ที่บุคคลใชเ้ ป็ นเครื่องประกอบการตกลงใจเพ่ือก่อนิติสัมพน จูงใจ” หรือ Motivation
ส่วนที่ ๗ ผลแห่งสัญญา บทที่ ๑ ผลของสัญญาต่างตอบแทน
อทาหรณ์
๑) ก. มอบหมายให้ ข. ไปซ้ือภาพศิลปะ ภาพหน่ึงในราคา ๒ แสนบาท เม่ือ ข. ซ้ือภาพน้น
มาแลว
ก. จึงเรียกให
่งภาพใหต้ ามมาตรา ๘๑๐ แต่ ข. ปฏิเสธ โดยอา้ งวา่ เงินที่มอบให้ไปซ้ือภาพ
น้ ขอ้
พอดี แต่มีค่าใช้จ่ายเป็ นค่าพาหนะอีก ๕๐๐ บาท ขอให้ ก. ชา˚ ระให้ก่อนจึงจะมอบภาพให อา้ งของ ข. ฟังข้ึนหรือไม่
๒) ก. กูเ้ งินจาก ข. ๓๐,๐๐๐ บาท โดยทา˚ หลก
ฐานเป็ นหนงั สือ เมื่อ ก. นา˚ เงินกูไ
ปชา˚ ระ ข.
ไดเรียกให้ ข. ออกหลกฐานรับเงินให้ก่อนจึงจะส่งมอบเงิน แต่ ข. ไม่ยอม ก. จึงไม่ยอมมอบเงินxxx
xx˚ ไปชา˚ ระ ข. จึงอา้ งว่า ก. ไม่มีสิทธิยึดหน่วงเงินไว้ เพราะตองชา˚ ระเงินเสียก่อน ข. จึงจะออก
ใบเสร็จให้ ดงั น้ีขออา้ งของ ข. ฟังขึ้นหรอไื ม
๓) ก. และ ข. ไปนง่ั ร้านอาหารแต่หยิบร่มสับคนxx x. จึงเรียกให้ ข. ส่งร่มของตนคืนให
แต่ไม่ยอมส่งร่มของ ข. คืนพร้อมกน
ดงั น้ี ข. จะxxxxxxxxxส่งร่มคืนให้ ก. ไดห
รือไม
๔) ก. ตกลงซ้ือภาพจาก ข. ในราคา ๕,๐๐๐ บาท เมื่อ ก. เรียกให้ ข. ส่งมอบและโอนภาพ
ให้ตน ข. อา้ งวา
ก. ยงั xxxxxช
า˚ ระเงินครบถว
น จึงยงั ไม่โอนกรรมสิทธ์ิภาพให้ ก. แต่ ก. อา้ งวา่ xx
xx˚ ระเงินครบถว
นแลว
ดงั น้ีหากไม่ปรากฏหลก
ฐานเพ่
เติมกวา่ น้ี ศาลจะตด
สินคดีน้ีวา่ อยา่ งไร
๕) กรณีจะเป็ นอยา่ งไร หากปรากฏวา
ก. xxx
x˚ ระเงินแก่ ข. เรียบร้อยแลว
ส่วนท่ี ๗ ผลแห่งสัญญา
๑. ข้อความเบื้องต้น
๑.๑ มูลเหตุจูงใจและวต
ถุทx
xxxxxxแห่งสัญญา
การก่อนิติx
xxxxโดยนิติกรรมเพ่ือใหxx xxxxxทางกฎหมายอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงน้น
xxxx
ยอมเป็ นผลจากการตกลงใจหรือกา˚ หนดxxxxxของบุคคลก่อความผูกพนหรือโอนxxxxxอยา่ งหนึ่ง
อย่างใดโดยมุ่งให้xxxxxxตามกฎหมายข้ึน โดยทว
ไปการตกลงใจของแต่ละบุคคลมก
เกิดข้ึนจาก
ความตx
xxxxxxxจะxxxxxวต
ถุประสงค
ย่างใดอยา่ งหน่ึงของบุคคลน้น
โดยก่อนจะตกลงใจบุคคล
มกจะคิดxxxxxxxxxx
น้า˚ หนก
ผลไดผ
ลเสียเป็ นเบ้ืองตน
เสียก่อน แลว
จึงตกลงใจและแสดงxxxxx
ตามxxxxxต
กลงใจไวเ้ พ
ก่อนิติสัมพน
xxxxx
ๆ ออกมา ความตx
xxxxหรือการคาดหมายผลไดผ
ลเสีย
ที่บุคคลใชเ้ ป็ นเครื่องประกอบการตกลงใจเพ่ือก่อนิติสัมพน จูงใจ” หรือ Motivation
ธ์ข้ึนน้ีเราอาจเรียกไดว
า่ เป็ น “มูลเหตุ
แต่มูลเหตุจูงใจในการทา˚ xxxxxxxxxxx แมจ
ะเป็ นเคร่ืองจูงใจให
กลงใจหรือก่อxxxxx
ข้ึน ก็นบ
เป็ นปัจจย
ภายในของxxxxx เม่ือไดต
กลงใจและก่อxxxxxข้ึนแลว
ก็ตอ
งxxxxxxเป็ นคนละ
เร่ืองคนละตอนกน
กบxxxxxxxxก่อข้ึน หรือxxxxxxxxแสดงออกมาโดยมุ่งต่อการก่อนิติสัมพน
ธ์อน
เป็ นส่วนสาระสา˚ คญ
ของนิติกรรม xxxxxxxxแสดงออกนบ
เป็ นปัจจย
ภายนอก xxxxxxxเหตุxxxxxxxxxxx
ภายในจิตใจน้นั โดยxxxxxxมีได
ลากหลาย กา˚ หนดให้รู้แน่ได้ยาก จึงถือกน
ว่าเป็ นเรื่องที่อยู่ใน
ความรับรู้ในจิตใจและรับผิดชอบของแต่ละบุคคล ซ่ึงไม่มีนย
ส˚าคญ
ในทางกฎหมาย มูลเหตุจูงใจ
น้น
จะสอดxxx
xกบ
ความเป็ นจริงหรือไม่ ยอ
มเป็ นความเส่ียงของบุคคลผูก
า˚ หนดxxxxxและแสดง
xxxxxน้น
เอง คู่กรณีแห่งนิติกรรมหรือผูเ้ ก่ียวขอ
งกบ
การแสดงxxxxxน้น
xxxxยอ
มxxxxxxxxxxxxxถึง
มูลเหตุจูงใจของผแู
สดงxxxxxทา˚ xxxxxxxxxxx เวน
แต่จะไดท
า˚ ใหป
รากฏแน่ชด
ออกมาภายนอก ดวย
การกา˚ หนดใหก
รณีอน
xxx xxxxเหตุจูงใจน้น
เป็ นเงื่อนไขความมีผลแห่งนิติกรรมที่ทา˚ ข้ึน หรือไดตก
ลงกน
หรือกา˚ หนดให้การxxxxxวต
ถุxxxxxxxตามมูลเหตุจูงใจน้น
เป็ นเน้ือหาส่วนหน่ึงของสัญญา
ดวย ในกรณีxxxxน้ีมูลเหตุxxxxxxxxแสดงออกให รากฏและยอมรับใหเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของสัญญาก็จะ
ยกระดบ
ข้ึนเป็ นวต
ถุท่ีประสงคแ
ห่งส
ญา หรือเน้ือหาของสัญญาแลว
แต่กรณี
ตามxxxx ความตองการ การคาดหมาย หรือการคาดคา˚ นวณผลแห่งนิติกรรมของผูท
ทา˚ นิติกรรมข้ึนย่อมเป็ นความรับผิดชอบของผูท
xxxxxxxxxxx xxxxxxxxxxx
ๆ เอง xxxxการท่ีผูท
า˚ นิติ
กรรมคาดว่าราคาสินคา้ ท่ีตนตอ
งการน้น
เป็ นราคาที่ถูกกว่าทอ
งตลาดมาก จึงตกลงซ้ือสินคา้ น้
หรือคาดxxx xxxxxx xxน
เป็ นส่ิงท่ีคนรักของตนกา˚ ลงั ตx
xxxxอยู่ ท้ง
ๆ xxxxxxจริงแลว
สินคา้ น้น
มีราคาแพง
กวา่ ทอ
งตลาด หรือเป็ นสินคา้ ท่ีคนรักของตนไม่ตx
xxxxเลย ความเขา้ ใจผิดเหล่าน้ีเป็ นความส˚าคญ
ผิดในมูลเหตุจูงใจซ่ึงไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อความมีผลตามกฎหมายของนิติกรรมเลย เวนแต่
ความสา˚ คญ
ผดxxxxน้น
จะกระทบต่อเน้ือหาสาระแห่งxxxxxxxxแสดงออกโดยตรง xxxxเราตกลงใจจะ
ทา˚ นิติกรรมกบ
นาย ก. แต่เขา้ ใจผิดไปว่านาย ข. เป็ นนาย ก. จึงตกลงทา˚ นิติกรรมกบ
นาย ข. โดย
เขา้ ใจว่ากา˚ ลง
ทา˚ นิติกรรมกบ
นาย ก. หรือตกลงใจผูกพน
ทางกฎหมายโดยลงนามเป็ นพยาน แต่
กลบ
ลงนามเป็ นคู่สัญญา ดง
น้ีเป็ นกรณีส˚าคญ
ผิดในสาระส˚าคญ
คือส˚าคญ
ผิดในตว
บุคคล และ
ส˚าคญั ผิดในลักษณะแห่งนิติกรรม นิติกรรมน้ันย่อมตกเป็ นโมฆะตามมาตรา ๑๕๖ กรณีที่
ความส˚าคญ
ผิดในมูลเหตุจูงใจอาจมีผลกระทบต่อความมีผลของนิติกรรมน้น
เป็ นกรณียกxxx
xxxx
กรณีการแสดงxxxxxน้ันเป็ นเพราะส˚าค
ผิดในxxxxxบ
ิของบุคคลหรือทรัพย์อ
xxxxเป็ น
สาระส˚าคญ
แห่งนิติกรรม ตามมาตรา ๑๕๗ ในกรณีxxxxน้ีกฎหมายxxxxxxเป็ นเรื่องส˚าคญ
และ
กา˚ หนดผลไวโ้ ดยเฉพาะใหเ้ ป็ นโมฆียะกรรม
อยา่ งไรก็ดี ควรเขา้ ใจวา
ในเร่ืองxxxxxxxxxxxxxxxx
กฎหมายไดก
า˚ หนดลก
ษณะแห่ง
นิติกรรมบางประเภทใหม
ีความมุ่งหมายอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงโดยเฉพาะ ตว
อยา่ งxxxxสัญญาบริการพก
อาศยั ในโรงแรม หรือสัญญาขนส่ง ซ่ึงเป็ นสัญญาที่มีวต
ถุประสงคห
รือความมุ่งหมายอยา่ งใดอยา่ ง
หน่ึงโดยเฉพาะ ในกรณีxxxxน้ีการที่บุคคลทา˚ นิติกรรมน้น
ๆ ยอ
มมีความมุ่งหมายตามลก
ษณะแห่ง
xxxxxxxxxxx
ไปพร้อมกน
xxxx xxxx xxxxxxxคู่กรณีแห่งxxxxxxxxxxxกา˚ หนดความมุ่งหมายแห่งนิติ
กรรมน้น
โดยตกลงกน
เป็ นอยา่ งอื่น แตกต่างจากความxxxxxxxxxxxกฎหมายกา˚ หนดไวก
็ได
ในกรณีที่คู่กรณีแห่งนิติกรรมมีความมุ่งหมายหรือมีวต
ถุที่ประสงคอ
ยา่ งใดอยา่ งหน่ึง
ร่วมกน
และตกลงกน
ใหค
วามมุ่งหมายหรือวต
ถุประสงคเ์ ช่นน้น
เป็ นส่วนหน่ึงแห่งนิติกรรม คู่กรณี
ย่อมตกลงกันได้ตามหล เสรีภาพแห่งการแสดงxxxxx และในกรณีxxxxน้ีความมุ่งหมายหรือ
วตถุประสงคน้น
ๆ ซ่ึงxxxxxxx xxxxเหตุจูงใจของxxxx xxxxxxมิไดม
ีนย
สา˚ คญ
ทางกฎหมาย ยอ
มยกระดบ
จากมูลเหตุจูงใจกลายมาเป็ นเน้ือหาแห่งสัญญา แต่ควรxxxxxxxx
xxxx ขอ
กา˚ หนดแห่งxxxxxxxxxxxxน้
แตกต่างจากเง่ือนไขแห่งนิติกรรมตรงที่ขอ
กา˚ หนดที่เป็ นความมุ่งหมายแห่งนิติกรรมน้น
xxxxxxxx
ถูกกา˚ หนดข้ึนในลxxxxxxxเป็ นเง่ือนไขความเป็ นผลหรือส้ินผลแห่งนิติกรรม แต่เป็ นเคร่ืองแสดง
ประโยชน์ท่ีคู่กรณีในนิติกรรมxxxxxxxจะไดร กระทบต่อความมีผลแห่งนิติกรรมเลย
ับเท่าน้
ในกรณีที่ผลxxxxน้น
มิไดเ้ กิดข้ึนย่อมไม
ตวอยา่ งxxxx การตกลงเป็ นสมาชิกหนง
สือหรือวารสารโดยแสดงxxxxxไวแ
ก่คู่กรณี
วา่ ไม่เคยเป็ นสมาชิกวารสารน้น ๆ xxxxxx หรือการxxx xช่างภาพถ่ายภาพโดยxxxxxxxxxxxxxxxวา
ตองการใช้ในการติดหนง
สือเดินทางเพ่ือเดินทางไปต่างประเทศ หากปรากฏว่า ผูส
มครสมาชิก
วารสารน้
ไดเ้ คยสมค
รเป็ นสมาชิกวารสารxxx
เดียวกน
ไวแล
หรือผูข
อหนังสือเดินทางขาด
xxxxxบต
ิในการขอหนงั สือเดินทางไปยงั ต่างประเทศ เป็ นเหตุxx
xรเป็ นสมาชิกวารสารก็ดี หรือ
การถ่ายภาพxxxx xxxxxxxxตามความมุ่งหมายของนิติกรรมน้น
ๆ ดงั น้ีหากคู่กรณีxxxxxต
กลงกนใน
ลxxxxxxxกา˚ หนดไวเ้ ป็ นเงื่อนไขแห่งนิติกรรม การท่ีจะxxxxxxตามความมุ่งหมายแห่งนิติกรรมน้น
ๆ หรือไม่ย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อความมีผลแห่งนิติกรรม (คือบอกรับเป็ นสมาชิก หรือตกลงxxx x ถ่ายภาพ) เลย
หากพิจารณาในแง่วต
ถุที่ประสงคแ
ห่งนิติกรรม หรือวต
ถุท่ีประสงคข
xxxxxxxxคู่กรณี
ฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงให
ระโยชน์แก่คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึง เราจะเห็นไดว
า่ xx xxxxxก่อนิติสัมพน
ธ์ในลก
ษณะ
ที่ให้ประโยชน์แก่อีกฝ่ ายหน่ึงน้
อาจมีความมุ่งหมายหรือวต
ถุที่xxxxxxxทางกฎหมายท่ีแยก
ออกเป็ น ๓ พวกใหญ่ ๆ กล่าวคือ พวกแรกเป็ นการทา˚ แก่อีกฝ่ ายหน่ึงเป็ นการให้เปล่า (cuasa
donandi) xxxxการให้โดยเสน่หา (มาตรา ๕๒๑) ซ่ึงทา˚ ให้สัญญาน้นเป็ นสัญญาไม่ต่างตอบแทน
ส่วนพวกที่สองได้แก่กรณีมีวตถุที่xxxxxxxเป็ นการให้ได้มาซ่ึงxxxxxอย่างใดอย่างหนึ่ ง (causa
credendi or causa acquirendi) xxxxการส่งมอบทรัพยx
xxxx
xม ยอ
มมุ่งต่อการไดร
ับทรัพยกลบ
คืน
จากผxxx ม
การส่งมอบxxxxxx
xxxxxใหเ้ ช่ามุ่งต่อการไดร้ ับทรัพยx
xxxxxxกลบ
คืนจากผูเ้ ช่า การส่งมอบเงิน
ที่ให้กูเ้ พื่อให้ไดร
ับชา˚ ระหน้ีกลบ
คืน การออกเงินทดรองของตว
แทน เพื่อให้ตว
การชดใชกลบ
คืน
ดงน้ีนิติกรรมพวกน้ีมก
เป็ นxxxxxxxxxxxก่อความผูกพน
แก่คู่กรณี ซ่ึงอาจเป็ นความผูกพน
แบบมี
ค่าตอบแทน หรือเป็ นแบบต่างตอบแทนก็ได้ นอกจากน้ียงั มีพวกท่ีสามซ่ึงมีวต
ถุท่ีประสงคแ
ห่งนิติ
กรรมเป็ นการชา˚ ระหน้ี (causa solvendi) xxxxการชา˚ ระราคา หรือการส่งมอบxxxxxxxxxxxซื้อขายกน
(มาตรา ๔๕๖) ก็ได้ ในแง่น้ีวต
ถุท่ีประสงคจ
ึงเป็ นการทา˚ ใหห
น้ีหรือความผกพx
xxxมีอยนู ้น
ระงบลง
๑.๒ นิติกรรมแบบต่าง ๆ
xxxxxxxxxxxแบ่งออกเป็ นนิติกรรมฝ่ ายเดียวและนิติกรรมหลายฝ่ าย และในบรรดา
xxxxxxxxxxxxxx xxxxx
สัญญาก็เป็ นนิติกรรมหลายฝ่ ายอยา่ งหน่ึง นิติกรรมฝ่ ายเดียวน้น
อาจเป็ นไป
ในทางก่อนิติสัมพน
ธ์ในขอบเขตแห่งxxxxxหน้าที่ของผูท
า˚ นิติกรรมแต่ฝ่ ายเดียว โดยไม่มุ่งต่อการ
สอดเขา้ เก่ียวขอ
งหรือกระทบต่อxxxxxหxxx xxxของผอู
ื่นเลยก็ได้ ตว
อยา่ งxxxx การเขา้ ถือเอาxxxxxx
xxมี
เจา้ ของ (มาตรา ๑๓๑๘) หรือการสละกรรมสิทธ์ ิ (มาตรา ๑๓๑๙) การสละมรดก (มาตรา ๑๖๑๒) หรือการแบ่งแยกทรัพย์ การก่อต้งั มูลนิธิ (มาตรา ๑๑๐) ฯลฯ
แต่การทา˚ นิติกรรมฝ่ ายเดียวน้ีอาจจะเป็ นการก่อนิติสัมพน
ธ์ในลก
ษณะที่เก่ียวขอ
งกบ
xxxxxหน้าที่ของผูอ
ื่นดว
ย ซ่ึงอาจมีไดใ
นกรณีที่บุคคลอื่นน้น
เป็ นฝ่ ายไดร
ับประโยชน์แต่ฝ่ ายเดียว
หรือเป็ นกรณีท่ีกฎหมายxxxxx
ผูท
า˚ นิติกรรมมีประโยชน์ไดเ้ สียในเรื่องน้น
ในลก
ษณะที่ควรไดรับ
ความคุม
ครองให้มีผลทางกฎหมายไดด
วยการทา˚ นิติกรรมฝ่ ายเดียว xxxxการทา˚ พินย
กรรมในฐานะ
ที่เป็ นขอ
กา˚ หนดเผื่อตาย (มาตรา ๑๖๔๖) การมอบอา˚ นาจหรือการแต่งต้งั ตว
แทน รวมท้งั การให
ความยน
ยอม xxxxกรณีที่ผูแ
ทนโดยชอบธรรมให
xxxxxxxxxแก่นิติกรรมของผูเ้ ยาว์ (มาตรา ๒๑)
หรือการบอกลา้ ง และการให้xxxxxบน
๓๖๓)
(มาตรา ๑๗๘) การให้คา˚ มน
จะให้รางวล
(มาตรา ๓๖๒-
อยา่ งไรก็ดี การแสดงxxxxxฝ่ ายเดียวxxxxxxก่อใหเ้ กิดความเปล่ียนแปลงแก่xxxxxหxxx xxx
ของผูอ
ื่นมก
เป็ นการแสดงxxxxxxxxตอ
งมีคู่กรณีเป็ นฝ่ ายรับการแสดงxxxxx xxxว่าจะก่อให้xxxxxx
ในทางก่อให้เกิดxxxxxหน้าที่ xxxxการบอกล้างนิติกรรม (มาตรา ๑๗๘) หรือการบอกเลิกสัญญา (มาตรา ๓๘๖-๓๙๑) หรือก่อให้เกิดความเปล่ียนแปลงxxxxx xxxxการแสดงxxxxxปลดหน้ี (มาตรา
๓๔๐) หรือยกเลิกเพิกถอนxxxxxxxxx การบอกถอนคา˚ เสนอ (มาตรา ๓๕๔-๓๕๕) การหกกลบลบ
หน้ี (มาตรา ๓๔๑) การถอนคืนการให้ (มาตรา ๕๓๑) เหล่าxxxxว
นแต่เป็ นการทา˚ นิติกรรมดว
ยการ
แสดงxxxxxฝ่ ายเดียวชนิดตองมีผxxx xบการแสดงxxxxxท้งั ส้ิน
ส่วนนิติกรรมหลายฝ่ ายน้น
อาจมีไดท
้งั ในรูปของสัญญา หรือนิติกรรมอยา่ งอื่น โดย
xxxxxxxx
เป็ นนิติกรรมหลายฝ่ ายซ่ึงxxxxxxxxxxx xx˚ นิติกรรมเพื่อก่อใหเ้ กิด โอนไป หรือระงบ
ซ่ึงนิติ
สัมพน
ธ์ก็ได้ และสัญญาก็อาจจะเป็ นสัญญาทางหน้ีซ่ึงเป็ นสัญญาก่อใหเ้ กิดหรือระงบ
ความผูกพน
ทางหน้ี หรือxxxxxxxxxxxxxxx xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
็ได้ นอกจากน้ีสัญญายง
อาจเป็ น
สัญญาทางครอบครัว ซ่ึงเป็ นการก่อให้เกิด เปล่ียนแปลง หรือเพิกถอนนิติสัมพนธ์ในxxxxxบุคคล
ภาพ หรือสถานภาพxxxxx xxxxการหม้น (มาตรา ๑๔๓๕) การสมรส (มาตรา ๑๔๕๘) สัญญาก่อน
สมรส (มาตรา ๑๔๖๕) การจด
การxxxxxxx (มาตรา ๑๔๗๖) สัญญาให้จด
การสมรสฝ่ ายเดียว
(มาตรา ๑๔๗๖ วรรคสอง) นอกจากน้ีสัญญายงั มีในกฎหมายลก ทรัพยมรดก เป็ นตน้
๑.๓ สัญญาประเภทต่าง ๆ
ษณะมรดกดว
ย xxxxสัญญาแบ่ง
ก) สัญญาผูกพนฝ่ ายเดียว
xxxxxxxxxx
ฝ่ ายเดียว ไดแ
ก่สัญญาท่ีคู่กรณีมุ่งหมายก่อใหเ้ กิดความผูกพน
แก่คู่กรณี
ฝ่ ายหน่ึงฝ่ ายใดแต่เพียงฝ่ ายเดียวให้ตองมีหxxx xxxxx˚ ระหน้ี โดยคู่กรณีอีกฝ่ ายหนึ่งไม่มีหน้าท่ีตอง
ชา˚ ระหน้ี (แมว
า่ บางกรณีอาจตอ
งมีความผกxx
xยา่ งอ่ืนในแง่xxxxxxxxx xxxxหxxx xxxxxxดูแลเอาใจ
ใส่ หรือหxxx xxxต้งั ตนxxxใ่ นความxxxxต่ออีกฝ่ ายหนึ่งก็ตาม) ดงั xxxxสัญญาให้ สัญญายืม สัญญาฝาก
ทรัพย์ เหล่าน้ีเป็ นสัญญาท่ีคู่สัญญาส่งมอบทรัพย์ หรือทา˚ การอย่างหน่ึงอย่างใดแก่กนให้เปล่า
ไม่ใช่มุ่งจะก่อความผกพน
ใหอ
ีกฝ่ ายหน่ึงชา˚ ระหน้ีตอบแทน
ในสัญญาให้ (มาตรา ๕๒๑) ซ่ึงเมื่อผูใ
ห้ได้ส่งมอบทรัพยแ
ล้ว การให้ย่อมผูกพน
เฉพาะฝ่ ายผูใ
ห้ในการโอนกรรมสิทธ์ิทรัพย์สินที่ให้แก่ผูร
ับให้ อย่างไรก็ดีหากผูร
ับประพฤติ
เนรคุณต่อผูใ้ ห้ ผูใ้ ห
็ถอนคืนการใหไ้ ด้ (มาตรา ๕๓๑) หรือในสัญญาค้า˚ ประกน
(มาตรา ๖๘๐) ก
เป็ นส
ญาที่ผคู
้า˚ ประกน
ผกพน
ฝ่ ายเดียวต่อเจา้ หน้ีในการชา˚ ระหน้ีเม่ือลูกหน้ีไม่ชา˚ ระหน้ี เป็ นตน
สัญญาบางชนิดเป็ นสัญญาท่ีก่อนิติสัมพน
ธ์สองฝ่ าย แต่นิติสัมพน
ธ์ที่เกิดข้ึนไม่ใช่
เป็ นความผกพน
แบบต่างตอบแทน เช่นสัญญายม
(มาตรา ๖๔๐) เม่ือผูใ้ ห
ืมไดส
่งมอบแลว
หน้ีคืน
ทรัพยก
็เกิดแก่ผูย
ืมฝ่ ายเดียว และผูย
ืมจะเอาทรัพยไ
ปใช้การอย่างอ่ืนนอกจากการอน
เป็ นปกติแก่
ทรัพยส
ิน หรือเอาไปใหบ
ุคคลภายนอกใชส
อย หรือเอาไวน
านเกินควรไม่ได้ (มาตรา ๖๔๓) แต่หน้
ที่เกิดข้ึนน้ีก็ไม่ใช่เป็ นไปเพื่อต่างตอบแทนผใู้ หยมแตอย่ า่ งใด
ในสัญญากูย
ืมเงิน (มาตรา ๖๕๓) ท่ีไม่คิดดอกเบ้ียกูย
ืมก็เป็ นสัญญาสองฝ่ าย แต่เมื่อ
ไดร้ ับมอบเงินที่กูแลว
ก่อความผกพน
ฝ่ ายเดียว เพราะผูก
ูเ้ ป็ นหน้ีฝ่ ายเดียว คือตอ
งชา˚ ระเงินกูค
ืนแก่
ผูใ้ ห้กู้ และการที่ผูกูต
องส่งคืนเงินก็มิใช่เป็ นการชา˚ ระหน้ีต่างตอบแทนผูใ้ ห้กูแ
ต่อย่างใด และแม
บางกรณีผกู ูอ
าจส่งมอบทรัพยส
ินอื่นเพ่ือเป็ นการแสดงน้า˚ ใจตอบแทนการใหก
ู้ ก็ไม่ใช่การชา˚ ระหน้
ตอบแทน แต่ถา้ เป็ นกูย
ืมเงินโดยคิดดอกเบ้ีย ชนิดที่มีการจา˚ นองหลก
ทรัพยเ์ ป็ นประกน
ก็ไม่ใช่
สัญญาผกพน
ฝ่ ายเดียว แต่เป็ นสัญญามีค่าตอบแทน และเป็ นส
ญาต่างตอบแทนดวย
การฝากทรัพย์ (มาตรา ๖๕๗) ผูร้ ับฝากมีหนา้ ที่ฝ่ ายเดียวในการดูแลรักษาทรัพยที่รับ
ฝาก เห็นไดว
า่ ไม่มีหน้ีต่างตอบแทนกน
จึงไม่ใช่สญั ญาต่างตอบแทน
การมอบอา˚ นาจหรือต้งตวแทน (มาตรา ๗๙๗) แม้เป็ นสัญญาสองฝ่ ายแต่ก็ไม่ใช่
สัญญาต่างตอบแทน แมต
วแทนจะมีหน้าที่ส่งมอบทรัพยส
ินที่ตว
แทนไดร
ับไวเ้ กี่ยวดว
ยการเป็ น
ตวแทนแก่ตัวการ (มาตรา ๘๑๐) และตัวการจะมีหน้าที่ชดใช้เงินที่ตวแทนออกทดรองหรือ
ออกเป็ นค่าใช้จ่ายในการอน
ไดท
า˚ การแทน (มาตรา ๘๑๖) และตว
การอาจตอ
งจ่ายค่าบา˚ เหน็จแก่
ตวแทน (มาตรา ๘๑๗) โดยตว
แทนอาจยด
หน่วงทรัพยส
ินของตว
การที่อยูใ่ นความครอบครองของ
ตนไวไ้ ดจ
นกวา่ จะไดร้ ับเงินบรรดาที่คา้ งชา˚ ระแก่ตนเพราะการเป็ นตว
แทน (มาตรา ๘๑๙) แต่หนา
ที่น้ีก็เป็ นหนา้ ท่ีอน
เป็ นผลจากพฤติการณ์แห่งความเชื่อถือและไวว
างใจกน
ของคู่กรณีตามความมุ่ง
หมายอน
แทจ
ริงแห่งการเป็ นตว
การตว
แทน ซ่ึงกฎหมายรับรองไว้ ไม่ใช่หน้าที่ชา˚ ระหน้ีต่างตอบ
แทน แต่ถา้ เป็ นกรณีที่ตว
การจา้ งให้ตว
แทนทา˚ การแทนโดยตกลงจ่ายสินจา้ งตอบแทนตามสัญญา
จา้ งทา˚ ของโดยมุ่งต่อผลส˚าเร็จของการงานท่ีว่าจา้ งกนจึงจะเรียกไดว้ ่าเป็ นสัญญาต่างตอบแทน
(มาตรา ๕๘๗) เพราะคู่กรณีมีเจตนาก่อหน้ีในลกษณะตา่ งตอบแทนกน
ข) สัญญาไม่มีค่าตอบแทนและสัญญามีค่าตอบแทน
สัญญาหลายชนิดเป็ นสัญญาที่คู่กรณีฝ่ ายที่ชา˚ ระหน้ีหรือก่อประโยชน์แก่อีกฝ่ ายหน่ึง
ไดก
ระทา˚ ไปโดยไม่ไดป
ระสงคค
่าตอบแทน หรือเป็ นการทา˚ ใหเ้ ปล่า โดยมิไดม
ุ่งจะไดส
ิ่งตอบแทน
เช่นในสัญญายม
ซ่ึงผใู้ หยม
ยอมใหผ
ยู้ ม
ใชท
รัพยโ์ ดยไม่มีค่าตอบแทน สญั ญาฝากทรัพย์ หรือสัญญา
ตวแทนที่ไม่มีบา˚ เหน็จ หรือการรับไหวว
านให้ทา˚ การงานแก่กน
ให้เปล่า เหล่าน้ีเราเรียกว่าเป็ น
สัญญาไม่มีค่าตอบแทน
อย่างไรก็ดี มีการทา˚ การงานให้เปล่าที่ผูทา˚ ยินดีรับค่าตอบแทน แต่ไม่มีหน้ีต่างตอบ
แทนระหว่างกน
และไม่อาจนับเป็ นสัญญามีค่าตอบแทน เช่น อาสาสมค
รนา˚ เท่ียวท่ีนา˚ เที่ยวแก่
นักท่องเท่ียว บริการรับฝากของ หรือบริการห้องน้˚าท่ีมีการต้ง
ภาชนะรับเงินรางวล
บริกรใน
ภตตาคารหรือโรงแรมท่ีให้บริการโดยไม่คิดมูลค่า แต่ยินดีรับเงินรางวลเป็ นสินน้า˚ ใจ หรือค่า
สมนาคุณตามแต่จะให้ การให้บริการท่ีจอดรถแก่ลูกค้าหรือบุคคลทวไปตามห้างสรรพสินค้า
โรงแรม โรงพยาบาล ภตตาคาร หรือสถานท่ีราชการ ฯลฯ เหล่าน้ีเป็ นสัญญาไม่มีค่าตอบแทน
เช่นกน
สัญญาไม่มีค่าตอบแทนยงั อาจมีไดใ
นกรณีของการตกลงเป็ นผูอ
นุบาล หรือผูใ้ ช้อา˚ นาจ
ปกครองผเ้ ยาวอีกดวย
แต่สัญญาเหล่าน้ีบางกรณีมีค่าตอบแทนได้ แต่ค่าตอบแทนน้น อาจเป็ นค่าตอบแทน
ชนิดต่างตอบแทนหรือไม่ต่างตอบแทนก็ได้ ข้ึนอยู่กบความมุ่งหมายของคู่กรณี เช่นสัญญาดูแล
รักษาความปลอดภยั แก่รถที่รับบริการจอดในหา้ งสรรพสินคา้ ที่ไดกระทา˚ ไปเป็ นการตอบแทนการ
ที่ลูกคา้ เขา้ มาชมสินคา้ ของห้าง สัญญาดูแลความปลอดภย
แก่ลูกคา้ ที่เขา้ มารับบริการในภต
ตาคาร
สัญญาตวแทนท่ีมีบา˚ เหน็จ สัญญานายหน้า หรือสัญญาค้า˚ ประกนั ที่มีการคิดค่าธรรมเนียมจาก
ลูกหน้ี เหล่าน้ีเป็ นส ญาที่มีค่าตอบแทน แต่ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน แต่ถา้ เป็ นสัญญาค้า˚ ประกน
ซ่ึงทา˚ เป็ นปกติธุระโดยตกลงมีค่าตอบแทนก็อาจเป็ นสัญญาต่างตอบแทนพร้อมกนได้ หรือสัญญา
ใหท
ี่มีภาระติดพน
เช่นใหท
รัพยท
ี่จา˚ นา˚ ไวกบ
โรงจา˚ นา
โดยใหผ
รู้ ับใหไ้ ปไถ่เอาเอง เป็ นสัญญาให้ที่
มีค่าตอบแทน แต่ค่าตอบแทน เช่นค่าไถ่ทรัพยน้น
ไม่ทา˚ ให
ัญญาน้น
เป็ นสัญญาต่างตอบแทน แม
เราอาจกล่าวไดว
า่ สัญญาต่างตอบแทนยอ
มเป็ นสัญญามีค่าตอบแทนเสมอ แต่สัญญามีค่าตอบแทน
น้น
ไม่จา˚ เป็ นตอ
งเป็ นสัญญาต่างตอบแทน เช่นการให้บริการท่ีจอดรถโดยคิดค่าบริการเป็ นราย
ชวโมง หรือรายวน
ซ่ึงจะเรียกเก็บค่าบริการเม่ือผูใ้ ช
ริการนา˚ รถออกจากสถานที่จอดจด
ว่าเป็ น
สญั ญามีค่าตอบแทนแต่ไม่ใช่ส ญาตา่ งตอบแทน หรืออาจเป็ นสัญญาต่างตอบแทนก็ได้ ขึ้นอยูกบ
ความมุ่งหมายของคู่กรณี ซ่ึงตองคา˚ นงึ ถึงปกตปิ ระเพณีประกอบดวย
สัญญาไม่มีค่าตอบแทนน้ี หลายกรณีมีเหตุควรคุม
ครองฝ่ ายท่ีตอ
งผูกพน
ไม่ให้ตอง
ผูกพน
โดยง่ายหรือปราศจากการไตร่ตรองทบทวนให้ดีเสียก่อน กฎหมายจึงมก
กา˚ หนดให้ผูกพน
กนต่อเมื่อปรากฏวา่ คู่กรณีมีเจตนาจริงจงั ท่ีจะผกพนกน
ยงิ่ กวา่ ส
ญาที่มีค่าตอบแทน เช่นสัญญาให
น้น
เพียงแต่ตกลงผูกพนกน
อยา่ งเดียวไม่ได้ ตอ
งมีการส่งมอบ ดงั ที่กา˚ หนดไวว
า่ จะสมบูรณ์เมื่อส่ง
มอบทรัพยส
ินที่ให้ (มาตรา ๕๒๓), สัญญายืมใชค
งรูป และสัญญายืมใชส
ิ้นเปลืองน้น
บริบูรณ์เมื่อ
ส่งมอบทรัพยส
ินซ่ึงให้ยืม (มาตรา ๖๔๑, ๖๕๐), สัญญาค้า˚ ประกน
ตองมีหลก
ฐานเป็ นหนง
สือลง
ลายมือชื่อผูค
้า˚ ประกน
มิฉะน้น
ฟ้องร้องบงคบกน
ไม่ได้ (มาตรา ๖๘๐) และในการปลดออกจาก
ความผูกพน
เรียกทรัพยส
ินคืน หรือการเลิกสัญญา สัญญาไม่มีค่าตอบแทนก็มก
ทา˚ ไดง้ ่าย เช่นใน
เรื่องให้ ถา้ เป็ นการให้โดยผูกพนตนจะชา˚ ระหน้ีเป็ นคราว ๆ หากผูใ้ ห้ตายกฎหมายสันนิษฐานว่า
หน้ีเป็ นอน
ระงบ
(มาตรา ๕๒๗), และกฎหมายยงั ยอมให้ถอนคืนการให้ได้ หากผูร้ ับให้ประพฤติ
เนรคุณ (มาตรา ๕๓๑), ในเร่ืองยืมน้ัน ถ้าเป็ นยืมใช้คงรูปและไม่ได า˚ หนดเวลา หรือกา˚ หนด
กิจการที่มุ่งใชท
รัพยส
ินน้น
ไว้ ผูใ้ ห้ยืมย่อมเรียกของคืนเม่ือไรก็ได้ (มาตรา ๖๔๖ วรรคสอง) ส่วน
ยมใชส
ิ้นเปลืองน้น
ถา้ ไม่กา˚ หนดเวลาคืนทรัพยไ
ว้ ผูใ้ ห้ยืมจะเรียกคืนโดยกา˚ หนดเวลาตามสมควร
ใหค
ืนก็ได้ (มาตรา ๖๕๒), ในสัญญาตว
แทนน้น
ผูเ้ ป็ นตว
การจะถอนตว
แทน หรือตว
แทนจะบอก
เลิกเป็ นตัวแทนได้เสมอ (มาตรา ๘๒๗), สัญญาค้˚าประกันหน้ีที่มีต่อเน่ืองกันไปโดยไม่มี
กา˚ หนดเวลาน้น
ผคู
้า˚ ประกน
บอกเลิกความผกพน
ที่จะเกิดข้ึนในอนาคตได้ (มาตรา ๖๙๙ วรรคแรก)
ส่วนในดา้ นความรับผด
น้น
ฝ่ ายที่ทา˚ ใหเ้ ปล่ามก
ไดป
ระโยชน์จากกฎหมายให้ตอ
งรับ
ผดจา˚ กด
เช่นเร่ืองใหน้น
ถา้ ปรากฏวา่ ทรัพยส
ินที่ใหช
า˚ รุดบกพร่อง ผูใ้ ห้ไม่ตอ
งรับผิด เวน
แต่จะเขา
ลกษณะเป็ นการก่อความเสียหายด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ก็ตองรับผิดฐานละเมิด
(มาตรา ๔๒๐) หรือเป็ นการให้ที่มีค่าภาระติดพน
จึงให
า˚ เรื่องความรับผิดเพื่อชา˚ รุดบกพร่องหรือ
รอนสิทธิตามสัญญาซ้ือขายมาใช้ (มาตรา ๕๓๐) และหลกดงกล่าวน้ีย่อมนา˚ ไปเทียบเคียงใช้กบ
สัญญาไม่มีค่าตอบแทนอยา่ งอ่ืนไดดวย
ในแง่ความคุม
ครองทางกฎหมายที่เกิดแก่ผูไ
ดรับประโยชน์ไปโดยมีค่าตอบแทนก
แตกต่างกบ
กรณีที่ไดป
ระโยชน์ไปโดยไม่มีค่าตอบแทน เช่นในกรณีที่ผูใ้ ห้ประโยชน์ทา˚ การฉ้อฉล
ดงน้ีตามมาตรา ๒๓๗ หากบุคคลภายนอกผูได้ลาภมาจากการฉ้อฉลของลูกหน้ีได้ลาภมาโดย
สัญญาที่มีค่าตอบแทน เจ้าหน้ีผูตองเสียเปรียบจากการฉ้อฉลของลูกหน้ี จะมีสิทธิขอเพิกถอน
สัญญาที่ก่อให้เกิดลาภน้นั ได้เฉพาะกรณีท่ีผูไดล
าภไปน้
รู้อยู่ว่าสัญญามีค่าตอบแทนน้
ทา˚ ให
เจา้ หน้ีเสียเปรียบ แต่ถ้าผูได
าภมาน้นั ไดม้ าโดยไม่มีค่าตอบแทน ดง
น้ีเพียงลูกหน้ีรู้ว่าเดียวว่า
สัญญาน้น
ทา˚ ใหเ้ จา้ หน้ีเสียเปรียบ ผูไดล
าภไม่จา˚ เป็ นตอ
งรู้ดว
ยวา่ เจา้ หน้ีเสียเปรียบ เจา้ หน้ีก็ขอเพิก
ถอนการฉอ
ฉลน้น
ได้ และในเร่ืองการไดม
าซ่ึงทรัพยสิทธิโดยสุจริตในกฎหมายลก
ษณะทรัพยน้น
ตามมาตรา ๑๒๙๙, ๑๓๐๐ และมาตรา ๑๓๐๓ ผูไดมาซ่ึงทรัพยสิทธิโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน
ยอมมีสิทธิดีกวา่ ผทู
ี่ไดท
รัพยสิทธิมาโดยสุจริตแต่ไม่เสียค่าตอบแทน
๒. สัญญาต่างตอบแทน
ก) ลกษณะของสัญญาต่างตอบแทน
สัญญาต่างตอบแทนหมายถึงสัญญาซ่ึงคู่กรณีต่างฝ่ ายต่างผูกพน
ตนท่ีจะปฏิบต
ิการ
ชา˚ ระหน้ีต่างตอบแทนกน
ดวยเหตุน้ีสัญญาให
่ึงเป็ นสัญญาสองฝ่ าย ซ่ึงผูใ้ ห้ตกลงให้ทรัพยส
ินแก่
ผรู้ ับให้ และผรู้ ับใหต
กลงรับใหท
รัพยส
ินน้น
จึงไม่นบ
เป็ นสัญญาต่างตอบแทน เพราะเป็ นสัญญาที่
มีผใู้ หเ้ ป็ นฝ่ ายท่ีผูกพน
ในการโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยส
ินท่ีตกลงให้กน
น้น
แก่ผูร้ ับ โดยผูร้ ับให ม
มีความผกพน
ใด ๆ ต่อผใู้ หเ้ ลย ในทา˚ นองเดียวกน
สัญญายม
หรือส
ญาฝากทรัพยก
็เป็ นสัญญาสอง
ฝ่ าย คือในสัญญายม
ตองมีผยู้ ม
และผใู้ หยม
ในส
ญาฝากทรัพยก
็มีผูฝ
ากและผูร้ ับฝาก แต่สัญญายืม
หรือส
ญาฝากทรัพยไ
ม่มีบา˚ เหน็จน้น
ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน เม่ือผยู้ ม
ไดร้ ับทรัพยท
ี่ยืมไปแลวก
มีหนา้ ที่ตอ
งส่งทรัพยท
่ีตนยืมไปคืน หรือผูร้ ับฝากมีหนา้ ท่ีตอ
งส่งทรัพยท
ี่รับฝากไวค
ืน เป็ นหนา้ ที่
ของผยู้ ม
และผูร้ ับฝากในฐานะท่ีเป็ นลูกหน้ีฝ่ ายเดียว โดยอีกฝ่ ายหน่ึงคือผูใ้ ห้ยืมและผูฝ
ากมิไดเ้ ป็ น
ลูกหน้ีต่างตอบแทน เราจึงพอจะสรุปเป็ นเบ้ืองตน
ไดว
่า เพียงแต่เหตุท่ีสัญญาใดเป็ นสัญญาซ่ึงมี
คู่กรณีสองฝ่ าย ไม่ทา˚ ใหส
ญาน้น
ๆ เป็ นสัญญาต่างตอบแทน
สัญญาต่างตอบแทนจึงเป็ นสัญญาท่ีคู่สัญญาต่างฝ่ ายต่างผูกพนต่อการชา˚ ระหน้ีอยา่ ง
ใดอยา่ งหน่ึง เพ่ือการที่คู่สัญญาอีกฝ่ ายหน่ึงผูกพน
ในการชา˚ ระหน้ีตอบแทน และจา˚ เป็ นตอ
งมีนิติ
สัมพน
ธ์ต่อกน
ในลก
ษณะแลกเปล่ียนตอบแทนเป็ นเง่ือนไขในการปฏิบต
ิการชา˚ ระหน้ีของแต่ละ
ฝ่ ายเป็ นสาคญ
(do ut des)๑
สัญญาต่างตอบแทนซ่ึงคู่กรณีแต่ละฝ่ ายต่างตกลงผูกพน
ตอบแทนกน
ที่ส˚าคญ
และ
แพร่หลายกวา้ งขวาง เป็ นที่รู้จกมากที่สุด ไดแ้ ก่สัญญาซื้อขาย ซ่ึงเป็ นสัญญาซ่ึงคู่กรณีฝ่ ายหนึ่ง
เรียกว่าผูซ
้ือตกลงช˚าระราคาซ้ือขายแก่ผูข
าย เพ่ือการที่คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงคือผูข
ายตกลงโอน
กรรมสิทธ์ิในทรัพยส
ินท่ีขายกน
น้น
ตอบแทนแก่การท่ีผูซ
้ือชา˚ ระราคาซ้ือขาย ท้งั สองฝ่ ายต่างตกลง
ชา˚ ระหน้ีตอบแทนซ่ึงกนและกน
แต่ส
ญาสองฝ่ ายบางชนิด แมท
้งั สองฝ่ ายจะมีหน้ีหรือหนา้ ที่ต่อกน
หากหน้ีน้น
ไม่ใช่
หน้ีต่างตอบแทน สัญญาน้น
ก็ไม่จด
เป็ นสัญญาต่างตอบแทน เช่นในสัญญาจด
การงานตามที่ไดรับ
มอบหมาย หรือสัญญาตว
การตว
แทน ซ่ึงคู่กรณีฝ่ ายหน่ึงเรียกว่าตว
แทน ตกลงทา˚ การงานอยา่ งใด
อยา่ งหน่ึงแก่คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงเรียกวา่ ตว
การ โดยฝ่ ายที่เป็ นตว
การตกลงผูกพน
ที่จะออกค่าใชจ
่าย
เพื่อการต่าง ๆ ที่ตว
แทนได้ออกใช้ไปในการทา˚ การเพื่อประโยชน์ของตว
การ ดง
น้ีจะเห็นได้ว่า
ความผูกพนกน
ตามสัญญาตว
การตว
แทนซ่ึงผูเ้ ป็ นตว
การมีหน้าที่ออกค่าใช
่ายน้ี มิไดม
ีลก
ษณะ
เป็ นความผูกพน
ต่างตอบแทนกน
แต่อย่างใด เพราะในการที่ตว
การจะออกเงินทดรองแก่ตว
แทน
เพื่อทา˚ การตามที่มอบหมาย (มาตรา ๘๑๕) หรือการที่ตวแทนจะออกเงินค่าใช้จ่ายทดรองไปเพื่อ
ประโยชน์ในการทา˚ กิจการของตว
การน้น
การออกเงินทดรองของตว
การเพื่อเป็ นค่าใชจ
่ายในการ
ทา˚ การท่ีมอบหมายแก่ตว
แทนก็ดี การออกค่าใชจ
่ายของตว
แทนทดรองไปก่อนเพื่อประโยชน์ของ
ตวการในการทา˚ การที่รับมอบหมายก็ดี ลว
นแต่เป็ นการออกค่าใชจ
่ายไปเพื่อให้การงานน้น
ลุล่วง
๑ สา˚ นวนที่วา
do ut des น้ีเป็ นศพ
ทสา˚ นวนภาษาละตินซ่ึงหมายความวา
เราตกลงใหเ้ มื่อเจา้ จะใหเ้ ราเช่นกน (I
give (you) that you may give (me).) ซ่ึงมีความหมายทา˚ นองเดียวกบ
ภาษิตไทยที่วา
“หมูไปไก่มา” นน
เอง
ไปดวยความเรียบร้อย เป็ นการปฏิบต
ิหนา้ ท่ีใหต
องตามความประสงคข
องคู่กรณีฝ่ ายเดียว โดยมิได
มีวต
ถุประสงคเ์ พ่ือตอบแทนการกระทา˚ หรือตอบแทนความผูกพน
อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงของคู่กรณีอีก
ฝ่ ายหน่ึงเลย การท่ีตว
การออกเงินทดรองจ่ายแก่ตว
แทนไปก่อน เป็ นไปเพ่ือหลีกเลี่ยงไม่ให้ตว
แทน
ตองรับภาระในการทา˚ การแทนเพ่ิมข้ึนจากที่ไดร
ับมอบหมาย หรือการท่ีตว
แทนออกค่าใชจ
่ายทด
รองไปในการทา˚ การเพ่ือประโยชน์ตามที่รับมอบหมายจากตวการก็ดี ก็มุ่งผลความส˚าเร็จของการท่ี
ได ับมอบหมาย โดยไม่ไดม้ ุ่งหมายจะทา˚ ไปเพ่ือตอบแทนแก่ตวการอย่างใด ดว้ ยเหตุน้ี ในทาง
ตา˚ ราจึงมก
เรียกความสัมพน
ธ์ที่มีเน้ือหาทา˚ นองเดียวกน
กบสัญญาตว
การตว
แทนน้ีว่า เป็ นสัญญา
สองฝ่ าย แต่ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน
อย่างไรก็ดี สัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชยส
่วนใหญ่เป็ นสัญญาต่าง
ตอบแทน โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ส ญาซ่ึงเป็ นท่ีแพรหล่ ายมาก อยา่ งเช่นสัญญาซื้อขาย แลกเปล่ียน เช่า
จา้ งแรงงาน จา้ งทา˚ ของ เป็ นตน
ในส
ญาเหล่าน้ี นิติส
พนธ์ระหวา่ งคู่กรณีในสัญญามีลก
ษณะต่าง
ตอบแทนระหวา่ งกน
อยา่ งชด
เจน
นอกจากน้น
ยงั มีสัญญาบางอยา่ งท่ีแมโ
ดยพ้ืนฐานของสัญญาจะเป็ นสัญญาสองฝ่ ายที่
ไม่ได้เป็ นสัญญาต่างตอบแทน แต่หากคู่กรณีตกลงผูกพนก ในลักษณะมีค่าตอบแทนกันใน
ลกษณะต่างตอบแทนก็ตกลงกน
ได้ ดง
เช่นสัญญายืม สัญญาฝากทรัพยน้น
ปกติถือกน
ว่าไม่เป็ น
สัญญาต่างตอบแทน แต่เป็ นสัญญาไม่มีค่าตอบแทน เพราะผูใ้ ห้ยืมตกลงให้ผูย
ืมใชท
รัพยเ์ ป็ นการ
ใหเ้ ปล่า หรือผรู้ ับฝากทรัพยก
็รับฝากทรัพยไ
วใ้ หเ้ ปล่า เพื่อประโยชน์ของผูย
ืม หรือผูฝ
าก สัญญายืม
และสัญญาฝากทรัพยจ
ึงเป็ นสัญญาสองฝ่ ายท่ีคู่กรณีตกลงผูกพนกน
โดยส่งมอบทรัพยท
ี่ยืม หรือที่
ฝากแก่กน
และเกิดผลทา˚ ให้มีคู่กรณีที่ผูกพน
เพียงฝ่ ายเดียวคือผูย
ืม หรือผูร้ ับฝากตอ
งผูกพน
ต่อผู
ใหยม
หรือต่อผฝู
าก โดยผยู้ ม
หรือผูร้ ับฝากมีหน้ีตอ
งคืนทรัพยแ
ก่เจา้ ของทรัพยต
ามสัญญา
แต่สัญญาท่ีปกติไม่มีค่าตอบแทนน้ี คู่กรณีอาจตกลงกนในรูปมีค่าตอบแทนได้ และ
ในทา˚ นองเดียวกน
หากมุ่งผกพน
ต่างตอบแทนกน
ก็เป็ นสัญญาต่างตอบแทนได้ เช่นคู่กรณีตกลงทา
สัญญายืมเงินกน
หากไม่มีค่าตอบแทนก็เป็ นยืมธรรมดา แต่ถา้ มีค่าตอบแทนก็เป็ นสัญญากูย
ืมเงิน
โดยผูกูต
กลงชา˚ ระดอกเบ้ียตอบแทนการให้กู้ หรือตกลงฝากทรัพยกน
โดยไม่มีบา˚ เหน็จ ดงั น้ีเป็ น
สัญญาไม่มีค่าตอบแทน แต่คู่กรณีอาจตกลงกน
ในรูปสัญญาฝากทรัพยโ
ดยมีบา˚ เหน็จ หรือในรูป
สัญญาฝากเงินซ่ึงมีดอกเบ้ีย ดงั น้ีก็เป็ นสัญญามีค่าตอบแทน และถา้ เป็ นสัญญามีค่าตอบแทนที่มุ่ง
ผกพน
ตอบแทนกน
เช่นตกลงชา˚ ระค่าฝากทรัพยต
อบแทนการรับฝาก หรือตกลงชา˚ ระดอกเบ้ียตอบ
แทนการฝากเงิน สัญญาเหล่าน้ีก็ยอ สัญญาต่างตอบแทนได้
มเขา้ ลก
ษณะเป็ นสัญญาที่คู่กรณีมีความมุ่งหมายผูกพนกน
ตาม
ยิ่งไปกว่าน้น
ยงั มีสัญญาซ่ึงเราเรียกไดว
่าเป็ นสัญญาไม่มีค่าตอบแทน คือเป็ นสัญญา
สองฝ่ ายที่คู่กรณีฝ่ ายหน่ึงตกลงผูกพนตนเพื่อประโยชน์ของคู่กรณีอีกฝ่ ายหนึ่ ง โดยไม่ได้รับ
ประโยชน์ตอบแทน เช่นสัญญาให้ (มาตรา ๕๒๑) สัญญายืมใชคงรูป (มาตรา ๖๔๐) สัญญายืมใช
สิ้นเปลือง (มาตรา ๖๕๐) สัญญาฝากทรัพย์ (มาตรา ๖๕๗) ในกรณีเหล่าน้ี ผใู้ ห้ ผูใ้ ห ืม ผูร้ ับฝากมุ่ง
ก่อประโยชน์อย่างใดอย่างหน่ึงแก่คู่สัญญา คือโอนกรรมสิทธ์ ิ ส่งมอบทรัพย์ รับมอบทรัพย์ หรือ
รักษาทรัพยไ
ว้ โดยไม่ไดม
ุ่งต่อการไดค
่าตอบแทน สัญญาเหล่าน้ีตามความมุ่งหมายปกติของสัญญา
น้น
เอง ไม่เป็ นสัญญาต่างตอบแทนระหว่างคู่กรณี แมว
า่ อาจจะมีมูลเหตุจูงใจก่อความผูกพน
เพื่อ
ตอบแทนการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด เช่นการให
องขวญ
ตอบแทนกน
การให้โดยตว
ของมน
เองก็ไม่ใช่
สัญญาต่างตอบแทนเพราะมิไดม
ุ่งผกพน
ต่อการโอนทรัพยส
ินตอบแทนกน
เช่นการแลกเปล่ียน
แต่สัญญาไม่มีค่าตอบแทนน้ี อาจมีนิติสัมพน
ธ์อย่างอื่นท่ีมีลก
ษณะเป็ นสัญญาต่าง
ตอบแทนเป็ นมูลแห่งนิติสัมพน
ธ์น้น
อยกู
็ได้ ดงั เช่นสัญญาค้า˚ ประกน
ซ่ึงเป็ นสัญญาท่ีคู่กรณีซ่ึงเป็ น
ผูค
้า˚ ประก
เป็ นบุคคลภายนอก ไม่ใช่ลูกหน้ีในหน้ีประธาน ตกลงผูกพน
ตนในฐานะเป็ นหน้
อุปกรณ์ คือตกลงผกพน
ที่จะชา˚ ระหน้ีแก่เจา้ หน้ีแทนลูกหน้ี หากลูกหน้ีไม่ชา˚ ระหน้ีประธานน้น
(ม.
๖๘๐) เช่น ก. กูเ้ งินจาก ข. โดยมี ค. ซ่ึงเป็ นบุคคลภายนอกสัญญากูร
ายน้ีเขา้ ตกลงผูกพน
ตนต่อ ข.
โดย ค. ตกลงเป็ นผคู
้า˚ ประกน
การชา˚ ระหน้ีของ ก. เป็ นตน
ปกติผูค
้า˚ ประกน
ลูกหน้ีไม่ตอ
งเขา้ ผูกพน
ในสัญญาเพื่อเป็ นการต่างตอบแทนในมูลหน้ีแต่อย่างใด แต่ในทางธุรกิจน้น
การค้า˚ ประกน
ส่วน
ใหญ่มก
มีลก
ษณะเป็ นการทา˚ การเพื่อต่างตอบแทนในมูลหน้ีอยา่ งอ่ืนระหวา่ งผูค
้า˚ ประกน
กบลูกหน้
ในหน้ีประธานน้น
ดงั น้น
ระหวา่ งผูค
้า˚ ประกน
กบลูกหน้ีในมูลหน้ีประธานท่ีเขา้ ค้า˚ ประกน
ซ่ึงปกติ
ไม่จา˚ เป็ นตอ
งมีนิติสัมพน
ธ์ต่างตอบแทนกน
ก็อาจตกลงผกพนกน
ในลก
ษณะมีนิติส
พนธ์ต่างตอบ
แทนกน
อนเป็ นมูลเหตุให้ผูค
้า˚ ประกน
เขา้ ค้า˚ ประกน
หน้ีน้น
ก็ได้ เช่นผูค
้า˚ ประกน
เป็ นลูกหน้ีของ
ลูกหน้ีในหน้ีประธานน้น
อีกต่อหน่ึง หรือเป็ นผูซ
้ือสินคา้ ของลูกหน้ีในหน้ีประธานน้น
หรือผูค้า
ประกน
เป็ นคู่สัญญาอย่างอื่นในลก
ษณะที่มีความผูกพน
ต่อลูกหน้ี และผูค
้า˚ ประกน
ได้เขา้ ตกลง
ผูกพน ได๒้
ในสัญญาค้า˚ ประกนน้
ก็เพ่ือเป็ นการต่างตอบแทนในหน้ีอน
ตนมีอยู่ต่อลูกหน้ีประธานก
สัญญาบางชนิดมีลกษณะเป็ นสัญญาสองฝ่ ายที่เป็ นสัญญาไม่มีค่าตอบแทนโดยสภาพ
ของสัญญาน้น
เอง และไม่อาจตกลงกน
ในลก
ษณะเป็ นสัญญาต่างตอบแทนได้ ตว
อยา่ งเช่น สัญญา
๒ ในทางกลบกน
ก็มีสญ
ญาบางชนิดท่ีเป็ นสญ
ญามีค่าตอบแทน เช่นสญ
ญานายหนา
(มาตรา ๘๔๕) ซ่ึงคู่กรณี
ฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงผกพน
ฝ่ ายเดียว หรือท้งั สองฝ่ ายตกลงกน
ใหค
ู่กรณีฝ่ ายหน่ึงชา˚ ระค่าตอบแทนเพื่อการที่
คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงเรียกวา่ นายหนา้ ช้ีช่องหรือจด
การใหไ้ ดท
า˚ สญ
ญากน
จนสา˚ เร็จ เช่นนายหนา้ ขายที่ดิน
(ไม่ใช่ตวั แทน) มีสิทธิไดร้ บั ค่าบา˚ เหน็จเพ่อื การช้ีช่องใหม
ีการขายท่ีดินสา˚ เร็จ ดงั น้ีสญ
ญานายหนา้ เป็ น
สญญามีค่าตอบแทน แต่การช้ีช่องใหท
า˚ สญ
ญาไม่ไดเ้ ป็ นหน้ีต่างตอบแทน นายหนา้ ต่างจากลูกจา้ ง หรือ
ผรู้ ับจา้ ง ตรงที่นายหนา้ ไม่จา˚ เป็ นตอ
งเป็ นลูกหน้ี และปกตินายหนา้ ไม่มีความผกพน
ท่ีจะตอ
งทา˚ ตอบแทน
เพ่ือการไดค
่าตอบแทนในการช้ีช่องหรือจด
การใหไ้ ดท
า˚ สญ
ญากน
ให้โดยเสน่หา สัญญายืม และสัญญาตว
การตว
แทน เหตุท่ีไม่อาจตกลงกน
ในลก
ษณะเป็ นสัญญา
ต่างตอบแทนไดน
้ี หาไดเ้ ป็ นเพราะการตกลงเช่นน้น
จะเป็ นการฝ่ าฝื นบทกฎหมายที่มีลก
ษณะเป็ น
บทบงคบ
(jus cogens) แต่อยา่ งใด แต่เป็ นเพราะสัญญาเหล่าน้น
มีสภาพเป็ นสัญญาท่ีหากตกลงกน
ในลกั หน่ึง
ษณะต่างตอบแทนแล
ก็จะเสียสภาพไป และกลายเป็ นสัญญาต่างตอบแทนชนิดใดชนิด
ดงเช่นสัญญาให้น้ัน หากตกลงกน
ในล
ษณะเป็ นสัญญาต่างตอบแทน ก็จะกลาย
สภาพเป็ นส
ญาซ้ือขาย หรือแลกเปลี่ยนไป ส
ญายม
น้น
หากตกลงกน
ในลก
ษณะต่างตอบแทนก
ย่อมกลายเป็ นสัญญาเช่าไป สัญญาต
การต
แทนน้ันหากตกลงก
อย่างมีค่าตอบแทน ก็จะ
กลายเป็ นสญั ญาจา้ งแรงงาน หรือจา้ งทา˚ ของไป อยา่ งไรก
ี ถา้ การชา˚ ระหน้ีในส
ญาเหล่าน้ีมิไดทา
โดยมุ่งหมายเป็ นการต่างตอบแทนกน
เป็ นแต่เพียงการชดใชค
่าใชจ
่ายท่ีไดอ
อกใชไ
ป เช่นการชดใช
ค่าใชจ
่ายท่ีตว
แทนหรือคู่สัญญาอีกฝ่ ายหน่ึงออกใชไ
ป ดงั น้ีสัญญาน้น
ก็ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน
หรือในกรณีที่ผูร้ ับให ี่ดินตกลงชา˚ ระราคาค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิท่ีดินแทน
ผใู้ ห้ ดงั น้ีการชา˚ ระราคาค่าธรรมเนียมยอ
มไม่เป็ นหลก
ฐานแสดงวา่ มีสัญญาต่างตอบแทนระหวา่ งผู
ใหกบ
ผรู้ ับใหแ
ต่อยา่ งใด
นอกจากน้น
สัญญาบางสัญญายงั อาจเป็ นสัญญาท่ีปะปนกน
ระหว่างสัญญาต่างตอบ
แทน และส
ญาไม่มีค่าตอบแทนได้ โดยอาจแบ่งเป็ นส่วนท่ีไม่มีค่าตอบแทน และส่วนที่มีลก
ษณะ
ต่างตอบแทน ดงั เช่นการตกลงซ้ือขายท่ีดินในราคามิตรภาพ เป็ นสัญญาซ้ือขายที่ประกอบกนกบ
สัญญาให้โดยเสน่หา อน
เป็ นกรณีที่ผูข
ายมีท้ง
เจตนาขายท่ีดินส่วนหน่ึง และเจตนาให้ที่ดินโดย
เสน่หาอีกส่วนหน่ึง และผซู
้ือก็มีเจตนารับโอนท่ีดินน้น
ในลก
ษณะเป็ นการสนองซ้ือส่วนหน่ึง และ
สนองรับให้โดยเสน่หาอีกส่วนหน่ึง ซ่ึงการจะพิจารณาว่ากฎหมายล
ษณะใดจะบงคบ
ใช้ได
เพียงใดยอ
มข้ึนอยกู บ
ขอเทจ
จริงวา
ลกษณะใดเป็ นลก
ษณะครอบงา
ข) หลกต่างตอบแทน (Synallagma)
สัญญาต่างตอบแทนเป็ นส
ญาที่คู่กรณีตกลงผูกพนกน
ในลก
ษณะเป็ นหน้ีซ่ึงกน
และ
กนต่างตอบแทนกน
หรืออีกนย
หน่ึงคู่กรณีแต่ละฝ่ ายต่างตกลงเป็ นเจา้ หน้ีและลูกหน้ีในสัญญาน้น
ตอบแทนกน
เช่นในส
ญาซ้ือขาย ผขู
ายตกลงโอนกรรมสิทธ์ิและส่งมอบทรัพยท
ี่ซ้ือขายกน
และผู
ซ้ือตกลงชา˚ ระราคาเพ่ือการโอนกรรมสิทธ์ิและการส่งมอบทรัพยน้น
ดงั น้ีผูซ
้ือเป็ นเจา้ หน้ีในอน
ที่
จะไดร้ ับโอนกรรมสิทธ์ิและไดร้ ับมอบทรัพยส
ินที่ซ้ือ และในขณะเดียวกน
ผูซ
้ือก็เป็ นลูกหน้ีในการ
ชา˚ ระราคาซ้ือขาย ส่วนทางฝ่ ายผขู
ายก็เป็ นเจา้ หน้ีในอน
ท่ีจะไดร
ับชา˚ ระราคา และเป็ นลูกหน้ีในอน
ที่จะตอ
งโอนกรรมสิทธ์ิและส่งมอบทรัพยส
ินที่ขาย จะเห็นไดว
า่ ในสัญญาน้ี ท้งั ผูซ
้ือและผูข
ายต่าง
เป็ นเจา้ หน้ีและลูกหน้ีซ่ึงกน
และกน
สัญญาต่างตอบแทนมีสาระส˚าคญ
ตรงที่มีความผูกพนใน
ลกษณะที่เป็ นเจา้ หน้ีและลูกหน้ีต่างตอบแทนกน
เช่นสัญญาหุ้นส่วน ผูเ้ ป็ นหุ
ส่วนต่างเป็ นเจา้ หน้
ลูกหน้ีกน
ในความผูกพน
ระหว่างกน
แต่ในการเขา้ กน
เป็ นสมาคมน้น
แมส
มาคมกบ
สมาชิกจะมี
หนา้ ที่ต่อกน แทน
ก็ไม่ใช่หนา้ ที่ต่างตอบแทนกน
สัญญาเขา้ เป็ นสมาชิกสมาคมจึงไม่ใช่สัญญาต่างตอบ
สัญญาต่างตอบแทนอาจเป็ นสัญญาไม่มีชื่อก็ได้ เช่นสัญญาจดจา˚ หน่ายงานอนมี
ลิขสิทธ์ิซ่ึงผูจด
จา˚ หน่ายมีสิทธิทา˚ ซ้า
โฆษณาเผยแพร่และจด
จา˚ หน่ายงานอน
มีลิขสิทธ์ิต่าง ๆ เช่น
งานวรรณกรรม งานดนตรีกรรม ซอฟทแ
วร์ ฯลฯ ซ่ึงทา˚ ข้ึนระหวา่ งผูพ
ิมพโ
ฆษณาและจด
จา˚ หน่าย
กบเจา้ ของลิขสิทธ์ิ โดยฝ่ ายหน่ึงตกลงชา˚ ระค่าสมนาคุณแก่เจา้ ของลิขสิทธ์ิและอีกฝ่ ายหน่ึงซ่ึงเป็ น
เจา้ ของลิขสิทธ์ิยอมใหน
า˚ งานอน
มีลิขสิทธ์ิน้น
ออกหาประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ เป็ นตน
ตามปกติสัญญาต่างตอบแทนน้ียอมเป็ นสัญญามีค่าตอบแทนเสมอ เช่นในสัญญาซื้อ
ขาย การชา˚ ระราคาเป็ นการชา˚ ระค่าตอบแทน และการโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยแ
ก่ผูซ
้ือก็จด
เป็ น
ค่าตอบแทน แต่สัญญามีค่าตอบแทนไม่จา˚ เป็ นตองเป็ นสัญญาต่างตอบแทนเสมอไป เช่นสัญญา
ตวแทนมีบา˚ เหน็จ หรือสัญญานายหนา้ เป็ นสัญญามีค่าตอบแทน แต่ไม่ใช่เป็ นสัญญาต่างตอบแทน
เพราะการทา˚ การแทนเป็ นการทา˚ การเพื่อให้สมประโยชน์แก่ผูม
อบหมายเป็ นส˚าคญ
แม้จะได
บา˚ เหน็จเป็ นค่าตอบแทน โดยทว
ไปก็เป็ นเพียงการสมนาคุณแก่กน
แต่ไม่ใช่สินจา้ งในลก
ษณะต่าง
ตอบแทน แต่ก็มีการรับจา้ งทา˚ ของบางอยา่ งซ่ึงผรู้ ับจา้ งทา˚ ของตอ
งไดร
ับมอบอา˚ นาจให้ทา˚ การแทน
ด้วย ดงน้ีก็เป็ นสัญญาต่างตอบแทนในรูปของสัญญาจา้ งทา˚ ของ ไม่ใช่ต่างตอบแทนในรูปของ
สัญญาตวแทน
ค) สิทธิปฏเิ สธการช˚าระหนีต
่างตอบแทนจนกว่าคู่กรณอ
กฝ่ ายหนึ่งจะช˚าระหนี
สัญญาต่างตอบแทนอาจมีเน้ือหารายละเอียดที่ก่อให้เกิดหน้ีระหวา่ งคู่สัญญาแตกต่าง
กนได้ แต่หน้ีในสัญญาต่างตอบแทนเหล่าน้น อาจไม่ใช่หน้ีต่างตอบแทนเสมอไป ปัญหาวา่ หน้ีใด
เป็ นหน้ีต่างตอบแทนหรือไม่ มีความส˚าคญ
ในการปรับใช้กฎหมายที่เก่ียวขอ
ง ท้ง
น้ีเป็ นไปตาม
หลกในมาตรา ๔ ที่วา
“กฎหมายน้น
ตองใชใ้ นบรรดากรณีท่ีตอ
งดว
ยบทบญ
ญติใด ๆ แห่งกฎหมาย
ตามตวอก
ษร หรือตามความมุ่งหมายของบทบญ
ญติน้น
ๆ” ดงั น้น
บทบญ
ญติท่ีมุ่งใชแ
ก่นิติสัมพนธ์
ตามส
ญาต่างตอบแทนยอ
มไม่นา˚ มาปรับใชกบ
นิติส
พนธ์ท่ีมิไดม
ีลก
ษณะต่างตอบแทน และโดย
ที่มาตรา ๓๖๙ กา˚ หนดวา
“ในสัญญาต่างตอบแทนน้น
คู่สัญญาฝ่ ายหน่ึงไม่ยอมชา˚ ระหน้ีจนกวา่ อีก
ฝ่ ายหน่ึงจะช˚าระหน้ีหรื อขอปฏิบัติการช˚าระหน้ีก็ได้ แต่ความข้อน้ีมิให้ใช้บงั ค ถ้าหน้ีของ
คู่สัญญาอีกฝ่ ายหน่ึงยงั ไม่ถึงกา˚ หนด” ดงั น้นสิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีของคู่สัญญาย่อมมีไดเ้ ฉพาะ
กรณีที่เป็ นส
ญาต่างตอบแทน๓ และหน้ีท่ีจะยกข้ึนอา้ งปฏิเสธไม่ตอ
งชา˚ ระกน
ไดน้น
ก็ตอ
งเป็ นหน้
ที่มีลก
ษณะต่างตอบแทน และเป็ นหน้ีที่ถึงกา˚ หนดแลว
ดวย
หน้ีซ่ึงมิไดม
ีลก
ษณะต่างตอบแทนน้น
ไดแ
ก่หน้ีอน
มิไดเ้ ป็ นหนา้ ที่ประธานในสัญญา
แต่มีลก
ษณะเป็ นหน้ีหรือหนา้ ที่อุปกรณ์ เช่นในสัญญาซ้ือขายน้น
หนา้ ท่ีประธานไดแ
ก่หนา้ ท่ีโอน
กรรมสิทธ์ิและส่งมอบกบ
หน้าที่ชา˚ ระราคา ส่วนหน้าที่ของผูข
ายในการระมด
ระวง
ไม่ให้ผูซ
้ือ
ไดร้ ับอน
ตรายจากการประกอบการของผูข
าย หนา้ ที่เลือกผูข
นส่งดว
ยความระมด
ระวง
หรือหนา้ ที่
ป้องกน
ทรัพยส
ินที่ขายมิให
ดรับความเสียหายในระหวา่ งการขนส่ง หรือบอกกล่าวให
อมูลทาง
เทคนิค หรือรายละเอียดการใช้สอยทรัพยส
ินให้ถูกตอ
ง เช่นส่งมอบคู่มือการใชก
ลองแก่ผูซ
้ือตาม
ชนิดของกลอ
ง เหล่าน้ีเป็ นหนา้ ที่อุปกรณ์ไม่ใช่หนา้ ที่ประธาน ดงั จะเห็นไดว
า่ หากลูกหน้ีมิไดช
า˚ ระ
หน้ีน้น หรือชา˚ ระโดยบกพร่อง เช่นบรรจุหีบห่อไม่ดี เกิดฉีกขาดระหวา่ งขนส่ง คู่มือใชเ้ คร่ืองมือ
หายไป ฯลฯ หากมิไดเ้ กิดความเสียหายต่อทรัพยส
ินที่ซ้ือขายถึงขนาดท่ีทา˚ ให
ารชา˚ ระหน้ีเป็ นอน
ไร้ประโยชนแ์ ก่เจา้ หน้ีแลว
ความเสียหายท่ีเกิดแก่หีบห่อ ยอ
มไม่ทา˚ ใหเ้ รียกไดว
า่ ทรัพยส
ินที่ซ้ือขาย
กนสูญหรือเสียหาย หรือทา˚ ให
ารชา˚ ระหน้ีกลายเป็ นพน
วิสัยไปท้งั หมด หรือบางส่วนแต่อยา่ งใด
และในกรณีเช่นน้ี ผูซ้ือจะอ้างเหตุท่ีหีบห่อ หรือคู่มือการใช้อุปกรณ์ที่ซื้อขายกันน้ันฉีกขาด
บางส่วน มาเป็ นเหตุไม่ชา˚ ระราคาไม่ได้
ในกรณีทา˚ นองน้ี หากจะถือว่าลูกหน้ีไม่ชา˚ ระหน้ีก็ไม่อาจเรียกวา่ ลูกหน้ีไม่ชา˚ ระหน้
ประธาน กรณีไม่ช˚าระหน้ีอุปกรณ์น้ี โดยทว
ไปเป็ นแต่เพียงการไม่ช˚าระหน้ีให้ตอ
งตามความ
ประสงคอนแทจรงแิ หง่ มูลหน้ี เจา้ หน้ีไม่อาจอา้ งเป็ นเหตุไม่ชา˚ ระหน้ีส่วนของตนได้ ในกรณีเช่นน้
เจา้ หน้ีก็ชอบที่จะเรียกค่าเสียหายเพื่อการไม่ชา˚ ระหน้ีให้ตอ
งตามความประสงค น
แทจ
ริงแห่งมูล
หน้ีได้ แต่ไม่ใช่เหตุท่ีจะปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีตอบแทนท้งั หมด เพียงแต่เป็ นขออา้ งในการไม่ชา˚ ระ
หน้ีตอบแทนบางส่วน หรือยึดหน่วงไวบ
างส่วนเท่าน้น
และไม่ใช่เหตุที่เจา้ หน้ีจะบอกเลิกสัญญา
เพราะยอ
มไม่ก่อใหเ้ กิดประโยชน์จากหลก
ต่างตอบแทนแก่เจา้ หน้ีแต่อยา่ งใด
นอกจากน้ีเรายอ
มเห็นไดวา
หนา้ ท่ีของผูเ้ ช่าทรัพยใ์ นการชา˚ ระค่าเช่าเป็ นหน้ีต่างตอบ
แทน ดง
น้น
หากผูใ้ ห้เช่าไม่ส่งมอบทรัพยท
่ีเช่า ผูเ้ ช่าย่อมมีสิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระค่าเช่า แต่เมื่อส่ง
มอบทรัพยท
ี่เช่ากน
แลว
หากผเู้ ช่าไม่ชา˚ ระค่าเช่า ผใู้ หเ้ ช่ายอ
มไม่มีสิทธิหวงหา้ มไม่ให้ผูเ้ ช่าใชท
รัพย
ในครอบครอง ไม่มีสิทธิเขา้ รบกวนหรือแย่งการครอบครองทรัพยโดยอา้ งสัญญาต่างตอบแทน
ผูใ้ หเ้ ช่าไดแต่อา้ งเหตุท่ีผูเ้ ช่าไม่ชา˚ ระค่าเช่าในการบอกเลิกสัญญาเช่าและเรียกให้ผูเ้ ช่าคืนทรัพยท
๓ โปรดดู จ๊ิด เศรษฐบุตร, นิติกรรมและสญ
ญา, พิมพค
ร้ังท่ี ๔, ๒๕๕๑, หนา
๒๖๖ ซ่ึงอาง จิตติ ติงศภท
ิย,
หนา
๖๐ ซ่ึงอธิบายวา่ สิทธิไม่ยอมชา˚ ระหน้ีฝ่ ายตนจนกวา่ อีกฝ่ ายหน่ึงจะชา˚ ระหน้ีน้น
หมายถึงหน้ีท่ีเป็ นหน้ี
ที่ตอ
งชา˚ ระตอบแทนกน
เท่าน้น
เช่า หากพิจารณาจากฝ่ ายผูเ้ ช่า หน้าที่ส่งทรัพยสินที่เช่าคืนแก่ผูใ้ ห้เช่าเม่ือส้ินสุดสัญญาเช่า ย่อม
ไม่ใช่หนา้ ที่ต่างตอบแทนของผเู้ ช่า แต่เป็ นหนา้ ท่ีฝ่ ายเดียวของผเู้ ช่า ดงั น้นหากผูใ้ ห้เช่าไม่ซ่อมแซม
รักษาทรัพย์ตามควร และผูเ้ ช่าออกค่าใช้จ่ายซ่อมแซมเอง หากผูเ้ ช่าเรียกให้ผูให้เช่าชดใช้ค่า
ซ่อมแซม (มาตรา ๕๔๗) และผใู้ หเ้ ช่าไม่ยอมออกเงินค่าซ่อม ผเู้ ช่ายอมไม่มีสิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระค่า
เช่า หรือไม่ส่งทรัพยท
่ีเช่าคืน เพราะหน้ีชา˚ ระค่าเช่า หรือหน้ีส่งทรัพยค
ืนไม่ใช่หน้ีต่างตอบแทนการ
ท่ีผูใ้ ห้เช่ามีหน้าท่ีซ่อมแซมทรัพยท ซ่อมแซมได)้
ี่เช่า (แต่ผูเ้ ช่ายงั คงมีสิทธิหักกลบลบหน้ีค่าเช่ากบ
หน้ีชดใช้ค่า
ในกรณีกู้เงิน หน้าที่ของผูก้ ู้ในการช˚าระดอกเบ้ียและค่าธรรมเนียมแก่ผูใ้ ห้กู้ที่
ประกอบธุรกิจบริการแลกเปล่ียนเงินตราและจด
หาสินเชื่อยอ
มเป็ นหน้ีต่างตอบแทน แต่หนา้ ที่ส่ง
เงินตนคืนผูใ้ ห้กูต้ ามสัญญา ไม่ใช่หน้ีต่างตอบแทนตามสัญญากู้ เพราะเป็ นหน้ีฝ่ ายเดียวของผูกู
ดังน้ันหากผูใ้ ห้กู้ผิดสัญญาให้บริ การแลกเปลี่ยนเงินตราซ่ึงเป็ นส่วนหน่ึงของสัญญากู้ เช่น
ให้บริการสินเชื่อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราล่าช้า ก็ไม่เป็ นเหตุให้ผูกูอ ตามสัญญาได้
า้ งเป็ นสาเหตุไม่ส่งคืนเงินตน
เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลง ผูให้เช่าย่อมมีสิทธิได้รับทรัพยส์ ินท่ีเช่าคืนในฐานะเป็ น
เจา้ หน้ี ดงั น้น
หากสิ้นสุดส
ญาเช่าแลว
และผูใ้ หเ้ ช่าไม่ยอมให
ูเ้ ช่าเช่าทรัพยต
่อไป หากผูเ้ ช่าไม่ส่ง
ทรัพยส
ินท่ีเช่าคืน หรือทรัพยท
ี่เช่าสูญหรือเสียหายเพราะพฤติการณ์ที่ผูเ้ ช่าตอ
งรับผิดชอบ ผูใ้ ห้เช่า
ก็ย่อมบงคบ
ชา˚ ระหน้ีของตนและเรียกค่าเสียหายได้ในฐานะเจ้าหน้ีตามหลก
ทวไปในเรื่องหน้
(มาตรา ๒๑๓, ๒๑๔) แต่ไม่มีเหตุให
ูใ้ ห้เช่าอา้ งความผูกพน
ตามสัญญาต่างตอบแทนวา่ เมื่อไม่ส่ง
มอบทรัพยท
่ีเช่าคืน ก็ไม่ยอมให้ผูเ้ ช่าเขา้ ไปในสถานที่เช่า หรือไม่ยอมให้นา˚ ทรัพยส
ินออกจาก
สถานที่เช่า เพราะกรณีที่อา้ งดงั กล่าวน้ีไม่ใช่ขอ
อา้ งปฏิเสธชา˚ ระหน้ีต่างตอบแทนอน
จะอา้ งมาตรา
๓๖๙ ได้ และการที่ผูใ้ ห้เช่าจะเรียกทรัพยท
ี่เช่าคืนย่อมทา˚ ได้ โดยไม่ตอ
งบอกเลิกสัญญาอะไรอีก
เพราะเมื่อสัญญาสิ้นสุดลงแลว
การบอกเลิกสัญญาเพ่ืออาศย
สิทธิตามหลก
กฎหมายวา่ ดว
ยสัญญา
ต่างตอบแทนยอ
มไม่ก่อใหเ้ กิดสิทธิหรือขอ
ดีเพ่ิมเติมข้ึนแก่ผใู้ หเ้ ช่า หรือผใู้ หก
ูแต่อยา่ งใด
การแยกแยะว่าหน้ีใดเป็ นหน้ีต่างตอบแทนหรือไม่น้ี จะเห็นไดว
่ามีน
ส˚าคญ
ในแง่
การปรับใช้กฎหมายเก่ียวกบ
สัญญาต่างตอบแทน เช่นในกรณีสัญญาซ้ือขาย หากปรากฏว่าผูซ
้ือ
ชา˚ ระราคาสินคา้ ซ่ึงเป็ นหน้ีต่างตอบแทนแล
แต่กลบ
ปฏิเสธไม่ยอมรับมอบสินคา้ ที่ซ้ือขายกน
ดงั น้ีมีปัญหาวา
ผขู
ายจะอา้ งเป็ นเหตุบอกเลิกสัญญาไดห
รือไม่? หรือเป็ นกรณีที่ผูข
ายไดแ
ต่เรียกให
ผซู
้ือรับผด
ชดใชค
่าสินไหมทดแทนเพื่อการที่ผขู
ายตอ
งดูแลรักษาทรัพยท
่ีซ้ือขายไวต
่อไป? เรายอม
เห็นไดวา
หากยอมให้ผูข
ายบอกเลิกสัญญาเพียงเพราะเหตุที่ผูซ
้ือผิดนด
รับมอบทรัพยส
ินที่ซ้ือขาย
กน ย่อมจะขด
กับหล
ที่ถือว่า เจา้ หน้ีมีสิทธิรับช˚าระหน้ี แต่ไม่มีหน้าท่ีตอ
งรับช˚าระหน้ี การที่
เจา้ หน้ีผิดนด
เพียงแต่เป็ นเหตุให้ลูกหน้ีซ่ึงขอปฏิบต
ิการชา˚ ระหน้ีโดยชอบแลว
น้น
ไดร
ับการปลด
เปล้ืองจากความรับผด
ชอบอน
เกิดจากการไม่ชา˚ ระหน้ีเท่าน้น
(มาตรา ๓๓๐) ในกรณีเช่นน้ีผูข
ายซ่ึง
เป็ นลูกหน้ีตอ
งส่งมอบทรัพยย
่อมไม่ตกอยู่ในฐานะลูกหน้ีผิดนด
และไม่ตอ
งรับผิดหนก
ข้ึน หาก
ทรัพยส
ินท่ีซ้ือขายกน
เกิดสูญหรือเสียหายไปเพราะอุบต
ิเหตุ หรือเพราะพฤติการณ์ที่คู่กรณีไม่ตอง
รับผด
ชอบ เป็ นท่ีเห็นไดว
า่ ความเส่ียงในการที่ทรัพยอน
เป็ นวต
ถุแห่งหน้ีเกิดสูญหรือเสียหายไปน้น
ยอมตกเป็ นภาระแก่ผูซ
้ือซ่ึงเป็ นเจา้ หน้ี ไม่วา่ ผูซ
้ือจะยอมรับโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยน้น
หรือไม่ก
ตาม
อย่างไรก็ดี ปัญหาว่าหน้ีส่วนใดเป็ นหน้ีต่างตอบแทนหรื อไม่เพียงใด ย่อมต้อง
พิจารณาจากเจตนาที่แทจ
ริงของคู่กรณี และจากเน้ือหาแห่งสัญญาน้น
ๆ ประกอบกน
ดวย เช่นหาก
ปรากฏว่า การรับมอบสินคา้ เป็ นส่ิงท่ีคู่กรณีถือเป็ นสาระส˚าคญ
หรือเป็ นประโยชน์ส˚าคญ
ของฝ่ าย
ผูข
ายมาแต่ตน
หรือเป็ นเน้ือหาแห่งนิติสัมพน
ธ์ท่ีคู่กรณีคาดหมายไดต
ามปกติ ดงั น้ี การไม่ยอมรับ
ชา˚ ระหน้ี หรือการไม่ยอมรับมอบสินคา้ ท่ีซ้ือขายอน
เป็ นเหตุให้ผูข
ายไดร
ับความเสียหาย ยอ
มเป็ น
การผิดสัญญาในสาระส˚าคญ และถือได้ว่าเป็ นการไม่ชา˚ ระหน้ีต่างตอบแทน และในกรณีเช่นน้
ผูข
ายยอ
มมีสิทธิถือวา่ ลูกหน้ีผิดสัญญา ไม่ชา˚ ระหน้ีต่างตอบแทน และอา้ งเป็ นเหตุบอกเลิกสัญญา
ตามหลกในมาตรา ๓๘๗ ได้
โดยเหตุที่สัญญาต่างตอบแทนเป็ นสัญญาที่คู่กรณีตกลงผูกพน
เป็ นหน้ีตอบแทนกน
ในลก
ษณะที่การชา˚ ระหน้ีของคู่แต่ละฝ่ ายยอ
มเป็ นเงื่อนไขในการชา˚ ระหน้ีของคู่สัญญาอีกฝ่ ายหน่ึง
เช่นในสัญญาซ้ือขาย การโอนกรรมสิทธ์ิของผขู
ายยอ
มเป็ นเง่ือนไขในการชา˚ ระราคาของผูซ
้ือ หรือ
ในสัญญาเช่า การยอมให้ใช้ทรัพย์ของผูให้เช่าย่อมเป็ นเงื่อนไขแห่งการที่ผูเ้ ช่าช˚าระค่าเช่า ใน
สัญญาจา้ งทา˚ ของการทา˚ การงานจนส˚าเร็จย่อมเป็ นเง่ือนไขแห่งการชา˚ ระสินจา้ ง ฯลฯ ดงั น้ี ผลอน
เกิดจากความตกลงผกพน
ต่างตอบแทนระหวา่ งกน
น้ี ก็คือคู่กรณียอ
มตกลงกน
ดวยวา
หากคู่สัญญา
ฝ่ายใดฝ่ ายหน่ึงไม่ช˚าระหน้ คู่สัญญาอีกฝ่ ายหนึ่ งย่อมมีสิทธิปฏิเสธไม่ช˚าระหน้ีส่วนของตน
กล่าวอีกนัยหน่ึงได้ว่า หากฝ่ ายหน่ึงพร้อมจะชา˚ ระหน้ีแล จึงจะมีสิทธิเรียกร้องให้อีกฝ่ ายหนึ่ง
ชา˚ ระหน้ีของฝ่ ายน้นได
สิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีจนกว่าอีกฝ่ ายหน่ึงจะช˚าระหน้ีตอบแทนน้ีอาจมีไดห้ ลาย
ลกษณะ เช่น คู่ส
ญาทา˚ สัญญาจะซ้ือขายท่ีดินกนวา คู
ญาฝ่ ายหน่ึงจะจ่ายเงินใหอ
ีกฝ่ ายหน่ึงเป็ น
คราว ๆ เมื่อจ่ายครบกา˚ หนดที่ตกลงกนแล้ว ฝ่ ายที่ได้รับเงินจะโอนท่ีดินของบุคคลภายนอกให
ดงั น้ีตราบเท่าที่ฝ่ ายที่ตกลงจะโอนที่ดินแสดงไม่ไดวา่ พร้อมที่จะโอนที่ดิน ฝ่ ายท่ีตกลงจะจ่ายเงินก
มีสิทธิไม่ชา˚ ระเงินใหอีกฝ่ ายหนงึ่ ได๔
๔ คาพิพากษาฎีกาที่ ๑๖๒/๒๔๙๑, ๒๔๙๑ ฎ. ๑๙๙
คู่กรณีสองฝ่ ายตกลงแบ่งมรดกกน
โดยท้งั สองฝ่ ายตกลงแบ่งที่ดินที่ไดร
ับคร่ึงหน่ึงแก่
บุตรของคู่กรณีฝ่ ายหน่ึง โดยบุตรฝ่ ายท่ีไดรับที่ดินคร่ึงหนึ่งตกลงชา˚ ระเงินแก่คู่กรณีอีกฝ่ ายหนึ่ง
จา˚ นวนหน่ึง ดง
น้ีเม่ือยงั ไม่ชา˚ ระเงิน จะเรียกให้คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงยอมโอนที่ดินตามขอ
ตกลงยง
ไม่ได้ เพราะสัญญาแบ่งมรดกกรณีน้ีมีลกษณะเป็ นสัญญาโอนเงินตอบแทนการโอนท่ีดิน จึงเป็ น
สัญญาต่างตอบแทน หากฝ่ ายหน่ึงยงั ไม่ไดร้ ับชา˚ ระหน้ียอมมีสิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีของตนได๕
การที่ผขู
นส่งรับขนส่งทุเรียนสดไปส่งปลายทางในต่างประเทศ ไดจด
การขนส่งโดย
ใชต
ูสินคา้ ชา˚ รุดบกพร่องทา˚ ใหไ
ม่สามารถรักษาอุณหภูมิของผลไมถ
ึงปลายทางไดโ
ดยเรียบร้อย ผล
ทุเรียนช้ืน เปี ยกน้า ผลปริแตก เนื้อทุเรียนสุกเละเทะ มีราขึ้น ทา˚ ให้ไม่อาจส่งมอบแก่ผูร้ ับซ่ึงเป็ นผู
ซ้ือ ณ ปลายทางได้ เป็ นการไม
า˚ ระหน้ีใหต
องตามความประสงคอน
แทจ
ริงแห่งมูลหน้ี อน
เป็ นมูล
แห่งหน้ีต่างตอบแทนกบ
การชา˚ ระหน้ีค่าระวางและค่าใชจ
่ายในการขนส่ง เมื่อผูข
นส่งส่งของไปถึง
ปลายทางโดยไม่สมประโยชน์ของผูส
่ง ไม่อาจถือไดว
า่ ไดช
า˚ ระหน้ีแลว
ดงั น้ีผูส
่งจึงมีสิทธิปฏิเสธ
ไม่ชา˚ ระค่าขนส่งและค่าใชจ
่ายแก่ผขู
นส่งได๖
คู่กรณีหย่าจากกน
โดยตกลงกน
ว่า ให้ฝ่ ายหน่ึงชา˚ ระหน้ีท่ีเป็ นอยูร่ ่วมกน
แก่ธนาคาร
ท้งั หมด แลว
อีกฝ่ ายหน่ึงจะตกลงยกที่ดินท้งั หมดในเขตทอ
งท่ีจงั หวด
ท่ีตกลงกน
ให้ฝ่ ายท่ีชา˚ ระหน้
ธนาคารไปท้งั หมด ดงั น้ีขอ
ตกลงมีลก
ษณะเป็ นสัญญาแบ่งทรัพยส
ินของสามีภริยาตามกฎหมาย แต่
ก็มีลกษณะเป็ นสัญญาต่างตอบแทนด้วย หากยงั ไม่มีการชา˚ ระหน้ีแก่ธนาคาร อีกฝ่ ายหนึ่งย่อมมี
สิทธิปฏิเสธไม่โอนท่ีดินใหฝ้ ่ ายน้นได๗
แต่ถา้ นิติส
พนธ์ระหวา่ งคู่กรณีไม่ใช่หน้ีต่างตอบแทนกน
จะอา้ งไม่ชา˚ ระหน้ีจนกวา
อีกฝ่ ายหน่ึงจะชา˚ ระหน้ีไม่ได้ เช่นในสัญญาจา้ งแรงงาน หน้ีต่างตอบแทนคือฝ่ ายลูกจ้างตกลง ทา˚ งานให้นายจา้ ง โดยนายจา้ งตกลงจ่ายสินจา้ งแก่ลูกจา้ งตลอดเวลาที่ลูกจ้างทา˚ งานให้ สมมติ
นายจา้ งมอบหมายให้ลูกจา้ งขบ
รถส่งของ เมื่อเสร็จงานส่งของแลว
นายจา้ งไม่ชา˚ ระสินจา้ ง ดงั น้น
ลูกจา้ งจึงอ้างเหตุน้ ไม่ยอมส่งรถคืนนายจา้ งจนกว่านายจา้ งจะช˚าระสินจา้ งครบจา˚ นวน ดังน้
ลูกจา้ งไม่อาจอา้ งการไม่ส่งมอบรถว่าเป็ นสิทธิไม่ชา˚ ระหน้ีจนกว่าคู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงจะชา˚ ระหน้
ตามมาตรา ๓๖๙ ไดไม่เพราะการส่งมอบรถไม่ใช่หน้ีต่างตอบแทนในสัญญาจา้ งแรงงาน หรือใน
สัญญาจา้ งทา˚ ของ หน้ีต่างตอบแทนกนคือฝ่ ายหนึ่งตกลงรับทา˚ การงานจนเสร็จการ อีกฝ่ ายหนึ่งตก
ลงชา˚ ระสินจา้ ง เช่นวา่ จา้ งช่างให้ซ่อมแซมรถยนต์ ดงั น้ีหากฝ่ ายผูร้ ับจา้ งทา˚ ของทา˚ การงานจนเสร็จ
แลว ฝ่ ายผวู้ า่ จา้ งมาขอรับรถคืนโดยไม่จ่ายค่าจา้ งซ่อมรถก่อน ฝ่ ายผูร้ ับจา้ งทา˚ ของจะมีสิทธิปฏิเสธ
๕ โปรดเทียบคาพิพากษาฎีกาที่ ๘๒๕/๒๕๑๔, ๒๕๑๔ ฎ.๖๒๕
๖ โปรดเทียบคาพิพากษาฎีกาที่ ๘๗๘๕/๒๕๔๔
๗ โปรดเทียบคาพิพากษาฎีกาที่ ๕๔๙๖/๒๕๔๙
ไม่ส่งมอบรถโดยอา้ งสิทธิไม่ยอมชา˚ ระหน้ีจนกวา่ อีกฝ่ ายจะชา˚ ระหน้ีไดห
รือไม่? จะเห็นไดว
า่ ใน
กรณีน้ี หน้ีส่งมอบรถคืนไม่ใช่หน้ีต่างตอบแทนการไดร้ ับสินจา้ งค่าซ่อมรถ เพราะหน้ีต่างตอบ
แทนค่าสินจ
งคือการซ่อมรถน้ัน แต่เม่ือผูร
ับจ้างได้ซ่อมแซมจนเสร็จแล
ก็ไม่มีหน้ีต่างตอบ
แทนท่ีจะอา้ งเพื่อปฏิเสธไม่ชา˚ ระไดอ้ ต่างตอบแทนตามมาตรา ๓๖๙ ไม่ได
ีก ดงั น้น
จะอา้ งไม่ส่งมอบรถคืนโดยอา้ งสิทธิปฏิเสธชา˚ ระหน้
อย่างไรก็ดี ในกรณีว่าจ้างซ่อมแซมรถยนต์น้ี ตราบใดท่ีผูรับจ้างซ่อมรถยนต์ยง
ครอบครองรถอยู่ ก็นบ
ไดว
่าเป็ นกรณีท่ีฝ่ ายผูร้ ับจา้ งซ่อมรถยนต์ไดค
รอบครองทรัพยซ
่ึงมีหน้ีอน
เป็ นคุณแก่ตนเก่ียวดว
ยทรัพยส
ินซ่ึงครองอยู่ ดงั น้ีผูค
รอบครองทรัพยม
ีสิทธิยึดหน่วงในทรัพยน้น
ไวจ
นกวา่ จะไดช
า˚ ระหน้ี ตามหลก
เร่ืองสิทธิยึดหน่วงของเจา้ หน้ีในมาตรา ๒๔๑ แต่สิทธิยึดหน่วง
ต่างจากสิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีตอบแทนตามหลกต่างตอบแทนในมาตรา ๓๖๙ ตรงที่สิทธิยึด
หน่วงระงบ
ไปเพราะการที่ลูกหน้ีให
ระกน
ตามสมควรตามมาตรา ๒๔๙ แต่สิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระ
หน้ีตอบแทนน้น
ไม่สิ้นไป แมล
ูกหน้ีจะหาหลก
ประกน
พอสมควรมาให้ สิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้
ตอบแทนน้น
ไม่สิ้นไปแมค
ู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงจะชา˚ ระหน้ีดว
ยส่ิงอ่ืนท่ีมีราคาหรือมูลค่าสูงกวา
เพราะ
การจะบงั คบ
ใหเ้ จา้ หน้ีตอ
งรับชา˚ ระหน้ีอยา่ งอื่นยอ
มทา˚ ไม่ได้ (มาตรา ๓๒๐) สิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระ
หน้ีย่อมสิ้นไปเฉพาะเม่ือคู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงช˚าระหน้ีหรือขอปฏิบต เท่าน้นั
ิการช˚าระหน้ีโดยชอบแล้ว
อน่ึง ความสัมพนธ์ต่างตอบแทนน้ี ย่อมเป็ นไปตามความตกลงระหว่างคู่กรณีเป็ น
ส˚าคญ
ดงน้น
หากคู่กรณีตกลงกน
เป็ นอย่างอ่ืน เช่นตกลงให้หน้ีแต่ละฝ่ ายถึงกา˚ หนดไม่พร้อมกน
เช่นทา˚ สัญญาซ้ือขายรถยนต น
หากตกลงกน
ว่าให้ผูซ
้ือชา˚ ระราคาส่วนหน่ึง และผูข
ายตกลงส่ง
มอบรถยนต์ทน
ที โดยผูซ
้ือจะชา˚ ระราคาส่วนที่เหลือภายใน ๑๕ วน
ดงน้ีแมส
ัญญาซ้ือขายเป็ น
สัญญาต่างตอบแทน แต่เมื่อหน้ีของผซู
้ือส่วนท่ีคา้ งชา˚ ระยงั ไมถ่ ึงกา˚ หนด ผูข
ายยอ
มมีหนา้ ที่ส่งมอบ
รถยนต์ที่ตกลงซ้ือขายกน
แก่ผูซ
้ือตามสัญญา จะปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีส่วนของตนโดยอา้ งวา่ ผูซ
้ือยง
ชาระราคาไม่ครบถวนไม่ได
ง) ข้อยกเว้นสิทธิปฏเสธการช˚าระหนีต่างตอบแทน
สิทธิไม่ยอมชา˚ ระหน้ีต่างตอบแทนจนกวา่ อีกฝ่ ายหน่ึงจะชา˚ ระหน้ีหรือขอปฏิบติการ
ชา˚ ระหน้ีต่างตอบแทนส่วนของตนตามมาตรา ๓๖๙ น้ีเป็ นสิทธิท่ีกฎหมายรับรองไวใ้ นฐานะที่เป็ น
ผลจากขอ
ตกลงต่างตอบแทนกน
ตามเจตนาของคู่กรณี ดงั น้น
หากคู่กรณีจะตกลงกน
เป็ นอยา่ งอื่นก
ยอมตกลงกน
ได้ เช่นตกลงกน
วา่ ให้ฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงมีหนา้ ที่เป็ นฝ่ ายท่ีชา˚ ระหน้ีก่อนอีกฝ่ ายหน่ึง ใน
กรณีเช่นน้ี ฝ่ ายท่ีมีหนา้ ที่ตองชา˚ ระหน้ีก่อนจะยกสิทธิไม่ยอมชา˚ ระหน้ีส่วนของตนจนกว่าอีกฝ่ าย
หน่ึงจะชา˚ ระหน้ีตอบแทนข้ึนเป็ นขออา้ งย่อมไม่ได้ เพราะหน้ีของอีกฝ่ ายหนึ่งยงั ไม่ถึงกา˚ หนด
ตวอย่างเช่น คู่กรณีในสัญญาซ้ือขายแบบผ่อนชา˚ ระกน
เป็ นงวด ๆ โดยตกลงกน
ว่าให้ผูซ
้ือชา˚ ระ
ภายใน ๑๕ วนนบ
แต่วน
รับมอบทรัพย์ ดง
น้ีผูข
ายจะปฏิเสธไม่ส่งมอบจนกว่าผูซ
้ือจะชา˚ ระราคา
ครบถว
นไม่ได้ เพราะเป็ นกรณีท่ีคู่กรณีตกลงให้ผูข
ายมีหนา้ ท่ีชา˚ ระหน้ีก่อน และมีผลเป็ นการสละ
สิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีจนกวา่ อีกฝ่ ายหน่ึงจะชา˚ ระหน้ีตามมาตรา ๓๖๙ ไปแลว
นอกจากน้ี หากไม่ปรากฏว่าคู่กรณีตกลงกน
ไวห
รือมีปกติประเพณีเป็ นอย่างอื่น มี
หลายกรณีที่กฎหมายไดว
างขอ
สันนิษฐานว่าคู่กรณีฝ่ ายหน่ึงยอ
มตกลงชา˚ ระหน้ีของตนก่อน เช่น
ในสัญญาเช่า มาตรา ๕๕๙ กา˚ หนดวา
“ถ้าไม่มกาหนดโดยสัญญาหรือโดยจารตปี ระเพณีวา่ จะพึงชาระค่าเช่า ณ เวลาใด
ท่านให้ชาระเมื่อสิ้นระยะเวลาอันได้ตกลงกาหนดกันไว้ทุกคราวไป กล่าวคือว่า ถ้า
เช่ากันเป็ นรายปี กพ สิ้นเดือน”
ึงชาระค่าเช่าเมื่อสิ้นปี ถ้าเช่ากันเป็ นรายเดือนกพ
ึงชา˚ ระค่าเช่าเมื่อ
หรือในสัญญาจางแรงงาน มาตรา ๕๘๐ กา˚ หนดวา
“ถ้าไม่มกาหนดโดยสัญญาหรือจารีตประเพณีวาจะพึ่ งจาย่ สินจางเมอไื่้ ร ท่านวาพึ่ ง
จ่ายเมื่องานได้ทาแล้วเสร็จ ถ้าการจ่ายสินจ้างนั้นได้กาหนดกันไว้เป็ นระยะเวลา กให พึงจากเมื่อสุดระยะเวลาเช่นนั้นทุกคราวไป”
หรือในเรื่องจางทาของ มาตรา ๖๐๒ ก็กา˚ หนดวา่ “อันสินจ้างนั้นพึงใช้ให้เมื่อรับมอบการที่ทา˚ ” และ
“ถ้าการที่ทานั้นมกาหนดวาจ่ ะส่งรบกั ันเป็ นส่วน ๆ ไซร้ ท่านวาพึ่ งใช้สินจางเพื่้ อการ
แต่ละส่วนในเวลารับเอาส่วนนั้น” เหล่าน้ีเป็ นตน้
ในกรณีเหล่าน้ีหากไม่ได้ตกลงกนั ไว้ หรือมีจารีตประเพณีเป็ นอย่างอื่น ผูใ
ห้เช่า
ลูกจา้ ง และผรู้ ับจา้ ง ยอ
มมีหนา้ ที่ชา˚ ระหน้ีส่วนของตนก่อน แลว
จึงจะมีสิทธิรับชา˚ ระหน้ีตอบแทน
ดงั น้นในกรณีเหล่าน้ี ผใู้ หเ้ ช่า ลูกจา้ ง หรอผื รู้ ับจา้ งจะอา้ งสิทธิไม่ยอมชา˚ ระหน้ีตามมาตรา ๓๖๙ มา
ปฏิเสธการชา˚ ระหน้ีจนกวา่ คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงจะชา˚ ระหน้ีตอบแทนไม่ได
อย่างไรก็ดี แมคู่กรณีฝ่ ายหนึ่งจะมีหน้าท่ีชา˚ ระหน้ีต่างตอบแทนล่วงหน้า และไม่มี
สิทธิปฏิเสธการชา˚ ระหน้ีจนกวา่ อีกฝ่ ายหน่ึงจะชา˚ ระหน้ีตอบแทนก็ตาม ก็อาจมีพฤติการณ์ที่คู่กรณี
ฝ่ ายน้ีควรไดร
ับความคุม
ครองไม่ให้ตอ
งชา˚ ระหน้ีล่วงหนา้ ได้ เช่นในกรณีที่ปรากฏพฤติการณ์ว่า
คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงจะไม่อยู่ในฐานะที่จะชา˚ ระหน้ีตอบแทนได้ เพราะฐานะทางเศรษฐกิจไม่มนคง
ถึงขนาดอาจจะไม่สามารถชา˚ ระหน้ีตอบแทน หรือทา˚ ให้ฝ่ ายท่ีตอ
งชา˚ ระหน้ีล่วงหนา้ ตอ
งเสื่อมเสีย
สิทธิท่ีจะไดร
ับชา˚ ระหน้ีตอบแทนไป เช่นกรณีที่คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงถูกศาลสั่งพิทกษท
รัพยเ์ ด็ดขาด
เป็ นเหตุให้ไม่มีสิทธิจด
การทรัพยส
ินของตนได้ หรือไม่ให้ประกน
เมื่อจา˚ ตอ
งให้ หรือทา˚ ลายหรือ
ทา˚ ให้หลก
ประกน
อนได้ให้ไวล
ดน้อยถอยลง หรือนา˚ ทรัพยส
ินของผูอ
ื่นที่มาให้เป็ นประกน
โดย
เจา้ ของมิไดยน
ยอม หรือกรณีอื่นทา˚ นองเดียวกน
กรณีเหล่าน้ีอาจถือไดว
า่ เป็ นกรณีที่แมห
น้ีของอีก
ฝ่ ายหน่ึงจะยงั ไม่ถึงกา˚ หนด คู่กรณีฝ่ ายน้น
ยอมไม่อาจถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาอน
เป็ นคุณแก่
ตนไดต
่อไป โดยนา˚ เอาหลก
ห้ามลูกหน้ีถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาในมาตรา ๑๙๓ มาปรับใช
โดยเทียบเคียงได้ เมื่อคู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงไม่อาจถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาได้ ก็ยอมอา้ งเหตุท่ี
หน้ียงั ไม่ถึงกา˚ หนดเป็ นประโยชน์แก่ตว
โดยถือว่าเป็ นขอ
ห้ามมิให้คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงปฏิเสธไม
ชา˚ ระหน้ีจนกว่าจะไดร
ับชา˚ ระหน้ีตอบแทนไม่ได้ และดว
ยเหตุน้ีแมใ้ นกรณีที่หน้ียงั ไม่ถึงกา˚ หนด
ฝ่ ายที่ตอ
งชา˚ ระหน้ีล่วงหนา
ก็อาจอา้ งเหตุที่คู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงทา˚ ใหเ้ สื่อมเสียหลก
ประกน
หรือทา
ให้เสื่อมเสียความเช่ือถือว่าจะชา˚ ระหน้ีได้ มาเป็ นขออา้ งในการปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีจนกวา่ อีกฝ่ าย
หน่ึงจะชา˚ ระหน้ีได้ เป็ นการอา้ งหลกหา้ มลูกหน้ีถือเอาประโยชนใ์ นเง่ือนเวลาในมาตรา ๑๙๓ มาใช
เป็ นขอ
ยกเวนขอ
ยกเวนตามมาตรา ๓๖๙ อีกช้น
หน่ึงนน
เอง
นอกจากน้ีสิทธิของคู่กรณีในสัญญาต่างตอบแทนที่จะปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีจนกว่าอีก
ฝ่ ายหน่ึงจะชา˚ ระหน้ียงั มีขอ
ยกเวน
ที่ส˚าคญ
อีกประการหน่ึง คือ หากการปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีน้น
เป็ น
การใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ดงน้ีฝ่ ายที่อา้ งสิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีย่อมขาดความชอบธรรมท่ีจะยก
สิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีข้ึนเป็ นขอ
อา้ งของตน ตว
อยา่ งเช่น กรณีท่ีคู่กรณีอีกฝ่ ายหน่ึงยงั มิไดช
า˚ ระ
หน้ีใหค
รบถว
น ปกติยอ
มก่อใหเ้ กิดสิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ีตอบแทนจนกวา่ ฝ่ ายน้น
จะชา˚ ระหน้ีให
ครบถว
น แต่ถา้ การท่ียงั มิไดช
า˚ ระหน้ีให
รบถว
นน้น
เป็ นเหตุเล็กนอ
ย การอา้ งเหตุเล็กนอ
ยข้ึนอา้ ง
เพ่ือใชส
ิทธิปฏิเสธไม่ชา˚ ระหน้ี อาจเป็ นการใชส
ิทธิโดยไม่สุจริตได้ เช่นผูเ้ ช่าอา้ งเหตุที่ผูใ้ ห้เช่าส่ง
มอบทรัพยท น้นั
ี่เช่าบกพร่องเล็กน
ยเป็ นเหตุไม่ชา˚ ระค่าเช่าจนกว่าอีกฝ่ ายหน่ึงจะแกไ
ขขอ
บกพร่อง