อาศัยอยู่พร้อมลงนาม รับรองสำเนาถูกต้อง)
(ข) บุคคลธรรมดาที่มิใช่สัญชาติไทย :
สำเนาหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องนิติ
(ค) บุคคลสัญชาติไทย :
• สำเนาหนังสือรับรองบริษัทที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์ที่ออกไม่เกิน 6 เดือนก่อนวันกำหนดการ ใช้xxxxxในครั้งนั้นๆ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้xxxxxxxลงนามของนิติบุคคลนั้นๆ พร้อม ประทับตราสำคัญของนิติบุคคล (ถ้ามี)
• เอกสารหลักฐานของผู้xxxxxxxลงลายมือชื่อตาม (ก) หรือ (ข) พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
(ง) นิติบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทย :
• สำเนาหนังสือสำคัญการจัดตั้งบริษัท หนังสือบริคณห์สนธิ ข้อบังคับ และหนังสือรับรองที่ออกไม่ เกิน 6 เดือนก่อนวันกำหนดการใช้xxxxxในครั้งนั้นๆ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้xxxxxxxลง นามของนิติบุคคลนั้นๆ และรับรองโดย Notary Public พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
• เอกสารหลักฐานของผู้xxxxxxxลงลายมือชื่อตาม (ก) หรือ (ข) พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง (จ) คัสโตเดียน (Custodian) :
• สำเนาเอกสารการจดทะเบียน พร้อมหนังสือแต่งตั้งคัสโตเดียน
• เอกสารหลักฐานของผู้xxxxxxxลงลายมือชื่อตาม (ก) หรือ (ข) พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง และ รับรองโดย Notary public ของประเทศที่ออกเอกสารนั้นไม่เกิน 6 เดือนก่อนวันกำหนดการใช้ xxxxxในครั้งนั้นๆ
ทั้งนี้ หากผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx xxxส่งมอบหลักฐานประกอบการใช้xxxxxตามที่กล่าวข้างต้น บริษัทฯ ขอ xxxxxxxxxที่จะxxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxxจะใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxในครั้งนั้นๆ อย่างไร ก็ตาม บริษัทฯ xxxxxxใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxx xxxตามความเหมาะสม
(4) จำนวนหุ้นสามัญที่จะออกเมื่อมีการใช้xxxxx จะคำนวณโดยการนำจำนวนเงินในการใช้xxxxxซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx xxxชำระตามที่กล่าวข้างต้น หารด้วยราคาการใช้xxxxxในขณะที่มีการใช้xxxxxนั้น โดยบริษัทฯ จะออกหุ้นสามัญxxxxxxxx เป็นจำนวนเต็มไม่เกินจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงxxxxxคูณด้วยอัตราการใช้xxxxx หากมีการปรับราคาการใช้xxxxx และ/หรือ อัตราการใช้xxxxxแล้ว ทำให้มีเศษเหลืออยู่จากการคำนวณดังกล่าว บริษัทฯ จะไม่นำเศษดังกล่าวมาคิด คำนวณ และจะชำระเงินที่เหลือจากการใช้xxxxxดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ ภายใน 14 วันนับจากวัน กำหนดการใช้xxxxxแต่ละครั้ง ซึ่งบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อดอกเบี้ย และ/หรือ ค่าเสียหายอื่นใด ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
(5) หากบริษัทฯ ได้รับเอกสารแจ้งความxxxxการใช้xxxxxตามข้อ 2.2.5 (3) ไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง หรือตรวจสอบได้ ว่าข้อความที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxกรอกลงในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ นั้น ไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง หรือปิดอากรแสตมป์ (ถ้ามี) ไม่ครบถ้วนถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร ข้อบังคับ หรือกฎหมายต่างๆ ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะต้องทำการแก้ไขเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขภายในระยะเวลา แจ้งความxxxxในการใช้xxxxxในครั้งนั้น มิฉะนั้นแล้ว บริษัทฯ จะxxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxแสดงxxxxxxxxxxxxxxx ใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญในครั้งนั้นและให้การแจ้งความxxxxดังกล่าวสิ้นผลไป และบริษัทฯ จะจัดส่งใบสำคัญแสดงxxxxx หรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxx และเงินxxxxxxรับไว้คืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ ภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้ xxxxxแต่ละครั้ง ทั้งนี้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxแจ้งความxxxxการxxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxได้ใหม่ในครั้งต่อไป เว้นแต่การใช้xxxxxครั้งนั้นจะเป็นการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย ให้xxxxxxใบสำคัญแสดงxxxxxนั้นสิ้นสภาพลงและหมดxxxxxxxxจะ ซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxดังกล่าวอีกต่อไป ซึ่งบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อดอกเบี้ย และ/หรือ ค่าเสียหายอื่นใด ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
(6) ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxชำระเงินในการใช้xxxxxxxxครบถ้วน หรือมีการชำระเงินเกินจำนวนในการใช้xxxxx บริษัทฯ xxxxxxxxxที่จะxxxxxxการประการใดประการหนึ่งต่อไปนี้ ตามที่บริษัทฯ เห็นxxxxx
(6.1) xxxxxxการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxมีจำนวนเท่ากับ (ก) จำนวนหุ้นสามัญที่พึงจะได้รับตามxxxxx หรือ (ข) จำนวนหุ้นสามัญxxxxxxxxxรับตามจำนวนเงินในการใช้xxxxxซึ่งบริษัทฯ ได้รับชำระไว้จริงตามราคาการใช้xxxxx และอัตราการใช้xxxxxในขณะนั้น แล้วแต่จำนวนใดจะน้อยกว่า หรือ
(6.2) ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxชำระเงินเพิ่มเติมตามจำนวนที่xxxxxxxจะใช้xxxxxให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาการ แจ้งความxxxxในการใช้xxxxx หากบริษัทฯ xxxxxxรับเงินครบตามจำนวนการใช้xxxxxภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้xxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxแสดงxxxxxxxxxxxxxxxใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญในครั้งนั้นเฉพาะส่วนที่ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxชำระจำนวนเงินในการใช้xxxxxxxxครบถ้วน ทั้งนี้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxแจ้งความ xxxxการxxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxได้ใหม่ในครั้งต่อไป เว้นแต่การใช้xxxxxครั้งนั้นจะเป็นการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย ให้xxxxxxใบสำคัญแสดงxxxxxนั้นสิ้นสภาพลงและหมดxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxx ดังกล่าวอีกต่อไป ซึ่งบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อดอกเบี้ย และ/หรือ ค่าเสียหายอื่นใด ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
ในกรณีตามข้อ (6.1) หรือ (6.2) หากมีกรณีต้องส่งเงินคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx บริษัทฯ จะส่งเงินxxx xxxรับไว้คืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งความxxxx การใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ ภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้xxxxxแต่ละครั้ง โดยไม่มี ดอกเบี้ย และ/หรือ ค่าเสียหายอื่นใด xxxxxxxxxxx xxxว่ากรณีใดๆ หากได้มีการส่งมอบเช็คคืนเงินที่เหลือจาก การใช้xxxxxหรือเงินxxxxxxรับไว้โดยไม่มีการใช้xxxxxหรือไม่xxxxxxใช้xxxxx โดยได้ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ โดยถูกต้องแล้ว ให้xxxxxx ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxรับเงินคืนแล้วโดยชอบ และผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxไม่มีxxxxxเรียกร้องดอกเบี้ย และ/หรือ ค่าเสียหายอื่นใด อีกต่อไป
(7) เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxxจะใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อ หุ้นสามัญ กล่าวคือ ได้ส่งมอบทั้งใบสำคัญแสดงxxxxx แบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ และชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxถูกต้องและครบถ้วนxxxxxxxตามเงื่อนไขแล้ว ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะไม่ xxxxxxเพิกถอนการใช้xxxxxxxx เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากบริษัทฯ
(8) ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxส่งมอบใบสำคัญแสดงxxxxxเป็นจำนวนหน่วยมากกว่าจำนวนหน่วยที่xxxxxxxจะใช้ xxxxx บริษัทฯ จะส่งใบสำคัญแสดงxxxxxใบใหม่ที่มีจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงxxxxxส่วนที่เหลือคืนให้แก่ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxx ของบริษัทฯ ภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้xxxxxแต่ละครั้ง และจะทำการยกเลิกใบสำคัญแสดงxxxxxใบเก่า
(9) เมื่อพ้นกำหนดวันใช้xxxxxครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxยังมิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของการใช้xxxxxxxx กำหนดไว้อย่างครบถ้วน ให้xxxxxxใบสำคัญแสดงxxxxxนั้นๆ สิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้xxxxx และผู้ถือใบสำคัญแสดง xxxxxจะใช้xxxxxxxxได้อีกเมื่อพ้นวันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย
(10) ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxเป็นบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยหรือไม่ใช่นิติบุคคลในประเทศ จะxxxxxxใช้xxxxxในการ ซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxxxxก็ต่อเมื่อการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxนั้นไม่ทำให้ขัดต่อข้อบังคับของ บริษัทฯ เกี่ยวกับการถือหุ้นโดยคนต่างด้าว
(11) ในกรณีที่หุ้นสามัญที่xxxxxไว้เพื่อรองรับการใช้xxxxxมีxxxxxxxxxx บริษัทฯ จะxxxxxxการชดใช้xxxxxxxxxxxxxเกิดขึ้น ให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxไม่xxxxxxใช้xxxxxxxx อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะไม่ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงxxxxxxxxไม่xxxxxxใช้xxxxxxxxเนื่องจากการถูกจำกัดxxxxxตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ระบุไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ ไม่ ว่าหุ้นสามัญที่xxxxxไว้จะมีจำนวนเพียงพอหรือไม่ก็ตาม xxxx ในกรณีของผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxต่างด้าวxxxxxx xxxxxxใช้xxxxxเพราะถูกจำกัดxxxxxตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ระบุไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ เป็นต้น
(12) บริษัทฯ จะยื่นขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแลวของบริษัทฯ ต่อกระทรวงพาณิชย์ตามจำนวนหุ้นสามัญที่ออก ใหม่สำหรับการใช้xxxxxในแต่ละครั้งภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้xxxxxแต่ละครั้ง นอกจากนี้ บริษัทฯ จะ xxxxxxการจดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxได้ใช้xxxxxนั้น เข้าเป็นผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในสมุดทะเบียนผู้ถือ หุ้นตามจำนวนหุ้นสามัญที่คำนวณได้จากการใช้xxxxxในครั้งนั้น
(13) การส่งมอบหุ้นสามัญxxxxxxxxที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxรับจากการใช้xxxxx ชื่อที่จะระบุในใบหุ้นสามัญจะใช้ชื่อ เดียวกันกับที่ปรากฏอยู่ในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะจัดส่งใบ หุ้นไปยังผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญxxxxxxxxของบริษัทฯ ภายใน 15 วันทำการนับจากวันกำหนดการใช้xxxxxในแต่ละครั้ง
(14) บริษัทฯ อาจตกลงกับผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxล่วงหน้าให้บริษัทฯ เก็บใบหุ้นสามัญนั้นไว้ที่บริษัทฯ เพื่อให้ผู้ถือ
ใบสำคัญแสดงxxxxxหรือตัวแทนมารบไปด้วยตนเองก็ได้ โดยจะต้องxxxxxxการตามที่ทางบริษัทฯ กำหนด และสำหรับ
กรณีระบบไร้ใบหุ้น (Scripless System) บริษัทฯ จะxxxxxxการฝากหุ้นไว้ในบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งผู้ใช้xxxxx ซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ ภายใน 7 วันทำการนับจากวันกำหนดการใช้xxxxxในแต่ละครั้ง ซึ่ง นายทะเบียนหุ้นของบริษัทฯ จะออกใบหุ้นในชื่อของ "บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ ฝาก" และบันทึกยอดบัญชีตามจำนวนหุ้นที่บริษัทหลักทรัพย์นั้นฝากหุ้นอยู่ ในขณะเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์ ดังกล่าวจะบันทึกยอดบัญชีจำนวนหุ้นที่ผู้ใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxฝากไว้และออกหลักฐานการฝากให้แก่ผู้ใช้xxxxx ซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxx
2.3 เงื่อนไขการปรับxxxxx
2.3.1 บริษัทฯ จะxxxxxxการปรับราคาการใช้xxxxxและอัตราการใช้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxตลอดอายุของใบสำคัญ แสดงxxxxx เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งดังต่อไปนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาxxxxxxxxxxตอบแทนของผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxให้น้อยไปกว่าเดิม ดังนี้
(ก) เมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงxxxxxxที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ อันเป็นผลมาจากการรวมหุ้นหรือ แบ่งแยกหุ้น ราคาใช้xxxxxและอัตราใช้xxxxxจะมีผลเมื่อxxxxxxที่ตราไว้มีผลบังคับใช้ตามที่เผยแพร่ผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลสื่อ อิเล็กทรอนิคส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
1. ราคาการใช้xxxxxจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
Price 1 | = | Price 0 x Par 1 |
Par 0 |
2. อัตราการใช้xxxxxจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
Ratio 1 | = | Ratio 0 x Par 0 |
Par 1 |
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้xxxxxxxxxหลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้xxxxxเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้xxxxxxxxxหลังการเปลยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้xxxxxเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Par 1 คือ xxxxxxที่ตราไว้ของหุ้นสามัญหลังการเปลยนแปลง
Par 0 คือ xxxxxxที่ตราไว้ของหุ้นสามัญก่อนการเปลยนแปลง
(ข) เมื่อบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ ประชาชนทั่วไป และ/หรือ บุคคลใน วงจำกัด ใน “ราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่” คำนวณได้ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ “ราคาตลาดต่อหุ้น ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ”
การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้xxxxxและอัตราการใช้xxxxxจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะxxxxxx รับxxxxxในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XR) กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น เดิม (Rights Issue) และ/หรือ วันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ ประชาชนทั่วไป และ/หรือ กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด แล้วแต่กรณี โดย
“ราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่” คำนวณได้จากจำนวนเงินทั้งสิ้นที่บริษัทฯ จะได้รับจากการเสนอ ขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ หักด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการออกหลักทรัพย์นั้น (ถ้ามี) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ ออกใหม่ทั้งหมด
“ราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ” กำหนดไว้เท่ากับ “ราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักต่อหุ้นของหุ้น สามัญของบริษัทฯ” โดยที่ “ราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ” หมายถึง xxxxxxการ ซื้อขายหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาด
หลักทรัพย์xxxxxxไอ ในระยะเวลา 15 วันทำการ (xxxxxxเปิดทำการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ) ติดต่อกันก่อน xxxxxxใช้ในการคำนวณ
“xxxxxxใช้ในการคำนวณ” หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะxxxxxxรับxxxxxในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Issue) และ/หรือ วัน แรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือ กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด แล้วแต่กรณี
ในกรณีxxxxxxxxxxxxหา “ราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ” เนื่องจากหุ้นสามัญไม่มีการซื้อขายใน ช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะxxxxxxการกำหนดราคายุติธรรมเพื่อใช้ในการคำนวณแทน
อนึ่ง ในกรณีที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่พร้อมกันมากกว่า 1 ราคาเสนอขาย ภายใต้เงื่อนไขที่ต้อง จองซื้อด้วยกัน ให้ใช้จำนวนหุ้นและราคาเสนอขายทุกราคามาคำนวณราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ แต่ในกรณีที่การเสนอขายดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องจองซื้อด้วยกันให้นำเฉพาะราคาเสนอขายที่ต่ำ กว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ มาคำนวณการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ในกรณีดังกล่าวข้างต้น ให้เปรียบเทียบราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่กับราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้น สามัญของบริษัทฯ โดยใช้ฐานของxxxxxxหุ้นที่ตราไว้ให้เท่ากัน
1. ราคาการใช้xxxxxจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
Price 1 | = | Price 0 x [(A2 x MP) + B2X] |
[MP (A2+ B2)] |
2. อัตราการใช้xxxxxจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
Ratio 1 | = | Ratio 0 x [MP (A2 + B2)] |
[(A2 x MP) + B2X] |
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้xxxxxxxxxหลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้xxxxxเดิมก่อนการเปลยี่
Ratio 1 คือ อัตราการใช้xxxxxxxxxหลังการเปลย
นแปลง นแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้xxxxxเดิมก่อนการเปลยนแปลง
MP คือ ราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ
A2 คือ จำนวนหุ้นสามัญxxxxxxเรียกชำระเต็มxxxxxxแล้ว ณ วันก่อนวันกำหนดรายชื่อผู้ ถือหุ้นเพื่อxxxxxในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ กรณีเสนอขายหุ้นสามัญที่ ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ วันก่อนวันแรกของการเสนอขายหุ้น สามัญที่ออกใหม่ กรณีเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือ กรณีเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่บุคคลในวงจำกัด แล้วแต่ กรณี
B2 คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ทั้งการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
B2X คือ จำนวนเงินxxxxxxรับหักด้วยค่าใช้จ่าย (ถ้ามี) จากหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ทั้งการ เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/ หรือ เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
(ค) เมื่อบริษัทฯ เสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ ประชาชนทั่วไป และ/หรือ บุคคล ในวงจำกัด โดยที่หลักทรัพย์นั้นให้xxxxxแก่ผู้ถือหลักทรัพย์ในการใช้xxxxxแปลงสภาพ หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือให้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญ xxxx หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญ โดยที่ “ราคา สุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับxxxxx” ดังกล่าว คำนวณได้ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ “ราคาตลาด ต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ”
การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้xxxxxและอัตราการใช้xxxxxจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญxxxxxxรับ xxxxxxxxจองซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ใดๆ ที่ให้xxxxxxxxจะแปลงสภาพ หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือให้xxxxxใน การซื้อหุ้นสามัญ (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Issue) และ/หรือ วันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ที่ให้xxxxxxxxจะแปลงสภาพ หรือเปลี่ยนเป็น หุ้นสามัญ หรือให้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญ กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือ กรณีที่เป็น การเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด แล้วแต่กรณี
“ราคาสุทธิต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับxxxxx” คำนวณได้จากจำนวนเงินที่บริษัทฯ จะได้รับจาก การขายหลักทรัพย์ที่ให้xxxxxxxxจะแปลงสภาพ หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือให้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญ หัก ด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการออกหลักทรัพย์นั้น (ถ้ามี) รวมกับเงินที่จะได้รับจากการแปลงสภาพ หรือ เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญนั้น หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้นที่ต้องออกใหม่เพื่อรองรับ การใช้xxxxxนั้น
“ราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ” และฐานของxxxxxxหุ้นที่ตราไว้ซึ่งจะใช้เปรียบเทียบ ให้ใช้และมี ความหมายxxxxเดียวกับรายละเอียดในข้อ (ข) ข้างต้น
“xxxxxxใช้ในการคำนวณ” หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะxxxxxxรับxxxxxในการจองซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ ใดๆ ที่ให้xxxxxxxxจะแปลงสภาพ หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือให้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญ (วันแรกที่ขึ้น เครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Issue) และ/หรือ วันแรกของการ เสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ใดๆ ที่ให้xxxxxxxxจะแปลงสภาพ หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือให้xxxxxในการซื้อ หุ้นสามัญ กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือ กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลใน วงจำกัด แล้วแต่กรณี
1. ราคาการใช้xxxxxจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
Price 1 =
Price 0 x [(A3 x MP) + B3X] [MP (A3+ B3)]
2. อัตราการใช้xxxxxจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
Ratio 1 | = | Ratio 0 x [MP (A3 + B3)] |
[(A3 x MP) + B3X] |
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้xxxxxxxxxหลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้xxxxxเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้xxxxxxxxxหลังการเปลยนแปลง Ratio 0 คือ อัตราการใช้xxxxxเดิมก่อนการเปลยนแปลง MP คือ ราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามญของบริษัทฯ
A3 คือ จำนวนหุ้นสามัญxxxxxxเรียกชำระเต็มxxxxxxแล้ว ณ วันก่อนวันกำหนดรายชื่อผู้ ถือหุ้นเพื่อxxxxxในการจองซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ใดๆ ที่ให้xxxxxxxxจะแปลง สภาพ หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือให้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญ กรณีที่เป็น การเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Issue) และ/หรือ วันก่อนวันแรก ของการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ใดๆ ที่ให้xxxxxxxxจะแปลงสภาพ หรือ เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือให้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญ กรณีที่เป็นการเสนอ ขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ/หรือ กรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลใน วงจำกัด แล้วแต่กรณี
B3 คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้xxxxxของหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ ใดๆ ที่ให้xxxxxxxxจะแปลงสภาพ หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือให้xxxxxในการ ซื้อหุ้นสามัญ ทั้งการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายให้แก่ ประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
B3X คือ จำนวนเงินxxxxxxรับหักด้วยค่าใช้จ่าย (ถ้ามี) จากการออกหลักทรัพย์ใดๆ ที่ให้ xxxxxxxxจะแปลงสภาพ หรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือให้xxxxxในการซื้อหุ้น สามัญ ทั้งการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายให้แก่ ประชาชนทั่วไป และ/หรือ เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด รวมกับเงินที่จะ ได้รับจากการใช้xxxxxแปลงสภาพหรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญ หรือใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญ
(ง) เมื่อบริษัทฯ จ่ายxxxxxทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้xxxxxและอัตราการใช้xxxxxจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่มี xxxxxรับหุ้นxxxxx (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XD)
1. ราคาการใช้xxxxxจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
Price 1 =
Price 0 x A4 [A4 + B4]
2. อัตราการใช้xxxxxจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
Ratio 1 | = | Ratio 0 x [A4 + B4] |
A4 |
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้xxxxxxxxxหลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้xxxxxเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้xxxxxxxxxหลังการเปลี่ยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้xxxxxเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
A4 คือ จำนวนหุ้นสามัญ xxxxxxเรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนวันกำหนดรายชื่อ ผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับหุ้นปันผล
B4 คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในรูปแบบของหุ้นสามัญปันผล
(จ) เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลเป็นเงินเกินกว่าอัตราร้อยละ 100 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของ บริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามกฎหมาย สำหรับการดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชี ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานหรือกำไรสะสม ตลอดอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะ ไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XD)
อัตราร้อยละของเงินปันผลที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้นคำนวณโดยนำเงินปันผลที่จ่ายออกจริงจากผลการดำเนินงาน หรือกำไรสะสมในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี หารด้วย กำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ หลังหักภาษี เงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามกฎหมายของผลการดำเนินงานของรอบระยะบัญชีเดียวกัน โดยที่เงินปันผล ที่จ่ายออกจริงดังกล่าว ให้รวมถึงเงินปันผลที่จ่ายระหว่างกาลในแต่ละรอบบัญชีดังกล่าวด้วย (ถ้ามี)
“ราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ” และฐานของมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ซึ่งจะใช้เปรียบเทียบ ให้ใช้และมี ความหมายเช่นเดียวกับรายละเอียดในข้อ (ข) ข้างต้น
“วันที่ใช้ในการคำนวณ” หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย
XD)
1. ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
MP
Price 1 = Price 0 x [MP – (D – R)]
2. อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
Ratio 1 = Ratio 0 x MP [MP – (D – R)]
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
MP | คือ | ราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ |
D | คือ | เงินปันผลต่อหุ้นที่จ่ายแก่ผู้ถือหุ้น |
R | คือ | เงินปันผลต่อหุ้นที่จ่ายในอัตราร้อยละ 100 โดยคำนวณจากกำไรสุทธิตามงบ |
การเงินเฉพาะของบริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตาม | ||
กฎหมาย หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล |
(ฉ) ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิและผลประโยชน์อันพึงได้ โดยที่เหตุการณ์ ใดๆ นั้นไม่ได้กำหนดอยู่ใน (ก) ถึง (จ) บริษัทฯ จะพิจารณาเพื่อกำหนดการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/ หรือ อัตราการใช้สิทธิใหม่ (หรือปรับจำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิแทนอัตราการใช้สิทธิ) อย่างเป็นธรรม โดยไม่ทำให้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิด้อยไปกว่าเดิม ทั้งนี้ ให้ถือว่าผลการพิจารณานั้นเป็นที่สุด
2.3.2 บริษัทฯ จะไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ เว้นแต่จะมีการปรับสิทธิตามเงื่อนไขการปรับ สิทธิ ตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.3.1 รวมทั้งจะไม่ขยายอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ
2.3.3 การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตาม (ก) ถึง (ฉ) เป็นอิสระต่อกัน และจะคำนวณ การเปลี่ยนแปลงตามลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ก่อนหลังเปรียบเทียบกับราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ สำหรับใน กรณีที่เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นพร้อมกันให้คำนวณการเปลี่ยนแปลงเรียงลำดับดังนี้คือ (ก) (จ) (ง) (ข) (ค) และ (ฉ) โดยในแต่ละลำดับครั้งที่คำนวณการเปลี่ยนแปลงให้คงสภาพของราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 3 ตำแหน่ง
บริษัทฯ จะแจ้งผลการปรับราคาการใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ (SETLINK) ผ่านระบบ เผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยไม่ชักช้าในวันที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น หรือก่อนหรือภายใน 9.00 น. ของวันที่ การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิมีผลบังคับใช้ และบริษัทฯ จะแจ้งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายใน 15 วันนับแต่วันที่การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิมีผลบังคับใช้
2.3.4 การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้ราคาการใช้สิทธิ ใหม่สูงขึ้น และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิลดลง เว้นแต่กรณีรวมหุ้น และจะใช้ราคาการใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้ สิทธิ ใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง (ทศนิยม 3 ตำแหน่ง)
ในกรณีที่หุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิตามจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิในแต่ละครั้ง (ทศนิยม 3 ตำแหน่งของอัตรา การใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง) คำนวณออกมาเป็นเศษของหุ้น ให้ตัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง และหากราคาการใช้ สิทธิหลังการเปลี่ยนแปลง (ทศนิยม 3 ตำแหน่ง) คูณกับจำนวนหุ้นสามัญ คำนวณได้เป็นเศษของบาท ให้ตัดเศษของ บาททิ้ง
2.3.5 บริษัทฯ อาจทำการปรับราคาการใช้สิทธิควบคู่กับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิใหม่ทดแทนการปรับอัตราการใช้สิทธิ ก็ได้ ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ต้องออกหุ้นรองรับเพิ่มเติม บริษัทฯ ต้องยื่นมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่อนุมัติให้ออกหุ้นรองรับ การปรับสิทธินั้นอย่างเพียงพอต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ก่อนการปรับสิทธิ จึงจะถือว่าบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้เสนอขาย หุ้นรองรับ
2.3.6 ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิจนเป็นผลทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น สามัญของบริษัทฯ (Par Value) บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิที่จะปรับราคาใช้สิทธิใหม่เท่ากับมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญ ของบริษัทฯ สำหรับอัตราการใช้สิทธิใหม่ให้ใช้อัตราการใช้สิทธิที่คำนวณได้ตาม (ก) ถึง (ฉ) เช่นเดิม
2.4 การชดใช้ค่าเสียหาย กรณีบริษัทฯ ไม่สามารถจัดให้มีหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิ
บริษัทฯ จะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ตามรายละเอียด ดังนี้
2.4.1 การชดใช้ค่าเสียหาย
บริษัทฯ จะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิให้เฉพาะผถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้แจ้งความจำนงที่จะใช้ สิทธิในแต่ละครั้ง และได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และบริษัทฯ ไม่สามารถจัดให้มีหุ้นสามัญเพื่อ รองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิได้อย่างครบถ้วน
2.4.2 การคำนวณค่าเสียหาย
ค่าเสียหายที่บริษัทฯ จะชดใช้ให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิข้างต้น สามารถคำนวณได้ดังนี้
ค่าเสียหายต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย = B X [MP – EP]
โดยที่
B | คือ | จำนวนหุ้นสามัญที่ไม่สามารถจัดให้มี และ/หรือ เพิ่มขึ้นตามอัตราการใช้สิทธิ |
ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น ต่อ 1 หน่วย | ||
MP | คือ | ราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ซึ่งคำนวณจากมูลค่าการซื้อขาย |
หุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่มีการ | ||
ซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ในระยะเวลา 15 วันทำการ | ||
(วันที่เปิดทำการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ) ติดต่อกันก่อนวันกำหนดการ | ||
ใช้สิทธิแต่ละครั้ง | ||
EP | คือ | ราคาการใช้สิทธิ หรือ ราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่เปลี่ยนแปลง |
แล้วตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ ในกรณีที่มีการปรับราคาการใช้สิทธิ |
อนึ่ง ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิใช่สัญชาติไทยได้แจ้งความจำนงที่จะใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ แต่ไม่สามารถ จองซื้อได้ หรือได้ไม่ครบตามที่ได้แจ้งความจำนงไว้ เนื่องจากการขอใช้สิทธินั้นจะทำให้อัตราส่วนการถือหุ้นของ บุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยในขณะนั้นเกินกว่าจำนวนที่กำหนดในข้อบังคับของบริษัทฯ ในกรณีเช่นนี้ บริษัทฯ จะไม่ ชดใช้ค่าเสียหายหรือดำเนินการอื่นใดให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิใช่สัญชาติไทย และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ มิใช่สัญชาติไทยไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือเรียกร้องให้บริษัทฯ ชดใช้ใดๆ ทั้งสิ้น
2.4.3 วิธีการการชดใช้ค่าเสียหาย
บริษัทฯ จะชำระให้เป็นเช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายเฉพาะและจะจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในแบบแจ้ง ความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ภายใน 30 วันนับจากวันกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ใน กรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถคืนเงินค่าเสียหายให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.50 ต่อปี โดยคำนวณจากค่าเสียหายนับแต่วันที่พ้นกำหนด 30 วันนับ จากวันกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง จนถึงวันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับคืนเงินค่าเสียหาย อย่างไรก็ดี ไม่ว่า กรณีใดๆ หากได้มีการส่งมอบเช็ค โดยได้ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งความจำนงการใช้ สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ โดยถูกต้องแล้ว ให้ถือว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับเงินชดใช้ค่าเสียหายแล้ว โดยชอบ และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่มีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ย และ/หรือ ค่าเสียหายอื่นใด อีกต่อไป
2.5 ใบสําคัญแสดงสิทธิ สมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิและผู้ทรงสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิ
2.5.1 นายทะเบียนมีหน้าที่ต้องออกใบสําคญแสดงสิทธิ ให้แก่ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิทุกราย โดยในส่วนของใบสําคัญ แสดงสิทธิที่ฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะระบุชื่อ “ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์” เป็นผู้ถือใบสําคญแสดงสิทธิแทน ในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ นั้น นายทะเบียนจะออกใบสําคัญแสดงสิทธิ หรือออกใบแทนใบสําคัญแสดง สิทธิตามแบบที่นายทะเบียนกำหนดให้แก่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
2.5.2 นายทะเบียนมีหน้าที่ตามสัญญาแต่งตั้งนายทะเบียนที่จะต้องจัดทำและเก็บรักษาสมุดทะเบียนถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ไว้จนกว่าใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งหมดจะมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทหรือจนกว่าจะครบกำหนดอายุใบสำคัญ แสดงสิทธิ (แล้วแต่กรณี)
2.5.3 ผู้ทรงสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิ ผู้ทรงสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิกรณีทั่วไป
สิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิจะตกได้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่ปรากฏชื่อเป็นเจ้าของใบสำคัญแสดงสิทธิในจำนวนที่ ระบุอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิในขณะนั้น หรือในวันก่อนวันแรกของการปิดสมุดทะเบียนในกรณีที่มี การปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ เว้นแต่จะได้มีการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ (ซึ่งสามารถใช้ยืนยัน กับบริษัทได้ตามข้อ 2.6) เกิดขึ้นแล้วในวันปิดสมุดทะเบียนที่เกี่ยวข้องข้างต้น ซึ่งสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิ จะตก ได้แก่ผู้รับโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ
ผู้ทรงสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิกรณีที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เป็นผถือใบสำคัญแสดงสิทธิแทน สิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิจะตกได้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ ได้รับแจ้งเป็นหนังสือ จากศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ว่าเป็นผู้ทรงสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิ ในจำนวนที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แจ้งนาย ทะเบียน โดยจำนวนดังกล่าวต้องไม่เกินกว่าจำนวนรวมของใบสำคัญแสดงสิทธิในชื่อของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ที่ ระบุอยู่ในสมุดทะเบียนในขณะนั้น หรือในวันก่อนวันแรกของการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิใน กรณีที่มีการปิดสมุดทะเบียน
2.5.4 เมื่อศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แจ้งนายทะเบียน นายทะเบียนมีหน้าที่ต้องออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ทรงสิทธิใน ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์และลงทะเบียนให้ผู้ทรงสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิรายดังกล่าว เป็นผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิตามจำนวนที่ได้รับแจ้งจากศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ ทั้งนี้เมื่อได้มีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิและลงทะเบียนดังกล่าวแล้ว นายทะเบียนจะแก้ไข จำนวนรวม ของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ลงทะเบียนในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไว้ในชื่อของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์โดย หักจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้แยกไปลงทะเบียนไว้ในชื่อของผู้ทรงสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิออก ส่วนจำนวน รวมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกให้แก่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์นั้น หากนายทะเบียนไม่ได้ทำการแก้ไข (ไม่ว่าด้วยเหตุ ใดก็ตาม) ให้ถือว่ามีจำนวนลดลงตามจำนวนของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้แยกไปออกใบสำคัญแสดงสิทธิและ ลงทะเบียนไว้ในชื่อของผู้ทรงสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว
2.6 การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ
2.6.1 การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิได้ฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(1) แบบการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิระหว่างผู้โอนและผู้รับโอน การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะสมบูรณ์เมื่อผู้ โอนใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งเป็นผู้ที่สมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิระบุชื่อเป็นเจ้าของใบสำคัญแสดง สิทธิในจำนวนที่จะทำการโอน หรือผู้รับโอนคนสุดท้ายโดยมีการสลักหลังแสดงการโอนต่อเนื่องครบถ้วน
จากผู้ที่ปรากฏชื่ดังกล่าว (แล้วแต่กรณี) ได้ส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้รับโอนโดยลงลายมือชื่อสลัก หลังแสดงการโอนให้ไว้ด้วย
ผลการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิระหว่างผู้รับโอนกับบริษัท การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะใช้ยันกับบริษัทได้ ก็ต่อเมื่อนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับคำขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิพร้อมทั้ง ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ผู้รับโอนใบสำคัญแสดงสิทธิได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้รับโอนในด้านหลังของใบสำคัญ แสดงสิทธินั้นครบถ้วนแล้ว
ผลของการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิระหว่างผู้รับโอนกับบุคคลภายนอก การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะใช้ ยันกับบุคคลภายนอกได้ก็ต่อเมื่อนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิได้ลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ ในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเรียบร้อยแล้ว
(2) การขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ จะต้องกระทำ ณ สำนักงานใหญ่ของนายทะเบียนใบสำคัญ แสดงสิทธิในวันและเวลาทำการของนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ และจะต้องทำตามแบบและวิธีการที่ นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิกำหนด โดยผู้ขอลงทะเบียนจะต้องส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิที่ลงลายมือ ชื่อครบถ้วนพร้อมทั้งหลักฐานอื่น ๆ ที่ยืนยันถึงความถูกต้องและความสมบูรณ์ของการโอนและการรับโอน ใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิกำหนดให้แก่นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ และให้นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิออกใบรับคำขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ขอ ลงทะเบียนนั้น
(3) นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิจะลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิ พร้อมทั้งรับรองการโอนไว้ในใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่นายทะเบียน ใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับคำขอลงทะเบียนและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ไม่ต้องออกใบสำคัญ แสดงสิทธิให้ใหม่ หรือภายใน 15 วันทำการนับแต่วันที่นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับคำขอ ลงทะเบียนและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ต้องออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้ใหม่
(4) นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิมีสิทธิปฏิเสธไม่รับดำเนินการตามคำขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดง สิทธิ หากนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิเห็นว่าการโอนใบสำคัญแสดงสิทธินั้นจะขัดต่อกฎหมายหรือขัด ต่อข้อจำกัดการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ (ถ้ามี) โดยนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิจะแจ้งให้ผู้ขอ ลงทะเบียนทราบภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับคำขอลงทะเบียน และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
2.6.2 สำหรับการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ให้เป็นไปตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และหน่วยงานกำกับดูแลอื่นที่เกี่ยวข้อง
2.7 สถานภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่อยู่ระหว่างวันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิแสดงความจำนงการใช้สิทธิ
สถานภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่อยู่ระหว่างวันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้แสดงความจำนงการใช้สิทธิ และวัน ก่อนวันที่กระทรวงพาณิชย์จะรับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว อันเนื่องมาจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิจะมี สถานภาพและสิทธิเช่นเดียวกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้แสดงความจำนงใช้สิทธิ และสถานภาพจะสิ้นสุดลงในวันที่ กระทรวงพาณิชย์ได้รับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วอันเนื่องมาจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิข้างต้นแล้ว
ในกรณีที่บริษัทฯ มีการปรับราคาใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิในช่วงที่บริษัทฯ ยังไม่ได้นำหุ้นสามัญที่เกิดขึ้น จากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิเข้าจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ทำการใช้สิทธิแล้วจะ ได้รับการปรับสิทธิย้อนหลัง โดยบริษัทฯ จะดำเนินการออกหุ้นสามัญใหม่เพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิโดยเร็วที่สุด
ตามจำนวนที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสมควรจะได้รับหากราคาที่ได้ปรับใหม่นั้นมีผลบังคับใช้ โดยหุ้นสามัญส่วนเพิ่มอาจได้รับ ช้ากว่าหุ้นสามัญที่ได้รับก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่มีการปรับสิทธิ
2.8 สิทธิของหุ้นสามัญใหม่ที่เกิดจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
สิทธิของหุ้นสามัญใหม่ที่เกิดจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ จะมีสิทธิและสภาพเหมือนหุ้นสามัญเดิมขอ ง บริษัทฯ ที่ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว รวมทั้งสิทธิในการรับเงินปันผลหรือประโยชน์อื่นใดที่บริษัทฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ นับแต่วันที่ กระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วและนายทะเบียนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ได้จดแจ้งชื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ เป็นผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ หากบริษัทฯ ได้ประกาศวันกำหนดให้สิทธิในเงินปันผล หรือผลประโยชน์อื่น ใดให้แก่ผู้ถือหุ้นก่อนวันที่กระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วและนายทะเบียนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ได้จดแจ้ง ชื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะไม่มีสิทธิได้รับ เงินปันผลหรือผลประโยชน์อื่นนั้น
2.9 มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิและหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญ แสดงสิทธิ
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวนไม่เกิน 307,999,983 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญ แสดงสิทธิในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย (ในกรณีที่ มีเศษให้ปัดเศษทิ้ง) และจัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวนไม่เกิน 307,999,983 หุ้น
2.10 ตลาดรองของใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัทฯ จะนำใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกในครั้งนี้ เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอ ไอ ภายใน 45 วันนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
2.11 ตลาดรองของหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัทฯ จะดำเนินการขออนุญาตนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ เข้าจดทะเบี ยนเป็น หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ภายใน 30 วันนับแต่วันกำหนดการใช้สิทธิแต่ละครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้หุ้นสามัญ ดังกล่าวสามารถทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ได้เช่นเดียวกับหุ้นสามัญเดิมของบริษัทฯ
2.12 การดำเนินการหากมีหุ้นที่จัดสรรไว้คงเหลือจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเหลือจากการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย บริษัทฯ จะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาต่อไป
2.13 การดำเนินการกรณีที่การใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ครบ
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิได้มีการใช้สิทธิในระหว่างช่วงอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือในกรณีที่มีใบสำคัญแสดงสิทธิ เหลือจากการจัดสรรในครั้งนี้ ให้ยกเลิกใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวทั้งหมด
2.14 รายละเอียดเกี่ยวกับหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ
ลักษณะสำคัญของหุ้น
จำนวนหุ้นสามัญที่เพื่อรองรับการใช้สิทธิ | : | ไม่เกิน 307,999,983 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 50.00 ของ |
จำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ จำนวน 615,999,966 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้ : หุ้นละ 0.50 บาท
ราคาการใช้สิทธิ : 2.00 บาทต่อหุ้น
3. ข้อจำกัดการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ
3.1 บริษัทฯ ไม่มีข้อจำกัดในการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ เว้นแต่การโอนเกิดขึ้นในช่วงปิดสมุดทะเบียน 21 วันก่อนวัน กำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำการขึ้นเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย (SP) ล่วงหน้า 2 วัน ทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ จนถึงวันกำหนดการใช้สิทธิ ครั้งสุดท้าย
3.2 บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธการโอนหุ้นหรือการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญ หากการโอนหรือการแปลง สภาพดังกล่าวทำให้อัตราส่วนการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยของบริษัทฯ ต่ำกว่าอัตราส่วนที่ข้อบังคับของ บริษัทฯ กำหนดไว้ว่า "หุ้นของบริษัทย่อมโอนกันได้อย่างเสรีโดยไม่มีข้อจำกัด และหุ้นทีถือโดยคนต่างด้าวในขณะใด ขณะหนึ่งต้องมีจำนวนรวมกันไม่เกินกว่าร้อยละสี่สิบเก้า (49) ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท บริษัทมีสิทธิปฏิเสธการโอนหุ้นเพื่อรักษาอัตราส่วนการถือหุ้นของคนไทยกับคนต่างด้าวตามที่กล่าวข้างต้น” โดย บริษัทฯ จะไม่ชดใช้ค่าเสียหายใดๆ
3.3 หากข้อจำกัดการโอนดังกล่าวข้างต้น มีผลทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิใช่สัญชาติไทยที่ได้ดำเนินการใช้สิทธิตาม วิธีที่ระบุไว้ในข้อ 2.2 ไม่สามารถใช้สิทธิได้ตามจำนวนที่ระบุในแบบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัทฯ บริษัทฯ จะอนุญาตให้ดำเนินการใช้สิทธิเพียงส่วนที่ไม่ขัดต่อข้อจำกัดข้างต้นภายใต้หลักการผู้แสดง ความจำนงก่อนจะสามารถใช้สิทธิได้ก่อน (First Come, First Served) โดยบริษัทฯ จะคืนใบสำคัญแสดงสิทธิและ เงินที่เหลือ ให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิ ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้สิทธิแต่ละครั้ง ซึ่งบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบ ต่อดอกเบี้ย และ/หรือ ค่าเสียหายอื่นใด ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
3.4 ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิใช่สัญชาติไทยจะไม่ได้รับการชดเชยไม่ว่าในรูปแบบใดจากบริษัทฯ ในกรณีที่ไม่สามารถ ดำเนินการใช้สิทธิได้ เนื่องจากการขอใช้สิทธินั้นจะทำให้อัตราส่วนการถือหุ้นของบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยในขณะนั้น เกินกว่าจำนวนที่กำหนดในข้อบังคับของบริษัทฯ ใบสำคัญแสดงสิทธิยังมีผลใช้ต่อไปจนถึงวันกำหนดการใช้สิทธิครั้ง สุดท้าย ทั้งนี้ หากในวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยไม่ สามารถใช้สิทธิเนื่องจากการขอใช้สิทธินั้นจะทำให้อัตราส่วนการถือหุ้นของบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยในขณะนั้นเกิน กว่าจำนวนที่กำหนดในข้อบังคับของบริษัทฯ ให้ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวหมดอายุลงโดยผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิที่เป็นบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยดังกล่าวไม่มีสิทธิเรยกร้องค่าเสียหายหรือค่าชดเชยใดจากบริษัทฯ และบริษัทฯ จะ ไม่ชดใช้ค่าเสียหายหรือดำเนินการอื่นใด ให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจากการดังกล่าวทั้งสิ้น
4. ที่มาของการกำหนดราคาหลักทรัพย์ที่เสนอขาย
ไม่มีการกำหนดราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ เนื่องจากเป็นการออกโดยไม่คิดมูลค่า
5. การประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
การเรียก และ/หรือ การประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้เป็นไปตามวิธีการดังต่อไปนี้
5.1 บริษัทฯ จะเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หากมีเหตุการณ์สำคัญที่อาจกระทบต่อผู้ส่วนได้เสียของผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิอย่างมีนัยสำคัญ หรือต่อความสามารถของบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามหน้าที่ตามข้อกำหนดสิทธิ
ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นผู้ร้องขอให้จัดประชุม จะต้องมีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้ใช้สิทธิซึ่งถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้ใช้สิทธิเป็นผู้ร้องขอ โดยทำ เป็นหนังสือที่ระบุเหตุผลอย่างชัดเจนในการขอให้มีการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ และบริษัทฯ จะต้องจัด ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายในระยะเวลา 30 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือร้องขอให้จัดประชุม ในกรณีที่บริษัทไม่ดำเนินการเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิที่ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้มีการใช้ สิทธิ ณ ขณะนั้น สามารถดำเนินการเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิแทนบริษัทได้
ในการเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกประชุมโดยบริษัทฯ หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้ บริษัทฯ จัดทำหนังสือนัดประชุมโดยระบุ สถานที่ วัน เวลา ผู้ที่ขอให้เรียกประชุม และเรื่องที่จะพิจารณาในที่ประชุม และจัดส่งให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิไปแล้วบางส่วนแต่ละราย ตามรายชื่อ และที่อยู่ที่ ปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิและแจ้งผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) ไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนการประชุมในแต่ละครั้ง
5.2 ในการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิไปแล้วบางส่วนซึ่งมีสทธิเข้า ประชุมและออกเสียงลงคะแนน จะมอบฉันทะให้บุคคลอื่นเข้าร่วมประชุมและออกเสียงแทนตนก็ได้ โดยผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะต้องจัดทำหนังสือมอบฉันทะตามแบบที่บริษัทฯ กำหนดและให้ยื่นหนังสือมอบฉันทะ ต่อประธานที่ประชุมหรือผู้ที่ประธานที่ประชุมมอบหมายก่อนเริ่มประชุม
ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หมายถึง ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยัง ไม่ได้ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิไปแล้วบางส่วนของบริษัทฯ ในขณะนั้น โดยไม่รวมถึงผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิคนใดที่มีส่วนได้ เสียในข้อพิจารณาอันใดซึ่งที่ประชุมจะพิจารณาและลงมติ ห้ามมิให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิคนนั้นออกเสียง ลงคะแนนในข้อพิจารณาข้อนั้น
ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีส่วนได้เสียตามข้อนี้ หมายถึง ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ใน เรื่องที่ที่ประชุมพิจารณาลงมติ
5.3 ในการออกเสียงลงคะแนน ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมีคะแนนเสียงเท่ากับหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ถืออยู่ โดย
ใบสำคัญแสดงสิทธิหนึ่งหน่วยมีหนึ่งเสียง ผู้เป็นประธานในที่ประชุมไม่มส ในฐานะเป็นผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือผู้รับมอบฉันทะ
ิทธิออกเสยงลงคะแนน นอกจากสิทธิที่ตนมี
5.4 ในการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จัดขึ้นโดยบริษัทฯ ให้ประธานกรรมการบริษัทฯ หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมาย จากประธานกรรมการบริษัทฯ ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิเป็นผู้จัดประชุม ประธานในที่ประชุมอาจจะมาจากบุคคลที่ถือใบสำคัญแสดงสิทธิลงมติเห็นชอบคัดเลือก นอกเหนือไปจากประธานกรรมการบริษัทฯ หรือบุคคลที่ประธานกรรมการบริษัทฯ มอบหมาย โดยที่ทั้งสองกรณี ประธานที่ประชุมไม่มีสิทธิออกเสียงชี้ขาด
5.5 องค์ประชุมในการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องประกอบด้วยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้ใช้สิทธิหรือใช้ สิทธิไปแล้วบางส่วน และ/หรือ ผู้รับมอบฉันทะรวมกันไม่น้อยกว่า 25 ราย ซึ่งถือใบสำคัญแสดงสิทธิรวมกันไม่น้อย กว่าร้อยละ 25 ของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้ใช้สิทธิ จึงจะครบเป็นองค์ประชุม ในกรณีที่ไม่ครบเป็นองค์
ประชุม ให้ถือว่าการประชุมเป็นอันระงับไป หากการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธินั้นเป็นการเรียกโดยมติ คณะกรรมการบริษัทฯ ให้นัดประชุมใหม่ภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน แต่ไม่เกินกว่า 14 วัน นับจากวันกำหนด ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งแรก และให้บริษัทฯ ดำเนินการจัดส่งหนังสือเชิญประชุมไปยังผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิทุกรายและตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามรายละเอียดและวิธีการที่ระบุไว้ข้างต้น โดยเรื่องที่จะพิจารณาและลง มติในที่ประชุมครั้งใหม่จะต้องเป็นเรื่องเดิมที่อาจพิจารณาได้โดยชอบในการประชุมครั้งก่อนเท่านั้น ในการประชุม ครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจะต้องครบองค์ประชุม กล่าวคือ มีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมาประชุมเท่าใดถือว่าเป็นองค์ ประชุม ทั้งนี้ สำหรับในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุม จะไม่มีการเรียกประชุมใหม่
5.6 ในกรณีที่ปรากฏว่าการประชุมครั้งใด เมื่อล่วงเวลานัดไปแล้ว 45 นาที ยังมีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเข้าร่วมประชุมยัง ไม่ครบเป็นองค์ประชุมให้ถือว่าการประชุมเป็นอันระงับไป
5.7 มติที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องประกอบด้วย คะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนใบสำคัญแสดง สิทธิทั้งหมดของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือผู้รับมอบฉันทะที่เข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียง
5.8 มติใดๆ ซึ่งที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้ลงมติไปแล้วนั้น ให้ถือว่ามีผลผูกพันผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุกราย ไม่ ว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธินั้นจะได้เข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ก็ตาม
5.9 ภายหลังจากบริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัทฯ จะแจ้งมติของที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทราบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) ภายในวัน ประชุมหรืออย่างช้าก่อน 9.00 น. ของวันทำการถัดไปนับจากวันประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิฯ
5.10 บริษัทฯ จะจัดทำรายงานการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายในระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน นับจากวันประชุมผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิโดยให้ประธานที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนั้นๆ เป็นผู้ลงนามรับรองรายงานการ ประชุม และจัดเก็บรายงานการประชุมไว้ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ ทั้งนี้ รายงานการประชุมดังกล่าวซึ่งลงนาม โดยประธานที่ประชุมในแต่ละครั้งให้ถือว่าถูกต้อง และผูกพันผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุกรายไม่ว่าจะได้เข้าร่วม ประชุมด้วยหรือไม่ก็ตาม และในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิร้องขอ บริษัทฯ จะจัดส่งรายงานการประชุมให้แก่ผู้ ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายที่ร้องขอ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับ การจัดส่งรายงานการประชุมนั้น
5.11 ในการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัทฯ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ และที่ปรึกษากฎหมายของ บริษัทฯ มีสิทธิที่จะเข้าร่วมประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อแสดงความคิดเห็นหรือให้คำอธิบายในที่ประชุมผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ
5.12 บริษัทฯ จะเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมด
6. การแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดสิทธิและเงื่อนไขของใบสำคัญแสดงสิทธิ
6.1 การแก้ไขเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือไม่ทำให้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิด้อย ลง
การแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดสิทธิในเรื่องที่เห็นได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิโดยชัดแจ้ง หรือใน ส่วนซึ่งไม่ทำให้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิด้อย หรือเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติหรือหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้อง หรือกรณีการปรับสิทธิตามที่ระบุไว้ ในข้อ 2.3 ให้มีผลใช้บังคับโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยให้เป็นไปตามมติที่ ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ
6.2 การแก้ไขเพิ่มเติมที่เป็นสาระสำคัญ
การแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดสิทธินอกเหนือจากกรณีตามข้อ 6.1 ต้องได้รับความยินยอมจากบริษัทฯ และที่ประชุมผู้ ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
6.3 เงื่อนไขในการดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดสิทธิ
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิไม่ว่ากรณีใดๆ จะต้องไม่เป็นการขยายอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือการ เปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิหรืออัตราการใช้สิทธิ ยกเว้นการปรับสิทธิตามเงื่อนไขการปรับสิทธิที่ระบุไว้ในข้อ 2.3 และต้องไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงข้อกำหนดตามประกาศ คณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.34/2551 หรือกฎเกณฑ์ใดๆ ของสำนักงาน ก.ล.ต. หรือตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลอดจนกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่จะได้รับการผ่อนผัน รวมทั้งที่จะมีเพิ่มเติมภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้จัดสรร ใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้แล้ว
6.4 กระบวนการหรือขั้นตอนในการจะดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดสิทธิ
(1) บริษัทฯ มีสิทธิเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อขอมติใดๆ โดยจัดประชุมตามวิธีการที่กำหนดไว้ใน ข้อกำหนดสิทธิ ซึ่งมติที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธินี้จะต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือผู้รับมอบฉันทะที่เข้าร่วมประชุมและมี สิทธิออกเสียง โดยใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิออกเสียง 1 เสียง ทั้งนี้ ประธานกรรมการบริษัทฯ หรือผู้ ที่ได้รับมอบหมายจากประธานกรรมการบริษัทฯ จะเป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งมติโดยชอบของที่ประชุมผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่เรียกประชุมและดำเนินการประชุม ให้มีผลบังคับใช้และผูกพันผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุก ราย ไม่ว่าจะเข้าร่วมประชุมหรือตอบรับหนังสือแทนการเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือไม่ก็ตาม
(2) ในการลงมติใดๆ บริษัทฯ อาจขอความเห็นชอบจากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหนังสือแทนการเรียกประชุมผู้ ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อลงมติใดๆ ดังกล่าว โดยต้องได้รับคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนเสียง ทั้งหมดของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีสิทธิออกเสียง ทั้งนี้ มติดังกล่าวมีผลบังคับใช้และผูกพันผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิทุกราย ไม่ว่าจะเข้าร่วมประชุมหรือตอบรับหนังสือแทนการเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือไม่ก็ตาม
6.5 การแจ้งข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไขเปลี่ยนแปลง
บริษัทฯ จะแจ้งให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทราบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) โดย ทันทีหลังจากที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิ และจะดำเนินการจัดส่งข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไข เปลี่ยนแปลงให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ ภายใน 15 วันนับแต่ วันที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิ และบริษัทจะดำเนินการแจ้งต่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุกรายให้ทราบ ถึงรายละเอียดการแก้ไขเปลยนแปลงข้อกำหนดสิทธิ ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ทันทีหรือก่อน 9 โมงเช้าของวันที่สิทธิมีผลบังคับใช้ และจะดำเนินการจัดส่งข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงให้แก่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิเมื่อได้รับการร้องขอภายใน 15 วันนับจากวันที่มีการร้องขอเป็นหนังสือจากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการเก็บรักษาสำเนาข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไขเปลี่ยนแปลง ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัท และ สำนักงานใหญ่ของตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี) เพื่อให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถขอ ตรวจสอบสำเนาข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ในวันและเวลาทำการของสถานที่ดังกล่าว
7. วิธีการส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัทฯ จะดำเนินการแต่งตั้งให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นนายทะเบียนใบสำคัญแสดง สิทธิ และบริษัทฯ จะดำเนินการส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดง สิทธิ โดยมีรายละเอียดดังนี้
7.1 ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นเดิมไม่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์หรือศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิจะทำการสง่ มอบใบสำคัญแสดงสิทธิตามจำนวนที่ไดรับการจัดสรรให้แก่ผู้ที่ได้รับการ จัดสรรทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ตามชื่อและที่อยู่ที่ระบุในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันกำหนด รายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 โดยเร็ว ในกรณีนี้ ผู้ที่ได้รับการ จัดสรรจะไม่สามารถขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับจัดสรรในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ได้จนกว่าจะได้รับใบสำคัญ แสดงสิทธิ และตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาตให้ใบสำคัญแสดงสิทธิทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ซึ่งผู้ ถือหุ้นอาจได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิภายหลังจากใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้เข้าทำการซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ
7.2 ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นเดิมมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์หรือศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิจะดำเนินการนำใบสำคัญแสดงสิทธิฝากไว้กับ “บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก” และจะบันทึกยอดบัญชีจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่บริษัทหลักทรัพย์นั้นฝาก ใบสำคัญแสดงสิทธิอยู่ ในขณะเดียวกันบริษัทหลักทรัพย์นั้นก็จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ผู้ได้รับ การจัดสรรฝากไว้ และออกหลักฐานการฝากให้แก่ผู้ที่ได้รับการจัดสรรโดยเร็ว ในกรณีนี้ผู้ที่ได้รับการจัดสรรจะ สามารถขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ได้ทันที่ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาต ให้ใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ ทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ
ทั้งนี้ ชื่อของผู้ถือหุ้นที่ได้รับการจัดสรรจะต้องตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผู้ได้รบการจัดสรรประสงค์ที่ จะฝากใบสำคัญแสดงสิทธิไว้ในบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าว มิฉะนั้นแล้ว บริษั ทฯ ขอสงวนสิทธิที่จะ ดำเนินการออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ที่ได้รับการจัดสรรตามข้อ 7.1 แทน
7.3 ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นเดิมมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์สมาชิกเลขที่ 600 นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิจะดำเนินการนำใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับจัดสรรฝากไว้กับบริษัท ศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด จะบันทึกยอดบัญชีจำนวน ใบสำคัญแสดงสิทธิตามจำนวนที่ได้รับจัดสรรไว้ในบัญชีผู้ออกหลักทรัพย์ สมาชิกเลขที่ 600 และออกหลักฐานการ ฝากให้ผู้ได้รับการจัดสรรโดยเร็ว หากผู้ถือหุ้นที่ได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิต้องการขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ผู้ ถือหุ้นดังกล่าวจะต้องถอนใบสำคัญแสดงสิทธิออกจากบัญชีของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ สมาชิกเลขที่ 600 โดยต้อง ติดต่อที่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งอาจจะมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการตามอัตราที่ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด ทั้งนี้ การถอนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ฝากไว้ในบัญชีของ
บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์สมาชิกเลขที่ 600 จะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการดำเนินการ ดังนั้น ผู้ถือหุ้นที่ได้รับการ จัดสรรจะสามารถขายใบสำคัญแสดงสิทธิในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ได้ทันที่เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาตให้ ใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทฯ ทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ และผู้ถือหุ้นที่ได้รับการจัดสรร ใบสำคัญแสดงสิทธิได้ดำเนินการถอนใบสำคัญแสดงสิทธิออกจากบัญชีสมาชิกเลขที่ 600 ดังกล่าวแล้ว
8. วิธิการส่งมอบหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ ในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ สามารถเลือกให้บริษัท ดำเนินการในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
8.1 หากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิประสงค์จะขอรับเป็นใบหุ้นในนามผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะส่ง มอบใบหุ้นตามจำนวนที่ใช้สิทธิแก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับตามชื่อ ที่อยู่ที่ระบุใน สมุดทะเบียนภายใน 15 (สิบห้า) วันทำการนับจากวันครบกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ในกรณีนี้ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิจะไม่สามารถขายหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จนกว่าจะได้รับใบหุ้น ซึ่งอาจจะ ได้รับภายหลังจากที่หุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิได้รับอนุญาตให้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว
8.2 หากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ไม่ประสงค์จะขอรับเป็นใบหุ้น แต่ประสงค์จะใช้บริการของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ โดย การฝากหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ ไว้ในบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ มีบัญชีซื้อขาย หลักทรัพย์อยู่ กรณีนี้ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะดำเนินการนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิฝากไว้กับ “บริษัทศูนย์ รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก” และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนหุ้นสามัญ ที่บริษัทหลักทรัพย์นั้นฝากหุ้นสามัญอยู่ภายใน 7 (เจ็ด) วันทำการนับจากวันครบกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ใน กรณีนี้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ จะสามารถขายหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทันที่ที่ตลาด หลักทรัพย์ฯ อนุญาตให้หุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกรณีนี้ชื่อของผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ จะต้องตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิประสงค์จะฝากหุ้น สามัญไว้ในบัญชีหลักทรัพย์ดังกล่าว มิฉะนั้นแล้วบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการออกใบหุ้นแก่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิตามข้อ 8.1 แทน
8.3 หากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ไม่ประสงค์จะขอรับเป็นใบหุ้น แต่ประสงค์จะใช้บริการของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ โดย การฝากหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ ไว้ในบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ สมาชิกเลขที่ 600 กรณีนี้ บริษัทจะ ดำเนินการนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะบันทึก ยอดบัญชีจำนวนหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิดังกล่าวไว้ในบัญชีของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ สมาชิกเลขที่ 600 และออกหลักฐานการฝากให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 7 (เจ็ด) วันทำการนับจากวันครบกำหนดการใช้สิทธิ ในแต่ละครั้ง เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับหุ้นจากการใช้สิทธิต้องการขายหุ้น จะต้องถอนหุ้นออกจากบัญชีของ บริษัทหลักทรัพย์ สมาชิกเลขที่ 600 ดังกล่าว โดยต้องติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ทั่วไป ซึ่งอาจจะมีค่าธรรมเนียมใน การดำเนินการตามที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และ/หรือ บริษัทหลักทรัพย์นั้นกำหนด ในกรณีนี้ผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิจะสามารถขายหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิในตลาดหลักทรัพย์ได้ทันทีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาตให้หุ้น สามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และได้ดำเนินการถอนหุ้นออกจากบัญชีของบริษัท หลักทรัพย์ สมาชิกเลขที่ 600 ดังกล่าวแล้ว
9. ผลบังคับของข้อกำหนดสิทธิและกฎหมายที่ใช้บังคับ
ข้อกำหนดสิทธิฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับในวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิไปจนถึงวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย โดย ข้อกำหนดสิทธินี้จะใช้บังคับและตีความตามกฎหมายไทย การตีความและผลของข้อกำหนดสิทธิฉบับนี้ให้เป็นไปตาม บทบัญญัติแห่งกฎหมายไทย และหากมีข้อความใดๆ ในข้อกำหนดสิทธินี้ขัดหรือแย้งกับกฎหมายหรือประกาศใดๆ ที่มีผลใช้ บังคับตามกฎหมายกับใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้ใช้ข้อความตามกฎหมายหรือประกาศดังกล่าวบังคับกับใบสำคัญแสดงสิทธิแทน ข้อความของข้อกำหนดสิทธิเฉพาะในส่วนที่ขัดแย้งกันนั้น
ผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน)
............................................................... ...............................................................
(นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต) (นายเมธา โชติอภิสิทธิกุล)
กรรมการผมีอำนาจลงนาม กรรมการผมีอำนาจลงนาม
Checklist warrant-RO สำหรับการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น (“warrant”) และหุ้นที่ออกใหม่ เพื่อรองรับ warrant (“หุ้นรองรับ”) ต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น
บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ (“บริษัท”) บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน)
🗹 เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“บจ.”)
🞎 เป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่มีหน้าที่ตามมาตรา 56 (ที่ไม่ใช่ บจ.)
รายละเอียดของ warrant
ชื่อ warrant | ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 | |||
เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่มีรายชื่อ ณ วันที่ | 15 ตุลาคม 2564 | |||
วันที่เสนอขาย warrant | 25 ตุลาคม 2564 | วันสิ้นสุดอายุ warrant | 24 ตุลาคม 2566 | |
จำนวน warrant ที่เสนอขาย | 307,087,207 หน่วย | วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย | 24 ตุลาคม 2566 | |
ราคาที่เสนอขาย | 0 บาท ต่อ หน่วย | จำนวนหุ้นรองรับ | 307,999,983 หน่วย | |
อัตราการใช้สิทธิ | 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญ | ราคาใช้สิทธิ | 2.00 บาท |
Checklist | ครบถ้วน ตามเกณฑ์ | เอกสารอ้างอิง (ข้อ/หน้า) |
1. ลักษณะของ warrant | ||
1.1 สัดส่วนจำนวนหุ้นรองรับต่อจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เท่ากับ 🗹 ≤ 50% 🞎 > 50% เฉพาะเป็นการออก warrant ในกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้ ที่ได้รับผ่อน ผันจากสำนักงานก่อนการเสนอขาย ตามหนังสือที่ ลงวันที่ (1) บริษัทอยู่ในภาวะที่มีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน (2) เพื่อประโยชน์ในการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท (3) กรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควร และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้น โดยรวม | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.1 หน้า 2 |
1.2 มีอายุแน่นอน ซึ่ง ≤ 10 ปี นับแต่วันที่ออก warrant (วันที่ 25 ตุลาคม 2564) | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.1 หน้า 2 |
1.3 กำหนดราคา และอัตราการใช้สิทธิไว้อย่างแน่นอน | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.1 หน้า 2,3 |
1.4 มีระยะเวลาให้แสดงความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ≥ 15 วัน ก่อนวันใช้สิทธิ | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.2.2 หน้า 3,4 |
1.5 กำหนดให้มีการใช้สิทธิซื้อหุ้นรองรับให้แล้วเสร็จภายในอายุ warrant | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.2.2 หน้า 3,4 |
Checklist | ครบถ้วน ตามเกณฑ์ | เอกสารอ้างอิง (ข้อ/หน้า) |
2. หนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นได้แสดงข้อมูลอย่างน้อย ดังนี้ | ||
2.1 ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ warrant เช่น - ราคาหรืออัตราที่คาดว่าจะเป็นราคาหรืออัตราการใช้สิทธิ - ระยะเวลาการใช้สิทธิ - วันสิ้นสุดของการใช้สิทธิ - เหตุให้ต้องออกหุ้นใหม่เพื่อรองรับการปรับสิทธิ - อื่น ๆ (ถ้ามี) ระบุ | ✓ | หนังสือเชิญประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 เอกสารแนบ 2 |
2.2 ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น (dilution effect) หากมีการใช้สิทธิครบถ้วน โดยได้ระบุ (1) price dilution (2) earning per share dilution หรือ control dilution | ✓ | หนังสือเชิญประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 เอกสารแนบ 2 |
2.3 วิธีการจัดสรร warrant | ✓ | หนังสือเชิญประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 เอกสารแนบ 2 |
2.4 ข้อมูลอื่นๆ (ถ้ามี) ระบุ | N/A | N/A |
3. มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นและอายุมติ | ||
3.1 บริษัทได้รับมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ให้ออกหุ้นรองรับอย่างเพียงพอ | ✓ | รายงานการประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 วาระที่ 3 หน้า 6 |
3.2 บริษัทได้เสนอขาย warrant แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติ (ผู้ถือหุ้นอนุมัติเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564) | ✓ | รายงานการประชุม วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 วาระที่ 5 หน้า 8 |
4. ข้อกำหนดสิทธิของ warrant มีรายการอย่างน้อย ดังนี้ | ||
4.1 รายละเอียดของ warrant โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ (1) อายุของ warrant 2 ปี (2) ราคาเสนอขาย warrant และราคาใช้สิทธิซื้อหุ้น (3) อัตราการใช้สิทธิ (4) วิธีการใช้สิทธิของ warrant เช่น ใช้สิทธิได้ทุกวันสุดท้ายของแต่ละไตรมาส (5) รายละเอียดสำคัญอื่น (ถ้ามี) ระบุ | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.1 หน้า 2 ข้อ 2.1 หน้า 3 ข้อ 2.1 หน้า 2 ข้อ 2.2.1 หน้า 3 |
4.2 เหตุ เงื่อนไข และกระบวนการในการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดตาม warrant | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 6 หน้า 22 ถึง 24 |
4.3 ค่าเสียหายที่ผู้ถือ warrant จะได้รับในกรณี ที่บ ริษัทไม่สามารถจัดให้มี หุ้นรองรับได้ ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่าส่วนต่างระหว่างราคาตลาดของหุ้นของบริษัทกับ ราคาใช้สิทธิ | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.4 หน้า 16 |
Checklist | ครบถ้วน ตามเกณฑ์ | เอกสารอ้างอิง (ข้อ/หน้า) |
4.4 มาตรการคุ้มครองผู้ถือ warrant ซึ่งมีข้อกำหนดดังนี้ (1) กรณีมีข้อกำหนดให้บริษัทสามารถเรียกให้ผู้ถือ warrant ใช้สิทธิก่อนกำหนด บริษัทรับรองว่า ข้อกำหนดดังกล่าว (ก) มีความเป็นธรรม ชัดเจน และเหตุแห่งการเรียกให้ใช้สิทธิก่อนกำหนด ดังกล่าวต้องอ้างอิงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของ บุคคลใดๆ (ข) กำหนดให้บริษัท ต้องเรียกให้มีการใช้สิทธิเมื่อมีเหตุการณ์ที่กำหนดไว้ (ค) มีมาตรการที่เพียงพอซึ่งทำให้ผู้ถือ warrant ในทอดต่อๆ ไปทราบถึง ข้อกำหนดดังกล่าว | N/A | N/A |
(2) กำหนดเหตุและเงื่อนไขในการปรับสิทธิในกรณีดังต่อไปนี้พร้อมกับระบุวิธีการ คำนวณ (ก) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง par value หุ้นของบริษัท อันเป็นผลมาจากการ รวมหุ้นหรือแบ่งแยกหุ้น (ข) เมื่อบริษัทเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด (ค) เมื่อบริษัทเสนอขาย CD หรือ warrant ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด (ง) เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้น (จ) เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นเงินซึ่งเกินกว่าอัตราที่ระบุไว้ในข้อกำหนดสิทธิ (ฉ) เมื่อมีกรณีอื่นใดในลักษณะเดียวกับ (ก) ถึง (จ) ที่ทำให้ผลประโยชน์ตอบ แทนใด ๆ ที่ผู้ถือ warrant จะได้รับเมื่อมีการใช้สิทธิด้อยไปกว่าเดิม กรณีการปรับสิทธิตามข้อ (ข) และ (ค) บริษัทได้ระบุส่วนลดจากราคาตลาด พร้อมกับวิธีการคำนวณราคาเสนอขายและราคาตลาดในข้อกำหนดสิทธิแล้ว | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.3 หน้า 10 ถึง 15 |
ทั้งนี้ หากบริษัทจะไม่ดำเนินการปรับสิทธิเมื่อเกิดเหตุการณ์ตาม (ก)-(ฉ) บริษัท ได้รับผ่อนผันจากสำนักงานก่อนการเสนอขายแล้ว ตามหนังสือที่ ลงวันที่ | N/A | N/A |
5. การดำเนินการภายหลังการเสนอขาย warrant | ||
5.1 บริษัทระบุไว้ในการเสนอขาย warrant ว่า จะปรับสิทธิโดยวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้ (1) ปรับราคาและอัตราการใช้สิทธิ หรือ (2) ปรับราคาใช้สิทธิ ควบคู่กับการออก warrant ใหม่ทดแทนการปรับอัตราการ ใช้สิทธิ ทั้งนี้ หากบริษัทต้องออกหุ้นรองรับเพิ่มเติม บริษัทต้องยื่นมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ อนุมัติให้ออกหุ้นรองรับการปรับสิทธินั้นอย่างเพียงพอต่อสำนักงานก่อนการปรับสิทธิ จึง จะถือว่าบริษัทได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นรองรับ | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.3 หน้า 10 ถึง 15 |
5.2 บ ริ ษั ท ระ บุ ไว้ ใน ก ารเสน อขาย warrant ว่ าจะไม่ ขยายอายุ warrant และไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงราคาและอัตราการใช้สิทธิ เว้นแต่จะเป็นการปรับสิทธิ ตามที่กำหนดในข้อ 4.4 (2) | ✓ | ข้อกำหนดสิทธิ ข้อ 2.3.2 หน้า 15 |
บริษัทขอเรียนว่า บริษัทรับทราบและเข้าใจเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามที่ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเกี่ยวกับการขอ อนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขาย warrant และหุ้นรองรับทุกประการ ทั้งนี้ ในการแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดตาม warrant ภายหลัง การเสนอขาย บริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิ และจะไม่ดำเนินการให้ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดตาม ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนดังกล่าว โดยบริษัทจะแจ้งการแก้ไขเพิ่มเติมนั้นเป็นลายลักษณ์อักษรให้สำนักงานทราบภายใน 15 วันนับแต่วันที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม และขอรับรองว่าข้อมูลที่ระบุไว้ในรายการข้างต้นและเอกสารที่แนบมาพร้อม checklist นี้ถูกต้องและ ตรงต่อความจริงทุกประการ
ลงชื่อ (นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต) | ลงชื่อ (นายเมธา โชติอภิสิทธิกุล) |
ในฐานะกรรมการผมีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท พร้อมประทับตราบริษัท (ถ้ามี) |
หมายเหตุ
การเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ในราคาต่ำ หมายถึง การเสนอขายหลักทรัพย์ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
1. การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาต่ำ หมายถึง การเสนอขายหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายตาม 1 ให้มีส่วนลดจากราคาตลาด เกินกว่า 10%
2. การเสนอขาย warrant ในราคาต่ำ หมายถึง การเสนอขาย warrant และหุ้นรองรับโดยกำหนดราคาเสนอขายตาม 1 ให้มี ส่วนลดจากราคาตลาดเกินกว่า 10%
3. การเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ (“CD”) ในราคาต่ำ หมายถึง การเสนอขาย CD โดยกำหนดราคาเสนอขายตาม 1 ให้มีส่วนลด จากราคาตลาดเกินกว่า 10%
1. การคำนวณราคาเสนอขาย
1.1 กรณีเสนอขายหุ้น ให้ใช้ราคาเสนอขายต่อผู้ลงทุน
1.2 กรณีเสนอขาย warrant ให้ใช้ราคาเสนอขาย warrant บวกราคาใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้น
1.3 กรณีเสนอขายหุ้นควบคู่ไปกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ให้คำนวณดังนี้ ((Ps) (Qs)) + ((Pw)(Qw)) + ((Ep)( Qx))
Qs + Qx
ทั้งนี้ โดยที่ Ps = ราคาเสนอขายหุ้น
Qs = จำนวนหุ้นที่เสนอขายควบคู่ไปกับ warrant Pw = ราคาเสนอขาย warrant
Qw = จำนวน warrant ที่เสนอขายควบคู่ไปกับหุ้น
Ep = ราคาใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นตาม warrant
Qx = จำนวนหุ้นที่จะได้รับจากการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นตาม Qw
1.4 กรณีเสนอขาย CD ให้ใช้ราคาเสนอขาย CD หารด้วยอัตราแปลงสภาพ
2. การคำนวณราคาตลาด ให้ใช้ราคาหนึ่งราคาใดดังต่อไปนี้
2.1 ราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วันทำการติดต่อกันแต่ไม่เกิน 15 วันทำการติดต่อกัน ก่อนวัน กำหนดราคาเสนอขาย
(1) ราคาที่นำมาถัวเฉลี่ยสามารถใช้ราคาปิดหรือราคาเฉลี่ยของการซื้อขายหุ้นในแต่ละวันก็ได้
(2) วันกำหนดราคาเสนอขาย ให้เป็นวันใดวันหนึ่งดังต่อไปนี้
(ก) วันที่คณะกรรมการมีมติให้เสนอวาระต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติให้บริษัทเสนอขาย warrant และหุ้น รองรับในราคาต่ำ
(ข) วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้บริษัทเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาต่ำ (ค) วันแรกที่เสนอขายต่อผู้ลงทุน
(ง) วันที่ผู้ลงทุนมีสิทธิซื้อหุ้นตาม warrant
ทั้งนี้ หากไม่ใช้ราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นตลาดตามข้อ 2.1 ให้ระบุความเหมาะสมและเหตุผลของการไม่เลือกใช้ ราคาตลาดดังกล่าวให้ชัดเจนด้วย
2.2 ราคาที่กำหนดโดยผ่านการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับความต้องการซื้อและความต้องการขายหุ้นที่ออกใหม่ของบริษัท เช่น การ สำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (book building) เป็นต้น
2.3 ราคายุติธรรมที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่สำนักงานให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ ให้เปิดเผยสมมติฐาน สำคัญที่ใช้ประกอบการคำนวณราคาตลาดให้เพียงพอและชัดเจนด้วย
เอกสารที่ต้องจัดส่งพร้อมกับ checklist การเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน (“warrant”)
และหุ้นที่ออกใหม่เพื่อรองรับwarrant (“หุ้นรองรับ”) ต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น
เอกสารที่ต้องจัดส่งพร้อมกับ checklist | มี/ไม่มี | หมายเหตุ |
1. รายงานผลการเสนอขาย warrant และหุ้นรองรับ | มี | |
2. หนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นที่ขออนุมัติให้ออกและเสนอขาย warrant และหุ้น รองรับ | มี | |
3. มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่อนุมัติให้ออกและเสนอขาย warrant และหุ้นรองรับ | มี | |
4. ข้อกำหนดสิทธิ warrant | มี | |
5. รายละเอียดการคำนวณจำนวนหุ้นรองรับ | มี | |
6. รายละเอียดการคำนวณ dilution effect | มี | |
7. หนังสือสำนักงานแจ้งการผ่อนผันการออก warrant ในสัดส่วน ที่มากกว่า 50% (ถ้ามี) | ไม่มี | |
8. หนังสือสำนักงานแจ้งการผ่อนผันให้บริษัทไมต้องดำเนินการปรับสิทธิเมื่อเกิด เหตุการณ์ตามที่ประกาศกำหนด (ถ้ามี) | ไม่มี |
หมายเหตุ
(1) เอกสารข้างต้นต้องให้กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทเป็นผู้ลงนามรับรองความถูกต้องของ เอกสารทุกหน้า พร้อมประทับตราบริษัท (ถ้ามี)
(2) การรายงานผลการเสนอขาย warrant และหุ้นรองรับ ให้รายงานผลการขายภายใน 15 วันนับแต่ วันปิดการเสนอขาย (มาตรา 64 แห่ง พรบ.หลักทรัพย์ และประกาศว่าด้วยการยกเว้นการยื่นแบบ filing)