Contract
“เงินเฟ้อ”
1.1 เงินเฟ้อคืออะไร 1.2 เงินเฟ้อเกิดจากอะไร 1.3 เงินเฟ้อและเงินฝืดต่างกันอย่างไร 2. ผลกระทบจากเงินเฟ้อ 2.1 ผลต่อประชาชนทั่วไป 2.2 ผลต่อผู้ประกอบการ/นักธุรกิจ 2.3 ผลต่อประเทศ 3. บทบาทของ ธปท. ในการดูแลเงินเฟ้อ 3.1 วัตถุประสงค์ในการดูแลเงินเฟ้อ 3.2 วิธีการของ ธปท. ในการดูแลเงินเฟ้อ 3.2.1 การกําหนดเป้าหมายนโยบายการเงิน 3.2.2 กระบวนการดําเนินนโยบายการเงิน 3.2.3 ความxxxxxxxxระหว่างดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ 3.2.4 ช่องทางการส่งผ่านนโยบายการเงิน |
หัวข้อที่ 1
ความหมายของอัตราเงินเฟ้อ
1.1 เงินเฟ้อคืออะไร
ภาวะเงินเฟ้อ หมายถึง ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปxxxxxสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหาก เงินเฟ้อxxxxxขึ้นมากจะกระทบต่อฐานะและความเป็นอยู่ของประชาชน
xxxxxxx xxxจําเป็นต้องมีหน่วยงานทําหน้าที่ควบคุมดูแลเรื่องเงินเฟ้อ คือ 1. xxxxxxxxxxxxxx xxx
2. ธนาคารแห่งประเทศไทย
1. กระทรวงพาณิชย์
ส่วนหนึ่งคือการดูแลราคาสินค้าและบริการไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสหรือเอา เปรียบผู้บริโภค หรือตรึงราคาไว้ในช่วงที่สินค้าขาดแคลนระยะสั้น นอกจากนี้ยังทําหน้าที่ติดตาม รวบรวมข้อมูลราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อเป็นประจําทุกวันจากตลาดและแหล่งจําหน่าย ต่างๆทั่วประเทศ นํามาคํานวณจัดทําเป็นดัชนี ที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ให้ ประชาชนทราบภาวะเงินเฟ้อxxxxxxวัดได้จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีดังกล่าว ซึ่งเรียกตัวชี้วัด นี้ว่า อัตราเงินเฟ้อ
2. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ดําเนินนโยบายการเงินผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อดูแลเงินเฟ้อ ให้อยู่ในระดับต่ําและxxxxxxxxx ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว และ ความกินxxxxxxxxของประชาชน
สาเหตุการเกิดเงินเฟ้อแบ่งได้เป็น 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ
1. ประชาชนต้องการซื้อสินค้าและบริการxxxxxขึ้น (เรียกว่า Demand – Pull Inflation) ประกอบกับสินค้าและบริการนั้นๆ ในตลาดมีxxxxxxxxxx ทําให้ผู้ขายปรับราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น
1.3 เงินเฟ้อกับเงินฝืดต่างกนอย่างไร
2. ต้นทุนการผลิตที่xxxxxขึ้น (เรียกว่า Cost – Push Inflation) กล่าวคือ หากผู้ผลิตไม่xxxxxx แบกรับภาระxxxxxxxxxสูงขึ้นได้ จะทําให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้นด้วย
ตรงกันข้ามกับภาวะเงินเฟ้อ ภาวะเงินฝืดเกิดขึ้นเมื่อระดับราคาสินค้าและบริการลดลงอย่าง ต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลายประการ xxxx ความต้องการซื้อสินค้าและบริการของประชาชนลดลง หรือ ปริมาณเงินที่ หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ มีxxxxxxxxxxกับความต้องการ ซึ่งอาจทําให้ราคาสินค้าปรับลดลง ผู้ผลิตก็อาจไม่ ต้องการผลิตสินค้าและบริการในปริมาณเท่าเดิม ทําให้ลดกําลังการผลิตลง และส่งผลให้เศรษฐกิจ
xxxxxในที่สุด
จะเห็นได้ว่า ทั้งภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืด เกิดจากการเคลื่อนไหวขึ้นลงของเศรษฐกิจตาม xxxxxxx แต่หากมีความรุนแรงและxxxxxxxx xxล้วนส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความกินxxxxxxxxของ ประชาชนด้วยกันทั้งสิ้น
****************************************************************************
หัวข้อที่ 2
ผลกระทบจากเงินเฟ้อ
2.1 ผลต่อประชาชนทั่วไป
• รายจ่ายหรือภาระค่าครองชีพสูงขึ้น ทําให้ประชาชนมีอํานาจซื้อน้อยลง มี ความxxxxxxจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลง และอาจทําให้รายxxxxxxมีหรือเงินที่หามาxxxxxx เพียงพอกับการยังชีพ
• อัตราเงินเฟ้อxxxxxxx จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยที่หักเงินเฟ้อออก หรือที่เรียกว่า อัตรา ดอกเบี้ยที่แท้จริง จะมีค่าลดลงไป เนื่องจากดอกเบี้ยที่เราได้รับเอาไปใช้ซื้อของได้น้อยลง ยกตัวอย่าง กรณีที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่xxxxxxxละ 1.5 ต่อปี แต่หากอัตราเงินเฟ้อหรือราคาxxxxxขึ้นมาร้อยละ 1 อาจกล่าวได้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงหรือผลตอบแทนสุทธิxxxxxxรับจริงๆ อยู่xxxxxxxละ 0.5 ต่อปี เท่านั้น แต่หากปีต่อไป อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังเท่าเดิม แต่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นไปอยู่xxxxxxxละ 2 อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะกลายเป็นร้อยละ - 0.5 ต่อปี xxxxxxxxxxกําลังซื้อของผู้ฝากเงินลดลง การฝาก เงินทําให้xxxxxxxxตอบแทนจริงๆ ติดลบ ทําให้ผู้ฝากไม่อยากออมเงิน และอาจหันไปลงทุนใน สินทรัพย์ประเภทอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า xxxx ทองคํา อสังหาริมทรัพย์และหุ้น เป็นต้น ทําให้ต้อง xxxxxกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย หากไม่มีความรู้เพียงพอในการบริหารจัดการ ก็อาจทําให้เกิดเป็น ภาระหนี้สินได้
2.2 ผลต่อผู้ประกอบการ / นักธุรกิจ
• เมื่อสินค้ามีราคาแพงขึ้น ยอดขายก็จะลดลง ในขณะเดียวกัน ต้นทุนการผลิตก็จะสูงขึ้น ด้วย ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจบางรายอาจตัดสินใจชะลอการผลิต ลดการลงทุนและการxxxxงาน ทําให้ คนตกงานมากขึ้น
• ความxxxxxxในการแข่งขันของภาคธุรกิจในประเทศลดลง เนื่องจากราคาสินค้าส่งออก ของเราจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับราคาสินค้าออกของประเทศอื่นๆ
2.3 ผลต่อประเทศ
• ในภาวะที่ประชาชนซื้อของน้อยลง ธุรกิจไม่xxxxxxขายของได้ การลงทุนเพื่อผลิต สินค้าก็จะชะลอออกไป ทําให้การพัฒนาศักยภาพการผลิตของประเทศในระยะยาวอาจชะลอลงตาม ไปด้วย
• ถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงจนทําให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบนานๆ ประชาชนก็จะหันไป เก็งกําไรในxxxxxxxxxxxxมีความxxxxxxxxx สะสมปัญหาฟองสบู่ในสินทรัพย์ต่างๆ (asset price bubble) และความไม่xxxxxในภาคการเงินของประเทศxxx xxxx หนี้ครัวเรือน
****************************************************************************
หัวข้อที่ 3
บทบาทของ ธปท. ในการดูแลเงินเฟ้อ
3.1 วัตถุประสงค์ในการดูแลเงินเฟ้อ
พันธกิจหลักของ ธปท. คือ การดูแลให้ระบบเศรษฐกิจมีเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งหมายxxx xxxมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่่าและxxxxxxxxx (Low and Stable Inflation) ราคาสินค้าไม่เปลี่ยนแปลงขึ้น หรือลงรวดเร็วจนเกินไป ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจวางแผนการบริโภค การผลิต การออม การลงทุนของ ภาคเอกชนง่ายขึ้น ตลอดจนสร้างบรรยากาศxxxxxเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการxxxxงานอย่าง ยั่งยืนในระยะยาว
3.2 วิธีการของ ธปท. ในการดูแลเงิน
3.2.1 การก่าหนดเป้าหมายนโยบายการเงิน
ธปท. ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “นโยบายการเงิน” ในการดูแลให้ระบบเศรษฐกิจมี เสถียรภาพด้านราคา โดยกําหนดเป้าหมายนโยบายการเงิน เพื่อดูแลการคาดการณ์เงินเฟ้อ (Inflation Expectation) ของประชาชน ซึ่งจะส่งผลต่อระดับราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจ การกําหนด เป้าหมายนโยบายการเงินของไทยที่ผ่านมาแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ
• เป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange rate targeting) ในช่วงหลัง สงครามโลกครั้งที่ 2 ธปท. ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเป้าหมายในการดําเนินนโยบายการเงิน โดยผูกค่าเงิน บาทไว้กับเงินสกุลดอลลาร์ สรอ. และเงินสกุลหลักอื่นๆ ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนxxxxxที่จะช่วยดูแลระดับราคา สินค้า
ในประเทศไม่ให้xxxxxxขึ้นลงรุนแรงตามแรงกดดันและความเสี่ยงในระบบการเงินโลก และช่วยให้ เศรษฐกิจเจริญเติบโตในระยะยาวได้
• เป้าหมายปริมาณเงิน (Monetary Targeting) ในระยะต่อมา การเปิดxxxx ด้านการค้าและการเงินของไทยทําให้ระบบเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยนได้รับแรงกดดันจากการเก็งกําไร ประเทศไทยจึงหันมาใช้ปริมาณเงินเป็นเป้าหมายในการดําเนินนโยบายแทน ซึ่งอิงกับกรอบการจัดทํา โปรแกรมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อให้เกิดความสอดคล้องระหว่างนโยบายการเงิน นโยบายการคลัง และเม็ดเงินจากภาคต่างประเทศ โดย ธปท. กําหนดฐานเงินรายไตรมาสและรายวัน เพื่อ ใช้เป็นหลักในการบริหารสภาพxxxxxรายวัน รวมทั้งปรับสภาพxxxxxและอัตราดอกเบี้ยในระบบการเงิน ไม่ให้เคลื่อนไหวxxxxxxจนเกินไป
• เป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Targeting) ธปท. ได้พิจารณาปัจจัยต่างๆ ใน ระบบการเงินแล้วเห็นว่า การดําเนินนโยบายการเงินภายใต้กรอบเป้าหมายปริมาณxxxxxxxxxxxxxxxxxxx มากนัก โดยเฉพาะหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ที่การขยายตัวของปริมาณเงินและเศรษฐกิจไม่สอดคล้อง กันเท่าที่ควร ทําให้ ธปท. ตัดสินใจใช้เงินเฟ้อเป็นกรอบเป้าหมายการดําเนินนโยบายการเงิน ซึ่งกรอบ ดังกล่าวมีความยืดหยุ่นกว่าและสอดคล้องกับภาวะและโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ภายใต้กรอบเป้าหมายเงิน xxxxxxx ธปท. xxxxxxให้ความสําคัญกับการดูแลอัตราเงินเฟ้อเพียงอย่างเดียว แต่ยังดูแลให้เศรษฐกิจขยายตัว ได้อย่างxxxxxxxภายใต้เสถียรภาพทางการเงินxxxxxxxxxxxx รวมทั้งดูแลไม่ให้เกิดความไม่xxxxxในภาคส่วน ต่างๆ อาทิ ภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ ภาคสถาบันการเงิน และตลาดการเงินด้วย
3.2.2 กระบวนการด่าเนินนโยบายการเงิน
ในกระบวนการกําหนดนโยบายการเงินจะมีคณะกรรมการที่เรียกว่า “คณะกรรมการนโยบายการเงิน” หรือ กนง. ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. 3 ท่าน และ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 4 ท่าน ติดตามภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมถึงกําหนดทิศทางนโยบาย การเงินที่เหมาะสม โดย ธปท. ใช้อัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคีระยะ 1 วัน (1 - day bilateral RP) เป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นเครื่องมือในการส่งสัญญาณนโยบายการเงินเพื่อดูแลการ คาดการณ์เงินเฟ้อและเสถียรภาพเศรษฐกิจ กนง. จะพิจารณาจากความเสี่ยงด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อ (balance of risk between growth and inflation) เป็นหลัก ทั้งนี้ การดูแลรักษาระดับ
อัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เป็นไปตามที่ กนง. กําหนด ธปท. จะดําเนินการผ่านเครื่องมือ (Monetary Policy Instruments) 3 ประเภท คือ
• การดํารงสินทรัพย์สภาพxxxxxของสถาบันการเงิน (Reserve Requirement)
• การทําธุรกรรมปรับสภาพxxxxxผ่านตลาดการเงิน (Open Market Operations)
• หน้าต่างปรับสภาพxxxxx x สิ้นวัน (Standing Facilities)
นอกจากนี้ กนง. มีหน้าที่กําหนดแนวนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมกับ นโยบายการเงินด้วย ทั้งนี้ กนง. จะมีการประชุมปีละ 8 ครั้ง (ทุก 6 – 8 สัปดาห์)
การตัดสินนโยบายการเงินจะต้องมองไปข้างหน้า เนื่องจากการส่งผ่านของนโยบาย ต้องใช้ระยะเวลา (time lags) จึงต้องมีเครื่องมือสนับสนุน คือ (1) แบบจําxxxเศรษฐกิจ (BOTMM) ในการ พยากรณ์เศรษฐกิจ และ (2) ข้อสมมติเกี่ยวกับปัจจัยภายนอกxxxxxxถูกกําหนดในระบบเศรษฐกิจ xxxx
เศรษฐกิจโลกและราคาน้ํามัน เพอให้ กนง. xxxxxxนําข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาตัดสินนโยบายการเงิน
การดําเนินนโยบายการเงินภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ การสื่อสารต่อ สาธารณชนเป็นสิ่งสําคัญในการดูแลการคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชน ดังนั้น ธปท. จึงมีการสื่อสาร แนวคิดและเหตุผลของการตัดสินนโยบายของ กนง. เพื่อxxxxxประสิทธิภาพการส่งผ่านนโยบายการเงิน ทั้งหมด 5 รูปแบบ คือ
1. การแถลงข่าวผลการประชุม กนง. (Press Conference)
ภายหลังการประชุม เวลา 14.00 น. โดยมีเลขานุการ กนง. เป็นผู้แถลง ข่าวผลการประชุม ตอบคําถามสื่อมวลชนเรื่องการตัดสินนโยบาย รวมทั้งเปิดเผย ผลโหวตหรือการลงคะแนนเสียงของ กนง. ในการตัดสินนโยบาย ขณะเดียวกัน ธปท. จะทําธุรกรรม open market operations เพื่อรักษาระดับอัตราดอกเบี้ย นโยบายให้อยู่ในระดับที่ กนง. กําหนด
2. การเผยแพร่รายงานผลการประชุม กนง. ฉบับย่อ (Edited Minutes)
หลังจากการประชุม กนง. 2 สัปดาห์ เพื่อสื่อให้สาธารณชนได้รับทราบ
และทําความเข้าใจการตัดสินใจของ กนง. ในแต่ละครั้ง และเพม ของการส่งผ่านนโยบายการเงินผ่านการคาดการณ์ของตลาด
3. การเผยแพร่รายงานนโยบายการเงิน
ประสิทธิภาพ
เป็นประจําทุกไตรมาส เพื่อเสนอการประมาณการภาวะเศรษฐกิจและ แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ และถ่ายทอดแนวความคิดของ กนง. ต่อสาธารณชน รวมถึงอธิบายเหตุผลของการตัดสินนโยบายต่างๆ ในรายละเอียด
4. การประชุมพบปะกับนักลงทุน (Investors Meeting)
เป็นประจําทุกไตรมาสหลังจากการแถลงข่าวรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจและเงิน เฟ้อ
5. การสื่อสารกับสาธารณชนของผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. (Governors and Deputy Governors’ Speeches)
เพื่อสร้างความxxxxxxxxxตรงกันของสาธารณชนเกี่ยวกับแนวทาง การดําเนินนโยบายของ ธปท.
ขั้นตอนการด่าเนินนโยบายการเงิน
ข้อมูลภาวะและแนวโน้มเศร้ษฐกิจการเงิน/ข้อเสนอแนะ
กลยุทธ์นโยบายการเงินจากคณะเลขานุการ กนง.
ประชุม กนง. 8 ครั้งต่อปี เพื่อประเมินภาวะและ
แนวโน้มเศรษฐกิจการเงินและเงินเฟ้อ
ตัดสินนโยบายการเงิน : ขึ้น / xx / ลด
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
สื่อสารกับสาธารณชนและรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
3.2.3 ความxxxxxxxxระหว่างดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ
ในยามที่เศรษฐกิจxxxxแรง คนต้องการบริโภคและลงทุนxxxxxมากขึ้น ส่งผลให้ราคา สินค้าและบริการปรับสูงขึ้น แต่ถ้ารายได้ยังxxเดิม จะทําให้xxxxxxของได้น้อยลงและกระทบต่อชีวิตความ เป็นอยู่ ธปท. มีหน้าที่หลักในการดูแลเสถียรภาพด้านราคา โดยใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมือใน การดําเนินนโยบายการเงิน ทั้งนี้ เมื่อเงินเฟ้อxxxxxสูงขึ้น ทําให้ต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อ ส่งสัญญาณให้ธนาคารพาณิชย์รู้ว่าธปท. ต้องการให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินปรับสูงขึ้น โดยธปท. จะ ดูดซับสภาพxxxxxหรือดูดเงินออกจากระบบการเงินเพื่อให้ภาวะการเงินxxxxxx ดังนั้น ธนาคารพาณิชย์แต่ละ แห่งจะต้องxxxxxสภาพxxxxxของตนเอง โดยการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้สูงขึ้นเพื่อระดมเงินฝากมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ปรับxxxxxอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามต้นทุนเงินฝากที่สูงขึ้น การที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงขึ้นจะ จูงใจให้คนมาฝากเงินมากขึ้นและใช้จ่ายน้อยลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้นก็ทําให้คนกู้เงินน้อยลง เมื่อความต้องการสินค้าและบริการลดลง จะส่งผลให้ระดับราคาสินค้าลดลง และชะลอเงินเฟ้อ
ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจxxxxx ประชาชนไม่อยากใช้จ่าย ราคาสินค้าและ บริการปรับลดลง ทําให้ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การที่อัตราดอกเบี้ย นโยบายลดลงจะทําให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารพาณิชย์ลดลงxxxxกัน ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้คนบริโภค และลงทุนมากขึ้น เมื่อความต้องการสินค้าและบริการxxxxxสูงขึ้น จะส่งผลให้ระดับราคาปรับสูงขึ้นตามไป ด้วย
3.2.4 ช่องทางการส่งผ่านนโยบายการเงิน
โดยทั่วไป ธนาคารกลางมีหน้าที่ดําเนินนโยบายการเงินเพื่อดูแลอัตราเงินเฟ้อให้ สอดคล้องและเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยอาศัยดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมือ ทั้งนี้ การปรับขึ้นลง ของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีขั้นตอนในการส่งผ่านไปยังภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงได้ทั้งหมด 5 ช่องทาง ได้แก่
1. ช่องทางอัตราดอกเบี้ย (Interest rate channel)
2. ช่องทางสินเชื่อ (Credit channel)
3. ช่องทางราคาสินทรัพย์ (Asset price channel)
4. ช่องทางอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange rate channel)
5. ช่องทางการคาดการณ์ (Expectations channel)
ช่องทางการส่งผ่านของนโยบายการเงิน
1
อัตราดอกเบี้ยตลาด
2
สินเชื่อ
3
4
ราคาสินทรัพย์ อัตราแลกเปลี่ยน
5
การคาดการณ
ราคาสินค้าภายในประเทศ
ราคาสินค้าส่งออกและสินค้าน่าเข้า
ความต้องการสินค้าไทยจากภายในและภายนอกประเทศ
xxxxx / ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
อัตราเงินเฟ้อ
1. ช่องทางอัตราดอกเบี้ย (Interest rate channel)
กิจกรรมทางเศรษฐกิจxxxxxขึ้น อัตราเงินเฟ้อเร่งตัว
ประชาชนต้องการบริโภค และลงทุนมากขึ้น
เมื่อธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง อัตราดอกเบี้ยอื่นๆ ในตลาดการเงินจะปรับลดลงรวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ ทําให้ต้นทุนของการกู้เงินเพื่อมาบริโภคและลงทุน รวมถึงต้นทุนค่าเสีย โอกาสในการxxxxxxxลดต่ําลง ส่งผลให้ความต้องการบริโภคและลงทุนของ ประชาชนxxxxxมากขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจจึงขยายตัวและเติบโตxxxxxขึ้น
ช่องทางอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยในตลาด การเงินปรับลดลง
นโยบายการเงินผ่อนคลาย จากการลด อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ต้นทุนการบริโภค และการลงทุนถูกลง
2. ช่องทางสินเชื่อ (Credit channel)
• กิจกรรมทางเศรษฐกิจxxxxxขึ้น
• อัตราเงินเฟ้อเร่งตัว
ธนาคารxxxxxปล่อยสินเชื่อ ให้ภาคธุรกิจมากขึ้น
อัตราดอกเบี้ย ในตลาดการเงิน ปรับลดลง
• ภาระหนี้ของธุรกิจลดลง
• ฐานะทางการเงินของ ธุรกิจxxxxxxxxขึ้น
เมื่อธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง อัตราดอกเบี้ยจะปรับ ลดลง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ส่งผลให้ภาระ หนี้สินของภาคธุรกิจลดลงและฐานะการเงินปรับดีขึ้น สถาบันการเงินจึงxxxxxxxx จะปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจมากขึ้นตามความเสี่ยงที่ลดลง ทําให้ภาคธุรกิจ xxxxxxขยายการลงทุนและสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ
ช่องทางสินเชื่อ
นโยบายการเงินผ่อนคลาย จากการลด อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
3. ช่องทางxxxxxxสินทรัพย์ (Asset price channel)
นโยบายการเงินผ่อนคลาย จากการลด อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
อัตราดอกเบี้ย ในตลาดการเงิน ปรับลดลง
เมื่อธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง อัตราดอกเบี้ยจะปรับ ลดลง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ประชาชนจึงหันไป ออมเงินหรือลงทุนในรูปแบบอื่นๆ xxxx บ้าน ที่ดิน ทองคํา หุ้น ซึ่งให้ ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินในธนาคาร ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เหล่านี้xxxxx สูงขึ้นตามความต้องการที่xxxxxขึ้น เมื่อราคาสินทรัพย์เหล่านี้สูงขึ้น ประชาชนจะ รู้สึกว่ามีความxxxxxxxx (wealth) xxxxxมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการบริโภคสินค้า และบริการต่างๆ xxxxxขึ้นตามไปด้วย ในขณะเดียวกัน ราคาxxxxxxxxxxxxxxxxxขึ้น ทําให้xxxxxxของธุรกิจxxxxxขึ้นและทําให้การขยายการลงทุนมีความคุ้มxxxxxxขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องการลงทุน และจากการxxxxxขึ้นของการบริโภคและการ ลงทุนนี้เองจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวในที่สุด
ช่องทางxxxxxxสินทรัพย์
• ประชาชนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
• กิจกรรมทางเศรษฐกิจxxxxxขึ้น
• อัตราเงินเฟ้อเร่งตัว
ประขาชนหันไปออมใน
รูปแบบอื่นแทนการฝากเงิน
• xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
• ประชาชนรูปสึกxxxxxxxx มากขึ้น
4. ช่องทางอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange rate channel)
• การส่งออกxxxxxขึ้น
• xxxxxxเข้าลดลง
เมื่อธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง อัตราดอกเบี้ยใน ตลาดการเงินจะปรับลดลง ส่งผลให้ผลตอบแทนของการลงทุนในประเทศลดลง เมื่อเทียบกับการลงทุนในต่างประเทศ ทําให้เงินทุนไหลออกไปลงทุนในประเทศ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งการไหลออกของเงินทุนนี้เองจะมีผลทําให้ค่าเงินบาท อ่อนลง ทําให้การส่งออกxxxxxมากขึ้น xxxxxการผลิตสินค้า การลงทุน การxxxxงาน และรายได้ในประเทศ ขณะเดียวกันเงินบาทที่อ่อนค่าลงทําให้การนําเข้าลดลง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศขยายตัวสูงขึ้น
ช่องทางอัตราแลกเปลี่ยน
นโยบายการเงินผ่อนคลายจากการลด อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยกับ ต่างประเทศลดลง เงินทุนไหลออก
อัตราเงินบาทลดลง
• ผลผลิตในประเทศขยายตัว
• กิจกรรมทางเศรษฐกิจxxxxxขึ้น
• อัตราเงินเฟ้อเร่งตัว
5. ช่องทางการคาดการณ์ (Expectations channel)
การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินจะส่งผลต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะ เศรษฐกิจของประชาชน โดยทั่วไปแล้ว ผลกระทบของนโยบายการเงินผ่าน ช่องทางนี้จะมีความไม่แน่นอนสูงกว่าช่องทางอื่นๆ เนื่องจากขึ้นอยู่กับการ ตีความของตลาดเป็นหลัก ตัวอย่างxxxx ถ้าตลาดมองว่าการลดลงของอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจในxxxxxจะขยายตัวxxxxxขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการดําเนินนโยบาย ประชาชนก็จะมีความมั่นใจในการบริโภค และลงทุนxxxxxมากขึ้น ทําให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัว ในทางxxxxxxxxxx xxxตลาดมองว่าการลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นการส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจในปัจจุบันมีความอ่อนแอกว่าที่คาดไว้จึงทําให้ธนาคารกลางต้องปรับ ลดอัตราดอกเบี้ยลง ประชาชนก็อาจจะเกิดความไม่มั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจและ ชะลอการบริโภคและลงทุนได้ในที่สุด
ช่องทางการคาดการณ์
นโยบายการเงินผ่อนคลาย จากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ประชาชนกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจ จะอ่อนแอกว่าที่คาดไว้
ประชาชนคิดว่าภาวะเศรษฐกิจ จะดีขึ้นในxxxxx
การบริโภคและการลงทุนxxxxxขนึ้
การบริโภคและการลงทุนลดลง
• กิจกรรมทางเศรษฐกิจxxxxxขึ้น
• อัตราเงินเฟ้อเร่งตัว
• กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง
• อัตราเงินเฟ้อชะลอตัว
****************************************************************************