Convention Relating to The Status of Refugees
อนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้xxภย
Convention Relating to The Status of Refugees
ลงนาม ณ กรุงเจนีวา
28 กรกฎาคม ค.ศ. 1951
ค˚าแปลภาษาไทยฉบับ พฤษภาคม ค.ศ. 2020
รัฐภาคีผ้ท˚าสญญา
xxxxxxxx
xxxxxxxxxxกฎบตรสหประชาชาติ และxxxxxxxxxxวา่ ด้วยxxxxxมนษ
ยชน ซงึ่ ได้รับxxxxxม
ติจากสมชชาใหญ่
สหประชาชาติเมื่อวนที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 ได้ยืนยนในหลก
การที่ว่ามนษ
xxxxxxxxxxxxxเสรีภาพขน้ พืนฐานได้โดย
ปราศจากการถกเลือกประติบต
พิจารณาว่าxxxxxxxxxxxxxxแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผ้xxภ้ ยในหลากหลายสถานการณ์ และแสวงหาการรบรองสิทxxx
และเสรีภาพขน้ พืนฐานให้กบผ้x
xภ้ ยให้ครอบคลม
มากที่สด
เท่าที่จะเป็นได้
พิจารณาว่าxxxxxxxxจะปรับแก้และรวบรวมข้อตกลงระหว่างประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานภาพผู้xxภ้ ย และเพื่อการ
ขยายขอบเขตของข้อตกลงต่างๆ และความค้มครองตามที่ก˚าหนดไว้ในข้อตกลงเหล่านนั ด้วยการท˚าขอตกลงxxxx ใหม่
พิจารณาว่าการให้ที่พก
พิงอาจท˚าให้เกิดภาระอน
หนกหน่วงเกินไปส˚าหรับบางรัฐ และความร่วมมือระหว่างนานาประเทศ
นนั ้ จ˚าเป็นอย่างยิ่งต่อการหาทางออกส˚าหรับปัญหาที่สหประชาชาติยอมรับว่าเป็นปัญหาที่มีขอบเขตและลก นานาชาตินนั ้
ษณะระดับ
xxxx xx x xxxxให้รัฐทัง้ หลายตระหนักว่าปัญหาผู้xxxxxมีลักษณะทางสังคมและมนุษยธรรม รัฐจ˚าเป็นต้องท˚าทุกสิ่งภายใต้
อ˚านาจของตนเพื่อป้องกนมิใหปญหานีกั้ ่อใหเ้ กิดความตงึ เครยดี ระหว่างรฐั
อนึ่ง xxxxxxxxxxxxxx
ีภ้ ยxxxxxxxxxxx xxxรับมอบหมายให้จดการดแลอนส
ญญาระหว่างประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกบการ
ให้ความค้มxxxxxxx
ีภ้ ย
และตระหนกว่า การxxxxxxงานที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหานีย่อมขึนอยก
บความร่วมมือ
ระหว่างรัฐต่างๆ กบข้าหลวงใหญ่ฯ จึงได้ท˚าข้อตกลงดงั ต่อไปนี ้
บทท่ีหน่ึง
บทท่วไป
A. ตามอนส
ญญาxxxxx x ค˚าวา
ผู้xxภ้ ย
หมายถึงผ้ที่
มาตรา 1 ค˚านิยามของ ผู้xxภ้ ย
(1) ได้รับการพิจารณาแล้วว่าเป็นผ้xxภ้ ยภายใตขอตกลง้้ ลงวนที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 19261 และ 30 มิถนายน ค.ศ. 19282 หรอื
ภายใต้อนส
ญญา ลงวนที่ 28 ตล
าคม ค.ศ. 19333 และ 10 กมภาพนธ์ ค.ศ. 19384 พิธีสาร ลงวนที่ 14 กนยายน ค.ศ. 19395
หรือ ธรรมนญขององค์การผ้x
xภ้ ย
ระหว่างประเทศ6
ในกรณีที่บคคลใดได้รับการxxxxxฉยจากองค์การผ้x
xภ้ ยระหว่างประเทศ ในxxxxxxxองค์การฯ ยงั ปฏิบติหน้าที่อยนนั
วา่ ขาด
คณสมบติ ค˚าxxxxxฉยดงั กล่าวxxxxxxกีดกนบค ตาม วรรคสอง
ของข้อก˚าหนดนี ้
คลนน้ จากการได้รับสถานภาพผ้x
xภ้ ย
หากบคคลดงั กล่าวเป็นผ้ที่เข้าเงื่อนไข
(2) ด้วยผลจากเหตก
ารณ์ก่อนวนที่ 1 xxxxxx ค.ศ. 1951 และด้วยความหวาดกลวั ซงึ่ มีมล
อนจะกล่าวอ้างได้ว่าจะได้รับการ
ประหตประหารด้วยสาเหตทางเชือชาติ ศาสนา สญชาติ สมาชิกภาพในกลมใดกลมหนึ่งทางสงั คม หรือความคิดเห็น
ทางการเมอง เป็นบค
คลที่อยนอกอาณาเขตรัฐแห่งสญ
ชาติตน และไม่xxxxxxหรือxxxxxครใจที่จะได้รับความค้ม
ครองจาก
รัฐแห่งสญชาติตนเนื่องจากความหวาดกลวั ดงั กล่าว หรือนอกจากนีเ้ ป็นบคคลไร้สญชาติซงึ่ อยนอกอาณาเขตรัฐxxxxxxxตนมี
xxxxxxxพา˚ นกประจ˚าแต่ไม่xxxxxx หรือxxxxxครใจที่จะกลบไปเพื่อพ˚านก ข้างต้น
ในรัฐดงั กล่าว ด้วยเหตแห่งความหวาดกลว
ในกรณีของบคคลที่มีหลายสญชาติ ค˚าวา รฐแห่งั สญชาติตน หมายถึง ทกรัฐที่บคคลนน้ มีสญชาติ และxxxxxxถือไดวา้
บคคลนน้ ขาดความค้มครองของรัฐแห่งสญชาติตนหากว่าบค
คลนน้ เมินเฉยต่อการใช้xxxxxสืบเนื่องจากความค้ม
ครองของ
รัฐใดรัฐหนึ่งที่ตนมีสญ
ชาติ ทงั ้ นี ้ ยกเว้นกรณีที่การเมินxxxxxxxนนั ้ มีเหตจากความหวาดกลวั xxxxมล
จะกล่าวอ้างได้
1 League of Nations, Treaty Series, Vol. LXXXIX, p. 47.
2 League of Nations, Treaty Series, Vol. LXXXIX, pp. 53 and 63; Vol. XCIII, p. 377; Vol. CCIV, p. 445, and Vol. CCV, p. 193.
3 League of Nations, Treaty Series, Vol. CLIX, p. 199; Vol. CLXXII, p. 432; Vol. CLXXXI, p. 429; Vol. CCIV, p. 464, and Vol. CCV, p. 214.
4 League of Nations, Treaty Series, Vol. CXCII, p. 59; Vol. CC, p. 572, and Vol. CCV, p. 218.
5 League of Nations, Treaty Series, Vol. CXCVIII, p. 141, and Vol. CCV, p. 219.
6 United of Nations, Treaty Series, Vol. 18, p. 3, and Vol. 26, p. 416.
B. (1) ตามอนสญญาxxxxx x วลี “เหตการณก่อนว์ xxxx 1 xxxxxx ค.ศ. 1951” ในมาตรา 1 ส่วนขอก˚า้ หนด A ใหหมา้ ยถง
(a) “เหตก
(b) “เหตก
ารณ์ซงึ่ เกิดขึนในยxx รปก่อนวนที่ 1 xxxxxx ค.ศ. 1951” หรือ
ารณ์ซงึ่ เกิดขึนในยxx รปหรือทึ่อื่นใดก่อนวนที่ 1 xxxxxx 1951” และเมื่อลงนาม สตยาบนหรือภาคxxxวุ ติ ให้แต่
ละรัฐภาคีผ้ท˚าสญญาระบใุ ห้ประจกษ์ว่าตนหมายถงึ เหตการณ์ใดข้างต้นในการปฏิบติตามพนธกรณีตามอนส xxxxx x
ญญา
(2) รัฐภาคีผ้ท˚าสญญาใดxxxxxxเลือกรับ (a) อาจขยายพนธะกรณีของตนด้วยการเลือกรับ (b) เมื่อใดก็ได้โดยแจ้งให้ เลขาธิการสหประชาชาติทราบ
C. ให้ยกเลิกการปรับใช้อนส
ญญาxxxxxก้ บบคคลใดๆ ตามความหมายของส่วนข้อก˚าหนด A หากบค
คลนนั
(1) ได้กลบมาใช้xxxxxสืบเนื่องจากความค้มครองจากรัฐแห่งสญชาติตนอีกวาระหนึ่งดว้ ยความสมครใจ หรอื
(2) ได้รับสญชาติเดิมคืนมาด้วยความสมครใจ หลงั จากได้สญเสียสญชาตินน้ ไป หรือ
(3) ได้มาซงึ่ สญชาติใหม่และได้รับความค้มครองจากรัฐแห่งสญชาติใหม่ของตน หรือ
(4) ได้กลบเข้าไปตงั ้ xxxxxxxด้วยความสมครใจในรัฐที่ตนได้จากมา หรือรัฐที่ตนอยภ หวาดกลวั จากการประหตประหาร หรือ
ายนอกอาณาเขตเนื่องจากความ
(5) xxxxxxxxxxxxxxxจะใช้xxxxxสืบเนื่องจากความค้ม บคคลนน้ เป็นผู้xxภ้ ยได้สินสดลงแล้ว
ครองจากรัฐแห่งสญชาติตน เนื่องจากสถานการณ์ที่ท˚าให้ถือได้ว่า
ทงั ้ นี ้ จะไม่ใช้วรรคนีต่อผ้xxภ้ ยตามส่วนขอก˚า้ หนด A(1) แห่งมาตรานี ้ หากxxxxxxอา้ งเหตจ˚าเปนxxx มxxxxxxมีการ
ประหตประหารxxxxxxหน้านนั ้ เพื่อxxxxxxxxxจะใช้xxxxxสืบเนื่องจากความค้มครองจากรัฐแห่งสญชาติตน
(6) เป็นบคคลไร้สญชาติซงึ่ xxxxxxกลบสxx xฐxxxxxxxตนมีxxxxxxxพา˚ นกประจ˚าได้ เนื่องจากสถานการณที่ท˚า์ ใหxxx xxxxบคคล
นน้ เป็นผ้xxภ้ ยสินสดแลว้
ทงั ้ นี ้ จะไม่ใช้วรรคนีต่อผ้xxภ้ ยตามส่วนขอก˚า้ หนด A(1) แห่งมาตรานี ้ หากxxxxxxอา้ งเหตจ˚าเปนxxx มxxxxxxมีการ
ประหตประหารxxxxxxหน้านนั ้ เพื่อxxxxxxxxxจะใช้xxxxxสืบเนื่องจากความค้มครองจากรัฐที่ตนเดิมมีxxxxxxxพ˚านก ประจ˚า
D. อนส
ญญาxxxxxจะไม่ใช้ต่อบค
คลxxx x เวลาปัจจบ
นได้รับความค้มครองหรือความชว่ ยเหลือจากองค์กรหรือหน่วยงานอื่น
ของสหประชาชาตินอกจากข้าหลวงใหญ่ผ้xxภ้ ยสหประชาชาติ
เมื่อความค้มครองหรอควื ามชว่ ยเหลือดงั กล่าวได้สนิ สดลงไม่ว่าดว้ ยเหตใุ ดก็ตาม โดยปราศจากการxxxxxฉยชข้ าดถึง
สถานะของบคคลดงั กล่าวตามที่มติที่เกี่ยวข้องของสมชชาใหญxxxxxxxx xxxxxxก˚า้ หนดไว้ ใหถื้ อด้วยเหตนี ้ วา่ บคคลนน้ มี
xxxxxxxxจะได้รับประโยชน์จากอนสญญาxxxxx
E. อนส
ญญาxxxxxจะไม่ใช้ต่อบค
คลxxxxxxxพนก
งานผ้มีอ˚านาจในรัฐที่ตนพ˚านกอยย
อมรับว่า มีxxxxxและหน้าที่เยี่ยงผ้ถือ
สญชาติของรัฐนนั ้
F. ข้อก˚าหนดแห่งอนส
ญญาฉบบนจ้ ะไม่ใช้ต่อบค
คลซงึ่ มีเหตผ
ลหนกแน่นในอนที่จะท˚าให้xxxxxxxxxxว่า
(a) บคคลนน้ ได้ประกอบอาชญากรรมต่อสนติภาพ อาชญากรรมxxxxxxหรืออาชญากรรมต่อมนษ ไว้ในกรรมสารระหว่างประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกบอาชญากรรมดงั กล่าว
xxxxxxxxxxxxxxxxx
(b) บคคลนน้ ได้ประกอบอาชญากรรมร้ายแรงซงึ่ มิใช่อาชญากรรมทางการเมืองนอกเขตรัฐที่ตนขออาศยxxภ้ ยก่อนที่รัฐนนั จะยอมรับเข้าอาณาเขตในฐานะผู้xxภ้ ยั
(c) บคคลที่มีความผิดในการละเมิดวตถxxxxxxxและหลกการของสหประชาชาติ
มาตรา 2
หน้าที่ทวั่ ไป
ผ้xxภ้ ยทกคนมีหxxx xxxต่อรฐที่ตนเั ขา้ มาอยใู นอาณาเขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหxxx xxxในการปฏิบติตนตามกฎหมายและ
ข้อบงั คบต่างๆ รวมถงึ มาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน
มาตรา 3 การไม่เลือกประติบต
รัฐภาคีจะต้องปรับใช้ข้อก˚าหนดในอนส หรือประเทศต้นทางที่มา
ญญานีต่อผ้x
xภ้ ยทกคนโดยไม่เลือกประติบติด้วยเหตุที่เกี่ยวกบ
มาตรา 4 ศาสนา
เชือชาติ ศาสนา
รัฐภาคีจะต้องปฏิบตต่อผ้x
xภ้ ยในอาณาเขตของรัฐตน อย่างน้อยที่สด
โดยเท่าเทียมกบการปฏิบติกบบคคลสญชาติตน ใน
เรื่องที่เกี่ยวกบเสรีภาพในการประกอบศาสนกิจ รวมถึงเสรีภาพในการให้การศกษาทางศาสนาแกบ ติดตามมาด้วย
ตรหลานของผ้x
xภ้ ยที่
มาตรา 5
xxxxxอื่นๆ ที่รับรองนอกเหนือจากที่บญxxxxในอนส
ญญานี
ไม่มีข้อก˚าหนดใดในอนส
ญญาxxxxxxx ดทอนxxxxxและxxxxxxxxxxที่รัฐภาคีรับรองแก่ผ้x
xภ้ ย
เว้นแต่จะบญxxxxไว้ใน
อนส
ญญานี
มาตรา 6
วลีที่ว่า ในสถานการณ์xxxxเดียวกน
ตามxxxxxแห่งอนส
ญญาxxxxx x วลีที่ว่า ในสถานการณ์xxxxเดียวกน
หมายถึงข้อก˚าหนดใดๆ (ทงั ้ ที่เกี่ยวกบระยะเวลา
และเงื่อนไขในการเยือนหรือพ˚านก) ที่บคคลต่างๆ พึงปฏิบติตามเพื่อให้ได้มาซงึ่ xxxxxxxxเกี่ยวข้อง แม้บคคลนน้ มิใช่ผ้xxภ้ ย
บคคลนน้ ก็พึงปฏิบติตามอยแล้ว ยกเว้นในกรณีที่ข้อก˚าหนดนน้ ไม่xxxxxxกระท˚าได้เนื่องจากสถานภาพความเป็นผ้ล
มาตรา 7 การยกเว้นจากการต่างตอบแทน
ีภ้ ย
1. รัฐภาคีจะต้องปฏิบตต่อผ้x
xภ้ ยเสมือนกบที่ปฏิบติต่อคนต่างด้าวทวั่ ไป ยกเว้นในกรณีที่อนส
ญญานีบ้ ญxxxxให้ปฏิบติดกวา
2. หลงั จากพ˚านก ของรัฐภาคี
เป็นระยะเวลาสามปี ให้ผ้x
xภ้ ยxxxxxxxxxรับการยกเว้นจากการต่างตอบแทนทางนิติบญxxxx ในอาณาเขต
3. นบจากวนที่อนสญญานีมีผลบงั คบใชก้ บรฐภาคแั ต่ละรฐั หากไม่มีการต่างตอบแทน ใหรฐxxxx xxxนั ้ รบรองั สิทธxxxx
xxxxxxxxxxต่อผ้xxภ้ ยต่อไปตามที่พึงมีอย่
4. หากไม่มการต่างตอบแทน รัฐภาคีต้องพิจารณาอย่างเป็นคณในการxxxxxและxxxxxxxxxxต่อผ้x
xภ้ ย
นอกเหนือจากที่
ก˚าหนดว่าได้รับอยแ
ล้วตามวรรคสองและสาม และให้ขยายข้อยกเว้นจากการต่างตอบแทนต่อผ้x
xภ้ ยxxxxxxเข้าเงื่อนไขตามที่
ก˚าหนดไว้ในวรรคสองและสาม
5. ข้อก˚าหนดวรรคสองและสามปรับใช้ต่อxxxxxและxxxxxxxxxxตามที่กล่าวถึงในมาตรา 13 18 19 21 และ 23 ของ
อนส
ญญานี ้ตลอดจนxxxxxและxxxxxxxxxxxxxxxxxxบญxxxxไว้ในอนส
มาตรา 8
ญญานีด้ ้วย
ข้อยกเว้นจากมาตรการพิเศษ
ว่าด้วยมาตรการพเิ ศษใดๆ ที่รัฐปรับใช้ต่อบคคล ทรพxxx สิน หรอื ผลประโยชนของผท้์ ี่มีสญชาติอื่น รฐภาคั ีต้องงดเว้นการ
ปรับใช้มาตรการเหล่านนั ้ ต่อผ้x
xภ้ ยซงึ่ เคยเป็นผ้มีสญชาติของรัฐดงั กล่าวเพียงเพราะเหตแห่งสญชาตินนั
ในกรณีที่รัฐมี
กฎหมายห้ามมิให้มีการปรับใช้หลกการทวั่ ไปที่บญxxxxไว้ในอนสญญาxx x xฐภาคั ีดงั กล่าวควรก˚าหนดใหมีข้้ อยกเว้นที่เปน็
คณแก่ผ้x
xภ้ ย
ตามความเหมาะสม
มาตรา 9 มาตรการเฉพาะกาล
ไม่มีข้อก˚าหนดใดในอนสญญานีที่หา้ มรฐภาคีมใั ิ หใ้ ชมาตรา้ การxxxxxxxx xxxวา่ ในช่วงเวลาxxxxxx xxxสxxx นการณ์
ร้ายแรงและพิเศษอื่นใด หากพิจารณาแล้วว่าจ˚าเป็นต่อความมนxxxxxxชาติในกรณที่บคี คลที่xxxx xหว่างการพxxxxx
สถานะโดยรัฐภาคีวา่ เป็นผ้x
xภ้ ยหรือไม่ และหากจ˚าเป็นต้องใช้มาตราการนน้ ต่อเพื่อxxxxxxxxxxความมน
มาตรา 10 การพ˚านกต่อ
xxxxxxชาติ
1. ในกรณีผ้x
xภ้ ยถกบงั คบให้พลด
ถิ่นในระหว่างสงครามโลกครงั ้ ที่สอง และถกส่งเข้าไปพ˚านกในอาณาเขตของรัฐภาคี และมี
ถิ่นที่อยู่ ณ ที่นนั ้ ในอาณาเขตตน
ให้พิจารณาวา่ ระยะเวลาในการเยือนโดยบงั คบ
เป็นการพ˚านก
อยใู นอาณาเขตนนั ้ โดยชอบด้วยกฎหมาย
2. ในกรณีผ้x
xภ้ ยถกบงั คบให้พลด
ถิ่นจากอาณาเขตของรัฐภาคีในระหว่างสงครามโลกครัง้ ที่สอง และได้กลบมายงั รัฐภาคีด้วย
xxxxxxxxจะพ˚านกเป็นถิ่นที่อยู่ ก่อนอนสญญานีมีผลบงั คบใช้ ใหxxxxx xxxxxxxxx ระยะเวลาที่อยก่อนหนา้ และภายหลงั การ
พลดถิ่นนน้ เป็นระยะที่ต่อเนื่องกน
เพื่อการใดก็ตามที่จ˚าเป็นต้องให้มีการพิสจน์ระยะต่อเนื่องในการพ˚านก
มาตรา 11 กะลาสีxxภ้ ยั
ในกรณีที่ผ้x
xภ้ ยท˚าหน้าที่ประจ˚าเป็นกะลาสีเรือที่ชก
ธงของรัฐภาคี ให้รัฐนน้ พิจารณาด้วยความxxxxxในการตงั ้ xxxxxxxใน
อาณาเขตของตน และออกเอกสารเดินทางให้ หรือเอกสารการเข้าอาณาเขตรัฐตนชวั่ คราวเพื่อเอือ้ อ˚านวยต่อการตงั ้ xxxx xxxในประเทศอื่นต่อไป
บทท่ีสอง
สถานภาพทางกฎหมาย
มาตรา 12 สถานภาพส่วนบคคล
1. ให้สถานภาพสว่ นบคคลของผ้x
xภ้ ยขึนอยก
บกฎหมายของรัฐภมิล˚าเนาของตน หรือหากเป็นผ้ไู ร้ภมิล˚าเนา ให้ขึนกบ
กฎหมายของประเทศที่พ˚านกอยู่
2. รัฐภาคีจะต้องเคารพxxxxxxxxขึนอยก่
บสถานภาพบค
คลซงึ่ ผ้x
xภ้ ยได้รับการรับรองไว้ก่อนหน้า โดยเฉพาะxxxxxxxxได้มาจากการ
สมรส โดยการxxxxxxxxxxxxxxว่านี ้ผ้x
xภ้ ยจะต้องปฏิบติตามกฎหมายหรือข้อก˚าหนดทางกฎหมายของรัฐนนั
เสมือนว่าxxxxx
ดงั กล่าวนน้ เป็นxxxxxxxxรัฐภาคีได้รับรองให้กบบค
คลที่ไม่มีสถานะผ้x
xภ้ ย
รัฐภาคีจะต้องปฏิบตต่อผ้ล
มาตรา 13
xxx xxxxxxxxxxxxxxxxxx xxxxxxxxxxx
ีภ้ ยอย่างเป็นคณเท่าที่เป็นไปได้ และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องไม่ด้อยกว่าที่ปฏิบติต่อคนต่างด้าว
อื่นๆ ในสถานการณ์xxxxเดียวกน ในกรณีที่เกี่ยวกบการได้มาซงึ่ สงั หารมทรพย์ิ และอสงั หารมทรพย์ัิ และxxxxxxxเกี่ิ ยวของ้
รวมไปxxxxxxท˚าสญญาเช่า และสญญาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกบสงั หาริมทรัพย์และอสงั หาริมxxxxxx
xxx
ีภ้ ยจะต้องได้รับความค้ม
มาตรา 14 xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxอตสาหกรรม
ครองในทรัพย์สินทางอตสาหกรรม xxxxสิ่งxxxxxxxx งานออกแบบหรือ แบบจ˚าxxx
เครื่องหมายการค้า ชื่อการค้า รวมถึงxxxxxในงานวรรณคดี ศิลปะ วิทยศาสตร์ ในรัฐที่ผ้xxภ้ ยมีถิ่นพ˚านกประจ˚า เสมือน
บคคลผ้มีสญชาตินน้ พึงได้รับความค้มครอง หากเป็นกรณีในอาณาเขตรัฐภาคีอื่น ผ้ล เสมือนบคคลผ้มีสญชาติของรัฐที่บคคลนน้ มีถิ่นพ˚านกประจ˚า
มาตรา 15 xxxxxในการสมาคม
ีภ้ ยนน้ จะต้องได้รับความค้มครอง
ในการเข้าร่วมสมาคมxxxxxxเกี่ยวข้องกบการเมืองและxxxxxxxxxก˚าไร รวมถึงสหภาพแรงงาน ให้รัฐภาคีปฏิบติต่อผ้xxภ้ ยที่
อยใู นอาณาเขตของรัฐตนโดยชอบด้วยกฎหมาย อย่างเป็นคณที่สดเสมือนที่ปฏิบติต่อบค สถานการณ์เดียวกนั
คลสญชาติของรัฐตนใน
1. ผ้ล
2. ผ้ล
มาตรา 16 การเข้าสกระบวนการศาล
ีภ้ ยต้องxxxxxxเข้าถึงกระบวนการศาลยติธรรม ในอาณาเขตของรัฐภาคีทกรัฐ
ีภ้ ยต้องได้รับการปฏิบติเสมือนบคคลสญชาติของรัฐภาคี ในกระบวนการการน˚าเรื่องขึนสศ
าล รวมถงึ การได้รับการ
ช่วยเหลือทางกฎหมาย และการได้รับการยกเว้นจากการตดสินโดยไม่มีหลกประกน
3. ในอาณาเขตรัฐอื่นที่ผ้x
xภ้ ยมิได้ถิ่นพ˚านก
ผ้x
xภ้ ยยงั xxต้องได้รับการปฏิบติเสมือนบคคลสญชาติของรัฐที่ผ้x
xภ้ ยนน้ พ˚านก
ประจ˚าอยู่ ในกรณีที่เกี่ยวข้องตามวรรคสอง
1. รัฐภาคีต้องปฏิบติต่อผ้ล
บทท่ีสาม
การประกอบอาชีพเพื่อหารายได้
มาตรา 17 การรับจ้างเพื่อค่าแรง
ีภ้ ยที่พ˚านกอยใู นอาณาเขตรัฐตนโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างเป็นคณที่สดเสมือนกบที่ปฏิบติต่อ
บคคลสญชาติรัฐของตนในสถานการณ์xxxxเดียวกน ในเรองื่ ที่เกี่ยวกบสิทธใิ นการประกอบอาชีพรบจ้ั างเพื่อค่าแรง
2. ในกรณีใดก็ตาม มิให้ใช้มาตรการจ˚ากดต่อคนต่างด้าว หรือจ˚ากดการxxx xงานคนต่างดา้ วเขา้ ท˚างานเพื่อxxxxxx
ตลาดแรงงานแห่งชาติ ต่อผ้ลู ภยที่เข้าตามเงื่อนไขต่อไปนี
ีภ้ ย
xxxxxxรับการยกเว้นในข้อนีแล้วตงั ้ แต่วนที่อนส
ญญานีมีผลบงั คบใช้ต่อรัฐภาคี หรือต่อผ้xx
(a) ได้พ˚านกอยใู่ นรัฐนน้ มาครบสามปีแล้ว
(b) มีคxxxxxxxบค็ คลสญชาติของรัฐที่พ˚านกอยู่ ทงั ้ นี ้ ผูลภี้ ้ ยไม่xxxxxxอา้ งประโยชน์จากบทบญxxxxxxไ้ ด้หากได้ทอดทิง
คสมรสแล้ว
(c) มีบตรที่มีสญชาติของรัฐที่พ˚านกอย่
3. รัฐภาคีต้องค˚านึงอย่างxxxxxต่อการปรับxxxxxของผ้x
xภ้ ยที่เกี่ยวกบการรับจ้างเพื่อค่าแรงให้เท่าเทียมกบบค
คลสญชาติของ
รัฐตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส˚าหxxxxxx
ีภ้ ยที่เข้ามาในอาณาเขตรัฐตนผ่านโครงการรับสมครแรงงานงานหรือคนเข้าเมือง
มาตรา 18 การประกอบธุรกิจส่วนตวั
รัฐภาคีจะต้องปฏิบตต่อผ้x
xภ้ ยที่อยใู นอาณาเขตของรัฐตนโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างเป็นคณ
เท่าที่เป็นได้ และไม่ว่า
อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ด้อยกว่าที่ปฏิบติต่อคนต่างด้าวอื่นๆ ในสถานการณ์xxxxเดียวกน ในกรณที่เกี่ี ยวกบสิทธใิ นการ
ประกอบเกษตรกรรม อตสาหกรม หตถกรรม การพาณิชย์ และการจด
มาตรา 19 xxxxxxxxxxxx
ตงั ้ บริษัทการค้าหรืออตสาหกรรมของตน
1. รัฐภาคีแต่ละรัฐจะต้องปฏิบติอย่างเป็นคณที่สดต่อผ้x
xภ้ ยที่พ˚านก
อยใู นอาณาเขตของรัฐตนโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่มีวฒ
xxxxxxรับการยอมรับจากเจ้าหน้าที่ผ้มีอ˚านาจรัฐของรัฐนนั ที่ตองการประกอบวิชา้ ชีพxxxxx และไม่วา่ อย่างไรก็ตาม ต้องไม่
ด้อยกว่าที่ปฏิบติต่อคนต่างด้าวอื่นๆ ในสถานการณ์xxxxเดียวกนั
2. รัฐภาคีต้องxxxxยามอย่างยิ่งยวดและต่อเนื่องตามที่สอดคล้องกบกฎหมายและxxxxxxxนญ
ของรัฐตน เพื่อให้ผ้x
xภ้ ยนน้ ได้
ตงั ้ xxxxxxxในอาณาเขตดินxxxทตนมีความสมพน ของรัฐตน
ธ์ระหวา่ งประเทศในการรับผิดชอบดแล นอกเหนอจากอาณาเขตหลก
บทxxxxxx
xxxxดการ
มาตรา 20
การxxxxxxx
ในกรณีที่รัฐมีระบบการxxxxxxxทปรับใช้กบประชากรทวั่ ไปซงึ่ ควบคมการจ˚าหนา่ ยผลิตxxฑ์xxxxxxxxxxทวั่ ไป ให้ผ้ล ได้รับการปฏิบติเสมือนกบที่ปฏิบติต่อบคคลสญชาติรัฐของตน
มาตรา 21 การเคหะ
ีภ้ ย
รัฐภาคีจะต้องปฏิบตต่อผ้x
xภ้ ยที่อยใู นอาณาเขตของรัฐตนโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างเป็นคณ
เท่าที่เป็นได้ และไม่ว่า
อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ด้อยกว่าที่ปฏิบติต่อคนต่างด้าวอื่นๆ ในสถานการณ์xxxxเดียวกน ในกรณที่เกี่ี ยวกบการเคหะ ตาม
มาตรการ xxxxxxxข้อบงั คบ
หรือการควบคมของเจ้าหน้าที่รัฐ
มาตรา 22
การศกษาภาครฐั
1. ในการเข้าศก
ษาในระดบประถมศกษา รัฐภาคจะต้องปฏิบติต่อผ้x
xภ้ ย
เสมือนกบที่ปฏิบติต่อบคคลสญชาติรัฐของตน
2. ในกรณีที่เป็นการศกษานอกเหนือจากระดบประถมศก
ษา รัฐภาคีจะต้องปฏิบตต่อผ้x
xภ้ ยในทางที่เป็นคณเท่าที่จะเป็นไป
ได้ และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องไม่ด้อยกว่าที่ปฏิบตต่อคนต่างด้าวอื่นๆ ในสถานการณ์xxxxเดียวกน โดยเฉพาะการเขา้ xxx
xxxศกษา การรองรับประกาศนียบตรที่ออกโดยโรงเรยนต่างี ประเทศ ใบประกาศนียบตร และปรญญาบิ ตร การลดหย่อน
ค่าธรรมเนียมทางการศกษา และการให้ทนการศกษา
มาตรา 23
รัฐภาคีจะต้องปฏิบตต่อผ้ล
การxxxxxxทกข์สาธารณะ
ีภ้ ยที่อยใู นอาณาเขตของรัฐตนโดยชอบด้วยกฎหมายในเรื่องที่เกี่ยวข้องกบการxxxxxxทกข์
สาธารณะ และการให้ความชว่ ยเหลือ เสมือนกบที่ปฏิบติต่อบคคลสญชาติรัฐของตน
มาตรา 24 กฎหมายว่าด้วยแรงงานและประกนสงั คม
1. รัฐภาคีจะต้องปฏิบตต่อผ้xxภ้ ยที่อยใู นอาณาเขตของรฐตั นโดยชอบด้วยกฎหมาย เสมือนกบที่ปฏิบติต่อบคคลสญชาติรัฐ
ของตน ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกบประเด็นต่างๆต่อไปนี ้
(a) ค่าตอบแทน ซงึ่ รวมไปถึงเบียเลีย้ งครอบครัวหากเบียxxxx xนน้ เป็นองค์ประกอบหนงึ่ ของค่าตอบแทน ชวั่ โมงท˚าxxx
xxxบริหารการท˚างานล่วงเวลา การลาพก
โดยที่ยงั ได้รับค่าxxxx ข้อห้ามในการทา˚ งานที่บ้าน อายข
นั ้ ต˚่าในการxxxxxxx
xxxฝึกงาน และการฝึกอบรม งานส˚าหรับผ้หญิงและงานส˚าหรับผ้เู ยาว์ และการได้รับxxxxxประโยชน์จากการเจรจา
ต่อรอง xxxxxxxxxxxประเด็นเหล่านีอยภ ควบคมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายxxxxxx
ายใต้การxxxxxxของกฎหมายและxxxxxxxข้อบงั คบ
หรือ ขึนอยก
บการ
(b) ประกนสงั คม (บทบญxxxxทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกบการบาดเจ็บจากการประกอบอาชีพ โรคต่างๆอนxxxจากการ
ประกอบอาชีพ การตงั ้ ครรภ์ การเจ็บป่ วย การทพพลภาพ ชราภาพ การว่างงาน ภาระหน้าที่ต่อครอบครัว และการ
จดการชวั่ คราวอื่นๆ ที่ประกนสงั คมให้การค้มครอง ตามที่กฎหมายภายในรัฐก˚าหนด) ทงั ้ นี ้ ขึนอยก ต่อไปนี ้
บข้อจ˚ากดตา่ งๆ
(i) กรณีที่มีการจดการอื่นๆที่เหมาะสม เพื่อที่จะรักษาสภาพของxxxxxต่างๆxxxxxxมา หรือ xxxxxใดๆ ในกระบวนการนนั
(ii) กรณีที่กฎหมายภายในของรัฐ หรือกฎxxxxxxxของรัฐที่พา˚ นกอยนนั มีการจดการพิเศษที่เกี่ยวของก้ บxxxxxxxxxx
หรือ บางส่วนของxxxxxxxxxx ซงึ่ การช˚าระเงินทงั ้ หมดมาจากกองทนสาธารณะ และการจดการพิเศษที่เกี่ยวข้องกบ
xxxxxxxxx xxxxจ่ายให้บคคลxxxxxxxxxxxxท˚าตามเงื่อนไขที่ก˚าหนดในการให้เงินสนบสนน ทวั่ ไป
เพื่อให้ได้รับเงนบ˚านาญโดยปกต
2. xxxxxในการได้รับการชดเชยจากการเสียชีวิตของผ้x
xภ้ ยโดยมีเหตม
าจากการบาดเจ็บระหว่างประกอบอาชีพ หรือ จากโรคที่
เกิดจากการประกอบอาชีพ ต้องไม่xxxxxxxxกระทบด้วยเหตที่ผ้xx xบประโยชน์จากxxxxxนน้ อาศยอยนอกอาณาเขตรัฐภาค
3. รัฐภาคีต้องxxxxxxxxxxxxxxแก่ผ้x
xภ้ ย
ในเรื่องของการรักษาไว้ซงึ่ xxxxxxxxได้จากประกนสงั คม หรือxxxxxที่พึงมีในระหว่างรอ
รับการท˚าประกนสงั คม ในกรณีที่มีการตกลงท˚าสญญา หรืออาจตกลงท˚าสญญาในxxxxxระหว่างผ้x
xภ้ ย
กบรัฐ โดย
เงื่อนไขใดๆที่ปรับใช้ต้องไม่ต่างจากที่ปรับใช้กบบค
คลผ้ถ
ือสญชาติของรัฐภาคีของสญญานน้ ๆ
4. รัฐภาคีต้องให้การพิจารณาอย่างxxxxxxxxจะเอือประโยชน์ใดๆ ที่เกิดจากสญญาที่คล้ายกนเท่าที่จะเปนไปxxxx ซงึ่ สญญาที่
คล้ายกน
ดงั กล่าวxxxxxxบงั คบ
ใช้ระหว่างรัฐภาคีและรัฐxxxxxxได้เป็นภาคีในเวลาใดก็ได้
1. เมื่อใดที่การใช้xxxxxอนพงึ มีของผ้ล
บทท่ีห้า
มาตรการในการดาเนินการ
มาตรา 25 การช่วยเหลือในการด˚าเนินการ
ีภ้ ยต้องอาศยความชว่ ยเหลือของเจ้าหน้าที่จากรัฐที่ผ้x
xภ้ ยไม่xxxxxxเข้าถึงความ
ช่วยเหลือได้ รัฐภาคีแห่งxxxxxxxxxxผ้x
xภ้ ยพ˚านกอยู่ ต้องจด
ให้หนว่ ยงานของรัฐตน หรือหน่วยงานระหว่างประเทศ ให้การ
ช่วยเหลือต่อผ้xxภ้ ยบคคลนนั
2. หน่วยงานตามวรรคหนึ่ง ต้องส่งมอบหรือจดการใดๆเพื่อส่งมอบเอกสารหรือหนงั สือรับรองตามอ˚านาจหน้าที่ตนต่อผ้xxภ้ ย
เสมือนกบ
ที่คนต่างด้าวอื่นๆได้รับการจด
การช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่แห่งรัฐของสญชาติตน
3. เอกสารหรือหนงั สือรับรองใดๆxxxxxxส่งมอบนนั มีสถานะเปน็ เอกสารทางการที่ใหแก่ค้ นต่างด้าวโดยหรอื ผ่านหน่วยงาน
ระหว่างประเทศ และให้ใช้เป็นหลกฐานที่มีการรับรองใช้แทนเนื่องจากไม่มเี อกสารพิสจน์อื่น ในกรณีที่มีxxxxxxx วหาวา เอกสารดงั กล่าวไม่xxxxxxใช้ได้
4. การคิดค่าธรรมเนียมในการบริการxxxxว่าxxxxxxท˚าได้ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษต่อบคคผย้ ากไร้ อย่างไรก็ตามค่าธรรมเนียม
นน้ ต้องเทียบเท่ากบ
ที่เรียกเก็บในการด˚าเนินการให้กบ
บคคลสญชาติรัฐของตน
5. บทบญxxxxในมาตรานีต้ ้องตีความโดยปราศจากxxxx เมื่อปรับใช้ร่วมกบ
มาตรา 27 และ 28 ของอนส
ญญาxxxxx
มาตรา 26 เสรีภาพในการเคลื่อนที่
รัฐภาคีจะต้องรับรองxxxxxในการxxxxxxxxxพ˚านกและเสรีภาพในการเคลื่อนที่ภายในอาณาเขตรัฐต่อผ้x
xภ้ ยที่อยใู นอาณา
เขตของรัฐตนโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามกฎxxxxxxxใดๆที่ปรับใช้ต่อคนต่างด้าวในสถานการณ์xxxxเดียวกน
มาตรา 27 เอกสารแสดงตวั บคคล
รัฐภาคีต้องออกเอกสารแสดงตวั บคคลแก่ผ้ล
1. รัฐภาคีต้องออกเอกสารเดินทางเพื่อใช้ในวตั
ีภ้ ยทกคนในอาณาเขตรัฐที่ไม่มีเอกสารเดินทางที่ถกู
มาตรา 28 เอกสารเดินทาง
ถxxxxxxxการเดินทางออกนอกอาณาเขตรัฐ ให้แก่ผ้ล
ต้อง
ภี ้ ยที่พกอยใู นอาณาเขต
ของรัฐตนโดยชอบด้วยกฎหมาย นอกเสียจากจะมีเหตผลจ˚าเปน็ ดา้ นความมนxxของประเทศหรอื ความสงบเรยบี ร้อยของ
ประชาชน ในการด˚าเนินการออกเอกสารเหล่านีใ้ ห้ปรับใช้ข้อก˚าหนดต่อท้ายอนสญญาxxxxx xxฐภาคั ีxxxxxxออกเอกสาร
เดินทางให้แก่ผ้x
xภ้ ยคนอื่นๆในอาณาเขตแห่งรัฐได้โดยต้องพิจารณาอย่างxxxxxxxเพื่อการออกเอกสารเดินทางให้แก่ผ้x
xภ้ ย
ในอาณาเขตรัฐxxxxxxxxxxxxขอเอกสารเดินทางจากประเทศที่ตนมีxxxxxxxอยตามกฎหมายได้
2. ให้รัฐภาคีรับรองและด˚าเนินการต่อเอกสารการเดินทางที่ออกให้ผ้ล เสมือนว่าเป็นเอกสารเดินทางxxxxxxออกภายใต้มาตรานี ้
ีภ้ ยภายใต้กรรมสารระหวา่ งประเทศอื่นๆก่อนหน้านี
1. รัฐภาคีจะต้องไม่ก˚าหนดให้ผ้x
xภ้ ย
มาตรา 29 ค่าธรรมเนียมการคลงั
มีหน้าที่ เสียคา่ ธรรมเนียม หรือภาษีไม่วา่ จะเป็นประเภทใด นอกเหนือหรือเกินกว่าxxxxxx
มีการก˚าหนดให้บคคลสญชาติรัฐของตนต้องจ่าย ภายใต้สถานการณ์ที่คล้ายกนั
2. ไม่มีข้อก˚าหนดใดในวรรคข้างต้นห้ามมิให้มีการปรับใช้กฎหมายและกฎxxxxxxxต่างๆ ซงึ่ วา่ ด้วยคา่ xxxxxxxxxxxxเกี่ยวข้อง
กบการออกเอกสารทางราชการให้แก่คนต่างด้าว รวมไปถึง เอกสารแสดงตวั ตน ต่อผ้ล
มาตรา 30 การโอนทรัพย์สิน
ีภ้ ย
1. รัฐภาคีต้องอนญาตให้ผ้x
xภ้ ยxxxxxxโอนทรัพย์สินxxxxxxน˚าเข้ามาภายในอาณาเขตแห่งรัฐตนออกไปยงั ประเทศที่ผ้x
xภ้ ย
ได้รับเลือกให้ไปตงั ้ xxxxxxxใหม่ โดยด˚าเนินการให้สอดคล้องต่อการบงั คบใช้กฎหมายและกฎxxxxxxxภายใน
2. รัฐภาคีต้องพิจารณาค˚าร้องขอจากผ้ล ได้รับเลือกให้ไปตงั ้ xxxxxxxใหม่
ีภ้ ย
อย่างxxxxxxx ในการโอนทรัพย์สินที่จ˚าเป็นไปในประเทศใดๆก็ตามที่ผ้ล
มาตรา 31
ีภ้ ยนนั
ผ้xxภ้ ยที่อยใู นประเทศที่ตนลภี ้ ยอย่างมิชอบดว้ ยกฎหมาย
1. รัฐภาคีต้องไม่ก˚าหนดโทษตามกฎหมาย ด้วยเหตการเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือการพ˚านกอยอย่างผิดกฎหมาย ต่อผ้xxภ้ ยที่
เดินทางออกมาโดยตรงจากxxxxxxxxxxชีวตและเสรีภาพของตนได้รับการคกคาม ตามxxxxxxxxบญxxxxไวใ้ นมาตรา 1 ของ
อนส
ญญานี ้ และเข้ามาหรืออยใู่ นอาณาเขตรัฐของรัฐภาคีโดยxxxxxxรับอนญาต หากว่าผ้x
xภ้ ยนนั ้ ได้รายงานตวั ต่อเจ้าหน้าที่
รัฐทนที และแสดงเหตผลอนxxxxxxจะต้องเขาเ้ มืองหรออาศื ยอยใู่ นเมืองอย่างผิดกฎหมาย
2. รัฐภาคีต้องไม่บงั คบ
ใช้ข้อจ˚ากด
ในการเคลื่อนที่ของผ้x
xภ้ ย
นอกเสียจากจะมีความจ˚าเป็น และการจ˚ากด
การเคลื่อนที่
ดงั กล่าวxxxxxxบงั คบ
ใช้ได้จนกว่าสถานะของผ้x
xภ้ ย
จะได้รับการรับรองในรัฐนนั ้ หรือจนกวา่ ผ้x
xภ้ ย
จะได้รับxxxxxญ
าตให้
เดินทางเข้าไปอีกประเทศหนงึ่ เท่านนั รฐภาคั ีต้องจดสรรเวลาในระยะxxxxxxxxxxxxx และอ˚านวยความสะดวกเพื่อใหผxxx x
ภยผ้นน้ ได้รบกาั รอนญาตใหเ้ ดินทางเขา้ ไปอีกประเทศหนึ่ง
1. รัฐภาคีต้องไม่ขบไล่ผ้ล
มาตรา 32
การขบไล่ออกนอกประเทศ
ีภ้ ยที่อยใู นอาณาเขตของรัฐตนโดยชอบด้วยกฎหมายออกจากอาณาเขตรัฐ เว้นแต่จะมีเหตด
้าน
ความมนxxของชาติ หรือ ความสงบสขของประชาชน
2. การขบไล่ผ้x
xภ้ ย
ดงั กล่าว จะท˚าได้ต่อเมื่อมีค˚าตดสินตามxxxxxxxxxxxxชอบด้วยกฎหมายเท่านนั
ผ้x
xภ้ ยต้องได้รับอนญาต
ให้ยื่นหลกฐานเพื่อยืนยนความสจริตของตน อทธรณ์ และมีผ้แทนทางกฎหมายเพื่อวตถxxxxxxxในการใหกา้ รต่อ
หน่วยงานผ้มีอ˚านาจ หรือผ้xxxxxxรับมอบหมายจากหน่วยงานผ้มีอ˚านาจ เว้นแต่จะมีเหตบ เข้ามาเกี่ยวข้อง
งั คบ
ด้านความมนxxของประเทศ
3. รัฐภาคีต้องจดสรรระยะเวลาที่เหมาะสมให้แก่ผ้xxภ้ ยในจดการเพื่อเขา้ ประเทศอื่นอย่างถกกฎหมาย ในระหว่างหวง้
ดงั กล่าว รัฐภาคีมีxxxxxในการปรับใช้มาตราการภายในตามที่จ˚าเป็น
มาตรา 33 การห้ามมิให้ขบไล่หรือส่งกลบั
(การผลกดนกลบ)
1. รัฐภาคีไม่xxxxxxขบไล่ หรือส่งตวั ผ้x
xภ้ ยกลบ
(ผลกดนกลบ
) ไม่วา่ จะด้วยวิธีใดก็ตาม ไปยงั พรมแดนแห่งxxxxxxxxxxชีวต
หรือเสรีภาพของผ้x
xภ้ ยจะตกอยภ่
ายใต้ภย
คกคาม เพราะเหตแห่ง เชือชาติ ศาสนา สญชาติ สมาชิกภาพของกลม
ทาง
สงั คม หรือความคิดเห็นทางการเมือง
2. xxxxxxxxxxของบทบญxxxxข้อนี ้ไม่xxxxxxใช้อ้างโดยผ้x
xภ้ ย
ที่มีเหตอ
นxxxxxเชื่อได้ว่าเป็นภยต่อความความมนxxของ
รัฐที่ผ้x
xภ้ ยนน้ พ˚านกอยู่ หรือ ผ้xxxxxxรับการตดสินเป็นที่สินสดว่าได้ก่ออาชญากรรมxxxxxxxxxxเป็นภย
ต่อประชาคมแห่งรัฐนนั
มาตรา 34 การเข้าเป็นพลเมือง
รัฐภาคีต้องกระท˚าการใดๆเพื่ออ˚านวยความสะดวกต่อการปรับตวั เข้ากบสงั คมและการเข้าเป็นพลเมืองของผ้x
xภ้ ย
โดยเฉพาะในการท˚าให้กระบวนการการเข้าเป็นพลเมืองนน้ รวดเร็วขึน กระบวนการดงั กล่าว เท่าที่จะท˚าได้
และต้องลดคา่ ธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายของ
บทท่ีหก
บทต่อเน่ืองและxxxxxxxxxx
มาตรา 35 การให้ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่รัฐต่อองคการสหประชาชาติ
1. รัฐภาคีต้องให้ความร่วมมือกบสา˚ นกงานxxxxxxxxxxxxxx
ีภ้ ย
สหประชาชาติ หรือหน่วยงานอื่นภายใต้องคการ
xxxxxxxxxxxxxxรับช่วงต่อภารกิจ ในการด˚าเนินงานให้ลล่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตองอ˚า้ นวยความสะดวกในการท˚าหxxx xxx
ตามอ˚านาจของส˚านกงานฯ ในการตรวจสอบการปรับใช้บทบญ
xxxxแห่งอนส
ญญาxxxxx
2. เพื่อให้ส˚านกงานxxxxxxxxxxxxxx
ีภ้ ย
สหประชาชาติ หรือหน่วยงานอื่นภายใต้xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxรับช่วงต่อภารกิจ
xxxxxxจดท˚ารายงานเพื่อน˚าเสนอแก่หน่วยงานที่มีอ˚านาจขององค์การสหประชาชาติ รัฐภาคีต้องแสดงข้อเท็จจริง และ
ข้อมลสถิติ ในรปแบบที่เู หมาะสมตามที่มีการร้องขอ ในประเด็นต่อไปนี
(a) สถานการณ์ทวั่ ไปของผ้xxภ้ ย
(b) การบงั คบใช้อนสญญาxxxxx x และ
(c) กฎหมาย xxxxxxxข้อบงั คบั บงั คบใช้ต่อไปในภายหน้า
และ พระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องกบผ้x
xภ้ ย
ซงึ่ ได้มีการบงั คบ
ใช้ ณ ปัจจบ
ัน หรือ จะมีการ
ข้อมล
มาตรา 36 ว่าด้วยการออกกฎหมายภายในประเทศ
รัฐภาคีต้องน˚าเสนอกฎหมายและxxxxxxxข้อบงั คบซงึ่ รัฐตนได้บงั คบใช้ต่อเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อรับประกนการปรับ
ใช้อนส
ญญาxxxxx
มาตรา 37
ว่าด้วยความสมพนธ์ต่ออนสญญาอื่นๆ xxxก่อนหนา้
ให้ใช้อนสญญานีแทนที่ความตกลงระหว่างประเทศ ระหวา่ งรฐภาั คี ภายใต้ขอตก้ ลงที่ท˚าขึนเมื่อวนที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ.
19227 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1924 12 พฤษภาคม ค.ศ. 19268 30 มิถนายน ค.ศ. 19289 และ 30 มิถนายน ค.ศ. 1935
ภายใต้อนส
ญญา ลงวนที่ 28 ตล
าคม ค.ศ. 193310 และ 10 กมภาพนธ์ ค.ศ. 193811 พิธีสาร ลงวนที่ 14 กนยายน ค.ศ.
193912 และ ข้อตกลง ลงวนที่ 15 ตลาคม ค.ศ. 194613 ทงั ้ นี ้ โดยไม่ใหมีผลกระทบต่อ้ มาตรา 28 วรรคสอง ของ
อนสญญาxxxxx
บทท่ีเจด็
บทส่งท้าย
มาตรา 38 การระงบข้อพิพาท
ข้อพิพาทใดๆ ระหว่างรัฐภาคีแห่งอนส
ญญาxxxxx x ที่เกี่ยวข้องกบ
การตีความ หรือการปรับใช้ ซงึ่ ไม่xxxxxxระงบ
ด้วย
วิธีการอื่นได้ ให้รัฐภาคีคกรณีแห่งข้อพิพาทดงั กล่าว ร้องขอต่อศาลยติธรรมระหวา่ งประเทศเพื่อพิจารณาต่อไป
มาตรา 39
การลงนาม การให้สตยาบน และการภาคxxxวุ ต
1. อนสญญาฉบบนเี ้ ปดใิ หมีก้ ารลงนาม ณ กรงเุ จนีวา ในวนที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ.1951 โดยหลงั จากนน้ ใหเ้ ก็บรกxx xไว้กบ
เลขาธิการสหประชาชาติ และเปิดให้มีการลงนาม ณ องคการสหประชาชาติ ส˚านกงานยxx รป ตงั ้ แต่วนที่ 28 กรกฎาคม ถึง
31 สิงหาคม ค.ศ.1951 และเปิดให้มีการลงนามอีกครงั กนยายน ค.ศ 1951 ถึงวนที่ 31 ธันวาคม ค.ศ.1952
ณ องค์การสหประชาชาติ ส˚านกงานใหญ่ ตงั ้ แต่วนที่ 17
7 League of Nations, Treaty Series, Vol. XIII, p. 237; Vol. XV, p. 322; Vol. XIX, p. 284; Vol. XXIV, p. 178; Vol. XXVII, p. 420, Vol. XLV, p. 103.
8 League of Nations, Treaty Series, Vol. LXXXIX, p. 47.
9 League of Nations, Treaty Series, Vol. LXXXIX, pp. 53 and 63; Vol. XCIII, p. 377; Vol. CCIV, p. 445, Vol. CCV, p. 193.
10 League of Nations, Treaty Series, Vol. CLIX, p. 199; Vol. CLXXII, p.432; Vol. CLXXXI, p.429; Vol. CCIV, p.464, Vol. CCV, p.214.
11 League of Nations, Treaty Series, Vol. CXCII, p. 59; Vol. CC, p. 572, Vol. CCV, p. 218.
12 League of Nations, Treaty Series, Vol. CXCVIII, p. 141, Vol. CCV, p. 219.
13 United Nations, Treaty Series, Vol. 11, p. 73; Vol. 76, p. 244; Vol. 82, p. 328; Vol. 91, p. 369, Vol. 97, p. 314.
2. อนสญญาฉบบนเี ้ ปดใิ หมีก้ ารลงนามโดยตวั แทนจากรัฐทกรฐที่เั ปนสxxx xxกองค์การสหประชาชาติ และตวั แทนจากรฐอื่นๆั
xxxxxxรับxxxxเข้าร่วมการการประชม
ผ้มีอ˚านาจเต็มว่าด้วยสถานภาพผ้x
xภ้ ยและบคคลไร้รัฐ หรือผ้xxxxxxรับจดหมายxxxxลง
นามจากสมชชาใหญ่สหประชาชาติ อนส สหประชาชาติ
ญญานีจ้ ะต้องได้รับการสตยาบน
และสตยาบน
สารจะถก
รักษาไว้โดยเลขาธิการ
3. อนสญญาxxxxxเ้ ปดใิ หภาคxxx xวุ ติโดยรัฐxxxxxถ้ กระบใุ นวรรคสองของมาตรานี ้ ตงั ้ แต่วนที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1951 โดย
การภาคxxxวุ ติจะมีผลบงั คบ
เมื่อได้เมื่อมีการส่งมอบภาคxxxวุ ติสารให้กบ
เลขาธิการสหประชาชาติ
มาตรา 40 อาณาเขตแห่งการปรับใช้อนสญญา
1. ณ เวลาที่ รัฐได้ลงนาม สตยาบน
หรือภาคxxxวุ ติ รัฐxxxxxxประกาศให้มีการปรับใช้อนส
ญญาโดยครอบคลม
อาณาเขต
ดินxxxทงั ้ หมดหรือบางส่วนที่รัฐตนมีความสมพนธระหวา์ ่ งประเทศในการรบผิดชั อบดแล โดยการประกาศดงั กล่าวจะม
ผลเมื่ออนสญญาฉบบนไี ้ ด้ถกบงั คบใช้ภายในรัฐนนั
2. การขยายอาณาเขตการปรับใช้อนสญญาxxxxx x xxxxxxท˚าได้โดยการแจ้งเลขาธxxx รสหประชาชาติ และจะมีผลใช้xxxx xxx
สิบวน
หลงั จากที่เลขาธิการxxxxxxxxxxxxxxรับแถลงการณ์แจ้งความxxxxxxx หรือหลงั จากวนที่อนส
ญญาxxxxxไ้ ด้ถก
บงั คบใช้ในรัฐผ้ออกแถลงการณ์ โดยให้ยึดเหตการณ์ที่เกิดขึน้ ภายหลงั เป็นหลก
3. อาณาเขตใดกตามที่อนส
ญญาxxxxxxx xxxxxครอบคลม
ณ เวลาที่ลงนาม สตยาบน
หรือภาคxxxวุ ติ รัฐนน้ ๆควรพิจารณา
ถึงความเป็นไปได้ในการด˚าเนินการตามจ˚าเป็น เพื่อปรับใช้อนสญญาฉบบนใี ้ หครอบคลม้ อาณาเขตแห่งรฐตนั ทงั ้ นี ้ หากมี
เหตผ
ลความจา˚ เป็นในบริบททางxxxxxxxนญเข้ามาเกี่ยวข้อง ให้ขึนอยก
บความสมครใจยินยอมจากรัฐบาลแห่งรัฐเจ้าของ
อาณาเขตนนั
มาตรา 41 สหพนธรัฐ
ในกรณีของรัฐที่มีการxxxxxxแบบสหพนธรัฐ หรือรัฐที่ไม่ใช่xxxxxx ให้ปรับใช้บทบญญัติดงั ต่อไปนี
(a) มาตราใดๆแห่งอนส สหพนธรัฐมีต่ออนสุ
ญญาxxxxx x ที่อยใู ต้เขตอ˚านาจกฎหมายของหน่วยงานนิติบญxxxxของสหพน ญญาxxxxxเ้ ทียบเท่ากบพนธกรณีของรัฐภาคที่ไม่ใช่สหพนธรัฐ
ธรัฐ ให้พนธกรณีที่
(b) มาตราใดๆแห่งอนส
ญญาxxxxx x ที่อยใู ต้เขตอ˚านาจกฎหมายของมลรัฐ จงั หวด
หรือxxxx xxxเป็นเขตการxxxxxxxxx
xxxxxxผกพนในการด˚าเนินการทางกฎหมายภายใต้ระบบxxxxxxxนญแห่งสหพนธรัฐ ให้รัฐบาลสหพนธรัฐแจ้งมาตรา
เหล่านน้ โดยจด
ท˚าข้อแนะน˚าให้พิจารณาอนเุ คราะห์ ไปยงั เจ้าหน้าที่แห่งมลรัฐ จงั หวด
หรือ xxxx ตามความ
เหมาะสมและโดยเร็วที่สดเท่าที่จะเป็นไปได้
(c) เมื่อรัฐภาคีอื่นๆได้ท˚าการร้องขอผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ ให้สหพนธรัฐผู้เป็นภาคีส่งแถลงการณ์ว่าด้วยกฎหมาย
และหลกปฏิบติของสหพนธรัฐ และ มลรัฐของตน ในเรื่องที่เกี่ยวกบบทบญxxxxเฉพาะเรื่องแห่งอนส ถึงขอบเขตของผลบงั คบใช้ทางกฎหมาย หรือการด˚าเนินการอื่นๆ
ญญานี ้ อน
แสดง
1. ณ เวลาที่ลงนาม สตยาบน
มาตรา 42 การตงั ้ ข้อสงวน
หรือภาคxxxวุ ติ รัฐxxxxxxตงั ้ ข้อสงวนต่อมาตราใดๆแห่งอนส
ญญานีก็ได้ ยกเว้นมาตรา 1, 3,
4, 16 (1) และมาตรา 33 ถึง 46
2. รัฐที่ตงั ้ ข้อสงวนตามวรรคหนึ่งของมาตรานี ้ xxxxxxถอนข้อสงวนได้ โดยแจ้งความxxxxxxxไปยงั เลขาธิการสหประชาชาติ
มาตรา 43 การมีผลบงั คบั
ใช้
1. อนส
ญญาxxxxxมีผลบงั คบใช้ เก้าสิบวน
นบหลงั จากวนxxxxxxมีการส่งมอบสตยาบน
สารหรือภาคxxxวุ ติสารเป็นครงั ้ ที่หก
2. รัฐที่สตยาบนหรือภาคxxxวุ ติอนสญญาหลงั จากxxxxxxมีการส่งมอบสตยาบนสารหรอxxx คxxxวุ ติสารเปxxxxxx x xxxหก ให้
อนสญญานีมีผลบงั คบใช้เก้าสิบวนนบหลงั จากวนxxxxxมีก้ ารส่งมอบสตยาบนสารหรอxxx คxxxวุ ติสารของรฐตั น
1. รัฐภาคีอาจถอนภาคีในอนส
มาตรา 44
การถอนภาคี
ญญานีเ้ มื่อใดก็ได้ โดยแจ้งไปยงั เลขาธิการสหประชาติ
2. การถอนภาคีจะมีผลต่อรัฐภาคเี มื่อเวลาผ่านไปหนึ่งปีนบจากวนที่เลขาธิการxxxxxxxxxxxxxxรับหนงั สือแจ้งถอนภาคี
3. รัฐใดxxxxxxท˚าการประกาศหรือแจ้งตามมาตรา 40 อาจประกาศโดยแจ้งไปยงั เลขาธิการสหประชาชาติเมื่อใดในภายหลงั ก็
ได้ ว่าให้ระงบการขยายอ˚านาจบังคบแห่งอนส เลขาธิการได้รับการแจ้งดงั กล่าว
ญญาxxxxxไ้ ปยงั เขตอ˚านาจที่วา
เมื่อเวลาหนึ่งปีผ่านไปนบจากวนที่
1. รัฐภาคีxxxxxxร้องขอให้มีการปรับแก้อนส
มาตรา 45
บทปรับแก้
ญญาxxxxx x ณ เวลาใดก็ได้ โดยแจ้งไปยงั เลขาธิการสหประชาชาติ
2. ให้สมชชาใหญ่สหประชาชาติเป็นผ้ก
˚าหนดขน้ ตอนการส่งค˚าร้องดงั กล่าวตามจ˚าเป็น
มาตรา 46
แถลงการณ์โดยเลขาธิการสหประชาชาติ
ให้เลขาธิการสหประชาติรายงานต่อทกรัฐสมาชิกแห่งองค์การสหประชาชาติ และรัฐxxxxxxเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ
ตามที่ระบไุ ว้ในมาตรา 39 ของอนสญญาxxxxx xในเรองดxxx x ต่อไปนี
(1) การประกาศและแถลงการณ์ใดๆ ตามมาตรา 1 (B)
(2) การลงนาม การให้สตยาบน และ การภาคxxxวุ ติใดๆ ตามมาตรา 39
(3) การประกาศเเละการแถลงการณ์ใดๆ ตามมาตรา 40
(4) การตงั ้ ข้อสงวนและการถอนข้อสงวนใดๆ ตามมาตรา 42
(5) วนที่อนส
ญญาxxxxxมีผลบงั คบ
ใช้ตามมาตรา 43
(6) การเพิกถอนและการเเถลงการณ์ตามมาตรา 44
(7) ค˚าร้องขอให้มีการปรับแก้ตามมาตรา 45
ผ้xxxxxxลงนามข้างท้ายเอกสารxxxxx xได้รับมอบอ˚านาจอย่างเป็นทางการ และลงนามโดยสจริตใจในนามของรัฐบาลตน
ณ กรุงเจนีวา วนที่ 28 กรกฎามคม ค.ศ. 1951 ในเอกสารxxxเดียว ซงึ่ ข้อความในเอกสารทงั ้ ภาษาองั กฤษ และภาษา
ฝรั่งเศสมีความหมายดงั ้ เดิมเท่าเทียมกน
และให้เก็บรักษาไว้ ณ หอจดหมายเหตส
หประชาชาติ และเอกสารxxxxxxรับรอง
ความถกต้องเเลว้ ให้ส่งไปยงั รฐสxxx xxกและ รฐซั งึ่ xxxxxเ้ ปนสมาxxxx องค์การสหประชาชาติตามที่ระบุไว้ในมาตรา 39 แห่ง
อนสญญาxxxxx