กฎหมายแพงและพาณิชยลักษณะซื้อขายนี้เปนความรับผิดตามสัญญาซึ่งใชบังคับไดเฉพาะ กับ คูสัญญา (privity of contract) ที่เปน ผูซื้อ และ ผูขายเทานั้น หากผูที่ไดรับความเสียหายจากความ...
ความรับผด
บทที' 2
ตามหลักสัญญา ละเมิด และกฎหมายพเศษ
กอนที่จะมีกฎหมายความรับผิดอันเกิดจากสินคาxxxxxปลอดภัย ผูxxxxxรับความเสียหายอัน เนื่องมาจากความชํารุดบกพรองของสินคาอาจฟองรองเรียกคาเสียหายใหผูขายหรือผูผลิตรับผิดxxx xxxxxหรือใหรับผิดทางละเมิดโดยอาศัยบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยซึ่งเปน การคุมครองผูเสียหายตามกฎหมายเอกชน หรือฟองใหรับผิดตามกฎหมายพิเศษบางฉบับซึ่งเปน การคุมครองโดยกฎหมายมหาชน ในบทนี้จะกลาวถึงความรับผิดตามหลักกฎหมายดังกลาวและ ขอจํากัดในการฟองรxxxxxเพื่อเยียวยาความเสียหาย
2.ı ความรับผดตามxxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณชย์
2.ı.ı หลกความรับผดxxxxxxxxซื อขาย
สัญญาซื้อขายนั้นเปนสัญญาที่ถูกนํามาใชมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับสัญญาอื่น การรับผิดxxxxxxxxxxxบนหลักของความศักxxxxxของการแสดงxxxxxในกรณีที่มีการตกลงกัน อยางชัดแจงระหวางคูสัญญา เชน สัญญาซื้อขาย สัญญาเชาทรัพย สัญญาเชาซื้อ ซึ่งคูสัญญาก็ xxxxxxตกลงกันวาหากเกิดความเสียหายขึ้นจากทรัพยที่ซื้อขาย เชา หรือเชาซื้อนั้นจะรับผิดกัน อยางไร เพียงใด ในสัญญาซื้อขาย หากเกิดความเสียหายขึ้นเพราะการผิดสัญญาผูซื้อก็xxxxxxฟอง ผูขายใหรับผิดตามขอสัญญาได ถาหากสินคาที่ซื้อขายโดยเฉพาะสินคาที่มีราคาแพง โดยxxxxxxxมี การรับประกันความเสียหายความชํารุดบกพรองของสินคาไวดวย ผูขายตองรับผิดตามเงื่อนไขxxxxx ระบุไวในสัญญารับประกันสินคา แตหากผูซื้อและผูขายไมไดมีการตกลงกันอยางชัดแจง ความรับ ผิดก็ยอมเปนไปตามกฎหมาย ก็คือ ผูซื้ออาจฟองผูขายใหรับผิดในทรัพยที่ซื้อขายชํารุดบกพรอง ตามมาตรา 472 และ มาตรา 473 ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย อันเปนการรับผิดโดยผลของ กฎหมาย
มาตรา 472 “ในกรณีที'ทรัพย์สินซึ'งขายนั นxxx รุดบกพร่ องอย่างหนึ'งอย่างใด อัน
เป็ นเหตุให้เสื'อมราคาหรือเสื'อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อันม่ จะใช้เป็ นxxxxxxxxx ประโยชน์ที'
ม่งหมายโดยสัญญากดี ท่านว่าผข้ ายต้องรับผิด”
2.1.1.1 ผู้ที'ต้องรับผดิ
มาตรา 472 กําหนดใหผูขายตองรับผิดในความชํารุดบกพรองของสินคา อันเปนทรัพยที่ซื้อขาย เพราะเมื่อผูขายมีหนาที่สงมอบสินคาที่ขายใหแกผูซื้อ (ประมวลกฎหมาย แพงและพาณิชย มาตรา 461) เพื่อผูซื้อจะไดนําทรัพยสินไปใชประโยชนตามความตxxxxxของผูซอื้ ผูขายจึงตองสงมอบทรัพยxxxxxxขายในสภาพที่ปราศจากความชํารุดบกพรองแกผูซื้อดวย เพราะ
ความชํารุดบกพรองของสินคาที่ซื้อไปอาจทําใหผูซื้อไมxxxxxxใชสอยทรัพยxxxxxxซื้อมาไดสมกับ xxxxxแสดงxxxxxเขาทําสัญญา
ผูขายตองรับผิดเมื่อสินคาที่ขายชํารุดบกพรองไมวาผูขายจะรูหรือไมรูวามี ความชํารุดบกพรองในทรัพยxxxxxxซื้อขายหรือไมหรือแมจะไดxxxxxxxxxแลวก็ตาม เพราะมาตรา 472 วรรคสอง xxxxxxxวา
มาตรา 472 วรรคสอง “ความที'กล่าวมานี ย่อมใช้ได้ xx xxx'ผู้ขายรู้อยู่แล้ว หรือไม่รู้ว่าความชารุดบกพร่ องมีอย่”ู
ผูขายจึงตองรับผิดโดยมิตองคํานึงวาผูขายจะไดคาดเห็นหรือประมาท เลินเลอหรือไม เชน เมื่อสาเหตุไฟลุกไหมเกิดจากความชํารุดบกพรองของระบบไฟเปนเหตุให เครื่องยนตของรถยนตคันพิพาทไดรับความเสียหาย มิไดเกิดจากการขับรถโดยประมาทเลินเลอชน กับรถคันอื่นหรือวัตถุสิ่งของอื่นในถนน แมเปนเรื่องนอกเหนือความคาดหมายของโจทกหรือจําเลย (ผูขาย) จําเลยจึงตองรับผิด (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 3496/2538) และผูขายตองรับผิดสําหรับความ ชํารุดบกพรองxxxxxเห็นxxxxxxx แมผูขายจะไดใชความระมัดระวังตรวจตราแลวก็ยังไมxxxxxxจะ ทราบถึงความชํารุดบกพรองนั้นดวย อีกทั้งแมผูขายจะไดขายสินคาโดยxxxxxxxxรูถึงความบกพรอง นั้นความรับผิดของผูขายในความชํารุดบกพรองนี้จึงเปนความรับผิดxxxxxคํานึงถึงความผิดของผูขาย ดังนั้นในการฟองรองเพื่อใหผูขายรับผิดในความชํารุดบกพรองของทรัพยxxxxxxขาย ผูซื้อจึงไมตอง พิสูจนวาผูขายไดรูถึงความบกพรองในสินคานั้น ผูซื้อมีภาระการพิสูจนเพียง 3 ประการคือ
ก. มีสัญญาซื้อขายสินคานั้นระหวางผูขายกับผูซื้อ และ
ข. สินคามีความบกพรองตามที่กฎหมายกําหนดไวอยางใดอยางหนึ่งใน 3 กรณีที่กลาวขางตน คือความชํารุดบกพรองที่เปนเหตุใหเสื่อมราคา ความชํารุดบกพรองที่เปนเหตุ ใหเสื่อมความเหมาะสมแกประโยชนอันจะมุงใชเปนxxxx หรือความบกพรองเปนเหตุใหเสื่อม ประโยชนที่มุงหมายโดยสัญญา และ
ค. ผูซื้อไดรับความเสียหาย ถาผูซื้อไดรับความเสียหายอยางใดxxxxxxxxx จากความบกพรองนั้นก็พิสูจนไดอีก
2.1.1.2 ความหมายของความชํารุดบกพร่อง
ความชํารุดบกพรองที่ผูขายตองรับผิดนี้ตองเปนความบกพรองตามที่ กฎหมายxxxxxxxไวในตอนทายของมาตรา 472 วรรคหนึ่ง
มาตรา 472 วรรคหนึ่ง “...ชารุดบกพร่ องอย่างหนึ'งอย่างใดอันเป็ นเหตุให้
เสื'อมราคาหรือเสื'อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อันม่งจะใช้เป็ นxxxxกดี ประโยชน์ที'มุ่งหมายโดย
สัญญากดี”
ความชํารุดบกพรองที่ผูขายรับผิดตองรับผิดตามมาตรา 472 วรรคหนึ่ง
มี 3 กรณีเทานั้น คือ
ก. ความชํารุดบกพรองเปนเหตุใหเสื่อมราคา เชน เครื่องรับโทรทัศนสี กระเทาะจนเห็นไดชัด แมวายังใชงานไดดีก็ตาม แตสีกระเทาะเปนเหตุใหเครื่องรับโทรทัศนเสื่อม ราคา หรือ
ข. เสื่อมความเหมาะสมแกประโยชนอันจะมุงใชเปนxxxx xxน เครื่องรับ โทรทัศนไมมีภาพและเสียงหรือมีภาพแตภาพสั่นพรามัวไมชัดเจนทําใหไมอาจใชชมภาพยนตรได ตามxxxx หรือ
ค. เสื่อมประโยชนที่มุงหมายโดยสัญญา เชน สั่งซื้อแปงxxxxxxxมี คุณสมบัตินุมฟู มาทําขนมเค็ก แตผูขายสงมอบแปงxxxxxxxมีเนื้อแนนและหนักไมเหมาะกับการทํา ขนมเค็ก แตอาจใชทําขนมปงได
สวนความบกพรองที่นอกเหนือไปจากความบกพรอง 3 ประการที่มาตรา
472 กําหนดวรรคหนึ่งก็ไมถือวาเปนความบกพรองที่ผูขายตองรับผิด นอกจากนี้ความบกพรองที่ กฎหมายกําหนดนั้นตองถึงขนาดดวย ถาแมมีxxxแตเปนเพียงเล็กนอยไมถึงขนาดเปนเหตุใหทรัพย นั้นเสื่อมราคา เสื่อมความเหมาะสมแกประโยชนที่จะใชแลวผูขายก็ไมตองรับผิด เชน ปลาปน สําหรับเปนอาหารสัตวที่มีขนไกปนxxxในปริมาณเล็กนอยไมทําใหไกเติบโตชากวาxxxx xxถือวา เปนกรณีทรัพยxxxxxxขายชํารุดบกพรองอันเปนเหตุใหเสื่อมราคา เสื่อมประโยชนอันมุงจะใชเปน xxxxหรือเสื่อมประโยชนที่มุงหมายโดยสัญญาที่ผูขายจะตองรับผิด (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 6976/2542)
อีกประการหนึ่งที่สําคัญก็คือความชํารุดบกพรองนั้นตองมีxxxกอนหรือมี xxxในขณะสงมอบ แมวามาตรา 472 จะไมไดxxxxxxxในเรื่องนี้ไว แตศาลฎีกาไดวินิจฉัยไววาความ บกพรองที่มีขึ้นภายหลังจากการทําสัญญาซื้อขาย หรือ ความบกพรองที่เกิดขึ้นภายหลังการสงมอบ นั้น ผูขายไมตองรับผิด ดังคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2514 ไดวินิจฉัยวา “ความxxx รุดบกพร่ องใน ทรัพย์สินที'ซือขายอันผ้ขายจะต้องรับผิดต่อผู้ซือตามxxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 472
นั น จะต้องเป็ นความชารุดxxxxx xxxx'มีอย่ก่อนแลวห้ รือมีอยใู่ นขณะทาสญญาซxxx ขายหรือในเวลาส่ง
มอบทรัพย์สินที'ขายส่วนความxxxxx xxxx'มีขึนภายหลัง ผู้ขายหาต้องรับผิดไม่” (คําพิพากษาศาล
xxxxxxx 508/2545 และ คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2545 วินิจฉัยทํานองเดียวกัน)
ความชํารุดบกพรองตามมาตรา 472 วรรคหนึ่งนั้นเปนความเสื่อมเสียใน ตัวทรัพยxxxxxxซื้อขายเอง2 เชน แตก หัก บุบ ราว รั่ว บูด เนา หมดอายุ ไมใชการสงมอบทรัพยผิดไป จากที่ระบุไวในสัญญาอันจะถือไดวาเปนการไมปฏิบัติการชําระหนี้xxxxxxxxเลย ซึ่งไมใชเรื่อง ความชํารุดบกพรองและไมxxxในบังคับแหงมาตรา 472 (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2511)
2 xxxxxx xxxxxxxxx, คําอธิบายกฎหมายซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให, พิมพครั้งที่ 3, กรุงเทพฯ สํานักพิมพวิญูชน,
2547, หนา 177
อยางไรก็ตามสําหรับการซื้อขายที่มีการทําสัญญากันนั้น ความรับผิดก็ ยอมเปนไปตามขอสัญญา ผูขายจึงอาจตองรับผิดในความชํารุดบกพรองใดๆที่นอกเหนือไปจากที่ กําหนดไวในมาตรา 472 นี้ได
2.1.1.3 ขอบเขตของความรับผดิ
ความรับผิดของผูขายเพื่อความชํารุดบกพรองของทรัพยxxxxxxขายจะมี เพียงใดอยางไรนั้น มาตรา 472 ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยไมไดxxxxxxxไวโดยตรง จึงตอง ใชกฎหมายลักษณะหนี้ตามมาตรา 222 มาปรับใช
มาตรา 222 การเรียกเอาค่าเสียหายนั นได้แก่เรี ยกค่าสินไหมทดแทนเพื'อ
ความxxxxxxxxxxxที'ตามxxxxย่อมเกิดขึนแต่การxxxxxระหนีนั น
เจ้าหนีจะเรียกxxxxxxxxxxxxxxxxx แม้กระทั'งเพื'อความเสียหาย อันเกิด แต่พฤติการณ์ พิเศษ หากว่าxxxxxxxxx'เกี'ยวข้องได้คาดเห็นหรื อ ควรจะได้คาดเห็นxxxxxxxxx xxxxนั น ล่วงหน้าก่อนแล้ว
ดังนี้
ตามบทบัญญัติในมาตรา 222 วรรคหนึ่งนั้นความรับผิดของผูขาย จึงมี
(1) ซอมแซมทรัพยหรือจัดหาทรัพยใหมแกผูซื้อ ผูขายสงมอบทรัพยที่
ชํารุดบกพรอง ผูขายมีหนาที่ซอมแซมทรัพยสินนั้นโดยผูขายเปนผูออกคาใชจายเองหรือหาก ซอมแซมไมไดผูขายตองจัดหาทรัพยใหมใหที่เปนชนิด ประเภท ปริมาณอยางเดียวกันกับทรัพยxxx xxxซื้อขายกันใหแกผูซื้อ (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2539) และรวมถึงอาจตองรับผิดในความxxxxxxx xxxเกิดขึ้นอันเปนผลมาจากความชํารุดบกพรองนั้นตามมาตรา 222 (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 2389/2529)
(2) รับสินคาคืนและใชราคาแกผูซื้อ หากผูขายไมอาจหรือไมยอมสงมอบ ทรัพยใหมใหแกผูซื้อ ผูซื้อมีxxxxxเลิกสัญญาและเรียกคาเสียหายจากผูขายไดอีก เมื่อเลิกสัญญาแลวผู ซื้อและผูขายกลับคืนสูฐานะเดิม คือ ผูขายรับสินคาคืนและใชคืนราคาแกผูซื้อตลอดจนใช คาเสียหาย (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 2830/2522 และคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 66-67/2547)
(3) ถาผูซื้อยังไมไดชําระราคาผูซื้อก็มีxxxxxยึดหนวงราคาสินคาที่ยังไมได ชําระนั้นทั้งหมดหรือบางสวนไวไดจนกวาผูขายหาประกันตามxxxxxใหตามมาตรา 488 โดยไม ตองรับผิดในดอกเบี้ยผิดนัดเพราะถือวาการชําระหนี้ยังไมไดกระทําลงเพราะพฤติการณอันใดอัน หนี่งซึ่งลูกหนี้คือผูซื้อไมตองรับผิดชอบ (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 3279/2527 และคําพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8141/2548)
คาสินไหมทดแทนที่เรียกไดขางตนเปนคาสินไหมทดแทนตามมาตรา 222 วรรคหนึ่งที่ผูเปนคาสินไหมทดแทนความเสียหายเชxxxxพึงเกิดขึ้นไดโดยxxxxตามธรรมดาจาก การไมชําระหนี้ อยางไรก็ตามในเรื่องนี้ยังมีความเห็นแตกตางกันฝายหนึ่งเห็นวาความรับผิดของ
ผูขายตามมาตรา 473 จํากัดเฉพาะความเสียหายในตัวทรัพยที่ชํารุดบกพรองนั้นเองเทานั้น3 เพราะถา ยอมใหเรียกความเสียหายอื่นดวยผูขายจะตองรับผิดอยางไมสิ้นสุด เชน ซื้อตุมน้ํามา 1 ใบ แตตุมนั้น มีรอยรั่ว น้ําซึมออกจากรอยรั่วดังกลาวไปถูกปลั๊กไฟบนพื้นบาน ทําใหกระแสไฟฟาลัดวงจร ไฟ ไหมบานและทรัพยสินในบานมูลคารวม 1 ลานบาทเสียหายหมดและทําใหคนในบานไดรับ บาดเจ็บเสียชีวิต กรณีเชนนี้ถาผูขายจะตองรับผิดชดใชคาสินไหมทดแทนในความเสียหายทั้งหมด จึงไมนาจะเปนธรรม สวนอีกฝายหนึ่งเห็นวารวมความเสียหายในทุกกรณีทั้งความเสียหายใน ทรัพยสินนั้นเองตลอดถึงความเสียหายตอทรัพยสินอื่นตอชีวิตรางxxxของผูซื้ออันปนผลจากสินคา ที่ชํารุดบกพรองนั้น4
ผูวิจัยเห็นวาการชดใชคาสินไหมทดแทนในเรื่องผิดสัญญาซื้อขายนั้นไมใช จะใหความคุมครองผูซื้อในแงประโยชนที่จะไดจากสัญญาซื้อขายแตเพียงอยางเดียวแตผูซื้อนาจะ เรียกคาเสียหายอยางอื่นxxxxxรับไดดวย โดยอาศัยหลักทั่วไปในกฎหมายลักษณะหนี้ตามxxxxxx กฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา 222 ซึ่งไดแกคาเสียหายอันพึงเกิดขึ้นไดตามxxxxธรรมดาจากการที่ ผูขายสงมอบทรัพยสินอันชํารุดบกพรองแกผูซื้อ5 และ คาเสียหายอันเกิดแตพฤติการณพิเศษซึ่ง ผูขายจะตองรับผิดก็ตอเมื่อเปนความxxxxxxxxxxคาดเห็นไดหรือควรคาดเห็นไดวาความเสียหาย เชนนั้นจะเกิดขึ้น เชน ผูขายรูxxxวาผูซื้อซื้อสินคาของตนไปเพื่อขาย ผูขายสงมอบสินคาที่ใชการไม ดี ชํารุดบกพรอง ผูซื้อคืนราคา ผูขายรับผิดในคาเสียหาย รับของคืน และใชคาเสียหายพิเศษ คือ คา ขนสงสินคา คาเบี้ยประกัน คาภาษี คาวัสดุสําหรับบรรจุหีบหอสินคา คาโกดังเก็บสินคา ซึ่งผูขาย ควรคาดหมายไดลวงหนาตาม ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 222 (คําพิพากษาศาลฎีกา ที่ 903/2519 และ คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 2389/2529)
2.1.1.4 อายุความ
การฟองรองใหผูขายรับผิดในความชํารุดบกพรองมีอายุความ 1 ปนับแต เวลาxxxxxพบเห็นความชํารุดบกพรองตามมาตรา 474 ไมใชนับแตเวลาทําการซื้อขาย โอนกรรมสิทธิ์ หรือสงมอบดังนั้นแมมีความชํารุดบกพรองxxxในเวลาสงมอบแตความชํารุดบกพรองนั้นไมไดเห็น
3 พจน xxxxxxx คําอธิบายประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยวาดวยละเมิด กรุงเทพ กรุงสยาม 2525 หนา 463 xxxxx xxxxxxxx คําอธิบายกฎหมายวาดวย ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให พิมพครั้งที่ 5 กรุงเทพ แสงxxxxxxxxพิมพ 2532 หนา 276
4 xxxxx สุมาวงศ คําอธิบายลักษณะวิชากฎหมายแพงและพาณิชยวาดวย ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให กรุงเทพ กรุงสยาม
2528 หนา 233 ประพนธ xxxxxxx และxxxxxx ปุญญพันธ คําอธิบายประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ลักษณะ ซื้อ ขาย กรุงเทพ นิติบรรณการ 2510 หนา 156
5 ในคดี Randall v Newsen (1877), Q.B,D. 112 ดุมลอรถของรถมาเปดประทุนหัก ผูซื้อฟองเรียกคาxxxxxxxxxxเขา ไดรับบาดเจ็บ ศาลพิพากษาวาเขามีxxxxxจะไดรับคาสินไหมทดแทนเมื่ออาการบาดเจ็บนั้นเกิดขึ้นโดยผลธรรมดา ของความชํารุดบกพรองนั้น
xxxxxxx เมื่อสงมอบแลวผูซื้อจึงพบความชํารุดบกพรองนั้น อายุความก็เริ่มนับตั้งแตเวลานั้น (คํา พิพากษาศาลฎีกาที่ 5584/2544)
2.1.1.5 ข้อยกเว้นที'ผู้ขายไม่ต้องรับผดิ
แมผูขายจะสงมอบทรัพยที่ชํารุดบกพรองแตผูขายไมตองรับผิดถาผูขายมี ขอแกตัวที่เขาขอยกเวนตามกฎหมาย หรือถาคูสัญญามีขอตกลงยกเวนความรับผิดไวก็เปนไปตาม ขอตกลงของคูสัญญา
1) ขอยกเวนความรับผิดตามกฎหมาย แมวากฎหมายกําหนดใหผูขายตองรับผิดไมวาผูขายจะไดรูหรือ
คาดเห็นถึงความชํารุดบกพรองนั้นหรือไม แตผูขายไมตองรับผิดหากเขาขอยกเวนซึ่งมี 3 กรณีดังที่ xxxxxxxไวในมาตรา 473
มาตรา 473 “ผ้ขายย่อมไมต้่ องรับผิดในกรณีดังจะกลาวต่่ อไปนี คือ
(h) ถ้าผู้ซื อได้ รู้ อยู่แล้ วแต่ในเวลาที'ซื อขายว่ามีความชํารุ ด บกพร่ องหรือควรจะได้รู้xxxxนั นหากได้ใช้ความระมัดระวัง อันจะพึงคาดหมายได้จากวิญ ูชน
(2) ถ้าความชารุดบกพร่ องนั นเป็ นอันเห็นxxxxxxxxแล้วในเวลา
ส่งมอบและผ้ซือรับเอาทรพยสนนั ิ์ั นไว้โดยมิได้อดเออืิ น
( ) ถ้าทรัพย์สินนั นได้ขายทอดตลาด”
การที่ผูซื้อรูxxxแลววาสินคาที่ซื้อขายมีความชํารุดบกพรองแตก็ยัง ซื้อก็เทากับวาผูซื้อสมัครใจซื้อสินคานั้นxxxxxxxxบกพรองนั่นเอง ผูซื้อจึงไมควรมาเรียกใหผูขายตอง รับผิดในภายหลังอีก กฎหมายจึงกําหนดใหผูขายไมตองรับผิดในกรณีดังกลาว และถาผูซื้อควรจะ ไดรูหากไดใชความระมัดระวังอยางวิญูชน การที่ผูซื้อไมรูเชนนั้นก็ถือวาประมาทเลินเลออยาง รายแรง สวนการที่ผูซื้อรับเอาทรัพยที่มีความชํารุดบกพรองอันเห็นไดxxxxxxxในเวลาสงมอบโดย ไมไดxxxxxxxxxคือไมไดโตแยงทักทวง แมวาในขณะทําสัญญาจะไมรูถึงความชํารุดบกพรองนั้นก็ ตามแสดงวาผูซื้อไมเห็นวาความชํารุดบกพรองนั้นเปนสาระสําคัญ ผูขายจึงไมควรตองรับผิด เชนกัน สําหรับขอยกเวนความรับผิดในกรณีขายทอดดลาดนั้น เปนการที่ผูซื้อเขาสูราคาในการ ประมูลขายทรัพยสินอันเปนการขายตามสภาพที่เปนxxx ไมมีการรับรองหรือรับประกันวาสินคาจะ ไมชํารุดบกพรอง อีกทั้งผูซื้อนาจะรูถึงความชํารุดบกพรองเพราะเปดโอกาสใหผูซี้อไดตรวจสอบ กอน ผูขายจึงไมตองรับผิดในความชํารุดบกพรองของทรัพยxxxxxxขาย
2) ขอยกเวนความรับผิดโดยสัญญา นอกจากขอยกเวนความรับผิดของผูขาย 3 กรณีตามมาตรา 473
ซึ่งเปนการยกเวนโดยผลของกฎหมายแลวคูสัญญาอาจตกลงกันเองกําหนดยกเวนความรับผิดที่ แตกตางไปจากกฎหมายก็ไดตามที่มาตรา 483 ไดxxxxxxxไว
มาตรา 483 “คู่สัญญาซือขายจะตกลงกันว่าผ้ขายจะไม่ต้องรับผิด เพื'อความชารุดบกพร่ องหรือเพื'อการxxxxxxxxกได้”
ดังนั้นคูสัญญาอาจตกลงกันใหผูขายไมตองรับผิดเพื่อความชํารุด บกพรองเลยก็ได แตสัญญาไมมีผล หากความชํารุดบกพรองนั้นเปนเพราะเปนผลแหงการกระทํา ของผูขายเอง หรือผลแหงขอความจริงอันผูขายไดรูxxxแลวและปกปดเสียตามดังที่xxxxxxxไวใน มาตรา 485 ดังนี้
มาตรา 485“ข้อสัญญาว่าจะไม่ต้องรับผิดนั น xxxxxxxxxxความรับ ผิด ของผ้ขายในผลของการอันผ้ขายได้กระทาไปเอง หรือผลแห่ งข้อความจริ งอันผู้ขายได้รู้อยู่และ ปกปิ ดเสีย”
2.1.1.6 ข้อดีและข้อจากดในการฟ้ องให้ผู้ขายรับผิดตามหลักซื อขายตามxxxxxx
กฎหมายแพ่งและพาณชย์
พาณิชย์
1) ข้อดีในการฟ้ องให้รับผด
ตามหลกซื อขายตามxxxxxxกฎหมายแพ่งและ
(1) ความรับผิดของผูขายกรณีทรัพยที่ขายชํารุดบกพรองเปนความรับผิด โดยเครงครัด หากไมเขาขอยกเวนตามกฎหมาย ผูขายตองรับผิดตอผูซื้อในความชํารุดบกพรองของ ทรัพยxxxxxxขายแมวาผูขายจะไดใชความระมัดระวังในการตระเตรียมและขายสินคานั้นทุกประการ แลวก็ตามและตองรับผิดไมวาความชํารุดบกพรองนั้นผูขายจะไดคาดเห็นหรือไม ผูขายจะอางวาตน xxxxxxxxรูถึงความชํารุดบกพรองเพื่อใหตนไมตองรับผิดไมได เวนแตจะเขาขอยกเวนตามที่ กฎหมายกําหนด ผูซื้อจึงไมตองพิสูจนวาผูขายรูถึงความชํารุดบกพรองนั้นหรือไม
2) ข้อจากดในการฟ้ องให้รับผดตามหลกซื อขายตามxxxxxxกฎหมายแพ่ง
และพาณชย์
(1) บทบัญญัติเรื่องความรับผิดเพื่อความชํารุดบกพรองตามxxxxxx
กฎหมายแพงและพาณิชยลักษณะซื้อขายนี้เปนความรับผิดxxxxxxxxซึ่งใชบังคับไดเฉพาะกับ คูสัญญา (privity of contract) ที่เปน ผูซื้อ และ ผูขายเทานั้น หากผูxxxxxรับความเสียหายจากความ ชํารุดบกพรองของสินคาเปนบุคคลอื่นไมใชผูซื้อสินคาxxxxxxจากผูขาย เชน ผูที่เดินบนทองถนน แลวถูกรถยนตที่เบรคชํารุดบกพรองเฉี่ยวชนไดรับบาดเจ็บ หรือสมาชิกครอบครัวของผูซึ้อสินคาที่ ชํารุดบกพรองใชสินคานั้นแลวไดรับความเสียหาย บุคคลเหลานี้ไมอาจฟองรองใหผูขายรับผิดxxx xxxxxไดเพราะกฎหมายกําหนดใหผูขายจะรับผิดตอผูซื้อเทานั้น สวนผูผลิตนั้นก็ยอมไมตองรับผิด ตอผูซื้อหรือบุคคลใดxxxxxxxxเลยเวนแตผูเสียหายจะไดซื้อสินคาจากผูผลิตโดยตรง ผูเสียหายxxx xxใชผูซื้อจึงไมอาจอาศัยหลักความรับผิดในทางสัญญาเพื่อไดรับการชดเชยเยียวยาความเสียหายได
(2) ในกรณีตีความวากฎหมายลักษณะซื้อขายมุงตอความชํารุดบกพรอง ในการใชประโยชนของตัวทรัพยนั้นเอง ความเสียหายนั้นก็จะไมครอบคลุมถึงความเสียหายตอ ทรัพยสินอื่นหรือบุคคลอื่น เชน ซื้อตุมใสน้ํามา 1 ใบไวในบานตุมมีรอยราวที่มองไมเห็นแมใช ความระมัดระวังเมื่อเกิดความชํารุดบกพรองขึ้นในสินคา ตามาตรา 472 ผูขายตองรับผิดเฉพาะราคา
ตุมเทานั้น คาเสียหายอื่นที่เกิดขึ้นเพราะตุมราว เชน คาพื้นบาxxxxxxxxxxx หรือในกรณีผูซื้อไดรับ อันตรายแกxxxหรือชีวิตเนื่องมาจากความชํารุดบกพรองของทรัพยที่ขาย เชน เหยียบน้ําลื่นหกลม หัวแตกเรียกใหผูขายรับผิดตามมาตรา 472 ไมได
(3) แมกฎหมายกําหนดใหความชํารุดบกพรองมี 3 ประการ คือ ความ ชํารุดบกพรองเปนเหตุใหเสื่อมราคา หรือเสื่อมความเหมาะสมแกประโยชนอันจะมุงใชเปนxxxx หรือเสื่อมประโยชนที่มุงหมายโดยสัญญา แตxxxxxคาหลายประเภทxxxxxไดมีความชํารุดบกพรอง ตามที่กฎหมายกําหนดแตก็กอใหเกิดความเสียหายได เชน ยาxxxxxxปวดบางประเภทใชระงับปวด ไดดีแตตองรับประทานทันทีหลังอาหาร ถารับประทานขณะทองวางมีผลขางเคียงทําใหเปนโรค กระเพาะ แตไมไดมีคําเตือนบอกไวบนxxxx ซึ่งไมถือเปนความชํารุดบกพรองตามมาตรา 472 เพราะไมเสื่อมราคา ไมเสื่อมประโยชนxxxxxxxxหรือเสื่อมประโยชนอันจะมุงใชเปนxxxx
(4) กรณีผูซื้อเปนผูเสียหายเองเมื่อใชxxxxxฟองรxxxxxแลวก็อาจประสบ ปญหาไมไดรับชดใชคาเสียหายตามฟองจากผูขายก็ได เพราะผูขายสินคาในทองตลาดจํานวนมาก เปนพอคาปลีก ซึ่งก็คือผูประกอบการรายยxxxxxxxxxไมมีความxxxxxxทางการเงินที่xxxxxxxxxxจะ ชดใชคาเสียหายแกผูซื้อหากความxxxxxxxxxxเกิดขึ้นคิดเปนเงินจํานวนสูง การฟองรxxxxxxxคุมคา กับเวลาและคาใชจายที่ตองเสียไป แตจะฟองรองผูผลิตxxxxxxxxxทางเศรษฐกิจxxxxxกวาก็ไมไดเพราะ ไมใชคูสัญญา ในขณะที่ความบกพรองนั้นเกิดจากการผลิต แตผูผลิตไมตองรับผิด จึงไมเปนธรรม อยางยิ่ง
(5) ความรับผิดของผูขายตามมาตรา 472 อาจถูกจํากัดไดโดยขอสัญญา ตามมาตรา 483-485 ไมวาจะเปนการซื้อขายระหวางพอคากับพอคาหรือสัญญาซื้อขายทําขึ้น ระหวางพอคากับผูบริโภค จึงไมเปนการคุมครองผูบริโภคอยางเพียงพอตามหลักพื้นฐานของการ คุมครองผูบริโภคซึ่งถือวาผูบริโภคxxxในฐานะที่ดอยกวา เพราะมาตรา 472 xxxบนxxxxxxxxxxวาผูซื้อ และผูขายxxxในฐานะที่เทาเทียมกันในการทําสัญญา สวนพระราชบัญญัติขอสัญญาxxxxxเปนธรรม พ.ศ. 2540 ซึ่งมีวัตถุประสงคเพื่อคุมครองผูที่ออนแอกวาในทางเศรษฐกิจไมใหถูกเอาเปรียบ โดย มาตรา 6 ของพระราชบัญญัติฉบับนี้กําหนดใหขอตกลงยกเวนหรือจํากัดความรับผิดของผูประกอบ ธุรกิจการคาหรือวิชาชีพที่มีหนาที่ชําระหนี้ดวยการสงมอบทรัพยแกผูบริโภคเพื่อยกเวนความรับผิด หรือจํากัคความรับผิดในความชํารุดบกพรองหรือเพื่อการxxxxxxxxใชบังคับไมได เวนแตผูบริโภค จะไดรูเหตุชํารุดบกพรองหรือการxxxxxxxxxxxแลวในขณะทําสัญญา ในกรณีนี้ใหขอตกลงยกเวน หรือจํากัดความรับผิดมีผลบังคับไดเพียงเทาที่เปนธรรมและพอxxxxxแกกรณีเทานั้น ดังนั้นสัญญา ซื้อขายจึงไมไดxxxภายใตพระราชบัญญัติฉบับนี้ในทุกกรณีไป
2.ı.2 หลกความรับผดตามxxxxxเมดิ
ความรับผิดตามมูลละเมิดเปนความรับผิดโดยผลของกฎหมาย โดยกฎหมาย กําหนดใหผูทําละเมิดตองชดใชคาเสียหาย ดังนั้นผูxxxxxรับความเสียหายจากสินคาอาจอาศัย
กฎหมายลักษณะละเมิดฟองรองผูผลิตหรือผูขายที่ทําละเมิดเพื่อเยียวยาความเสียหายไดโดยไมตอง มีนิติสัมพันธกับผูขายหรือผูผลิต เพราะความรับผิดตามหลักละเมิดมิไดเกิดจากขอตกลงของคูกรณี เหมือนความรับผิดxxxxxxxx
ผูxxxxxรับความเสียหายจากสินคาอาจฟองใหผูขายหรือผูผลิตรับผิดไดตามมาตรา 420 ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยซึ่งเปนความรับผิดเพื่อการทําละเมิดในกรณีทั่วไป หรือใน กรณีที่ทรัพยที่กอใหเกิดความเสียหายนั้นเปนxxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกลหรือทรัพย อันตรายก็อาจฟองตามมาตรา 437 ซึ่งเปนความรับผิดในความxxxxxxxxxxเกิดจากทรัพย
2.1.2.1 ความรับผดเพอการทําละเมดในกรณีทั'วไปตามมาตรา 420
ในการฟองรองใหรับผิดตามมูลละเมิดผูเสียหายตองพิสูจนใหครบ องคxxxxxxxxxความผิดตามที่มาตรา 420 xxxxxxxไว
มาตรา 420 “ผู้ใดจงใจหรื xxxxxxxเลินเล่อ ทําต่อบุคคลอื'นโดยผิด
กฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตกด
ี แก่ร่ างxxxกด
ี อนามัยกด
x xxxxxxxxxxx xxxxxxxxxxxx xxxxxxxxxxx
หนึ'งอย่างใดกด
ี ท่านว่าผ้x
x xxxละเมิดจาต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื'อการนั น”
องคประกอบความรับผิดตามมาตรา 420 แยกไดดังนี้
(1) มีการกระทําโดยผิดกฎหมาย การกระทําหมายถึงมีการเคลื่อนไหว
หรือไมเคลื่อนไหวรางxxxโดยรูสํานึก การไมเคลื่อนไหวรางxxxxxxจะเปนละเมิดไดตองเปนการงด เวนคือมีหนาxxxxxxตองกระทําแตไมกระทํา หนาxxxxxxเกิดจากสัญญา หรือหนาที่ตามกฎหมายหรือ หนาที่อันเกิดจากความสัมพันธทางขอเท็จจริง สวนโดยผิดกฎหมายหมายxxxxxxฝาฝนกฎหมายที่มี xxxxxxxไวโดยชัดแจงรวมถึงกรณีxxxxxมีกฎหมายxxxxxxxไวโดยชัดแจงดวยแตเปนการกระทําโดยไม มีxxxxxxxxจะกระทํา ในสวนของผูผลิต มีกฎหมายพิเศษxxxxxกําหนดหนาที่ของผูผลิตสินคาบาง ประเภทไว เชนพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 พระราชบัญญัติ เครื่องสําอาง พ.ศ. 2517 เปนตน ถาผูผลิตฝาฝนกฎหมายดังกลาวนี้ถือวาผูผลิตฝาฝนหนาที่ เมื่อมี ความเสียหายเกิดขึ้นก็ถือวาผูผลิตทําละเมิด
(2) เปนการกระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเลอ การกระทําโดยจงใจคอื การกระทําหรือไมกระทําโดยรูสํานึกวาการกระทําหรืองดเวนการกระทําของตนจะกอใหเกิดความ เสียหายแกบุคคลอื่นโดยไมจําเปนตองเจาะจงใหเกิดความเสียหายอยางใดอยางหนึ่งโดยเฉพาะ เชน จงใจหลอกกลวงขายสินคาที่มีความชํารุดบกพรองที่กอใหเกิดความเสียหายแกผูบริโภคได สวนการ กระทําโดยประมาทเลินเลอหมายxxxxxxกระทําxxxxxxxใชความระมัดระวังอยางxxxxxxxxxxวิญูชนพึง ระวังตามวิสัยและพฤติการณและผูกระทําอาจใชความxxxxxxxxxxxxนนั้นไดแตหาไดใชความ xxxxxxxxxxxxนนั้นไม ซึ่งอาจเปนกรณีไมไดตรวจสอบวาสินคาที่ขายมีความชํารุดบกพรอง เชน จําเลยขายของสําหรับบริโภค มีหนาที่ตองระมัดระวังใหของนั้นปราศจากยาเบื่อเมา โดยxxxxx ตามหนาxxxxxxตองมีตามวิสัยอาชีพของจําเลย เมื่อผูเสียหายกับพวกเกิดเจ็บปวยลงดวยอาหารของ
จําเลยเชนนี้ จําเลยมีความผิดฐานประมาทเลินเลอไมระมัดระวังตรวจตราสิ่งของสําหรับบริโภคที่ เอาไปขาย (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 946-947/2475) การกระทําโดยประมาทเลินเลออาจเกิดขึ้นไดใน ขั้นตอนการผลิต ซึ่งถาหากเปนความประมาทเลินเลอของลูกจางนายจางซึ่งเปนผูผลิตก็ตองรวมรับ ผิดดวย
(3) มีความเสียหายแกบุคคลอื่น ตองมีความเสียหายเกิดขึ้นเพราะแมมีการ กระทําที่ผิดกฎหมายแตยังไมมีความเสียหายก็ยังไมเปนละเมิดความxxxxxxxxxxเกิดขึ้นตองเปนความ xxxxxxxxxxแนนอน และเปนความเสียหายตอสิ่งที่กฎหมายคุมครองเทานั้น คือ ชีวิต รางxxx อนามัย เสรีภาพ ทรัพยสิน หรือxxxxxอยางหนึ่งอยางใด
(4) ความเสียหายนั้นเปนผลโดยตรงจากการกระทําของผูทําละเมิด ซึ่ง เปนไปตามทฤษฎีเงื่อนไข6 คือความเสียหายนั้นเปนผลจากการกระทําผิดของจําเลยผูทําละเมิดถาไม มีการกระทําความเสียหายยอมไมเกิด แตถาไมมีการกระทําความเสียหายก็ยังเกิดxxxนั่นเองถือวา ความเสียหายนั้นไมใชผลโดยตรงและความเสียหายนั้นตองไมไกลกวาเหตุ ถามีการกระทําของ บุคคลอื่นหรือเหตุการณใดแทรกแซงตัดความสัมพันธระหวางการกระทําของจําเลยกับผลแหง ความเสียหายถือวาเปนความxxxxxxxxxxไกลกวาเหตุ จําเลยไมตองรับผิด
การจะฟองใหรับผิดตามมาตรา 420 นี้โจทกตองนําสืบใหxxxxxถึง องคประกอบใหครบถวนทั้ง 4 ประการขางตน หากโจทกไมxxxxxxพิสูจนไดวาจําเลยไดกระทํา โดยจงใจหรือประมาทเลินเลอทําใหโจทกเสียหายและความเสียหายเปนผลโดยตรงจากการกระทํา ของจําเลยแลว (Causation) จําเลยยอมไมตองรับผิดชดใชคาเสียหาย เชน จําเลยสงมอบทรัพยชํารุด บกพรองเปนการผิดสัญญา แตการไมปฏิบัติxxxxxxxxไมไดเปนการกระทําโดยจงใจหรือประมาท เลินเลอโดยผิดกฎหมายตอบุคลอื่น เปนเหตุใหเขาเสียหาย ไมเปนการทําละเมิด คําพิพากษาศาลฎีกา ที่ 400/2546 ในเรื่องภาระการพิสูจนนี้มีคําพิพากษาคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 849/2490 ศาลไดวินิจฉัย วาเกิดไฟไหมบานเชาแมผูใหเชาจะใหนําxxxxxไดวาไฟเกิดขึ้นดวยสาเหตุหรือใครทําใหเกิดขึ้นก็ดี เมื่อไดความวาไฟเกิดขึ้นในบานเชาไมใชลุกลามมาจากที่อื่น ผูเชาก็มีหนาที่นําสืบแสดงขอแกตัว เพื่อใหพนความรับผิด ถาxxxxxไดก็ตองรับผิดในความxxxxxxxxxxเกิดขึ้นจากไฟไหมนั้น ซึ่งแสดงให เห็นวาในบางกรณีไมไดยึดหลักวาโจทกตองมีหนาที่นําสืบเสมอไป
อยางไรก็ตามหากโจทกxxxxxxนําสืบตามองคประกอบตามมาตรา 420 ไดครบถวนแลว แมโจทกไมxxxxxxนําสืบถึงจํานวนความเสียหายxxxxxรับ ศาลมีอํานาจกําหนด คาเสียหายใหแกโจทกตามxxxxxxxเองตามมาตรา 438
6 ศักดิ์ xxxxชาติ คําอธิบายประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยวาดวยละเมิด กรุงเทพมหานคร นิติบรรณการ 2549 หนา 29
422 ซึ่งxxxxxxxวา
ในเรื่องภาระการพิสูจนนี้มีxxxxxxxxxxxxเปนคุณแกผูเสียหายxxxในมาตรา
มาตรา 422 “ถ้าความเสียหายเกิดแต่การฝ่ าฝื นบทบัญญัติแห่ งกฎหมายใด
xxxxxที'xxxxxxxเพื'อจะxxxx xxผ้อ
ื'น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผ้น
ั นเป็ นฝ่ ายผิด”
ในกรณีที่เปนความxxxxxxxxxxเกิดแตการฝาฝนxxxxxxxxxxxxมีวัตถุประสงค เพื่อปกปองผูอื่น เชน พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติเครื่องสําอาง พ.ศ. 2535 หาก ผูผลิตเครื่องสําอางกระทําความผิดฝาฝนหนาที่ตามพระราชบัญญัติเครื่องสําอาง พ.ศ. 2535 แลวทํา ใหเกิดความเสียหายขึ้น ผูxxxxxxxxxxจะฟองผูผลิตในกรณีเชนนี้จะไดรับประโยชนจากขอสันนิษฐาน ของกฎหมายตามมาตรา 422 เมื่อกฎหมายสันนิษฐานไวกอนวาผูฝาฝนบทบัญญัติแหงกฎหมายที่มี วัตถุประสงคเพื่อปกปองผูอื่น ผูผลิตฝาฝนพระราชบัญญัติเครื่องสําอาง พ.ศ. 2535 ฯ ซึ่งมี วัตถุประสงคเพื่อคุมครองผูบริโภคจึงถูกสันนิษฐานวาไดกระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเลอตอ บุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายและถาผูเสียหายxxxxxxพิสูจนวามีการกระทําอันเปนการฝาฝนกฎหมาย ดังกลาวอยางไร และมีความเสียหายจากกระทําเชนนั้นได ภาระการนําสืบแกตัวตกเปนของผูผลิต ที่ จะตองนําสืบกอนถาพิสูจนไมไดผูผลิตยอมตองรับผิดตามความในมาตรา 420
437
2.ı.2.2 ความรับผดเพอการทําละเมดในความxxxxxxxxx'xxx
จากทรัพย์ตามมาตรา
ความรับผิดตามเพื่อการทําละเมิดในความxxxxxxxxxxเกิดจากทรัพยตาม มาตรา 437 เปนความรับผิดxxxxxตxxxxxองคประกอบในเรื่องความจงใจหรือประมาทเลินเลอของ
ผูกระทําละเมิด ดังเชนมาตรา 420
มาตรา 437 “บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลxxxพาหนะอย่างใดๆ อันเดินด้วยxxxxxเครื'องxxxxxx บุคคลนั นจะต้องรับผิดชอบเพื'อการเสียหายอันเกิดแต่xxxพาหนะ นั น เว้นแต่จะพิสูจน์ ได้ว่าการเสียหายนั นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรื อเกิดเพราะความผิดของผู้ต้อง เสียหายนั นเอง
ความข้อนีใ ห้ใช้บังคับได้ตลอดถึงผู้มีไว้ในครอบครองของตน ซึ'งทรัพย์ อันเป็ นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ หรื อโดยความxxxxxxxxxx'จะใช้ หรื อโดยอาการกลไกของ ทรัพย์นั นด้วย”
หลักเกณฑความรับผิดตามมาตรา 437 มีดังนี้
1) ผูที่ตองรับผิดตามมาตรานี้คือผูครอบครองหรือควบคุมดูแล xxxพาหนะอยางใดๆ อันเดินดวยกําลังxxxxxxxxxxxกล หรือผูครอบครองทรัพยอันตราย “ผู้ ครอบครอง” หมายถึง ผูยึดหรือถือครอบครองxxxพาหนะในขณะเกิดความเสียหายเชน เจาของ หรือ ผูครอบครองแทนเจาของ เชน ผูยืม ผูเชา และตองเปนผูครอบครองทรัพยxxxตามความเปนจริง ในขณะเกิดความเสียหายนั้นดวย ไมใชมีเพียงxxxxxxxxxxxxxxxน เจาของรถยนตซึ่ง ใหเชา ใหยืม
ไป หรือถูกคนรายลักขโมยไปยอมไมใชผูครอบครองตามมาตรานี้ หากทรัพยนั้นไปกอใหเกิดความ เสียหายเจาของไมตองรับผิด หรือเจาของเมาสุรานอนหลับxxxในรถยนต มีเพื่อนมาขับรถไปธุระ แลวชนผูอื่นโดยละเมิด เจาของไมใชผูครอบครองตามมาตรา 437 (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2522) สวน “ผ้ควบคุมดูแล” หมายรวมถึง ผูขับxxxพาหนะ ควบคุมดูแลใหเคลื่อนที่ไป เชน คนขับรถยนต นายทายเรือยนต กัปตันเรือเดินทะเล นักบิน พนักงานนํารองเดินสมุทร (คําพิพากษา ศาลฎีกาที่ 3088/2524) ในกรณีที่ในเวลาที่ทรัพยไดกอใหเกิดความเสียหายนั้นมีทั้งผูครอบครองและ ผูควบคุมดูแลทรัพยxxxดวยกัน บุคคลดังกลาวก็ตองรับผิดxxxxxx เชน เจาของรถยนตใหคนที่มาสมัคร งานในตําแหนงพนักงานขับรถทดลองขับรถยนตกอนรับเขาทํางาน โดยเจาของนั่งไปดวย คนขับ ประมาทเลินเลอทําใหบุคคลอื่นไดรับความเสียหาย เจาของฐานะผูครอบครองและคนขับฐานะผู ควบคุมxxxพาหนะตองรวมกันรับผิด (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300-1315/2499 คําพิพากษาศาลฎีกา ที่ 912/2477 และคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2523 )
2) ทรัพย์ ที' ก่ อความเสี ยหายต้ องเ ป็ นxxxพาหนะที' เ ดิ นด้ วย
เครื'องจกรกล หรือ เป็ นทรัพย์อนตราย xxxพาหนะที'เดินด้วยเครื'องจกรกล หมายถึง xxxพาหนะ
ที่เคลื่อนไปดวยกําลังจากxxxxxxxxxxxกล เชน รถยนต รถไฟ เรือยนต เครื่องบิน รถสามลอเครื่อง จักรยานยนต ไมใชอาศัยกําลังคน กําลังสัตว เชน เกวียน รถสามลอถีบ เรือแจว รถลาก รถจักรยาน รถมา และในขณะที่กอความเสียหายxxxพาหนะนั้นตองกําลังเดินดวยกําลังครื่องxxxxxxxxใชxxx กับที่ หรือเคลื่อนไหวไปเพราะคนเข็น สัตวลากจูง หรือจอดแลวไหลไปเอง7 สวนทรัพยอันตรายมี 3 ประเภท ไดแก ทรัพยอันตรายโดยสภาพของทรัพย หมายถึงความเปนอันตรายตอรางxxxและ ทรัพยxxxxxxเกิดจากสภาพของตัวทรัพยxxxxxxx xxน น้ํากรด แกสพิษ กระแสไฟฟา เหล็กมีรังสีโค xxxทอาบxxx วัตถุไวไฟ สารเคมี วัตถุระเบิด ทรัพยอันตรายโดยความมุงหมายที่จะใช หมายถึง โดย สภาพแลวทรัพยนั้นไมมีอันตรายแตมีการกระทําของคนทําใหเปนอันตราย เชน xxxxxปน วัตถุ ระเบิด ยาพิษ และทรัพยอันตรายโดยอาการกลไก เชน กับxxxสัตว บันไดเลื่อน ลิฟท ปนจั่น xxxxxxxxxxx เครื่องยนต
3) ความxxxxxxxxxxเกิดขึ้นตองเกิดขึ้นตองเปนผลโดยตรงจากxxxพาหนะ ที่เดินดวยxxxxxxxxxxxกลและตองเกิดขึ้นในขณะxxxxxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกลนั้นกําลังเดิน ดวยxxxxxxxxxxxกลxxx (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2490 และคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2520) นอกจากนี้xxxพาหนะอื่นxxxxxรับความเสียหายตองมิไดเดินดวยกําลังxxxxxx ถาxxxพาหนะอันเดิน ดวยกําลังxxxxxxxxxxxกลดวยกันไมxxxในความหมายของมาตรานี้ (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2490 คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2491และคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2523)
7 xxxxxxx xxxxxxxxxxx ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ลักษณะการจัดการงานนอกสั่ง ละเมิด และสาภมิควร ได กรุงเทพฯ : xxxxxxxxxการพิมพ, 2535 หนา 180
4) รับผิดแมไมจงใจหรือประมาทเลินเลอ ผูครอบครองหรือผู ควบคุมดูแลxxxพาหนะที่เดินดวยกําลังxxxxxxxxxxxหรือทรัพยอันตรายจะตองรับผิดในความxxxxxxx xxxเกิดจากxxxพาหนะหรือทรัพยอันตรายนั้น แมมิไดจงใจหรือประมาทเลินเลอตามหลักทั่วไปใน มาตรา 420 (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1467/2537) เวนแตพิสูจนไดวาความเสียหายนั้นเกิดแตเหตุ xxxxxxxxหรือเกิดเพราะความผิดของผูเสียหายเอง ผูทําละเมิดตามมาตรานี้จึงมีความรับผิดโดย เครงครัด เมื่อมีความเสียหายขึ้นอันเปนผลจากxxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกลหรือทรัพย อันตราย กฎหมายสันนิษฐานไวกอนวาผูครอบครอบหรือควบคุมxxxพาหนะอันเดินดวย xxxxxxxxxxxกลหรือผูครอบครองทรัพยอันตรายทําละเมิดโดยผูเสียหายไมตองพิสูจนวามีการกระทํา โดยจงใจหรือประมาทเลินเลอ มาตรา 437 จึงเปนxxxxxxxxxxxxกําหนดความรับผิดโดยมาตรฐานที่ สูงกวาเกณฑการกระทําละเมิดธรรมดาตามมาตรา 420 ที่อาศัยเกณฑความจงใจหรือประมาท เลินเลอตามxxxxทั่วไป
5) เหตุยกเวนความรับผิด การที่กฎหมายสันนิษฐานวาผูครอบครองหรือ ผูควบคุมทรัพยอันตรายประมาทเลินเลอไวกอนแลว โจทกจึงมีภาระการพิสูจนเพียงแควา xxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกลหรือทรัพยอันตรายกอใหเกิดความเสียหายขณะที่xxxในความ ครอบครองของจําเลย สวนผูครอบครองxxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกลหรือทรัพยอันตรายที่ ถูกฟองมีหนาที่จะตองพิสูจนใหศาลเห็นวาความเสียหายนั้นเกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือเกิดเพราะ ความผิดของผูเสียหายเอง เพื่อใหตนไมตองรับผิด
อยางไรก็ตาม ผูที่ตองรับผิดตามมาตรา 437 คือ ผูควบคุมหรือครอบครอง xxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกล หรือผูที่ครอบครองทรัพยอันตรายตามมาตรา 437 แตสวน ใหญ xxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกล หรือ ทรัพยอันตรายที่จะกอใหเกิดความเสียหายแกผูอื่น หรือทรัพยสินของผูอื่นนั้นxxxxxไดxxxในครอบครองของผูประกอบการแลว ผูที่ตองรับผิดตาม มาตรานี้จึงเปนผูบริโภคหรือผูใชสินคาที่เปนทรัพยอันตราย เชน ผูขับขี่xxxพาหนะ เพราะเปนผู ครอบครองxxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกล หรือ ทรัพยอันตราย
2.ı.3 ค่าเสียหายตามหลกละเมดิ
เมื่อความเสียหายเปนผลโดยตรงจากการทําละเมิดผูทําละเมิดตองรับผิด คือตอง ชดใชคาสินไหมทดแทนแกผูเสียหายตามมาตรา 438 ผลโดยตรงนี้ไมจํากัดวาตองเปนผลตามxxxx หรือที่คาดหมายไดดังเชนในกรณีผิดสัญญาหรือไมชําระหนี้และเปนคาxxxxxxxxxxแนนอนซึ่งเรียกได ทั้งคาxxxxxxxxxxเกิดขึ้นจริงและคาเสียหายในxxxxx8
มาตรา 438 “ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดนั น ให้ ศาลxxxxxxxx xxxxxxแก่พฤติการณ์ และความร้ ายแรงแห่งละเมิด
8 xxxxx ติงศภัทิย มูลแหงหนี้ มลแห่งหนี กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร 2526 หนา 112
อนึ'ง ค่าสินไหมทดแทนนั น ได้แก่การคืนทรัพย์สินอันผู้เสียหายต้องเสียไปเพราะ ละเมิด หรือใช้ราคาทรัพย์สินนั น รวมทั งค่าเสียหายอันจะพึงบังคับให้ใช้เพื'อความเสียหายอย่าง ใดๆ อันได้ก่อขึนนั นด้วย”
คาสินไหมทดแทนตามาตรา 438 ไดแก การคืนทรัพยหรือใชราคา หรือใช คาเสียหาย การชดใชคาสินไหมทดแทนนี้มีวัตถุประสงคเพื่อใหผูเสียหายกลับคืนสูฐานะเดิมเหมือน เมื่อยังไมมีการทํา คาสินไหมทดแทนที่เรียกได แบงเปนคาxxxxxxxxxxคิดเปนเงินได เชน ในกรณีxxx xxxxxxxตอชีวิตไดแก คาปลงศพและคาใชจายอันจําเปนอยางอื่นตามมาตรา 443 วรรค 1 เชนคา เดินทางเพื่อจัดการศพ และคาขาดไรอุปการะ กรณีไมไดตายทันที ไดแกคารักษาพยาบาล คาขาด ประโยชนทํามาหาไดเพราะไมไดประกอบการงาน คาขาดกําไร ขาดรายได ตามมาตรา 443 วรรค 2 และ 3 กรณีความเสียหายแกรางxxx อนามัย ผูเสียหายชอบที่จะไดชดใชคาใชจายอันตนตองเสียไป และคาเสียหายเพื่อการที่เสียความxxxxxxในการประกอบการโดยสิ้นเชิงหรือบางสวน 444 และ
คาเสียหายxxxxxใชเปนตัวเงินตามมาตรา 446 และมาตรา 447 ซึ่งไดแก กรณีความเสียหายตอ เสรีภาพ หรือ กรณีทุกพพลภาพ เสียโฉม เสียชื่อเสียง สวนความรูสึกเสียใจ โศกเศรา ผิดหวังเรียก ไมได (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 477/2514 และคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2518 ) โดยตองเปน คาxxxxxxxxxxแนนอนซึ่งเรียกไดทั้งคาxxxxxxxxxxเกิดขึ้นแลวและคาเสียหายในxxxxx xxนคา รักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจริงและคายาที่จะตองซื้อใชตอไปในxxxxxดวย (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1921/2520)
สวนคาเสียหายจะเรียกไดเพียงใดนั้น ศาลมีดุลยพินิจในการกําหนดคาสินไหม xxxxx ในกรณีความเสียหายคิดเปนเงินไดศาลจะกําหนดคาเสียหายตามจริง สวนความเสียหายxxx xxอาจคํานวณเปนเงินไดนั้นศาลจะพิจารณากําหนดคาเสียหายตามพฤติการณและความรายแรง แหงละเมิด (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617-1618/2500) นอกจากนี้ศาลอาจกําหนดคาเสียหายนอยกวา ความจริงเพราะผูเสียหายมีสวนผิด คือมีสวนกอใหเกิดความเสียหาย หรือ ผูเสียหายไมxxxxxxความ เสียหาย
2.1.4 ข้อดีและข้อจากดในการฟ้ องให้รับผดตามหลกกฎหมายละเมดิ
2.1.4.1 ข้อดีในการฟ้ องให้รับผดตามหลกกฎหมายละเมดิ
(1) ผูที่ตองรับผิดไมจํากัดวาตองเปนคูสัญญากับผูเสียหายเทานั้น ดังนั้น ผูเสียหายอาจฟองใหผูผลิต หรือเจาของทรัพยใหรับผิดได
(2) ผูทําละเมิดตองรับผิดในความxxxxxxxxxxเปนผลโดยตรงจากการ กระทําละเมิดโดยไมตองเปนผลตามxxxxหรือาจคาดหมายไดดังเชนความรับผิดในกรณีผิดสัญญา หรือไมชําระหนี้
(3) มีขอสันนิษฐานคุณแกผูเสียหายในกรณีที่ความเสียหายเกิดจากการฝา ฝนxxxxxxxxxxxxมีวัตถุประสงคเพื่อปกปองบุคคลอื่นตามมาตรา 422
(4) การฟองใหรับผิดตามมาตรา 437 กรณีความเสียหายอันเกิดจาก xxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกลหรือทรัพยอันตรายนั้นผูเสียหายไดประโยชนจากขอ สันนิษฐานของกฎหมาย ผูxxxxxxxxxxไมตองพิสูจนวาจําเลยจงใจหรือประมาทเลินเลอ สวนภาระ การพิสูจนตกxxxกับจําเลยซึ่งตองพิสูจนใหเห็นวาความเสียหายนั้นเปนเพราะความผิดของผูเสียหาย เองหรือเปนเหตุสุดวิสัย มิฉะนั้นจําเลยตองรับผิด
2.1.4.2 ข้อจากดั
(1) ในการฟองรองใหรับผิดตามมูลละเมิดทั่วไปตามมาตรา 420 นั้น ผูเสียหายจากสินคาหรือโจทกมีหนาที่ตัองพิสูจนจนสิ้นสงสัยวา จําเลย (ผูผลิต หรือผูขาย)ไดกระทํา โดยจงใจหรือประมาทเลินเลอ สําหรับสินคาที่มีกรรมวิธีการผลิตที่ซับซอนหรือใชเทคโนโลยี่ ระดับสูง การนําxxxxxxแทบไมมีความเปนไปไดสําหรับคนทั่วไป เพราะขอเท็จจริงในกระบวนการ ผลิต กรรมวิธี ตลอดจนขั้นตอนในการผลิตที่มีความสลับซับซอนนั้นxxxในความรูเห็นของผูผลิตแต เพียงฝายเดียว ไมใชขอเท็จจริงที่ประชาชนทั่วไปจะเขาถึงและรูได และตองสืบใหเห็นถึงวาความ เสียหายนั้นเปนผลจากการกระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเลอของจําเลยดวย การนําสืบเชนนี้จึง ยากมากและตองใชผูxxxxxxxxx และมีคาใชจายสูง
(2) การฟองใหผูผลิตรับผิดในมูลละเมิดตามมาตรา 420 ถาหากผูผลิต พิสูจนไดวาไมไดบกพรองหรือประมาทเลินเลอแลวก็ไมตองรับผิดแมสินคาจะมีความชํารุด บกพรองก็ตาม ผูเสียหายก็ตองรับภาระนั้นเอง
(3) กรณีความเสียหายเกิดจากทรัพยตามมาตรา 437 ผูที่กฎหมาย กําหนดใหรับผิดคือผูครอบครองหรือผูควบคุมดูแลทรัพยที่ทําใหเกิดความเสียหายนั้นเทานั้น แตใน ความxxxxxxxxxxเกิดจากการใชหรือบริโภคทรัพยนั้นในความเปนจริงผูผลิตยอมไมใชผูครอบครอง ทรัพยนั้น เพราะสินคานั้นxxxในความครอบครองของผูบริโภคหรือผูซื้อนั่นเอง ผูที่รับผิดก็คือ ผูบริโภคหรือผูซื้อ เวนแตจะพิสูจนไดวาความเสียหายนั้นเกิดแตเหตุสุดวิสัยหรือเปนเพราะความผิด ของผูตองเสียหายนั้นเอง สวนผูขายหรือผูผลิตไมตองรับผิดเพราะไมใชผูครอบครองหรือผูควบคุม ทรัพยตามมาตรานี้
(4) เมื่อพิจารณาถึงกรณีที่ผูซื้อมิไดรูถึงความชํารุดบกพรองนั้นมากอน เพราะไมเห็นxxxxxxxและเปนสินคาที่มีความสลับซับซอน การจะใหผูซื้อหรือผูบริโภคตองรับผิด จากความxxxxxxxxxxเกิดขึ้นจากความชํารุดบกพรองแตเพียงผูเดียวนั้นนาจะไมเปนธรรม เชน หาก ผูใชรถเพิ่งซื้อรถยนตคันใหมซึ่งเปนรถรุนใหมที่บริษัทเพิ่งผลิตออกจําหนายรุนแรก ปรากฏวา เพราะความบกพรองในการออกแบบทําใหเบรกไมมีประสิทธิภาพ เปนเหตุใหเกิดอุบัติเหตุชนรถ คันอื่นเสียหาย ผูโดยสารในรถทั้งสองคันไดรับบาดเจ็บ ซึ่งเปนเรื่องที่ผูใชรถไมอาจปองกันได แต ผูใชรถจะอางเหตุสุดวิสัยเพื่อไมตองรับผิดไมได เพราะตามแนวคําพิพากษาที่วินิจฉัยไวนั้นผู ควบคุมxxxพาหนะมีหนาที่ตองระมัดระวังคือตรวจตราความเรียบรอยของxxxพาหนะใหxxxใน สภาพดีxxxเสมอกอนใชงาน ความxxxxxxxxxxเกิดขึ้นจากความชํารุดบกพรองจะอางวาเปนเหตุสุดวิสัย
ไมได เชน รถชนเพราะหามลอชํารุดหรือเพราะยางระเบิด(คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2501 และคํา พิพากษาศาลฎีกาที่ 2331/2520) อยางไรก็ดีกรณีของรถใหมโดยทั่วไปแลวผูซื้อยอมไมมีโอกาส ตรวจตราดูแลกอนใช และยิ่งไปกวานั้นแมตรวจดูแลวก็อาจไมพบความชํารุดบกพรองก็ได ทั้งยอม ไมคาดเห็นไดวาจะมีความชํารุดบกพรองเชนนั้น
(5) เมื่อผูครอบครองหรือผูควบคุมทรัพยที่กอใหเกิดความเสียหายนั้นเมื่อ ไดชดใชคาสินไหมทดแทนใหแกผูเสียหายไปแลว จะไลเบี้ยเอาจากผูผลิตหรือผูขายไมไดเพราะ ไมใชผูครอบครองหรือผูควบคุมxxxพาหนะตามมาตรา 437 ตองไปฟองตามความรับผิดทาง ละเมิดกรณีทั่วไปตามมาตรา 420 ซึ่งจะตองมีภาระการพิสูจนวาผูผลิตหรือผูขายมีการกระทําxxxxxxx หรือประมาทเลินเลอใหเกิดความเสียหายหรือไม ซึ่งภาระการพิสูจนนี้เปนเรื่องยากตามxxxxxกลาว มาแลว
(6) ผูครอบครองหรือผูควบคุมxxxพาหนะหรือผูครอบครองทรัพย อันตรายตามมาตรา 437 นั้นเมื่อถูกฟxxxxxxxxxxในฐานะที่จะชดใชและเยียวยาความเสียหายได อยางเต็มที่ อาจเนื่องมาจากตนเองก็ไดรับความเสียหายดวย หรืออาจxxxxxxทางการเงินxxxxxดีพอ มี ความเปนไปไดที่ผูเสียหายอาจจะไมไดรับการเยียวยาอยางเพียงพอ
(7) ศาลไทยจะกําหนดคาสินไหมทดแทนตามความเปนจริงเทานั้นไมมี คาเสียหายในเชิงลงโทษ ดังนั้นผูเสียหายตองพิสูจนใหศาลเห็นวาเกิดความเสียหายขึ้นจริง สําหรับ คาxxxxxxxxxxคํานวณเปนตัวเงินไดเชน คาเสื่อมราคา การชดใชราคาทรัพยนั้นการนําสืบอาจไม ยุงยาก แตสําหรับคาเสียหายxxxxxอาจคํานวณเปนตัวเงินไดเชน คาเสียโฉม คาเศราโศกเสียใจการ พิสูจนถึงคาเสียหายใหปรากฏตอศาลทําไดยาก คาเสียหายในxxxxxxxน คาเสื่อมความxxxxxxใน การทํางาน คาขาดไรอุปการะก็เชนเดียวกัน หากพิสูจนไมไดศาลก็จะไมกําหนดคาสินไหมทดแทน ใหและผูเสียหายก็จะไมไดรับการเยียวยาอยางแทจริง
(8) แมการฟxxxxxตามมาตรา 437 นั้นผูเสียหายไมตองนําสืบวาผูควบคุม
xxxพาหนะอันเดินดวยxxxxxxxxxxxกลหรือผูครอบครองวัตถุอันตรายมีการกระทําโดยจงใจหรือ ประมาทเลินเลอก็ตามเพราะความรับผิดตามมาตรานี้เปนความรับผิดโดยเครงครัด แตความรับผิด ตามมาตรา 437 นั้นจํากัดไวเฉพาะความเสียหายจากxxxพาหนะที่เดินดวยxxxxxxxxxxxกลและทรัพย อันตรายเทานั้น แตสินคาสวนใหญเปนสินคาสําหรับการบริโภคxxxxxใชทรัพยอันตราย
(9) ความเสียหายของสินคาในบางกรณี เชน ความเสียหายจากสารเคมี หรือยา ใชเวลานานกวาจะแสดงผล หรืออาการปรากฏทีละนxxxxxxxxxxxxxนานหลายป แตอายุความ ของละเมิดนั้น 1 ป นับแตรูเหตุแหงการละเมิดและรูตัวผูตองชดใชคาสินไหมทดแทนตามมาตรา 448
(10) ในกรณีที่สินคาใหมที่มีความบกพรองในการผลิตหรือออกแบบ เชน รถบางรุนใชยางที่มีสวนผสมไมทนความรอน เมื่อวิ่งแลวยางระเบิด ผูใชรถไมรูและไมอาจคาดเห็น
ไดไดถึงความบกพรองเชนนี้แมจะไดxxxxxxxxxเพียงใดก็ตาม แตเมื่อมีความเสียหายขึ้นผูใชรถตอง รับผิดตามมาตรา 437 แมวาจะพิสูจนไดวาการที่ยางระเบิดนั้นมีสาเหตุมาจากการบกพรองในการ ออกแบบ เพราะศาลอาจเห็นวาไมใชเหตุสุดวิสัย เนื่องจากผูใชรถตองมีความระมัดระวังและตรวจ ตรารถใหxxxในสภาพดี (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 2331/2530)
2.2 การคุ้มครองโดยกฎหมายพเศษ
2.2.1 ความรับผดตามกฎหมายพเศษ
กฎหมายที่xxxxxxxคุมครองxxxxxของผูบริโภคเปนการทั่วไปไดแกพระราชบัญญัติ คุมครองผูบริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งเปนกฎหมายที่รัฐใชเปนมาตรการควบคุมและกํากับเพื่อปองกัน ความxxxxxxxxxxจะเกิดขึ้นแกผูบริโภคในการใชสินคา กฎหมายฉบับนี้ไดxxxxxxxถึงxxxxxของ ผูบริโภคในดานตางๆไว9 เชน ในดานสลาก ในดานการโฆษณา กําหนดหลักเกณฑในการใชถอยคํา หรือขอความในการปดสลากหรือโฆษณา ประเภทของสินคาที่ตองถูกควบคุมสลากและโฆษณา กําหนดโทษทางอาญาแกผูที่ฝาฝนและใหอํานาจแกคณะกรรมการผูบริโภคที่จะมีอํานาจหนาที่ใน การดําเนินการใหเปนไปตามกฎหมาย เชนสั่งใหผูประกอบการดําเนินการทดสอบ หรือพิสูจน สินคา ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยวาสินคาใดเปนอันตรายแกผูบริโภค ถาผูประกอบการไม ดําเนินการทดสอบหรือพิสูจน หรือดําเนินการลาชาโดยไมมีเหตุอันxxxxxคณะกรรมการจะจัดให มีการพิสูจนโดยผูประกอบการเปนผูเสียคาใชจายก็ได10 หากผลการทดสอบหรือพิสูจนxxxxxวา สินคานั้นอาจเปนอันตรายตอผูบริโภคและเปนกรณีxxxxxอาจปองกันอันตรายที่จะเกิดจากสินคานั้น ไดโดยการกําหนดxxxx คณะกรรมการมีอํานาจที่จะสั่งหามขายสินตานั้น ในกรณีจําเปนและ เรงดวนถาคณะกรรมการมีเหตุที่นาเชื่อวาสินคาใดอาจเปนอันตรายตอผูบริโภค คณะกรรมการมี อํานาจสั่งหามขายสินคานั้นเปนการชั่วคราวจนกวาจะไดมีการพิสูจนหรือทดสอบสินคานั้นแลว ถา คณะกรรมการเห็นxxxxxจะสั่งใหผูประกอบธุรกิจเปลี่ยนแปลงสินคานั้นภายใตเงื่อนไขที่ คณะกรรมการกําหนดก็ได แตถาสินคานั้นไมxxxxxxเปลี่ยนแปลงไดหรือเปxxxxสงสัยวาผูประกอบ ธุรกิจจะเก็บสินคานั้นไวเพื่อขายตอไป คณะกรรมการมีอํานาจสั่งใหผูประกอบธุรกิจทําลายหรือจะ จัดใหมีการทําลายโดยใหผูประกอบธุรกิจเปนผูเสียคาใชจายก็ได
นอกจากกฎหมายคุมครองผูบริโภคแลว ยังมีกฎหมายพิเศษที่ควบคุมสินคาบาง ประเภทซึ่งเปนการใชอํานาจxxxxxxของรัฐในเชิงปองกันไมใหความเสียหายเกิดขึ้น เชน พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 พระราชบัญญัติเครื่องสําอาง พ.ศ.
9 มาตรา 4 พระราชบัญญัติคุมครองผูบริโภค พ.ศ. 2522 (แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุมครองผูบริโภค (ฉบัย
ที่ 2 พ.ศ. 2441)
10 มาตรา 38 พระราชบัญญัติคุมครองผูบริโภค พ.ศ. 2522
2535 พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ 2535 กฎหมายกําหนดหนาที่ของผูผลิต ผูนําเขา ผูขายและ ใหอํานาจเจาหนาที่ของรัฐที่จะออกคําสั่งทางxxxxxxxxนใหใบอนุญาต เพิกถอนทะเบียน หรือใช อํานาจทางxxxxxxxxนยึด อายัด ทําลาย เมื่อมีการฝาฝนหนาที่ตองรับโทษตามที่กฎหมายxxxxxxx กฎหมายเหลานี้เปนมาตรการของรัฐในการกํากับดูแลจึงเปนการคุมครองในเชิงปองกันและไมใดมี มาตรการเยียวยาผูเสียหายโดยตรงหากสินคาเหลานี้กอใหเกิดความเสียหายขึ้น กฎหมายแตละฉบับ มีวัตถุประสงคเพื่อควบคุมสินคาบางประเภทเปนการเฉพาะเจาะจง เชน พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 หามผลิต ขาย หรือนําเขาหรือสั่งเขามาในราชอาณาจักรซึ่งยาปลอม ผูผลิตยาปลอมจะตองรับ โทษตามที่กฎหมายxxxxxxxคือจําxxxตั้งแตสามปถึงตลอดชีวิตและปรับตั้งแตหนึ่งหมื่นบาทถึงหา หมื่นบาทตามมาตรา 119 วรรคหนึ่ง หรือพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 หามจําหนายอาหาร ปลอม การจําหนายอาหารปลอมใหแกผูบริโภคมีโทษปรับหรือจําxxxตามที่กฎหมายกําหนดไวใน มาตรา 58, 59, 60, 61 แลวแตกรณี สําหรับพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มีวัตถุประสงค เพื่อปองกันและระงับอันตรายxxxxxxมีแกบุคคล สัตว พืช ทรัพย หรือสิ่งแวดลอมจากวัตถุอันตราย โดยกําหนดหนาที่ของผูขาย ผูผลิต ผูนําเขา ผูขนสง ผูครอบครองวัตถุอันตราย ผูใดฝาฝนตองรับ โทษทางอาญาตามที่xxxxxxxไว และมีบทบัญญัติซึ่งกําหนดความรับผิดในทางแพงซึ่งเปนความรับ ผิดโดยเครงครัดเชนเดียวกับหลักความรับผิดในมาตรา 437 และวัตถุอันตรายตามความใน
พระราชบัญญัติฉบับนี้เปนทรัพยอันตรายตามมาตรา 437 ดังจะไดวิเคราะหสาระสําคัญของ พระราชบัญญัตินี้ตอไปนี้
2.2.1.1 พระราชบัญญัตวตถุอนตราย พ.ศ. 2535
วัตถุอันตรายบางชนิดอาจกอใหเกิดอันตรายอยางรายแรงแกบุคคล สัตว พืช ทรัพย และสิ่งแวดลอมได พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มีวัตถุประสงคเพื่อกําหนด หลักเกณฑควบคุมวัตถุอันตราย โดยการนําเขา ผลิต ขนสง ใชxxx xxxกําจัดและสงออก ไมใหมี ผลกระทบและเปนอันตรายตอมนุษย สัตว พืช xxxxxxหรือสิ่งแวดลอม ตามมาตรา 4 ของ พระราชบัญญัตินี้วัตถุอันตราย หมายถึง วัตถุระเบิดได วัตถุไวไฟ วัตถุออกซิไดซและวัตถุเปอร ออกไซด วัตถุมีพิษ วัตถุที่ทําใหเกิดโรค วัตถุกัมมันตรังสี วัตถุที่กอใหxxxxxxxเปลี่ยนแปลงทาง พันธุกรรม วัตถุกัดกรอน วัตถุที่กอใหxxxxxxxระคายเคือง วัตถุอยางอื่น ไมวาจะเปนเคมีภัณฑหรือ สิ่งอื่นใด xxxxxxทําใหเกิดอันตรายแกบุคคล สัตว พืช ทรัพย หรือสิ่งแวดลอม
มาตรา 18 ไดแบงประเภทของวัตถุอันตรายออกเปน 4 ชนิดตามความ จําเปนแกการควบคุม ดังนี้
(1) วัตถุอันตรายที่การผลิต การนําเขา การสงออก หรือการมีไวใน ครอบครองตองปฏิบัติตามหลักเกณฑและวิธีการที่กําหนด
(2) วัตถุอันตรายที่การผลิต การนําเขา การสงออก หรือการมีไวใน ครอบครองตองแจงใหพนักงานเจาหนาที่ทราบกอนและตองปฏิบัติตามหลักเกณฑและวิธีการที่ กําหนดดวย
(3) วัตถุอันตรายที่การผลิต การนําเขา การสงออก หรือการมีไวใน ครอบครองตองไดรับใบอนุญาต
(4) วัตถุอันตรายที่หามมิใหมีการผลิต การนําเขา การสงออก หรือการมี
ไวในครอบครอง ดังนี้
หนาที่ของบุคคลตามที่พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535กําหนดมี ผูผลิตตองระมัดระวังในการจัดหาวัตถุที่ใชในการผลิตการกําหนดวิธีการ
และขั้นตอนของการผลิต การจัดใหมีภาชนะบรรจุxxxxxxxxxแข็งแรงและปลอดภัยตอการใช การ เคลื่อนยาย การขนสง การติดxxxx ความเหมาะสมของการเก็บxxxxx xxxตรวจสอบความเหมาะสม ของผูที่รับมอบวัตถุอันตราย และตองรับผิดชอบเพื่อความเสียหายอันเกิดจากวัตถุอันตรายที่xxxใน ครอบครอง (มาตรา 59, 63)
ผูนําเขาตองระมัดระวังในการเลือกผูผลิตการตรวจสอบคุณภาพของ วัตถุอันตราย การตรวจสอบความถูกตองของภาชนะบรรจุและxxxx การเลือกวิธีการขนสงและ ผูขนสง ความเหมาะสมของการเก็บรักษา รวมxxxxxxตรวจสอบความเหมาะสมของผูที่รับมอบวัตถุ อันตราย และตองรับผิดชอบเพื่อความเสียหายอันเกิดจากวัตถุอันตรายที่xxxในครอบครอง (มาตรา 60, 63)
ผูขนสงตองระมัดระวังในการตรวจสอบความถูกตองของสิ่งที่ในการ ขนสงหรือxxxพาหนะและอุปกรณขนสงหรือxxxพาหนะและอุปกรณ ความถูกตองของภาชนะ บรรจุและxxxx ความเหมาะสมของวิธีการขนสง ความถูกตองของการจัดวางบนxxxพาหนะ รวมถึงความไววางใจไดของลูกจางหรือผูจัดทําการงานใหแกผูขนสงหรือรวมกับผูขนสง และตอง รับผิดชอบเพื่อความเสียหายอันเกิดจากวัตถุอันตรายที่xxxในครอบครอง (มาตรา 61, 63)
ผูมีไวครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายตองระมัดระวังในการตรวจสอบความ เชื่อถือไดของผูผลิตผูนําเขา หรือผูที่จัดหาวัสดุอันตรายนั้นใหแกตน ความถูกตองของภาชนะบรรจุ และxxxx ความเหมาะสมของการเก็บรักษา และความไววางใจของผูรับมอบวัตถุอันตรายไปจากผู มีไวครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย และตองรับผิดชอบเพื่อความเสียหายอันเกิดจากวัตถุอันตรายที่xxx ในครอบครอง (มาตรา 62, 63)
ผูขาย หรือผูสงมอบวัตถุอันตรายใหแกบุคคลใดตองรับผิดชอบเพื่อความ สียหายของบุคคลดังกลาวอันเกิดจากวัตถุอันตรายนั้น (มาตรา 64) เมื่อมีการฝาฝนหนาที่ตามที่ กฎหมายกําหนดดังกลาวและเกิดความเสียหายขึ้นบุคคลที่มีหนาที่ตามกฎหมายxxxxxxxจะตองรับผิด
เวนแตจะพิสูจนไดวาความเสียหายนั้นเกิดแตเหตุสุดวิสัยหรือเกิดเพราะความผิดของผูตองเสียหาย นั้นเอง ความรับผิดตอผูxxxxxxxxxxเปนความรับผิดโดยเครงครัดซึ่งทําใหผูที่ครอบครองวัตถุ อันตรายหรือผูสงมอบวัตถุอันตรายตองรับผิดแมไมไดจงใจหรือประมาทเลินเลอ
ในเรื่องความรับผิดตอผูเสียหายนั้นพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ไดนําความรับผิดในการกระทําของบุคคลอื่นและเปนความรับผิดอยางลูกหนี้รวมมาใชโดย xxxxxxxไวในมาตรา 65 ซึ่งกําหนดใหนายจาง ตัวการ ผูวาจาง หรือเจาของกิจการตองรวมรับผิดใน ผลแหงละเมิดที่บุคคลตามมาตรา 63 หรือมาตรา 64 ไดกระทําไปในการทํางานใหแกตน แตชอบที่ จะไดชดใชจากบุคคลดังกลาว เวนแตตนจะมีสวนผิดในการสั่งใหทํา การเลือกหาตัวบุคคล การ ควบคุม หรือการอื่นxxxxxผลโดยตรงใหxxxxxxxละเมิดขึ้นนั้นและมาตรา 66 กําหนดใหผูผลิต ผูนํา เขา ผูขายสง ผูขายปลีก คนกลาง และผูมีสวนในการจําหนายจายแจกทุกชวงตอจากผูผลิตจนถึงผูที่ รับผิดชอบขณะxxxxxxxละเมิดตามมาตรา 63 หรือมาตรา 64 ตองรวมรับผิดในผลแหงการละเมิด
ดวย และเมื่อผูที่ตองรับผิดตามมาตรา 63 มาตรา 64 มาตรา 65 หรือมาตรา 66 xxxxxชําระคาสินไหม xxxxxใหแกผูเสียหายแลว ยอมมีxxxxxxxเบี้ยเอากับผูที่สงมอบวัตถุอันตรายใหแกตนหรือแกผูซึ่ง ทํางานใหแกตน และบรรดาผูที่มีสวนในการสงมอบวัตถุอันตรายดังกลาวในลําดับตางๆ ถัดขึ้นไป คนหนึ่งคนใดหรือหลายคนก็ไดไปจนถึงผูผลิต โดยตองใชxxxxxxxเบี้ยภายในสามปนับแตxxxxxxตนได ชําระคาสินไหมทดแทน ตามมาตรา 68
สําหรับอายุความในการฟองรxxxxxนั้นมาตรา 67 xxxxxxxใหxxxxxเรียกรอง คาเสียหายอันเกิดแตวัตถุอันตรายตามพระราชบัญญัตินี้เปนอันขาดอายุความเมื่อพนสามปนับแต xxxxxxผูตองเสียหายรูxxxxxxเสียหายความเปนวัตถุอันตรายและผูพึงตองใชคาสินไหมทดแทน และถา มีการเจรจาเกี่ยวกับคาสินไหมทดแทนที่พึงจายระหวางผูที่เขาxxxxxวาตองรับผิดใชคาสินไหม xxxxxและผูมีxxxxxxxคาสินไหมทดแทน ใหอายุความสะดุดหยุดxxxจนกวาจะปรากฏวาการเจรจา นั้นไมอาจตกลงกันได
จะเห็นไดวากฎหมายพิเศษที่ควบคุมสินคาบางประเภทที่กลาวxxxxxxxได มีวัตถุประสงคหลักใหเปนกฎหมายที่เยียวยาความxxxxxxxxxxเกิดจากสินคาxxxxxปลอดภัย แตก็มี xxxxxxxxxxxxเกี่ยวของหรืออาจนํามาใชในการฟองรองคxxxxxเกี่ยวกับความxxxxxxxxxxเกิดจากสินคาได
2.2.2 ข้อดีและข้อจากดในการฟ้ xxxxxตามกฎหมายพเศษ
2.2.2.1 ข้อดีในการฟ้ xxxxxตามกฎหมายพเศษ
(1) พระราชบัญญัติคุมครองผูบริโภค พ.ศ. 2522 ใหคณะกรรมการ คุมครองผูบริโภคและสมาคมที่มีวัตถุประสงคในการคุมครองผูบริโภคมีอํานาจดําเนินคดีแทน
ผูบริโภคได ซึ่งเปนการชวยเหลือผูบริโภคแตละรายที่มูลคาความเสียหายมีจํานวนนอยไมคุมคากับ เวลาและคาใชจายที่จะฟxxxxx11ใหไดรับการเยียวยาความเสียหาย
(2) ผูบริโภคที่ตองการพิสูจนหรือทดสอบวาสินคาที่ผลิตหรือจําหนาย นั้นเปนอันตรายตอผูบริโภคหรือไม แตไมตxxxxxเสียคาใชจายเองอาจใชมาตรา 4 ประกอบมาตรา 38 พระราชบัญญัติคุมครองผูบริโภค พ.ศ. 2522 ขอใหคณะกรรมการคุมครองผูบริโภคสั่งใหผู ประกอบธุรกิจดําเนินการทดสอบหรือพิสูจนสินคา ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยวาสินคาใดอาจเปน อันตรายตอผูบริโภค12
(3) พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ใชหลักความรับผิดโดย เครงครัด13 กลาวคือผูผลิตหรือจําหนายวัตถุอันตรายจะตองรับผิดตอความxxxxxxxxxxเกิดขึ้นจากวัตถุ อันตรายไมวาจะเกิดจากความจงใจหรือประมาทเลินเลอก็ตาม ทําใหผูเสียหายไมตองมีภาระการ พิสูจนในสวนนี้การฟxxxxx และมีอายุความในการใชxxxxxเรียกรองสามปนับแตxxxxxxผูตองเสียหายรู xxxxxxเสียหาย ความเปนวัตถุอันตรายและผูพึงตองใชคาสินไหมทดแทนซึ่งยาวกวาอายุความละเมิด ทั่วไป
(4) ในการฟองรองเพื่อเรียกคาเสียหายในกรณี ที่จําเลยฝาฝน พระราชบัญญัติที่มีวัตถุประสงคเพื่อคุมครองผูเสียหาย โจทกซึ่งเปนผูเสียหายไดประโยชนจากขอ สันนิษฐานของกฎหมายตามมาตรา 422 ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ที่xxxxxxxวา “ถ้าความ เสียหายเกิดแต่การฝ่ าฝื นบทบังคับแห่งกฎหมายใดxxxxxที'xxxxxxxเพื'อจะxxxx xxบุคลลอื'นๆ ผู้ใดxxx
การฝ่ าxx xxxxxนั น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผ้นั นเป็ นผ้ผิด” ภาระการพิสูจนจึงตกxxxกับจําเลย
2.2.2.2 ข้อจากดในการฟ้ xxxxxตามกฎหมายพเศษ
(1) กฎหมายพิเศษเปนการที่รัฐใชมาตรการในการกํากับและควบคุมเพื่อ ปองกันแตไมไดคุมครองxxxxxของผูเสียหายเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น เพราะมิไดกําหนดความรับ ผิดในทางแพงของผูผลิตและผูจําหนายไว การเยียวยาความเสียหายแกผูxxxxxxxxxxจึงตองใชหลัก ความรับผิดxxxxxxxxหรือความรับผิดทางละเมิดซึ่งมีขอจํากัดในเรื่องคาxxxxxxxxxxเรียกไดตามxxxxx กลาวแลวขางตน
(2) พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 จํากัดความรับผิดในความ xxxxxxxxxxเกิดจากวัตถุอันตรายบางประเภทตามที่กฎหมายกําหนดเทานั้น ไมครอบคลุมถึงสินคา ทั่วๆไป ความคุมครองผูบริโภคจึงมีขอบเขตจํากัด
11 มาตรา 39 พระราชบัญญัติคุมครองผูบริโภค พ.ศ. 2522
12 อนันต xxxxxxxxxxx กฎหมายวาดวยความรับผิดเพื่อความเสียหายอันเกิดจากสินคาที่ขาดความปลอดภัย หนา
116
13 มาตรา 63 แหงพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
มาตรา 64 แหงพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535