สัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (ประเภทมาร์จิ้นในระบบ Credit Balance)
xxxxxxxxxxxเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (ประเภทxxxxxxxxในระบบ Credit Balance)
ทำที่ ชั้น 8, 10 อาคารสาทรสแควร์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ 98 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร xxxxxx.................................................................
สัญญานี้ทำขึ้นระหว่างบริษัทหลักทรัพย์ xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ชั้น 8, 10 อาคารสาทรสแควร์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ 98 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร (ต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ บริษัท ”) ฝ่ายหนึ่งกับ
นาย / xxx / นางสาว................................................................บัตรประชาชนเลขที่ .....................................................................อายุ. ปี
อยู่บ้านเลขที่................................... หมู่ที่............. ซอย .......................................ถนน............................................แขวง/ตำบล.............................................
เขต/อำเภอ.......................................................จังหวัด.....................................................รหัสไปรษณีย์. (ต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ ลูกค้า ”)
อีกฝ่ายหนึ่ง
ข้อ 1. ในสัญญานี้คำว่า
“ หลักทรัพย์ ” ให้หมายความรวมถึง ตั๋วเงินคลัง พันธบัตร ตั๋วเงิน หุ้น หุ้นกู้ หน่วยลงทุน อันได้แก่ ตราสารหรือหลักฐานแสดงxxxxxในทรัพย์สินของกองทุน รวม ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้น ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นกู้ ใบสำคัญ แสดงxxxxxxxxจะซื้อหน่วยลงทุน ตราสารอื่นใดที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จะกำหนด รวมทั้งสัญญาและตราสารอื่นๆ ตลอดจนดอกผล เงินปันผล และxxxxxอื่น ๆ ของหลักทรัพย์นั้นๆ
“ ตลาดหลักทรัพย์ ” ให้หมายความถึง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ล่วงหน้า และแหล่งกลางในการ ซื้อขายหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายแล้วแต่กรณี
“ บัญชีxxxxxxxx ” หมายความว่า บัญชีที่บันทึกรายการให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อ การซื้อหลักทรัพย์ และให้หมายความรวมถึงรายการดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเงินกู้ยืม หรือสินเชื่อที่เกิดขึ้นจากการถอนทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้าและค่าธรรมเนียม และ ค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ลูกค้าต้องชำระให้กับบริษัท
“ ลูกค้า ” หมายความว่า บุคคลที่ทำสัญญากู้ยืมเงินกับบริษัทเพื่อใช้ในการ ซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านบริษัทโดยมอบหมายให้บริษัทกระทำการซื้อขายหลักทรัพย์ แทนลูกค้า และให้หมายความรวมถึงบุคคลซึ่งลูกค้ามอบหมายหรือยินยอมให้ กระทำการซื้อขายหลักทรัพย์แทนหรือในนามของลูกค้าด้วย
“ ซื้อ ” ให้หมายความรวมxxx xxxจองซื้อหลักทรัพย์ด้วย
“ อัตราxxxxxxxxเริ่มต้น ” (Initial Margin Rate) หมายความว่าอัตราส่วน ขั้นต่ำของจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระเพื่อซื้อหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินส่วนเกิน ของลูกค้าที่ลูกค้าต้องมีในบัญชีxxxxxxxxต่อxxxxxxซื้อหลักทรัพย์รายการใดรายการ หนึ่ง ก่อนที่จะซื้อหลักทรัพย์รายการนั้น
ทั้งนี้ บริษัทจะเป็นผู้กำหนดรายชื่อหลักทรัพย์ที่จะอนุญาตให้ลูกค้าซื้อจาก บัญชีxxxxxxxxxxx พร้อมทั้งกำหนดอัตราxxxxxxxxเริ่มต้นที่เหมาะสมสำหรับแต่ละ หลักทรัพย์ (Multiple Margin Rate) โดยบริษัทจะได้ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ พร้อมทั้งอัตราxxxxxxxxเพื่อให้ลูกค้าทราบเป็นคราว ๆ
“ ทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้า ” (Excess Equity)
หมายความว่า ทรัพย์สินของลูกค้ารายใดรายหนึ่งในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่ ลูกค้าต้องดำรงไว้ตามอัตราส่วนที่บริษัทกำหนด
“ ทรัพย์สินของลูกค้า ”
หมายความว่า xxxxxxสุทธิของเงิน หลักทรัพย์ และทรัพย์สินอื่นที่เป็น ประกันการชำระหนี้ในบัญชีxxxxxxxxของลูกค้ารายใดรายหนึ่งเมื่อหักภาระหนี้ใน บัญชีxxxxxxxxของลูกค้ารายนั้นแล้ว
ภาระหนี้ให้หมายความรวมถึง หนี้ที่เกิดจากการซื้อหรือขายหลักทรัพย์รวม ค่าธรรมเนียม และภาษีมูลค่าเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเงินกู้ยืมหรือสินเชื่อที่เกิดขึ้น จากการถอนทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้า ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ลูกค้าต้อง ชำระให้แก่บริษัท
“ xxxxxxซื้อ ”
หมายความว่า จำนวนเงินค่าซื้อหลักทรัพย์แต่ละรายการที่ซื้อจากบัญชี xxxxxxxx ซึ่งรวมค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย หลักทรัพย์และภาษีมูลค่าเพิ่ม รายการนั้นแล้ว
“xxxxxซื้อ”
หมายความว่า จำนวนเงินสูงสุดที่ลูกค้า อาจสั่งซื้อหลักทรัพย์จากบัญชี xxxxxxxxxxx ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ซึ่งรวมค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และภาษีมูลค่าเพิ่ม
“xxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้” (Maintenance Margin Requirement) หมายถึง ระดับxxxxxxของทรัพย์สินรวม (Equity) ที่ลูกค้าต้องดำรงไว้หากบัญชี ของลูกค้ามีxxxxxxต่ำกว่านี้แล้วลูกค้าจะต้องxxxxxxหรือทรัพย์สินมาวางเป็น ประกันxxxxxจนถึงระดับที่บริษัทกำหนด
xxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ประเภทหลักทรัพย์คำนวณจากxxxxxx ตลาดของหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และหลักทรัพย์ที่ซื้อขายใน ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ คูณด้วยอัตราที่บริษัทกำหนดเป็นคราว ๆ บริษัท xxxxxxxxxxที่จะกำหนด อัตราที่บริษัทต้องเรียกให้ลูกค้าxxxxxxหรือทรัพย์สิน มาวางเป็นประกันxxxxxในอัตราที่สูงกว่าตลาดหลักทรัพย์กำหนดโดยไม่จำเป็น ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า
“xxxxxxหลักประกันขั้นต่ำ” (Minimum Margin Requirement)
หมายถึง ระดับxxxxxxของทรัพย์สินรวม (Equity) ขั้นต่ำที่ใช้เป็นเกณฑ์ใน การบังคับชำระหนี้ หากบัญชีของ ลูกค้ามีxxxxxxเท่ากับหรือต่ำกว่าxxxxxxนี้แล้ว บริษัทมีxxxxxบังคับชำระหนี้เงินกู้จากทรัพย์สินที่วางเป็นประกัน
xxxxxxหลักประกันขั้นต่ำประเภทหลักประกัน คำนวณจากxxxxxxตลาดของ หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในศูนย์ซื้อขาย หลักทรัพย์ คูณด้วยอัตราที่บริษัทกำหนดเป็นคราว ๆ บริษัทxxxxxxxxxxที่จะ กำหนดอัตราที่บริษัทต้องxxxxxxการบังคับชำระหนี้ในอัตราที่สูงกว่าตลาด หลักทรัพย์กำหนด โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า
ข้อ 2. โดยที่ลูกค้ามีความxxxxxxxขอเปิดบัญชีกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ กับบริษัทโดยบริษัทจะอนุมัติวงเงินกู้ยืมให้ไม่เกิน...........................................
...........................................................................................................บาท
(_______________________________________________________) ซึ่งการกู้ยืมเงินในบัญชีxxxxxxxxxxxถือเป็นการกู้ยืมเงินในลักษณะบัญชีเดินสะพัด ตามxxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยลูกค้าจะxxxxxxมาวางเป็นประกัน การชำระหนี้กับบริษัทก่อนการซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินที่วางประกันดังกล่าว นี้จะไม่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบ สถาบันการเงิน หรือสถาบันอื่นใดที่ทำหน้าที่รับประกันเงินฝาก โดยลูกค้าจะ xxxxxxxxตอบแทนจากการวางเงินประกันในส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนเกินของ ลูกค้าเป็นดอกเบี้ยเท่ากับอัตรา..................หรืออัตราอื่นใดที่บริษัทจะประกาศ กำหนด
ลูกค้าตกลงที่จะกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ และลูกค้าตกลงยินยอมให้บริษัท ยึดถือหลักทรัพย์xxxxxxxxxxxซื้อขายในบัญชีxxxxxxxxรวมทั้งทรัพย์สินอื่นใดของลูก ค้าซึ่งอยู่ในความครอบครองของบริษัท ทั้งในปัจจุบันและที่จะมีต่อไปในภายหน้า ไว้เป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีxxxxxxxxของลูกค้า
ข้อ 3. ลูกค้าตกลงxxxxxxxxxจะวางเงิน หรือหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็น จำนวนไม่น้อยกว่าอัตราxxxxxxxxเริ่มต้น เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้กับบริษัท ก่อนที่จะทำการซื้อหลักทรัพย์กับบริษัทเป็นครั้งแรก
1
ลูกค้าตกลงxxxxxxxxxจะวางเงินสด หรือหลักทรัพย์จดทะเบียนหรือทรัพย์สิน
ข้อ 4. ในการซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัทยินยอมให้ลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์ โดยผ่านบริษัทxxxxxxxxนี้ ภายในวงเงินที่บริษัทได้อนุมัติให้ ทั้งนี้บริษัทมี xxxxxxxxxxxxจะxxxxxหรือลดวงเงินซื้อขายเมื่อใดก็ได้ โดยมิต้องได้รับความยินยอม จากลูกค้าก่อน เมื่อบริษัทได้สั่งซื้อหลักทรัพย์ตามคำสั่งของลูกค้าแล้วให้xxxxxx ลูกค้าได้รับการส่งมอบเงินกู้ยืมxxxxxxxxนี้แล้ว
ไม่ว่ากรณีใด ลูกค้าสัญญาว่าจะไม่ทำการสั่งซื้อหลักทรัพย์เกินกว่าวงเงิน xxxxxxxxxxxบริษัทกำหนดให้ หากลูกค้าได้สั่งให้บริษัททำการซื้อหลักทรัพย์ใด ๆ และหากบริษัทได้ให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์เกินกว่าวงเงินxxxxxxxxดังกล่าว ข้างต้น ให้xxxxxxลูกค้าตกลงยินยอมขอxxxxxวงเงินบัญชีxxxxxxxxและยอมรับการ ซื้อหลักทรัพย์นั้น ๆ และยอมรับชำระคืนเงินค่าซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวโดยxxx xxxเงินที่ลูกค้าได้กู้ยืมเกินกว่าวงเงินที่กำหนดเป็นหนี้กู้ยืมเงินxxxxxxxxนี้ ทั้งสิ้น และให้xxxxxxมีกำหนดเวลาชำระหนี้กู้ยืมเงินและดอกเบี้ยตลอดจนให้ใช้ อัตราดอกเบี้ยตามxxxxxxตกลงไว้xxxxxxxxนี้ ทุกประการ
บริษัทมีxxxxxxxxจะไม่xxxxxxการสั่งซื้อตามคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้า และลูกค้าตกลงยอมรับการที่บริษัทจะไม่xxxxxxการสั่งซื้อดังกล่าวโดยจะไม่ เรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายอย่างใด ๆ จากบริษัท
ข้อ 5. หลักทรัพย์ที่บริษัทซื้อตามคำสั่งของลูกค้า ลูกค้าตกลงยินยอมให้ บริษัทยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้xxxxxxxxนี้ เมื่อบริษัทได้พิจารณา และเห็นชอบด้วยแล้ว ลูกค้าอาจนำทรัพย์สินอื่นใดมาวางเป็นประกันการชำระ หนี้xxxxxxxxนี้เพิ่มเติมก็ได้ในลักษณะของสัญญาจำนำหรือxxxxxxการอื่นใด ตามวิธีการที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดเพื่อให้บริษัทมีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สิน ดังกล่าว แต่ทั้งนี้บริษัทจะนับรวมxxxxxxของทรัพย์สินxxxxxxรับเพิ่มเติมจากลูกค้า ดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการคำนวณxxxxxซื้อ คำนวณระดับ MAINTNANCE MARGIN หรือในการคำนวณใดๆxxxxxxxxนี้หรือไม่เพียงใดให้เป็นไปตาม ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์คณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ และหรือบริษัท ประกาศกำหนด
ข้อ 6. บริษัทจะทำการปรับปรุงxxxxxxของหลักทรัพย์ และ/หรือทรัพย์สินที่ วางหรือยึดถือเป็นประกันตามราคาตลาด (Mark to Market)และคำนวณxxxxxx ของหลักทรัพย์ และ/หรือทรัพย์สินของลูกค้าอย่างน้อยหนึ่ง (1) ครั้งในทุกสิ้น วันทำการ ซึ่งการปรับปรุงxxxxxxหลักทรัพย์ และ/หรือ ทรัพย์สินอันจะทำให้ ทราบผลการเปลี่ยนแปลงของxxxxxซื้อของลูกค้า ตลอดจนทรัพย์สินส่วนเกิน ของลูกค้าที่จะxxxxxขึ้นหรือลดลง
การปรับปรุงxxxxxxของหลักทรัพย์หรือทรัพย์สิน ตามวรรคก่อนให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทจะประกาศกำหนดเป็นคราว ๆ ไป
ข้อ 7. ในการคำนวณxxxxxซื้อของลูกค้า ณ ขณะใดขณะหนึ่ง บริษัทจะ คำนวณทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้า ณ ขณะนั้นต่ออัตราxxxxxxxxเริ่มต้นของ หลักทรัพย์ที่จะซื้อ
อัตราxxxxxxxxเริ่มต้น และประเภทของทรัพย์สินที่ลูกค้าxxxxxxนำมาเพิ่มเติม เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีxxxxxxxx ให้เป็นไปตามที่บริษัทจะได้ประกาศ กำหนดเป็นคราว ๆ แต่ทั้งนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือตลาดหลักทรัพย์ได้ประกาศกำหนด
หากเป็นกรณีที่ลูกค้าไม่มีทรัพย์สินส่วนเกิน แต่ลูกค้าxxxxxxxxxและหรือ หลักทรัพย์จดทะเบียนมาวางxxxxxในลักษณะของสัญญาจำนำในบัญชีxxxxxxxx เพื่อเป็นประกันการซื้อขายหลักทรัพย์xxxxxเป็นครั้งคราว บริษัทจะคำนวณxxxxx ซื้อจากจำนวนเงิน และหรือหลักทรัพย์จดทะเบียนที่ลูกค้านำมาวางไว้เฉพาะ คราวที่มีอยู่ในขณะนั้น ทั้งนี้ เมื่อสิ้นวันทำการของxxxxxxลูกค้าxxxxxxและหรือ หลักทรัพย์จดทะเบียนดังกล่าวมาวางไว้ แล้วภายหลังจากการหักทอนบัญชี หากมีเงินคงเหลือบริษัทจะทำการโอนเงินคงเหลือนั้นไปบันทึกบัญชีxxxxxxxxของ ลูกค้าที่มีอยู่กับบริษัท เสมือนว่าลูกค้าxxxxxxxxx และหรือหลักทรัพย์จดทะเบียน มาวางxxxxx หรือบริษัทจะคืนเงิน และหรือหลักทรัพย์จดทะเบียนคงเหลือนั้น ให้แก่ลูกค้าก็ได้ ถ้าลูกค้าได้แจ้งความต้องการให้บริษัททราบล่วงหน้า ณเวลาxxx xxxxxx และหรือหลักทรัพย์จดทะเบียนมาวางเป็นประกัน
ข้อ 8. ในกรณีที่ลูกค้าสั่งซื้อหลักทรัพย์เป็นจำนวนเงินที่มีxxxxxxซื้อต่ำกว่า
หรือเท่ากับเงินที่วางประกัน บริษัทxxxxxxหักเงินที่ลูกค้าวางเพื่อชำระค่าซื้อ หลักทรัพย์ได้ก่อน โดยบริษัทจะหักเงินของลูกค้าเป็นจำนวนเงินน้อยลง 10 บาท ในแต่ละรายการสำหรับการซื้อหลักทรัพย์ที่มีxxxxxxซื้อต่ำกว่า เงินที่วางประกันนั้น และลูกค้าตกลงยินยอม ให้xxxxxxการซื้อหลักทรัพย์ทุก
รายการของลูกค้าบัญชีxxxxxxxxเป็นการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ในกรณีที่ลูกค้าสั่งซื้อหลักทรัพย์ตามบัญชีxxxxxxxxเป็นจำนวนเงินที่มีxxxxxx
ซื้อสูงกว่าเงินที่วางประกัน บริษัทxxxxxxหักเงินที่ลูกค้าวางเพื่อชำระค่าซื้อ หลักทรัพย์ก่อนได้ และหากเงินที่วางดังกล่าวxxxxxxxxxxชำระค่าซื้อหลักทรัพย์ จำนวนเงินส่วนที่เหลือนี้ให้xxxxxxลูกค้ากู้ยืมเงินจากบริษัทโดยลูกค้าตกลง ยินยอมให้บริษัทคิดดอกเบี้ยจากจำนวนหนี้ดังกล่าวได้ในอัตราสูงสุดที่บริษัทได้ ประกาศกำหนดเป็นคราว ๆ ซึ่ง ณ วันทำสัญญาเท่ากับอัตราร้อยละ ต่อปี ทั้งนี้ บริษัทมีxxxxxxxxจะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวขึ้นหรือลงได้ตาม ที่บริษัทประกาศกำหนดโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อนโดยคิด ตั้งแต่xxxxxxซื้อหลักทรัพย์จนกว่าxxxxxxจำนวนหนี้จะได้ลดต่ำลงน้อยกว่าหรือ เท่ากับจำนวนเงินที่ลูกค้านำมาวางประกันหรือจนกว่าจะได้มีการชำระหนี้
เสร็จสิ้น
ข้อ 9. ในกรณีที่ลูกค้าสั่งขายหลักทรัพย์ หรือการที่ลูกค้าxxxxxxมาวางxxxxx บริษัทจะต้องxxxxxxxxxxxxรับดังกล่าวมาหักหนี้เงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ และดอกเบี้ยที่มีอยู่เดิมก่อน หากจำนวนหนี้xxค้างลดต่ำลงกว่าเงินที่ลูกค้าวาง ประกันลูกค้าตกลงให้บริษัทยังคงเหลือหนี้ให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ไว้อย่าง น้อย 10 บาท และให้xxxxxxหลักทรัพย์ทั้งหลายในบัญชียังxxเป็นหลักประกัน หนี้xxxxxxxx
ข้อ 10. ในกรณีที่บริษัท หรือตลาดหลักทรัพย์ หรือสำนักงานคณะ กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศเปลี่ยนแปลงประเภท ของหลักทรัพย์ที่ให้ซื้อในบัญชีxxxxxxxxxxx (Marginable)เป็นประเภทหลักทรัพย์ xxxxxxให้ซื้อในบัญชีxxxxxxxx (Non Marginable) ลูกค้ามีหน้าที่ที่จะต้องชำระหนี้ และดอกเบี้ยรวมถึงค่านายหน้า ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดให้แก่บริษัทภายในระยะเวลาที่บริษัทกำหนด
ข้อ 11. ในกรณีที่ลูกค้าxxxxxxxจะถอนเงินจากบัญชีxxxxxxxxลูกค้าจะ ถอนเงินเกินกว่าจำนวนทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้าxxxxxx และหากลูกค้าถอน เงินนั้นเป็นจำนวนเงินสูงกว่ายอดเงินคงเหลือของลูกค้า (Cash Balance) ที่ลูกค้ามีอยู่ในขณะนั้น บริษัทxxxxxxxxxที่จะให้ถอนหรือxxxxxxxxในกรณีที่บริษัท ให้ถอนบริษัทจะต้องบันทึกส่วนที่เกินยอดเงินคงเหลือจากลูกค้าเป็นการให้กู้ ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์xxxxxขึ้น แต่ทั้งนี้ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของบริษัทที่จะ ไม่ให้ถอนเงินจากบัญชีxxxxxxxx หากลูกค้ายังมีภาระผูกพันอยู่กับบริษัท
ข้อ 12. ลูกค้าตกลงยินยอมให้บริษัทหักทอนบัญชีทุกสิ้นวันทำการโดย บริษัทคำนวณจากxxxxxxxxในแต่ละวัน ซึ่งได้จากการเปรียบเทียบยอดเงิน คงเหลือของลูกค้ากับยอดเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ดังนั้น บริษัทจะจ่าย ดอกเบี้ยสำหรับเงินคงเหลือของลูกค้าในส่วนที่เกินกว่าเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ หลักทรัพย์และเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในส่วนที่เกินกว่าเงิน คงเหลือของลูกค้าอย่างน้อยเดือนละ (1) ครั้ง เว้นแต่จะตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ บริษัทจะคิดคำนวณและหักภาษีอากร ณ ที่จ่ายไว้ (ถ้ามี) ก่อนที่จะทำการ หักทอนบัญชีระหว่างดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายกับดอกเบี้ยที่จะต้องเรียกเก็บ ณ xxx xxxxเดือน และลูกค้ายินยอมให้บริษัทหักทอนโดยใช้วิธีปรับปรุงรายการดอกเบี้ย ดังกล่าวจากบัญชีxxxxxxxxของลูกค้าเสมือนว่าลูกค้าได้ถอนเงินหรือxxxxxxมา xxxxx xxxxxxxกรณี
ข้อ 13. ภายใต้บังคับแห่งสัญญานี้ข้อ 6. บริษัทจะทำการเปรียบเทียบ ทรัพย์สินรวมของลูกค้ากับxxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ ทุกสิ้นวันทำการหาก xxxxxว่าทรัพย์สินรวมของลูกค้าลดลงต่ำกว่าxxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ในอัตรา ที่บริษัทกำหนด ซึ่งบริษัทอาจประกาศเปลี่ยนแปลงให้xxxxxขึ้นหรือลดลงได้ และให้มีผล บังคับใช้ทันที (ไม่ต่ำกว่าอัตราที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด) บริษัทจะไม่ให้ลูกค้าซื้อ หลักทรัพย์xxxxx และลูกค้าต้องนำทรัพย์สินมาวางเป็นหลักประกันxxxxxในวันถัดไปจน ทำให้ทรัพย์สินรวมของลูกค้าเท่ากับ หรือสูงกว่าxxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้
2
หากลูกค้าไม่นำทรัพย์สินมาวางเป็นหลักประกันxxxxxตามความในวรรคก่อน ภายในระยะเวลาที่บริษัทหรือตลาดหลักทรัพย์จะได้กำหนดเป็นคราว ๆ ไป ซึ่ง ณ ปัจจุบันเท่ากับห้า (5) วันทำการ นับจากxxxxxxบริษัทเรียก บริษัทมีxxxxxxxxจะบังคับ ชำระหนี้จากทรัพย์สินที่วางเป็นประกันได้ในวันทำการถัดไปจนทำให้ทรัพย์สินรวมของ
ลูกค้ามีxxxxxxเท่ากับ หรือสูงกว่าxxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้
ทั้งนี้ บริษัทจะเรียกหลักประกันประเภทใดเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงของ บริษัทก็ได้ แต่หลักประกันที่xxxxxxนำไปใช้คำนวณระดับ Maintenance Margin ได้ จะต้องเป็นหลักประกันที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกำหนด แต่บริษัทจะไม่นับรวมxxxxxxทรัพย์สิน ดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการคำนวณxxxxxซื้อของลูกค้า
ข้อ 14. บริษัทจะทำการเปรียบเทียบทรัพย์สินรวมของลูกค้า ณ ขณะใด ขณะหนึ่ง ในระหว่างเวลาทำการของวันทำการ กับxxxxxxหลักประกันขั้นต่ำ หาก ปรากฏว่าทรัพย์สินรวมของลูกค้าลดลงจนเท่ากับ หรือต่ำกว่าxxxxxxหลักประกัน ขั้นต่ำที่บริษัทกำหนด (ไม่ต่ำกว่าอัตราที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด)บริษัทมีxxxxx xxxจะบังคับชำระหนี้จากหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินที่วางเป็นประกันจนทำให้xxxxxx ทรัพย์สินรวมของลูกค้าสูงกว่าxxxxxxหลักประกันขั้นต่ำตามที่บริษัทกำหนด
อย่างไรก็ตาม ลูกค้ายังxxมีหน้าที่ต้องนำทรัพย์สินมาวางเป็นหลักประกัน xxxxxตามที่บริษัทเรียก เพื่อให้ทรัพย์สินรวมของลูกค้าเมื่อสิ้นวันทำการมี xxxxxx เท่ากับหรือสูงกว่าxxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด xxxxxxxxข้อ 13.หากลูกค้าไม่นำทรัพย์สินมาวางเป็นหลักประกันxxxxxตาม ที่บริษัทเรียกภายในระยะเวลาตามข้อ 13. วรรค 2 ย่อมไม่กระทบxxxxxของ บริษัทที่จะxxxxxxการตามเงื่อนไขของสัญญานี้ต่อไป
ข้อ 15. ลูกค้ารับทราบและยอมรับว่า สัญญาข้อ 14. เป็นข้อกำหนดของ บริษัทที่สูงกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกำหนด ทั้งนี้เพื่อxxxxxxxxxxของลูกค้าซึ่งอาจ ทำให้ลูกค้าxxxxxxชำระหนี้เงินกู้ยืมได้โดยยังxxมีทรัพย์สินคงเหลือในบัญชี
ข้อ 16. ในกรณีที่มี เงินสด หลักทรัพย์ ทรัพย์สินอื่น หรือxxxxxประโยชน์ใดๆ คงเหลืออยู่ในบัญชีxxxxxxxx x เวลาใดเวลาหนึ่ง ลูกค้าตกลงยินยอมให้บริษัท มีxxxxxจัดการทรัพย์สินดังกล่าวของลูกค้าต่อไปนี้ได้ด้วย
(1) กรณีเป็นเงินสด xxxxxxฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์หรือธนาคาร อื่นที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น หรือนำไปลงทุนในxxxxxxxxxxxxxxxxxxxบริษัท เงินทุนหรือบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ หรือการลงทุนในลักษณะอื่น ใดตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประกาศและกำหนด
(2) กรณีเป็นหลักทรัพย์ xxxxxxฝากไว้กับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือธนาคารแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานของรัฐxxxxx xxxxxหน้าที่ตามกฎหมาย
(3) กรณีเป็นทรัพย์สินอื่นxxxxxxเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานของบริษัทเอง หรือที่อื่นใดตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์กำหนด
ข้อ 17. ในกรณีที่บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ให้xxxxxแก่ผู้ถือหลักทรัพย์ในการ จองซื้อหลักทรัพย์xxxxxxxxหากหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นหลักทรัพย์xxxxxxวางเป็น ประกันการชำระหนี้ของลูกค้าและลูกค้าได้ชำระราคาการจองซื้อหลักทรัพย์ ดังกล่าว ลูกค้าตกลงให้บริษัทยึดถือหลักทรัพย์xxxxxxรับจากการจองซื้อดังกล่าว เป็นประกันการชำระหนี้เพิ่มเติม โดยลูกค้าขอแต่งตั้งและมอบหมายให้บริษัท เป็นตัวแทนของลูกค้าในการจองซื้อหรือรับโอนหลักทรัพย์โดยใช้ชื่อของบริษัท หรือผู้ที่บริษัทมอบหมายให้เป็นผู้จองซื้อ และ/หรือ ถือหลักทรัพย์แทนลูกค้า ในกรณีที่ลูกค้าไม่ชำระราคาจองซื้อดังกล่าวและบริษัทได้ชำระราคาไปแทนให้ xxxxxxเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ลูกค้ากู้ยืมจากบริษัทซึ่งอยู่ภายใต้เงื่อนไข หลักเกณฑ์ของสัญญาฉบับนี้ทุกประการ
ถ้าบริษัทได้รับเงินปันผล ดอกเบี้ย หรือดอกผลอื่นใดxxxxxxเกิดขึ้นจาก หลักทรัพย์หรือหลักประกันทลูกค้าได้นำมาวางเป็นประกันกับบริษัทหรือทบริษัท ได้ครอบครองอยู่ ลูกค้าตกลงยินยอมให้บริษัท xxxxxxxxxxxxดังกล่าวxxxxxxรับ มาลดยอดหนี้ในบัญชีxxxxxxxxxxxมีอยู่ในขณะนั้นได้
ข้อ 18. ไม่ว่าเวลาใด บริษัทมีxxxxxxxxจะเรียกให้ลูกค้าชำระค่าซื้อขาย หลักทรัพย์ รวมถึงค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แก่บริษัทได้ทันทีหรือภายในระยะเวลาที่ บริษัทกำหนด
ข้อ 19. สัญญานี้ไม่มีกำหนดระยะเวลา และให้xxxxxxสัญญานี้มีผลบังคับใช้ ต่อไปจนกว่าจะได้มีการบอกเลิกสัญญาโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ลูกค้าจะต้องแจ้งการ บอกเลิกสัญญาให้แก่บริษัททราบเป็นลายลักษณ์xxxxxล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
ก่อนxxxxxxลูกค้าใช้xxxxxในการบอกเลิกสัญญา และลูกค้าจะต้องชำระหนี้ทุกชนิดของ ลูกค้า รวมทั้งดอกเบี้ยและค่าจ่ายอื่นแห่งหนี้อันเกิดจากการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ให้แก่บริษัทจนครบถ้วนก่อน
หากลูกค้ามิได้ทำการติดต่อซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัท และไม่มีเงิน หลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินวางประกันไว้กับบริษัท และไม่มีหนี้ค้างชำระใด ๆ กับบริษัทลูกค้าตกลง ยินยอมให้บริษัทใช้xxxxxxxxxxxxจะสั่งปิดบัญชีของลูกค้าได้ทันที
ในกรณีที่บริษัทเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญากับลูกค้า บริษัทxxxxxxให้ลูกค้า ทราบเป็นลายลักษณ์xxxxx และลูกค้าตกลงและxxxxxxxxxจะชำระหนี้ทุกชนิด ของลูกค้า รวมทั้งดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายแห่งหนี้อันเกิดจากการกู้ยืมเงินเพื่อ ซื้อหลักทรัพย์ให้แก่บริษัทภายในระยะเวลา 7 วันนับจากxxxxxxลงในหนังสือแจ้ง การบอกเลิกสัญญาของบริษัท
ข้อ 20. หากลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ไม่ว่างวดหนึ่งงวดใด หรือปฏิบัติ ผิดสัญญานี้ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใดหรือหากปรากฏพฤติการณ์ดังต่อไปนี้ไม่ว่าข้อ หนึ่งข้อใด เกิดขึ้นกับหรือเกิดขึ้นจากลูกค้า
(1) ลูกค้ามีหนี้สินล้นพ้นตัว ถูกห้ามจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินตามคำสั่ง ของศาล หรือพนักงานฝ่ายxxxxxxฟ้องร้องดำเนินคดี ตกเป็นคนไร้ความ สามารถ หรือxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx หรือมีเหตุอย่างอื่นที่บริษัทเห็นว่า อาจมีผลกระทบต่อความxxxxxxในการชำระหนี้xxxxxxxxของลูกค้า
(2) ลูกค้าxxxxxxxx จำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินของตนทั้งหมดหรือแต่ บางส่วนอันเป็นเหตุให้บริษัทxxxxxxxxxxหรือจะxxxxxxรับชำระหนี้เต็มจำนวน ทั้งนี้ไม่ว่าลูกค้าจะกระทำด้วยตนเองหรือยินยอมให้บุคคลอื่นกระทำการดังกล่าว ให้xxxxxxเป็นการกระทำของลูกค้าเองทั้งสิ้นรวมตลอดถึงกรณีที่ลูกค้ามิได้ ยินยอมให้มีการกระทำxxxxนั้นแต่เมื่อมีพฤติการณ์ดังกล่าวลูกค้ามิได้ขัดขวาง ในเมื่ออยู่ในวิสัยที่จะทำได้ หรือ
(3) เมื่อศาลหรือหน่วยราชการxxxxสั่งหรือคำพิพากษาให้ยึดหรืออายัด ทรัพย์สินของลูกค้า ให้xxxxxxลูกค้าตกเป็นผู้ผิดนัดผิดสัญญาโดยลูกค้าตกลง ยินยอมให้บริษัทเรียกให้ลูกค้าชำระหนี้ที่ค้างชำระอยู่ทั้งหมดได้ทันทีพร้อมด้วย ดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดตามที่บริษัทกำหนด โดยอาศัยxxxxxตามกฎหมาย ประกาศกำหนด ซึ่งในขณะทำสัญญานี้เท่ากับร้อยละ ต่อปี (แต่ต่อไปอาจ เปลี่ยนแปลงได้)ของต้นเงินที่ค้างชำระนับแต่xxxxxxลูกค้าผิดนัดผิดสัญญาหรือใน กรณีผิดนัดชำระดอกเบี้ยให้คิดตั้งแต่วันแรกของงวดที่มีการผิดนัดชำระ ดอกเบี้ยนั้น จนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น
เมื่อบริษัทได้xxxxxxxxให้ลูกค้าชำระหนี้ทั้งหมดแล้วลูกค้าไม่ชำระหนี้ ให้แก่บริษัทภายในระยะเวลาที่กำหนด ลูกค้าตกลงยินยอมให้บริษัทบังคับ ชำระหนี้จากหลักทรัพยและที่ลูกค้าได้ให้ไว้เป็นประกันแก่บริษัทxxxxxxxxนี้ รือบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของลูกค้าที่อยู่ในความครอบลูกค้าที่อยู่ใน ความครอบครองของบริษัทไม่ว่าจะอยู่ในสัญญานี้หรือสัญญาอื่นได้ทันที
ข้อ 21. นอกเหนือจากxxxxxต่าง ๆ ที่บริษัทมีต่อลูกค้าxxxxxxxxนี้บริษัท ก็มีxxxxxxxxจะเรียกให้ลูกค้ารับผิดชอบบรรดาความเสียหายและค่าใช้จ่ายใดๆ ที่บริษัทอาจได้รับอันเนื่องมาจากหรือที่เกี่ยวกับสัญญานี้หรือเกี่ยวกับการ กระทำ หรืองดเว้นกระทำการของลูกค้า หรือตัวแทนของ ลูกค้ารวมตลอดถึง บรรดาความเสียหายและค่าใช้จ่ายใดๆ ที่บริษัทอาจได้รับอันเนื่องมาจากการ เรียกร้อง หรือฟ้องร้อง โดยบุคคลอื่นให้บริษัทต้องรับผิดเกี่ยวกับสัญญานี้ ซึ่ง มิได้เกิดขึ้นจากการกระทำงดเว้นกระทำการหรือความผิดของบริษัทแต่ประการใด ข้อ 22. ในกรณีที่ลูกค้าถึงแก่ความตาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความxxxxxx หรือ เสมือนไร้ความxxxxxx หรือถูกฟ้องร้องคดี หรือกรณีอื่นใดที่เมื่อบริษัทเห็นเป็น การxxxxxเพื่อป้องกันxxxxxxxxxxของบริษัท ลูกค้าตกลงและยินยอมให้ บริษัทขายหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สิน หรือxxxxxอื่นใดของลูกค้า ซึ่งอยู่ในความ ครอบครองของบริษัทได้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ทันที และ/หรือ ซื้อหลักทรัพย์ ทั้งหมดหรือบางส่วนเพื่อชดใช้ให้บริษัทแทน หลักทรัพย์ซึ่งลูกค้าได้สั่งให้บริษัท ขายแล้ว แต่ลูกค้ายังมิได้ส่งมอบให้บริษัทได้ทันทีxxxxเดียวกันอีกxxxxxxxเป็นการ
ตัดxxxxxของบริษัทที่จะปิดบัญชีของลูกค้าด้วย
3
ข้อ 23. บรรดาหนังสือติดต่อ xxxxxx xxxxxxxx หรือหนังสืออื่นใดที่จะส่ง ให้แก่ลูกค้าไม่ว่าจะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือไม่ลงทะเบียน ถ้าหากได้ นำส่งไปยังที่อยู่ซึ่งลูกค้าได้ให้ไว้เป็นลายลักษณ์xxxxxแก่บริษัทแล้วให้xxxxxxxxx ส่งให้ลูกค้าโดยชอบแล้ว ทั้งนี้ โดยไม่ต้องxxxxxถึงว่าจะมีผู้รับไว้หรือไม่ และถึง
แม้ว่าส่งให้ลูกค้าxxxxxxเพราะที่อยู่ของลูกค้านั้นเปลี่ยนแปลงหรือรื้อถอนไป โดยลูกค้ามิได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงหรือรื้อถอนนั้นให้บริษัททราบเป็นลาย ลักษณ์xxxxxหรือส่งให้xxxxxxเพราะหาที่อยู่ไม่พบก็ดี ให้xxxxxxลูกค้าได้รับและ ทราบหนังสือติดต่อ xxxxxxxxxxxxxxหรือหนังสืออื่นใดของบริษัทโดยชอบแล้ว
ข้อ 24. กรณีที่บริษัทได้รับคำสั่ง หรือเป็นการปฏิบัติตามคำขอ (ไม่ว่ามีผล บังคับเป็นกฎหมายหรือไม่) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาด หลักทรัพย์ หรือหน่วยราชการอื่นที่เกี่ยวข้องให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับหลักทรัพย์ ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ ของลูกค้าที่มีอยู่ในความ ครอบครองของบริษัท ลูกค้ายินยอมให้บริษัทเปิดเผยชี้แจงด้วยวาจาหรือ ลายลักษณ์xxxxx ส่งมอบหลักทรัพย์ ทรัพย์สิน ข้อมูล และเอกสารต่าง ๆ ตลอดจนกระทำการอื่นใด ตามคำสั่งหรือคำขอดังกล่าวได้โดยลูกค้าสัญญาว่า จะไม่เรียกร้อง หรือฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายใด ๆ จากบริษัทอันเนื่องมาจากการ ที่บริษัทได้ปฏิบัติไปตามคำสั่งหรือคำขอดังกล่าว
ข้อ 25. สัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์นี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของ สัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้าเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งลูกค้าได้กระทำไว้กับ บริษัท ข้อกำหนด และเงื่อนไขใด ๆ ที่กำหนดไว้ในสัญญาดังกล่าวให้นำมาใช้ บังคับกับสัญญานี้ด้วยโดยอนุโลม และไม่กระทบต่อxxxxxและหน้าที่ทั้งของ ลูกค้าและบริษัทที่มีอยู่xxxxxxxxxxxxxxxxเดิม
ข้อ 26. ในกรณีที่บริษัทได้ผ่อนผันการปฏิบัติxxxxxxxxของลูกค้าใด ๆ xxxxxxxxนี้ หรือละเว้นการใช้xxxxxบอกเลิกสัญญาในคราวใด ให้xxxxxxการ ผ่อนผัน หรือการละเว้นดังกล่าวเป็นการผ่อนผันหรือการละเว้นเฉพาะคราวเท่านั้น ข้อ 27. ในกรณีที่ข้อตกลงแห่งสัญญานี้ ข้อใดข้อหนึ่งขัดต่อกฎหมาย หรือ ไม่มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมายหรือตกเป็นโมฆะโดยผลของกฎxxxxxxx ประกาศข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายอื่นใดxxxxxxxxxxxxสองฝ่าย
ตกลงให้ข้อตกลงxxxxxxขัดต่อกฎหมายยังxxมีxxxxxxxxxใช้บังคับได้ต่อไป
ข้อ 28. ลูกค้ายอมรับว่าลูกค้าเข้าใจและรับทราบถึงกฎหมาย ประกาศ xxxxxxx หรือข้อบังคับของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์ หน่วยราชการหรือหน่วยงานใดของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ดีแล้วโดยลูกค้าจะถือปฏิบัติตามโดยเคร่งครัดรวมทั้งกรณี ที่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมกฎหมาย ประกาศ xxxxxxxหรือข้อบังคับ ดังกล่าวด้วย
ลูกค้ารับทราบถึงลักษณะความเสี่ยงต่าง ๆ อันอาจจะเกิดขึ้นจากการกู้ยืม เงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์xxxxxxxxนี้เป็นอย่างxxxxxx xxxx ความxxxxxxขึ้นลง ของดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ความxxxxxxของxxxxxxของหลักทรัพย์และ ทรัพย์สิน ความเสี่ยงอันอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย กฎxxxxxxxและ ประกาศที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ กับธุรกรรมนี้ ลูกค้ารับทราบและxxxxxxxxว่าการ ลงนามในสัญญาฉบับนี้xxxxxxเป็นการลงนามรับทราบถึงความเสี่ยงต่างๆ ทั้งปวงด้วย
ในกรณีที่กฎหมาย ประกาศ xxxxxxx หรือข้อบังคับใดที่กล่าวมาใน วรรคxxxxxxการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมภายหลังนับจากวันทำสัญญานี้ คู่สัญญาตกลงให้ถือตามกฎหมายประกาศ xxxxxxxหรือข้อบังคับxxxxxxมีการ เปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมนั้น เว้นแต่กรณีที่บริษัทกำหนดยกเว้นเป็นอย่างอื่น อย่างไรก็ตาม บริษัทxxxxxxxxxที่จะทำการแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขใด ๆ แห่ง สัญญานี้ตามที่บริษัทเห็นxxxxx โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อน แต่ทั้งนี้บริษัทxxxxxxการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้ลูกค้าทราบและลูกค้าตกลงที่
จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่บริษัทได้แก้ไข / เปลี่ยนแปลงอย่างเคร่งครัด ลูกค้าเข้าใจข้อความในสัญญานี้ตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยาน
ลงชื่อ ลูกค้า ( )
ลงชื่อ บริษัท ( ) บริษัทหลักทรัพย์xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ลงชื่อ พยาน ( )
ลงชื่อ พยาน ( )
บริษัทหลักทรัพย์ xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ข้อชี้แจงลูกค้าสำหรับการเปิดบัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ในระบบ Credit Balance
บริษัทฯ จัดทำเอกสารฉบับนี้ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าเข้าใจถึงนโยบาย บริษัทฯ เกี่ยวกับบัญชีเงินกู้ยืมเพื่อ ซื้อขายหลักทรัพย์ประเภท Credit Balance ที่ลูกค้าควรทราบ ดังต่อไปนี้
1. ลักษณะบัญชี Credit Balance เป็นรูปแบบการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ที่พิจารณาสถานะของลูกค้า
โดยรวมทั้ง Portfolio ซึ่งในการให้กู้ยืมเงินดังกล่าว ลูกค้าต้องนำเงินสดหรือ หลักทรัพย์อื่น ๆ ที่บริษัทกำหนดมาวางเป็นประกันการชำระหนี้กับบริษัท ก่อน การซื้อหลักทรัพย์ โดยxxxxxซื้อของลูกค้าจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลูกค้านำมา วาง และxxxxxxหลักทรัพย์ที่ซื้อและวางเป็นหลักประกัน ซึ่งบริษัทต้องปรับ xxxxxxของหลักทรัพย์ ที่เป็นประกันทุกวัน (Mark to Market ) ผลจากการ Mark to Market จะทำให้xxxxx ซื้อของลูกค้าxxxxx/ลดโดยอัตโนมัติตามxxxxxx ตลาดของหลักทรัพย์ของลูกค้า ทั้ง Portfolioโดยไม่มีการคำนวณกำไร/ขาดทุน ของหลักทรัพย์แต่ละรายการเหมือนระบบเดิม
2. คำอธิบาย ความหมายในระบบ Credit Balance
2.1 " ลูกค้า "
หมายความว่า ผู้ที่ทำสัญญากู้ยืมเงินกับบริษัทเพื่อใช้ในการซื้อหลักทรัพย์
2.2 " บัญชีxxxxxxxx "
หมายความว่า บัญชีที่บันทึกรายการให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อการซื้อหลักทรัพย์
2.3 " อัตราxxxxxxxxเริ่มต้น " (Initial Xxxxxx Xxxx)
หมายความว่า อัตราส่วนขั้นต่ำของจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระ หรือ หลักทรัพย์จดทะเบียนที่ลูกค้าต้องวางเป็นประกันเพื่อซื้อหลักทรัพย์หรือ ทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้าที่ลูกค้ามีในบัญชีxxxxxxxxต่อxxxxxxซื้อหลักทรัพย์ราย การใดรายการหนึ่งก่อนที่จะซื้อหลักทรัพย์รายการนั้น
2.4 " ทรัพย์สินของลูกค้า " (Equity)
หมายความว่า xxxxxxสุทธิของเงินสดหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่นที่เป็น ประกันการชำระหนี้ในบัญชีxxxxxxxxของลูกค้าเมื่อหักภาระหนี้ที่เกิดจากการซื้อ หรือขายหลักทรัพย์ในบัญชีxxxxxxxxของลูกค้ารายนั้นแล้ว
2.5 " ทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้า " (Excess Equity)
หมายความว่า ทรัพย์สินของลูกค้าในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่ลูกค้าต้องดำรงไว้ ตามอัตราส่วนที่บริษัทกำหนด
2.6 " xxxxxxซื้อ " หมายความว่าจำนวนเงินค่าซื้อหลักทรัพย์แต่ละรายการที่ซื้อจากบัญชีxxxxxxxx ซึ่งรวมค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับ รายการนั้นแล้ว
2.7 "xxxxxซื้อ" ( Purchasing Power)
หมายความว่า จำนวนเงินสูงสุดที่ลูกค้าอาจสั่งซื้อหลักทรัพย์จาก บัญชี xxxxxxxxxxx ณ ขณะใด ขณะหนึ่ง ซึ่งรวมค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย หลักทรัพย์ และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
2.8 "หลักทรัพย์ที่ซื้อในบัญชีxxxxxxxxxxx" (Marginable Securities) หมายความว่า หลักทรัพย์ที่บริษัทประกาศอนุญาตให้ลูกค้าซื้อในบัญชี
4
xxxxxxxxxxx โดยบริษัทจะพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ตามประกาศคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ/หรือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
2.9 " ภาระหนี้ "
หมายความว่า หนี้ที่เกิดจากการซื้อหลักทรัพย์รวมค่าธรรมเนียมนายหน้า ซื้อขายหลักหลักทรัพย์และภาษีมูลค่าเพิ่ม ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเงินกู้ยืมที่เกิดจาก การถอนทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้า ค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ต้องชำระให้แก่บริษัท ตลอดจนหนี้สินอื่นใดที่ลูกค้าต้องชำระให้กับบริษัท
2.10 "xxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้" (Maintenance Margin ) หมายความว่า ระดับxxxxxxหลักประกันที่ลูกค้าต้องดำรงไว้ในบัญชีxxxxxxxx ในกรณีที่ทรัพย์สินของลูกค้าลดลงจนต่ำกว่าxxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ ลูกค้าต้องxxxxxxหรือทรัพย์สินมาวางเป็นประกันxxxxxจนทำให้ทรัพย์สินของ
ลูกค้าไม่ต่ำกว่าxxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้
2.11 " xxxxxxหลักประกันขั้นต่ำ "
หมายความว่า ระดับxxxxxxหลักประกันขั้นต่ำที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการบังคับ ชำระหนี้ โดยหากxxxxxxทรัพย์สินของลูกค้าเท่ากับหรือต่ำกว่าxxxxxxหลักประกัน ขั้นต่ำที่บริษัทกำหนด บริษัทจะxxxxxxการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่เป็น หลักประกัน (Forced Sale ) ในระหว่างวันทำการตลอดเวลาตามที บริษัทเห็นxxxxx จนทำให้ทรัพย์สินของลูกค้าสูงกว่าxxxxxxหลักประกันขั้นต่ำ
xxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ และxxxxxxหลักประกันขั้นต่ำคำนวณจาก xxxxxxทรัพย์สินที่ลูกค้านำมาวางเป็นประกัน ในกรณีเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน จะใช้ราคาของหลักทรัพย์แต่ละหลักทรัพย์ คูณด้วยอัตราที่บริษัทประกาศ กำหนดเป็นคราว ๆ ไป ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่าอัตราที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด และอัตราดังกล่าวนี้ ลูกค้าตกลงยินยอมว่าบริษัทมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงได้โดย ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า
3. การเปิดบัญชี และการกำหนดวงเงิน
- ลูกค้าต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทเงินสด (Cash) หรือ Cash Balanceด้วย
- ลูกค้ารับทราบถึงความเสี่ยงของการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ รวม ทั้งความเสี่ยงจากการวางเงินไว้กับบริษัท ซึ่งxxxxxxรับความคุ้มครองจากกองทุน เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
- ลูกค้าต้องวางหลักประกันก่อนการซื้อหลักทรัพย์ครั้งแรกในจำนวนไม่ต่ำ กว่าอัตราxxxxxxxxเริ่มต้น
- ลูกค้าจ่ายค่าอากรแสตมป์เพื่อติดสัญญาฯ เป็นเงินสดในอัตราวงเงิน 1,000,000 บาท/ เรียกเก็บ 500 บาท เศษ ของ 1,000,000 บาท เรียกเก็บอีก
500 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
- กรณีลูกค้าวางหลักประกันเป็นเช็ค ต้องรอให้เรียกเก็บเงินตามเช็คได้ก่อน จึงจะxxxxxxซื้อหลักทรัพย์ได้
- ในการพิจารณากำหนดวงเงินให้กู้ยืมแก่ลูกค้า บริษัทขอxxxxxxxxxที่จะ ปรับลดหรือจำกัดการรับฝากหลักประกันเพื่อการกู้ยืมเงินของลูกค้า เพื่อให้การบริหารเงินกองทุนของบริษัท และการให้บริการลูกค้าเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ
- ในการให้กู้ยืม ณ ขณะใดขณะหนึ่งของบริษัท บริษัทขอxxxxxxxxxที่จะ พิจารณาตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับยอดรวมวงเงินให้กู้ยืมของบริษัทซึ่งทั้งนี้ ลูกค้าอาจจะxxxxxxรับเงินกู้ยืมตามวงเงินที่ลูกค้าได้รับการพิจารณาอนุมัติ
- ในการกำหนดวงเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ใดหลักทรัพย์หนึ่ง ณ ขณะ ใดขณะหนึ่งบริษัทขอxxxxxxxxxที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับการ พิจารณาความเสี่ยงของหลักทรัพย์นั้นๆ
- ในกรณีที่ลูกค้าฝากหลักประกันเป็นเงินสดในบัญชี Credit Balance โดยยังไม่มีการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านบัญชี เกินกว่าระยะเวลา เดือนบริษัทอาจ จะโอนเงินสดที่ฝากเป็นหลักประกันในบัญชี Credit Balance ดังกล่าวไปฝาก เป็นหลักประกันที่บัญชีเงินสด แทนเนื่องจากxxxxxxxxxxว่าลูกค้าไม่xxxxxxxจะ ใช้วงเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
4. ประเภท และxxxxxxของหลักประกัน
4.1 หลักประกันที่xxxxxxคำนวณxxxxxซื้อ
4.1.1 เงินสด
4.1.2 หลักทรัพย์ที่บริษัทอนุญาตให้ซื้อขายในบัญชี Credit Balance ได้
4.2 หลักประกันxxxxxxสร้างxxxxxซื้อ แต่xxxxxxxxxxxxxxและอัตรา Mainte- nance Margin
4.2.1 หลักทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกันxxxxxxxxตามประกาศของบริษัท (Non Marginable)
หมายเหตุ
1. บริษัท จะประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่อนุญาตให้ซื้อขายได้ , หลักทรัพย์ ที่บริษัทรับเป็นหลักประกัน พร้อมทั้งอัตราxxxxxxxxเริ่มต้นของหลักทรัพย์ที่ซื้อ หรือเป็นหลักประกันเป็นคราว ๆไป
2. บริษัทต้องxxxxxxการจดแจ้งจำนำสำหรับหลักทรัพย์ที่ลูกค้านำมาวาง เป็นประกันในบัญชีxxxxxxxx โดยลูกค้าต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจ และ สัญญาจำนำให้บริษัทเพื่อให้บริษัทxxxxxxxxxxxxการที่บริษัทศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ (ประเทศไทย ) จำกัด ได้
5. การซื้อขายหลักทรัพย์
5.1 ไม่xxxxxxซื้อหลักทรัพย์เกินกว่าxxxxxซื้อที่คำนวณให้ ณ ขณะใด ขณะหนึ่ง
5.2 ไม่อนุญาตให้ทำรายการขายหลักทรัพย์ โดยที่ลูกค้าไม่มีหลักทรัพย์อยู่ ในบัญชีxxxxxxxx
5.3 ในกรณีที่มีประกาศเปลี่ยนแปลงหลักทรัพย์ที่อนุญาตใหซื้อขาย เป็นหลักทรัพย์ที่ห้ามซื้อขายในบัญชี Credit Balance และลูกค้าซื้อ หลักทรัพย์นั้นในบัญชีไปแล้วบริษัทจะxxxxxxการโอนหลักทรัพย์ดังกล่าว ออก จากบัญชี Credit Balance และเมื่อภายหลังโอนหลักทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ทรัพย์สินลดลงจนทำให้ลูกค้าต้องวางหลักประกันxxxxx ลูกค้ามีหน้าที่จะต้องนำ เงินสดหรือหลักประกันอื่นที่บริษัทฯ กำหนด ฝากเข้าบัญชีเพื่อเป็นหลักประกัน เพิ่มเติม ตามเกณฑ์การเรียกหลักประกันxxxxxและบังคับชำระหนี้
6. หลักทรัพย์ที่อนุญาต และไม่อนุญาตให้ซื้อขายในบัญชีxxxxxxxxรวมทั้ง อัตราxxxxxxxx
6.1 บริษัทจะพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน สภาพxxxxx ความxxxxxxของระดับ ราคา และความเสี่ยงต่าง ๆ ของหลักทรัพย์นั้น ๆ โดยมีการทบทวนรายชื่อ หลักทรัพย์ และอัตราxxxxxxxx ซึ่งจะประกาศให้ทราบเป็นคราว ๆ ไป
6.2 อัตราxxxxxxxxเริ่มต้น ( Initial Margin Rate ) อัตราหลักประกันที่ต้อง ดำรงไว้ (Maintenance Margin Rate) อัตราหลักประกันขั้นต่ำ (Minimum Requirement Rate) เป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
6.3 บริษัทไม่มีนโยบายให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ใดหลักทรัพย์หนึ่งใน ลักษณะกระจุกตัวโดยกำหนดห้ามให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ใด หลักทรัพย์หนึ่งเกินกว่าร้อยละ 5 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ นั้น
นอกจากข้อห้ามเป็นการทั่วไปข้างต้น บริษัทขอxxxxxxxxxในการพิจารณา ลักษณะการ กระจุกตัวของหลักทรัพย์ใดหลักทรัพย์หนึ่งโดยxxxxxความเสี่ยง จากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดในแต่ละหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทxxxxxxให้ลูกค้าทราบเพื่อ xxxxxxการปรับปรุงบัญชีxxxxxxxxของลูกค้าเพื่อ ช่วยลดความxxxxxxxxxกล่าว
7. การเรียกหลักประกันxxxxx และการบังคับชำระหนี้
7.1 การเรียกหลักประกันxxxxx จะxxxxxxการเมื่อxxxxxxทรัพย์สินของลูกค้า ( Equity ) ลดลงต่ำกว่าxxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ ดังนี้
ก.มีหนังสือเรียกหลักประกันxxxxxจากลูกค้าในวันทำการถัดจากxxxxxxxxxxxx ทรัพย์สินของลูกค้าต่ำกว่าxxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้
ข.จะเรียกหลักประกนั เพมจนทำให้ทรัพยสินของลูกค้าเท่ากับหรือสูงกว่าxxxxxx หลักประกันที่ต้องดำรงไว้
ค.ห้ามมิให้ลูกค้าทำการซื้อหลักทรัพย์ตั้งแต่วันแรกที่เรียกหลักประกันxxxxx ง.ลูกค้าต้องxxxxxxการวางหลักประกันxxxxxภายในวันทำการถัดจากxxxxxxใน หนังสือแจ้ง และหากลูกค้าไม่xxxxxxการวางหลักประกันxxxxxภายใน 5 วันทำการ นับ
แต่xxxxxxในหนังสือแจ้ง บริษัทต้องxxxxxxการบังคับชำระหนี้ในวันทำการถัดไป
7.2 การบังคับชำระหนี้ เมื่อxxxxxxทรัพย์สินของลูกค้าเท่ากับ หรือต่ำกว่าxxxxxx หลักประกันขั้นต่ำ บริษัทต้องxxxxxxการบังคับชำระหนี้ โดยการบังคับขายหลักทรัพย์ ที่เป็นหลักประกันในระหว่างเวลาทำการของวันตามที่บริษัทเห็นxxxxxเพื่อทำให้ ทรัพย์สินของลูกค้าสูงกว่า xxxxxxหลักประกันขั้นต่ำ ซึ่งลูกค้าต้องxxxxxxการวางหลัก ประกันxxxxxตามข้อ 7.1 หรือบังคับขายจนทำให้ทรัพย์สินของลูกค้าสูงกว่าหรือเท่ากับ
xxxxxxหลักประกันที่ต้องดำรงไว้
5
8. การฝาก-ถอนเงินและหลักประกัน
8.1 ลูกค้าต้องแจ้งฝากหลักประกันล่วงหน้าก่อนเวลา 12.00 น.และหลัก ประกันดังกล่าวจะxxxxxxxxxxxเป็นxxxxxxทรัพย์สินของลูกค้าได้เมื่อบริษัท xxxxxxเรียกเก็บเป็นเงินสดได้ในกรณีชำระเป็นเช็ค หรือxxxxxxโอนผ่าน TSD เข้าบัญชีลูกค้าที่บริษัทได้ในกรณีเป็นหลักทรัพย์
8.2 ลูกค้าต้องแจ้งถอนหลักประกันล่วงหน้าก่อนเวลา 12.00 น.โดยxxxxxx ถอนxxxxxxเกินจำนวน Cash Balance ของลูกค้า และเมื่อถอนแล้วไม่ทำให้ ทรัพย์สินส่วนเกิน (Excess Equity) xxxxxติดลบ เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้ที่ลูกค้า ไม่xxxxxxถอนหลักประกันได้
8.2.1 กรณีที่ลูกค้าได้นำหลักทรัพย์มาฝากเป็นประกันในบัญชีxxxxxxxx และลูกค้าไม่มีเงินสดคงเหลือในบัญชีโดยในกรณีนี้ลูกค้าไม่xxxxxxถอนหลัก ประกันประเภทเงินสด แต่xxxxxxถอนหลักประกันประเภทหุ้นได้
9. การถอนหลักทรัพย์ที่ซื้อ
9.1 หลักทรัพย์ที่ขอถอนต้องพ้นกำหนดเวลาชำระราคาและส่งมอบกับ ศูนย์รับฝากฯ แล้ว
9.2 xxxxxxสูงสุดที่ไถ่ถอนได้นั้นต้องไม่ทำให้ยอดทรัพย์สินส่วนเกินของลูกค้า ติดลบ
10. การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยเงินสดคงเหลือเมื่อมี การเปลี่ยนแปลง บริษัทxxxxxxให้ทราบเป็นคราว ๆ ไป
10.1 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเป็นอัตราผันแปรตามปริมาณการซื้อขายตาม เงื่อนไขที่บริษัทจะกำหนด ซึ่งจะไม่น้อยกว่า อัตราที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
10.2 อัตราดอกเบี้ยเงินสดคงเหลือ ไม่มากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ บริษัทได้รับจากการฝากเงิน (จ่ายเมื่อยอดเงินสดคงเหลือหลังหักมูลหนี้xxxxxxxx แล้วเป็นรายวัน )
10.3 บริษัทจะxxxxxxการ รับ/จ่าย ดอกเบี้ย โดยวิธีปรับปรุงจากบัญชี xxxxxxxxเสมือนว่าลูกค้าได้ถอนเงินหรือxxxxxxมาวางxxxxxในบัญชีแล้วแต่กรณี
11. การรับ / จ่ายเงินกับบริษัท ลูกค้าขอแจ้งความxxxxxxxในการรับเงินที่จะถอนได้จากบัญชีxxxxxxxxหรือ
การจ่ายเงินของลูกค้าเพื่อxxxxxหลักประกันในบัญชีxxxxxxxxโดยให้บริษัท xxxxxxการดังนี้ (เลือกข้อ 1 หรือ ข้อ 2)
( ) 1. กรณีการรับเงินจากการถอน
1.1 รับเป็นเช็ค
( ) เช็คธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงานใหญ่ สีลม ( ) เช็คธนาคารกสิกรไทย สาขาหลังสวน
( ) เช็คธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนวิทยุ
1.2 ให้xxxxxxเข้าบัญชีธนาคาร.................................................
ชื่อบัญชี..........................................................................
เลขที่บัญชี.......................................................................
สาขา...............................................................................
ประเภทบัญชี...................................................................
- กรณีการจ่ายเงินของลูกค้าเพื่อxxxxxหลักประกัน ( ) ชำระโดยเช็ค
( ) โอนเงินเข้าบัญชีบริษัท
เลขที่ ..............................................................................
ธนาคาร...........................................................................
สาขา...............................................................................
( ) 2. กรณีใช้ระบบบัญชีเงินฝาก ( ATS ) ( ) ธนาคารกรุงเทพ
สาขาสำนักงานใหญ่สีลม เลขที่บัญชี..................................
สาขา...............................................................................
( ) ธนาคารกสิกรไทย
สาขาหลังสวน เลขที่บัญชี..................................................
สาขา...............................................................................
( ) ธนาคารไทยพาณิชย์
สาขาถนนวิทยุ เลขที่บัญชี.................................................
สาขา...............................................................................
หมายเหตุ xxxxxกรอกรายละเอียดในหนังสือยินยอมให้หักเงินฝากธนาคาร โดยขอแบบฟอร์มที่เจ้าหน้าที่
ลูกค้าได้ทราบและเข้าใจเงื่อนไขทั้งหมดสำหรับการเปิดบัญชีอย่างละเอียด ถูกต้องแล้ว และxxxxxxxxxจะปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวทุกประการ
ชี้แจงโดย ลงชื่อ/Signature. เจ้าหน้าที่การตลาด
/Marketing (. )
รับทราบและยอมรับโดย ลงชื่อ/Signature. ลูกค้า/Customer
(.............................................................)
เมื่อxxxxxx...........................................................................
6
ทำที่ บริษัทหลักทรัพย์ xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) xxxxxx.................................................................. xxxxxxxxxxxxฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง 1).................................................................................................................................................................... สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ / อยู่บ้านเลขที่...................ถนน.....................................................................................ตำบล / แขวง..................................................... อำเภอ / เขต.....................................................จังหวัด.................................................................................. ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญาจะเรียกว่า “ผู้จำนำ” ฝ่ายหนึ่งกับ 2) บริษัทหลักทรัพย์ xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญาจะเรียกว่า “ผู้รับจำนำ” อีกฝ่ายหนึ่ง ตามที่ผู้จำนำได้ทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และสัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ประเภท xxxxxxxxในระบบ CREDIT BALANCE เลขที่บัญชี............................................................ลงxxxxxx. ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญาจะเรียกว่า “สัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์” ไว้กับผู้รับจำนำ ผู้จำนำตกลงจำนำ และผู้รับจำนำตกลงรับจำนำหลักทรัพย์และหรือทรัพย์สินใดเพื่อเป็นหลักประกันการชำระหนี้xxxxxxxxกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขาย หลักทรัพย์และหรือหนี้สินทุกประเภทที่ผู้จำนำมีต่อผู้รับจำนำ ทั้งสองฝ่ายจึงทำสัญญาจำนำฉบับนี้ขึ้น ดังมีข้อความสำคัญต่อไปนี้ ข้อ 1. ผู้จำนำขอจำนำหลักทรัพย์และหรือ ทรัพย์สินใดๆ ข้อ 5. ผู้จำนำตกลงให้ผู้รับจำนำมีxxxxxยึดหลักประกันไว้ได้ทั้งหมดจนกว่า ดังมีรายการและจำนวนดังต่อไปนี้ คือ จะได้รับชำระหนี้และค่าอุปกรณ์ รวมทั้งหนี้สินอื่นใดที่ผู้จำนำมีต่อผู้รับจำนำจน (1) หลักทรัพย์ ตามความหมายแห่งสัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้าซื้อขาย ครบถ้วน หลักทรัพย์และสัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทxxxxxxxxในระบบ ข้อ 6. ผู้จำนำขอรับรองกับผู้รับจำนำว่า ผู้จำนำเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ CREDIT BALANCE ที่จำนำโดยเด็ดขาดแต่ผู้เดียว และผู้จำนำไม่เคยจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อให้เกิด (2) ทรัพย์สินใดๆ คือ ภาระผูกพันประการใดในทรัพย์ที่จำนำดังกล่าวทั้งสิ้น โดยผู้จำนำเป็นผู้มีxxxxx .................................................................................................................. โดยชอบด้วยกฎหมายทุกประการทจะจำนำทรัพย์ทจำนำต่อผู้รบจำนำหากต้อง .................................................................................................................. บังคับจำนำขายทอดตลาด ทรัพย์ที่จำนำxxxxxxพอชำระหนี้ ผู้จำนำยินยอม .................................................................................................................. ใช้หนี้ในส่วนที่ขาดจนครบถ้วนทุกประการให้แก่ผู้รับจำนำ ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญาฉบับนี้ถ้าไม่ระบุเรียกเป็นอย่างอื่นจะรวมเรียกว่า ข้อ 7. ผู้จำนำสัญญาว่าจะไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการทำให้xxxxx “ทรัพย์ที่จำนำ”ไว้กับผู้รับจำนำเพื่อเป็นหลักประกันหนี้สินทุกประเภทของผู้ ในทรัพย์ที่จำนำนั้นสิ้นไป หรือแก้ไขxxxxxนั้นให้เป็นxxxxxxxxxxแก่ผู้รับจำนำ จำนำที่มีอยู่กับผู้รับจำนำไม่ว่าจะเป็นหนี้xxxxxxxxกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขาย ข้อ 8. หากผู้จำนำผิดนัดในการชำระหนี้ต่อผู้รับจำนำ ผู้รับจำนำ หลักทรัพย์ หรือหนี้อันเกิดจากการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลอดจนหนี้ในลักษณะ ย่อมมีxxxxxบังคับจำนำโดยxxxxxxxxให้ผู้จำนำไถ่ถอนการจำนำภายในกำหนด อื่นๆ xxxxxxxเป็นหนี้อยู่แล้วในขณะนี้และที่พึงจะมีขึ้นในภายหน้าโดยไม่จำกัด เวลาพอxxxxx xxxผู้จำนำไม่ไถ่ถอนการจำนำภายในเวลาที่กำหนดดังกล่าวนี้ จำนวนหนี้ และผู้รับจำนำตกลงรับจำนำตามที่กล่าวมานี้ ทรัพย์ที่จำนำตามที่ ผู้รับจำนำมีxxxxxนำหุ้นออกขายทอดตลาดเพื่อxxxxxxมาชำระหนี้ในกรณีที่ผู้ กำหนดไว้ในวรรคแรกให้รวมถึงหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินใดๆ ที่ผู้จำนำได้ให้ไว้ จำนำถึงแก่ความตาย หรือเป็นบุคคลที่สูญหาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความxxxxxx กับผู้รับจำนำเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ xxxxxxxเป็นหนี้ที่มีอยู่แล้วก่อนหรือขณะ หรือเสมือนไร้ความxxxxxx หรือถูกฟ้องร้อง หรือยกเลิกการมอบอำนาจใดที่ผู้ ที่ทำสัญญาฉบับนี้และที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้าเพี่อเป็นหลักประกันการ จำนำมีอยู่ต่อผู้รับจำนำ หรือกรณีอื่นใดที่เมื่อผู้รับจำนำเห็นเป็นการxxxxxเพื่อ ชำระหนี้เพิ่มเติมหลังจากสัญญาฉบับนี้ ป้องกันxxxxxxxxxxของผู้รับจำนำ ผู้จำนำตกลงยินยอมให้ผู้รับจำนำขายทรัพย์ ข้อ 2. ทรัพย์ที่จำนำหรือทรัพย์ที่จำนำเพื่อเป็นหลักประกันการชำระหนี้xxxxx xxxจำนำเพื่อนำมาชำระหนี้xxxxxxxxกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ได้ทันที เติมที่กำหนดไว้ในข้อ 1.ให้xxxxxxผู้จำนำได้ตกลงส่งมอบให้กับผู้รับจำนำและxxxx xxxxxxxxxxตามวรรคแรกหรือคำxxxxxxxxในกรณีอื่นใดก็ดีเมื่อผู้รับจำนำได้ ในความครอบครองของผู้รับจำนำ ไม่ว่าจะโดยวิธีส่งมอบให้กับผู้รับจำนำ จัดส่งไปยังผู้จำนำตามสถานที่อยู่ที่ผู้จำนำได้จดแจ้งไว้ข้างต้นของหนังสือนี้แล้ว โดยตรง ส่งมอบโดยนายหน้าโดยผ่านระบบของบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะโดยส่งเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ไม่ว่าจะถึงตัวหรือไม่ถึงตัว และไม่ว่าจะ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญาจะเรียกว่า “ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์” มีผู้รับไว้หรือไม่มีผู้ใดยอมรับไว้ก็ตาม หรือส่งxxxxxxเพราะผู้จำนำย้ายสถานที่อยู่ ทั้งนี้ภายในวันและเวลาที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ หรือตลาดหลักทรัพย์หรือบริษัท ไปโดยมิได้แจ้งให้ผู้รับจำนำทราบ หรือสถานที่อยู่ของผู้จำนำที่ให้ไว้ค้นหาไม่พบ กำหนด การส่งมอบโดยวิธีการภายในวันและเวลาดังกล่าวให้xxxxxxผู้จำนำได้ หรือถูกรื้อถอนทำลายทุกๆ กรณีที่กล่าวมานี้ ผู้จำนำยินยอมผูกพันให้xxxxxx ส่งมอบเพื่อจำนำxxxxxxxxจำนำฉบับนี้แล้ว หนังสือxxxxxxxxนั้นๆ ได้จัดส่งผู้จำนำโดยชอบแล้ว ข้อ 3. การจดแจ้งหรือการเพิกถอนการจำนำ หรือการxxxxxxการอื่นใดเกี่ยว ข้อ 9. การจำนำนี้ไม่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน xxxxxxxxxxxผู้จำนำยังxx กับหลักประกันที่จำนำxxxxxxxxนี้ ผู้จำนำตกลงมอบอำนาจให้ผู้รับจำนำเป็น เป็นหนี้กับผู้รับจำนำอยู่การจำนำนี้ยังxxมีอยู่ตลอดไปและผู้รับจำนำย่อมใช้ ผู้xxxxxxxกระทำการแทนทั้งหมดทุกคราวไป xxxxxบังคับจำนำได้ทุกเมื่อ ข้อ 4. ผู้จำนำตกลงยินยอมให้ผู้รับจำนำดูแลเก็บxxxxxxxxxxxที่จำนำนี้ทั้งหมด ข้อ 10. ในกรณีที่ทรัพย์ที่จำนำนี้มีราคาซื้อขายไม่ว่าในหรือนอกตลาด หรือบางส่วนไว้ที่ผู้รับจำนำ และหรือxxxxxxการอื่นใดดังต่อไปนี้ หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้วแต่กรณีลดน้อยถอยลงจนราคาไม่พอเพียงแก่ (1) ทรัพย์ที่จำนำที่เป็นหลักทรัพย์ xxxxxxการฝากไว้กับศูนย์รับฝาก การประกันหนี้หรือเมื่อผู้รับจำนำเห็นว่าxxxxxxของทรัพย์สินที่จำนำลดน้อย หลักทรัพย์หรือที่อื่นใดตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด ถอยลง ผู้จำนำจะต้องนำทรัพย์สินอื่นที่มีราคาพอเพียงมาจำนำxxxxxให้คุ้มพอ หลักทรัพย์หรือผู้รับจำนำกำหนด กับจำนวนหนี้ที่ผู้จำนำค้างชำระอยู่กับผู้รับจำนำโดยxxxxxxxxx ถ้าผู้จำนำบิดพริ้ว (2) ทรัพย์จำนำที่เป็นทรัพย์สินอื่น xxxxxxการฝากไว้ตามที่สำนักงาน ไม่ยอมปฏิบัติ หรือไม่xxxxxxปฏิบัติตามความที่กล่าวนี้ ผู้รับจำนำมีxxxxxเรียก คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และผู้รับจำนำกำหนด ให้ผู้จำนำชำระหนี้และบังคับจำนำได้ทันที และหากบังคับจำนำเอากับทรัพย์สิน 1 |
ข้อ 11. ผู้จำนำยินยอมผูกพันตามหนังสือxxxxxxxxแจ้งการจำนำหุ้นที่จำนำ ซึ่งผู้รับจำนำจะได้จัดการแจ้งไปยังนายทะเบียนหลักทรัพย์ของบริษัทที่ออกหุ้นที่ จำนวนนั้นในนามของผู้จำนำด้วย
ข้อ 12. กรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ใช้xxxxxใดๆตามบทบัญญัติข้อใดข้อหนึ่งแห่งสัญญานี้ไม่ถือเป็นการตัดxxxxxคู่สัญญาในการใช้xxxxxตามบทบัญญัติแห่ง สัญญานี้แต่อย่างใด
เพื่อเป็นหลักฐานในการนี้ xxxxxxxxxxxxสองฝ่ายจึงได้ร่วมกันลงลายมือชื่อ และประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานข้างท้ายนี้ ลงชื่อ. ผู้จำนำ
(....................................................................................)
ลงชื่อ. ผู้รับจำนำ
(....................................................................................)
บริษัทหลักทรัพย์ xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ลงชื่อ. พยาน
(....................................................................................)
ลงชื่อ. พยาน
(....................................................................................)
2
หนังสือมอบอ˚ำนำจ
บริษัทหลักทรัพย์ xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จ˚ากัด (มหาชน) xxxxxx
โดยหนังสือฉบับนี้ข้าพเจ้า ส˚านักงานตั้งอยู่เลขที่ / บ้านเลขที่ หมู่ที่ ตรอก / ซอย ถนน ต˚าบล / แขวง อ˚าเภอ / เขต
จังหวัด ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหลกั ทรัพย์ ตามความหมายแห่งสัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้าซื้อขาย
หลักทรัพย์ และสัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทxxxxxxxxในระบบ CREDIT BALANCE ซึ่งต่อไปนี้ในหนังสือฉบับนี้จะเรียกว่า “หลักทรัพย์” ขอมอบ อ˚านาจให้ บริษัทหลักทรัพย์ xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จ˚ากัด (มหาชน) ส˚านักงานตั้งอยู่ชั้น 8, 10 อาคารสาทรสแควร์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ 98 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เป็นผู้มีอา˚ นาจกระท˚าการแทนข้าพเจ้า ในการท˚านิติกรรมจ˚าน˚าหลักทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นกับบริษัทหลักทรัพย์ xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จ˚ากัด (มหาชน) เพื่อเป็นการประกันหนี้ของข้าพเจ้าxxxxxxxxแต่งตั้งตัวแทนนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และสัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทxxxxxxxxใน ระบบ CREDIT BALANCE หนี้ค่าอุปกรณ์และหรือหนี้สินอื่นๆ ทุกประเภท xxxxxxxมีอยู่แล้วในขณะนี้หรือที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้า ในวงเงินไม่จ˚ากัดจ˚านวนหนี้ และ ให้ผู้มีอ˚านาจในการจดแจง้ จ˚าน˚าหลักทรัพย์ดังกล่าวตลอดจนมีอ˚านาจด˚าเนินการใดๆ อันเกี่ยวด้วยการที่กล่าวมาข้างxxxxxxข้าพเจ้าจนเสร็จการ รวมทั้งให้มีอ˚านาจ แต่งตั้งตัวแทนช่วงเพื่อด˚าเนินการตามหนังสือมอบอ˚านาจฉบับนี้ได้ด้วย
การใดที่ผู้รับมอบอ˚านาจได้กระท˚าไปภายในขอบเขตแห่งการมอบอ˚านาจนี้ ให้ถือเสมือนหนึ่งว่าข้าพเจ้าได้กระท˚าด้วยตนเอง
เพื่อเป็นหลักฐานแห่งการนี้ ข้าพเจ้าจึงได้ลงลายมือชื่อและประทับตราบริษัทไว้เป็นส˚าคัญต่อหน้าพยาน
ลงชื่อ ผู้มอบอ˚านาจ
( )
ลงชื่อ ผู้รับมอบอ˚านาจ
( )
บริษัทหลักทรัพย์ xxxxxxxบี (ประเทศไทย) จ˚ากัด (มหาชน)
ลงชื่อ พยาน
( )
ลงชื่อ พยาน
( )
Page 1 of 1