คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง กับ บริษัท ............X............. โดย กรรมการผู้มีอำนาจลงนามและ
สัญญาเลขที่ ..............................
สัญญาเช่าที่ดินเพื่อxxxxxxการจัดหาประโยชน์ “ที่ดินแปลงสถานีใบยาแม่กรณ์ (เดิม)"
ที่ดิน 17 ไร่ 1 งาน 43.8 ตารางวา (เฉพาะที่ดินต้องการจัดหาประโยชน์ประมาณ 14 ไร่) โฉนดเลขที่ 1661 ตำบลxxxxxxx อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
สัญญานี้ ทำขึ้น x xxxยาสูบแห่งประเทศไทย เลขที่ 184 ถนนพระราม 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร เมื่อxxxxxx ..... เดือน .......... พ.ศ. ..... ระหว่าง การยาสูบแห่งประเทศไทย โดย
............................................. ตำแหน่ง ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า” เป็น
คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง กับ บริษัท ............X............. โดย กรรมการผู้xxxxxxxลงนามและ
xxxxxxการผูกพันบริษัทฯ xxxxxตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรมพัฒนา
xxxxxxxxxxxx xxxxxxxxxxxxxx xxx ......... ลงxxxxxx ....... เดือน ......... พ.ศ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่
............................ ถนน …………….........………. แขวง / ตำบล ........................ เขต / อำเภอ ...................
จังหวัด ...................................... ได้มอบอำนาจให้. เป็นผู้ลงนามแทนในสัญญานี้ xxxxxตามหนังสือ
มอบอำนาจ ฉบับลงxxxxxx .... เดือน ......... พ.ศ ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้เช่า” เป็นคู่สัญญาอีกฝาย
หนึ่ง
โดยที่ผู้ให้เช่าเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1661 ตำบลxxxxxxx อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย และผู้เช่ามีความxxxxxxxจะเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อxxxxxxการจัดหาประโยชน์
ทั้งสองฝ่ายตกลงกันทำสัญญาเช่ากัน โดยมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ 1 คำนิยามและการxxxxxx
xxxxสองฝ่ายตกลงให้คำจำกัดความในสัญญาฉบับนี้ ดังนี้
1.1 คำนิยาม
(1) “กฎหมายไทย” หมายถึง xxxxxxxxxxแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติ พระ ราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา กฎ ประกาศ ข้อบัญญัติ ข้อบังคับ xxxxxxx หลักเกณฑ์ และข้อกำหนดxxxxxxมี ประกาศหรือใช้บังคับโดยหน่วยงานของรัฐ
(2) “รัฐบาล” หมายถึง รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย
(3) “โครงการฯ” หมายxxx xxxที่เอกชนxxxxxxโครงการพัฒนาที่ดินxxxxxxxตอบแทน การจัดหาประโยชน์ในที่ดินแปลงสถานีใบยาแม่กรณ์ (เดิม) กับ ยสท. โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ในรูปแบบ การบริหารจัดการ ก่อสร้าง-xxxxxxการ-โอนทรัพย์สินให้กับ ยสท. (BOT: Built-Operate-Transfer) โดยผู้เช่า มีหน้าที่ในการออกแบบรายละเอียด จัดหาแหล่งเงินทุน ก่อสร้าง บริหารจัดการ ซ่อมบำรุง และโอนกรรมสิทธิ์ ในทรัพย์สินของโครงการฯ ให้กับผู้ให้เช่า เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง โดยการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะต้องอยู่ภายใต้ วัตถุประสงค์และขอบเขตโครงการฯ ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 4
(4) “ที่ดิน” หมายถึง ที่ดินบนโฉนดเลขที่ 1661 ตำบลxxxxxxx อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เนื้อที่ 17 ไร่ 1 งาน 43.8 ตารางวา ตามxxxxxxxxในสำเนาโฉนดที่ดินและแผนที่แสดงที่ตั้งและ ขอบเขตการเช่า เอกสารแนบท้าย [….] และให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาxxxxxxx
(5) “พื้นที่โครงการฯ” หมายถึง “แปลงสถานีใบยาแม่กรณ์ (เดิม)” เนื้อที่ดิน 17 ไร่ 1
งาน 43.8 ตารางวา อาคารและสิ่งxxxxxxxxx ต้นไม้ยืนต้น และอื่น ๆ บนที่ดิน ตั้งอยู่ที่ถนนพหลโยธิน ตำบลxxx xxxx อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ปรากฏตามเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าหมายเลข [….] (ข้อกำหนด ของผู้ให้เช่าในการพัฒนาพื้นที่โครงการเชิงพาณิชย์)
(6) “ทรัพย์สินของโครงการฯ” หมายถึง บรรดาอาคารสิ่งxxxxxxxxx บรรดา
อสังหาริมทรัพย์ ส่วนควบ ทรัพย์สินติดตรึงบนที่ดินของโครงการฯ และxxxxxxxxxxxxxxxxxเกี่ยวข้องกับการxxxxxx ธุรกิจและจัดหาประโยชน์ของโครงการฯ
(7) “อาคารและสิ่งxxxxxxxxx” หมายถึง อาคารพร้อมสิ่งxxxxxความสะดวกที่ใช้
ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งก่อสร้างขึ้นบนที่ดินxxxxxxxภายใต้ความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย
(8) “xxxxxxอาคารหรือสิ่งxxxxxxxxx” หมายถึง xxxxxxของอาคารหรือสิ่งxxxxxxxxxภายใน โครงการฯ ตามระบุในรายการคำนวณแบบรายละเอียดก่อสร้างของอาคารหรือสิ่งxxxxxxxxxนั้น
(9) “อาคารxxxxxxxมีอยู่บนที่ดิน” หมายถึง สิ่งxxxxxxxxx จำนวน 9 รายการ ประกอบด้วย
(1) อาคารแถวแบบ ก 6 ครอบครัว (2) อาคารxxxรับรอง (3) หอถังน้ำ (4) บ่อน้ำบาดาล (5) ห้องส้วมคนงาน
(6) โรงดัดอัดใบยาแห้ง (7) โกดังเก็บใบยาแห้ง (8) โรงคัดอัดใบยาแห้ง และ (9) โรงซื้อใบยาแห้ง
(10) “อสังหาริมทรัพย์” หมายถึง อาคารและสิ่งxxxxxxxxx ทรัพย์ที่เคลื่อนที่xxxxxx หรือสิ่ง อื่นใดที่ติดตรึงและเป็นส่วนควบของที่ดินxxxxxxมีการสร้างขึ้นในพื้นที่โครงการฯ
(11) “ส่วนควบของที่ดิน” หมายถึง สิ่งก่อสร้างในรูปแบบหนึ่งรูปแบบใดxxxxxxอาจทำการ
เคลื่อนย้าย หรือแยกออกจากที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่โครงการฯ เว้นแต่จะได้มีการทำลาย ทำให้บุบ สลาย หรือทำให้ทรัพย์นั้นเปลี่ยนxxxxxx หรือเปลี่ยนสภาพของทรัพย์นั้นไป
(12) “อุปกรณ์” หมายถึง xxxxxxxxxxxxxxxxxได้มีการติดตั้งกับทรัพย์ประธานที่เป็น
อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแม้ว่าอุปกรณ์ที่จะเป็นสิ่งเคลื่อนที่ได้หรือแยกออกจากทรัพย์ที่เป็นทรัพย์ประธานได้โดยไม่ ต้องทำลายหรือทำให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างก็ตาม แต่ความมีอยู่ของทรัพย์อุปกรณ์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับ การมีอยู่ของทรัพย์ประธานหรือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการxxxxxxธุรกิจของโครงการฯ xxxx สาธารณูปโภคภายนอก อาคาร ท่อสายไฟ เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งอาคารทั้งภายในและภายนอก เป็นต้น
(13) “แบบแปลนการก่อสร้าง” หมายถึง แบบแปลนอาคารและสิ่งxxxxxxxxxในการก่อสร้าง
และรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง xxxx แบบงานวิศวกรรมโครงสร้าง งานวิศวกรรมโยธา งานวิศวกรรมโครงสร้าง งาน วิศวกรรมระบบต่าง ๆ งานสถาปัตยกรรม งานตกแต่งภายใน งานภูมิสถาปัตยกรรม และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ผู้เช่า ต้องxxxxxxการออกแบบตามรูปแบบโครงการฯ ที่กำหนด และได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่าและได้รับอนุญาต ให้ก่อสร้างจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และต้องตรงกับแบบแปลนการก่อสร้างในการก่อสร้างจริง (As-Built Drawings)
(14) “การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย” หมายxxx xxxออกกฎหมายxxxxxxx การแก้ไข เปลี่ยนแปลงกฎหมายไทย หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล
(15) “การส่งมอบพื้นที่โครงการฯ” หมายxxx xxxที่ผู้ให้เช่าxxxxxxการส่งมอบพื้นที่
โครงการฯ ให้กับผู้เช่าตามสภาพทางกายภาพที่เป็นอยู่ ณ ขณะวันที่ทำการส่งมอบพื้นที่โครงการฯ ตามที่ กำหนดในหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed) ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 9.1
(16) “สัญญาเช่า” หมายถึง สัญญาเช่าที่ดินเพื่อxxxxxxการจัดหาประโยชน์ในที่ดิน
“แปลงสถานีใบยาแม่กรณ์ (เดิม)” เป็นระยะเวลา 30 (สามสิบ) ปี
(17) “ระยะเวลาการก่อสร้าง” หมายถึง ระยะเวลาตามกำหนดในสัญญาเช่าข้อ 3 หรือ ระยะเวลาการก่อสร้างที่ผู้ให้เช่าขยายออกไปเพราะเหตุอันควรตามข้อ 6.5.1 (2)
(18) “ข้อเสนอด้านเทคนิค” หมายถึง ข้อเสนอทางด้านคุณสมบัติ ด้านเทคนิค ด้าน
การเงิน ตลอดจนxxxxxxxxxxซึ่งผู้xxxxxxxทำการเสนอต่อผู้ให้เช่าในขั้นตอนการประมูล
(19) “นิติบุคคลไทย” หมายถึง นิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่ง จดทะเบียนในประเทศไทยโดยมีบุคคลสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลไทยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 51 (ห้าสิบxxxx) ของเงินลงทุนทั้งหมด
(20) “ผู้ให้กู้” (Funders) หมายถึง สถาบันการเงิน ธนาคาร กองทุนรวม ทรัสต์ หรือนิติ
บุคคล (ซึ่งไม่ใช่ผู้ถือหุ้นทั้งทางตรงหรือทางอ้อมของผู้เช่า) ซึ่งได้ให้เงินกู้หรือเงินสนับสนุนทางการเงินสำหรับใช้ ในการxxxxxxโครงการฯ xxxxxxเป็นเจ้าหนี้ของผู้xxxx xxxxผู้ให้กู้ทั้งปัจจุบันและxxxxxxxxครอบคลุมตราสารทาง การเงินในรูปแบบต่าง ๆ
(21) “ภาระผูกพัน” หมายถึง จำนำ จำนอง สิทธิยึดหน่วง การฟ้องร้อง การก่อภาระติด
พัน บุริมสิทธิ การโอนxxxxxและ/หรือหน้าที่ หรือการก่อหลักประกัน การวางหลักทรัพย์เป็นประกัน หรือภาระ ผูกพันใด ๆ ไม่ว่าโดยทางกฎหมายไทย หรือสัญญา หรือการเข้าทำข้อตกลง หรือสัญญาใด ๆ xxxxxxเป็นเหตุให้ ต้องถูกยึดอายัด ลิดรอนสิทธิ์ของเจ้าของทรัพย์นั้นหรืออยู่ในข่ายxxxxxxถูกบังคับให้จำหน่ายจ่ายโอน ซึ่ง ทรัพย์สินไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนให้แก่บุคคลอื่น
(22) “หนังสือแจ้งให้เริ่มงาน” (Notice to Proceed หรือ NTP) หมายถึง หนังสือที่
ผู้ให้เช่าออกให้แก่ผู้เช่า เมื่อผู้ให้เช่าพร้อมทำการส่งมอบพื้นที่โครงการฯ ตามสภาพทางกายภาพที่เป็นอยู่ ณ ขณะนั้นและเป็นไปตามแผนการส่งมอบพื้นที่โครงการฯ เพื่อให้ผู้เช่าเริ่มxxxxxxการก่อสร้างโครงการฯ ได้ และ เมื่อได้มีการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงานและทำการส่งมอบพื้นที่ตามแผนการส่งมอบพื้นที่โครงการฯ แล้ว xxxxxx เป็นการเริ่มนับระยะเวลาการก่อสร้าง
(23) “หนังสือรับรองความxxxxxxxของทั้งโครงการฯ” (Certificate of Completion)
หมายถึง หนังสือรับรองที่ออกโดยผู้ให้เช่าเพื่อให้ความเห็นชอบว่าผู้เช่าxxxxxxเปิดxxxxxxธุรกิจได้เต็ม โครงการฯ ให้เป็นไปตามข้อเสนอด้านเทคนิค (แผนการก่อสร้างและแผนการxxxxxxธุรกิจ) ซึ่งผู้ให้เช่าจะออก หนังสือรับรองความxxxxxxxของทั้งโครงการฯ ให้ก็ต่อเมื่อผู้xxxxxxxxxxxxxการก่อสร้างอาคารและสิ่งxxxxxxxxxให้ มีxxxxxxและขนาดพื้นที่อาคารและสิ่งxxxxxxxxxเป็นไปตามที่กำหนดในข้อเสนอทางด้านเทคนิค (แผนการ ก่อสร้างและแผนxxxxxxกิจการ) อย่างครบถ้วน และได้รับใบรับรองการก่อสร้างอาคาร (แบบ อ.6) ตาม กฎกระทรวงกำหนดอาคารประเภทควบคุมการใช้ พ.ศ. 2552 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องแล้ว
(24) “เหตุอันควร” หมายถึง เหตุการณ์ที่ส่งผลให้การก่อสร้างมีความxxxxxxxxxกำหนดอันxxx xxxโทษผู้xxxxxxxตามกำหนดไว้
(25) “อนุมัติ” หมายถึง อนุมัติ ออกใบอนุญาต ให้ความเห็นชอบ ให้ความยินยอมให้
xxxxxหรือออกหนังสืออนุมัติโดยผู้ให้เช่า หรือรัฐบาล หน่วยงานของรัฐ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ไทยและสัญญาเช่า
(26) “การเปิดxxxxxxธุรกิจ” หมายxxx xxxที่ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องเปิดxxxxxxธุรกิจทาง
พาณิชย์ให้เป็นไปตามข้อเสนอด้านเทคนิคของผู้เช่า (แผนการก่อสร้างและแผนธุรกิจ) โดยผู้ให้เช่าจะทำการ ออกหนังสือรับรองความxxxxxxxของทั้งโครงการฯ (Certificate of Completion) เพื่อเป็นการรับรองว่าผู้xxxx xxxxxxxxxการก่อสร้างอาคารและสิ่งxxxxxxxxxตามกำหนดในข้อเสนอด้านเทคนิค (แผนการก่อสร้าง) อย่าง ครบถ้วน
(27) “ข้อกำหนดของผู้ให้เช่า” หมายถึง ข้อกำหนดของผู้ให้เช่าในการพัฒนาพื้นที่เชิง
พาณิชย์บริเวณโครงการฯ ตามที่ปรากฏในสัญญาเช่าที่ดินเพื่อxxxxxxการจัดหาประโยชน์ฉบับนี้
(28) “เงินxxxxxการก่อสร้างอาคารและสิ่งxxxxxxxxx” หมายถึง xxxxxxการประเมินสิ่ง xxxxxxxxxต่อตารางเมตรตามมาตรฐานการประเมินxxxxxxทรัพย์สินแห่งประเทศไทย อ้างอิงขั้นต่ำตามประกาศ สมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เรื่อง ให้ใช้บัญชีราคามาตรฐานสิ่งxxxxxxxxx
1.2 การตีความข้อสัญญา
นอกจากจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ในสัญญานี้
(1) จำนวนและตัวเลขต่าง ๆ ในสัญญานี้ หากการกำหนดจำนวนของสิ่งเดียวกันในรูป ตัวเลขและตัวxxxxxxxความแตกต่างกัน ให้ถือตามจำนวนxxxxxxกำหนดไว้เป็นตัวxxxxx
(2) การอ้างอิงถึงจำนวน “วัน” จะหมายถึงวันตามปฏิทิน และการอ้างอิงถึง “เดือน” จะ หมายถึงเดือนตามปฏิทิน
(3) คำที่แสดงนัยเป็นบุคคล หรือกลุ่มบุคคลให้หมายความรวมถึงxxxxxxxx ห้างหุ้นส่วน บริษัท และองค์กรใด ๆ ที่มีสถานะทางกฎหมาย และในทางกลับกันxxxxเดียวกัน
(4) การอ้างอิงถึงบุคคลหรือคู่สัญญา จะรวมถึงผู้สืบxxxxxหรือผู้รับโอนxxxxxตามกฎหมาย ไทย หรือตามที่อนุญาต หรือกำหนดไว้ในสัญญา
(5) การอ้างอิงถึงผู้ให้เช่า หรือหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานรัฐอื่นใด ให้รวมถึงบุคคล และนิติบุคคลที่ผู้ให้เช่า หรือหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานรัฐดังกล่าวได้แต่งตั้งหรือมอบหมายด้วย
(6) การอ้างอิงถึงสัญญาเช่าที่ดินเพื่อxxxxxxxxxอาคารสิ่งxxxxxxxxx และสัญญาเช่าที่ดิน เพื่อxxxxxxการจัดหาประโยชน์ ให้รวมถึงสัญญาฉบับนี้ หรือเอกสารอื่นใดดังกล่าวxxxxxxมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม หรือทำขึ้นใหม่ทั้งฉบับแทนที่สัญญาฉบับนี้ หรือเอกสารอื่นดังกล่าว และให้หมายความรวมถึง เอกสารหรือสัญญาที่แสดง หรือเป็นหลักฐานการแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม หรือทำขึ้นใหม่ทั้งฉบับแทนที่ สัญญาฉบับนี้ หรือเอกสารอื่นใดดังกล่าวนั้น รวมทั้งเอกสารแนบท้าย หรือภาคผนวกของเอกสารหรือสัญญา ร่วมลงทุนดังxxxxxxกล่าวถึงนั้นด้วย
(7) การอ้างอิงถึงเอกสาร หรือสิ่งใด ให้รวมถึงเอกสารหรือสิ่งนั้นไม่ว่าจะบันทึกหรืออยู่ใน รูปแบบที่เป็นลายลักษณ์xxxxx รูปภาพ แผนผัง ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ สื่อแม่เหล็ก หรืออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อ อื่นใด และให้รวมถึงส่วนประกอบของเอกสารหรือสิ่งนั้น
(8) การอ้างอิงxxxxxxอนุมัติ ตกลง เห็นชอบ หรือยินยอม ให้หมายxxx xxxอนุมัติ ตกลง เห็นชอบ หรือยินยอมเป็นลายลักษณ์xxxxxของxxxxxxxxxxxxxxxให้การอนุมัติ ตกลง เห็นชอบ หรือยินยอม ดังกล่าว
(9) หากสัญญาฉบับนี้ กำหนดให้เรื่องใดเป็น ข้อสัญญาและหน้าที่ความรับผิดชอบของ
คู่สัญญาฝ่ายใด (รวมถึงลูกจ้าง ตัวแทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องของคู่สัญญาฝ่ายน้ำ ) ให้หมายถึง คู่สัญญา ฝ่ายดังกล่าวนั้นต้องปฏิบัติหน้าที่หรือรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวนั้น ด้วยค่าใช้จ่ายของตนด้วย เว้นแต่ จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
(10) การอ้างอิงถึงกฎหมาย พระราชบัญญัติ กฎกระทรวง ประกาศ xxxxxxx คู่มือ ให้ รวมถึง กฎหมาย พระราชบัญญัติ กฎกระทรวง ประกาศ xxxxxxx หรือคู่มือ ฉบับxxxxxxมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง ผนวกรวม หรือออกแทนที่ด้วย
(11) ชื่อของหัวข้อ ในสัญญานี้มีไว้เพื่อความสะดวกในการอ้างอิงเท่านั้น และไม่มีผลต่อ การตีความสัญญาแต่อย่างใด
(12) หากในสัญญากำหนดให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีxxxxxและ/หรือมีหน้าที่ในการ กระทำหรืองดเว้นการกระทำใด ให้ตีความว่าคู่สัญญาฝ่ายนั้นใช้xxxxxและ/หรือปฏิบัติหน้าที่นั้นโดยxxxxxx
(13) หากในสัญญากำหนดให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติดต่อหรือส่งเอกสารใดให้แก่ คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ให้การติดต่อหรือส่งเอกสารดังกล่าวทำในรูปแบบลายลักษณ์xxxxxและให้มีการจัดส่ง เอกสารดังกล่าวไปยังคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งตามรายละเอียดวิธีการติดต่อที่กำหนดไว้ในสัญญา
(14) หากในสัญญากำหนดให้ผู้เช่าหรือบุคคลใด จัดทำ หรือส่งมอบเอกสารใดให้แก่ผู้ให้เช่า ให้หมายxxx xxxจัดทำหรือส่งมอบเอกสารที่อยู่ในรูปแบบและมีเนื้อหาตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ทั้งนี้ หาก สัญญานี้มิได้ระบุไว้ให้เป็นไปตามที่ผู้ให้เช่ากำหนด
(15) หากในสัญญากำหนดให้ผู้เช่าจะต้องจัดทำ หรือส่งมอบเอกสารใดให้แก่ผู้ให้เช่า (ไม่ว่า เอกสารดังกล่าวจะทำขึ้นโดยบุคคลใดก็ตาม) หมายxxx xxxที่ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบให้และคำ รับรองในความถูกต้องครบถ้วนxxxxxxxของเอกสารดังกล่าว รวมถึงข้อมูลและเนื้อหาที่ระบุในเอกสารดังกล่าว นั้นแล้วด้วย
(16) หากในสัญญากำหนดให้ผู้เช่าจะต้องนำส่งสำเนารับรองถูกต้องของเอกสารใดให้แก่ ผู้ให้เช่า (ไม่ว่าเอกสารดังกล่าวจะทำขึ้นโดยบุคคลใดก็ตาม) หมายถึง ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องตรวจสอบและทำการลง นามโดยผู้xxxxxxxลงนามผูกพันผู้เช่าเพื่อรับรองเนื้อหาในเอกสารนั้นว่าถูกต้องตรงกันกับต้นฉบับของเอกสาร ข้างต้นทั้งหมด
(17) ไม่มีข้อกำหนดใดในสัญญาจะถูกตีความในลักษณะที่มีผลทำให้ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ต้อง
กระทำหรืองดเว้นกระทำการใด ๆ ที่เป็นการฝ่าฝืนหรือขัดแย้งกับกฎหมายไทยหรือกระทำการใดที่อยู่ นอกเหนือxxxxxหน้าที่หรือความรับผิดชอบของผู้ให้เช่าตามกฎหมายไทย
(18) ในกรณีที่สัญญามีข้อกำหนดหรือข้อความxxxxxxxxxxxxxxxเป็นหลายนัยก็ดี หรือใน กรณีที่สัญญากำหนดให้xxxxxxxxxxxxสองฝ่ายเจรจาตกลงร่วมกันก็ดี ให้ตีความข้อกำหนดหรือข้อความดังกล่าว หรือให้xxxxxxxxxxxxสองฝ่ายเจรจา ตกลงร่วมกัน โดยxxxxxถึงประโยชน์ของรัฐ ประโยชน์สาธารณะ หรือ ประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ
1.3 ลำดับความสำคัญและการบังคับใช้ของเอกสารทั้งหมดภายใต้สัญญา
(1) สัญญาฉบับนี้มีเอกสารแนบท้ายสัญญาตามที่ระบุไว้ในข้อ 32 และให้xxxxxx เอกสารแนบท้ายสัญญาเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
(2) ในกรณีที่สัญญามีข้อความขัดหรือแย้งกับเอกสารแนบท้ายสัญญา ให้ถือตามข้อความ ที่กำหนดไว้ในสัญญา
(3) ในกรณีที่ข้อความในเอกสารแนบท้ายสัญญาไม่ต้องตรงกันหรือขัดแย้งกัน ให้ผู้เช่า ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของผู้ให้เช่า และให้คำวินิจฉัยของผู้ให้เช่าเป็นที่สุด โดยผู้เช่าไม่มีxxxxxเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าxxxxx หรือxxxxxประโยชน์ใด ๆ จากผู้ให้เช่าทั้งสิ้น
ข้อ 2 ข้อตกลงการเช่า
ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าที่ดินตามโครงการฯ เพื่อxxxxxxการจัดหาประโยชน์ ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาxxxxxxxและสัญญาเช่าที่ดินเพื่อxxxxxxxxxอาคารและสิ่งxxxxxxxxx เลขที่
........................ ฉบับลงxxxxxx โดยผู้ให้เช่าตกลงให้ผู้เช่าเป็นผู้มีxxxxxในการจัดหาประโยชน์ในที่ดินของ
โครงการฯ xxxxxxกิจการ ตลอดจนการบำรุงรักษาที่ดิน อาคารและสิ่งxxxxxxxxx ส่วนควบของที่ดิน และ อุปกรณ์ ที่มีอยู่หรือจะได้สร้างขึ้นในภายหน้าในโครงการฯ รวมทั้งผู้เช่ามีxxxxxในรายxxxxxxเกิดจากกิจการที่ เกี่ยวเนื่องกับกิจการxxxxxxรับxxxxxในการจัดหาประโยชน์ที่ดิน
ทั้งนี้ ผู้ให้xxxxxxxส่งมอบที่ดินให้แก่ผู้เช่าตั้งแต่xxxxxxลงนามในสัญญาเช่าที่ดินเพื่อxxxxxxxxx อาคารและสิ่งxxxxxxxxx เลขที่ ...................... ฉบับลงxxxxxx ...................
ข้อ 3 ระยะเวลาการเช่า
3.1 สัญญาเช่า มีกำหนดระยะเวลา 30 (สามสิบ) ปี นับตั้งแต่xxxxxxก่อสร้างแล้วเสร็จและxxxxxx ธุรกิจ และผู้ให้เช่าต้องออกหนังสือรับรองความxxxxxxxของทั้งโครงการฯ (Certificate of Completion) ให้ ถือเป็นวันเริ่มต้นสัญญาxxxxxxx (ตั้งแต่xxxxxx ................... ถึงxxxxxx )
3.2 กรณีที่มีการขยายสัญญาเช่าหรือก่อสร้างแล้วเสร็จล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ ทั้งกรณีเกิดจากเหตุ xxxxxxxxและกรณีมิได้เกิดจากเหตุสุดวิสัยให้เป็นไปxxxxxxxxเช่าที่ดินเพื่อxxxxxxxxxอาคารและสิ่งxxxxxxxxx เลขที่ ................ ฉบับลงxxxxxx ............
3.3 กรณีที่สัญญาเช่าที่ดินเพื่อxxxxxxxxxอาคารและสิ่งxxxxxxxxx เลขที่ ฉบับลงxxxxxx
................... ก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนอายุสัญญาเช่าและxxxxxxเปิดxxxxxxธุรกิจ ให้xxxxxxxxxxxxก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดxxxxxxธุรกิจเป็นวันเริ่มต้นการนับระยะเวลาเช่าตามข้อ 3.1
ข้อ 4 วัตถุประสงค์การเช่า และขอบเขตโครงการฯ
4.1 การเช่าที่ดินxxxxxxxxxxxxxxx ผู้เช่ามีวัตถุประสงค์เพื่อการวางแผนและพัฒนาการใช้ ประโยชน์ที่ดินเชิงพาณิชย์ โดยxxxxxxxxxxxใช้พื้นที่โครงการฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งเป็นการxxxxxxxxxxx ทรัพย์สินให้ผู้ให้เช่า โดยผู้เช่าเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ในรูปแบบการบริหารจัดการ ก่อสร้าง-บริหาร-โอนทรัพยสิน ให้กับผู้ให้เช่า (BOT: Built-operate-transfer)
4.2 ผู้เช่าตกลงให้อาคารและสิ่งxxxxxxxxxตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่า เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า หรือเมื่อมีการบอกเลิกสัญญาเช่า
4.3 รูปแบบโครงการฯ เป็นอาคารและสิ่งxxxxxxxxxประเภท มีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อย
กว่า .................. (..........................) ตารางเมตร และมีxxxxxxอาคาร และสิ่งxxxxxxxxxไม่น้อยกว่า
........................ บาท (.........................บาทถ้วน) รายละเอียดตามแบบแปลนการก่อสร้าง ใบอนุญาตก่อสร้าง และรายการคำนวณประมาณราคา (BOQ: Bill of Quantity) แนบมาในเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าหมายเลข [.…]
4.4 กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของโครงการฯ หมายถึง กรรมสิทธิ์ในบรรดาอาคารและสิ่งxxxxxxxxx บรรดาอสังหาริมทรัพย์ ส่วนควบของที่ดิน ทรัพย์สินติดตรึงบนที่ดินของโครงการฯ และxxxxxxxxxxxxxxxxx เกี่ยวข้องกับการxxxxxxธุรกิจและจัดหาประโยชน์ของโครงการฯ
ข้อ 5 ค่าเช่าและการชำระค่าเช่า
ผู้เช่าตกลงชำระค่าธรรมเนียมการเช่า (Upfront Fee) ค่าเช่ารายปี และส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) หรืออื่น ๆ โดยชำระล่วงหน้า ณ ฝ่ายบัญชีและการเงิน การยาสูบแห่งประเทศไทย ดังนี้
5.1 ชำระค่าธรรมเนียมการเช่า (Upfront Fee) เพื่อเป็นการตอบแทนการได้รับxxxxxxxxจัดหา ประโยชน์ในที่ดินของโครงการฯ เป็นเงิน ........ บาท ( บาทถ้วน) ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีอื่นใด
โดยชำระในวันลงนามในสัญญาxxxxxxx
5.2 ชำระค่าเช่ารายปีให้กับผู้ให้เช่าเมื่อมีการเริ่มต้นสัญญาเช่าและค่าเช่าจะปรับxxxxxxxxxละ 10 (สิบ) ทุก 3 (สาม) ปี ดังนี้
ปีที่ 1 - 3 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ปีที่ 4 - 6 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ปีที่ 7 - 9 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ปีที่ 10 - 12 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ปีที่ 13 - 15 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ปีที่ 16 - 18 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ปีที่ 19 - 21 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ปีที่ 22 - 24 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ปีที่ 25 - 27 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ปีที่ 28 - 30 ค่าเช่าแต่ละปีเป็นเงิน ………..….. บาทต่อปี ( บาทถ้วน)
ค่าเช่ารายปีรวม 30 (สามสิบ) ปี เป็นเงินรวมทั้งสิ้น ............... บาท (..............................
บาทถ้วน)
ทั้งนี้ ผู้เช่าต้องชำระค่าเช่ารายปีภายในวันครบรอบวันเริ่มต้นสัญญาเช่า โดยไม่รวม
ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีอื่นใด และไม่รวมค่าภาษีที่ดินและสิ่งxxxxxxxxxตลอดจนค่าธรรมเนียมทางราชการ และ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากการเช่า
ถ้าผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า เกินกว่า 3 (สาม) เดือน และผู้ให้xxxxxxxแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้xxxxxx xxxxที่ค้างชำระ พร้อมค่าปรับตามข้อ 16.1 มาชำระ หากผู้xxxxxxxชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับ แต่xxxxxxได้รับแจ้ง ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าริบหรือบังคับจากหลักประกันการปฏิบัติxxxxxxxxเสียทั้งสิ้น และ ผู้ให้เช่ามีxxxxxบอกเลิกสัญญาxxxxxxxได้ทันที โดยไม่ต้องxxxxxxxxล่วงหน้า
5.3 ผู้เช่าต้องชำระค่าส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) กรณีที่ผู้เช่าxxxxxxสร้าง รายได้ รวมจากการประกอบกิจการ 5 (ห้า) ปี คำนวณตามรอบระยะเวลาบัญชีของผู้เช่าทุก ๆ 5 (ห้า) ปี รายได้รวม ก่อนหักค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่ผ่านการรับรองโดยผู้ตรวจสอบบัญชีxxxxxxรับใบอนุญาตและผู้ให้เช่าเชื่อถือ มากกว่า ยอดรายxxxxxxประมาณการไว้ในกระแสเงินสดของโครงการฯ (Cash Flow Projection) ในแผนด้านการเงิน เป็นรายปีในข้อเสนอด้านเทคนิคของผู้เช่า โดยจะต้องทำการเสนอส่วนแบ่งของรายได้ส่วนxxxxxจากที่ประมาณ การไว้ในกระแสเงินสดของโครงการฯ (Cash Flow Projection) ให้กับผู้ให้เช่าเป็นอัตราร้อยละ ..... (…….) ของรายได้ส่วนxxxxx โดยชำระทุก 5 (ห้า) ปี ภายใน 120 (หนึ่งร้อยยี่สิบ) วัน นับจากxxxxxxครบกำหนดชำระภาษี เงินได้นิติบุคคลประจำปี โดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีอื่นใด
โดยที่ “รายได้จากการประกอบกิจการ” หมายถึง รายได้ทั้งหมดที่เกี่ยวกับ และ/หรือ
เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการก่อนหักค่าใช้จ่ายในการประกอบกิจการ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ค่าภาษีที่ดินและสิ่ง xxxxxxxxx หรือภาษีอื่นใด ตลอดจนค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากการเช่า แต่ไม่รวมถึงรายxxxxxxมิได้ เกิดจากการประกอบกิจการโดยตรง xxxx รายได้จากการขายสินทรัพย์ รายได้จากดอกเบี้ย เป็นต้น
5.4 เมื่อได้รับชำระค่าธรรมเนียมการเช่า (Upfront Fee) ค่าเช่ารายปี และส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ผู้ให้เช่าจะออกใบเสร็จรับเงินแก่ผู้เช่าทุกครั้ง ซึ่งใบเสร็จรับเงินนั้นจะต้องประกอบด้วย รายการสำคัญ ดังนี้ คือ
(ก) ตราของหน่วยxxxxxxยาสูบแห่งประเทศไทย
(ข) ชื่อผู้เช่า ชื่อและเลขที่สัญญาเช่า
(ค) วัน เดือน ปี ที่รับชำระ จำนวนเงิน และมีลายมือชื่อผู้รับเงินโดยถูกต้อง
5.5 ผู้เช่าจะไม่ขอปรับลดอัตราค่าเช่า ในช่วงระยะเวลาใดของสัญญาxxxxxxx ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล ประการใด ๆ ทั้งสิ้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า
5.6 กรณีผู้xxxxxxxxxxxxxชำระค่าเช่ารายปี และค่าส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) หรืออื่น ๆ ตามข้อ 5.2 และข้อ 5.3 ผู้ให้เช่าจะxxxxxxการปรับตามข้อ 16.1 และ/หรือบอกเลิกสัญญาเช่าตามข้อ 22
5.7 ในการชำระค่าภาษีรายปีของปีสุดท้ายxxxxxxมีกำหนดชำระภายหลังวันสิ้นสุดสัญญาเช่า หาก ผู้ให้xxxxxxxชำระแทนผู้เช่าไปแล้วไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ผู้เช่าต้องชดใช้ให้แก่ผู้ให้เช่าทั้งสิ้นภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับแต่xxxxxxผู้ให้เช่าแจ้งให้ทราบเป็นหนังสือ หากผู้xxxxxxxxxxxไม่ชำระภายในกำหนดเวลา ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้ เช่าริบหรือบังคับจากหลักประกันการปฏิบัติxxxxxxxx เท่ากับจำนวนภาษีของปีก่อนหน้าปีสุดท้ายดังกล่าวไว้ ล่วงหน้า เพื่อการชำระค่าภาษีต่าง ๆ ตามข้อนี้ของรอบประเมินปีสุดท้าย
ข้อ 6 ข้อสัญญาของผู้เช่าและหน้าที่ความรับผิดชอบ
6.1 ผู้เช่าจะต้องxxxxxxโครงการฯ และบริการกิจการต่าง ๆ ตามที่กำหนดอย่างพร้อมเพรียง และต่อเนื่องตลอดอายุของสัญญาเช่า รวมทั้งการxxxxxxกิจการใด ๆ ของผู้xxxxxxxxxxxxxxxxxxxต้องเป็นไปตาม ข้อเสนอทางเทคนิค ตามเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่า ข้อ 32.2
6.2 ผู้เช่ารับประกันว่า คุณภาพและมาตรฐานของการให้บริการxxxxxxxxxxxxxxxจะเป็นไปตาม ข้อเสนอทางเทคนิคที่ผู้xxxxxxxเสนอและผู้ให้xxxxxxxให้ความเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ผู้ให้เช่ามีxxxxxขอให้ปรับปรุงหรือ เปลี่ยนแปลงการให้บริการอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย หรือทางเทคโนโลยี หรือเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการ ที่แท้จริงของประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งผู้ให้เช่าและผู้เช่าจะทำการตกลงกันในxxxxxxxxกระทบทางด้านการเงิน xxxx ค่าเช่าในระยะเวลาที่เหลือ ระยะเวลาการจัดหาประโยชน์คงเหลือ เป็นต้น
6.3 ผู้เช่าต้องส่งมอบรายงานแผนการxxxxxxการกิจการรายปี ประกอบด้วย แผนธุรกิจ แผนการ ตลาด แผนการเงิน แผนบุคลากร เป็นต้น ให้แก่ผู้ให้เช่า และกรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อเสนอด้านเทคนิคที่ กำหนดไว้จะต้องส่งแผนการxxxxxxการกิจการรายปี ให้ผู้ให้เช่าให้ความเห็นชอบไม่น้อยกว่า 60 (หกสิบ) วัน ก่อนการxxxxxxการใด ๆ และ/หรือก่อนวันเริ่มต้นสัญญาเช่าของแต่ละปี และต้องส่งมอบรายงานผลการ xxxxxxการกิจการให้แก่ผู้ให้xxxx xxxเกิน 60 (หกสิบ) วัน หลังจากวันครบสัญญาเช่าในแต่ละปี
ผู้เช่าต้องส่งมอบรายงานแผนการxxxxxxการกิจการรายปี ประกอบด้วย แผนธุรกิจ แผนการ ตลาด แผนการเงิน แผนบุคลากร เป็นต้น ให้แก่ผู้ให้xxxx xxxเกิน 60 (หกสิบ) วัน นับตั้งแต่วันเริ่มต้นสัญญาเช่า ของแต่ละปี
กรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อเสนอด้านเทคนิคที่กำหนดไว้จะต้องส่งแผนการxxxxxxการกิจการรายปี ให้ผู้ให้เช่าให้ความเห็นชอบไม่น้อยกว่า 60 (หกสิบ) วัน ก่อนการxxxxxxการใด ๆ และ/หรือก่อนวันเริ่มต้น สัญญาเช่าของแต่ละปี
6.4 ผู้เช่าตกลงชำระค่าภาษี ตามที่ระบุไว้ในข้อ 21
6.5 ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้ชำระค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์ และค่าบริการอื่นๆ อัน เนื่องมาจากการใช้ที่ดิน อาคารและสิ่งxxxxxxxxx ส่วนควบของที่ดิน และสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ใช้ในบริเวณ ที่ดินทั้งหมด
6.6 ตลอดอายุสัญญาxxxxxxx ผู้เช่าจะต้องปฏิบัติตามกฎ xxxxxxx ข้อบัญญัติ เทศบัญญัติ และ กฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ใช้บังคับกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน อาคารและสิ่งxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxโดย เคร่งครัด หากปรากฏว่าผู้ให้เช่าต้องรับผิดหรือต้องเสียหายไม่ว่ารูปแบบใดไม่ว่าจะต่อสถานะทางการเงินหรือ ธุรกิจหรือชื่อเสียง เพราะเหตุที่ผู้xxxxxxxปฏิบัติตามกฎ xxxxxxx ข้อบัญญัติ เทศบัญญัติ และกฎหมายอื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้อง ผู้เช่ายอมชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่ผู้ให้เช่าทั้งสิ้น
6.7 หากการxxxxxxการของผู้เช่าเป็นเหตุให้ผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและ/หรือ เป็นเหตุให้ผู้ให้xxxxxxxรับความเสียหายต่อชื่อเสียงหรือความเสียหายอื่นใด ผู้เช่าxxxxxxxxxจะปฏิบัติตามนโยบาย ของผู้ให้เช่าในการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวทันที หรือเป็นเหตุให้ผู้ให้เช่าถูกฟ้องหรือฟ้องแย้งจนอยู่ในฐานะจำเลย ผู้ให้เช่ามีxxxxxxxxxxxการต่อสู้คดีดังกล่าวได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ ผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน การต่อสู้คดี รวมถึงค่าเสียหายตามคำพิพากษา ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 30 (สามสิบ) วัน นับแต่xxxxxxได้รับแจ้ง เป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า โดยไม่มีxxxxxโต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใด
6.8 ภายในระยะเวลาการxxxxxxxxxxxxxxxxxxx หากผู้เช่าต้องมีการขุดดิน ขนย้ายดิน หรือต้อง xxxxxxการใด ๆ อันเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ให้เช่า ผู้เช่าต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือก่อน ทั้งนี้ ผู้เช่า ตกลงยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ให้เช่า และผู้เช่าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงฝ่ายเดียวทั้งสิ้น
6.9 ผู้เช่าตกลงให้ผู้ให้เช่าxxxxxxใช้ประโยชน์ในที่ดินที่xxxxxxxxxxxxสองฝ่ายตกลงกันตลอดอายุ สัญญาxxxxxxx โดยผู้เช่าจะxxxxxxxxxตอบแทนใดๆ จากผู้ให้เช่า และจะไม่ปิดกั้น หรือกระทำการใด ๆ มิให้ผู้ให้เช่า เข้าใช้ประโยชน์ใน ที่ดินดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ของผู้ให้เช่า ซึ่งการใช้ประโยชน์ในที่ดินจะต้องเป็นไปเพื่อ กิจการของผู้ให้เช่า และไม่ซ้ำซ้อนกับกิจการหรือการจัดสรรพื้นที่ของผู้เช่า หากผู้ให้เช่าจะxxxxxxการไม่ว่าใน รูปแบบใดที่ซ้ำซ้อนกับกิจการหรือการจัดสรรพื้นที่ของผู้เช่า ต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้เช่าก่อน
6.10 ผู้เช่ามีหน้าที่ในการจัดหาเงินลงทุนของโครงการฯ สำหรับการบริหารโครงการฯ ตลอดอายุ สัญญาxxxxxxx โดยผู้เช่ามีหน้าที่ในการรับภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการxxxxxxโครงการฯ ทั้งหมดซึ่งรวมถึง ค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ ซ่อมบำรุง ปรับปรุงใหญ่อาคารและสิ่งxxxxxxxxx ภาษีอากร อากรแสตมป์ ภาษีที่ดิน และสิ่งxxxxxxxxx ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในระหว่างอายุสัญญาเช่า ถ้าผู้เช่ามีความxxxxxxxจะนำxxxxxxxxเช่าไปทำเงื่อนไขผูกพันใน การกู้ หรือเบิกเงินเกินบัญชี ค้ำประกันเงินกู้ หรือแหล่งเงินทุนรูปแบบอื่น ๆ ที่ผู้ให้เช่ายอมรับ โดยต้องขอและ ได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือเสียก่อนจึงจะxxxxxxการได้ และผู้เช่าต้องเสียค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ให้เช่า ในการนำxxxxxไปทำเงื่อนไขผูกพันในอัตราครั้งละ ร้อยละ 0.5 (ศูนย์จุดห้า) ของจำนวนเงินซึ่งนำไปทำเงื่อนไข ผูกพนั
6.11 ผู้เช่าจะต้องชดใช้และทำให้ผู้ให้เช่า เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง หรือตัวแทนของผู้ให้xxxxxxxxxxxจาก
ความรับผิด และค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดขึ้นหรือได้รับจากการกระทำการละเว้นการกระทำการxxxxxxxxxxxx หรือการผิดนัดของผู้เช่า เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง ผู้รับจ้างหรือตัวแทนของผู้เช่า ในการxxxxxxงานและให้บริการตาม โครงการฯ xxxxxxxxxxxxxxx
6.12 ในกรณีที่การxxxxxxโครงการฯ xxxxxxxxxxxxxxxต้องxxxxxxxxxว่าด้วยสาเหตุใด ให้ผู้เช่าแจ้ง ให้ผู้ให้เช่าทราบเป็นหนังสือโดยเร็วที่สุด ซึ่งผู้ให้เช่าและผู้เช่าจะร่วมกันหารือโดยเร็วที่สุดเพื่อหาวิธีที่ทุกฝ่าย ยอมรับเพื่อเร่งรัดโครงการฯ
6.13 ผู้เช่าจะทำการสนับสนุนการxxxxxxงานของผู้ให้เช่า โดยให้xxxxxพิเศษแก่ผู้ให้เช่าในการใช้ อาคารและสิ่งxxxxxxxxxและการบริการต่าง ๆ ของกิจการภายในโครงการฯ ซึ่งxxxxxพิเศษนี้อาจรวมxxxxxxให้ ส่วนลดการใช้บริการแก่บุคลากรของผู้ให้เช่า
6.14 ผู้เช่าต้องอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของผู้ให้เช่าใช้ถนนในพื้นที่โครงการฯ ในการเข้า-ออกได้ โดยสะดวก และห้ามผู้เช่าเก็บค่าผ่านทาง หรือค่าอื่นใดทั้งสิ้นในพื้นที่โครงการฯ
ทั้งนี้ ผู้เช่าต้องไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นใช้ที่ดินเป็นทางผ่านเข้า-ออก เพื่อเป็นทางสาธารณะ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า
6.15 ผู้เช่าต้องทำบัญชีที่ถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชีที่กฎหมายกำหนดเป็นรายปีตลอด ระยะเวลาของสัญญาxxxxxxx และเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานของผู้เช่า โดยต้องเป็นรายงานทางบัญชีxxxxxxรับการ รับรองจากบริษัทบัญชีที่ตลาดหลักทรัพย์รับรอง และนำส่งงบการเงินให้กับผู้ให้เช่า ภายใน 30 วัน (สามสิบ) วัน นับจากxxxxxxครบกำหนดชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี รวมทั้งให้ผู้ให้เช่าxxxxxxเข้าตรวจสอบบัญชี xxxxว่านั้นได้ในเวลาทำการxxxxของผู้เช่า
6.16 ผู้เช่าจะต้องจัดทำรายงานผลประกอบการของโครงการฯ เป็นรายปีตลอดระยะเวลาของ สัญญาxxxxxxx และให้นำส่งรายงานให้ ผู้ให้เช่าภายใน 90 (เก้าสิบ) วัน นับจากครบรอบปี โดยรายงานผล ประกอบการของโครงการฯ อย่างน้อยต้องมีรายละเอียด ดังนี้
6.16.1 ข้อมูลที่เกี่ยวกับรายได้ทั้งหมดที่เกิดจากโครงการฯ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่ง รวมถึงกิจการเกี่ยวเนื่องกับการxxxxxxกิจการตามโครงการฯ ได้แก่ รายได้จากการโฆษณา การจัดกิจกรรมเป็น ครั้งคราว เป็นต้น
xxxxxxการจริง
6.16.2 ข้อมูลการxxxxxxกิจการ ปัญหาอุปสรรค และการแก้ไขปัญหา
6.16.3 รายการซ่อมบำรุงรักษา และแผนบำรุงรักษา
6.16.4 รายการค่าใช้จ่ายในการxxxxxxการและบำรุงรักษา
6.16.5 ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการxxxxxxการxxxxxxxxxxxxxxx
6.16.6 ข้อมูลสรุปสัญญาลูกค้า (ผู้เช่าพื้นที่หรือผู้ประกอบการรายย่อย รวมผู้xxxxxxxx) ที่
6.16.7 ข้อมูลสรุปบัญชีทรัพย์สินรายปี (ชื่อทรัพย์สิน ยี่ห้อ รุ่น จำนวน อายุ ราคาทางบัญชี)
6.16.8 ข้อมูลอื่น ๆที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินกิจการ และการบำรุงรักษาทรัพย์สิน
6.17 การเปิดดำเนินธุรกิจ
ผู้เช่ามีหน้าที่ในการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามข้อเสนอด้านเทคนิค (แผนการก่อสร้างและ แผนธุรกิจ) และให้เป็นไปตามข้อกำหนดของผู้ให้เช่าเกี่ยวกับผลผลิตที่เอกชนจะต้องส่งมอบ (Output Specification) และข้อตกลงระดับการให้บริการ (Service Level Agreement) ตามข้อ 6.18
ถ้าการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างในโครงการฯ เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดหรือบางส่วนและ เห็นชอบให้ผู้เช่าทำการเปิดดำเนินธุรกิจทั้งหมดหรือบางส่วนได้ ให้ผู้ให้เช่าออกหนังสือรับรองความสมบูรณ์ ของทั้งโครงการฯ ทั้งหมดหรือบางส่วนให้กับผู้เช่า และเมื่อผู้ให้เช่าออกหนังสือรับรองความสมบูรณ์ของการ ก่อสร้างโครงการฯ เฉพาะส่วนใด ให้ผู้เช่าเริ่มเปิดดำเนินธุรกิจจัดหาประโยชน์เฉพาะส่วนที่ผู้ให้เช่าได้รับรองนั้น ได้ทันที ทั้งนี้ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องดำเนินการก่อนเปิดดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
ทั้งนี้ ผู้เช่าจะต้องเปิดดำเนินธุรกิจจัดหาประโยชน์ภายใน 90 (เก้าสิบ) วัน นับจากวันที่ผู้ให้ เช่าได้ออกหนังสือรับรองความสมบูรณ์ของทั้งโครงการฯ (Certification of Completion) เว้นแต่ผู้ให้เช่าจะ ขยายเวลาการดำเนินธุรกิจออกไป
6.18 ผู้เช่าต้องดำเนินการตามข้อตกลงระดับการให้บริการ (Service Level Agreement) ดังนี้
6.18.1 ทางเดินเท้าที่เชื่อมกับที่ตั้งโครงการฯ ต้องเปิดให้บริการได้ไม่น้อยกว่า 15 (สิบห้า) ชั่วโมงต่อวัน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สร้างบรรยากาศที่สวยงามและร่มรื่น เพื่อเป็นที่ดึงดูดต่อผู้ใช้งาน
6.18.2 ติดตั้งระบบ CCTV ครอบคลุมพื้นที่โครงการฯ และเชื่อมต่อกับระบบสัญญาณแจ้ง เหตุ และจัดให้มีศูนย์รวบรวม ควบคุม และการแจ้งส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดเหตุในพื้นที่ รวมทั้ง สอดส่องความปลอดภัยในพื้นที่ ตลอดเวลา 24 (ยี่สิบสี่) ชั่วโมง
6.18.3 จัดให้มีแสงสว่างครอบคลุมพื้นที่โครงการฯ ในเวลากลางคืน เพื่อความปลอดภัย
6.18.4 จัดให้มีที่จอดรถ EV/Hybrid พร้อมที่อัดประจุไฟฟ้า (Charger) จำนวนอย่างน้อย ร้อยละ 2 (สอง) ของจำนวนที่จอดรถที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2517) ออกตามพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
6.18.5 พื้นที่จอดรถยนต์ภายในอาคารและสิ่งปลูกสร้างต้องมีการบริหารที่จอดรถ (Smart Parking) เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
6.18.6 จัดให้มีการบริการข้อมูลการขนส่งและเดินทาง (Public Transit Service) เพื่อ อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนและการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัย
6.18.7 จัดให้มีพื้นที่สำหรับการให้บริการของหน่วยงานรัฐ (Public Service) ไม่น้อยกว่า
40 (สี่สิบ) ตารางเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ
6.19 ผู้เช่ามีหน้าที่ส่งมอบทรัพย์สินของโครงการฯ เมื่อสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลง โดยดำเนินการตาม
ข้อ 23.2
6.20 ผู้เช่าจะต้องจัดให้มีการจัดฝึกอบรม การประชุมสัมมนา การศึกษาดูงาน รวมทั้งรวบรวม
ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่พนักงานหรือบุคลากรของผู้ให้เช่า เพื่อให้บุคลากรของผู้ให้เช่ามี ความรู้ทางด้านระบบ การบริการ การจัดการ รวมทั้งวิทยาการสาขาต่าง ๆ ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ โครงการฯ และการบริหารจัดการโครงการฯ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบของธุรกิจที่ หลากหลาย หรือตามที่ผู้ให้เช่าร้องขอ ทั้งนี้ การถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าว ต้องดำเนินการโดยผู้มีความรู้และ เชี่ยวชาญหรือผู้เป็นเจ้าของวิทยาการ รวมถึงการจัดให้มีการฝึกปฏิบัติงานจริงของบุคลากรของผู้ให้เช่าด้วย ภาระค่าใช้จ่ายของผู้เช่า
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันหารือในรายละเอียดของระยะเวลาในการดำเนินการเกี่ยวกับ การถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว เป็นคราว ๆ ไป
6.21 ผู้เช่าจะต้องจัดให้บุคคลสัญชาติไทยเป็นผู้ทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำ ได้ รวมถึงบุคลากรหลักด้านเทคนิค เว้นแต่งานใดที่มีลักษณะเฉพาะด้านซึ่งผู้เช่าไม่สามารถจัดหาคนไทยที่มี ความรู้ความชำนาญมาทำงานแทนได้ ผู้เช่าก็อาจให้ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญจากต่างประเทศมาทำงานแทนได้
6.22 ผู้เช่าจะเป็นผู้จัดหาทรัพย์สินทางปัญญาที่จำเป็นต่อการดำเนินโครงการฯ ต่าง ๆ ตาม สัญญาเช่านี้ โดยผู้เช่าเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
6.23 ผู้เช่ารับรองว่า ทรัพย์สินทางปัญญาที่ผู้เช่าจัดหามาเพื่อดำเนินโครงการฯ ไม่ได้มีการละเมิด สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น และไม่มีภาระผูกพันใด ๆ อยู่เหนือทรัพย์สินทางปัญญาที่ผู้เช่านำมาใช้ใน การดำเนินงาน นอกจากกรณีที่ได้รับความยินยอมเป็นการเฉพาะจากผู้ให้เช่า
6.24 ผู้เช่าจะพยายามอย่างเต็มที่ในการดำเนินการให้ผู้ให้เช่าและบุคคลที่ผู้ให้เช่ามอบหมายให้ เข้ามาดำเนินโครงการฯ มีสิทธิใช้ทรัพย์สินทางปัญญาที่ผู้เช่านำมาใช้ในโครงการฯ เพื่อให้การดำเนินงานตาม โครงการฯ สามารถดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ ในกรณีที่ทรัพย์สินทางปัญญาที่ใช้ทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ใช่กรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวของผู้ เช่า (ทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม) ผู้เช่าจะต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการดำเนินการเพื่อให้ ได้มาซึ่งสิทธิในการใช้งานทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สามนั้น ซึ่งสิทธิในการใช้งานทรัพย์สินทางปัญญ า ดังกล่าว รวมถึงสิทธิในการใช้งานทรัพย์สินทางปัญญาโดยผู้ให้เช่าและบุคคลที่ผู้ให้เช่ามอบหมายให้เข้ามา ดำเนินโครงการฯ
6.25 ผู้เช่าจะต้องส่งมอบทรัพย์สินทางปัญญาที่จำเป็นแก่การดำเนินโครงการฯ ให้แก่ผู้ให้เช่า และ/หรือบุคคลที่ผู้ให้เช่ามอบหมายให้เข้ามาดำเนินโครงการฯ ต่อจากเอกชนคู่สัญญา พร้อมจัดฝึกอบรมให้แก่ พนักงาน หรือลูกจ้างของผู้ให้เช่า และ/หรือบุคคลที่ผู้ให้เช่ามอบหมายให้เข้ามาดำเนินโครงการฯ ต่อจากผู้เช่า เพื่อให้สามารถใช้ทรัพย์สินทางปัญญาในการดำเนินโครงการฯ ได้ซึ่งการส่งมอบและการฝึกอบรมนี้จะต้อง ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน [….] วัน ก่อนถึงวันสิ้นอายุของสัญญาเช่า
ข้อ 7 ข้อสัญญาของผู้ให้เช่า
7.1 ผู้ให้เช่าสัญญาว่า ตราบเท่าที่ผู้เช่าได้ชำระ ค่าเช่ารายปี ค่าส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ค่าภาษีและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้แก่ผู้ให้เช่าครบถ้วนและตรงตามกำหนดเวลาภายใต้สัญญาเช่านี้และผู้ เช่ามิได้ประพฤติผิดสัญญาเช่าข้อหนึ่งข้อใด ผู้เช่ามีสิทธิอยู่และใช้ประโยชน์ในที่ดินที่เช่าได้ตลอดระยะเวลาการ เช่า เว้นแต่ กรณีมีเหตุใช้ที่ดินเพื่อสาธารณชนและการเวนคืนที่ดินตามข้อ 20
7.2 ผู้ให้เช่าจะรับผิดชอบในการตรวจตรา กำกับ ควบคุม แนะนำ และบังคับการให้เป็นไปตาม สัญญาเช่านี้ หากมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นการใดที่ต้องได้รับความยินยอมหรือได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า ผู้ให้ เช่าจะจัดทำเป็นหนังสือยินยอมหรืออนุญาตโดยไม่ชักช้า
7.3 ผู้ให้เช่าจะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินงานของผู้เช่า ดังนี้
7.3.1 ผู้ให้เช่าจะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนในการจัดหาประโยชน์ของผู้เช่าในการ ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ องค์กรด้านสาธารณูปโภค รวมทั้งการขอใบอนุญาตต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุการจัดหาประโยชน์ในโครงการฯ ซึ่งในการดำเนินการให้ได้รับใบอนุญาตหรือได้การสนับสนุนอื่น ใดจากหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ หรือองค์กรด้านสาธารณูปโภคนั้น ทั้งนี้ผู้เช่าจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตาม กฎระเบียบและข้อกำหนดของหน่วยงานนั้น ๆ
7.3.2 ผู้ให้เช่าจะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินงานของผู้เช่าในการขอวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้แก่ชาวต่างประเทศซึ่งเป็นบุคลากรของผู้เช่าให้สามารถเข้า ปฏิบัติงานในโครงการฯ
7.3.3 ผู้ให้เช่าจะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินงานของผู้เช่าในการขอสิทธิ ประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนสำหรับการดำเนินโครงการฯ (หากมี)
7.3.4 ข้อกำหนดของสัญญาเช่านี้ตามข้อ 7.3.1 ถึงข้อ 7.3.3 เป็นการที่ผู้ให้เช่าให้ความ ช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินงานของผู้เช่าเท่านั้น มิได้เป็นข้อกำหนดที่ก่อให้เกิดหน้าที่แก่ผู้ให้เช่าในการ ดำเนินการจัดทำคำขอ การขออนุญาต หรือการดำเนินการอื่นใดแทนผู้เช่าแต่อย่างใด และมิได้เป็นการรับรอง ว่าผู้เช่าจะได้รับใบอนุญาตหรือได้รับสิทธิพิเศษจากส่วนราชการอื่น ๆ และองค์กรด้านสาธารณูปโภค และการ ที่ผู้เช่ามิได้รับการอนุญาตหรือมิได้รับความสะดวกจากการดำเนินการติดต่อกับหน่วยราชการอื่น ไม่ถือว่าเป็น กรณีที่ผู้ให้เช่าจะทำการผิดสัญญาเช่านี้
7.4 กรณีครบกำหนดอายุสัญญาเช่า ผู้ให้เช่าให้คำมั่นว่าจะให้สิทธิผู้เช่าเป็นผู้ได้สิทธิในการ เจรจาสัญญาเช่ารอบใหม่ โดยค่าเช่าและผลประโยชน์ตอบแทน และเงื่อนไขต่าง ๆ ให้เป็นไปตามที่ผู้ให้เช่า กำหนด ทั้งนี้ ผู้เช่าจะต้องแจ้งความจำนงเป็นหนังสือกับผู้ให้เช่าก่อนครบกำหนดอายุสัญญาเช่า ไม่น้อยกว่า 5 (ห้า) ปี และต้องให้พิจารณาแล้วเสร็จก่อน
เมื่อครบกำหนดอายุสัญญาเช่า และผู้เช่าไม่มีความประสงค์จะต่อสัญญาเช่า ผู้เช่าต้องส่ง มอบอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนควบของที่ดิน และอุปกรณ์ทั้งหมดให้แก่ผู้ให้เช่าภายใน 60 (หกสิบ) วัน นับ จากวันสิ้นสุดสัญญาเช่า
ข้อ 8 ที่ปรึกษาอิสระ
8.1 ผู้ให้เช่าอาจเป็นผู้คัดเลือกและแต่งตั้งที่ปรึกษาอิสระ ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เป็น ครั้งคราวไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่านี้ และ/หรือ หน้าที่อื่นใดตามที่คู่สัญญาตกลงกัน ใน ฐานะเป็นที่ปรึกษาอิสระของทั้งผู้ให้เช่า และผู้เช่าซึ่งที่ปรึกษาอิสระจะต้องให้คำปรึกษาและความเห็นที่ ยุติธรรมและปราศจากความลำเอียงแก่คู่สัญญา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดและขจัดความเห็นที่ขัดแย้งกันใน ด้านวิชาการ
8.2 ผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบค่าตอบแทนของที่ปรึกษาอิสระ ซึ่งข้อกำหนดและเงื่อนไขใน สัญญาจ้างที่ปรึกษาอิสระให้เป็นไปตามที่ผู้ให้เช่าเห็นชอบ
8.3 ที่ปรึกษาอิสระข้างต้น อาจเป็นการดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญของผู้ให้เช่าเอง
ข้อ 9 การจดทะเบียนสัญญาเช่า
ผู้ให้เช่าและผู้เช่าตกลงว่าทั้งสองฝ่ายจะนำสัญญาเช่าไปจดทะเบียนการเช่าที่ดิน ณ สำนักงาน ที่ดิน ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับจากวันลงนามสัญญาเช่านี้ โดยผู้เช่าตกลงเป็นผู้รับผิดชอบชำระค่าภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าอากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการจดทะเบียนการเช่าแต่เพียงฝ่ายเดียว
ข้อ 10 การให้ใช้และข้อจำกัดการใช้ที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้าง
10.1 ผู้เช่าสัญญาว่าจะใช้ที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างตามวัตถุประสงค์และภายใต้เงื่อนไขที่ กำหนดไว้ในสัญญาเช่าเท่านั้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตล่วงหน้าเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
10.2 ผู้เช่าสัญญาว่าจะไม่ใช้ที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้าง หรือกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยตนเอง หรือโดยยอมให้ผู้อื่นใช้หรือกระทำการใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับของทางราชการหรืออาจ กระทบกระเทือนความปลอดภัย และความสงบสุข หรือเป็นอันตรายต่อสังคมส่วนรวม
ผู้เช่าตกลงว่าจะไม่กระทำหรือยอมให้ผู้เช่าช่วงหรือบุคคลใดกระทำการใด ๆ ซึ่งอาจ ก่อให้เกิดความเสียหายหรือเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้ให้เช่าหรือสังคมส่วนรวม รวมทั้งไม่กระทำหรือยอมให้ผู้อื่น กระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
10.3 ผู้ให้เช่าขอสงวนสิทธิ์ในการให้สิทธิเอกชนรายอื่นเข้าดำเนินโครงการฯ ในที่ดินแปลงอื่นของ ผู้ให้เช่า และ ผู้ให้เช่าไม่รับรองว่าการดำเนินการพัฒนาที่ดินของเอกชนรายอื่นบนที่ดินแปลงอื่นของผู้ให้เช่า จะไม่เป็นการดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการแข่งขันกันกับการดำเนินกิจการของผู้เช่าในโครงการฯ เนื่องจากการดำเนินโครงการฯ เป็นไปในลักษณะการแข่งขันเสรีตามกลไกตลาดระหว่างภาคเอกชนอย่าง แท้จริง
10.4 หากผู้ให้เช่ามีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์พื้นที่บางส่วนเพื่อดำเนินกิจการอันเป็น ประโยชน์ต่อส่วนรวม และได้แจ้งให้ผู้เช่าทราบแล้ว ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่า และ/หรือ ผู้ที่ผู้ให้เช่ามอบหมายให้ ใช้ประโยชน์ มีสิทธิเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อกิจการนั้นๆ ได้ทันที ผู้เช่าจะต้องอำนวยความสะดวก ในการนี้ตามสมควร โดยผู้เช่าไม่มีสิทธิโต้แย้งคัดค้าน และไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย หรือค่าทดแทนใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งผู้เช่ายังมีสิทธิจัดหาประโยชน์ในพื้นที่เช่าส่วนที่เหลือนั้นได้ ทั้งนี้ จะปรับลดค่าเช่าตามสัดส่วนการใช้ ประโยชน์พื้นที่ส่วนที่เหลือ
10.5 นอกจากอาคารและสิ่งปลูกสร้างและส่วนควบของที่ดิน รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็น ส่วนติดตรึงกับอาคารและสิ่งปลูกสร้างในที่ดินที่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่า ภายหลังสิ้นสุดสัญญาเช่านี้ ให้ บรรดาส่วนประกอบอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เช่น ระบบเครื่องปรับอากาศ ระบบไฟฟ้า ระบบเครื่อง โทรคมนาคม ระบบบำบัดสิ่งโสโครก และน้ำเสีย รวมทั้งเครื่องตกแต่งและครุภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งผู้เช่าได้จัดทำไว้ใน ระหว่างอายุสัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง เลขที่ ......... ฉบับลงวันที่ ให้ตกเป็น
กรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทั้งสิ้นตามสัญญาเช่านี้
10.6 ผู้เช่าจะต้องทำการเปิดดำเนินธุรกิจภายในกำหนดเวลาตามข้อ 3.1 หรือระยะเวลาที่ผู้ให้ เช่าขยายออกไป
10.7 การดำเนินธุรกิจใด ๆ ของผู้เช่า ตามสัญญาเช่านี้ต้องเป็นไปตามข้อเสนอทางเทคนิคที่ผู้เช่า ได้เสนอต่อผู้ให้เช่าไว้แล้วในขั้นตอนของการประมูลและการเจรจาสัญญาและผู้ให้เช่าได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ณ วันที่ทำสัญญาเช่านี้ ปรากฏตามเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าหมายเลข [….] (ข้อเสนอการร่วมลงทุน - ข้อกำหนดทางเทคนิค)
10.8 การเปลี่ยนแปลงรูปแบบกิจการไม่สามารถทำได้ เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่า โดยที่ผู้เช่าจะต้องแสดงหลักการเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่จะส่งผลให้การดำเนิน โครงการฯ มีประสิทธิภาพของการดำเนินโครงการฯ มากยิ่งขึ้น และเป็นไปตามข้อกำหนดของผู้ให้เช่า ปรากฏ ตามเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าหมายเลข [….] (ข้อกำหนดของผู้ให้เช่า - ข้อกำหนดโดยทั่วไปของการพัฒนา โครงการฯ และข้อกำหนดทางเทคนิคและแผนการลงทุน)
10.9 ผู้เช่ารับรองว่าคุณภาพและมาตรฐานการดำเนินธุรกิจตามสัญญาเช่านี้จะเป็นไปตาม ข้อเสนอด้านเทคนิคที่ผู้เช่าได้เสนอและผู้ให้เช่าได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ผู้ให้เช่ามีสิทธิขอให้มีการปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีตามข้อ 13.2
10.10 ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานผลการดำเนินธุรกิจที่มีรูปแบบตามที่ผู้ให้เช่าเห็นชอบ เพื่อ ส่งให้ผู้ให้เช่าทราบเป็นรายปี หรือภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้ เช่า
10.11 ตลอดระยะเวลาของสัญญาเช่านี้ ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องจัดทำบัญชีตามมาตรฐานทางบัญชีที่ กฎหมายกำหนด และเปิดโอกาสให้ผู้ให้เช่าเข้าทำการตรวจสอบได้โดยสะดวกเมื่อมีการร้องขอ
10.12 ผู้เช่ามีหน้าที่จัดทำรายงานผลประกอบการเป็นรายปีตามรูปแบบที่ผู้ให้เช่ากำหนดและ นำส่งรายงานดังกล่าวให้กับผู้ให้เช่านับตั้งแต่ปีแรกของการเปิดดำเนินธุรกิจทั้งหมดหรือบางส่วน โดยที่รายงาน ผลการประกอบการของโครงการฯ อย่างน้อยต้องมีรายละเอียด ดังนี้
(1) ข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ทั้งหมดที่เกิดจากโครงการฯ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่ง รวมถึงกิจการเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินการตามโครงการฯ เช่น รายได้จากการโฆษณา การจัดกิจกรรมเป็นครั้ง คราว เป็นต้น
(2) ข้อมูลการดำเนินธุรกิจ ปัญหาอุปสรรค และการแก้ไขปัญหา
(3) รายการซ่อมบำรุงรักษา และแผนบำรุงรักษา
(4) รายการค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและบำรุงรักษา
(5) ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามสัญญาเช่านี้
(6) ข้อมูลสัญญาเช่าช่วงลูกค้ารายย่อย
(7) ข้อมูลสัญญาผู้รับจ้างช่วงในการให้บริการของโครงการฯ
(8) ข้อมูลสัญญาและรายละเอียดเกี่ยวกับรายได้ของนิติบุคคลทุกรายที่ผู้เช่าถือหุ้นเป็น สัดส่วนเกินกว่าร้อยละ 30 (สามสิบ) เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของโครงการฯ ไม่ว่าจะฐานะผู้ เช่าช่วงหรือผู้รับจ้างของผู้เช่า
(9) ข้อมูลแสดงรายการทรัพย์สินของโครงการฯ
(10) ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินธุรกิจ และการบำรุงรักษาทรัพย์สิน
10.13 ผู้ให้เช่ามีสิทธิตรวจและควบคุมงานตามโครงการฯ ให้เป็นไปตามสัญญาเช่าได้โดยผู้เช่า ต้องอำนวยความสะดวกตามสมควร
ข้อ 11 การโอนสิทธิการเช่า การให้เช่าช่วง และการใช้สัญญาเช่าเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงิน
11.1 การโอนสิทธิการเช่า
ผู้เช่าตกลงว่าจะไม่นำสิทธิการเช่าที่ดินตามสัญญาเช่าไปให้ผู้อื่นเช่าช่วง หรือโอนสิทธิการ เช่าให้ผู้อื่น หรือจัดหาประโยชน์อย่างอื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์การเช่าเป็นอันขาด เว้นแต่ได้รับอนุญาต จากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือและเสียค่าธรรมเนียมการเช่าช่วงให้กับผู้ให้เช่า กรณีที่มีการโอนสิทธิการเช่า ผู้ให้เช่า จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเท่ากับค่าเช่า 1 (หนึ่ง) ปี ณ ปีที่มีการโอนสิทธิ หรือตามที่ผู้ให้เช่ากำหนด รวมทั้งเสีย ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าหรือผู้ เช่าช่วงทั้งสิ้น หากผู้เช่าฝ่าฝืนให้ถือว่าสัญญาเช่าเป็นอันสิ้นสุดทันที และผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าริบหรือบังคับ จากหลักประกันเสียทั้งสิ้น
11.2 การให้เช่าช่วง
ผู้เช่ามีสิทธินำอาคารและสิ่งปลูกสร้าง หรือที่ดินที่ไม่มีอาคารและสิ่งปลูกสร้างตามสัญญา เช่านี้ ให้เช่าช่วงได้ตามการประกอบธุรกิจปกติ หรือเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของผู้เช่าภายใต้โครงการฯ โดย ระยะเวลาการให้เช่าช่วง (แล้วแต่กรณี) ต้องไม่เกินกว่าระยะเวลาการเช่าตามสัญญาเช่านี้ ทั้งนี้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ผู้เช่ายังต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าตามสัญญาเช่านี้ทุกประการ หากผู้ให้เช่าต้องเดือดร้อน หรือเสียหายจากการ ดังกล่าว หรือถูกรอนสิทธิ หรือเพิกถอนสิทธิในที่ดินที่เช่า ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบชดใช้ ค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่าเต็มจำนวนตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงความเสียหายที่เกี่ยวเนื่องตามกฎหมายไม่ว่า ในรูปแบบใด
11.3 การใช้สัญญาเช่าเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงิน
11.3.1 ผู้เช่าจะใช้สัญญาเช่านี้เป็นหลักประกันการชำระหนี้กับผู้ให้กู้เท่านั้น โดยที่ผู้เช่า จะต้องแจ้งการเข้าทำนิติกรรมกู้ยืมเงินโดยใช้สิทธิตามสัญญาเช่าเป็นประกันให้ผู้ให้เช่าทราบเป็นหนังสือ
ในกรณีที่ผู้ให้กู้ได้เรียกร้องให้ผู้เช่าชำระหนี้ที่ค้างอยู่ทั้งหมดตามสัญญากู้ยืมเงิน และผู้เช่าไม่สามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้ภายในเวลาที่กำหนดตามสัญญากู้ยืมเงิน ผู้ให้กู้อาจขอให้มีการโอนสิทธิ และหน้าที่เพื่อประโยชน์แก่ผู้ให้กู้ให้แก่นิติบุคคลรายอื่น ซึ่งการดำเนินการโอนสิทธิและหน้าที่ของผู้เช่า เพื่อ ประโยชน์แก่ผู้ให้กู้ให้ดำเนินการตามข้อ 11.3.2
11.3.2 การโอนสิทธิ์และหน้าที่ให้แก่สถาบันการเงินผู้ให้กู้และนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่
(Step-in Rights)
การโอนสิทธิและหน้าที่ให้แก่ผู้ให้กู้ ผู้เช่าไม่อาจทำการโอนสิทธิหน้าที่ตามสัญญา
เช่าให้แก่บุคคลอื่น หรืออนุญาตให้บุคคลอื่นใดดำเนินโครงการฯ ตามสัญญาเช่าแทนตนไม่ว่าทั้งหมดหรือ บางส่วน เว้นแต่เป็นการโอนสิทธิและหน้าที่ดังกล่าวให้แก่ผู้ให้กู้
ในกรณีที่ผู้เช่ามีการโอนสิทธิและหน้าที่ของตนภายใต้สัญญาเช่าให้แก่ผู้ให้กู้และผู้ เช่าผิดสัญญากู้ยืมเงิน จนเป็นเหตุให้ผู้ให้กู้เรียกร้องให้ผู้เช่าชำระหนี้ที่ค้างอยู่ทั้งหมดตามสัญญากู้ยืมเงิน และผู้ เช่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ให้กู้มีสิทธิในการเสนอนิติบุคคลอื่นเป็นนิติบุคคลผู้เข้า แทนที่เพื่อเข้ามาดำเนินโครงการฯ แทนผู้เช่า โดยต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) ผู้ให้กู้และผู้เช่าส่งคำบอกกล่าวถึงความจำเป็นในการเสนอนิติบุคคลผู้เข้า แทนที่ให้แก่ผู้ให้เช่าทราบโดยพลัน โดยผู้ให้เช่าจะพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อคุณสมบัติของนิติบุคคล ผู้เข้า แทนที่ดังกล่าว ภายในระยะเวลา 60 (หกสิบ) วันนับจากได้รับคำบอกกล่าวจากผู้ให้กู้และผู้เช่า
(2) ผู้ให้กู้และผู้เช่าต้องแสดงหลักฐานต่อผู้ให้เช่าจนเป็นที่พอใจว่านิติบุคคลผู้เข้า แทนที่ดังกล่าวมีสถานะทางการเงินและมีความสามารถทางเทคนิคเป็นที่น่าเชื่อถือเพียงพอที่จะเข้าปฏิบัติงาน และรับภาระหน้าที่ของผู้เช่าตามสัญญาเช่า ทั้งนี้ นิติบุคคลผู้เข้าแทนที่จะต้องรับภาระชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ ที่ ผู้ให้เช่ามีสิทธิได้รับจากผู้เช่า และต้องมีความสามารถในการชำระเงินใด ๆ ที่ผู้เช่ามีความผูกพันจะต้องชำระ ให้แก่ผู้ให้เช่า ซึ่งยังค้างชำระอยู่ก่อนหรือในขณะที่เข้าแทนที่นั้น
(3) ในกรณีที่ผู้ให้เช่าให้ความเห็นชอบนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ตามข้อ 11.3.2 (1) แล้ว นิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ดังกล่าวจะเข้ารับสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าแทนผู้เช่า ซึ่งในกรณีนี้ ผู้เช่าจะโอน ทรัพย์สินของโครงการฯ ทั้งหมดให้แก่นิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ในทันที และให้ถือว่าการที่ผู้ให้เช่าให้ความเห็นชอบ นิติบุคคลผู้เข้าแทนที่เป็นการอนุมัติการโอนทรัพย์สินของโครงการฯ ให้กับนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ไปในคราวเดียว
(4) ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม การโอนสิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าตามสัญญาเช่า ย่อมไม่ ปลดเปลื้องผู้เช่าให้หลุดพ้นจากความผิดตามสัญญาเช่าสำหรับความเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาเช่า หรือ การไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่าของผู้เช่าที่เกิดขึ้นก่อนการโอนสิทธิและหน้าที่ดังกล่าวและผู้เช่าตกลงที่จะชำระค่า สินไหมทดแทนให้แก่ผู้ให้เช่า สำหรับความเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาเช่า หรือการไม่ปฏิบัติตามสัญญา เช่าของผู้เช่า
11.3.3 การขอให้ตั้งนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ (Step-in Rights) โดยผู้ให้เช่า
การขอให้ตั้งนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่โดยผู้ให้เช่า ในกรณีที่ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าจนเป็น เหตุให้ผู้ให้เช่าสามารถใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ โดยต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) เมื่อเกิดเหตุแห่งการผิดสัญญาเช่า ผู้ให้เช่าจะแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ให้กู้ทราบ เพื่อให้ผู้ให้กู้สามารถเข้ามาเยียวยาเหตุแห่งการใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าดังกล่าวได้ ทั้งนี้ เป็นสิทธิของผู้ให้กู้ ว่าจะเข้ามาเยียวยา เหตุผิดสัญญาเช่าดังกล่าวหรือไม่ หากเหตุผิดสัญญาเช่าดังกล่าวได้รับการเยียวยา ผู้ให้เช่า จะไม่ใช้สิทธิในการเลิกสัญญาเช่า และ/หรือ
(2) หากผู้ให้เช่าหรือผู้เช่า ตกลงให้ผู้ให้กู้มีสิทธิเสนอนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ผู้เช่า ผู้ให้เช่าจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ให้กู้ทราบ โดยผู้ให้กู้ชอบที่จะเสนอนิติบุคคลอื่นเข้ามาแทนที่ภายในระยะเวลา 60 (หกสิบ) วันนับตั้งแต่ได้รับหนังสือแจ้ง ภายใต้เงื่อนไขที่ว่านิติบุคคลผู้เข้าแทนที่นั้นจะต้องแสดงหลักฐานต่อผู้ให้ เช่า จนเป็นที่พอใจว่านิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ดังกล่าวจะมีสถานะทางการเงินและมีความสามารถทางเทคนิคเป็น ที่น่าเชื่อถือเพียงพอที่จะเข้าปฏิบัติงานและรับภาระหน้าที่ตามสัญญาเช่า โดยให้ผู้ให้เช่าให้ความเห็นชอบนิติ บุคคลผู้เข้าแทนที่ภายใน 60 (หกสิบ) วัน นับจากที่ได้รับแจ้งการเสนอชื่อนิติบุคคลที่เข้าแทนที่จากผู้ให้กู้ ทั้งนี้ นิติบุคคลผู้เข้าแทนที่จะต้องรับภาระชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ ที่ ผู้ให้เช่า มีสิทธิได้รับจากผู้เช่าและจะต้องชำระ เงินใด ๆ ที่ผู้เช่ามีความผูกพันต้องชำระแก่ผู้ให้เช่า ซึ่งค้างชำระอยู่ก่อนหรือในขณะที่เข้าแทนที่นั้น
(3) ในกรณีที่ผู้ให้เช่าได้ให้ความเห็นชอบตามข้อ 11.3.3 (2) แล้ว นิติบุคคลผู้เข้า แทนที่จะเข้ารับสิทธิประโยชน์ทั้งหมดและรับภาระหน้าที่ที่มีต่อผู้ให้เช่า ตามสัญญาเช่าแทนผู้เช่า ซึ่งในกรณีนี้ นิติบุคคลผู้เข้าแทนที่จะต้องรับโอนสินทรัพย์และสิทธิต่าง ๆ ที่ได้มาตามสัญญาเช่าทั้งหมดในทันทีและให้ถือว่า ผู้ให้เช่าอนุมัติการโอนดังกล่าว
(4) ในกรณีที่ผู้ให้เช่า มิได้ให้ความเห็นชอบนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ภายในกำหนด ตามข้อ ข้อ 11.3.3 (2) และผู้ให้กู้มิได้เสนอนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่รายใหม่ให้ผู้ให้เช่าพิจารณา หรือผู้ให้กู้มิได้ เสนอนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ภายในระยะเวลาตามข้อ 11.3.3 (2) ให้ถือว่าผู้ให้กู้ไม่ประสงค์ที่จะเสนอนิติบุคคลผู้ เข้าแทนที่อีกต่อไป
(5) นิติบุคคลผู้เข้าแทนที่จะต้องปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของผู้เช่าตามสัญญาเช่า หากนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ปฏิบัติผิดสัญญาเช่า ผู้ให้กู้มีสิทธิเสนอนิติบุคคลรายใหม่ให้เข้าแทนที่นิติบุคคลผู้เข้า แทนที่รายเดิมได้ และนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่รายใหม่นี้ปฏิบัติผิดสัญญาเช่าอีก ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า ได้ทันที โดยผู้ให้กู้ไม่มีสิทธิเสนอนิติบุคคลผู้เข้าแทนที่ได้อีก
11.4 การจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สิน ในกรณีที่ผู้ให้เช่าประสงค์จะจำหน่ายจ่ายโอนที่ดินผู้ให้เช่าตกลงจะให้ผู้เช่าได้สิทธิในการซื้อ
ขายที่ดินนี้ก่อนบุคคลอื่น โดยจะตกลงราคาและทำสัญญาซื้อขายกันอีกครั้งหนึ่ง โดยผู้ให้เช่าต้องให้โอกาสแก่ผู้ เช่าที่จะซื้อที่ดินก่อน โดยบอกกล่าวเป็นหนังสือพร้อมทั้งแจ้งราคาซึ่งผู้ให้เช่าประสงค์ที่จะขายให้แก่ผู้เช่าทราบ หากผู้เช่าปฏิเสธข้อเสนอของผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิจำหน่ายจ่ายโอนที่ดินให้แก่บุคคลภายนอกในราคาไม่ต่ำ กว่าราคาที่เสนอขายให้แก่ผู้เช่า และมีเงื่อนไขด้วยว่า ถ้าในกรณีที่อยู่ในระหว่างกำหนดอายุการเช่าตามสัญญา เช่าฉบับนี้ บุคคลภายนอกดังกล่าวต้องให้สัญญาเป็นหนังสือที่จะปฏิบัติและผูกพันตามข้อกำหนด และเงื่อนไข ทั้งปวงของสัญญาเช่าฉบับนี้
ข้อ 12 การดูแลรักษาและซ่อมแซม
12.1 ผู้เช่าสัญญาว่าจะรักษาบริเวณที่ดินให้เรียบร้อย ไม่กระทำการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความ เสียหายหรือเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลอื่นที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่ดิน หรือให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย กับยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ของผู้ให้เช่าตามความที่ กล่าวในข้อนี้ทุกประการ และจะไม่นำป้ายโฆษณาใด ๆ มาติดตั้งในบริเวณพื้นที่โครงการฯ หรือภายนอกอาคาร และสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในที่ดินเป็นอันขาด นอกจากป้ายโฆษณาโครงการฯ ของผู้เช่าในที่ดิน เว้นแต่ได้รับความ ยินยอมจากผู้ให้เช่า รวมทั้งการดำเนินการใด ๆ ที่ไม่ขัดและไม่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรของผู้ให้เช่า
12.2 ผู้เช่ามีหน้าที่รับผิดชอบจัดทำแผนการบำรุงรักษาเป็นรายปี และแผนการปรับปรุงใหญ่ อาคารและสิ่งปลูกสร้างตามระยะเวลาที่เหมาะสมและได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่า
อีกทั้งในการดำเนินงานผู้เช่ามีหน้าที่บำรุงรักษาอาคารและสิ่งปลูกสร้าง และสิ่งปลูกสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวก ส่วนควบของที่ดิน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของอาคารและสิ่งปลูกสร้างนั้นให้อยู่ในสภาพที่ ดีและใช้การได้ตลอดเวลา และต้องจัดทำแผนการบำรุงรักษารายปี และแผนการปรับปรุงใหญ่อาคารและสิ่ง ปลูกสร้าง โดยต้องนำเสนอแผนทุก ๆ ปีหรือภายใน 30 (สามสิบ) วัน ของวันเริ่มต้นสัญญาเช่าในแต่ละปี ทั้งนี้ แผนการบำรุงรักษาและแผนการปรับปรุงใหญ่อาคารและสิ่งปลูกสร้างต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่า
12.3 ผู้เช่าต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ซ่อมแซม ที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้าง และ อุปกรณ์ รวมถึงส่วนควบของที่ดิน ให้อยู่ในสภาพใช้การได้ดีตลอดอายุสัญญาเช่า ตลอดจนต้องกำจัดสิ่งกีด ขวางการดำเนินงานต่าง ๆ ในบริเวณที่ดินด้วยทุนทรัพย์ของผู้เช่าเองทั้งสิ้น จนครบกำหนดระยะเวลาการเช่า ตามข้อ 3 หรือสัญญาเช่าฉบับนี้สิ้นสุดลงตามข้อ 22 ผู้เช่าจะต้องส่งมอบทรัพย์สินหรือที่ดินแล้วแต่กรณีตามข้อ
23.1 ให้แก่ผู้ให้เช่าในสภาพเรียบร้อยดังเดิม ทั้งนี้จะไม่ขุดดิน ขนย้ายดิน ออกนอกที่ดินหรือยอมให้ผู้อื่นทำการ ดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือ
12.4 ในกรณีที่ผู้เช่าไม่ทำหน้าที่ในการบำรุงรักษาทรัพย์สินตามที่กำหนดไว้ในข้อ 12.1 และ 12.2 ให้ผู้ให้เช่า ทำหนังสือตักเตือนและให้แก้ไข หากผู้เช่าไม่ดำเนินการหรือดำเนินการล่าช้า ผู้ให้เช่ามีสิทธิในการ เข้าดำเนินการเองหรือให้บุคคลภายนอกมาดำเนินการด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่า หรือผู้ให้เช่าริบหรือบังคับจาก หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาได้ในทันที โดยผู้เช่าไม่มีสิทธิ์โต้แย้งหรือคัดค้านใด ๆ โดยมูลค่าการ บำรุงรักษาที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามผลการประเมินของที่ปรึกษาอิสระที่ผู้ให้เช่าจัดจ้างตามข้อ 8 และใน กรณีทหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาไม่เพียงพอ ผู้ให้เช่าสามารถเรียกร้องจากผู้เช่าเพิ่มเติมจากผู้เช่าได้อีก
12.5 กรณีที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนควบของที่ดิน อุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ทั้งหมด หรือส่วนใดส่วนหนึ่งชำรุด เสียหาย หรือสูญหายไม่ว่าด้วยเหตุใดในระหว่างสัญญาเช่า ให้ผู้เช่าทำการซ่อมแซม ความชำรุดหรือความเสียหายเช่นว่านั้น เปลี่ยนใหม่ หรือหามาทดแทนอุปกรณ์และระบบที่สูญหายไปนั้นโดย ไม่ชักช้า โดยให้แก้ไขปัญหาอุปสรรค ความเสียหายที่เกิดต่อกิจการ และซ่อมแซมทรัพย์สินของผู้ให้เช่า หรือ บุคคลที่สามให้กลับคืนสู่สภาพปกติทันที ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่า ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามทรัพย์สินดังกล่าวให้ตก เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทั้งสิ้นเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่านี้
ข้อ 13 การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือก่อสร้างเพิ่มเติม
13.1 กรณีผู้เช่าจะรื้อถอน โยกย้าย ปลูกสร้างเพิ่มเติม ต่อเติม ดัดแปลงหรือตกแต่งส่วนหนึ่งส่วน ใดของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนควบของที่ดิน ตลอดจนรายการอื่นตามโครงการฯ ในผังรวมและผังเฉพาะ ให้ผิดไปจากแบบแปลนการก่อสร้าง รายละเอียดและรายการประกอบแบบแปลนการก่อสร้างที่ได้รับความ เห็นชอบจาก ผู้ให้เช่าไว้แล้ว ผู้เช่าต้องแจ้งความจำนงพร้อมรายละเอียดแผนผัง ประมาณการค่าใช้จ่าย กำหนดวันแล้วเสร็จสิ่งปลูกสร้างที่จะขอรื้อถอน โยกย้าย ก่อสร้างเพิ่มเติม ต่อเติม ดัดแปลง หรือตกแต่ง และ ข้อเสนอผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มเติม ซึ่งจะได้ทำความตกลงเป็นกรณีไป เมื่อ ผู้ให้เช่าพิจารณาอนุญาตเป็น หนังสือแล้ว ผู้เช่าจะต้องยื่นขอและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องด้วยจึงจะดำเนินการได้ บรรดาสิ่งดัดแปลง ต่อเติม หรือสิ่งปลูกสร้างขึ้นใหม่ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ ผู้ให้เช่าเมื่อ สิ้นสุดสัญญาเช่านี้ที่กำหนดไว้
13.2 ผู้ให้เช่ามีสิทธิขอให้มีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการให้บริการอันเนื่องมาจากการ เปลี่ยนแปลงจากเหตุสุดวิสัย หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หรือเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการที่ แท้จริงของประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่ง ผู้ให้เช่าและผู้เช่าจะทำการตกลงกันในเรื่องผลกระทบทางด้านการเงิน เช่น ค่าเช่าในระยะเวลาที่เหลือ ระยะเวลาการจัดหาประโยชน์คงเหลือ เป็นต้น
13.3 ในระหว่างระยะเวลาการเช่า หากมีการแก้ไขกฎหมายฉบับใดอันเป็นผลให้ต้องมีการแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือการก่อสร้างเพิ่มเติมอาคารและสิ่งปลูกสร้างเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ เช่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าวทั้งหมด
การขอแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือการก่อสร้างเพิ่มเติม อาคารและสิ่งปลูกสร้างใด ๆ เพิ่มเติม ตามวรรคแรกต้องไม่ทำให้พื้นที่ใช้สอยและหรือมูลค่าอาคารและสิ่งปลูกสร้างลดลงจากเดิม หาก เพิ่มขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่าง ผู้เช่าต้องเสียค่าตอบแทนตามที่ผู้ให้เช่ากำหนด และยินยอมปฏิบัติ ตามเงื่อนไขของผู้ให้เช่าทุกประการ
บรรดาสิ่งดัดแปลง ต่อเติม หรือสิ่งปลูกสร้างขึ้นใหม่ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามให้ตกเป็น กรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าเมื่อสิ้นสุดสัญญานี้
13.4 ผู้ให้เช่าอาจขอให้ผู้เช่าทำการแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือการก่อสร้างเพิ่มเติมโดยมี การเปลี่ยนแปลงแบบก่อสร้างหรืองานในส่วนใด ๆ ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งผู้ให้เช่าเห็นว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์ สาธารณะ เพื่อประโยชน์ของรัฐหรือความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และประโยชน์ของผู้ให้เช่า ทั้งนี้ หากมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นให้เป็นความรับผิดชอบของผู้ให้เช่า โดยให้ผู้เช่า นำเสนอประมาณการค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นต่อผู้ให้เช่าเพื่อให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ หากเกิดความล่าช้าของการ ดำเนินโครงการฯ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบก่อสร้าง หรืองานในส่วนใด ๆ ที่ผู้ให้เช่าร้องขอผู้เช่าต้อง เสนอขอแก้ไขกำหนดเวลาการก่อสร้างไปพร้อมกัน
ในระหว่างการก่อสร้าง หากมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ผู้เช่าอาจร้องขอแก้ไข เปลี่ยนแปลงแบบแปลนการก่อสร้างหรืองานในส่วนใด ๆ ทั้งนี้ หากมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ให้เป็นความรับผิดชอบของผู้เช่า หากเกิดความล่าช้าของการดำเนินโครงการฯ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงแก้ไข แบบแปลนการก่อสร้างหรืองานในส่วนใด ๆ ที่ผู้เช่าร้องขอ ให้ผู้เช่านำเสนอขอแก้ไขกำหนดเวลาการก่อสร้างมา ด้วยพร้อมกัน โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่า
วิธีการและกำหนดเวลาการให้ความเห็นชอบกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและความล่าช้าของการ ดำเนินโครงการฯ เพราะการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบแปลนการก่อสร้าง หรืองานส่วนหนึ่งส่วนใดเพราะการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีตามที่ผู้เช่าร้องขอข้างต้น ให้เป็นไปตามรายละเอียดที่ปรากฏในสัญญาเช่าที่ดินเพื่อ ปลูกสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง เลขที่ ....................... ฉบับลงวันที่ ..........................
ในกรณีผู้เช่าทำการก่อสร้าง ต่อเติม ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง ที่มีการ เปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบก่อสร้าง หรืองานในส่วนใดๆ โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่า ปรับตามข้อ 16.2
13.5 ผู้ให้เช่ามีสิทธิขอให้มีปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการให้บริการอันเนื่องมาจากการ เปลี่ยนแปลงจากเหตุสุดวิสัย หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หรือเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการที่ แท้จริงของประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งผู้ให้เช่าและผู้เช่าจะทำการตกลงกันในเรื่องผลกระทบทางด้านการเงิน เช่น ค่าเช่าในระยะเวลาที่เหลือ ระยะเวลาการจัดหาประโยชน์คงเหลือ เป็นต้น
13.6 ผู้ให้เช่าอาจขอให้ผู้เช่าทำการปรับปรุงหรือการเปลี่ยนแปลงการให้บริการของผู้เช่าเพื่อ ประโยชน์ของผู้ให้เช่า โดยให้ผู้เช่ามีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากผู้ให้เช่า เพราะการปรับปรุง/เปลี่ยนแปลง ดังกล่าว ทั้งนี้ผู้เช่าและผู้ให้เช่าจะหาข้อสรุปร่วมกันให้ได้จำนวนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นที่เหมาะสม
13.7 กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในข้อกฎหมาย หรือมีการออกกฎหมายใหม่ รวมทั้งมีมติ คณะรัฐมนตรีใด ๆ ซึ่งเป็นผลโดยตรงทำให้เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการดำเนินการและต่อรายได้ หรือ ค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ และ/หรือค่าใช้จ่ายของผู้เช่าที่คาดเห็นได้ในระหว่าง สัญญาเช่า แล้ว เมื่อผู้เช่าร้องขอโดยจัดส่งหนังสือบอกกล่าวให้แก่ผู้ให้เช่า ให้ผู้ให้เช่าทำการเจรจากับผู้เช่าเพื่อแก้ไข ผลกระทบดังกล่าว โดยอาจให้ผู้เช่ามีสิทธิได้รับค่าชดเชยอย่างเป็นธรรมและสมเหตุสมผล ซึ่งต้องพิจารณาจาก ความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่รวมถึงความเสียหายจากการลดลงของกำไร
ข้อ 14 หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาเช่า
14.1 ในขณะทำสัญญาเช่านี้ ผู้เช่าได้นำหลักประกันเป็น.................. เป็นจำนวนเงิน ..............
บาท (.....................) ซึ่งเท่ากับร้อยละ 5 (ห้า) ของค่าเช่าตลอดโครงการฯ ตามสัญญาเช่า ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมการเช่า ค่าเช่า และอื่น ๆ มามอบให้แก่ผู้ให้เช่าเพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาเช่านี้
หลักประกันที่ผู้เช่านำมามอบให้ตามวรรคหนึ่ง จะต้องมีอายุครอบคลุมความรับผิดทั้งปวง ของผู้เช่าตลอดอายุสัญญาเช่า ถ้าหลักประกันที่ผู้เช่านำมามอบให้ดังกล่าวลดลงหรือเสื่อมค่าลง หรือมีอายุไม่ ครอบคลุมถึงความรับผิดของผู้เช่าตลอดอายุสัญญาเช่า ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ผู้เช่าต้องหาหลักประกันใหม่ หรือหลักประกันเพิ่มเติมให้มีจำนวนครบถ้วนตามวรรคหนึ่งมามอบให้แก่ผู้ให้เช่าภายใน …......... ( )
วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า หากผู้เช่าไม่นำมาวางภายในกำหนดดังกล่าว ผู้ให้เช่ามี สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้
หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาจะคืนให้แก่คู่สัญญาหรือผู้ค้ำประกันโดยไม่มีดอกเบี้ย อย่างช้าไม่เกิน 30 (สามสิบ) วัน นับจากวันที่ผู้เช่าส่งมอบทรัพย์สินของโครงการฯ ให้แก่ผู้ให้เช่าเรียบร้อยแล้ว และผู้เช่าพ้นจากข้อผูกพันตามข้อสัญญาเช่าแล้ว ทั้งนี้ผู้เช่าจะต้องไม่มีหนี้สิ้นหรือภาระความรับผิดชอบใด ๆ ค้างชำระแก่ผู้ให้เช่า
กรณีที่ผู้เช่าส่งมอบทรัพย์สินของโครงการฯ ให้กับผู้ให้เช่าไม่เรียบร้อย ไม่ครบสมบูรณ์ตามที่ กำหนดไว้ในสัญญาเช่านี้ และในกรณีที่ผู้เช่ามีหนี้สินภาระความรับผิดชอบค้างชำระอยู่กับผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าจะ ไม่คืนหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้ไปจนกว่าผู้เช่าได้ดำเนินการส่งมอบทรัพย์สินในโครงการฯ ได้ เรียบร้อย ชำระหนี้สิน ปลดเปลื้องภาระความรับผิดชอบทั้งปวงแล้ว
14.2 หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้ ถ้าผู้ให้เช่าสั่งริบหรือบังคับจากหลักประกันทั้งหมด หรือบางส่วน ผู้เช่าต้องนำหลักประกันมาเพิ่มให้ครบจำนวนหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาตามข้อ 14.1 ใน กรณีดังนี้
(1) กรณีที่ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าและผู้ให้เช่ามิได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า โดยผู้ให้เช่าได้บอก กล่าวการผิดสัญญาเช่านั้นให้ผู้เช่าทราบเป็นหนังสือแล้ว หากผู้ให้เช่ามิได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาเช่า ให้ผู้เช่าทำการ เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญาเช่าโดยชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่า หากผู้เช่าเพิกเฉยไม่ ชำระค่าเสียหายดังกล่าว ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าริบหรือบังคับจากจากหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาได้ ทันที โดยผู้เช่าสละสิทธิในการโต้แย้งหรือคัดค้านอย่างสิ้นเชิง
(2) กรณีที่ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าและผู้ให้เช่าใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า ให้ผู้ให้เช่าริบหรือบังคับ จากหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาเต็มจำนวนได้ทันทีโดยมิต้องบอกกล่าวทวงถาม
14.3 หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้ต้องออกให้โดยธนาคารภายในประเทศซึ่งเป็นธนาคาร ที่น่าเชื่อถือและได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่าแล้ว หรือเป็นพันธบัตรรัฐบาลไทย โดยหลักประกันดังกล่าว จะต้องมีผลใช้ได้นับจากวันที่วางหลักประกันไปจนตลอดระยะเวลาการจัดหาประโยชน์ ตามข้อ 3.1
ข้อ 15 การประกันภัย
15.1 ตลอดระยะเวลาจัดหาประโยชน์ ผู้เช่าต้องจัดทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัยที่ผู้ให้เช่า ให้ความเห็นชอบ โดยมีความคุ้มครองเต็มมูลค่าทรัพย์สินของโครงการฯ โดยผู้ให้เช่าเป็นผู้รับผลประโยชน์ ดังต่อไปนี้
(1) กรมธรรม์ประกันภัยหลัก (Master Insurance Policy) โดยวงเงินคุ้มครองไม่น้อย กว่าวงเงินค่าก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งอุปกรณ์และระบบที่เป็นส่วนควบของที่ดินทั้งหมด ตามที่ กำหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าหมายเลข […..] (กรมธรรม์ประกันภัยหลัก) และ
(2) ประกันภัยวิชาชีพ (Professional Indemnity Insurance) สำหรับการออกแบบ และควบคุมงานด้วย โดยผู้เช่าเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัย เพื่อประกันความรับผิดชอบของผู้เช่าหรือผู้รับจ้างของ ผู้เช่า และ
(3) ประกันภัยสำหรับพนักงานและลูกจ้างของผู้เช่าหรือผู้รับจ้างของผู้เช่าซึ่งปฏิบัติงาน ในการจัดหาประโยชน์โครงการฯ และ
(4) ประกันความรับผิดชอบจากการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตต่อบุคคลใด ๆ และเพื่อประกัน ความเสียหายที่อาจเกิดต่อทรัพย์สินของผู้ให้เช่า หรือเพื่อประกันความเสียหายที่อาจเกิดต่อบุคคลที่สาม (Third Party Liabilities) อันเป็นผลมาจากการจัดหาประโยชน์ ดำเนินงานหรือการให้บริการของผู้เช่า โดย วงเงินประกันเพื่อคุ้มครองความเสียหายต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งต้องเป็นไปตามที่ผู้ให้เช่าให้ความเห็นชอบ
ผู้เช่าต้องส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยของสัญญาเช่าที่ดินเพื่อดำเนินการจัดหาประโยชน์ ให้แก่ผู้ให้เช่า ก่อนวันเริ่มต้นสัญญาเช่าที่ดินเพื่อดำเนินการจัดหาประโยชน์ และให้การคุ้มครองต่อเนื่องจน สิ้นสุดสัญญา
ในทันทีที่เริ่มทำการจัดหาประโยชน์ และดำเนินการจนกว่าจะครบตามสัญญาเช่า ไม่ว่าจะ เป็นกรณีอุบัติเหตุแก่บุคคลหรือทรัพย์สินไว้ตลอดอายุสัญญาเช่า ในวงเงินความคุ้มครองที่ผู้ให้เช่าเห็นชอบ โดย ระบุให้ผู้ให้เช่าเป็นผู้รับประโยชน์ และต้องมอบกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้ให้เช่าก่อนวันเริ่มต้นการจัดหา ประโยชน์ตามข้อ 3 และให้การคุ้มครองต่อเนื่องจนกว่าสัญญาเช่าสิ้นสุด
ทั้งนี้ ให้ประเภทของการประกันภัยและจำนวนเงินที่เอาประกันภัยให้คุ้มครองเต็มจำนวน มูลค่าทรัพย์สินของโครงการฯ หากผู้เช่าทำกรมธรรม์ประกันภัยเป็นรายปี ผู้เช่าจะต้องส่งมอบกรมธรรม์ ประกันภัยให้แก่ผู้ให้เช่า ภายในกำหนด 15 (สิบห้า) วัน นับจากวันเริ่มต้นของการเช่าแต่ละปี
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น ผู้เช่าจะต้องไม่กระทำการใด ๆ อันจะทำให้การประกันภัยตกเป็น โมฆะหรือใช้บังคับไม่ได้ด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม และจะต้องปฏิบัติตามคำชี้แจงแนะนำของผู้ให้เช่า หรือบริษัท ประกันภัยอย่างเคร่งครัดในกรณีที่เกิดเหตุตามที่ประกันภัยไว้
15.2 ตลอดระยะเวลาสัญญาเช่านี้ ผู้เช่าต้องจัดให้มีการประกันภัยเพื่อคุ้มครองอาคารและสิ่ง ปลูกสร้าง รวมทั้งอุปกรณ์และระบบที่เป็นส่วนควบของที่ดินทั้งหมดในลักษณะการเสี่ยงภัยทุกชนิด (All Risks Insurance Policy) รวมถึงการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก การประกันภัยการก่อการร้าย และการประกันภัย ความรับผิดชอบตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ในวงเงินคุ้มครองเต็มจำนวน มูลค่าทรัพย์สินของโครงการฯ กับบริษัทประกันภัยที่ผู้ให้เช่าให้ความเห็นชอบ โดยผู้ให้เช่าเป็นผู้รับประโยชน์ และผู้เช่าเป็นฝ่ายชำระค่าเบี้ยประกันภัย การประกันภัยต้องดำเนินการตลอดระยะเวลาตามสัญญาเช่านี้
15.3 ตลอดระยะเวลาสัญญาเช่านี้ ให้ผู้เช่าทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัยที่ผู้ให้เช่าให้ความ เห็นชอบ สำหรับคุ้มครองพนักงานและลูกจ้างของผู้เช่าซึ่งปฏิบัติงานในขอบเขตการบริการของผู้เช่า โดยผู้เช่า เป็นผู้ชำระเบี้ยประกัน การประกันภัยดังกล่าวจะต้องคุ้มครองถึงความรับผิดทั้งหมดของผู้เช่า และครอบคลุม ถึงความรับผิดชอบทั้งหมดของผู้รับจ้างของผู้เช่า สำหรับการชดใช้ค่าเสียหายตามกฎหมายที่เกิดจากอุบัติเหตุ หรือความบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของพนักงานและลูกจ้าง ตลอดจนบุคคลอื่นใดจากการปฏิบัติงานหรือการ ให้บริการของผู้เช่า หรือผู้รับจ้างของผู้เช่า ทั้งนี้ ผู้เช่าจะต้องส่งมอบสำเนากรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้ให้เช่า ด้วย
15.4 ตลอดระยะเวลาสัญญาเช่านี้ ระยะเวลาดำเนินธุรกิจของโครงการฯ ตามกำหนดในข้อ 3.1
ผู้เช่าจะต้องจัดทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัยที่ผู้ให้เช่าให้ความเห็นชอบ โดยให้ผู้เช่าเป็นผู้ชำระเบี้ย ประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายหรือความสูญเสียที่อาจเกิดต่อทรัพย์สินของบุคคลที่สาม (Third Party Liabilities) ความบาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่อาจเกิดต่อบุคคลที่สาม อันเป็นผลมาจากการดำเนินงานหรือการ ให้บริการของผู้เช่าตามสัญญาเช่านี้ โดยวงเงินประกันเพื่อคุ้มครองความเสียหายต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้งต้อง เป็นไปตามที่ผู้ให้เช่าให้ความเห็นชอบ
15.5 ในกรณีที่ผู้ให้เช่าได้ชดใช้ค่าเสียหายสำหรับความเสียหาย ความสูญเสีย ความบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิตให้แก่บุคคลที่สามหรือบุคคลที่มีสิทธิได้รับค่าเสียหายดังกล่าวทั่วไปแล้ว ผู้เช่าจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย เช่นว่านั้นคืนให้แก่ผู้ให้เช่า ภายใน 15 (สิบห้า) วันนับแต่วันที่ผู้เช่าได้รับคำบอกกล่าวถึงการนั้นจากผู้ให้เช่า ทั้งนี้ผู้เช่าจะต้องทำการส่งมอบสำเนากรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ผู้ให้เช่าด้วย
15.6 ผู้เช่าจะต้องไม่กระทำการใด ๆ อันจะทำให้การประกันภัยตกเป็นโมฆะหรือใช้บังคับไม่ได้ ด้วยเหตุหนึ่งเหตุใด และจะต้องปฏิบัติตามคำชี้แนะของผู้ให้เช่าหรือบริษัทประกันภัยอย่างเคร่งครัด ในกรณีที่ เกิดเหตุตามที่ได้ประกันภัยไว้
15.7 ในระหว่างดำเนินการจัดหาประโยชน์ หากอาคารและสิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์ และส่วนควบของ ที่ดิน ได้รับความเสียหายเพราะวินาศภัยใด ๆ ผู้ให้เช่าจะนำเงินค่าทดแทนที่ได้รับจากบริษัทประกันภัยมอบ ให้กับผู้เช่ามาใช้ในการซ่อมแซม หรือก่อสร้างทดแทนใหม่แล้วแต่กรณี โดยผู้เช่าต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไข และให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ผู้ให้เช่ากำหนดด้วย
ข้อ 16 ค่าปรับ
16.1 หากพ้นกำหนดเวลาชำระค่าเช่า ค่าส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ค่าธรรมเนียม การจดทะเบียน ค่าฤชาธรรมเนียมในการทำสัญญาเช่า ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือภาษีอื่นใด ตลอดจน ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวกับที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้าง ตาม ข้อ 5.2 ข้อ 5.3 และข้อ 21.6 ผู้เช่ายินยอมชำระค่าปรับ และ/หรือดอกเบี้ยให้แก่ผู้ให้เช่า ในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด ณ ช่วงเวลา ดังกล่าว แต่ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราร้อยละ 1.5 (หนึ่งจุดห้า) ต่อเดือน ของจำนวนเงินที่ค้างชำระตลอดระยะเวลาที่ ผิดนัดนั้น ในการคำนวณระยะเวลาคิดค่าปรับโดยเศษของเดือนให้นับเป็น 1 (หนึ่ง) เดือน โดยการเรียกค่าปรับ และ/หรือดอกเบี้ยดังกล่าวไม่กระทบต่อสิทธิการบอกเลิกสัญญาเช่าและสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ของผู้ให้ เช่า
16.2 กรณีผู้เช่าทำการก่อสร้าง ต่อเติม ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง ที่มีการ เปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบแปลนการก่อสร้าง หรืองานในส่วนใด ๆ โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า ผู้เช่ายินยอมให้ ผู้ให้เช่าปรับตามเงื่อนไข ดังนี้
16.2.1 ถ้าผู้เช่าก่อสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่า จะเรียกเก็บค่าปรับในอัตราร้อยละ 5 (ห้า) ของมูลค่าอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ทั้งนี้ การเรียกเก็บค่าปรับ ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน) ต่อครั้ง
16.2.2 ถ้าผู้เช่าก่อสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ โดยได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าโดย ถูกต้องแล้ว แต่ในภายหลังผู้เช่าต่อเติม หรือดัดแปลงอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ โดยมิได้รับอนุญาต ผู้ให้เช่า จะเรียกเก็บค่าปรับในอัตราร้อยละ 5 (ห้า) ของมูลค่าที่ต่อเติมหรือดัดแปลง ทั้งนี้ การเรียกเก็บค่าปรับไม่ต่ำ กว่า 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน) ต่อครั้ง
16.2.3 ถ้าผู้เช่าต่อเติมหรือดัดแปลงอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างโดยมิได้รับอนุญาต ผู้ให้เช่าจะ เรียกเก็บค่าปรับในอัตราร้อยละ 5 (ห้า) ของมูลค่าที่ต่อเติมหรือดัดแปลง ทั้งนี้ การเรียกเก็บค่าปรับไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน) ต่อครั้ง
16.2.4 ถ้าผู้เช่ารื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างไม่ว่าทั้งหมด หรือแต่บางส่วนโดยมิได้รับ อนุญาต ผู้ให้เช่าจะเรียกเก็บค่าปรับในอัตราร้อยละ 5 (ห้า) ของมูลค่าอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ถูกรื้อถอน ทั้งนี้ การเรียกเก็บค่าปรับไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท (ห้าพันบาทถ้วน) ต่อครั้ง โดยยังไม่รวมถึงค่าเสียหายอื่น
16.2.5 ถ้าผู้เช่าลงมือก่อสร้างอาคารก่อนเจ้าหน้าที่ทำการปักผังอาคาร ผู้ให้เช่าจะเรียกเก็บ ค่าปรับในอัตราร้อยละ 10 (สิบ) ของมูลค่าที่ได้ดำเนินการไปก่อนเจ้าหน้าที่ทำการปักผังอาคาร ทั้งนี้ การเรียก เก็บค่าปรับไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ต่อครั้ง
16.2.6 ถ้าผู้เช่าเปลี่ยนรายการก่อสร้าง รื้อถอน ต่อเติม หรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งหรือ ทั้งหมดของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างก่อนได้รับอนุญาตหรือโดยไม่มีสิทธิจะกระทำได้ ผู้ให้เช่าจะเรียกเก็บค่าปรับ ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 (สิบ) ของมูลค่าที่เปลี่ยนแปลงรายการก่อสร้าง รื้อถอน ต่อเติม หรือดัดแปลง และ ถ้าทำให้มูลค่าของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างลดลง ผู้ให้เช่าจะเรียกเก็บเงินทดแทนราคามูลค่าที่ลดลงอีกส่วนหนึ่งด้วย
16.2.7 กรณีการก่อสร้าง ต่อเติม ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง ตามข้อ 16.2.1, 16.2.2, 16.2.3, 16.2.4, 16.2.5 และ 16.2.6 เป็นเหตุให้อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างขาดความมั่นคง แข็งแรงอันอาจจะเป็นอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน ถ้าเห็นว่าสามารถเสริมความมั่นคงได้ จะให้ผู้เช่า เสริมความมั่นคงด้วยทุนทรัพย์ของผู้เช่าเอง และจะเรียกเก็บค่าปรับจากมูลค่าอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างก่อน เสริมความมั่นคง
16.2.8 กรณีที่ไม่อาจดำเนินการตามข้อ 16.2.7 หรือทำให้ขาดความสวยงาม หรือมีเหตุอื่น ใดเพื่อประโยชน์ของผู้ให้เช่า ให้ผู้เช่าทำให้ที่ดิน อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นกลับคืนคงสภาพเดิมด้วยทุนทรัพย์ ของผู้เช่าเอง และให้เรียกเก็บค่าปรับตามข้อ 16.2.1, 16.2.2, 16.2.3, 16.2.4, 16.2.5 หรือ 16.2.6 รวมทั้ง ค่าเสียหายอื่นด้วย
16.3 สัญญาเช่าทุกข้อถือเป็นสาระสำคัญ หากผู้เช่าผิดสัญญาเช่าแม้ไม่ได้ระบุการปรับไว้ และผู้ เช่าประพฤติผิดสัญญาเช่าดังกล่าวนั้น เมื่อได้รับคำบอกกล่าวเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าแล้วไม่จัดการแก้ไขให้ ถูกต้องตามสัญญาเช่าภายในระยะเวลาที่ผู้ให้เช่ากำหนด ผู้เช่ายินยอมให้ปรับเป็นจำนวนเงินเท่ากับค่าเช่า 1 (หนึ่ง) ปีของอัตราค่าเช่าที่พึงต้องชำระตามสัญญาเช่าในขณะนั้น
ข้อ 17 ที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลาย
17.1 กรณีที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างเสียหายไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด อันเนื่องมาจากเหตุ สุดวิสัย หรือเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือความบกพร่อง หรือประมาทเลินเล่อของผู้เช่าหรือผู้ครอบครองที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้าง จนทำให้ที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างไม่อาจใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของสัญญา เช่านี้ได้อีกต่อไป ในกรณีข้างต้นผู้เช่าจะต้องแจ้งความประสงค์ของผู้เช่าว่าต้องการกลับเข้าซ่อมแซมที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหาย หรือต้องการให้สัญญาเช่านี้สิ้นสุดลง ให้ผู้ให้เช่าทราบภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่เหตุนั้นสิ้นสุดลง
17.2 กรณีที่อาคารและสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายแต่เพียงบางส่วน ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดและ ไม่ว่าจะเกิดจากการกระทำของผู้เช่าหรือไม่ ผู้เช่ามีหน้าที่ซ่อมแซม อาคารและสิ่งปลูกสร้างให้กลับคืนสภาพดี ดังเดิมด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง
17.3 ในการซ่อมแซมที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างตามข้อ 17.1 และข้อ 17.2 ให้นำหลักการ และวิธีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือการก่อสร้างเพิ่มเติมตามข้อ 13 มาบังคับใช้โดยอนุโลม
17.4 ผู้ให้เช่าและผู้เช่าตกลงให้นำการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างตามข้อ 10 มาบังคับใช้กับ บรรดาอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกซ่อมแซม หรือก่อสร้างขึ้นใหม่ตามเหตุแห่งข้อนี้
17.5 กรณีซ่อมแซมใหม่ ให้เป็นไปตามรูปแบบโครงการฯ ที่เสนอไว้ในข้อเสนอด้านเทคนิค อย่างไรก็ตามอาจปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง โดยได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่า อย่างไรก็ ตามมูลค่าโครงการฯ โดยรวมต้องไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้เดิม โดยแยกเป็น
(1) มูลค่างานฐานรากและโครงสร้าง เป็นเงินไม่น้อยกว่า .............. บาท (………บาทถ้วน)
(2) มูลค่างานสถาปัตยกรรม เป็นเงินไม่น้อยกว่า .............. บาท (… บาทถ้วน)
(3) มูลค่างานระบบทั้งหมดภายในอาคาร เป็นเงินไม่น้อยกว่า ........... บาท (……บาทถ้วน)
(4) มูลค่างานตกแต่งภายใน เป็นเงินไม่น้อยกว่า .............. บาท (… บาทถ้วน)
(5) มูลค่างานภูมิทัศน์ เป็นเงินไม่น้อยกว่า .............. บาท (… บาทถ้วน)
(6) มูลค่าอื่น ๆ ระบุ ...................... เป็นเงินไม่น้อยกว่า .............. บาท (… บาทถ้วน)
ข้อ 18 การตรวจสอบอาคารและสิ่งปลูกสร้าง
ผู้เช่าต้องดำเนินการตรวจสอบอาคารและสิ่งปลูกสร้างให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยค่าใช้จ่ายของผู้ เช่าเองทั้งสิ้นและมีหน้าที่ต้องส่งสำเนาหนังสือรับรองการตรวจสอบอาคาร ให้ผู้ให้เช่าเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐาน ภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
ผู้เช่าต้องยินยอมให้เจ้าหน้าที่ของผู้ให้เช่าเข้าตรวจที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างได้ โดยผู้เช่าต้อง อำนวยความสะดวกและดูแลให้ความปลอดภัยตามสมควร
ข้อ 19 การรักษาความลับ
19.1 ผู้เช่าและผู้ให้เช่าตกลงจะเก็บรักษาเอกสาร สูตรการคำนวณ เทคนิควิทยาการ ความลับ ทางการค้า และข้อมูลสำคัญอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลทางธุรกิจ เทคนิค การเงิน การเศรษฐกิจ ข้อมูลของ การตลาดหรือข้อมูลด้านทรัพย์สินของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งได้รับมาในระหว่างการเจร จาต่อรองหรือ ปรึกษาหารือก่อนที่จะมีการทำสัญญาฉบับนี้ หรือภายหลังจากที่ได้มีการทำสัญญาเช่าฉบับนี้ขึ้นไว้เป็นความลับ อย่างดีที่สุด
โดยจะไม่ทำการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับต่อบุคคลภายนอกหรือใช้ข้อมูลที่เป็นความลับ เพื่อวัตถุประสงค์อื่น โดยไม่ได้รับความเห็นชอบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งก่อน เว้น แต่กฎหมายใดจะให้เปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
19.2 หน้าที่ในการเก็บรักษาข้อมูลไว้เป็นความลับดังกล่าวข้างต้นจะไม่นำมาใช้ในกรณีที่
(ก) ข้อมูลดังกล่าวเป็นที่ทราบโดยทั่วไปของสาธารณชน หรือเป็นข้อมูลที่สาธารณชนทราบ ภายหลังจากนี้ ซึ่งมิได้เกิดขึ้นจากความผิดของคู่สัญญา
(ข) บุคคลภายนอกผู้ซึ่งมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่ คู่สัญญา ทั้งนี้ เฉพาะในกรณีที่บุคคลภายนอกได้รับข้อมูลดังกล่าวโดยมิได้กระทำละเมิดต่อหน้าที่ความผูกพันใน การเก็บรักษาความลับ
(ค) ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต้องเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามคำสั่งศาลหรือรัฐบาล
ข้อ 20 การใช้ที่ดินเพื่อสาธารณชนและการเวนคืนที่ดิน
ผู้เช่ารับทราบแล้วว่าไม่มีการเวนคืนที่ดินอยู่ก่อนหรือขณะทำสัญญาเช่าฉบับนี้ หากภายหลังมี ผลกระทบที่เกิดจากนโยบายภาครัฐที่อาจจะดำเนินการในอนาคตของโครงการฯ เช่น การเวนคืนที่ดินและอื่น ๆ และปรากฏว่าที่ดินมีเนื้อที่ลดลง ผู้เช่าต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยการออกแบบและการดำเนิน โครงการฯ จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยดังกล่าว ซึ่งผู้เช่าไม่มีสิทธิและไม่เรียกร้องค่าเสียหายหรือฟ้องร้องใด ๆ จากผู้ให้เช่าทั้งสิ้น และให้มีการดำเนินการ ดังนี้
20.1 ในระหว่างอายุสัญญาเช่านี้ หากรัฐบาลจำเป็นจะใช้ที่ดินเพื่อประโยชน์แก่สาธารณชนหรือ ราชการเป็นระยะเวลาเกินกว่า 6 (หก) เดือนโดยไม่มีการเวนคืน ผู้ให้เช่ามีสิทธิระงับสัญญาเช่าไว้ชั่วคราวไม่ว่า ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือบอกเลิกสัญญาเช่านี้ได้ก่อนครบกำหนดระยะเวลาเช่าโดยไม่ถือว่าผู้ให้เช่าผิด สัญญาเช่า โดยแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 (สามสิบ) วัน และผู้เช่าตกลงจะส่งมอบ ที่ดินคืนให้แก่ผู้ให้เช่าภายในกำหนด 12 (สิบสอง) เดือน นับแต่วันที่ผู้เช่าได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
20.2 ในระหว่างอายุสัญญาเช่านี้ หากรัฐหรือหน่วยงานของรัฐได้ขอเวนคืนที่ดินตามสัญญาเชา่ นี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน อันทำให้ผู้เช่าไม่อาจใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์การเช่าได้อีกต่อไป ให้ถือว่า สัญญาเช่านี้เป็นอันสิ้นสุดทันที และผู้เช่าตกลงจะส่งมอบที่ดินคืนให้แก่ผู้ให้เช่าภายในระยะเวลาที่คู่สัญญาจะ กำหนดร่วมกัน
20.3 ในกรณีที่มีการเวนคืนที่ดินบางส่วน และทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่ามีความเห็นร่วมกันว่ายังใช้ ประโยชน์ได้ พร้อมตกลงปรับลดค่าเช่าตามข้อ 5.2 ให้ตามสัดส่วนของที่ดินและระยะเวลาการเช่าที่เหลืออยู่ โดยผู้เช่ามีหนังสือยืนยันการเช่า ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ตกลงร่วมกัน
ทั้งนี้ ผู้ให้เช่าได้รับค่าเวนคืนในส่วนของที่ดิน และผู้เช่าได้รับค่าเวนคืนในส่วนของอาคาร และสิ่งปลูกสร้างจากภาครัฐ โดยใช้ผลการประเมินค่าเวนคืนจากบริษัทประเมินมูลค่าทรัพย์สินอิสระที่ได้รับ การรับรองจากตลาดหลักทรัพย์ที่คัดเลือกโดยผู้ให้เช่าและเป็นค่าใช้จ่ายของผู้เช่า
20.4 หากสัญญาเช่าฉบับนี้สิ้นสุดลงไม่ว่าจะตามข้อ 20.1 หรือ 20.2 ผู้ให้เช่าจะคืนเงินค่าเช่าราย ปีตามข้อ 5.2 ให้แก่ผู้เช่าตามสัดส่วนของระยะเวลาการเช่าที่เหลืออยู่ ภายใต้เงื่อนไขว่า ผู้เช่าจะต้องให้ความ ร่วมมือส่งมอบที่ดินคืนในสภาพเรียบร้อยปราศจากความเสียหายใด ๆ หากผู้เช่าผิดนัดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังกล่าว ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้ายึดถือและครอบครองที่ดินได้ทันที และริบเงินค่าเช่าที่ชำระไว้ล่วงหน้า และผู้ให้เช่า มีสิทธิเรียกค่าปรับจากการส่งมอบคืนล่าช้าในอัตราที่กำหนดในข้อ 24
ข้อ 21 การชำระค่าธรรมเนียมและภาษี
21.1 ผู้เช่าเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมทางราชการ ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน ค่าฤชาธรรมเนียม ในการทำสัญญาเช่า ค่าภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างตามสัญญาเช่านี้เอง ทั้งสิ้น และนำส่งเอกสารหลักฐานการชำระให้กับผู้ให้เช่า ภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับตั้งแต่วันที่ชำระ หากผู้ให้ เช่าได้ชำระแทนผู้เช่าไปแล้วไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ผู้เช่าต้องชดใช้ให้แก่ผู้ให้เช่าทั้งสิ้นภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับ แต่วันที่ผู้ให้เช่าแจ้งให้ทราบเป็นหนังสือ หากไม่ชำระภายในกำหนด ผู้เช่าต้องชำระค่าปรับให้ผู้ให้เช่าตามข้อ 16.1
21.2 ผู้เช่าเป็นผู้รับภาระภาษีที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือภาษีอื่นใด และ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างตามสัญญาเช่านี้ อันต้องชำระให้แก่หน่วยงานราชการ หรือผู้ให้เช่าตามกำหนดเวลา โดยภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของสัญญาเช่าในปีแรก ผู้เช่าต้องชำระให้เสร็จ สิ้นภายในวันที่ทางราชการกำหนด และนำส่งเอกสารหลักฐานการชำระให้กับผู้ให้เช่า ภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับตั้งแต่วันที่ชำระ หากผู้ให้เช่าได้ชำระแทนผู้เช่าไปแล้วไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ผู้เช่าต้องชดใช้ให้แก่ผู้ให้เช่าทั้งสิ้น ภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่ผู้ให้เช่าแจ้งให้ทราบเป็นหนังสือ หากไม่ชำระภายในกำหนด ผู้เช่าต้องชำระ ค่าปรับให้ผู้ให้เช่าตามข้อ 16.1
21.3 ค่าธรรมเนียมและภาษีอื่น ๆ (ถ้ามี) หากต้องชำระเพิ่มเติมตามที่หน่วยงานราชการเรียกเก็บ ผู้ เช่าต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าหรือหน่วยงาน ราชการ หากไม่ชำระภายในกำหนดต้องชำระค่าปรับให้ผู้ให้เช่าตามข้อ 16.1 หรือหน่วยงานราชการตามอัตราที่ กฎหมายกำหนด
21.4 ถ้าผู้เช่าค้างชำระค่าธรรมเนียม และค่าภาษี ตามข้อ 21.1, ข้อ 21.2 และข้อ 21.3 เกินกว่า 3 (สาม) เดือน และผู้ให้เช่าได้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้เช่านำเงินที่ค้างชำระ พร้อมค่าปรับมาชำระ หากผู้เช่าไม่ ชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าริบ หรือบังคับจาก หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาเช่าเสียทั้งสิ้น และผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่านี้ได้ทันที โดยไม่ต้องบอก กล่าวล่วงหน้า
21.5 ในการชำระค่าภาษีรายปีของปีสุดท้ายที่อาจมีกำหนดชำระภายหลังวันสิ้นสุดสัญญาเช่า หากผู้ให้เช่าได้ชำระแทนผู้เช่าไปแล้วไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ผู้เช่าต้องชดใช้ให้แก่ผู้ให้เช่าทั้งสิ้นภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่ผู้ให้เช่าแจ้งให้ทราบเป็นหนังสือ หากผู้เช่าเพิกเฉยไม่ชำระภายในกำหนดเวลา ผู้เช่ายินยอมให้ ผู้ให้เช่าริบหรือบังคับจากหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาเช่า เท่ากับจำนวนภาษีของปีก่อนหน้าปีสุดท้าย ดังกล่าวไว้ล่วงหน้า เพื่อการชำระค่าภาษีต่าง ๆ ตามข้อนี้ของรอบประเมินปีสุดท้าย
21.6 กรณีผู้เช่าไม่ชำระค่าธรรมเนียม ค่าภาษีใด ๆ ตามข้อ 21.1, ข้อ 21.2 และข้อ 21.3 ผู้ให้เช่า จะดำเนินการปรับตามข้อ 16.1 และ/หรือบอกเลิกสัญญาเช่าตาม ข้อ 22
ข้อ 22 การเลิกสัญญาเช่า
22.1 การเลิกสัญญาเช่าโดยผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า ในกรณีที่เกิดเหตุอย่างหนึ่ง อย่างใดดังต่อไปนี้
(1) ผู้เช่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด หรือเป็นผู้ถูกคำ พิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย
(2) ผู้เช่าปฏิบัติผิดเงื่อนไขการให้เช่าช่วงที่ดิน การโอนสิทธิการเช่าตามข้อ 11
(3) ผู้เช่าแจ้งว่าไม่ประสงค์จะซ่อมแซมอาคารและสิ่งปลูกสร้างให้กลับคืนสภาพเดิมตาม
สัญญาเช่าข้อ 12
(4) ผู้เช่าค้างชำระค่าตอบแทนตาม ข้อ 5.2 และข้อ 5.3 ทั้งหมดหรือบางส่วนเกินกว่า 3
(สาม) เดือน และไม่ชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
(5) การจัดหาประโยชน์ในที่ดินของโครงการฯ ไม่สามารถทำได้โดยสิ้นเชิง หรืออาคารและ สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในโครงการฯ ถูกทำลายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิงจนไม่อาจดำเนินกิจการตามโครงการฯ ต่อไปได้
(6) สิทธิในการจัดหาประโยชน์ที่ดินระยะยาวถูกเพิกถอน เช่น สิทธิในการจัดหาประโยชน์ ถูกเพิกถอนตามการบังคับคดี การจำนอง สิทธิในการอนุญาตก่อสร้าง ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
(7) สภาพการเป็นนิติบุคคลของผู้เช่าสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด
(8) ผู้เช่าไม่ทำการเปิดดำเนินธุรกิจหรือจัดหาประโยชน์โครงการฯ ตามระยะเวลาที่กำหนด ตามข้อ 3.1 โดยที่ไม่มีเหตุอันควร หรือระยะเวลาที่ผู้ให้เช่าขยายออกไปตามข้อ 25 ทั้งนี้ ยกเว้นกรณีที่ไม่ สามารถปฏิบัติตามสัญญาเช่าเพราะเหตุสุดวิสัยซึ่งผู้เช่ามิได้เป็นผู้ก่อหรือมีส่วนร่วมก่อให้เกิดขึ้น
(9) ผู้เช่าต้องจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นใหม่เพื่อเข้าทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่ามีการลดทุนจดทะเบียน และ/หรือมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นผู้ให้เช่า
(10) การเลิกสัญญาเช่าข้อ 22.1 (1) – 22.1 (9) นั้น หากปรากฏว่าผู้เช่าได้โอนสิทธิการเช่า ให้แก่ผู้ให้กู้ ให้ดำเนินการตามข้อ 11.3
(11) ในกรณีที่ผู้เช่าประพฤติผิดสัญญาเช่าข้อหนึ่งข้อใด และไม่ดำเนินการแก้ไข ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับจากได้รับหนังสือแจ้งจากผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้
(12) ผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่า หรือผิดสัญญาเช่าข้อใดข้อหนึ่ง และการผิดสัญญาเช่า นั้นเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ของประเทศชาติ หรือต่อความปลอดภัย หรือความเป็นอยู่ของ ประชาชน หรือต่อกิจการของผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ทันที
(13) ถ้าผู้เช่านำที่ดินทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้ผู้อื่นเช่าช่วง นำไปใช้หรือจัดหาประโยชน์ อย่างอื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์การเช่า ยอมให้ผู้อื่นใช้หรือจัดหาประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ที่เช่า หรือ โอนสิทธิการเช่าให้กับบุคคลอื่น โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่า หากผู้เช่าปฏิบัติฝ่าฝืนให้ถือว่าสัญญาเช่าเป็น อันสิ้นสุดทันที และผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าริบเงินประกันเสียทั้งสิ้น
ผู้ให้เช่าใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าผู้ให้เช่าสามารถเข้ายึดถือปกครองที่ดิน อาคารและสิ่งปลูก สร้างได้ทันที และมีอำนาจดำเนินการจัดการตามที่เห็นสมควร
22.2 ผู้เช่าจะไม่เป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาเช่านี้ เว้นแต่มีเหตุต่อไปนี้
(1) ผู้ให้เช่าจงใจผิดสัญญาเช่าในข้อสาระสำคัญและผู้เช่าได้แจ้งต่อผู้ให้เช่าว่าให้ทำการ แก้ไขและเยียวยาการผิดสัญญาเช่านั้น และเหตุที่ผิดสัญญาเช่านั้นไม่ได้รับการแก้ไขเป็นเวลานานมากกว่า 30 (สามสิบ) วัน
สัญญาเช่า
(2) ผู้ให้เช่าจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดใด ๆ ของ
(3) ผู้ให้เช่าไม่ยอมอนุมัติตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการอนุมัติดังกล่าว
เป็นการที่สัญญาเช่านี้กำหนดไว้เป็นเงื่อนไขก่อนที่จะสามารถดำเนินงานหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป ได้
(4) หากเกิดเหตุที่ทำให้ผู้เช่าไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาเช่าได้เนื่องจากความผิดของผู้ให้ เช่า ผู้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้และผู้ให้เช่าจะต้องคืนเงินค่าเช่าที่ชำระตามสัดส่วนของระยะเวลาเช่าที่ เหลืออยู่ หลังหักค่าใช้จ่ายใดที่ค้างชำระตามสัญญาเช่านี้
(5) มีการเวนคืนหรือยึดเป็นที่ดินของรัฐส่วนหนึ่งส่วนใดของที่ดินที่เป็นที่ตั้งโครงการ ฯ และผลของการเวนคืนนั้นกระทบต่อโครงการฯ อย่างมีนัยสำคัญ ตามข้อ 20
ทั้งนี้ ก่อนการใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญาเช่า ตามข้อ 22.2 (1) ถึงข้อ 22.2 (5) ผู้เช่าจะต้องมี หนังสือบอกกล่าวให้ผู้ให้เช่าแก้ไข เยียวยาการผิดสัญญาเช่า หรือเหตุผิดนัดนั้น และผู้ให้เช่าจะต้องใช้ความ พยายามอย่างดีที่สุดที่จะแก้ไขเยียวยาเหตุดังกล่าวภายในระยะเวลาที่ผู้เช่ากำหนดแต่ต้องไม่น้อยกว่า 90 (เก้า สิบ) วัน หากเหตุการณ์ดังกล่าวมิได้รับการแก้ไขเยียวยาภายในระยะเวลาที่กำหนดผู้เช่าอาจใช้สิทธิ์บอกเลิก สัญญาเช่านี้ได้ทันที
22.3 การเลิกสัญญาเช่าโดยคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยและเหตุดังกล่าว รุนแรงถึงขนาดที่ทำให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่อาจปฏิบัติตามพันธะของตนที่มีอยู่ตามสัญญาเช่านี้ได้ทั้งหมด ให้คู่สัญญาอีกฝ่ายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้
ข้อ 23 การโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน การรับมอบทรัพย์สิน ผลของการเลิกสัญญาเช่า หรือสิ้นสุด สัญญาเช่า
23.1 การโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของโครงการฯ โดยผู้เช่า
(1) เมื่อสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของโครงการฯ ทั้งหมดตกเป็นของผู้ให้เช่า โดยผู้เช่ามีหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของโครงการฯ ทั้งอสังหาริมทรัพย์และ สังหาริมทรัพย์ที่ผู้ให้เช่าประสงค์รับโอนในสภาพใช้การได้ รวมทั้งใบอนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งใบอนุญาต เกี่ยวกับอาคารและสิ่งปลูกสร้าง เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจต่าง ๆ
ทั้งนี้ ผู้ให้เช่ามีสิทธิเลือกรับการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินของโครงการฯ ทั้งหมดหรือ บางส่วน ในกรณีที่ผู้ให้เช่าไม่ประสงค์รับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของโครงการฯ รายการใดไม่ว่าจะเป็น อสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ ผู้เช่ามีหน้าที่ในการรื้อถอนขนย้ายทรัพย์สินของโครงการฯ ที่ผู้ให้เช่าไม่ ประสงค์รับโอนให้แล้วเสร็จหลังสิ้นสุดสัญญาเช่า ระยะเวลาตามสัญญาเช่านี้ ภายในระยะเวลา 90 (เก้าสิบ) วัน หรือระยะเวลาที่ผู้ให้เช่ากำหนด ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเองทั้งสิ้น โดยรายการที่ผู้ให้เช่าไม่ประสงค์รับโอนให้ ทำการตรวจสอบร่วมกันและแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 180 (หนึ่งร้อยแปดสิบ) วัน
ในกรณีทรัพย์สินตามวรรคหนึ่งที่ผู้ให้เช่าประสงค์รับมอบ และทรัพย์สินที่ตกเป็นของ ผู้ให้เช่า เกิดการชำรุดหรือเสียหาย ผู้เช่าจะต้องซ่อมแซมความชำรุดหรือเสียหายเช่นว่านั้นให้ดีและใช้การได้ ดังเดิม ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าก่อนกำหนดการส่งมอบตามวรรคหนึ่ง ตามเงื่อนไขข้อ 12.3 รวมทั้งจะต้องเป็น ผู้ดำเนินการขออนุญาตจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
(2) เมื่อสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ผู้เช่ามีหน้าที่ในการส่งมอบทรัพย์สินของ โครงการฯ ซึ่งรวมถึงอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่มีขนาดพื้นที่และมูลค่าไม่น้อยกว่าที่กำหนดใน ข้อ 4.3 โดยผู้เช่า ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในบรรดาภาษี อากร ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ ทรัพย์สินของโครงการฯ ให้กับผู้ให้เช่า
(3) เมื่อสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด หากผู้เช่าไม่สามารถทำการส่งมอบอาคาร และสิ่งปลูกสร้างที่มีขนาดพื้นที่และมูลค่าไม่น้อยกว่าที่กำหนดในข้อ 4.3 ได้ ให้ผู้เช่าทำการชำระเงินทดแทน การก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างเฉพาะที่ทำการก่อสร้างไม่ครบถ้วนตามขนาดพื้นที่ที่กำหนดดังกล่าว โดย การคำนวณเงินทดแทนก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างให้ทำการคำนวณเงินทดแทนการก่อสร้างอาคารและสิ่ง ปลูกสร้างจากการนำเอาราคาประเมินค่าก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่อตารางเมตร ณ ปีที่สัญญาเช่านี้ สิ้นสุดลง (ซึ่งเป็นราคาประเมินของประเภทอาคารและสิ่งปลูกสร้างตามที่กำหนดตามรูปแบบโครงการฯ ที่ กำหนดในสัญญาเช่านี้) คูณกับพื้นที่ของอาคารและสิ่งปลูกสร้างส่วนที่ก่อสร้างไม่ครบถ้วน โดยผู้เช่ายินยอมให้ ผู้ให้เช่าหักเงินทดแทนการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างให้ครบถ้วน ตามข้อกำหนดของผู้ให้เช่าจาก หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาเช่า กรณีหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาเช่าไม่เพียงพอให้ผู้เช่าจ่ายเงิน ทดแทนเพิ่มให้ครบตามจำนวน
(4) เมื่อสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ผู้เช่าจะโอนสิทธิและข้อผูกพันและข้อตกลง ใด ๆ ที่ผู้เช่าทำไว้กับบุคคลภายนอก ทั้งนี้ ผู้ให้เช่าจะรับโอนสิทธิและข้อผูกพันและข้อตกลงเฉพาะแต่ส่วนที่ ผู้ให้เช่าได้เคยให้ความเห็นชอบไว้แล้วเท่านั้น
(5) ผู้เช่าไม่มีภาระผูกพันที่จะโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอื่น ๆ ของผู้เช่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับ โครงการฯ ให้แก่ผู้ให้เช่า โดยผู้เช่ามีหน้าที่ในการรื้อถอน ขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่า (ถ้ามี) หรือทรัพย์สินที่ผู้ให้ เช่าไม่ประสงค์รับโอนให้แล้วเสร็จภายใน 90 (เก้าสิบ) วัน นับจากวันสิ้นสุดสัญญาเช่า หรือระยะเวลาที่ผู้ให้เช่า กำหนดด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง หากผู้เช่าไม่ดำเนินการภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่า เข้าไปขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่า และเข้าครอบครองที่ดินตามสัญญาเช่าได้ทันที โดยผู้เช่ายินยอมสละสิทธิที่จะ ดำเนินคดี ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญากับผู้ให้เช่า และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ให้เช่าทั้งสิ้น โดยผู้เช่าไม่มีสิทธิ เรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าทดแทนจากผู้ให้เช่าแต่อย่างใด
23.2 การรับมอบทรัพย์สินโครงการฯ โดยผู้ให้เช่า
(1) เมื่ออายุการให้สิทธิในการจัดหาประโยชน์โครงการฯ สิ้นสุดลง ผู้เช่าต้องส่งมอบสิ่ง ปลูกสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบ อุปกรณ์ คู่มือปฏิบัติงาน เครื่องมือเครื่องใช้ทั้งหมดของโครงการฯ รวมทั้งพื้นที่การให้สิทธิในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการฯ ให้แก่ผู้ให้เช่า ตามวิธีการและหลักเกณฑ์เรื่องการ ส่งมอบที่ระบุในเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าหมายเลข […..] โดยผู้เช่าจะไม่เรียกค่าใช้จ่ายใด ๆ จากผู้ให้เช่า
(2) ในกรณีมีเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ผู้ให้เช่ามีอำนาจซื้อคืน หรือยึดถือครอบครองอาคารและสิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์และระบบของโครงการฯ ก่อน สิ้นอายุการให้สิทธิในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โครงการฯ ได้ โดยได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ผู้ให้เช่า จะจ่ายค่าทดแทนให้แก่ผู้เช่าตามความเป็นจริงด้วยความเป็นธรรม
(3) เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่สะดุดหยุดลงเพราะเหตุสัญญาเช่าสิ้น อายุลง หรือเพราะสัญญาเช่าสิ้นผลลงโดยการเลิกสัญญาเช่าไม่ว่าเป็นการเลิกสัญญาเช่าโดยความผิดของฝ่ายใด ก็ตาม ให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้ามาทำการบริหารกิจการของโครงการฯ ได้ในทันทีที่สัญญาเช่าสิ้นสุดลง หรืออาจจะ ทำการสรรหาเอกชนรายอื่นเข้าดำเนินธุรกิจต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการสรรหาเอกชนให้เข้าดำเนินการต่อไปให้ เป็นไปตามผู้ให้เช่ากำหนด
23.3 บรรดาเงินค่าธรรมเนียมการเช่า (Upfront Fee) ค่าเช่า ค่าภาษีต่าง ๆ ค่าธรรมเนียมการจด ทะเบียนการเช่า ค่าธรรมเนียมทางราชการ รวมทั้งค่าเสียโอกาสในการจัดหาประโยชน์ในที่ดินตามสัญญาเช่านี้ และอื่น ๆ (ถ้ามี) ที่ผู้เช่าได้ชำระให้แก่ผู้ให้เช่าไว้แล้วให้ตกเป็นของผู้ให้เช่าทั้งสิ้น
23.4 ในกรณีที่ผู้ให้เช่าต้องเสียหายจากการบอกเลิกสัญญาเช่าโดยเหตุที่ผู้เช่าเป็นฝ่ายประพฤติผิด สัญญาเช่า ผู้เช่ายินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งปวงให้แก่ผู้ให้เช่า และยอมให้ผู้ให้เช่าริบหรือบังคับจากหลักประกัน การปฏิบัติตามสัญญาเช่า
23.5 กรณีที่สัญญาเช่าเลิกกันไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ แต่ผู้เช่ายังคงครอบครองที่ดิน อาคารและสิ่ง ปลูกสร้างตามสัญญาเช่านี้อยู่ และชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่า กรณีเช่นว่านี้ไม่ถือว่าเป็นการต่อสัญญาเช่า ส่วน ค่าเช่า รวมถึงค่าตอบแทนที่ได้รับไว้ดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหาย ซึ่งผู้ให้เช่าอาจรับไว้เพื่อบรรเทา ความเสียหายที่เกิดหรืออาจเกิดแก่ผู้ให้เช่า ทั้งนี้ ไม่ถือเป็นการตัดสิทธิผู้ให้เช่าที่จะเรียกค่าเสียหายทั้งหลายทั้ง ปวงจากผู้เช่า
23.6 เมื่อสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลง บรรดาข้อผูกพันทั้งปวงระหว่างผู้ให้เช่ากับผู้เช่า และ/หรือ คู่สัญญาของผู้เช่าย่อมสิ้นสุดลงไปด้วย เว้นแต่ ข้อผูกพันทางการเงินซึ่งยังมิได้มีการปฏิบัติครบถ้วน และข้อ ผูกพันที่กำหนดในสัญญาเช่านี้ว่าจะต้องปฏิบัติหลังสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลง
23.7 ผู้เช่าต้องโอนสิทธิและข้อผูกพันและข้อตกลงใด ๆ ที่ผู้เช่าทำกับบุคคลภายนอกในช่วง ระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ ทั้งนี้ ผู้ให้เช่าจะได้รับโอนสิทธิและข้อผูกพันและข้อตกลงเฉพาะแต่ส่วนที่ผู้ให้ เช่าจะได้รับประโยชน์
23.8 นอกจากการโอนกรรมสิทธิ์ตามข้อ 23.1 สิทธิและข้อผูกพันและข้อตกลงซึ่งเป็นการโอน ตามสภาพที่เป็นอยู่ในขณะนั้น ผู้เช่าไม่มีภาระผูกพันที่จะโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอื่น ๆ ของผู้เช่าให้แก่ผู้ให้เช่า
23.9 ตราบใดที่ยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้เช่ายังคงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอุปกรณ์และ ทรัพย์สินอื่น ๆ และมีสิทธิในอันจะก่อภาระติดพันและก่อสิทธิให้เจ้าหนี้มีหลักประกันเหนือทรัพย์สินของผู้เช่า หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของทรัพย์สินของผู้เช่า
23.10 ก่อนที่จะได้มีการส่งมอบทรัพย์สินของโครงการฯ ผู้เช่าต้องตรวจสอบสภาพของทรัพยสิน ของโครงการฯ ร่วมกับผู้ให้เช่า ให้แล้วเสร็จภายใน 90 (เก้าสิบ) วัน นับจากวันสิ้นสุดสัญญาเช่า
23.11 ผู้เช่าต้องจัดเตรียมเอกสาร รายงาน คู่มือการปฏิบัติงาน เอกสารทางการบัญชีและเอกสาร เกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ ทั้งหมดเพื่อทำการส่งมอบให้กับผู้ให้เช่าพร้อมการส่งมอบทรัพย์สินตามข้อ 23.1 โดยให้จัดทำทะเบียนทรัพย์สินและตรวจสอบร่วมกันระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่า และส่งมอบทรัพย์สินให้กับผู้ให้ เช่าทั้งสิ้น โดยมีรายการประกอบด้วย ชื่อทรัพย์สิน ยี่ห้อ รุ่น จำนวน อายุ ราคาทางบัญชี มูลค่าทรัพย์สินที่มี การประเมินโดยบริษัทประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.)
23.12 การส่งมอบทรัพย์สินของโครงการฯ แก่ผู้ให้เช่าเพราะเหตุของการที่สัญญาเช่าสิ้นสุดลง หรือการเลิกสัญญาเช่าที่ไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ให้เช่า ไม่ก่อให้เกิดสิทธิในการได้รับค่าก่อสร้าง ค่า ดำเนินการ หรือค่าตอบแทนอื่นใดแก่ผู้เช่า
23.13 ผู้เช่าช่วงต้องให้หมดสัญญาเช่าภายในระยะเวลาของสัญญาเช่านี้ เช่น ร้านค้าย่อย เป็นต้น
23.14 ผู้เช่าต้องไปดำเนินการเรื่องสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าที่ต้องโอนทรัพย์สินให้เป็น ของผู้ให้เช่าตามทผู้ให้เช่ากำหนดก่อนสิ้นสุดสัญญาเช่าเช่า 1 (หนึ่ง) ปี
23.15 ผู้เช่าต้องเป็นผู้รับผิดชอบในบรรดาภาษี อากร ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นใด ที่ เกี่ยวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินของโครงการฯ ให้กับผู้ให้เช่า
23.16 การสิ้นสุดลงของสัญญาเช่า ไม่ว่าด้วยการสิ้นสุดลงของระยะเวลาหรือการเลิกสัญญาเช่า โดยคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ให้การสิ้นสุดลงของสัญญาเช่าไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อข้อสัญญาเช่าที่กำหนดไว้ อย่างชัดแจ้ง ให้คู่สัญญาต้องดำเนินการหลังจากสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลง และไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการ ดำเนินการที่จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องต่อไปแม้ว่าสัญญาเช่าจะสิ้นสุดลง
ทั้งนี้ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์ที่จะริบหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาเช่า ทำการเรียกให้ผู้เช่าทำการ ชำระเงินทดแทนการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างตามข้อ 23.1 (3) และทำการเรียกค่าเสียหายอื่นใดที่ เกิดขึ้นต่อผู้ให้เช่าหรือบุคคลภายนอก เพราะเหตุที่ผู้เช่าผิดสัญญาเช่า
หลังจากได้มีการบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว ผู้ให้เช่าอาจมีดุลยพินิจดำเนินการเพื่อให้นิติบุคคล ที่เข้าแทนที่ตามที่กำหนดในข้อ 11.3
หากผู้เช่าละเลย เพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่านี้ทั้งหมดหรือบางส่วนหรือผิดสัญญาเช่า ข้อใดข้อหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งให้ผู้ให้เช่าได้ส่งคำบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังผู้เช่าให้ปฏิบัติตามสัญญา เช่าหรือให้ทำการแก้ไขการผิดสัญญาเช่าเช่นว่านั้น แต่ผู้เช่ายังคงเพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่า หรือไม่ทำการ แก้ไขการผิดสัญญาเช่าเช่นว่านั้นภายในระยะเวลา 90 (เก้าสิบ) วัน นับแต่ได้รับการบอกกล่าว ให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิ บอกเลิกสัญญาเช่านี้ได้ทันที
ข้อ 24 การดำเนินการในกรณีปฏิบัติตามข้อ 23.1 ล่าช้า
24.1 หากผู้เช่าไม่ส่งมอบทรัพย์สินให้ผู้ให้เช่าตามข้อ 23.1 ผู้เช่าต้องเสียค่าปรับจากการส่งมอบ ล่าช้าในอัตราวันละ ................ บาท (.....................บาทถ้วน) นับแต่วันครบกำหนดส่งมอบ จนถึงวันที่ ดำเนินการเสร็จสิ้น อย่างไรก็ดี หากผู้ให้เช่าต้องเสียหายจากการที่ผู้เช่าปฏิบัติล่าช้าดังกล่าวผู้เช่าตกลงยินยอม รับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่าจนครบถ้วนโดยมิชักช้า
24.2 เพื่อเป็นหลักประกันการส่งมอบทรัพย์สินภายในเวลาที่กำหนด ผู้เช่าต้องจัดหาหนังสือ ค้ำประกันที่ไม่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการค้ำประกันของธนาคารที่ผู้ให้เช่าเห็นชอบในวงเงินไม่น้อยกว่า
................. บาท (.......................... บาทถ้วน) มาส่งมอบให้แก่ผู้ให้เช่าภายใน 30 (สามสิบ) วัน ก่อนวันเริ่มปี การเช่าปีสุดท้าย เมื่อผู้เช่าปฏิบัติตามข้อ 24.1 ครบถ้วน ภายในเวลาที่กำหนด ผู้ให้เช่าจะปลดภาระค้ำประกัน และส่งคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารให้แก่ผู้เช่าภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับจากวันที่ผู้เช่าได้ส่งมอบ ทรัพย์สินในสภาพเรียบร้อยให้แก่ผู้ให้เช่าเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ผู้เช่าเป็นฝ่ายรับภาระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ เกี่ยวกับการออกหนังสือค้ำประกันดังกล่าว ในกรณีที่ผู้เช่าไม่จัดหาหนังสือค้ำประกันของธนาคารมาส่ง มอบให้กับผู้ให้เช่าภายในระยะเวลาที่กำหนด และไม่ส่งมอบหนังสือค้ำประกันธนาคารภายใน 45 (สี่สิบห้า) วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้
ข้อ 25 เหตุสุดวิสัย
25.1 ความหมายของ เหตุสุดวิสัย (Force Majeure)
(1) “เหตุสุดวิสัย” หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติหรือการกระทำของบุคคล หนึ่งบุคคลใดที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน อยู่นอกเหนือจากการควบคุมของคู่สัญญา และไม่อาจป้องกันหรือหลีกเลี่ยง แม้ว่าจะได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรอันพึงคาดหมายได้จากบุคคลในฐานะและภาวะเช่นนั้นก็ตาม ซึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุให้การดำเนินการตามสัญญาเช่านี้ โดยคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถทำได้หรือ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การดำเนินการตามสัญญาเช่านี้เป็นไปไม่ได้ โดยที่เหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเหตุการณ์ ดังต่อไปนี้
(ก) สงคราม เหตุการณ์ระหว่างสงคราม การรุกราน สงครามกลางเมือง การปฏิวัติ การก่อการจลาจล การก่อการร้ายอันมิใช่จารกรรมหรืออาชญากรรมปกติ
(ข) การนัดหยุดงานของลูกจ้าง หรือของพนักงานของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอันขยายวง กว้างขวางส่งผลกระทบเกินกว่าเฉพาะในองค์กรของคู่สัญญา
(ค) คำสั่งของรัฐบาลพลเรือนหรือทหารเกี่ยวกับการกำหนดให้ถือเอาการริบหรือการ ทำลาย การเวนคืนทรัพย์สิน
(ง) ภัยพิบัติตามธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว การระเบิดของภูเขาไฟ อุทกภัยร้ายแรง วาตภัยร้ายแรง และอัคคีภัย
(2) เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ไม่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ดังต่อไปนี้จะเกิดขึ้น และก่อให้เกิดความเสียหายโดยสิ้นเชิงต่อทรัพย์สินของโครงการฯ และทำให้การดำเนินโครงการฯ ไม่อาจ เป็นไปได้อีกต่อไปก็ตาม จะไม่ถือเป็นเหตุทำให้คู่สัญญาหลุดพ้นจากหนี้และความรับผิดตามสัญญาเช่านี้
(ก) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเจตนา หรือความประมาทเลินเล่อของคู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด หรือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเจตนาหรือประมาทเลินเล่อของลูกจ้าง ตัวแทน หรือผู้รับเหมาช่วงของ ผู้เช่า
(ข) เหตุการณ์ที่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้น ณ วันที่ทำสัญญาเช่า หรือเป็นเหตุการณ์ที่ เป็นการหลบเลี่ยงหรือละเว้นการปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญาเช่า
(ค) การที่ผู้เช่าไม่อาจดำเนินโครงการฯ ต่อไปได้เพราะเหตุขาดเงินลงทุน หรือไม่อาจ หาแหล่งงานของโครงการฯ ได้
25.2 เหตุสุดวิสัยที่มีผลให้คู่สัญญาหลุดพ้นจากหนี้และความรับผิด เหตุสุดวิสัยที่มีผลให้คู่สัญญาหลุดพ้นจากหนี้และความรับผิดตามสัญญาเช่านี้ จะต้องเป็น
เหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นแล้วทำให้เกิดความเสียหายโดยสิ้นเชิงต่อทรัพย์สินของโครงการฯ และทำให้การดำเนิน โครงการฯ ไม่อาจเป็นไปได้อีกต่อไป โดยที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต่างมิได้มีส่วนก่อให้เกิด หรือมิได้มีส่วนทำให้ เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นทั้งทางตรงหรือทางอ้อม อีกทั้งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต่างได้พยายามอย่างเต็มความสามารถ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดขึ้นของเหตุการณ์นั้น และ/หรือดำเนินการเพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจาก เหตุการณ์นั้น ๆ
25.3 เหตุสุดวิสัยทำให้การปฏิบัติตามสัญญาเช่านั้นเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง เมื่อมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามสัญญาเช่านี้ของคู่สัญญาฝ่ายใด
ฝ่ายหนึ่งแห่งสัญญาเช่านี้ในสาระสำคัญอย่างรุนแรงหรือกระทบต่อฐานะทางการเงินของคู่สัญญา ฝ่ายใดฝ่าย หนึ่งแห่งสัญญาเช่านี้อย่างรุนแรง จนคาดหมายได้ว่าอาจทำให้การปฏิบัติตามสัญญาเช่านั้นเป็นไปไม่ได้โดย สิ้นเชิงหรือบางส่วน หรือทำให้การดำเนินโครงการฯ สำเร็จล่าช้า เมื่อคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องขอเป็นลาย ลักษณ์อักษรไปยังคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง พร้อมแสดงหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อสนับสนุนคำร้องขอของตน คู่สัญญา ทั้งสองฝ่ายจะต้องร่วมกันพิจารณาถึงการร้องขอนั้น โดยมิชักช้าเพื่อหาทางป้องกันหรือแก้ไขโดยเร็วอย่างเป็น ธรรม หากคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเห็นว่า การร้องขอนั้นเป็นเรื่องที่พึงบรรเทาความเสียหายระหว่างกันได้ก็ให้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันตามนั้น
25.4 การขยายระยะเวลาของสัญญาเช่าเพราะเหตุสุดวิสัย ให้ระยะเวลาของการดำเนินการตามสัญญาเช่านี้ขยายออกไปเท่ากับระยะเวลาที่ทำให้
คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่อาจปฏิบัติการตามสัญญาเช่าได้เนื่องจากเหตุสุดวิสัย
25.5 การเลิกสัญญาเช่าเพราะเหตุสุดวิสัย เมื่อมีเหตุสุดวิสัยอันเป็นเหตุให้มีการเลิกสัญญาเช่าได้โดยชอบเกิดขึ้น ให้คู่สัญญาทั้งสอง
ฝ่ายพิจารณาร่วมกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน หากคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่อาจหาข้อยุติของการดำเนินการแก้ไข ปัญหาที่เกิดจากเหตุสุดวิสัยได้ภายใน 90 (เก้าสิบ) วัน นับจากที่ได้มีการเจรจาร่วมกัน ให้คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่าย ใดบอกเลิกสัญญาเช่าได้
หากเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นนานกว่า 1 (หนึ่ง) ปี คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีสิทธิบอกเลิกการเช่า นี้ได้และผู้ให้เช่าตกลงคืนค่าตอบแทนตามข้อ 5 ให้แก่ผู้เช่าตามสัดส่วนของระยะเวลาเช่าที่เหลืออยู่หลังหัก ค่าใช้จ่ายใดที่ค้างชำระตามสัญญาเช่านี้ โดยผู้ให้เช่าจะดำเนินการส่งคืนค่าตอบแทนดังกล่าวให้แก่ผู้เช่าภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่คู่สัญญาได้รับการบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่า
ข้อ 26 การจัดตั้งนิติบุคคลและโครงสร้างผู้ถือหุ้น
26.1 การจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นใหม่
(1) ในวันทำสัญญาเช่านี้ ผู้เช่า คือ ผู้ประมูลที่ชนะการประมูลและต่อมาได้จดทะเบียนจัดตั้ง นิติบุคคลขึ้นใหม่เป็นบริษัทตามกฎหมายไทย เพื่อเข้าลงนามในสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่า และเป็นผู้ดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ทำการลงทุน ออกแบบ ก่อสร้าง ดำเนินธุรกิจ และบำรุงรักษาทรัพย์สินของโครงการฯ เพื่อการปฏิบัติการ ตามข้อกำหนดการดำเนินโครงการฯ ตลอดทั้งหน้าที่ต่าง ๆ ซึ่งอาจจำเป็นหรือสะดวกในการปฏิบัติงานดังกล่าว ข้างต้น
(2) ผู้เช่าจะต้องดำเนินการให้มีการออกหนังสือรับรองและค้ำประกันของบริษัทแม่หรือ บริษัทที่เป็นผู้ก่อตั้งและถือหุ้นของเอกชนคู่สัญญา ตามรูปแบบที่กำหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายหมายเลข […..] (ผู้ ประมูลที่ชนะการประมูลและโครงสร้างผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลใหม่)
(3) ผู้เช่าจะต้องมีและดำรงไว้ซึ่งทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่าทุนจดทะเบียนที่ กำหนดไว้ 170,000,000 บาท (หนึ่งร้อยเจ็ดสิบล้านบาทถ้วน) ตลอดอายุของสัญญาเช่านี้
(4) ผู้เช่าจะต้องดำรงไว้ซึ่งสถานะของนิติบุคคลไทยตลอดอายุของสัญญาเช่านี้ และห้ามทำ การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลใหม่ (ผู้เช่า) ตลอดระยะเวลาการจัดหาประโยชน์ตามกำหนดในข้อ 3.1 หรือ ระยะเวลาที่ผู้ให้เช่าขยายออกไป
(5) เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเปิดดำเนินธุรกิจได้ทั้งโครงการฯ ผู้เช่าอาจทำการ ระดมทุนในตลาดทุนตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือนำหุ้นของผู้เช่าเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ หรือระดมทุนผ่านทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust: REIT) ซึ่งอาจส่งผลให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมของผู้เช่าอาจมีการลดสัดส่วนลง แต่ อย่างไรก็ตาม การลดสัดส่วนการถือหุ้นเพราะการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องไม่ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นเดิมถือ หุ้นรวมกันทั้งหมดในผู้เช่าน้อยกว่าร้อยละ 51 (ห้าสิบเอ็ด) ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของผู้เช่า
(6) ผู้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบถึงการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
(ก) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับบริษัทของผู้เช่า
(ข) การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทและ/หรือผู้บริหารระดับอาวุโสของผู้เช่า
(ค) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรอบปีทางการเงิน
26.2 ในกรณีที่ผู้เช่าเป็นนิติบุคคลรายเดียวแล้วต้องมีการจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นใหม่เพื่อเข้าทำสัญญา เช่ากับผู้ให้เช่า หากในภายหลังต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลดังกล่าว จะต้องดำเนินการ ตามเงื่อนไขโดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
(1) กรณีที่เป็นการเปลี่ยนแปลงโดยที่ผู้เช่ายังคงเป็นผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลดังกล่าวเกินกว่า ร้อยละ 90 (เก้าสิบ) นั้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบเป็น หนังสือ และต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่าด้วย
(2) กรณีที่เป็นการเปลี่ยนแปลงแล้วทำให้ผู้เช่าไม่ได้ถือหุ้นในนิติบุคคลดังกล่าวเกินกว่า ร้อยละ 90 (เก้าสิบ) อีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงเช่นว่าต้องได้รับการเห็นชอบเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าก่อน และ ผู้ถือหุ้นที่มีสัดส่วนการถือหุ้นในนิติบุคคลใหม่ดังกล่าวมากที่สุดต้องให้คำรับรองว่าจะค้ำประกัน การดำเนินงาน ของนิติบุคคลดังกล่าวไปจนครบช่วงเวลา 5 (ห้า) นับจากวันที่เริ่มระยะเวลาจากวันเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น
26.3 ในกรณีที่ผู้เช่าเป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture) แล้วต้องมีการจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นใหม่เพื่อ เข้าทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่านั้น หากภายหลังต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลดังกล่าว จะต้องดำเนินการตามเงื่อนไข โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
(1) กรณีที่เป็นการเปลี่ยนแปลงแล้วทำให้ผู้ถือหุ้นที่เป็นนิติบุคคลหลัก (Lead Firm) ยังคง เป็นผู้ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นในนิติบุคคลดังกล่าวมากที่สุดและมีสัดส่วนการถือหุ้นขั้นต่ำไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 (สามสิบ) กรณีเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นสมาชิกที่เหลือในกลุ่มมีสัดส่วนการถือหุ้นขั้นต่ำร้อยละ 10 (สิบ) การ เปลี่ยนแปลงดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ โดยต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบเป็นหนังสือ และต้องได้รับความ เห็นชอบจากผู้ให้เช่าด้วย
(2) กรณีที่เป็นการเปลี่ยนแปลงแล้วทำให้นิติบุคคลหลัก (Lead Firm) ไม่ได้สัดส่วนการถือ หุ้นในนิติบุคคลใหม่ดังกล่าวมากที่สุดหรือนิติบุคคลหลัก (Lead Firm) ไม่ได้มีสัดส่วนการถือหุ้นขั้นต่ำไม่น้อย กว่าร้อยละ 30 (สามสิบ) กรณีเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น สมาชิกที่เหลือในกลุ่มไม่ได้มีสัดส่วนการถือหุ้นขั้นต่ำร้อย ละ 10 (สิบ) การเปลี่ยนแปลงเช่นว่าต้องได้รับการเห็นชอบเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าก่อน และผู้เช่าหรือผู้ถือหุ้น เดิมที่มีสัดส่วนการถือหุ้นในนิติบุคคลใหม่ดังกล่าวมากที่สุดต้องให้คำรับรองว่าจะค้ำประกันการดำเนินงานของ นิติบุคคลดังกล่าวไปจนครบช่วงเวลา 5 (ห้า) ปี นับจากวันที่เริ่มระยะเวลาจากวันเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น
26.4 ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น หากพบกรณีที่มีการดำเนินการจะถือว่าสัญญาเช่า เป็นอันสิ้นสุดทันที เว้นแต่ได้มีการแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบและให้ความยินยอมจากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือ
ทั้งนี้ผู้เช่าต้องส่งบัญชีผู้ถือหุ้นทุกปีนับจากวันที่ลงนามสัญญาเช่า โดยส่งมอบภายใน 15 (สิบ ห้า) วัน ของเดือนที่เริ่มต้นสัญญาเช่าปีถัดไป
ข้อ 27 กฎหมาย ภาษา และการตีความสัญญาเช่า
27.1 สัญญาเช่านี้อยู่ภายใต้บังคับและการตีความตามกฎหมายไทย ในการปฏิบัติงานต่าง ๆ ตาม สัญญาเช่านี้ ผู้เช่า ตัวแทน และบริวารของผู้เช่า ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ และ คำสั่งต่าง ๆ ที่ออกโดยผู้ให้เช่า หรือหน่วยงานราชการหรือองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องภายในราชอาณาจักร ไทยที่ออกใช้บังคับอยู่แล้วในขณะทำสัญญาเช่า หรือจะออกใช้บังคับ หรือแก้ไขเพิ่มเติมในภายหน้าในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับงานนั้น ๆ ด้วย
27.2 คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันให้การบังคับและการตีความตามข้อกำหนดในสัญญาเช่านี้และ เอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง และให้ระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับสัญญาเช่านี้ ตลอดจนการตีความสัญญาเช่าให้อยู่ใน อำนาจของศาลไทย
27.3 สัญญาเช่าฉบับนี้ทำขึ้นเป็นภาษาไทย และการติดต่อสื่อสารระหว่างคู่สัญญาให้ทำเป็น
ภาษาไทย
27.4 การปฏิบัติตามกฎหมายและประโยชน์สาธารณะ ในการดำเนินโครงการฯ ตามสัญญาเช่านี้
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ทั้งปวงของประเทศไทยอย่างเคร่งครัด และ ตลอดเวลาของการดำเนินโครงการฯ ให้ถือว่าคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้รับรู้ถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ของกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศและการรักษาไว้ซึ่งประโยชน์สาธารณะและกิจการ อันมีผลกระทบต่อความผาสุกปลอดภัยของประชาชน
27.5 ผลของการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย การออกกฎหมายไทยใหม่ การแก้ไขเปลี่ยนแปลง กฎหมายไทย หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นผลโดยตรงทำให้เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อ การดำเนินธุรกิจและต่อรายได้ หรือค่าใช้จ่ายของผู้เช่า เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้และ/หรือค่าใช้จ่ายของผู้เช่า หรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ให้เช่าให้คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวทำหนังสือแจ้งถึงผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายดังกล่าวต่อคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อเข้าหารือและหาแนวทางการแก้ไขผลกระทบ ดังกล่าวให้สิ้นไปหรือหาแนวทางในการจ่ายค่าชดเชยให้แก่คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรมและ สมเหตุสมผล
ข้อ 28 การแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาเช่า
การแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาเช่าให้ทำเป็นหนังสือ ตามรูปแบบและพิธีการเช่นเดียวกับการทำสัญญา เช่านี้ หรือตามรูปแบบที่ผู้ให้เช่าเห็นสมควร
ข้อ 29 การส่งคำบอกกล่าวหรือหนังสือ
บรรดาหนังสือติดต่อ ทวงถาม บอกกล่าว การให้ความยินยอม หรือความเห็นชอบใด ๆ หรือ หนังสืออื่นใดที่ส่งให้แก่คู่สัญญาตามสัญญาเช่านี้ ต้องทำเป็นหนังสือ และจะถือว่าได้ส่งไปโดยชอบแล้ว หากได้ จัดส่งโดยทางหนึ่งทางใด ดังต่อไปนี้
- ส่งมอบโดยบุคคลแก่ผู้แทนที่ได้รับมอบหมายแต่ละฝ่าย
- ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ
- ทางโทรสาร หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล / E-mail) แล้วยืนยันเป็นหนังสือโดยเร็วไปยัง ชื่อและที่อยู่ของคู่สัญญา ดังต่อไปนี้
ผู้ให้เช่า : ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย การยาสูบแห่งประเทศไทย
184 ถนนพระราม 4 แขวงคลองเตย
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์/โทรสาร ..................................................
อีเมล .................................................
ผู้เช่า : ผู้มีอำนาจกระทำการ
บริษัท .....................................................
ที่อยู่ ................................................................
................................................................
โทรศัพท์/โทรสาร ..................................................
อีเมล ..................................................
ข้อ 30 ข้อกำหนดที่ใช้บังคับไม่ได้ไม่มีผลกระทบต่อข้อกำหนดอื่นที่ใช้บังคับได้
หากข้อกำหนดและ/หรือเงื่อนไขในข้อใดข้อหนึ่งของสัญญาเช่านี้เป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ ไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย หรือใช้บังคับไม่ได้ตามกฎหมาย ให้ข้อกำหนดและเงื่อนไขข้ออื่นๆ ซึ่งชอบด้วยกฎหมายสมบูรณ์ หรือใช้บังคับได้ ยังคงมีผลสมบูรณ์ใช้บังคับคู่สัญญาได้ต่อไปโดยแยกต่างหากจากส่วนที่เป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ นั้น
ข้อ 31 การระงับข้อพิพาท
31.1 ในกรณีที่มีข้อพิพาทเกิดขึ้นเกี่ยวกับข้อกำหนดของสัญญาเช่า หรือการปฏิบัติตามสัญญานี้ คู่สัญญาจะต้องทำการแก้ไขข้อพิพาทโดยการเจรจาก่อน หากไม่สามารถแก้ไขหรือหาข้อยุติสำหรับข้อพิพาท ดังกล่าวได้ให้คู่สัญญานำข้อพิพาทดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของศาลไทย คู่สัญญาตกลงให้ถือเอากฎหมายไทย เป็นหลักในการบังคับใช้ต่อกัน และใช้ภาษาไทยเป็นภาษาในการดำเนินกระบวนการพิจารณา
31.2 ในระหว่างที่ข้อพิพาทอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ให้คู่สัญญายังคงต้องปฏิบัติตาม ข้อกำหนดในสัญญาเช่าต่อไปจนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด โดยไม่อาจอ้างข้อขัดแย้ง หรือข้อพิพาทดังกล่าว เพื่อเป็นเหตุหยุดหรือไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่า เว้นแต่กรณีที่มีการเลิกสัญญาเช่า
ข้อ 32 เอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาเช่า
เอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าต่อไปนี้ ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาเช่านี้
32.1 ผนวก 1 (สำเนาโฉนดที่ดินและแผนที่แสดงที่ตั้งและขอบเขตโครงการฯ) จำนวน .......
(. ) หน้า
32.2 ผนวก 2 (ข้อเสนอทางเทคนิค) จำนวน ....... (. ) หน้า
32.3 ผนวก 3 .................................................................... จำนวน ....... (. ) หน้า
32.4 ผนวก 4 .................................................................... จำนวน ....... (. ) หน้า
…….……………………ฯลฯ…………….…………..
ความใดในเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าที่ขัดหรือแย้งกับข้อความในสัญญาเช่า ให้ใช้ข้อความใน สัญญาเช่าบังคับ และในกรณีที่เอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าขัดแย้งกันเอง ผู้เช่าจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของ ผู้ให้เช่า คำวินิจฉัยของผู้ให้เช่าให้ถือเป็นที่สุด และผู้เช่าไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมจากผู้ให้เช่าทั้งสิ้น
สัญญาเช่านี้ทำเป็น 3 (สาม) ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน ผู้เช่าเก็บรักษาไว้สองฉบับ (เพื่อตนเอง และเพื่อจดทะเบียนการเช่ากับสำนักงานที่ดิน) และผู้ให้เช่าเก็บรักษาไว้หนึ่งฉบับ ทั้งนี้หลังการจดทะเบียนกับ สำนักงานที่ดินแล้วเสร็จให้ผู้เช่าส่งมอบเอกสารต้นฉบับที่มีการจดทะเบียนส่งมอบให้ผู้ให้เช่าภายใน 15 (สิบห้า) วัน ทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจในข้อความในสัญญาเช่านี้ดีแล้ว เพื่อเป็นหลักฐานจึงลงลายมือชื่อไว้เป็น
สำคัญต่อหน้าพยานท้ายสัญญาเช่านี้ ณ วันเดือนปีที่กล่าวข้างต้น
ผู้ให้เช่า ผู้เช่า
โดย................................................. โดย..................................................
(ประทับตรา) (ประทับตรา)
...................................................... ......................................................
พยาน พยาน
...................................................... ......................................................
พยาน พยาน
หมายเหตุ :- ร่างสัญญาที่แนบท้ายประกาศเชิญชวนเข้าร่วมประมูลเป็นเพียงตัวอย่างร่างสัญญาเพื่อให้ ผู้เข้าร่วมประมูลใช้ศึกษาประกอบการพิจารณาในเบื้องต้น โดยยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานอัยการ สูงสุด ซึ่งการยาสูบแห่งประเทศไทยสงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไข หรือข้อกำหนดให้แบบสัญญาเป็นไป ตามความเห็นชอบของสำนักงานอัยการสูงสุด (ถ้ามี) และผู้ชนะการประมูลต้องลงนามในสัญญาเช่าที่ดินเพื่อ ปลูกสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง และสัญญาเช่าที่ดินเพื่อดำเนินการจัดหาประโยชน์ ตามแบบสัญญาที่ผ่าน ความเห็นชอบของสำนักงานอัยการสูงสุดเท่านั้น