ผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ สำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 5 สำหรับผู้ถือหุ้นเดิม (“EFORL-W5”)
ข้อกำหนดว่าด้วยxxxxxและหน้าที่ ของ
ผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxxและผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx สำหรับใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 5 สำหรับผู้ถือหุ้นเดิม (“EFORL-W5”)
ข้อกำหนดว่าด้วยxxxxxและหน้าที่ของผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxxและผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 5 (EFORL-W5)
ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) จำกัด รุ่นที่ 5 (EFORL-W5) ออก โดย บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “ผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxx”) ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 เมื่อxxxxxx 8 เมษายน 2565
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะได้รับxxxxxตามxxxxxxกําหนดไว้ในข้อกําหนดxxxxx โดยผู้ออกใบสําคัญแสดงxxxxxและผู้ถือ ใบสําคัญแสดงxxxxxจะต้องผูกพันตามข้อกําหนดxxxxxฉบับนี้ทุกประการ และให้xxxxxxผู้ถือใบสําคัญแสดงxxxxxxxxรับทราบและ เข้าใจข้อกําหนดต่างๆ ในข้อกําหนดxxxxxเป็นอย่างดีแล้ว รวมxxxxxxxให้ความเห็นชอบกับการแต่งตั้งนายทะเบียนใบสำคัญแสดง xxxxx และข้อกำหนดต่างๆ ในสัญญาแต่งตั้งนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxด้วย ทั้งนี้ผู้ออกใบสําคัญแสดงxxxxxจะจัดให้มการ เก็บรักษาสําเนาข้อกําหนดxxxxxและสำเนาสัญญาแต่งตั้งนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxไว้ณสํานักงานใหญ่ของผู้ออกใบสําคัญ แสดงxxxxx และสำนักงานใหญ่ของนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxเพื่อให้ผู้ถือใบสําคัญแสดงxxxxxขอตรวจสอบสําเนา ข้อกําหนดxxxxxxxxในวันและเวลาทําการของผู้ออกใบสําคัญแสดงxxxxx และนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx (แล้วแต่กรณี)
1. คําจํากัดความ
คําและข้อความต่าง ๆที่ใช้อยู่ในข้อกําหนดxxxxxฉบับนี้ให้มีความหมายดังต่อไปนี้
“ข้อกำหนดxxxxx” | หมายถึง | ข้อกําหนดว่าด้วยxxxxxและหน้าที่ของผู้ออกใบสําคัญแสดงxxxxx และผู้ถือใบสําคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 5 ตามมติที่ประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 เมื่อxxxxxx 8 เมษายน 2565 (รวมถึงที่มี การแก้ไขเพิ่มเติม (ถ้ามี)) |
“ใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง | ใบสําคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 5 (“EFORL-5”) ชนิดระบุชื่อผู้ถือ และโอนxxxxxxxxxxxxx จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตาม สัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งมีรายละเอียดตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนด xxxxx |
“ใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง | ใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 5 ที่ออกโดยบริษัท ศูนย์ รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อใช้แทนใบสำคัญ แสดงxxxxx |
“บริษัท” หรือ “ผู้ออกใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง | บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) |
“ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง | ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxแต่ละหน่วยตามข้อ 3.3 |
“หุ้นรองรับ” | หมายถึง | หุ้นสามัญออกใหม่ของ บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) จำนวน 799,572,990 หุ้น ที่จัดไว้เพื่อรองรับการใช้ xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxx รวมทั้งหุ้นสามัญที่จะออกใหม่ เพิ่มเติมในกรณีการปรับxxxxxภายใต้ข้อกำหนดxxxxx |
“xxxxxxออกใบสำคัญแสดงxxxxx” | หมายถึง | 31 พฤษภาคม 2565 |
“วันกำหนดการใช้xxxxx” | ให้มีความหมายตามที่ระบุไว้ในข้อ 3.1 ของข้อกำหนดxxxxx |
“วันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย” | ให้มีความหมายตามที่ระบุไว้ในข้อ 3.1 ของข้อกำหนดxxxxx | |
“วันทำการ” | หมายถึง | xxxxxxธนาคารพาณิชย์เปิดทำการตามxxxxในกรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ใช่วันเสาร์หรือวันxxxxxxx หรือวันอื่นใดที่ธนาคารแห่ง ประเทศไทยประกาศให้เป็นวันหยุดของธนาคารพาณิชย์ |
“ระยะเวลาแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx” | หมายถึง | ระยะเวลาที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxซึ่งxxxxxxxจะใช้xxxxxใน การซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัท xxxxxxแจ้งความxxxxใน การใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxxxxตามที่ระบุไว้ในข้อ 3.2 |
“การไม่xxxxxxยกเลิกการแจ้งxxxxxความ xxxxในการใช้xxxxx” | หมายถึง | เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อ หุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงxxxxxแล้ว ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx จะไม่xxxxxxยกเลิกการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxดังกล่าว ได้อีกต่อไป |
“นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx” หรือ “นายทะเบียน” | หมายถึง | นายทะเบียนของใบสำคัญแสดงxxxxxซึ่งได้แก่บริษัท ศูนย์รับ ฝากหลักทรัพย์(ประเทศไทย) จำกัด หรือบุคคลอื่นใดที่ คณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งให้เป็นนายทะเบียนใบสำคัญแสดง xxxxx |
“ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์” | หมายถึง | บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด |
“สำนักงาน ก.ล.ต.” | หมายถึง | สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลกทรัพย์ |
“ตลาดหลักทรัพย์” | หมายถึง | ตลาดหลักทรัพย์ xxxx xx ไอ |
“SETLink” | หมายถึง | ระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ |
“ประกาศ ทจ.34/2551” | หมายถึง | ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.34/2551 เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายใบสำคัญแสดง xxxxxxxxจะซื้อหุ้นที่ออกใหม่และหุ้นที่ออกใหม่เพื่อรองรับ ใบสำคัญแสดงxxxxx ลงxxxxxx 15 ธันวาคม 2551 (รวมxxxxxxxมี การแก้ไขเพิ่มเติม) |
2 รายละเอียดของหลักทรัพย์ที่เสนอขาย
ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 เมื่อxxxxxx 8 เมษายน 2565 ได้มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญ แสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 5 จำนวนไม่เกิน 799,572,990 หน่วย โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตาม สัดส่วน (Right Offering) ในราคาหน่วยละ 0.40 บาท ในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญเดิมจะได้รับxxxxxในการซื้อใบสำคัญแสดงxxxxx 1 หน่วย (5 หุ้นเดิม : 1 ใบสำคัญแสดงxxxxx) (ในกรณีที่มีเศษให้ปัดเศษทิ้ง) โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีxxxxxxxรับการจัดสรร ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxx 27 เมษายน 2565 (Record Date) ซึ่งมีรายละเอียดของใบสำคัญแสดงxxxxx ดังนี้
2.1 ลักษณะสำคัญของหลักทรัพย์ที่ออกและเสนอขาย
ประเภทหลักทรัพย์ที่เสนอขาย | : | ใบสําคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 5 (“EFORL-W5”) |
ชนิดของใบสำคัญแสดงxxxxx | : | ชนิดระบุชื่อผู้ถือและโอนxxxxxxxxxxxxx |
จำนวนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxออกและเสนอ ขาย | : | ไม่เกิน 799,572,990 หน่วย (xxxxxxxxเก้าสิบเก้าล้านห้าแสนเจ็ดหมื่นสอง พันxxxxxxxxเก้าสิบหน่วย) |
จำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้ xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxx | : | ไม่เกิน 799,572,990 หุ้น (xxxxxxที่ตราไว้หุ้นละ 0.75 บาท) (หลังการ เปลี่ยนแปลงxxxxxxที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัทโดยการรวมxxxxxxที่ตราไว้ (รวมพาร์)) คิดเป็นร้อยละ 20.001 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว ทั้งหมดของบริษัท (หลังการเปลี่ยนแปลงxxxxxxที่ตราไว้ซึ่งได้รับอนุมัติ จากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 เมื่อxxxxxx 8 เมษายน 2565) หรือคิดเป็นร้อยละ 15.38 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทเมื่อรวมหุ้น xxxxxxxxทั้งหมดxxxxxxรับอนุมัติจากที่ประชุม บริษัทจะมีการจัดสรรหุ้นxxxxx xxxใหม่ 2 ส่วนคือ 1) หุ้นxxxxxxxxที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้xxxxxของ ใบสําคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 5 (“EFORL-W5”) จำนวนไม่เกิน 799,572,990 และ 2) หุ้นxxxxxxxxที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้xxxxxของใบสําคัญแสดงxxxxxxxxจะ ซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 6 (“EFORL-W6”) จำนวนไม่เกิน 399,786,495 หุ้น โดยหุ้นทั้งหมดมี xxxxxxที่ตราไว้หุ้นละ 0.75 บาทต่อหุ้น) ทั้งนี้ สัดส่วนหุ้นรองรับสำหรับ การใช้xxxxx EFORL-W5 และ EFORL-W6 คิดเป็นร้อยละ 302 ของ จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของซึ่งไม่เกินร้อยละ 50 ตามข้อ 10 ของประกาศ ทจ. 34/2551 |
วิธีการเสนอขาย | : | จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) โดย กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีxxxxxxxxรับการจัดสรรใบสำคัญแสดงxxxxx (Record Date) ใน xxxxxx 27 เมษายน 2565 ในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 5 หุ้น ต่อใบสําคัญแสดงxxxxx 1 หน่วย ทั้งนี้ในกรณีที่มีเศษของใบสำคัญ แสดงxxxxxเหลือจากการคำนวณตามอัตราส่วนการจัดสรรใบสำคัญแสดง xxxxxดังกล่าวให้ตัดเศษดังกล่าวทิ้งทั้งจำนวน |
ราคาเสนอขายต่อหน่วย | : | หน่วยละ 0.40 บาท (สี่สิบสตางค์) |
xxxxxxออกใบสำคัญแสดงxxxxx | : | 31 พฤษภาคม 2565 |
xxxxxxครบอายุใบสำคัญแสดงxxxxx | : | 31 พฤษภาคม 2566 |
อายุของใบสำคัญแสดงxxxxx | : | 1 ปี นับจากxxxxxxออกใบสำคัญแสดงxxxxx |
อัตราการใช้xxxxxของใบสำคัญแสดงxxxxx | : | ใบสำคัญแสดงxxxxx 1 หน่วย xxxxxxซื้อหุ้นสามัญใหม่ได้ 1 หุ้น (เว้นแต่ จะมีการปรับอัตราการใช้xxxxxตามเงื่อนไขการปรับxxxxxในข้อ 4.2) |
3,997,864,950
1วิธีการค˚านวณสดส่วนห้นรองรับส˚าหรับการใช้xxxxx EFORL-W5: (จ˚านวนห้นรองรับส˚าหรับการใช้xxxxx EFORL-W5)/(จ˚านวนห้xxxxจ˚าหน่ายได้ แล้วทง้ หมดของบริษท) ร้อยละ 20.00= 799,572,990
2วิธีการค˚านวณสดส่วนหุ้นรองรับส˚าหรับการใช้xxxxx EFORL-W5 และ EFORL-W6: (จ˚าxxxxxxxรองรับส˚าหรับการใช้xxxxx EFORL-W5 และ
3,997,864,950
EFORL-W6)/ (จ˚านวนห้xxxxจ˚าหน่ายได้แล้วทง้ หมดของบริษัท) ร้อยละ 30.00 = 1,199,359,485
ราคาการใช้xxxxxxxxจะซื้อหุ้นสามัญ | : | หุ้นละ 1 บาท (หนึ่งบาท) (เว้นแต่จะมีการปรับราคาการใช้xxxxxตาม เงื่อนไขการปรับxxxxxในข้อ 4.2) (ราคาการใช้xxxxxคำนวณจากจำนวนหุ้น ภายหลังการเปลี่ยนแปลงxxxxxxหุ้นที่ตราไว้โดยการรวมหุ้น) |
ระยะเวลาการใช้xxxxx | : | ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ โดย กำหนดxxxxxxดังนี้ - 30 มิถุนายน 2565 (“วันกำหนดการใช้xxxxxครั้งแรก”) - 30 กันยายน 2565 - 30 ธันวาคม 2565 - 31 พฤษภาคม 2566 (“วันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย”) ทั้งนี้ในกรณีxxxxxxใช้xxxxxตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทฯ หรือตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้เลื่อนวันใช้xxxxxดังกล่าวเป็นวันทำการ สุดท้ายก่อนหน้าวันใช้xxxxxดังกล่าว |
ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้ xxxxx | : | 5 วันทำการก่อนวันใช้xxxxx ระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 15.00 น. ยกเว้น การแจ้งxxxxxครั้งสุดท้ายภายใน 15 วันก่อนวันใช้xxxxxระหว่าง 9.00 น. ถึง 15.00 น. |
การไม่xxxxxxยกเลิกการแจ้งxxxxxความ xxxxในการใช้xxxxx | : | เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญ ตามใบสำคัญแสดงxxxxxแล้ว ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะไม่xxxxxxยกเลิก การแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxดังกล่าวได้อีกต่อไป |
ตลาดรองของใบสำคัญแสดงxxxxx | : | บริษัทจะนําใบสําคัญแสดงxxxxxxxxออกและเสนอขายในครั้งนี้ไปจด ทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ |
ตลาดรองของหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้ xxxxx | : | บริษัทจะนําหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxxxxออก และเสนอขายครั้งนี้ เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ |
นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx | : | บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด |
เหตุในการต้องออกหุ้นใหม่เพื่อรองรับการ เปลี่ยนแปลงการใช้xxxxx | : | บริษัทจะxxxxxxการปรับราคาการใช้xxxxx และ/หรืออัตราการใช้xxxxxตาม เงื่อนไขการปรับxxxxxตามที่ระบุไว้ในข้อ 4.2 เมื่อมีเหตุการณ์ตามที่ กำหนดไว้ในข้อกำหนดxxxxxและเงื่อนไขของใบสำคัญแสดงxxxxx ซึ่งเป็น เหตุการณ์ที่มีลักษณะตามที่กำหนดไว้ในข้อ 11 (4) (ข) ตามประกาศ คณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 34/2551 เรื่อง การขออนุญาตและ การอนุญาตให้เสนอขายใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะซื้อหุ้นที่ออกใหม่ และ หุ้นที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงxxxxx ฉบับลงxxxxxx 15 ธันวาคม 2551 (รวมxxxxxxxมีการแก้ไขเพิ่มเติม) |
วัตถุประสงค์ของการออกใบสำคัญแสดง xxxxx และประโยชน์ที่บริษัทพึงได้รับจาก การจัดสรรหุ้นสามัญxxxxxxxxในครั้งนี้ | : | เพื่อปรับโครงสร้างทุน โครงสร้างหนี้ และโครงสร้างธุรกิจ เพื่อลดความ เสี่ยงจากข้อกำหนดเรื่องการดำรงสัดส่วนหนี้สินต่อทุน และสร้างโอกาส ในการขยายวงเงินสินเชื่อต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตทางธุรกิจใน ปัจจุบันและในxxxxx |
2.2 ผลกระทบจากใบสำคัญแสดงxxxxx
ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxออกในครั้งนี้จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ดังนั้น จึงไม่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น ณ xxxxxxออกใบสำคัญแสดงxxxxx xxxxxxxxxxxx หากมีการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัท ตามใบสำคัญแสดงxxxxxครบถ้วนทั้งจำนวน และผู้ใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxดังกล่าวไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ผู้ถือหุ้น เดิมของบริษัทจะxxxxxxxxกระทบ (Dilution Effect) (คำนวณจากจำนวนหุ้นภายหลังการเปลี่ยนแปลงxxxxxxหุ้นที่ตราไว้โดย การรวมหุ้น) มีรายละเอียดดังนี้
2.2.1 การลดลงของสัดส่วนการถือหุ้น (Control Dilution)
Qo | จำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท | = | 3,997,864,950 หุ้น | |
(ภายหลังการเปลี่ยนแปลงxxxxxxหุ้นที่ตราไว้โดยการรวมหุ้น) | ||||
Qx5 | จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงxxxxx EFORL-W5 | = | 799,572,990 หุ้น | |
ผลกระทบต่อสัดส่วนการถือหุ้น | = | (Qx5) | ||
(Qo+Qx5) | ||||
= | 799,572,990 | |||
(3,997,864,950+799,572,990) | ||||
= | 16.67% |
2.2.2 การลดลงของราคา (Price Dilution)
สูตรการคำนวณการลดลงของราคา = (PE-Po)/Po โดยที่
Po : | ราคาตลาดซื้อขายถัวเฉลี่ยถ่วงนํ้าหนัก 7 วันทำการก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อxxxxxx 25 กุมภาพันธ์ 2565 คือตั้งแต่xxxxxx 15 – 24 กุมภาพันธ์ 2564 (ข้อมูลจาก SETSMART ของตลาดหลักทรัพย์) ซึ่งเท่ากับ 0.17 บาท (xxxxxxที่ตราไว้เท่ากับ 0.075 บาท) หรือเสมือนเท่ากับ 1.70 บาท (xxxxxxที่ตราไว้เท่ากับ 0.75 บาท) | |
Qo : | จำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท | = 3,997,864,950 หุ้น |
(ภายหลังการเปลี่ยนแปลงxxxxxxหุ้นที่ตราไว้โดยการรวมหุ้น) | ||
Pw5 : | ราคาขายของใบสำคัญแสดงxxxxx EFORL-W5 ที่เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม | = 0.40 บาท |
Qw5 : | จำนวนใบสำคัญแสดงxxxxx EFORL-W5 | = 799,572,990 หน่วย |
Epw5 : | ราคาใช้xxxxxของใบสำคัญแสดงxxxxx EFORL-W5 | = 1.00 บาท |
Qx5 : | จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงxxxxx EFORL-W5 | = 799,572,990 หุ้น |
PE | = | PoQo+(Pw5Qw5)+(Epw5Qx5) |
(Qo+Qx5) | ||
= | 1.7×3,997,864,950 +[(0.4x799,572,990)+(1.0x799,572,990)] | |
(3,997,864,950+799,572,990) | ||
= | 1.65 |
ผลกระทบด้านราคา = (Po-PE)/Po
= (1.70-1.65)/1.70
= ร้อยละ 2.94
2.2.3 ด้านการลดลงของส่วนแบ่งกำไร (Earnings Dilution)
สูตรการคำนวณ | = | (EPS ก่อนเสนอขาย – EPS หลังเสนอขาย) |
EPS ก่อนเสนอขาย |
โดยที่ EPS = กำไรสุทธิต่อหุ้น 4 ไตรมาสล่าสุด
EPS | = | กำไรสุทธิ จำนวนหุ้น |
EPS ก่อนเสนอขาย | = | 812,030,000 |
3,997,864,950 | ||
= | 0.20 บาท / หุ้น | |
EPS หลังเสนอขาย | = | 812,030,000 |
(3,997,864,950+799,572,990) | ||
= | 0.17 บาท / หุ้น | |
Earnings Dilution | = | (0.20-0.17) |
0.20 | ||
= | ร้อยละ 16.67 |
คำนวณจากกำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทย้อนหลัง 12 เดือน เท่ากับ 812.03 ล้านบาท
3 การใช้xxxxxและเงื่อนไขการใช้xxxxx
3.1 วันกำหนดการใช้xxxxx
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ในxxxxxx
- 30 มิถุนายน 2565 (“วันกำหนดการใช้xxxxxครั้งแรก”)
- 30 กันยายน 2565
- 30 ธันวาคม 2565
- 31 พฤษภาคม 2566 (“วันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสดท้าย”)
ทั้งนี้ ในกรณีxxxxxxกำหนดการใช้สทธิตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทหรือวันหยุดทำการของตลาดหลกทรัพย์ฯ หรือ วันหยุดทำการของนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx ให้เลื่อนวันกำหนดการใช้xxxxxดังกล่าวเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวัน กำหนดการใช้xxxxxดังกล่าวxxxxxxตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทวันหยุดทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ และวันหยุดทำการของ นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx
3.2 ระยะเวลาแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxซึ่งxxxxxxxจะใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จะต้องแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญของบริษัท โดยมีระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ดังนี้
3.2.1 ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญแต่ละครั้ง (ยกเว้นการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย) ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxxจะใช้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จะต้องแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxตาม
วิธีการและขั้นตอนการใช้xxxxxตามข้อ 3.6 (“ความxxxxในการใช้xxxxx”) ในระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 15.00 น. ในการใช้สทธิ
ซื้อหุ้นสามัญใบสำคัญแสดงxxxxxภายในระยะเวลา 5 วันทำการก่อนวันใช้xxxxxในแต่ละครั้ง (“ระยะเวลาการแจ้งความxxxxใน การใช้xxxxx”)
3.2.2 ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญครั้งสุดท้าย ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะต้องแจ้งความxxxxตามวิธีการและขั้นตอนการใช้xxxxxตามข้อ 3.6 ในระหว่างเวลา 9.00
น. ถึง 15.00 น. ภายในระยะเวลา 15 วันก่อนวันกำหนดใช้xxxxxครั้งสุดท้าย (“ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx
ครั้งสุดท้าย”)
ทั้งนี้ การแจ้งข่าวเกี่ยวกับการใช้xxxxx อัตราการใช้xxxxx ราคาการใช้xxxxx ระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx และวันกำหนดการใช้xxxxx บริษัทxxxxxxรายละเอียดดังกล่าวอย่างน้อย 5 วันทำการก่อนวันเริ่มระยะเวลาการแจ้งความxxxx ในการใช้xxxxxแต่ละครั้งผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) สำหรับการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย บริษัทxxxxxxข่าวล่วงหน้า 14 วันก่อนวันปิดสมุดทะเบียนxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxxผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาด หลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) และจะส่งรายละเอียดดังกล่าวทางไปรษณีย์ลงทะเบียนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx ตาม รายชื่อที่ปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx
xxxxxxxบริษัทจะไม่มีการปิดสมุดทะเบียนเพื่อxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxx ยกเว้นในกรณีการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย ซึ่งจะมี การปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxเพื่อxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxx 21 วันก่อนวันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย โดยตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อห้ามการซื้อขายใบสำคัญแสดงxxxxxล่วงหน้า 2 วันทำการก่อนปิดสมุดทะเบียน ในกรณีxxxxxxปิดสมุดทะเบียนxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxxตรงกับวันหยุดทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เลื่อนวันปิดสมุด ทะเบียนดังกล่าวเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวันปิดสมุดทะเบียนxxxการโอนใบสำคัญแสดงxxxxxดังกล่าว
3.3 ผู้ทรงxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxx
3.3.1 ผู้ทรงxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxxกรณีทั่วไป
xxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxxจะตกได้แก่บุคคล หรือ นิติบุคคลxxxxxxxxxxxxเป็นเจ้าของใบสำคัญแสดงxxxxxจำนวนดังกล่าว ในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxในขณะนั้น ๆ หรือในวันก่อนวันแรกของการปิดสมุดทะเบียนxxxการโอนใบสำคัญแสดง xxxxx เว้นแต่จะได้มีการโอนใบสำคัญแสดงxxxxxซึ่งxxxxxxใช้ยันกับบริษัทได้ตามข้อ 13.1 เกิดขึ้นแล้วในวันปิดสมุดทะเบียนที่ เกี่ยวข้องข้างต้น ซึ่งxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxxจะตกได้แก่ผู้รับโอนใบสำคัญแสดงxxxxx
3.3.2 ผู้ทรงxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxxกรณีที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เป็นผถือใบสำคัญแสดงxxxxxแทน xxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxxจะตกได้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxรับแจ้งเป็นหนังสือจาก
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ว่าเป็นผู้ทรงxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxxในจำนวนตามที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ได้แจ้งต่อนายทะเบียน
ใบสำคัญแสดงxxxxx โดยจำนวนดังกล่าวจะต้องไม่เกินกว่าจำนวนรวมของใบสำคัญแสดงxxxxxในชื่อของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ที่ ระบุอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxในขณะนั้น ๆ หรือในวันก่อนวันแรกของการปิดสมุดทะเบียนxxxการโอน ใบสำคัญแสดงxxxxx (วันก่อนวันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย SP)
3.4 นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx
บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
93 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ : 00-000-0000
Website : xxxx://xxx.xxx.xx.xx/xxx
นายทะเบียนใบสําคัญแสดงxxxxxมีหน้าที่xxxxxxxxแต่งตั้งนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxจะต้องจัดทำและเก็บ รักษาสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxไว้จนกว่าใบสำคัญแสดงxxxxxทั้งหมดจะมีการใช้xxxxxซื้อหุ้นรองรับของบริษัทหรือ จนกว่าครบกำหนดอายุใบสำคัญแสดงxxxxx (แล้วแต่กรณี)
นายทะเบียนใบสําคัญแสดงxxxxxจะรับผิดชอบต่อการปิดสมุดทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx ซึ่งในสมุดทะเบียนผู้ถือ ใบสําคัญแสดงxxxxxจะต้องประกอบด้วยชื่อและนามสกุลเต็ม สัญชาติ และที่อยู่ของผู้ถือใบสําคัญแสดงxxxxxและรายละเอียด อื่นๆ ตามที่ศูนย์ฝากหลักทรัพย์จะกำหนด ในกรณีที่ข้อมูลไม่ตรงกันจะxxxxxxข้อมูลในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxเป็น ข้อมูลที่ถูกต้อง
นายทะเบียนใบสําคัญแสดงxxxxxมีหน้าที่จะต้องออกใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxฝากไว้ กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และจะต้องลงชื่อศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เป็นผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxแทนในสมุดทะเบียนผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxนั้น และบริษัทจะออกใบสำคัญแสดงxxxxxตามแบบที่นายทะเบียนใบสําคัญแสดงxxxxxกำหนดให้แก่ศนย์รับ ฝากหลักทรัพย์
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxมีหน้าที่ในการแจ้งการเปลี่ยนแปลง หรือแจ้งข้อผิดพลาดในรายละเอียดของการลงบันทึกใน สมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxโดยนายทะเบียนใบสําคัญแสดงxxxxxจะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวให้ ถูกต้อง
เมื่อศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แจ้งต่อนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxมีหน้าที่ที่จะต้อง ออกใบสำคัญแสดงxxxxxให้แก่ผู้ทรงxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxxxxxฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์และลงทะเบียนให้ผู้ทรงxxxxxใน ใบสำคัญแสดงxxxxxรายดังกล่าวเป็นผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxตามจำนวนxxxxxxรับแจ้งจาก ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เมื่อได้มีการออกใบสำคัญแสดงxxxxxและลงทะเบียนดังกล่าวแล้ว นายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx จะแก้ไขจำนวนรวมของใบสำคัญแสดงxxxxxxxxลงทะเบียนในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxไว้ในชื่อของศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ โดยหักจำนวนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxได้แยกไปลงทะเบียนไว้ในชื่อของผู้ทรงxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxxออก ส่วน จำนวนรวมของใบสำคัญแสดงxxxxxxxxปรากฏในใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxออกให้แก่ศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์นั้น หากนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxxxxxได้ทำการแก้ไข (ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม) ให้xxxxxxมีจำนวนลดลงตาม จำนวนของใบสำคัญแสดงxxxxxxxxได้แยกไปออกใบสำคัญแสดงxxxxxและลงทะเบียนไว้ในชื่อของผู้ทรงxxxxxในใบสำคัญแสดงxxxxx ดังกล่าว
บริษัทขอxxxxxxxxxที่จะเปลี่ยนแปลงนายทะเบียนใบสำคัญแสดงxxxxx โดยxxxxxxการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้แก่ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxทราบผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ โดยเร็วและแจ้งให้สำนักงาน ก.ล.ต. ทราบภายใน 15 วัน รวมทั้งบริษัทจะxxxxxxการจัดส่งหนังสือแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้กับผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนด้วย
3.5 สถานที่ติดต่อในการใช้xxxxx
บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน) ฝ่าย นักลงทุนxxxxxxx
เลขที่ 160 ถนนงามวงศ์วาน ตำบลบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
โทรศัพท์: x00(0) 00000000 ต่อ 111
กรณีมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ติดต่อในการใช้xxxxx บริษัทxxxxxxการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx ทราบผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) โดยxxxxxxxxx
3.6 วิธีการใช้xxxxxและขั้นตอนการใช้xxxxx
ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxxใช้xxxxx จะต้องแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxภายในระยะเวลาแจ้งความxxxxในการ ใช้xxxxxตามที่กำหนดไว้ในข้อ 3.2 ข้างต้น ในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัท ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxใช้xxxxx ซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxxxxตนถืออยู่ทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้ สำหรับใบสำคัญแสดงxxxxxxxxเหลือและxxxxxxใช้ xxxxxภายในวันกำหนดการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย บริษัทจะxxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxxจะใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดง xxxxxดังกล่าวและให้xxxxxxใบสำคัญแสดงxxxxxนั้น ๆ สิ้นสภาพโดยไม่มีการใช้xxxxx โดยปฏิบัติดังนี้
3.6.1 ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxขอรับใบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxxxxxxxบริษัท และ/หรือ ตัวแทน รับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของบริษัท (xxx.xxxxx-xxx.xxx) โดยxxxxxx แจ้งความxxxxในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxxxxxxxบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) ตาามระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxตามที่ระบุในข้อ 3.2 ข้างต้น
ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxในระบบไร้ใบหลักทรัพย์ (Scripless) ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxต้องการใช้xxxxxต้องแจ้ง ความxxxxและกรอกแบบคำขอเพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงxxxxxตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
ก. ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนอยู่ในบัญชี “บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก” ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxต้องการใช้xxxxxต้องแจ้งความxxxxและกรอกแบบคำ ขอเพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงxxxxxตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยยื่นต่อบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นนายหน้าซื้อ ขายหลักทรัพย์ (Broker) ของตน และบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวจะxxxxxxการแจ้งกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์เพื่อ ขอถอนใบสำคัญแสดงxxxxxจากบัญชี “บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก” โดยศูนย์ รับฝากหลักทรัพย์จะxxxxxxการออกใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญxxxxxxxxของบริษัท
ข. ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxไม่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ โดยใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxกับศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ใน “บัญชีบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์” ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxต้องการใช้xxxxx ต้องแจ้งความxxxxและ กรอกแบบคำขอเพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงxxxxxตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด โดยยื่นต่อศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงxxxxxจาก “บัญชีบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์” โดยศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะxxxxxxการ ออกใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxx เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxของบริษัท
3.6.2 ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx (xxxxxxxถือเป็นใบสำคัญแสดงxxxxxและในระบบไร้ใบหลักทรัพย์ (Scripless)) ที่xxxxxxxจะใช้ xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxx จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx โดยxxxxxxการและส่งเอกสาร ดังต่อไปนี้ให้แก่บริษัท ตามสถานที่ติดต่อในการใช้xxxxxxxxระบุไว้ในข้อ 3.5
(ก) แบบแสดงความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxxxxxxxกรอกข้อความถูกต้องชัดเจน และครบถ้วนทุก รายการ พร้อมลงนามโดยผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxและส่งให้แก่บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxใน การใช้xxxxx (ถ้ามี) ในช่วงระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx
(ข) ใบสำคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสำคัญแสดงxxxxxตามแบบที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด ซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดง xxxxxลงลายมือชื่อผู้โอนด้านหลัง ตามจำนวนที่ระบุในแบบแสดงความxxxxการใช้xxxxx และหนังสือมอบอำนาจ ให้ผู้อื่นมารับใบสำคัญแสดงxxxxxฉบับใหม่สำหรับใบสำคัญแสดงxxxxxxxxยังxxxx xxใช้xxxxx (ถ้ามี) และส่งให้แก่ บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี)
(ค) ชำระเงินตามจำนวนที่ระบุในใบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxx และส่งหลักฐานการชำระเงิน ให้แก่บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxx จะใช้xxxxxซื้อหุ้น จะต้อง (1) โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวัน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขา สะพานกรุงธน ชื่อบัญชี “บมจ. อี ฟอร์ xxx เอม เพื่อ EFORL-W5” เลขที่บัญชี 126-1- 34781-0 โดยให้แนบหลักฐานการโอนเงินที่ธนาคารออกให้ พร้อมระบุชื่อ-นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ที่ xxxxxxติดต่อไว้ด้วย หรือ (2) ชำระเป็นเช็คบุคคล แคชเชียร์เช็ค ดร๊าฟท์ ที่xxxxxxเรียกเก็บได้ในเขต กรุงเทพมหานคร ภายใน 1 วันทำการนับจากxxxxxxแจ้งความxxxxการใช้xxxxxในแต่ละครั้ง โดยเช็คบุคคล แคชเชียร์เช็ค หรือ ดร๊าฟ ต้องลงxxxxxxก่อนกำหนดการใช้xxxxx 3 วันทำการ และxxxxxxxxเฉพาะสั่งจ่าย “บริษัท อี ฟอร์ xxx เอม จำกัด (มหาชน)” โดยให้ระบุชื่อ-นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ที่xxxxxxติดต่อได้ไว้ด้านหลัง ด้วย หรือ (3) ชำระโดยวิธีการอื่นตามแต่ที่บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) จะ เป็นผู้กำหนดและแจ้งให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ การใช้xxxxxxxxซื้อหุ้นสามัญดังกล่าวจะxxxxxxxxxต่อเมื่อบริษัทและ/หรือตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการ ใช้xxxxx (ถ้ามี) เรียกเก็บเงินดังกล่าวได้แล้วเท่านั้น หากบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้ xxxxx (ถ้ามี) เรียกเก็บเงินxxxxxxด้วยเหตุผลใด ๆ xxxxxxxxเกิดจากความผิดของบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้ง ความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) บริษัทจะxxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxแสดงxxxxxยกเลิกการใช้xxxxxซื้อหุ้น สามัญxxxxxxxxในครั้งนั้น โดยบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) จะจัดส่งใบสำคัญ แสดงxxxxxพร้อมกับเช็ค แคชเชียร์เช็ค หรือดร๊าฟท์ ที่เรียกเก็บเงินxxxxxxคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้xxxxxในครั้งนั้น ๆ แต่ทั้งนี้ ไม่ถือเป็นการตัดxxxxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะใช้ xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxในครั้งต่อไป เว้นแต่เป็นการใช้xxxxxในครั้งสุดท้าย บริษัทจะxxxxxxใบสำคัญแสดงสทธิ นั้น ๆ สิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้xxxxxซึ่งบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) จะไม่ รับผิดชอบต่อดอกเบี้ย และ/หรือค่าเสียหายอื่นใด ไม่ว่ากรณีใด ๆ
(ง) ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าอากรแสตมป์หรือภาษีอื่นใด (ถ้ามี) ตามบทบัญญัติแห่ง ประมวลรัษฎากรหรือข้อบังคับหรือกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับในการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดง xxxxx
(จ) หลักฐานประกอบการจองซื้อหุ้นสามัญรองรับการใช้xxxxxของผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx
1) บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย | : | สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ หรือสำเนาบัตร พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ยังไม่หมดอายุ (ในกรณีมีการเปลี่ยนชื่อ/xxxxxxxx ซึ่งทำให้ชื่อ/xxxxxxxx ไม่ตรงกับใบสำคัญแสดงxxxxx ให้แนบเอกสารที่ออก โดยหน่วยงานราชการ xxxx ใบแจ้งเปลี่ยนชื่อ/xxxxxxxx เป็นต้น) พร้อมลง ลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง |
2) บุคคลธรรมดาต่างด้าว | : | สำเนาใบต่างด้าว หรือสำเนาหนังสือเดินทาง พร้อมลงลายมือชื่อรับรอง สำเนาถูกต้อง |
3) นิติบุคคลสัญชาติไทย | : | สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ที่กระทรวงพาณิชย์ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน ก่อนวันกำหนดการใช้xxxxxในครั้งนั้นๆพร้อมรับรองสำเนาถูกต้องโดย กรรมการผู้xxxxxxxที่มีชื่อปรากฏอยู่ในหนังสือรับรองบริษัทนั้นและ |
เอกสารหลักฐานของกรรมการผู้xxxxxxxลงลายมือชื่อตาม (1) หรือ (2) พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
4) นิติบุคคลต่างด้าว : สำเนาเอกสารการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล และ/หรือ หนังสือรับรอง
นิติบุคคล พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยกรรมการผู้xx xxxxx และเอกสารหลักฐานของกรรมการผู้xxxxxxxลงลายมือชื่อตาม
(1) หรือ (2) พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง และรับรองโดย Notary public ของประเทศที่ออกเอกสารนั้นไม่เกิน 6 เดือนก่อนวัน กำหนดการใช้xxxxxในครั้งนั้น ๆ
5) คัสโตเดียน : สำเนาเอกสารการจดทะเบียน พร้อมหนังสือแต่งตั้งคัสโตเดียน และ
เอกสารหลักฐานของผู้xxxxxxxลงลายมือชื่อตาม (1) หรือ (2) พร้อมลง ลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง และรับรองโดย Notary public ของ ประเทศที่ออกเอกสารนั้นไม่เกิน 6 เดือนก่อนวันกำหนดการใช้xxxxxใน ครั้งนั้น ๆ
ทั้งนี้ หากผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxส่งมอบหลักฐานประกอบการใช้xxxxxตามที่กล่าวข้างต้น บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) ขอxxxxxxxxxที่จะxxxxxxผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxxxxxจะใช้xxxxxตาม ใบสำคัญแสดงxxxxxในครั้งนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) xxxxxxใช้ ดุลพินิจในการพิจารณาให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx ใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxx xxxตามความเหมาะสม
3.7 เงื่อนไขอื่นเกี่ยวกับการใช้xxxxx
3.7.1 จํานวนหน่วยของใบสําคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสําคัญแสดงxxxxxxxxขอใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญ จะต้องเป็นจํานวนเต็ม เท่านั้นโดยอัตราการใช้xxxxxเท่ากับใบสําคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสําคัญแสดงxxxxxหนึ่งหน่วยต่อหุ้นสามัญหนึ่งหุ้น เว้นแต่การปรับxxxxxตามเงื่อนไขการปรับxxxxxของใบสำคัญแสดงxxxxxตามที่ระบุไว้ในข้อ 4.2
3.7.2 การใช้xxxxxของผู้ถือใบแสดงxxxxxxxxเป็นบุคคลต่างด้าวจะมีข้อจำกัดอันxxxxxxxxxมาจากข้อบังคับของบริษัทว่าด้วยเรื่อง อัตราส่วนการถือหุ้นของคนต่างด้าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
(ก) บริษัทจะไม่ออกหุ้นสามัญxxxxxxxxให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxเป็นคนต่างด้าว ซึ่งได้xxxxxxการ ใช้xxxxxตาม เงื่อนไขการแจ้งความxxxxการใช้xxxxxตามข้อ 3.6 หากการใช้xxxxxดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของคนต่าง
ด้าวมีจำนวนเกินกว่าร้อยละ 49 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทตามที่ระบุในข้อบังคับของ บริษัท
(ข) หากข้อจำกัดตามข้อ (ก) ข้างต้นมีผลทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxเป็นคนต่างด้าวxxxxxxxxxxxxการใช้สิทธตาม เงื่อนไขการแจ้งความxxxxการใช้xxxxxตามข้อ 3.6 และตามหลักการ “xxxxxxได้ก่อน” (First-Come First- Served) ไม่xxxxxxใช้xxxxxxxxตามจำนวนที่ระบุในใบแจ้งความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญxxxxxxxxไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) ขอxxxxxxxxxในการส่ง เงินในส่วนxxxxxxxxxxxxใช้xxxxxxxxคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxเป็นคนต่างด้าวดังกล่าวโดยไม่มีดอกเบี้ย ภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้xxxxx xxxxxxx ตามวิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดโดยบรษัท และ/หรือ ตัวแทน รับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี)
(ค) นอกจากการส่งเงินในส่วนxxxxxxxxxxxxใช้xxxxxxxxคืนข้างต้น ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxเป็นคนต่างด้าวจะxxxxxxรับ การชดเชยหรือxxxxxxxxว่าในรูปแบบใดจากบริษัทและตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) ในกรณีxxx
xxxxxxxxxใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxxxxxโดยมีสาเหตุมาจากข้อจำกัดเรื่องอัตราส่วนการถือหุ้นของคนต่าง ด้าวตามข้อ (ก) ข้างต้น
3.7.3 จำนวนหุ้นสามัญที่ออกให้เมื่อมีการใช้xxxxxจะคํานวณโดยการนําจํานวนเงินในการใช้xxxxx ซึ่งผู้ถือใบสําคัญแสดงxxxxx หรือใบแทนใบสําคัญแสดงxxxxxxxxชําระตามที่กล่าวข้างต้น หารด้วยราคาการใช้xxxxxในขณะที่มีการใช้xxxxxนั้นโดย บริษัทจะออกหุ้นสามัญเป็นจํานวนเต็มไม่เกินจํานวนหน่วยของใบสําคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสําคัญxxx งxxxxx คูณด้วยอัตราการใช้xxxxxหากมีการปรับราคาการใช้xxxxx และ/หรืออัตราการใช้xxxxxแล้วทำให้มีเศษหุ้นเหลืออยู่จาก การคำนวณดังกล่าวบริษัทจะไม่นำเศษดังกล่าวมาคำนวณและจะชำระเงินที่เหลือจากการใช้xxxxxดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ ถือใบสำคัญแสดงxxxxxภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้xxxxxในแต่ละครั้ง โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ยไม่ว่าในกรณี ใด ๆ ในกรณีที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอัตราการใช้xxxxxตามเกณฑ์การปรับราคาการใช้xxxxxและอัตราการใช้xxxxx ตามที่ระบุในเงื่อนไขการปรับxxxxx และมีเศษของจำนวนหุ้นสามัญที่จะได้รับจากการใช้xxxxxตามใบสำคัญแสดงxxxxx ให้ตัดเศษของหุ้นทิ้ง
3.7.4 ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะต้องใช้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญไม่ต่ำกว่า 100 หุ้นสามัญ โดยจำนวนหน่วยของใบสำคัญ แสดงxxxxxxxxขอใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญจะต้องเป็นจำนวนเต็มเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxx มี xxxxxในการซื้อหุ้นต่ำกว่า 100 หุ้นสามัญ จะต้องใช้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญในครั้งเดียวทั้งจำนวน ยกเว้นในการใช้ xxxxxครั้งสุดท้ายนี้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะxxxxxxใช้xxxxxในการซื้อหุ้นสามัญโดยไม่มีการกำหนดจำนวนหุ้นสามัญ ขั้นต่ำ
3.7.5 หากบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx xxxรับเอกสารแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxตามข้อ
3.6.2 จ) ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง หรือจำนวนเงินที่บริษัทได้รับชำระไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ในแบบแสดงความ xxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญ หรือบริษัทตรวจสอบได้ว่าข้อความที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxกรอกลงในแบบแสดง ความxxxxการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญนั้นไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง หรือติดอากรแสตมป์ (ถ้ามี) ไม่ครบถ้วนถูกต้องตาม บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร ข้อบังคับ หรือกฎหมายต่าง ๆ ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxจะต้องทำการแก้ไขให้ ถูกต้องภายในระยะเวลาการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxในแต่ละครั้ง หากผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxทำการแก้ไขให้ ถูกต้องภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทและ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) จะxxxxxxผู้ถือ ใบสำคัญแสดงxxxxxแสดงxxxxxยกเลิกการใช้xxxxxซื้อหุ้นสามัญในครั้งนั้น ๆ และบริษัทและ/หรือ ตัวแทนรับแจ้ง ความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) จะจัดส่งเงินxxxxxxรับโดยไม่มีดอกเบี้ย และใบสำคัญแสดงxxxxxคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงxxxxx ภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้xxxxxในครั้งนั้น ๆ ตามวิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดโดยบริษัทและ/ หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) ทั้งนี้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxxxxxxxแจ้งความxxxxการใช้xxxxx ซื้อหุ้นสามัญใหม่ได้ ในวันกำหนดการใช้xxxxxครั้งต่อไป เว้นแต่การใช้xxxxxครั้งนั้นจะเป็นการใช้xxxxxครั้งสุดท้าย ให้xxx xxxใบสำคัญแสดงxxxxxนั้น ๆ สิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้xxxxx บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อดอกเบี้ยและ/หรือค่าเสียหาย อื่นใด ไม่ว่ากรณีใด ๆ
3.7.6 ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxชำระเงินในการใช้xxxxxxxxครบถ้วน บริษัท และ/หรือตัวแทนรับแจ้งความxxxxใน การใช้xxxxx (ถ้ามี) มีxxxxxxxxจะxxxxxxการประการใดประการหนึ่งตามลำดับ ดังต่อไปนี้ ตามที่บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) จะเห็นxxxxx
(ก) ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงxxxxxชำระเงินเพิ่มเติมตามจำนวนที่xxxxxxxจะใช้xxxxxให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาการ แจ้งความxxxxในการใช้xxxxxในครั้งนั้นหากบริษัทและ/หรือตัวแทนรับแจ้งความxxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี) xxxxxxรับเงินครบตามจำนวนในการใช้xxxxxภายในระยะเวลาดังกล่าวบริษัทและ/หรือตัวแทนรับแจ้งความ
xxxxในการใช้xxxxx (ถ้ามี)จะxxxxxxการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxในครั้งนั้นสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้xxxxx หรือ
(ข) xxxxxxจําxxxxxxxสามัญxxxxxxซื้อมีจํานวนเท่ากับจํานวนที่จะได้รับตามจํานวนเงินในการใช้xxxxxซึ่งบริษัทได้รับ ชําระไว้จริงตามราคาการใช้xxxxxและอัตราการใช้xxxxxในขณะนั้นหรือ
(ค) xxxxxxการแจ้งความxxxxในการใช้xxxxxในครั้งนั้นสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้xxxxx หมายเหตุ:ในการใช้xxxxxครั้งสุดท้ายบริษัทจะxxxxxxการตามข้อ (ข) ข้างต้น
ในกรณีตามข้อ (ก) และ (ค) บริษัทจะส่งเงินxxxxxxรับไว้และใบสําคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสําคัญแสดงxxxxxซึ่ง บริษัทxxxxxxไม่มีการใช้xxxxxดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ถือใบสําคัญแสดงxxxxxหรือใบแทนใบสําคัญแสดงสิทธิทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนภายใน 14 วันนับจากวันกําหนดการใช้สิทธิในครั้งนั้นๆ โดยไม่มีดอกเบี้ย
ในกรณีตามข้อ ข) บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี) จะถือว่ามีการใช้สิทธิเพียง บางส่วน และบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี) จะส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิส่วนที่ เหลือคืนให้กับผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 14 วันทำการนับจากวันกำหนดการใช้สิทธิ ในครั้งนั้นๆ พร้อมเงินส่วนที่เหลือ (ถ้ามี) โดยไม่มีดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่มีการใช้สิทธิ ดังกล่าว ยังมีผลต่อไปจนถึงวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย เว้นแต่เป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
3.7.7 ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าอากรแสตมป์หรือภาษีอื่นใด (ถ้า มี) ตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรหรือข้อบังคับ หรือกฎหมายต่างๆที่ใช้บังคับในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตาม ใบสําคัญแสดงสิทธิ
3.7.8 ในกรณีที่บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี) ไม่สามารถคืนเงินส่วนที่ไม่ได้ใช้สิทธิ ให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้ภายในระยะเวลา 14 วันนับแต่วันครบกำหนดการใช้สิทธิในครั้งนั้น ๆ ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยคำนวณจากเงินส่วนที่ไม่ได้ใช้สิทธินับแต่วันที่พ้น กำหนด 14 วันดังกล่าวจนถึงวันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับคืน
อย่างไรก็ดี หากบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี) ได้ทำการส่งเช็ค ดร๊าฟท์ ตั๋วแลก เงินธนาคาร หรือคำสั่งจ่ายเงินของธนาคาร ซึ่งขีดคร่อมสั่งจ่ายเฉพาะชื่อผู้ถือใบสำคัญสิทธิ ทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิโดยถูกต้องแล้ว ให้ถือว่าผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิ ได้รับเงินคืนโดยชอบและผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ไม่มีสิทธิเรียกร้องดอกเบี้ย และ/หรือค่าเสียหายใด ๆ อีก ต่อไป
3.7.9 เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการแจ้งความจำนงการ ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวคือ ได้ส่งมอบทั้งใบสำคัญแสดงสิทธิ แบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้น สามัญ พร้อมทั้งหลักฐานประกอบการใช้สิทธิตามข้อ 3.6.2 จ) และชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญถูกต้องและ ครบถ้วนสมบูรณ์ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ จะไม่สามารถเพิกถอนการใช้สิทธิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็น หนังสือจากบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี)
3.7.10 เมื่อพ้นกําหนดวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายแล้วแต่ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสําคัญแสดงสิทธิยังมิได้ปฏิบัติ ตามเงื่อนไขของการใช้สิทธิที่กําหนดไว้อย่างครบถ้วนให้ถือว่าใบสําคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสําคัญแสดงสิทธินั้น ๆ สิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ และผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสําคัญแสดงสิทธิจะใช้สิทธิไม่ได้อีก
3.7.11 ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิ เป็นจำนวนมากกว่าจำนวนที่ประสงค์จะใช้สิทธิ บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี) จะส่งใบสำคัญแสดงสิทธิใบใหม่โดยมีจำนวนของ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ลดลงให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว หากใบสำคัญแสดงสิทธินั้นอยู่ในระบบใบหุ้น โดย ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 14 วันนับจากวันครบกำหนดการใช้สิทธิ นั้น ๆ และจะทำการยกเลิกใบสำคัญ แสดงสิทธิใบเก่า
3.7.12 บริษัทจะยื่นขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัทต่อกระทรวงพาณิชย์ตามจำนวนหุ้นสามัญที่ออก ใหม่สำหรับการใช้สิทธิในแต่ละครั้งภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่บริษัทได้รับชำระค่าหุ้นตามจำนวนที่มีการใช้สิทธิ แต่ละครั้ง และบริษัทจะดำเนินการให้นายทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ใช้
สิทธินั้นเข้าเป็นผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นตามจำนวนหุ้นสามัญที่คำนวณได้จากการใชส ในครั้งนั้น
ิทธิ
ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกเนื่องจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ เป็น หลักทรัพย์จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 30 วันนับแต่วันกำหนดการใช้สิทธิแต่ละครั้ง
หุ้นสามัญใหม่ที่ออกเนื่องจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีสิทธิและสถานะเท่าเทียมกับหุ้นสามัญของ บริษัทที่ได้ออกไปก่อนหน้าแล้วทุกประการ นับตั้งแต่วันที่มีการจดแจ้งชื่อของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือผู้รับสิทธิ แทนเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทและจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วเนื่องจากการออกหุ้นสามัญใหม่ จากการใช้สิทธตาม ใบสำคัญแสดงสิทธิกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว
3.7.13 การส่งมอบหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เกิดจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามใบสำคัญแสดงสิทธิผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดง สิทธิที่ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญสามารถเลือกให้บริษัทดำเนินการในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(ก) ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรหุ้นประสงค์จะขอรับใบหุ้นสามัญ โดยให้ออกใบหุ้นในนาม ของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ จะส่งมอบใบหุ้นตามจำนวนที่ใช้สิทธิแก่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ตามชื่อที่อยู่ที่ระบุไว้ในสมุดทะเบียน ภายใน 15 วันทำการนับจาก วันครบกำหนดการใช้สิทธิแต่ละครั้ง ในกรณีนี้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ จะไม่สามารถขายหุ้นสามัญที่เกิดจาก การใช้สิทธิในตลาดหลักทรัพย์ได้จนกว่าจะได้รับใบหุ้น ซึ่งอาจจะได้รับภายหลังจากที่หุ้นสามัญที่เกิดจากการ ใช้สิทธิได้รับอนุญาตให้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
(ข) ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นไม่ประสงค์จะขอรับใบหุ้นสามัญ แต่ประสงค์จะใช้บริการ ของศูนย์ฝากหลักทรัพย์ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิประสงค์ที่จะฝากหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิไว้ใน บัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ ในกรณีนี้ ศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ จะดำเนินการนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิฝากไว้กับ “บริษัทศูนย์ฝากหลักทรัพย์ (ประเทศ ไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก “และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนหุ้นสามัญที่บริษัทหลักทรัพย์ นั้นฝากหุ้นสามัญอยู่ ในขณะเดียวกันบริษัทหลักทรัพย์นั้นก็จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนหุ้นสามัญที่ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญฝากไว้และออกหลักฐานการฝากให้แก่ผู้ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญภายใน 7วัน ทำการนับจากวันครบกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ในกรณีนี้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการ จัดสรรหุ้นสามัญ จะสามารถขายหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิในตลาดหลักทรัพย์ได้ทันทีที่ตลาดหลักทรัพย์ อนุญาตให้หุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
(ค) ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ เลือกให้บริษัทดำเนินการตามข้อ (ข) ชื่อของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับ การจัดสรรหุ้น จะต้องตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิประสงค์ที่จะฝากหุ้น สามัญไว้ในบัญชีหลักทรัพย์ดังกล่าว มิฉะนั้น บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการออกใบหุ้นแก่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรหุ้นตามข้อ (ก) แทน
(ง) ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญไม่ประสงค์จะขอรับใบหุ้น แต่ประสงค์จะใช้บริการของศนย์รับ ฝากหลักทรัพย์ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิประสงค์ที่จะฝาก หุ้นสามัญไว้ในบัญชีของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ สมาชิกเลขที่ 600 กรณีนี้ บริษัทจะดำเนินการนำหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิฝากไว้กับศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนหุ้นสามัญ ตามจำนวนผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิได้รับการจัดสรรไว้ในบัญชีผู้ออกหลักทรัพย์ สมาชิกเลขที่ 600 และออกหลักฐานการฝากให้แก่ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับจากการจัดสรรหุ้นภายใน 7 วัน ทำการนับจากวันครบกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละ ครั้ง เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรหุ้นต้องการขายหุ้น ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการ จัดสรรหุ้นต้องถอนหุ้นออกจากบัญชีเลขที่ 600 ดังกล่าว โดยต้องติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ทั่วไป ซึ่งอาจจะ มีค่าธรรมเนียมในการดำเนินตามที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และ/หรือ บริษัทหลักทรัพย์นั้น ๆ กำหนด ดังนั้น ในกรณีนี้ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรหุ้นจะสามารถขายหุ้นที่ได้รับการจัดสรรในตลาด หลักทรัพย์ได้ทันทีที่ตลาดหลักทรัพย์อนุญาตให้หุ้นของบริษัททำการซื้อขายได้ในตลาดหลักแห่งประเทศไทย และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรหุ้นได้ดำเนินการถอนหุ้นออกจากบัญชีเลขที่ 600 ดังกล่าวแล้ว
3.7.14 การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และอัตราการใช้สิทธิ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้ราคาการใช้ สิทธิใหม่สูงขึ้น และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิลดลง เว้นแต่กรณีการรวมหุ้น สำหรับการคำนวณจำนวนเงินจากการใช้ สิทธิ จะคำนวณจากราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง (ทศนิยม 5 ตำแหน่ง) คูณกับจำนวนหุ้นสามัญ (จำนวนหุ้นสามัญคำนวณได้จาก อัตราการใช้สิทธิใหม่ คูณกับจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่แสดงความจำนงการใช้ สิทธิ เมื่อคำนวณได้จำนวนหุ้นออกมาเป็นเศษหุ้นให้ตัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง) ในกรณีจำนวนเงินที่คำนวณได้จากการ ใช้สิทธิมีเศษของบาทให้ตัดเศษของบาททิ้ง
3.7.15 ในกรณีที่หุ้นสามัญที่สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิมีไม่เพียงพอ บริษัทจะดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้ อย่างไรก็ตามบริษัทจะไม่ชดใช้ ค่าเสียหายให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้ ถึงแม้ว่าจะมีหุ้น สามัญเพียงพอในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวหรือบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยที่ไม่สามารถใช้ สิทธิได้ เพราะถูกจำกัดสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นตามที่ระบุในข้อบังคับบริษัท
3.7.16 ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ แสดงความจำนงใช้สิทธิโดย ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว จนถึงก่อนวันที่นายทะเบียนหุ้นของบริษัทจดแจ้งชื่อของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทน ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว เป็นผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท และกระทรวงพาณิชย์ได้รับจด ทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วอันเนื่องมาจากการใช้สิทธินั้น บริษัทจะถือว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทน ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว มีสิทธิและสภาพเช่นเดียวกับผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ ยังไม่ได้แสดงความจำนงใช้สิทธิ แต่ทั้งนี้ นับแต่วันที่นายทะเบียนหุ้นของบริษัทได้จดแจ้งชื่อของผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้แสดงความจำนงในการใช้สิทธิโดยถูกต้องสมบูรณ์แล้วในสมุดทะเบียน รายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทและกระทรวงพาณิชย์ได้รับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วอันเนื่องมาจากการใช้สิทธินั้น บริษัทจะถือว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยสมบูรณ์
4. มาตรการคุ้มครองผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
4.1 สิทธิของบริษัทในการเรียกให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิใช้สิทธิก่อนระยะเวลาที่กำหนดตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่บริษัทออกครั้งนี้ ไม่มีข้อกำหนดให้บริษัทสามารถเรียกให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิใช้สิทธิก่อน ระยะเวลาที่กำหนดตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
4.2 เงื่อนไขการปรับสิทธิ
การปรับสิทธิมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งนี้ราคาการใช้สิทธิจะถูก ปรับในกรณีที่มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามที่กำหนด และอัตราการใช้สิทธิจะถูกปรับให้สอดคล้องกับการปรับราคาการใช้สิทธทั้งนี้ โดยมีหลักการพื้นฐานที่จะรักษามูลค่าแห่งสิทธิตลอดอายุใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ให้ด้อยค่าลง ทั้งนี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ตอบ แทนของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ให้ด้อยไปกว่าเดิม บริษัทจะดำเนินการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิในการซื้อ หุ้นสามัญตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งดังต่อไปนี้
(ก) เมื่อบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท อันเป็นผลมาจากการรวมหรือการแบ่งแยก หุ้นสามัญที่ได้ออกแล้วของบริษัท
(ข) เมื่อบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือบุคคลใด ๆ โดยราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้น สามัญที่ออกใหม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ“ราคาตลาดของหุ้นสามัญบริษัท”
(ค) เมื่อบริษัทเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใด ๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือบุคคลใด ๆ โดยที่หลักทรัพย์นั้นให้ สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ จะซื้อหุ้นสามัญ โดยราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับสิทธิดังกล่าวต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ “ราคาตลาดของหุ้นสามัญบริษัท”
(ง) เมื่อบริษัทจ่ายปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท
(จ) เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นเงินเกินกว่าอัตราร้อยละ 80 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของบริษัท สำหรับ การดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีใด ๆ ตลอดอายุใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกในครั้งนี้
(ฉ) ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใด ๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิและ ผลประโยชน์ใด ๆ อันพึงได้ โดยที่เหตุการณ์ใด ๆ นั้นไม่ได้กำหนดอยู่ในข้อ (ก) ถึง (จ)
การดำเนินการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิในกรณีต่าง ๆดังกล่าวข้างต้นเป็นไปตามสูตรและวธีการ คำนวณดังต่อไปนี้
(ก) เมื่อบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทอันเป็นผลมาจากการรวมหุ้นหรือแบ่งแยก หุ้นสามัญที่ได้ออกแล้วของบริษัท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับใช้ ตามที่เผยแพร่ผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(1) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 | = | Price 0 x (Par 1) |
Par 0 |
(2) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 | = | Ratio 0 x (Par 0) |
Par 1 |
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Par 1 คือ มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญหลังการเปลยนแปลง
Par 0 คือ มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญก่อนการเปลยนแปลง
(ข) เมื่อบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและ/หรือประชาชนทั่วไปและ/หรือบุคคลในวงจำกัด โดยราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ “ราคาตลาดของหุ้นสามัญบริษัท” การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันที ตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้ รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่
เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดม บุคคลใดๆ แล้วแต่กรณี
(Right Issue) และ/หรือวันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่
“ราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่” คำนวณได้จากจำนวนเงินทั้งหมดที่บริษัทจะได้รับจากการเสนอ
ขายหุ้นสามญ ครั้งนั้น
หักด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเสนอขายหุ้น หารดวยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ทั้งหมดใน
ในกรณีที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่พร้อมกันในราคาเสนอขายที่แตกต่างกันภายใต้เงื่อนไขที่จะต้อง จองซื้อหุ้นดังกล่าวด้วยกัน ให้นำราคาหุ้นดังกล่าวและจำนวนหุ้นที่ออกใหม่ทั้งหมดมาคำนวณราคาเฉลี่ยต่อหุ้น ของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ แต่ในกรณีที่การเสนอขายพร้อมกันดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องจองซื้อ ด้วยกัน ให้นำจำนวนหุ้นและราคาเสนอขายที่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ “ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท ” มาคำนวณการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
“ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท” กำหนดไว้เท่ากับ “ราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักต่อหุ้นของหุ้นสามัญ บริษัท” โดยที่ “ราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักต่อหุ้นของหุ้นสามัญบริษัท” หมายถึง มูลค่าการซื้อขายหุ้นสามัญ ทั้งหมดของบริษัท หารด้วยจำนวนหุ้นสามญของบริษัทที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ในระยะเวลา 14 วันทำการ (วันที่เปิดทำการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์)ติดต่อกนก่อนวันที่ใช้ในการคำนวณ
“วันที่ใช้ในการคำนวณ” หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Issue) และ/หรือวันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ บุคคลใด ๆ แล้วแต่กรณี
ในกรณีที่ไม่สามารถหา “ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท” เนื่องจากหุ้นสามัญไม่มีการซื้อขายในช่วงเวลา ดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการกำหนดราคายุติธรรมเพื่อใช้ในการคำนวณแทน
“ราคายุติธรรม” หมายถึง ราคาที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบ
(1) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 | = | Price 0 x [(A x MP) + BX] |
[MP(A+B)] |
(2) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 | = | Ratio 0 x [(MP(A+B)] |
[(A x MP) + BX] |
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
MP คือ ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทตามความหมายเช่นเดียวกับรายละเอียดใน ข้อ
4.2 (ข)ข้างต้น
A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่เรยกชำระเต็มมูลค่าแล้วณวันก่อนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิ ในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและ/หรือก่อนวันแรกของการเสนอ ขายหุ้นสามญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปและ/หรือกรณีเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ บุคคลในวงจำกัดแล้วแต่กรณี
B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดมและ/หรือเสนอขายต่อ ประชาชนทั่วไปและ/หรือเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดแล้วแต่กรณี
BX คือ จำนวนเงินที่บริษัทจะได้รับทั้งสิ้นหลังหักค่าใช้จ่ายจากการเสนอขายหุ้นสามญที่ออก ใหม่ (ถ้ามี) ทั้งในกรณีการเสนอขายหุ้นสามญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและ/หรือเสนอขาย ประชาชนทั่วไปและ/หรือเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
(ค) เมื่อบริษัทเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและ/หรือเสนอขายประชาชนทั่วไปและ/หรือ บุคคลในวงจำกัดโดยที่หลักทรัพย์นั้นมีสิทธิที่จะแปลงสภาพ / เปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิในการซ้ือหุ้น สามัญ (“หลักทรัพย์ที่ออกใหม่ที่มีสิทธิแปลงสภาพ”) เช่นหุ้นกู้แปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ โดยราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับสิทธิดังกล่าวต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ “ราคาตลาดของ หุ้นสามัญบริษัท”
การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ จะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญไม่ได้รับ สิทธิในการซื้อหลักทรัพย์ใด ๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (วันแรกที่ ตลาดหลักทรัพย์ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XR หรือ XW) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Issue) และ/หรือวันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใด ๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้น สามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปและ/หรือกรณีที่เป็นการ เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดแล้วแต่กรณี
“ราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรับรองการใช้สิทธิ” คำนวณจากจำนวนเงินที่บริษัทจะได้รับ จากการขายหลักทรัพย์ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ รวมกับเงินที่จะ
ได้รับจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญนั้น ถ้ามีการใช้สิทธิทั้งหมด หักด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากก ารเสนอขาย หลักทรัพย์ที่ออกใหม่ หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งสิ้นที่ต้องออกใหม่เพื่อรองรับกับการใช้สิทธินั้น
อนึ่ง ในกรณีที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่พร้อมกันมากกว่า 1 ราคาการเสนอขาย ภายใต้เงื่อนไขที่ จะต้องจองซื้อหุ้นดังกล่าวด้วยกัน ให้นำราคาเสนอขายทุกราคามาคำนวณราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออก ใหม่ แต่ในกรณีที่การเสนอขายดังกล่าวไม่อยู่ภายในเงื่อนไขที่ต้องจองซื้อด้วยกัน ให้นำเฉพาะราคาเสนอขายที่ ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ "ราคาตลาดต่อหุ้นของหุ้นสามัญของบริษัท" มาคำนวณการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท มีความหมายเช่นเดียวกับรายละเอียดในข้อ 4.2 (ข)ข้างต้น “วันที่ใช้ในการคำนวณ” หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ ใด ๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์
ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XR หรือ XW) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นเดิม
(Right Issue) และ/หรือวันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ใด ๆที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้น สามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญแก่แก่บุคคลใด ๆแล้วแต่กรณี
(1) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 | = | Price 0 x [(A x MP) + BX] |
[MP(A+B)] |
(2) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 | = | Ratio 0 x [(MP(A+B)] |
[(A x MP) + BX] |
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
MP คือ ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทตามความหมายเช่นเดียวกับรายละเอียด
ในข้อ 4.2 (ข)ข้างต้น
A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้วณวันก่อนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือ
หุ้นเพื่อการจองซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ที่มีสิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้น สามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญกรณีเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและ/ หรือก่อนวันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ที่มีสิทธิแปลงสภาพ เป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามญกรณีเสนอขายให้แก่บุคคลใด ๆ แล้วแต่กรณี
B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์ใด ๆ ที่ให้
สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญที่จะเสนอ ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและ/หรือเสนอขายให้แก่บุคคลใด ๆ แล้วแต่กรณี
BX คือ จำนวนเงินที่บริษัทจะได้รับทั้งสิ้นหลังหักค่าใช้จ่าย (ถ้ามี)จากการออก
หลักทรัพย์ใด ๆ ที่ให้สิทธิที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญหรือให้สิทธิในการ
ซื้อหุ้นสามัญสำหรับการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและ/หรือเสนอขาย ให้แก่บุคคลใด ๆ รวมกับเงินที่จะได้รับจากการใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้น สามัญหรือใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ
(ง) เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ จะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญไม่มีสิทธิ รับหุ้นปันผล (วันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย XD)
(1) ราคาการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 | = | Price 0 x A |
(A+B) |
(2) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 | = | Ratio 0 x (A+B) |
A |
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
A คือ จำนวนหุ้นสามัญที่เรยกชำระเต็มมูลค่าแล้วณวันก่อนปิดสมุดทะเบียนผู้ถือ หุ้นเพื่อสิทธิในการรับหุ้นสามัญปันผล
B คือ จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในรูปแบบของหุ้นสามัญปันผล
(จ) เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นเงินเกินกว่าอัตราร้อยละ 80 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะของบริษัท (ที่ได้มี การตรวจสอบแล้ว) หลังจากหักขาดทุนสะสม สำรองตามกฎหมาย ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยและภาษีเงินได้ จากผลการดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีใด ๆ ในระหว่างอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ การเปลี่ยนแปลงราคา การใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (วัน แรกที่ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย XD)
ทั้งนี้อัตราร้อยละของเงินปันผลที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้นคำนวณโดยนำเงินปันผลที่จ่ายออกจริงจากผลการ ดำเนินงานในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีหารด้วยกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของผลการดำเนินงานของรอบ ระยะเวลาบัญชีปีเดียวกันโดยที่เงินปันผลที่จ่ายออกจริงดังกล่าวให้รวมถึงเงินปันผลที่จ่ายระหว่างกาลในแต่ละ รอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าวด้วย
ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบรษัท ให้ใช้และมีความหมายเช่นเดียวกับรายละเอียดในข้อ 4.2 (ข) ข้างต้น “วันที่ใช้ในการคำนวณ” หมายถึง วันแรกที่ผู้ซื้อหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในเงินปันผล (วันแรกที่ตลาด หลักทรัพย์ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD)
(1) ราคาการใช้สิทธิ จะเปลยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Price 1 | = | Price 0 x [MP – (D – R)] |
MP |
(2) อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
Ratio 1 | = | Ratio 0 x MP |
[MP – (D – R)] |
โดยที่
Price 1 คือ ราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
Price 0 คือ ราคาการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
Ratio 1 คือ อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลยนแปลง
Ratio 0 คือ อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลยนแปลง
MP คือ ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทมีความหมายเช่นเดียวกับรายละเอียดใน
ข้อ 4.2 (ข)ข้างต้น
D คือ เงินปันผลต่อหุ้นที่จ่ายจริงให้ผู้ถือหุ้น
R คือ เงินปันผลต่อหุ้นที่จ่ายในอัตราร้อยละ40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี เงินได้ หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล
(ฉ) ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใด ๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิและ ผลประโยชน์ใด ๆ อันพึงได้ โดยที่เหตุการณ์ใด ๆ นั้น ไม่ได้กำหนดไว้ในข้อ 4.2 (ก) ถึง 4.2 (จ) ดังกล่าวขางต้น ให้บริษัทพิจารณาเพื่อกำหนดการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรืออัตราการใช้สิทธิ (หรือปรับจำนวน หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิแทนอัตราการใช้สิทธิ) ใหม่อย่างเป็นธรรม และไม่ทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธไิ ด้รับ ผลประโยชน์ด้อยไปจากเดิม โดยให้ถือว่าผลการพิจารณานั้นเป็นที่สุด และให้บริษัทแจ้งให้สำนักงาน ก.ล.ต . ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ ทราบถึงรายละเอียดดังกล่าวด้วยภายใน 15 วัน นับแต่วันที่มีเหตุให้ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิดังกล่าว
(ช) การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 4.2 (ก) ถึงข้อ 4.2 (ฉ) เป็นอิสระต่อ กัน และจะคำนวณการเปลี่ยนแปลงตามลำดับเหตุการณ์ก่อนหลังของการเปรียบเทียบกับราคาตลาดของหุ้น สามัญของบริษัท ในกรณีที่เหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นพร้อมกัน ให้คำนวณการเปลี่ยนแปลงเรยงลำดบดังนี้คือ ข้อ
4.2 (ก) ข้อ 4.2 (จ)ข้อ 4.2 (ง) ข้อ 4.2 (ข) ข้อ 4.2 (ค) และข้อ 4.2 (ฉ) โดยในแต่ละลำดับครั้งที่คำนวณการ เปลี่ยนแปลง ให้คงสภาพของราคาการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 3 ตำแหน่ง และอัตราการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 5 ตำแหน่ง ทั้งนี้ในการคำนวณการปรับสิทธิของเหตุการณ์ในลำดับใดให้นำค่าตัวแปรที่ผ่านการคำนวณการปรับสิทธิของ ลำดับก่อนหน้า (ถ้ามี) มาเป็นค่าตัวแปรก่อนการเปลี่ยนแปลงในการคำนวณการปรับสิทธิลำดับนั้น
(ซ) การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 4.2 (ก) ถึงข้อ 4.2 (ฉ) จะไม่มีการ เปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่สูงขึ้น และ/หรืออัตราการใช้สิทธิลดลง เว้นแต่กรณีการรวมหุ้น สำหรับการคำนวณจำนวนเงินจากการใช้สิทธิ จะคำนวณจากราคาการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง (ทศนิยม 5 ตำแหน่ง) คูณกับจำนวนหุ้นสามัญ (จำนวนหุ้นสามัญคำนวณจากอัตราการใช้สิทธิใหม่ คูณกับ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่แสดงความจำนงการใช้สิทธิ เมื่อคำนวณได้จำนวนหุ้นออกมาเป็นเศษหุ้น ให้ตัดเศษ ของหุ้นนั้นทิ้ง) ในกรณีจำนวนเงินที่คำนวณได้จากการใช้สิทธิ มีเศษของบาทให้ตัดเศษของบาททิ้ง
ทั้งนี้ในกรณีที่การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิดังกล่าวมีผลทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ตรา ไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท ให้ใช้มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทเป็นราคาการใช้สิทธิใหม่ส่วนอัตราการ ใช้สิทธิใหม่ให้ใช้อัตราการใช้สิทธิที่คำนวณได้ตามข้อ 4.2 (ก) ถึงข้อ 4.2 (ฉ) เช่นเดิม เว้นแต่กฎหมายกำหนดไว้ เป็นอย่างอื่น
(ฌ) บริษัทอาจทำการปรับราคาการใช้สิทธิควบคู่กับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิใหม่ทดแทนการปรับอัตราการใช้ สิทธิก็ได้
(ญ) การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิตามข้อ 4.2 (ก) ถึงข้อ 4.2 (ฉ) และ/หรือ การ ออกใบสำคัญแสดงสิทธิใหม่ทดแทนการปรับอัตราการใช้สิทธิตามข้อ (ฌ) บริษัทจะดำเนินการแจ้งรายละเอียด เกี่ยวกับการปรับอัตราและราคาของใบสำคัญแสดงสิทธิทันทีหรือก่อน 9.00 น. ของวันที่อัตราหรือราคาใช้สิทธิ แปลงสภาพมีผลบังคับใช้ผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดทรัพย์ หรือระบบอื่นใด ตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด และแจ้งต่อสำนักงาน กลต. ภายใน 15 วันนับแต่วันที่การปรับสิทธิมีผลบังคับ ใช้ และจัดส่งข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไขเพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 15 วันนับแต่วันท่ีได้รับการ ร้องขอเป็นหนังสือจากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิและจะจัดให้มีการเก็บรักษาสำเนาข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไข เพิ่มเติม ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัท และ/หรือ สำนักงานใหญ่ของตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ เพื่อให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ สามารถขอตรวจสอบสำเนาข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ในวันและเวลาทำ การของสถานที่ดังกล่าว
5. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
5.1 การแก้ไขส่วนที่มิใช่สาระสำคัญหรือที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิอย่างชัดแจ้ง หรือเรื่องที่ต้อง ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือกฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้อง กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับ หรือคำสั่งที่มีผลบังคับทั่วไปหรือประกาศหรือข้อบังคับของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ เกี่ยวข้องหรือกรณีปรับสิทธิตามข้อ 4.2 หรือเรื่องที่ไม่ทำให้สิทธิประโยชน์ของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิด้อยลง หรือการแก้ไข ข้อผิดพลาดที่เห็นได้โดยชัดแจ้ง ให้บริษัท (โดยการอนุมัติของคณะกรรมการบริษัท) กระทำโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากที่ ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิก่อน
5.2 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญ
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธินอกจากกรณีข้อ 5.1 ต้องได้รับความยินยอมจากบริษัทและมติที่ประชุมผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ และได้แจ้งให้สำนักงาน ก.ล.ต. ทราบแล้ว
5.3 การแจ้งข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไขเปลี่ยนแปลง
บริษัทจะดำเนินการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ สำนักงาน ก.ล.ต. และนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ ให้ทราบถึง รายละเอียดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิตามที่กล่าวในข้อ 5.1 หรือ 5.2 และจะจัดส่งข้อกำหนดสิทธิที่มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลงดังกล่าวภายใน 15 วันนับแต่วันที่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิมีผลบังคับ และบริษัทจะดำเนินการแจ้ง ต่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุกรายให้ทราบถึงรายละเอียดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิตามที่กล่าวในข้อ 5.1 หรือ 5.2 ผ่านระบบ SETLink ในวันเดียวกันกับวันที่บริษัทแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ สำนักงาน ก.ล.ต. และนายทะเบียนใบสำคญแสดง สิทธิ และจะจัดส่งข้อกำหนดสิทธิที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 15 วันนับแต่วันที่ ได้รับการร้องขอเป็นหนังสือจากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามสมควรตามที่
บริษัทกำหนด ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการเก็บรักษาสำเนาข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไขเปลี่ยนแปลง ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัท และ สำนักงานใหญ่ของตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี) เพื่อให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถขอตรวจสอบสำเนา ข้อกำหนดสิทธิที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ในวันและเวลาทำการของสถานที่ดังกล่าว
5.4 บริษัท และ/หรือ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่สามารถเสนอให้แก้ไขข้อกำหนดสิทธิในเรื่องการขยายอายุของ ใบสำคัญแสดงสิทธิ อัตราการใช้สิทธิ และราคาการใช้สิทธิ เว้นแต่เป็นกรณีการปรับสิทธิตามข้อ 4.2
5.5 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิไม่ว่ากรณีใด ๆ ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ รวมทั้งข้อกำหนดแห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.34/2551 เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาต ให้เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่ออกใหม่ และหุ้นที่ออกใหม่เพื่ อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ ฉบับลงวันที่ 15 ธันวาคม 2551 รวมทั้งข้อแก้ไขเพิ่มเติมหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ตลอดจนกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)
6. การชดใช้ค่าเสียหาย กรณีบริษัทไม่สามารถจัดให้มีหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิขายใบสำคัญแสดงสิทธิได้
บริษัทจะชดใช้ค่าเสยหายให้แก่ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิตามรายละเอียดดังนี้
6.1 บริษัทจะชดใช้ค่าเสียหายให้เฉพาะผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่แจ้งความจํานงที่จะใช้ สิทธิ ในวันกําหนดการใช้สิทธิแต่ละครั้งอย่างถูกต้องและครบถ้วนแล้วซึ่งบริษัทไม่สามารถจัดให้มีหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้ สิทธิตามใบสําคัญแสดงสิทธิได้อย่างเพียงพอยกเว้น กรณีตามที่ระบุไว้ในข้อจำกัดการใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของผู้ ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวหรือบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย ในข้อ 3.7.2 หรือข้อจำกัดการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิและ หุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ ในข้อ 13
ค่าเสียหายที่บริษัทจะชดใช้ให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิจะคำนวณตามสูตรการ คำนวณดังนี้
ค่าเสียหายต่อใบสําคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย | = | B x [MP – EP] |
โดยที่ B คือ จํานวนหุ้นสามัญที่ไม่สามารถจัดให้มีและ/หรือเพิ่มขึ้นได้ตามอัตราการใช้สิทธิที่ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นต่อ 1 หน่วย
MP คือ ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทในวันกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ มาแสดงความจำนงในการ ใช้สิทธิ (ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัท คำนวณจากมูลค่าการซื้อ ขายหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญของบริษัทที่มีการซื้อขาย ทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์)
EP คือ ราคาการใช้สิทธิตามใบสําคัญแสดงสิทธิหรือราคาการใช้สิทธิตามเงื่อนไขการปรบั สิทธิหากมีการปรับราคาการใช้สิทธิ
ในกรณีที่ไม่สามารถหา “ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท” เนื่องจากหุ้นสามัญของบริษัทไม่มีการซื้อขายใน ช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทจะดำเนินการกำหนดราคายุติธรรมเพื่อใช้ในการคำนวณแทน
6.2 การชดใช้ค่าเสียหายตามข้อ 6.1 บริษัทจะชำระให้เป็นเช็คระบุชื่อขีดคร่อมสั่งจ่ายเฉพาะ และจะจัดส่งทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนตอบรับภายใน 14 วันทำการนับจากวันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมาแจ้งความจำนงที่จะใช้สิทธิ ในกรณีที่บริษทไม่ สามารถคืนเงินค่าเสียหายให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะได้รับดอกเบี้ย
ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยคำนวณนับแต่วันที่พ้นกำหนด 14 วันดังกล่าวจนถึงวันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ได้รับคืนเงิน ค่าเสียหาย
อย่างไรก็ดไี ม่ว่าในกรณีใด ๆ หากบริษัทได้ทำการส่งเช็คดร๊าฟท์ตั๋วแลกเงินธนาคารหรือคำสั่งจ่ายเงินของธนาคารซึ่ง ขีดคร่อมสั่งจ่ายเฉพาะชื่อผู้ถือใบสำคัญสิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ
โดยถูกต้องแล้วให้ถือว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไดรับเงินค่าเสียหายคืนแล้วโดยชอบและไม่มส ค่าเสียหายใด ๆ อีกต่อไป
6.3 การชดใช้ค่าเสียหายตามข้อนี้ให้ถือเป็นสิ้นสุด
7. การประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
ิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยและ/หรือ
การเรียกและ/หรือการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิให้เป็นไปตามวิธีการดังต่อไปนี้
7.1 การเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัทมีสิทธิเรียกการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้ไม่ว่าในเวลาใด ๆ ตามที่เห็นสมควรแต่บริษัทต้องจัดให้มีการ ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อขอมติในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันเกิดเหตุการณ์ ดังต่อไปนี้
(ก) หากมีการเสนอขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิในสาระสำคัญไม่ว่าโดยบริษัทหรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 5.2 หรือตามที่จะกล่าวต่อไปใน (ข) ทั้งนี้ ผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิและ/หรือผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิไม่มีสิทธิที่จะเสนอให้แก้ไขข้อกำหนดสิทธิในเรื่องการขยายอายุใบสำคัญแสดงสิทธิหรือการ เปลี่ยนแปลงราคาหรืออัตราการใช้สิทธิหรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใด ๆ อันจะเป็นผลกระทบในด้านลบต่อสิทธิ และ/หรือส่วนได้เสียของผู้ถือหุ้นของบริษัทหรือที่ผิดไปจากเงื่อนไขที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทได้ลงมติไว้ เว้น แต่การปรับสิทธิตามที่ระบุไว้ในข้อ 4.2
(ข) เมื่อบริษัทหรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนหน่วย ของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้มีการใช้สิทธิ ประสงค์จะเสนอขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิตามข้อ 5. (ทั้งนี้บริษัทและ/หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่มีสิทธิที่จะเสนอขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิในเรื่อง อัตราการใช้สิทธิราคาการใช้สิทธิและอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ)
หากบริษัทไม่ดำเนินการเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายในระยะเวลาที่กำหนดผถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้มการ ใช้สิทธิ ณ ขณะนั้น สามารถดำเนินการเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิแทนบริษัทได้
บริษัทจะปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิในการเข้าร่วมประชุมและออกเสียง ลงคะแนนในการประชุมดังกล่าวเป็นระยะเวลาไม่เกิน 21 วันก่อนวันประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ โดย ผู้ ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมจะต้องมีรายชื่อเป็นผถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ณ วันก่อนวันปิดสมุด ทะเบียนดังกล่าว (วันก่อนวันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XM)
7.2 หนังสือเชิญประชุม
ในการเรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ว่าจะเป็นการประชุมเนื่องจากบริษัทหรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิร้อง ขอให้บริษัทส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ (ระบุสถานที่ที่จะใช้ประชุมโดยต้องอยู่ในท้องที่อันเป็นที่ตั้ง
สำนักงานใหญ่ของบริษัทหรือจังหวัดใกล้เคียงหรือกรุงเทพมหานครวันและเวลาที่จะประชุมรวมทั้งเรองที่จะพิจารณาในที่ ประชุม) ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุกรายและแจ้งให้นายทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทราบเป็น ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนวันประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ และต้องไม่เกิน 5 วันทำการนับแต่วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XM)
7.3 การมอบฉันทะ
ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิอาจแต่งตั้งผู้รับมอบฉันทะให้เข้าร่วมประชุมและ/หรือออกเสยงลงคะแนนในที่ประชุมผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิคราวใดๆก็ได้โดยผรับมอบฉันทะดังกล่าวจะต้องยื่นหนังสือมอบฉันทะ (ซึ่งทำตามแบบที่บริษัทและ/หรือ นายทะเบียนกำหนดและได้จัดส่งให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิพร้อมกับหนังสือเรียกประชุมแล้ว) ต่อประธานที่ประชุมหรือ บุคคลที่ประธานกรรมการมอบหมายก่อนเริ่มการประชุม
7.4 องค์ประชุม
องค์ประชุมในการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องประกอบด้วยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ และ/หรอ ผู้รับมอบ
ฉันทะ มาประชุมกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไมไ่ ด้ใช้สิทธิ ณ ขณะนั้น จึงจะครบเป็น องค์ประชุม และหากปรากฏว่าการประชุมครั้งใด เมื่อล่วงเลยเวลานัดไปแล้ว 60 นาที แต่มีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเข้าร่วม ประชุมยังไม่ครบเป็นองค์ประชุม ให้ถือว่าการประชุมในครั้งนั้นไม่ครบองค์ประชุม ในกรณีที่การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดย บริษัท บริษัทจะจัดให้มีการประชมใหม่ภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 วันแต่ไม่เกิน 14 วัน นับแต่วันที่กำหนดเป็นวันประชุม คราวก่อนโดยปฏิบัตตามข้อ 7.2 ซึ่งในการประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจะต้องครบองค์ประชุม
อย่างไรก็ตาม หากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ในกรณีที่ไม่ครบเป็น องค์ประชุมในวันกำหนดประชุมผถือใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งแรก ให้ถือว่าเป็นประชุมเป็นอันระงับไป โดยจะไม่มีการเรียก ประชุมใหม่อีก
7.5 ประธานในที่ประชุม
ในการประชุมผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิที่จัดขึ้นโดยบริษัทให้ประธานกรรมการบริษัท หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมาย จากประธานกรรมการบริษัททําหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิในกรณีที่ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิเป็นผู้จัด ประชุมประธานในที่ประชุมอาจจะมาจากบุคคลที่ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิลงมติเห็นชอบคัดเลือกนอกเหนือไปจากประธาน กรรมการหรือบุคคลที่ประธานกรรมการมอบหมายโดยที่ทั้งสองกรณีประธานที่ประชุมไม่มีสิทธิออกเสียงชี้ขาด
7.6 การออกเสียงลงคะแนน
ในการออกเสียงลงคะแนนให้ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิมีคะแนนเสยงเท่ากับจํานวนของหน่วยของใบสําคัญแสดงสิทธที่ ถืออยู่ในขณะนั้นๆ โดยใบสําคัญแสดงสิทธิหนึ่งหน่วยมีหนึ่งเสียง ผู้เป็นประธานในที่ประชุมไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน นอกจากสิทธิที่ตนมีอยู่ในฐานะเป็นผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิ
7.7 มติที่ประชุม
มติของที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิให้ถือคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งหมดของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือผู้รับมอบฉันทะที่เข้าประชุมและมีสิทธิออกเสียงและให้มตินั้นมีผลผูกพันผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิทั้งหมดไม่ว่าจะได้เข้าร่วมประชุมหรือไม่ ในการออกเสียงลงคะแนน ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมีคะแนนเสียงเท่ากับ หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ถืออยู่ โดยใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยมี 1 เสียง
บริษัทจะดำเนินการแจ้งมติที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิต่อตลาดหลักทรัพย์ภายในวันทำการถัดไปนับแต่วัน ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ระบบ SETLink) รวมทั้งแจ้งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และนายทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ภายในระยะเวลา 15 วันนับแต่วันประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
7.8 รายงานการประชุม
บริษัทจะจัดทำรายงานการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน นับจากวันประชุมผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยให้ประธานที่ประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนั้นๆ เป็นผู้ลงนามรับรองรายงานการประชุม ทั้งนี้ ให้จัดเก็บรายงานการประชุมไว้กับบริษัทรายงานดังกล่าวซึ่งลงนามโดยประธานที่ประชุมในแต่ละครั้ง ให้ถือว่าถูกต้องและมติ นั้นผูกพันผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุกรายไม่ว่าจะได้เข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ และบริษัทจะจัดส่งรายงานการประชุมดังกล่าว ให้แก่ตลาดหลักทรัพย์และสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในระยะเวลาไม่เกิน 14 วันนับจากวันประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ นอกจากนี้ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิร้องขอบริษัทจะต้องจัดส่งรายงานการประชุมให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายที่ ร้องขอด้วย โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่ายนั้นๆ
7.9 ค่าใช้จ่ายในการประชุม
บริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามสมควรทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการประชุมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทุกครั้ง
8. สถานะของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่อยู่ระหว่างการแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ
สถานะของใบสําคัญแสดงสิทธิที่อยู่ระหว่างวันที่ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิแสดงความจํานงในการใช้สิทธิและวันก่อน วันที่กระทรวงพาณิชย์จะรับจดทะเบียนเพิ่มทุนชําระแล้วอันเนื่องมาจากการใช้สิทธิตามใบสําคัญแสดงสิทธิจะมีสถานภาพและ สิทธิเช่นเดียวกับใบสําคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้แสดงความจํานงใช้สิทธิและสถานภาพจะสิ้นสุดลงในวันที่กระทรวงพาณิชย์ได้รับ จดทะเบียนเพิ่มทุนชําระแล้วอันเนื่องมาจากการใช้สิทธิตามใบสําคัญแสดงสิทธิข้างต้นแล้ว
ในกรณีที่บริษัทมีการปรับราคาการใช้สิทธิและ/หรืออัตราการใช้สิทธิในช่วงที่บริษัทยังไม่ได้นําหุ้นสามัญที่เกิดจาก การใช้สิทธิตามใบสําคัญแสดงสิทธิเข้าจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิที่ได้ทําการใช้สิทธิแล้วจะได้รับ การปรับสิทธิย้อนหลังโดยบริษัทจะดําเนินการออกหุ้นสามัญใหม่เพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิโดยเร็วที่สุดตามจํานวน ที่ผู้ถือใบสําคัญแสดงสิทธิสมควรจะได้รับหากราคาใช้สิทธิและ/หรออัตราการใช้สิทธิ (แล้วแต่กรณี) ที่ได้ปรับใหม่นั้นมีผลบังคับ ใช้ โดยหุ้นสามัญส่วนที่เพิ่มใหม่อาจได้รับช้ากว่าหุ้นสามัญที่ได้รับก่อนหน้านี้แล้วแต่ไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่มีการปรับสิทธิ
9. สถานะของหุ้นสามัญใหม่ที่เกิดจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
หุ้นสามัญออกใหม่ตามการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีสิทธิและสภาพเท่าเทียมกับหุ้นสามัญของบริษัทที่ ออกไปก่อนหน้านี้ทุกประการซึ่งรวมทั้งสิทธิในการรับเงินปันผลหรือผลประโยชน์อื่นใดที่บริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นทั้งนี้นับแต่วนที่ กระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชำระแล้วและนายทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทได้จดแจ้งชื่อผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิเป็นผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทหากบริษัทได้ประกาศวันกำหนดให้สิทธิในเงินปันผลหรือผลประโยชน์อื่นใด แก่ผู้ถือหุ้นก่อนวันที่กระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วและนายทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทได้จดแจ้ง ชื่อของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะไม่มีสิทธิได้รับ เงินปันผลหรือผลประโยชน์อื่นนั้น
10. ตลาดรองของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ
บริษัทจะนำใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกในครั้งนี้เข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใน 30 วันนับจาก วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
11. วิธีการส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัทจะดําเนินการส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ปรากฏในสมุด ทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 27 เมษายน 2565 (Record Date) โดยบริษัทจะดำเนินการออกและส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิตาม รายละเอียดและขั้นตอน ดังต่อไปนี้
11.1 ในกรณีผู้ถือหุ้นเดิมไม่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์หรอบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัทจะดำเนินการให้นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิออกและจัดส่งใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ได้รับการ จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิการจองซื้อทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นภายใน 15 วันทำการ นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
ในกรณีนี้ผู้ถือหุ้นที่ได้รับการจัดสรรจะไม่สามารถขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้จนกว่าจะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งอาจจะได้รับภายหลังจากที่ใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทได้รับอนุญาตให้เข้าทำ การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
11.2 ในกรณีผู้ถือหุ้นเดิมมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจะดำเนินการให้นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ นำใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับจัดสรรฝากไว้กับ “บริษัทศูนย์
รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัดเพื่อผฝาก ”ภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิและบริษัทศูนย์
รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่บริษัทหลักทรัพย์นั้นฝากหลักทรัพย์อยู่
ในขณะเดยวกันบริษัทหลักทรัพย์นั้นจะบันทึกยอดบัญชีจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ผฝากได้รับการจดสรรฝากไว้และออก
หลักฐานการฝากให้แก่ผู้ที่ได้รับการจัดสรรภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
ในกรณีนี้ผู้ถือหุ้นทไี่ ด้รบการจัดสรรจะสามารถขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรได้ทันทีที่ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ รับใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและให้ทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
ทั้งนี้ชื่อของผู้ถือหุ้นที่ได้รับการจัดสรรจะต้องตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผู้ถือหุ้นที่ได้รับการจัดสรร ประสงค์ที่จะฝากใบสำคัญแสดงสิทธิไว้ มิฉะนั้นแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ ได้รับการจัดสรรตามข้อ 11.1 แทน
11.3 ในกรณีผู้ถือหุ้นเดิมมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
สมาชิกเลขที่ 600
บริษัทจะดำเนินการให้นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ นำใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับจัดสรรฝากไว้กับบริษัท ศูนย์รับ ฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิและบริษัท ศูนย์รับฝาก หลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด จะบันทึกยอดบัญชีจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิตามจำนวนที่ไดรับจัดสรรไว้ในบัญชีของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์สมาชิกเลขที่ 600 และออกหลักฐานการฝากให้แก่ผู้ที่ได้รับการจัดสรรภายใน 7 วันทำการนับจากวันออก ใบสำคัญแสดงสิทธิ เมื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับจัดสรรต้องการขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะต้องถอนใบสำคัญแสดงสิทธิ ออกจากบัญชี 600 ดังกล่าว โดยต้องติดต่อผานบริษัทหลักทรัพย์ทั่วไป ซึ่งอาจจะมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการตามที่บริษัท
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด และ/หรือบริษัทหลักทรัพย์นั้นๆ กำหนด ดังนั้น ในกรณนี้ผู้ถือหุ้นที่ได้รับการ จัดสรรจะสามารถขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรได้ทันทที่ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ รับใบสำคัญแสดงสิทธิของ บริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและให้ทำการซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และผู้ถือหุ้นที่ได้รับการจัดสรรได้ ดำเนินการถอนใบสำคัญแสดงสิทธิออกจากบัญชี 600 ดังกล่าวแล้ว
12. มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นและจำนวนหุ้นที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 มีมติอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน
ของบริษัทอีกจำนวน 899,519,613.75 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 1,199,359,485 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.75 บาท (หลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้) เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญรุ่นที่ 5 จำนวน 799,572,990 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่ได้รับจัดสรร ราคาหน่วยละ 0.40 บาท และเพื่อรองรับการใช้สิทธิตาม ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญรุ่นที่ 6 จำนวน 399,786,495 หน่วย ให้แก่ผู้ที่ใช้สิทธิจองซื้อและชำระราคาใบสำคัญแสดง สิทธิ EFORL–W5 โดยไม่คิดมูลค่า
รายละเอียดเกี่ยวกับหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ
หุ้นสามัญ : หุ้นสามัญของบริษัท บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน)
จำนวนหุ้นที่รองรับการใช้สิทธิ ไม่เกิน 799,572,990 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น : 0.75 บาท
ราคาใช้สิทธิต่อหุ้น : 1.00 บาท เว้นแต่จะมีการปรับสิทธิตามข้อ 4.2
หุ้นที่สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สทธิคิดเป็นร้อยละ : ร้อยละ 20.00 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
ของบริษัท (หลังการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ ที่ได้รับ อนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 8 เมษายน 2565)
ตลาดรองของหุ้นสามัญ : บริษัทจะดำเนินการยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญที่เกิดจาก การใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญใน แต่ละครั้งเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใน 30 วัน นับจากวัน กำหนดการใช้สิทธิครั้งนั้นๆ
13. การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ การโอนหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ ข้อจำกัดการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ และ ข้อจำกัดการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
13.1 การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ
13.1.1 การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิได้ฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(ก) แบบการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิระหว่างผู้โอนและผรับโอน การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะสมบูรณ์เมอผู้โอน ใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งเป็นผู้ที่สมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิระบุชื่อเป็นเจ้าของใบสำคัญแสดงสทธิใน จำนวนที่จะทำการโอน หรือผรับโอนคนสุดท้ายโดยมีการสลักหลังแสดงการโอนต่อเนื่องครบถ้วนจากผู้ที่ ปรากฏชื่อดังกล่าว (แล้วแต่กรณี) ได้ส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้รับโอนโดยลงลายมือชื่อสลักหลังแสดง การโอนให้ไว้ด้วย
(ข) ผลการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิระหว่างผู้รับโอนกับบริษัท การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะใช้ยันกับบริษัทได้ก็ ต่อเมื่อนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับคำขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิพร้อมทั้งใบสำคัญ แสดงสิทธิที่ผู้รับโอนใบสำคัญแสดงสิทธิได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้รับโอนในด้านหลังของใบสำคัญแสดงสิทธินั้น ครบถ้วนแล้ว
(ค) ผลของการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิระหว่างผู้รับโอนกับบุคคลภายนอก การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะใช้ยันกับ บุคคลภายนอกได้ก็ต่อเมื่อนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิได้ลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิในสมุด ทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเรียบร้อยแล้ว
(ง) การขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ จะต้องกระทำ ณ สำนักงานใหญ่ของนายทะเบียนใบสำคัญ แสดงสิทธิในวันและเวลาทำการของนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ และจะต้องทำตามแบบและวิธีการที่นาย ทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิกำหนด โดยผู้ขอลงทะเบียนจะต้องส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิที่ลงลายมือชื่อ ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ในข้อ (ก) พร้อมทั้งหลักฐานอื่น ๆ ที่ยืนยันถึงความถูกต้องและความสมบูรณ์ของการ โอนและการรับโอนใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิกำหนดให้แก่นายทะเบียน ใบสำคัญแสดงสิทธิ และให้นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิออกใบรับคำขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดง สิทธิให้แก่ผู้ขอลงทะเบียนนั้น
(จ) นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิจะลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิ พร้อมทั้งรับรองการโอนไว้ในใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่นายทะเบียนใบสำคัญ แสดงสิทธิได้รับคำขอลงทะเบียนและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ไม่ต้องออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้ ใหม่ หรือภายใน 15 วันทำการนับแต่วันที่นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับคำขอลงทะเบียนและเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ต้องออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้ใหม่
(ฉ) นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิมีสิทธิปฏิเสธไม่รับดำเนินการตามคำขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ หากนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิเห็นว่าการโอนใบสำคัญแสดงสิทธินั้นจะขัดต่อกฎหมายหรือขัดต่อ ข้อจำกัดการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ (ถ้ามี) โดยนายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิจะแจ้งให้ผู้ขอลงทะเบียน ทราบภายใน 7 วันนับแต่วันที่นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับคำขอลงทะเบียนและเอกสารหลักฐานที่ เกี่ยวข้อง
13.1.2 การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
ให้เป็นไปตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และหน่วยงานกำกับดูแลอื่นที่เกี่ยวข้อง
13.2 การโอนหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ
หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เกิดจากการใช้สิทธิ สามารถโอนได้โดยไม่มีข้อจำกัด เว้นแต่การโอนหุ้นดังกล่าว เป็นเหตุให้มี บุคคลต่างด้าวหรือบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยถือหุ้นในบริษัทเกินกว่าร้อยละ 49 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของบริษัท
13.3 การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ และข้อจำกัดการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัทไม่มีข้อจำกัดการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิเว้นแต่การโอนเกิดขึ้นในช่วงปิดสมุดทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อ พักการโอนหรือการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งนี้ บริษัทจะปิดสมุดทะเบียนเพื่อพักการโอนหรือการใช้สิทธิตามใบสำคัญ แสดงสิทธิเป็นระยะเวลา 21 วันก่อนวันครบกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย และตลาดหลักทรัพย์จะทำการขึ้นเครื่องหมาย SP (ห้ามการซื้อขาย) ล่วงหน้า 2 วันทำการก่อนวันปิดสมุดทะเบียน (ในกรณีที่วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ ตรงกับวันหยุดทำการของตลาดหลักทรัพย์ให้เลื่อนเป็นวันทำการก่อนหน้า) ทั้งนี้ การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีผลก็ต่อเมื่อ
นายทะเบียนได้ลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเรียบร้อยแล้ว ข้อจำกัดอันสืบ เนื่องมาจากข้อบังคับของบริษัทว่าด้วยเรื่องอัตราส่วนการถือหุ้นของคนต่างด้าว มีรายละเอียดดังนี้
(ก) บริษัทจะไม่ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นคนต่างด้าว ซึ่งได้ดำเนินการใช้สิทธิตาม เงื่อนไขการแจ้งความจำนงการใช้สิทธิตามข้อ 3.6 หากการใช้สิทธิดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของคน
ต่างด้าวมีจำนวนเกินกว่าร้อยละ 49 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทตามที่ระบุในข้อบังคับ ของบริษัท
(ข) หากข้อจำกัดตามข้อ (ก) ข้างต้นมีผลทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นคนต่างด้าวที่ได้ดำเนินการใช้สิทธิตาม เงื่อนไขการแจ้งความจำนงการใช้สิทธิตามข้อ 3.6 และตามหลักการ “มาก่อนได้ก่อน” (First-Come First- Served) ไม่สามารถใช้สิทธิได้ตามจำนวนที่ระบุในใบแจ้งความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นส ามัญเพิ่มทุนไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน บริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี) ขอสงวนสิทธิในการส่ง เงินในส่วนที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้คืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นคนต่างด้าวดังกล่าวโดยไม่มีดอกเบี้ย ภายใน 14 วันนับจากวันกำหนดการใช้สิทธิ ทั้งนี้ ตามวิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดโดยบริษัท และ/หรือ ตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ (ถ้ามี)
(ค) นอกจากการส่งเงินในส่วนที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้คืนตามข้อ 13.3 (ข) ข้างต้น ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นคน ต่างด้าวจะไม่ได้รับการชดเชยหรือชดใช้ไม่ว่าในรูปแบบใดจากบริษัทและตัวแทนรับแจ้งความจำนงในการใช้ สิทธิ (ถ้ามี) ในกรณีที่ไม่สามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้โดยมีสาเหตุมาจากข้อจำกัดเรื่องอัตราส่วน การถือหุ้นของคนต่างด้าวตามข้อ (ก) ข้างต้น
14. ผลบังคับข้อกำหนดสิทธิและกฎหมายที่ใช้บังคับ
ข้อกำหนดสิทธิฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับในวันออกใบสำคัญแสดงสิทธิไปจนถึงวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายโดย ข้อกำหนดสิทธินี้จะใช้บังคับและตีความตามกฎหมายไทย และหากมีข้อความใดๆในข้อกำหนดสิทธินี้ขัดแย้งกับกฎหมายหรือ ประกาศใด ๆ ที่มีผลใช้บังคับตามกฎหมายกับใบสำคัญแสดงสิทธิให้ใช้ข้อความตามกฎหมายหรือประกาศดังกล่าวบังคับกับ ใบสำคัญแสดงสิทธิแทนข้อความของข้อกำหนดสิทธิเฉพาะในส่วนที่ขัดแย้งกันนั้น
ผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน)
โดย
(นายปรีชา นันท์นฤมิต) (นายจักรกริสน์ โลหะเจริญทรัพย์) กรรมการ กรรมการ