Contract
อนุสัญญา เพ่ือการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ
รัฐภาคีแห่งxxxxxxxxxxx
ตระหนักว่า อนุสัญญาเพ่ือการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ ซ่ึงลงนาม ณ กรุงวอร์ซอ เม่ืxxxxxxx 12 xxxxxx ค.ศ.1929 ต่อไปในxxxxxxxxxxxเรียกว่า “อนุสัญญาวอร์ซอ” และตราสารอื่นๆ ที่ เก่ียวของ มีส่วนสําคญในการให้ทํากฎหมายอากาศระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลxxxxxxxรูป
ยอมรับ ความจําเป็นท่ีจะต้องทําให้อนุสัญญาวอร์ซอและตราสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทันสมัยและรวมเป็นอันหน่ึง อันเดียวกัน
ยอมรับ ความสําคัญของการประกันการคุ้มครองxxxxxxxxxxของผู้บริโภคในการรับขนระหว่างประเทศทาง อากาศ และความจําเป็นสําหรับxxxxxxxxxxxxxxxxxเป็นธรรมตามหลักการของการชดใช้
ยืนยัน ความxxxxxxxxxxจะใหการดําเนินการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศพัฒนาไปอย่างxxxxxxxxx รวมท้ัง คนโดยสาร สัมภาระและของ เคลื่อนไปอย่างxxxxxxx ตามหลักการและวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือน ระหว่างประเทศ ซ่ึงทําขึ้นที่เมืองชิคาโก เมื่อxxxxxx 7 ธันวาคม ค.ศ.1944
xxxxxxxxxว่า การกระทําของรัฐร่วมกันเพื่อความคืบหน้าในการทําให้xxxxxxxรูปและxxxxxxกฎเกณฑ์บางประการ เกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ โดยอนุสัญญาฉบับใหม่เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดเพื่อxxxxxถึงดุลภาพที่เป็น ธรรมแห่งxxxxxxxxxx
ไดตกลงกนดังต่อไปนี้
หมวด 1
บทบัญญัติทั่วไป
ข 1 – ขอบเขตการบังคับใช
1. xxxxxxxxxxxใช้บังคับแก่การรับขนระหว่างประเทศทั้งปวงซ่ึงคน สัมภาระ หรือของ ซ่ึงปฏิบัติการโดยใช้อากาศยานเพ่ือ สินจ้าง อนุสญญานีใช้บังคับแก่การรบขนใหเปล่าโดยอากาศยานซึ่งปฏิบตั ิการโดยวิสาหกิจขนส่งทางอากาศด้วย
2. เพ่ือความมุ่งxxxxxxxของอนุสัญญาน คําว่า การรับขนระ👉วางประเทศ่ หมายxxx xxxรับขนใดๆ ซึ่งตามความ
ตกลงระหว่างคู่สัญญา ถิ่นตนทางและถิ่นปลายทางไม่ว่าจะมีการหยุดพกในการรับขนหรือมีการถ่ายลําหรือไม่ก็ตาม ตั้งอยู่ ภายในอาณาเขตของรัฐภาคีสองรัฐ หรือภายในอาณาเขตของรัฐภาคีเดียว ถ้ามีถิ่นหยุดxxxxxxตกลงกันภายในอาณาเขต ของอีกรัฐหนึ่ง ถึงแม้ว่ารัฐนั้นไม่เป็นรัฐภาคีก็ตาม การรับขนระหว่างจุดสองจุดภายในอาณาเขตของรัฐภาคีเดียวโดยไม่มี ถ่ินหยุดxxxxxxได้ตกลงกันไว้ภายในอาณาเขตของอีกรัฐหนึ่ง ไม่เป็นการรับขนระหว่างประเทศตามความมุ่งxxxxxxxของ xxxxxxxxxxx
3. เพื่อความมุ่งxxxxxxxของอนุสญญานี้ การรับขนที่จะปฏิบัติการโดยผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดต่อเนื่องกัน ให้xxxxxx เป็นการรับขนเดียวโดยไม่แบ่งแยก ถ้าการรับขนนั้นคู่สัญญาxxxxxxxxxเป็นการดําเนินการเดียว ไม่ว่าจะได้ตกลงกันในรูป ของสัญญาฉบับเดียวหรือสัญญาเป็นชุด และย่อมไม่สูญเสียลักษณะระหว่างประเทศ เพียงเพราะว่าจะต้องปฏิบัติการ ทงั หมดภายในอาณาเขตของรฐเดียวกันxxxxxxxxฉบับเดียวหรือสัญญาเป็นชุด
4. xxxxxxxxxxใช้บงคับแก่การรบขนที่กาหนดในหมวด 5 ด้วย ภายใตเง่ือนไขที่กําหนดในหมวดนั้น
ข 2 – การรับขนซึ่งปฏิบตั ิการโดยรัฐและการรับขนไปรษณียภัณฑ์
1. xxxxxxxxxxxใช้บังคับแก่การรับขนซึ่งปฏิบัติการโดยรัฐหรือโดยองค์การของรัฐที่ตั้งขึ้นโดยกฎหมาย ถ้าการรับขน
น อยู่ในเงื่อนไขท่ีกําหนดไว้ใน ข้อ 1
2. ในการรับขนไปรษณียภัณฑ์ ให้ผู้ขนส่งรับผิดเป็นการเฉพาะต่อหน่วยxxxxxxไปรษณีย์ตามxxxxxxxxxxใช้บังคับกับ ความxxxxxxxxระหว่างผูขนส่งและหน่วยxxxxxxไปรษณีย์
3. นอกจากท่ีบัญญ
ิไว้ในวรรค 2 ของข้อนี้ บทบัญญัติแห่งxxxxxxxxxxxไม่ใช้บังคับแก่การรบขนไปรษณียภัณฑ์
หมวด 2
การจัดทําเอกสารและหน้าท่ีของคู่สญญาเกี่ยวกับการรบขนซึ่งคนโดยสาร สัมภาระและของ
1. ในการรับขนคนโดยสาร ให
ข้อ 3 – คนโดยสารและสัมภาระ
ีการส่งมอบเอกสารการรับขน xxxหน่ึงหรือเป็นชุด ซึ่งม
(เอ) การบ่งชี้ถึงถิ่นต้นทางและปลายทาง
(บี) การบ่งชี้ถึงถ่ินหยุดxxxอย่างนอยหน่งแห่ง ถ้าถ่ินตนทางและปลายทางอยู่ภายในอาณาเขตของรัฐภาคีเดียว แต่มีถ่ินหยุดพกxxxxxxตกลงกนไวแหงหนึ่งหรือหลายแห่งอยู่ในอาณาเขตของอีกรัฐหนึ่ง
2. วิธีอื่นๆ ซึ่งมีข้อมูลตามที่ระบุในวรรค 1 อาจใช้แทนการส่งมอบเอกสารตามวรรค 1 ได้ ถ้าได้นําวิธีอื่นxxxxxxใช้
ให ูขนส่งเสนอที่จะส่งมอบเอกสารซึ่งแสดงขอมลที่มีอยู่นันให้แก่คนโดยสาร
3. ให นส่งส่งมอบป้ายกํากับสมภาระสาหรับสัมภาระลงทะเบียนแตละxxxxxxx xแกคนโดยสาร่
4. ให้มีข้อความแจ้งให้คนโดยสารทราบว่า ในกรณีที่xxxxxxxxxxxใช้บังคับ xxxxxxxxxxxจะบังคับและอาจจํากัดความ รับผิดของผูขนส่ง ในกรณีการตายหรือการบาดเจ็บและกรณีการถูกทําลายหรือการ สูญหาย หรือการxxxxxxxxxxเกิดขึ้นแก่ สัมภาระ รวมทั้งกรณีการล่าช้า
5. การไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติในวรรคข้างต้นจะไม่กระทบความมีอยู่หรือความxxxxxxxของสัญญารับขน ซึ่งอย่างไร ก็ตาม สญญารบขนนันยังอยู่ภายใต้บังคบกฎเกณฑ์แห่งxxxxxxxxxxx รวมถึงxxxxxxxxxxเก่ียวกับการจํากัดความรับผิด
ข้อ 4 – ของ
1. ในการรับขนของ ให้มีการส่งมอบใบตราส่งทางอากาศ
2. วิธีอื่นๆ ซึ่งมีบันทึกการรับขนที่จะปฏิบัติการ อาจใช้แทนการส่งมอบใบตราส่งทางอากาศ ถ้าได้นําวิธีอื่นxxxxxxใช้ และผู้ตราส่งร้องขอ ให้ผู้ขนส่งส่งมอบใบรับของซึ่งให้ข้อบ่งชี้ถึงของที่ส่งและการเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่ในบันทึกโดยวิธีอื่นนั้น ให้แก่ผู้ตราส่ง
ข 5 - รายการของใบตราส่งทางอากาศหรือใบรบของ
ใบตราส่งทางอากาศหรือใบรับของให้รวมถึง
(เอ) การบ่งชี้ถึงถิ่นตนทางและถิ่นปลายทาง
(บี) การบ่งชี ึงถิ่นหยุดxxxอย่างน้อยหนึงแห่ง ถ้าถิ่นต้นทางและถ่ินปลายทางอยู่ภายในอาณาเขตของรัฐภาคีเดียว
แต่มีถิ่นหยุดพกxxxxxxตกลงกันไวแหงหน่ึงหรือหลายแห่งอยู่ในอาณาเขตของอีกรัฐหน่ึง
(ซี) การบ่งชถ้ี ึงนํ้าหนักแห่งของที่ส่ง
ข 6 – เอกสารเก่ียวกับสภาพแห่งของ
ถ้าจําเป็นต้องปฏิบัติตามพิธีการทางศุลกากร ทางการตํารวจ และพิธีการของหน่วยงานของรัฐหน่วยงานอื่นท่ีมีอํานาจ ทํานองเดียวกัน ผู้ตราส่งอาจถูกเรียกให้ส่งมอบเอกสารที่บ่งชี้สภาพแห่งของ บทบัญญัติน้ีไม่มีผลเป็นการก่อให้เกิดหน้าที่ ภาระผูกพัน หรือความรบผิดแก่ผู้ขนส่ง
ข้อ 7 – รายละเอียดของใบตราส่งทางอากาศ
1. ให้ผูตราส่งจัดทําต้นฉบับใบตราส่งทางอากาศจํานวนสามฉบับ
2. xxxxxหน่ึงให้ระบุไว้ว่า “สําหรับผู้ขนส่ง” โดยให้ผู้ตราส่งลงลายมือชื่อไว้ ฉบับที่สองให้ระบุไว้ว่า “สําหรับผู้รับตราส่ง” โดยให
ผูตราส่งและผู้ขนส่งลงลายมือชือไว้ ฉบับที่สามให ู้ขนส่งลงลายมือชื่อไวและมอบใหแกผ่้้ ูตราส่งหลังจากxxxxxร้ ับของแล้ว
3. ลายมือช่ือของผูขนส่งและของผูตราส่ง อาจพิมพ์หรือประทับตราก็ได้
4. ถาผู้ตราส่งxxxxxxxx
xขนส่งเป็นผู้จดทําใบตราส่งทางอากาศ ให้xxxxxxผู้ขนส่งจัดทําใบตราส่งน
ในนามของผู้ตราส่ง
เว้นแต่จะพิสูจน์ได้เป็นอย่างอื่น
ขอ้ ในกรณีที่มีมากกว่าหนึ่งหีบห่อ (เอ) ผูขนส่งของมีxxxxxเรียกให้ผ
8 – การจัดทําเอกสารสําหรับหลายหีบห่อ
ราส่งจัดทําใบตราส่งทางอากาศแยกต่างหากจากกัน
(บี) ผู้ตราส่งมีxxxxxเรียกให ข้อ 4 วรรค 2
ู้ขนส่งส่งมอบใบรับของแยกต่างหากจากกัน เม่ือได้มีการใช้วิธีอื่นตามที่กล่าวใน
ข้อ 9 – การไม่ปฏิบ ิตามขอกาหนดในเรองเอกสาร่ืํ
การไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติข้อ 4 ถึง 8 ไม่กระทบความมีอยู่หรือความxxxxxxxของสัญญารับขน ซึ่งอย่างไรก็ตาม สัญญา รบขนนั้นยังอยู่ภายใตบ้ ังคับกฎเกณฑ์แห่งอนุสญญาน้ี รวมถึงxxxxxxxxxxเกี่ยวกับการจํากัดความรับผิด
ข้อ 10 – ความรบผิดชอบเกี่ยวกับรายการของเอกสารxxxxxxจัดทํา
1. ผูตราส่งต้องรบผิดชอบในความถูกต้องของรายการและขอความเก่ียวกับของที่ตนหรือบุคคลซึ่งทําในนามของตนได้ ระบุไว้ในใบตราส่งทางอากาศ หรือท่ีตนหรือบุคคลซ่ึงทําในนามของตนได้ให้ไว้แก่ผู้ขนส่งเพื่อการระบุไว้ในใบรับของหรือ เพื่อการระบุไว้ในบันทึกxxxxxเก็บรักษาไว้โดยวิธีอื่นตามท่ีกล่าวในข้อ 4 วรรค 2 ความท่ีกล่าวมาข้างต้นให้ใช้บังคับแก่กรณี ที่บุคคลซ่ึงกระทําในนามของผูตราส่ง เป็นตัวแทนของผู้ขนส่งด้วย
2. ผูตราส่งต้องชดใช้แก่ผูขนสงสําหรับความเสียหายท้งปวงที่เกิดขึนแก่ผขู นส่งหรือแก่บุคคลอ่ืนๆ ซึ่งผู้ขนส่งต้องรบผิด เพราะเหตุแห่งความผิดแบบแผน ความไม่ถูกต้องหรือความไม่ครบถ้วนของรายการและข้อความที่ผู้ตราส่งหรือบุคคลซึ่ง ทําในนามของผู้ตราส่งได้ให้ไว้
3. ภายใต้บังคับบทบัญญัติวรรค 1 และวรรค 2 ของข้อนี้ ผู้ขนส่งต้องชดใช้แก่ผู้ตราส่งสําหรับความเสียหายท้ังปวงที่ เกิดขึ้นแก่ผู้ตราส่ง หรือแก่บุคคลอ่ืนๆ ซึ่งผู้ตราส่งต้องรับผิด เพราะเหตุแห่งความผิด แบบแผน ความไม่ถูกต้อง หรือ ความไม่ครบถ้วนของรายการและข้อความท่ีผู้ขนส่งหรือบุคคลซ่ึงทําในนามของผู้ขนส่งได้ระบุไว้ในใบรับของหรือได้ระบุ
ในบนทึกโดยวิธีอ่ืนตามที่กล่าวในข 4 วรรค 2
ข้อ 11 – คุณค่าแห่งการเป็นพยานหลักฐานของเอกสารxxxxxxจัดทํา
1. ใบตราส่งทางอากาศหรือใบรับของ เป็นพยานหลักฐาน เบื้องต้น ของการทําสัญญา การรับของและเงื่อนไขการรับ ขนที่ระบุไว้ในใบตราส่งทางอากาศหรือใบรับของนั้น
2. ข้อความใดๆ ในใบตราส่งทางอากาศหรือใบรับของที่เกี่ยวกับนํ้าหนัก มิติและการบรรจุของรวมxxxxxxxเก่ียวกับ จํานวนหีบห่อ เป็นพยานหลักฐาน เบ้ืองต้น ของข้อเท็จจริงท่ีแสดงไว้ ข้อความที่เกี่ยวกับปริมาณ ปริมาตรและสภาพแห่ง ของxxxxxxใช้เป็นพยานหลักฐานยันต่อผู้ขนส่งได้ เว้นแต่ ปริมาณ ปริมาตรและสภาพแห่งของนั้น ได้มีการดําเนินการ ทั้งสองอย่างคือ ผู้ขนส่งได้ทําการตรวจสอบต่อหน้าผู้ตราส่งและได้ระบุไว้ในใบตราส่งทางอากาศหรือใบรับของว่าผู้ขนส่ง
ได้ทําการตรวจสอบต่อหน้าผ ราส่ง หรือเป็นข้อความท่เกี่ยวกับสภาพที่เห็นxxxxxxxxแหงของน่ ั้น
ข 12 – xxxxxจดการกับของ
1. ภายใต้ความรับผิดของผู้ตราส่งในการปฏิบัติตามภาระxxxxxxxxxxปวงของผู้ตราส่งxxxxxxxxรับขน ผู้ตราส่งมีxxxxx จัดการกับของ โดยถอนของออก ณ ท่าอากาศยานต้นทางหรือปลายทาง หรือให้งดการขนส่งของในระหว่างการเดินทาง ณ ที่ใดๆ ที่อากาศยานบินลง หรือเรียกให้ส่งมอบของ ณ ถิ่นปลายทางหรือในระหว่างการเดินทางแก่บุคคลอ่ืxxxxมิใช่ผู้รับ ตราส่งท่ีระบุช่ือไว้แต่เดิม หรือให้ส่งของกลับคืนxxxxxท่าอากาศยานต้นทาง ผู้ตราส่งต้องไม่ใช้xxxxxในการจัดการนี้ใน
ลักษณะท่ีจะทําให้เสื่อมเสียแก่ผูขนส่งหรือผูตราส่งรายอ่ืนๆ และจะต้องใช้คืนคาใช้จ่ายใดๆ อันเกิดขึ้นจากการใช
2. ถาเป็นการพ้นxxxxxxxจะปฏิบัติตามคําสั่งของผูตราสงข้างต้น ผู้ขนสงต้องแจ้งให้ผู้ตราส่งทราบโดยพลนั
ิทธินี้
3. ถ้าผู้ขนส่งปฏิบัติตามคําสั่งของผู้ตราส่งในการจัดการของโดยไม่เรียกให้ผู้ตราส่งแสดงใบตราส่งทางอากาศหรือ ใบรับของฉบับที่ส่งมอบให้แก่ผู้ตราส่ง ท้ังนี้ โดยไม่ทําให้เสื่อมเสียแก่xxxxxของผู้ขนส่งที่จะได้รับชดใช้คืนจากผู้ตราส่ง ผู้ขนส่งต้องรับผิดสําหรับความเสียหายใดๆ อันอาจเกิดขึ้นแต่การปฏิบัติตามคําสั่งน้ันต่อบุคคลที่ครอบครองโดยชอบด้วย กฎหมายซึ่งใบตราส่งทางอากาศหรือใบรับของฉบับนั้น
4. xxxxxxxxให้แก่ผู้ตราส่งตามข้อส้ินสุดลงเมื่อxxxxxของผู้รับตราส่งเริ่มต้นข้ึนตามข้อ 13 อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้รับตราส่ง
ปฏิเสธการรับของหรือไม่xxxxxxติดต่อกบผ ับตราส่งได้ ผูตราส่งย่อมกลบมีสิทธจิ ดการกับของ
ข้อ 13 - การส่งมอบของ
1. เว้นแต่เม่ือผู้ตราส่งได้ใช้xxxxxของตนตามข้อ 12 แล้ว เมื่อของมาถึงถ่ินปลายทางและเมื่อได้ชําระค่าxxxxxxxxxxxxx ต้องชําระ รวมทั้งเมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการรับขนแลว้ ผูร้ ับตราส่งมีxxxxxเรียกให้ผู้ขนส่งส่งมอบของให้แก่ตนได้
2. นอกจากจะไดตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ผู้ขนส่งมีหน้าที่แจ้งผ ับตราส่งทันทีเมื่อของมาถึง
3. ถ้าผู้ขนส่งยอมรับการสูญหายแห่งของ หรือถ้าของยังมาไม่ถึงเมื่อพ้นกําหนดxxxxxxxหลังจากxxxxxxของนั้นควรจะ
มาถึงแล้ว ผ ับตราส่งชอบที่จะบังคับเอาแกผ่ ู้ขนส่งซึ่งสิทธทิ ั้งหลายอนเกิดแตส่ ัญญารับขนนันได้
ข้อ 14 – การบงคับใชสิทธของผิ ู้ตราสงและผ่ ู้รับตราสง่
ผู้ตราส่งและผู้รับตราส่งต่างxxxxxxบังคับใช้xxxxxxxxxปวงที่ตนได้รับตามข้อ 12 และ 13 ได้ในนามของตนเอง ไม่ว่าจะ กระทําเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพ่ือประโยชน์ของบุคคลอื่น โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ตราส่งหรือผู้รับตราส่งได้ปฏิบัติตาม ภาระผูกพxxxxกําหนดไว้ในสัญญารับขนแล้ว
ข้อ 15 – ความเกี่ยวพันของผูตราส่งและผูรับตราส่งหรือ
ความเกี่ยวพxxxxมีร่วมกันของxxxxxxxxxxxxสาม
1. ขอ้ 12, 13 และ 14 ไม่กระทบต่อความเกี่ยวพันระหว่างผู้ตราส่งและผู้รับตราส่ง หรือต่อความเกี่ยวพันระหว่างกัน ของบุคคลภายนอกซึ่งได้xxxxxทั้งหลายมา ไม่ว่าจากผู้ตราส่งหรือจากผู้รับตราส่ง
2. บทบัญญัติแห่งข้อ 12, 13 และ 14 xxxxxxเปลี่ยนแปลงได้เฉพาะเมื่อระบุข้อกําหนดโดยชัดแจ้งในใบตราส่งทาง อากาศหรือใบรับของ
ข้อ 16 – พิธีการทางศุลกากร ทางการตํารวจ หรือพิธีการของหน่วยงานของรัฐหน่วยงานอ่ืน
1. ผู้ตราส่งต้องให้ข้อมูลและเอกสารที่จําเป็นต่อการปฏิบัติตามพิธีการทางศุลกากร ทางการตํารวจ และพิธีการของ หน่วยงานของรัฐหน่วยงานอ่ืน ก่อนที่จะส่งมอบของให้แก่ผู้รับตราส่งได้ ผู้ตราส่งต้องรับผิดต่อผู้ขนส่งสําหรับความ เสียหายใดๆ อันเกิดจากการขาดหาย xxxxxxxxxx หรือผิดแบบแผนของข้อมูลหรือเอกสารใดๆ เว้นแต่ความเสียหายนั้น เกิดขึนจากความผิดของผูขนส่ง ของลูกจ้างหรือตวแทนของผู้ขนส่ง
2. ผูขนส่งไม่มีภาระxxxxxxxxxจะตองตรวจสอบความถกตองหรือความเพียงพอของขอมูลหรือเอกสารดังกล่าว
หมวด 3
ความรบผิดของผขู นส่งและขอบเขตของการชดใช้ความเสียหาย
ข้อ 17 – การตายและการบาดเจ็บของคนโดยสาร – ความเสียหายxxxxxxxxxxสัมภาระ
1. ผูขนส่งต้องรับผิดในความxxxxxxxxxxเกิดข ในกรณีที่คนโดยสารถึงแก่ความตายหรือได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย โดย
มีเงื่อนไขเพียงว่าอุบ ิเหตทุ ี่ก่อใหxxxการตายหรือบาดเจ็บนนไดเกิ้้ั ดขึ้นในอากาศยานหรือในระหวางการดาเนํ่ ินการในการ
ขึนหรือการลงจากอากาศยาน
2. ผู้ขนส่งต้องรับผิดในความxxxxxxxxxxเกิดขึ้น ในกรณีที่สัมภาระลงทะเบียนถูกทําลายหรือการสูญหาย หรือการเสียหาย โดยมีเงื่อนไขเพียงว่าเหตุการณ์ที่ก่อให้xxxxxxxถูกทําลาย การสูญหายหรือการเสียหายน้ันได้เกิดขึ้นในอากาศยาน หรือ ในช่วงเวลาxxxxxภาระลงทะเบียนนั้นอยู่ในหน้าท่ีดูแลรักษาของผู้ขนส่ง อย่างไรก็ตามผู้ขนส่งไม่ต้องรับผิดถ้าความเสียหาย น้ันเป็นผลมาจากความชํารุดบกพร่อง คุณภาพหรือการเส่ือมสภาพในตัวเองแห่งสัมภาระนั้น ในกรณีสัมภาระ ไม่ลงทะเบียน รวมถึงสิ่งของส่วนตัว ผู้ขนส่งต้องรับผิดถ้าความเสียหายน้ันเป็นผลมาจากความผิดของผู้ขนส่ง หรือของ ลูกxxxหรือตัวแทนของผู้ขนส่ง
3. ถ้าผู้ขนส่งยอมรับว่าสัมภาระลงทะเบียนสูญหาย หรือถ้าสัมภาระลงทะเบียนยังมาไม่ถึงเมื่อพ้นกําหนดยี่สิบxxxxxxx
หลังจากxxxxxxสัมภาระน ควรจะมาถึง คนโดยสารชอบที่จะบังคับเอาแก่ผูขนส่งซึ่งxxxxxทั้งหลายอนเกิดแต่สัญญารับขนนั้นได
4. นอกจากจะกําหนดเป็นอย่างอื่น ในxxxxxxxxxxx คําว่า “สัมภาระ” หมายความรวมทั้งสัมภาระลงทะเบียนและ สัมภาระไม่ลงทะเบียน
ข้อ 18 - ความเสียหายแก่ของ
1. ผู้ขนส่งต้องรับผิดในความxxxxxxxxxxเกิดขึ้น ในเหตุการณ์ที่ของถูกทําลายหรือสูญหาย หรือที่ของเสียหาย โดยมี เง่ือนไขเพียงว่าเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นxxxxว่านันเกิดขึ้นในระหว่างการรับขนทางอากาศ
2. อย่างไรก็ตาม ผู้ขนส่งไม่ตองรับผิดถ้าผู้ขนส่งพิสูจน์ได้ว่าการถูกทําลายหรือการสูญหายหรือการเสียหายแก่ของ นั้น เป็นผลมาจากเหตุหนึ่งเหตุใด ดังต่อไปนี้
(เอ) ความชํารุดบกพร่อง คุณภาพ หรือการเสื่อมสภาพในตัวเองแห่งของนั้น
(บี) การบรรจุหีบห่อท่ีบกพร่องแห่งของน ของผู้ขนส่ง
ซึ่งกระทาโดยบุคคลอื่นนอกจากผู้ขนส่งหรือลูกจ้างหรือตัวแทน
(ซี) การปฏิบัติการทางxxxxxxหรือการขัดแยงทางxxxxx
(ดี) การกระทําของเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบ ิหนาที่อนเก่ียวกับการเข้า การออกหรือการผ่านxxxแห่งของ
3. การรับขนทางอากาศในความหมายในวรรค 1 แห่งข้อนี้ หมายความรวมถึงช่วงเวลาในระหว่างที่ของอยู่ในหน้าที่ ดูแลรักษาของผูขนส่งด้วย
4. ช่วงเวลาของการรับขนทางอากาศ ไม่ขยายรวมไปxxxxxxรับขนใดๆ โดยทางบก ทางทะเล หรือทางน้ําภายใน ประเทศที่ปฏิบัติการนอกท่าอากาศยาน อย่างไรก็ตาม ถ้าการรับขนxxxxว่านั้น เกิดขึ้นในการปฏิบัติการxxxxxxxx สําหรับการรับขนทางอากาศ เพ่ือความมุ่งxxxxxxxในการขนขึ้น การส่งมอบหรือการถ่ายลํา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าความ เสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการรับขนทางอากาศ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้เป็นอย่างอื่น ถ้าผู้ขนส่งใช้การขนส่งรูปแบบอ่ืนตลอดเสนทางหรือบางส่วนของเสนทางแทนการรับขนตามความมุ่งหมายของความตกลง ระหว่างคู่สัญญาให้ทําการรับขนทางอากาศโดยxxxxxxรับความยินยอมจากผู้ตราส่ง ให้xxxxxxการรับขนโดยการขนส่งรูปแบบ อื่นน้นอยู่ในช่วงของการรับขนทางอากาศ
ข้อ 19 – การล่าชา้
ผู้ขนส่งต้องรับผิดในความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนจากการล่าช้าในการรับขนทางอากาศซึ่งคนโดยสารหรือสัมภาระ หรือของ อย่างไรก็ตาม ผู้ขนส่งไม่ต้องรับผิดสําหรับความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนจากการล่าช้า ถ้าผู้ขนส่งพิสูจน์ได้ว่าตน และลูกจ้างหรือ ตัวแทนของตน ได้ใชมาตรการทงั ปวงท่ีควรต้องกระทําเพื่อหลีกเล่ียงความเสียหายนั้นแล้ว หรือเป็นการxxxxxxxxxxxตน หรือ ลูกจ้างหรือตวแทนของตนจะใช้มาตรการxxxxว่านั้น
ข้อ 20 – การพนจากความรับผิด
ถ้าผู้ขนส่งพิสูจน์ได้ว่าความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนมีเหตุมาจากหรือมีส่วนในความประมาทเลินเล่อ หรือการกระทําหรือการ ละเว้นการกระทําโดยมิชอบประการอื่นของผู้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือบุคคลที่ผู้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนxxxxxxxxxx ให้ผู้ขนส่งพ้นจากความรับผิดของตนทั้งหมดหรือบางส่วนเพียงเท่าท่ีความประมาทเลินเล่อ หรือการกระทําหรือการ ละเว้นการกระทําโดยมิชอบนั้นเป็นเหตุหรือมีส่วนให้เกิดความเสียหาย เมื่อมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพราะ เหตุการตายหรือบาดเจ็บของคนโดยสารโดยบุคคลอ่ืxxxxมิใช่คนโดยสารน้ัน ให้ผู้ขนส่งพ้นจากความรับผิดของตนทั้งหมด หรือบางส่วนxxxxเดียวกัน เพียงเท่าที่ผู้ขนส่งพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นหรือมีส่วนจากความประมาทเลินเล่อ หรือการกระทําหรือการละเว้นการกระทําโดยมิชอบประการอื่นของคนโดยสารนั้น ข้อน้ีใช้บังคับแก่บทบัญญัติว่าด้วย ความรับผิดทั้งปวงในxxxxxxxxxxรวมถึงวรรค 1 ของข้อ 21 ด้วย
ข 21 – ค่าสินไหมทดแทนในกรณีการตายหรือการบาดเจ็บของคนโดยสาร
1. xxxxxxxxxxxxxเกิดข้ึนภายใต้ข้อ 17 วรรค 1 xxxxxxเกิน 100 000* หน่วยxxxxxพิเศษถอนเงินต่อคนโดยสารแต่ละคน ผูขนส่งจะบอกปัดหรือจํากัดความรับผิดของตนxxxxxx
2. ผูขนส่งไม่ต้องรับผิดในxxxxxxxxxxxxxเกิดขึนภายใตข้ อ้ 17 วรรค 1 ในขอบเขตท่ีเกิน 100 000† หน่วยxxxxxพิเศษ ถอนเงินต่อคนโดยสารแต่ละคน ถาผูขนส่งพิสูจน์ได้ว่า
(เอ) ความเสียหายนั้นxxxxxxเน่ืองมาจากความประมาทเลินเล่อหรือการกระทําหรือการละเว้นการกระทํา โดยมิชอบประการอื่นของผู้ขนส่ง หรือของลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้ขนส่ง หรือ
(บี) ความเสียหายน้นโดยแทแล้วเน่ืองมาจากความประมาทเลินเล่อหรือการกระทําหรือการละเว้น การกระทําโดยมิชอบประการอื่นของบุคคลที่สาม
ข้อ 22 – จํานวนจํากัดความรับผิดเกี่ยวกับการxxxxx xxภาระและของ
1. ในกรณีที่ความเสียหายเกิดจากการล่าช้าตามที่ระบุไว้ในข้อ 19 ในการรับขนคน ความรับผิดของผู้ขนส่งต่อคน โดยสารแต่ละคน ให้จํากดเพียง 4 150‡ หน่วยxxxxxxxxxxxxxxxxx
2. ในการรบขนสมภาระ ความรับผิดของผู้ขนส่งในกรณีการถูกทําลาย การสูญหาย การเสียหาย หรือการล่าช้า ให้จํากัดเพียง 1 000§ หน่วยxxxxxพิเศษถอนเงินต่อคนโดยสารแต่ละคน เว้นแต่ ในขณะที่มอบสัมภาระลงทะเบียนให้แก่ผู้ขนส่ง คนโดยสารได้ทําการxxxxxxxxไว้เป็นพิเศษถึงส่วนxxxxxxxxxxจะได้รับในการส่งมอบ ณ ถิ่นปลายทาง และได้ชําระเงิน เพิ่มเติมในกรณีที่ต้องชําระแล้ว ในกรณีxxxxว่าน้ัน ผู้ขนส่งย่อมต้องรับผิดชําระเงินจํานวนไม่เกินจํานวนที่xxxxxxxxไว้ นอกจากผขู นส่งจะพิสูจน์ไดว้ ่าจํานวนเงินนั้นสูงกว่าส่วนไดเสยท่ีxxxxxxxxxคนโดยสารจะได้รับ เม่ือมีการส่งมอบ ณ ถ่ินปลายทาง
3. ในการรับขนของ ความรับผิดของผู้ขนส่งในกรณีการถูกทําลาย การสูญหาย การเสียหาย หรือการล่าช้า ให้จํากัด เพียงจํานวน 17** หน่วยxxxxxพิเศษถอนเงินต่อหนึ่งกิโลกรัม เว้นแต่ในขณะที่มอบหีบห่อให้แก่ผู้ขนส่ง ผู้ตราส่งได้ทําการ xxxxxxxxไว้เป็นพิเศษถึงส่วนxxxxxxxxxxจะได้รับในการส่งมอบ ณ ถิ่นปลายทางและได้ชําระเงินxxxxxเติมในกรณีที่ต้องชําระ แล้ว ในกรณีxxxxว่านั้น ผู้ขนส่งย่อมต้องรับผิดชําระเงินจํานวนไม่เกินจํานวนที่xxxxxxxxไว้ นอกจากผู้ขนส่งจะพิสูจน์ได้ ว่าจํานวนเงินนั้นสูงกว่าส่วนxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxผู้ตราส่งจะได้รับ เมื่อมีการส่งมอบ ณ ถ่ินปลายทาง
4. ในกรณีที่มีการถูกทําลาย การสูญหาย การเสียหาย หรือการล่าช้าเกิดขึนแก่ของบางส่วนหรือแก่สิ่งใดๆ ที่อยู่ในของ นั้น น้ําหนักซ่ึงจะใช้เป็นข้อพิจารณาในการกําหนดจํานวนเงินสําหรับการจํากัดความรับผิดของผู้ขนส่ง ให้xxxxxxxx น้ําหนักรวมของหีบห่อเดียวหรือหลายหีบห่อที่เก่ียวข้อง อย่างไรก็ตาม ถ้าการถูกทําลาย การสูญหาย การเสียหาย หรือ
* ปัจจุบันคือ จํานวน 113 000 หน่วยxxxxxพิเศษถอนเงิน ซึ่ง ICAO ในฐานะผู้เก็บรักษาอนุสญญาได้ทบทวนจํานวนจํากัดความรบผิด
(Limit of liability) ตามข้อ 24 ของอนุสัญญา ซึ่งเป็นการทบทวนครงั แรก เมื่อปี 2008 (ส
† ปัจจุบนคือ จํานวน 113 000 หน่วยxxxxxxxxxxxxxxxxx
‡ ปัจจุบันคือ จํานวน 4 694 หน่วยxxxxxxxxxxxxxxxxx
§ ปัจจุบันคือ จํานวน 1 130 หน่วยxxxxxพิเศษถอนเงิน
** ปัจจุบันคือ จํานวน 19 หน่วยxxxxxxxxxxxxxxxxx
สดปีที่หานับจากxxxxxxอนุสัญญามีผลใช้บังคบ)
การxxxxxxxxเกิดขึนแก่บางส่วนแห่งของหรือแก่ส่ิงใดๆ ที่อยู่ในของนั้น กระทบต่อxxxxxxของหีบห่ออื่นที่ส่งโดยใบตราส่งทาง อากาศเดียวกัน หรือใบรับของเดียวกัน หรือบันทึกเดียวกันxxxxxxบันทึกไว้โดยวิธีอื่นตามท่ีกล่าวในวรรค 2 ของข้อ 4 เม่ือไม่มีการออกใบตราส่งทางอากาศหรือใบรับของโดยให้ใช้นํ้าหนักรวมของหีบห่อเดียวหรือหลายหีบห่อxxxxว่านั้นเป็น
ข้อพิจารณาในการกําหนดจํานวนจํากดความรับผิดของผ นส่งด้วย
5. บทบัญญัติแห่งวรรค 1 และวรรค 2 ของข้อนี้มิให้ใช้บังคับ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการ กระทําหรือการละเว้นการกระทําของผู้ขนส่ง ของลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้ขนส่งซึ่งกระทําโดยจงใจก่อให้เกิดความ เสียหาย หรือโดยประมาทและรู้อยู่ว่าน่าจะเป็นผลให้เกิดความเสียหายขึ้น ทั้งนี้ หากเป็นกรณีท่ีการกระทําหรือการละ เว้นการกระทําของลูกจ้างหรือตวแทน ต้องพิสูจน์ไดว้ ่าลูกจ้างหรือตวแทนนันได้กระทําภายในขอบเขตหน้าท่ีการงานของตน
6. จํานวนจํากัดความรับผิดที่กําหนดในข้อ 21 และในข้อนี้ไม่ยับยั้งศาลในการพิพากษาให้เพิ่มเติมในค่าธรรมเนียมศาล และค่าใช้จ่ายอ่ืนในการดําเนินคดีที่โจทก์ต้องเสียไปท้ังหมดหรือบางส่วนพร้อมทั้งดอกเบี้ย ตามท่ีกําหนดในกฎหมายของรัฐ บทบญxxxxxxxกล่าวข้างต้นแล้วไม่ใช้บังคับ ถ้าในกรณีท่ีจํานวนxxxxxxxxxxxxxศาลพิพากษาให้ โดยไม่รวมค่าธรรมเนียมศาลและ ค่าใช้จ่ายอื่นในการดําเนินคดี ไม่เกินจํานวนที่ผู้ขนส่งได้เสนอเป็นหนังสือต่อโจทก์ภายในระยะเวลาหกเดือนนับจากxxxxxx
เกิดเหตุที่ทําใหเกิดความเสียหาย หรือก่อนวนย่นฟ้องคดี ถ้าได ้องคดหลี ังจากชวงระยะเวลาดงกลั่ ่าว
ข้อ 23 – การxxxxxxxหน่วยเงินตรา
1. จํานวนที่กําหนดไว้ในรูปของหน่วยxxxxxพิเศษถอนเงินในxxxxxxxxxxxให้xxxxxxเป็นการกล่าวถึงหน่วยxxxxxพิเศษถอน เงินตามที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศกําหนด ในกรณีท่ีมีการดําเนินคดี การxxxxxxxจํานวนดังกล่าวให้เป็นสกุล เงินตราของชาติ ให้ทําโดยใช้xxxxxxของสกุลเงินตรานั้นในหน่วยxxxxxพิเศษถอนเงิน ณ วันพิพากษาคดี xxxxxxของสกุล เงินตราของชาติในรูปหน่วยxxxxxพิเศษถอนเงินของรัฐภาคีที่เป็นสมาชิกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ให้คํานวณตามวิธี กําหนดxxxxxxที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศใช้สําหรับการดําเนินการและธุรกรรมของกองทุน ท่ีมีผลใช้บังคับ ณ วัน พิพากษาคดี xxxxxxของสกุลเงินตราของชาติในรูปหน่วยxxxxxพิเศษถอนเงินของรัฐภาคีxxxxxxเป็นสมาชิกกองทุนการเงิน ระหว่างประเทศ ให้คํานวณตามวิธีท่ีรัฐภาคีนันกําหนด
2. อย่างไรก็ตาม บรรดารัฐภาคีxxxxxxเป็นสมาชิกกองทุนการเงินระหว่างประเทศและกฎหมายของตนไม่อนุญาตให้ใช้ บทบัญญัติในวรรค 1 ของข้อน้ีxxx xxxประกาศ ณ เวลาxxxxxxxxxxxxxxหรือภาคยานุวัติหรือ ณ เวลาใดๆ หลังจากนั้นว่า ในการจํากัดความรับผิดของผู้ขนส่งตามท่ีกําหนดในข้อ 21 ให้กําหนดอยู่ที่จํานวน 1 500 000 หน่วยเงินตราต่อคนโดยสาร ในการดําเนินคดีในอาณาเขตของตน 62 500 หน่วยเงินตราต่อคนโดยสารในกรณีตามวรรค 1 ของข้อ 22 15 000 หน่วยเงินตราต่อคนโดยสารในกรณีตามวรรค 2 ของข้อ 22 และ 250 หน่วยเงินตราต่อกิโลกรัมในกรณีตาม วรรค 3 ของข้อ 22 หน่วยเงินตรานี้เทียบเท่ากับทองคําจํานวนหกสิบห้ากับกึ่งมิลลิกรัมโดยมีความxxxxxxxxxxxxxร้อยส่วน ในหนึ่งพันส่วน จํานวนทั้งหลายน้ีอาจxxxxxxxเป็นxxxxxxxxxxxของชาติที่เกี่ยวข้องในจํานวนถ้วน การxxxxxxxจํานวน ทั้งหลายนใี ห้เป็นxxxxxxxxxxxของชาติจะต้องกระทําตามกฎหมายของรัฐที่เก่ียวข้อง
3. การคํานวณที่กล่าวมาแล้วในxxxxxxสุดท้ายของวรรค 1 ของข้อน้ีและวิธีการxxxxxxxxxxกล่าวมาแล้วในวรรค 2 ของข้อน้ี ให้กระทําในลักษณะที่แสดงในสกุลเงินตราของรัฐภาคีในxxxxxxแท้จริงเดียวกับจํานวนในข้อ 21 และ ข้อ 22 เท่าท่ีจะเป็นไปได้ ซึ่งจะเป็นผลลัพธ์มาจากการใช้บังคับแห่งสามxxxxxxแรกของวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐภาคีจะต้องแจ้งไป ยังผูเก็บรักษาอนุสญญาถึงวิธีการคํานวณตามวรรค 1 ของข้อนี้ หรือผลลัพธ์ของการxxxxxxxในวรรค 2 ของข้อนี้แล้วแต่กรณี เมื่อมอบสัตยาบันสาร xxxxxxxxxxxx xxxxxxให้ความเห็นชอบหรือภาคยานุวัตสารxxxxxxxxxxx และเมื่อใดก็ตามที่มีการ เปลี่ยนแปลงการคํานวณหรือการxxxxxxx
ข 24 – การทบทวนจํานวนจํากดความรบผิด
1. โดยไม่เป็นการเส่ือมเสียต่อบทบัญญัติข้อ 25 แห่งxxxxxxxxxxxและภายใต้บังคับของวรรค 2 ข้างล่างน้ี การจํากัด ความรับผิดที่กําหนดในข้อ 21, 22 และ 23 ให้ทบทวนโดยผู้เก็บรักษาอนุสัญญาทุกรอบระยะเวลาห้าปี การทบทวน ดังกล่าวครั้งแรกให้กระทําเม่ือส้ินสุดปีท่ีห้านับจากxxxxxxxxxxxxxxxxxมีผลใช้บังคับ หรือถ้าอนุสัญญาไม่มีผลใช้บังคับภายใน ห้าปีจากxxxxxxเปิดให้ลงนามเป็นคร้ังแรก ให้กระทําภายในปีแรกที่อนุสัญญามีผลใช้บังคับโดยอ้างถึงปัจจัยเงินเฟ้อซึ่ง เทียบเท่ากับอัตราเงินเฟ้อสะสมตั้งแต่การทบทวนคร้ังก่อนหรือเม่ือขณะแรกตั้งแต่xxxxxxอนุสัญญามีผลใช้บังคับ การวัด อัตราเงินเฟ้อที่จะใช้ในการกําหนดปัจจัยเงินเฟ้อให้ใช้ค่าเฉxxxยของอัตราการxxxxxหรือลดรายปีในดัชนีราคาผู้บริโภคของรัฐ xxxxxxxxxxxxxxxของชาติที่ประกอบเป็นหน่วยxxxxxพิเศษxxxxxxxxxxกล่าวในวรรค 1 ของข้อ 23
2. ถ้าการทบทวนดังอ้างถึงในวรรคก่อนสรุปว่า ปัจจัยเงินเฟ้อเกินร้อยละ 10 ให้ผู้เก็บรักษาอนุสัญญาแจ้งรัฐภาคีxxx xxxทบทวนจํานวนจํากัดความรับผิด การทบทวนใดๆ xxxxว่านั้นให้มีผลใช้บังคับหกเดือนหลังจากการแจ้งของผู้เก็บรักษา อนุสญญาไปยังรัฐภาคี ถ้าภายในสามเดือนหลังจากการแจ้งของผู้เก็บรักษาอนุสัญญาไปยังรัฐภาคี รัฐภาคีส่วนใหญ่ได้แจ้ง เป็นหลักฐานว่าไม่เห็นชอบด้วย การทบทวนน้ันไม่มีผลบังคับและให้ผู้เก็บรักษาอนุสัญญานําเสนอเร่ืองดังกล่าวต่อที่ ประชุมรัฐภาคีให้ผูเก็บรักษาอนุสัญญาแจงไปยังรัฐภาคีทงั ปวงทันทีxxxxxxแก้ไขใดๆ ท่ีมีผลบังคับ
3. ถึงแมจะมีวรรค 1 ของข้อนxxx xตาม xxxxxxxxxxxxกล่าวถึงในวรรค 2 ของขอนใี หใช้บังคับ ณ เวลาใดๆ ท่ีรัฐภาคีหนึ่ง ในสามได้แสดงความxxxxxxxxxxจะทําการทบทวนจํานวนจํากัดความรับผิดโดยมีเง่ือนไขว่าปัจจัยเงินเฟ้อท่ีกล่าวถึงใน วรรค 1 เกินร้อยละ 30 นับแต่การแก้ไขคร้ังก่อน หรือนับแต่xxxxxxxxxxxxxxxxxมีผลใช้บังคับถ้าไม่มีการแก้ไขxxxxxx การ ทบทวนครั้งต่อๆ มาซ่ึงใช้xxxxxxxxxxxxกําหนดในวรรค 1 ของข้อนี้จะต้องกระทําทุกรอบระยะเวลาห้าปีเริ่มตั้งแต่เม่ือ สิ้นสุดปีท่ีหาหลังจากxxxxxxมีการทบทวนภายใต้วรรคนี้
ข้อ 25 – การกําหนดจํานวนจํากดความรบผิด
ผู้ขนส่งอาจกําหนดให้สัญญารับขนอยู่ใต้บังคับจํานวนจํากัดความรับผิดที่สูงกว่าที่กําหนดในxxxxxxxxxxx หรือไม่จํากัด จํานวนความรับผิดเลยก็ได้
ข้อ 26 – โมฆะกรรมของขอกําหนดในสญญา
ข้อกําหนดใดๆ ที่มุ่งจะxxxxxxxxxxผู้ขนส่งให้หลุดพ้นจากความรับผิด หรือที่มุ่งจะกําหนดจํานวนจํากัดความรับผิดให้ตํ่า กว่าที่xxxxxxxxxxxไว้ ย่อมเป็นโมฆะ แต่ความเป็นโมฆะของข้อกําหนดใดๆ xxxxว่าไม่ทําให้สัญญาท้ังฉบับเป็นโมฆะ ซึ่ง ขอกําหนดในสัญญาxxxxxxxอยู่ ให้อยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งxxxxxxxxxxx
ข้อ 27 - xxxxxxxxxxจะทําสัญญา
ไม่มีบทบญxxxxใดในอนุสญญานี้ ยบยงั ผูขนส่งในการปฏเสธไม่เข้าทําสญญารับขนใดๆ หรือการสละขอต่อสู้ใดๆ ที่มีอยู่ตาม
อนุสญญานี้ หรือการกําหนดเงื่อนไขต่างๆ ซ่ึงไม่ขัดกับบทบญญ ิแห่งอนุสญญาน
ข 28 – การจ่ายเงินล่วงหน้า
ในกรณีที่อากาศยานประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นผลให้คนโดยสารถึงแก่ความตายหรือได้รับบาดเจ็บ ถ้าได้กําหนดไว้โดย กฎหมายภายในของรัฐของผู้ขนส่ง ให้ผู้ขนส่งจ่ายเงินล่วงหน้าโดยxxxxxxxxxแก่บุคคลธรรมดาคนหน่ึงหรือหลายคนหรือผู้มี xxxxxเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เพื่อใช้ตามความจําเป็นเฉพาะหน้าของบุคคลxxxxว่านั้น การจ่ายเงินล่วงหน้าxxxxว่าน้ัน ไม่ถือ เป็นการยอมรับความรบผิดของผูขนส่ง และอาจนํามาหักออกจากจํานวนใดๆ ท่ีผูขนส่งจ่ายเป็นค่าเสียหายในภายหลังได้
ข้อ 29 – มูลแห่งการเรียกรอง
ในการรับขนคนโดยสาร สัมภาระและของ การฟ้องคดีใดๆ เพื่อเรียกร้องxxxxxxxxxx xxxว่าจะxxxxxอย่างไร ไม่ว่า ภายใต้xxxxxxxxxxxหรือโดยสัญญาหรือโดยละเมิดหรือโดยประการอื่น xxxxxxxxxxได้เฉพาะเมื่ออยู่ภายใต้บังคับเงื่อนไข และจํานวนจํากัดความรับผิดตามที่กําหนดไว้ในxxxxxxxxxxx โดยไม่เสื่อมเสียต่อประเด็นปัญหาท่ีว่าผู้ใดเป็นบุคคลผู้มีxxxxx
xxxxคดีและxxxxxของแต่ละบุคคลนันจะเป็นประการใด ในการฟ้องคดีxxxxวานั้นจะxxxxx xxxxxxxxxxxxxเป็นตวอย่าง หรือค่าเสียหายอ่ืxxxxxxxอาจได้รับการชดเชย
ับคาเสียหายเพื่อการลงโทษ หรือ
ข้อ 30 – ลูกxxx ตัวแทน – การเรียกร้องรวมกัน
1. ถามีการฟ้องลูกจ้างหรือตวแทนของผู้ขนส่งในความเสียหายซึ่งเก่ียวกบxxxxxxxxxxx ถ้าลูกจ้างหรือตัวแทนนั้นพิสูจน์ ได้ว่าพวกเขาได้กระทําภายในขอบเขตหน้าที่การงานของพวกเขา ลูกจ้างหรือตัวแทนxxxxว่านั้น มีxxxxxxxxจะใช้เงื่อนไขและ การจํากดความรบผิดซ่ึงผูขนส่งมีxxxxxอางภายใตอนุสญญานี้
2. จํานวนรวมท่ีจะได้รับจากผู้ขนส่ง จากลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้ขนส่งในกรณีxxxxว่านั้น ต้องไม่เกินจํานวนจํากัด ความรับผิดxxxxxxกล่าวไว้
3. เว้นแต่ในกรณีการรับขนของ บทบัญญัติแห่งวรรค 1 และวรรค 2 ของข้อน้ี ไม่ใช้บังคับ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าความ เสียหายน้ันเป็นผลมาจากการกระทําหรือการละเว้นการกระทําของลูกจ้างหรือตัวแทน ซ่ึงได้กระทําโดยจงใจก่อให้เกิด ความเสียหาย หรือโดยประมาทและรู้อยู่ว่าน่าจะเป็นผลใหเกิดความเสียหายขึ้น
ข้อ 31 – กําหนดเวลาแจ้งการxxxxxxx
1. การรบมอบโดยบุคคลผู้มีxxxxxรับสัมภาระลงทะเบียนหรือของโดยไม่มการxxxxxxx ย่อมเป็น พยานหลกฐานเบืองต้น ว่า สัมภาระลงทะเบียนหรือของได้มีการส่งมอบในสภาพดีและตรงตามเอกสารการรับขนหรือตามบันทึกโดยวิธีอื่นตามวรรค 2 ของข้อ 3 และวรรค 2 ของขอ้ 4
2. ในกรณีที่มีความเสียหาย บุคคลผู้มีxxxxxรับมอบต้องxxxxxxxต่อผู้ขนส่งโดยxxxxหลังจากท่ีพบความเสียหายนั้น และ อย่างช้าที่สุดภายในxxxxxxxนับแต่xxxxxxได้รับมอบในกรณีสัมภาระลงทะเบียน และสิบxxxxxxนับแต่xxxxxxได้รับมอบในกรณีของ ในกรณีล่าช้า การทกท้วงต้องทําอย่างช้าที่สุดภายในย่ีสิบxxxxxxxนับแต่xxxxxxสมภาระหรือของนั้นอย่ในเงอื มมือของผู้มีxxxxxรับ
3. การxxxxxxxทุกกรณีต้องทําเป็นหนังสือและให้ไว้หรือส่งออกไปภายในระยะเวลาท่ีกล่าวมา
4. ถาไม่มีการxxxxxxxภายในระยะเวลาท ล่าวมา จะฟองคดxxxx ขนสงxxxxxx เวนแตเป็่้ นกรณีกลฉ้อฉลของฝ่ายผู้ขนส่ง
ข 32 - ความตายของบุคคลผู้ต้องรบผิด
ในกรณีท่ีบุคคลผู้ต้องรับผิดถึงแก่ความตาย การฟ้องคดีเพ่ือเรียกร้องค่าเสียหายตามข้อกําหนดแห่งxxxxxxxxxxx ให้ฟ้อง ผู้แทนตามกฎหมายของกองทรัพย์สินของผู้ตาย
ข้อ 33 – เขตอํานาจศาล
1. การฟ้องคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต้องฟ้องต่อศาลในอาณาเขตของรัฐภาคีหน่ึง ไม่ว่าต่อศาลที่มีเขตอํานาจเหนือ ภูมิลําเนาของผู้ขนส่งหรือเหนือสํานักงานแห่งใหญ่ของผู้ขนส่ง หรือเหนือสถานที่ประกอบธุรกิจของผู้ขนส่งซึ่งได้มีการทํา สญญา หรือต่อศาลที่มีเขตอํานาจเหนือถิ่นปลายทาง ตามแต่โจทก์จะเลือก
2. ในกรณีความเสียหายเป็นผลมาจากความตายหรือการบาดเจ็บของคนโดยสาร การฟ้องคดีอาจฟ้องต่อศาลใดศาลหน่ึง ที่กล่าวมาในวรรค 1 ของข้อน้ี หรือในอาณาเขตของรัฐภาคีซึ่งในเวลาท่ีเกิดอุบัติเหตุ คนโดยสารนั้นมีถิ่นที่อยู่หลักและ xxxx และผู้ขนส่งดําเนินการให้บริการการรับขนคนโดยสารทางอากาศไปยังหรือออกจากรัฐภาคีนั้น ไม่ว่าจะใช้อากาศยาน
ของตนเอง หรืออากาศยานของผู้ขนส่งอื่นตามข้อตกลงทางพาณิชย์ และซ่ึงผู้ขนส่งน ประกอบธุรกิจรับขนคนโดยสารทาง
อากาศจากสถานxxxxxxตนเองหรือผู้ขนส่งอื่นที่ตนมีขอตกลงทางพาณิชย์ ได้ทําสัญญาเช่าหรือเป็นเจ้าของ
3. เพื่อความมุ่งxxxxxxxของวรรค 2
(เอ) “ขอตกลงทางพาณิชย์” หมายถึง ขอตกลงซึ่งทําขนึ ระหวางผูขนส่งและเกี่ยวกบข้อกําหนดในการให้บริการร่วม ในการรบขนคนโดยสารทางอากาศ นอกจากข้อตกลงตงั ตัวแทน
(บี) “ถิ่นที่อยู่หลกและxxxx” หมายถึง ที่อาศัยประจําท่ีและแน่นอนแห่งเดียวของคนโดยสาร ณ เวลาท่ีเกิด อุบัติเหตุ สญชาติของคนโดยสารไม่เป็นปัจจัยในการกําหนดเรื่องน้ี
4. ปัญหาในเร่ืองกระบวนพิจารณา ให้บงคับตามกฎหมายของศาลที่พิจารณาคดีนั้น
ข้อ 34 – การอนุญาโตตุลาการ
1. ภายใต้บังคับบทบัญญัติของขอนี้ คู่สญญาในสญญารบขนของอาจกําหนดว่าการระงับข้อพิพาทใดๆ เก่ียวกับความ รับผิดของผูขนส่งภายใต้xxxxxxxxxxx ใหระงับโดยการอนุญาโตตุลาการ ความตกลงxxxxว่าจะต้องทําเป็นหนังสือ
2. การพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ ให ําภายในเขตอํานาจศาลหน่ึงศาลใดที่กล่าวในข้อ 33 ตามแต่ผู้เรียกร้องจะเลือก
3. ใหอนุญาโตตุลาการหรือคณะอนุญาโตตุลาการใชบทบัญญ ิแหงxxx xxxxxxxxx
4. บทบัญญัติในวรรค 2 และวรรค 3 ของข้อนี้ ให้xxxxxxเป็นส่วนหน่ึงของข้อความหรือข้อตกลงเกี่ยวกับอนุญาโตตุลาการ
และข้อกําหนดใดๆ ในข้อความหรือข้อตกลงxxxxว่าน ซึ่งขัดกับบทท่ีกล่าวมาย่อมเป็นโมฆะ
ข 35 – การจํากัดการฟ้องคดี
1. xxxxxในค่าเสียหายเป็นอนระงับสินไป ถ้าไม่xxxxxxxคดีภายในระยะเวลาสองปีนับแต่xxxxxxมาถึงปลายทาง หรือนับแต่ xxxxxxอากาศยานนนั ควรจะได้ถึงแล้ว หรือนับแต่xxxxxxการรับขนได้หยุดลง
2. วิธีการคํานวณระยะเวลาดังกล่าว ใหค้ ํานวณตามกฎหมายของศาลที่พิจารณาคดีนั้น
ข้อ 36 – การรบขนต่อเนื่องกัน
1. ในกรณีของการรับขนที่จะปฏิบัติการโดยผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดต่อเนื่องกันและเข้าข่ายคําxxxxxxxxกําหนดใน วรรค 3 ของข้อ 1 ให้ผู้ขนส่งแต่ละรายซึ่งรับคนโดยสาร สัมภาระหรือของอยู่ภายใต้บังคับxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxกําหนด และให้xxxxxxเป็นคู่สัญญาคนหน่ึงของสัญญารับขนเท่าที่สัญญานั้นเกี่ยวกับช่วงของการรับขนซ่ึงปฏิบัติการภายใต้การ ควบคุมดูแลของตน
2. ในกรณีของการรับขนในลักษณะนี้ คนโดยสารหรือบุคคลใดๆ ที่มีxxxxxxxxรับค่าสินไหมทดแทนอันเกี่ยวกับ
คนโดยสารน
xxxxxxxxxxคดีได้เฉพาะต่อผ
นส่งทอดที่ปฏิบัติการรับขนในระหว่างท่ีอุบัติเหตุหรือการล่าช้าน้ันได้เกิดขึ้น
เว้นแต่จะมีความตกลงกันโดยแจ้งชัดว่าผูขนส่งทอดแรกเข้ารับผิดตลอดการเดินทาง
3. ในกรณีสมภาระหรือของ คนโดยสารหรือผู้ตราส่งย่อมมีสิทธฟิ xxxxxxต่อผู้ขนส่งทอดแรก และคนโดยสารหรือผูร้ ับ ตราส่งซึ่งมีxxxxxรับสมภาระหรือของย่อมมีxxxxxxxxxคดีต่อผู้ขนส่งทอดสุดท้าย และนอกจากนัน้ คนโดยสาร ผู้ตราส่ง หรือ ผูร้ ับตราส่ง อาจฟ้องคดีต่อผู้ขนส่งทอดท่ีปฏิบตั ิการรับขนในระหว่างท่ีการถูกทาลาย การสูญหาย การเสียหาย หรือการล่าชา้
เกิดขึ้น ผู้ขนส่งทุกทอดที่กล่าวมาน้นยอมต้องรับผิดร่วมกันและแทนกันต่อคนโดยสาร หรือต่อผ ราส่งหรือผู้รับตราส่ง
ข้อ 37 – xxxxxxxxxxxxxต่อxxxxxxxสาม
ไม่มีบทบัญญัติใดในxxxxxxxxxxxทําให้เสื่อมเสียต่อประเด็นปัญหาท่ีว่า บุคคลที่ต้องรับผิดสําหรับความเสียหายตาม บทบญxxxxแห่งxxxxxxxxxxx มีxxxxxxxxxxxxxต่อบุคคลอ่ืนหรือไม่
หมวด 4
การรับขนร่วมกัน
ข้อ 38 – การรับขนร่วมกัน
1. ในกรณีของการรับขนร่วมxxxxxxปฏิบัติการโดยส่วนหน่ึงของเส้นทางโดยทางอากาศ และส่วนอื่นของเส้นทางโดยการ รับขนโดยแบบอ่ืน ภายใต้บังคับวรรค 4 ของข้อ 18 ให้บทบัญญัติแห่งxxxxxxxxxxxใช้บังคับเฉพาะแก่การรับขนทางอากาศ โดยมีเงื่อนไขว่าการรับขนทางอากาศนันเขาข่ายข้อกําหนดของข้อ 1
2. ไม่มีบทบัญญัติใดในxxxxxxxxxxxยับยั้งคู่สัญญาในกรณีของการรับขนร่วมกัน ในการระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับการรับขน โดยแบบอ่ืนไว้ในเอกสารการรับขนทางอากาศ เว้นแต่ได้มีการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งxxxxxxxxxxxในส่วนที่เกี่ยวกับการ รับขนทางอากาศ
หมวด 5
การรบขนทางอากาศซ่ึงปฏิบัติการโดยบุคคลอ่ืxxxxมิใช่ผูขนส่งตามสญญา
ข้อ 39 - ผ นส่งxxxxxxxx – ผู้ขนส่งตามความเปนจรงิ็
บทบัญญัติของหมวดนี้ ใช้บังคับเม่ือมีบุคคลคนหนึ่ง (ต่อไปในท่ีนี้เรียกว่า“ผู้ขนส่งxxxxxxxx”) ในฐานะตัวการทําสัญญา รับขนซึ่งอยู่ในบังคับxxxxxxxxxxx กับคนโดยสารหรือผู้ตราส่ง หรือกับผู้ทําการในนามของคนโดยสารหรือผู้ตราส่ง และ บุคคลอื่น (ต่อไปในที่น้ีเรียกว่า “ผู้ขนส่งตามความเป็นจริง”) ปฏิบัติการโดยอาศัยอํานาจของผู้ขนส่งxxxxxxxx รับขน ทั้งหมดหรือบางส่วนของเส้นทาง แต่ไม่ใช่ผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดต่อเน่ืองกันตามความหมายแห่งxxxxxxxxxxx
ให้สันนิษฐานไว้มีอํานาจxxxxว่าน ในกรณีที่ไม่มีการพสิ ูจน์เป็นอย่างอื่น
ข้อ 40 - ความรับผิดของผูขนส่งxxxxxxxxและผู้ขนส่งตามความเป็นจริงแต่ละคน
ถ้าผู้ขนส่งตามความเป็นจริงปฏิบัติการรับขนทั้งหมดหรือบางส่วนของเส้นทางxxxx xxxxxxxxที่อ้างถึงในข้อ 39 ซึ่งอยู่ใน
บังคับxxxxxxxxxxx ให้ทังผู้ขนส่งxxxxxxxxและผ นส่งตามความเป็นxxxxxxxxภายใตบั้ งคับกฎเกณฑ์แหงxxxx xxxxxxxx เวนแต่้
จะxx xญญัตไวxxxx xนอย่างอ่ืนในหมวดนี้ ผู้ขนส่งxxxxxxxxสําหรับการรับขนท้ังหมดของเส้นทางที่กําหนดไวในสั้ ญญา และ
ผู้ขนส่งตามความเป็นจริงสําหรับการรับขนบางส่วนของเส้นทางที่ตนปฏิบัติการ
ข 41 – ความรับผิดร่วมกนั
1. การกระทําและการละเว้นการกระทําของผู้ขนส่งตามความเป็นจริง และของลูกจ้างและตัวแทนของผู้ขนส่งตาม ความเป็นจริงซึ่งกระทําภายในขอบเขตหน้าที่การงานของตน ที่เก่ียวกับการรับขนซึ่งปฏิบัติการโดยผู้ขนส่งตามความเป็นจริง ให้xxxxxxเป็นการกระทําและการละเวนการกระทําของผู้ขนส่งxxxxxxxxด้วย
2. การกระทําและการละเว้นการกระทําของผู้ขนส่งxxxxxxxx และของลูกจ้างและตัวแทนของผู้ขนส่งxxxxxxxxซ่ึง กระทําภายในขอบเขตหน้าท่ีการงานของตน ท่ีเก่ียวกับการรับขนซ่ึงปฏิบัติการโดย ผู้ขนส่งตามความเป็นจริง ให้ถือเป็น การกระทําและการละเว้นการกระทําของผู้ขนส่งตามความเป็นจริงด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่มีการกระทําหรือการละเว้นการ กระทําxxxxว่าxxxx xxxจะทําให้ผู้ขนส่งตามความเป็นจริงต้องรับผิดเกินกว่าจํานวนที่อ้างถึงในข้อ 21, ข้อ 22, ข้อ 23 และข้อ 24 ความตกลงพิเศษใดๆ ที่ผู้ขนส่งxxxxxxxxเข้าผูกพันนอกจากท่ีxxxxxxxxxxxกําหนดไว้ หรือการสละxxxxxหรือข้อต่อสู้ใดๆ ตามท่ีxxxxxxxxxxxให้ไว้ หรือการxxxxxxxxใดๆ ไว้เป็นพิเศษถึงส่วนxxxxxxxxxxจะได้รับเม่ือมีการส่งมอบ ณ ถ่ินปลายทางตาม ข้อ 22 ไม่มีผลต่อผูขนส่งตามความเป็นจริง เว้นแต่ผูขนส่งตามความเป็นจริงจะได้ตกลงด้วย
ข้อ 42 – ผู้รบการxxxxxxxและการสงั่
การxxxxxxxใดๆ ที่จะทําต่อผู้ขนส่งหรือการส่ังที่ต้องแจ้งแก่ผูขนสงตามxxxxxxxxxxxให้มีผลxxxxเดียวกัน ไม่ว่าจะมีถึงผู้ขนส่งxxx xxxxxหรือผู้ขนส่งตามความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม การสั่งที่อ้างถึงในข้อ 12 จะมีผลก็ต่อเมื่อคําส่ังนั้นมีถึงผู้ขนส่งxxx xxxxx
ข 43 – ลูกจ้างและตัวแทน
ในส่วนที่เก่ียวกับการรับขนซ่ึงปฏิบัติการโดยผู้ขนส่งตามความเป็นจริง หากลูกจ้างหรือตัวแทนใดๆ ของผู้ขนส่งนั้นหรือ ของผู้ขนส่งxxxxxxxxพิสูจน์ได้ว่า พวกเขาได้กระทําภายในขอบเขตหน้าที่การงานของพวกเขา ให้ลูกจ้างหรือตัวแทนนั้น มีxxxxxใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขและจํานวนจํากัดความรับผิดซึ่งใช้บังคับตามxxxxxxxxxxx กับผู้ขนส่งท่ีตนเป็นลูกจ้างหรือ ตวแทน เว้นแต่จะพิสูจน์ไดว้ ่าพวกเขาเหล่านันได้กระทําไปในลกษณะxxxxxxอาจอ้างจํานวนจํากัดความรับผิดตามxxxxxxxxxxx
ข 44 – จํานวนรวมของค่าเสียหาย
ในส่วนท่ีเก่ียวกับการรับขนซึ่งปฏิบัติการโดยผู้ขนส่งตามความเป็นจริง จํานวนรวมท่ีจะได้รับการชดใช้จากผู้ขนส่งตามความ เป็นจริงและผู้ขนส่งxxxxxxxx และจากลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้ขนส่งดังกล่าวที่กระทําภายในขอบเขตหน้าที่การงานของ บุคคลเหล่านั้น จะต้องไม่เกินจํานวนสูงสุดxxxxxxให้ได้ตามท่ีxxxxxxxxxxx ไม่ว่าจะจากผู้ขนส่งxxxxxxxxหรือผู้ขนส่งตามความ เป็นจริง แต่บุคคลท่ีกล่าวมาไม่จําต้องรบผิดในจํานวนที่เกินกวาจํานวนจํากัดความรับผิดที่ใชบ้ ังคบกับบุคคลนั้นแต่ละคน
ข้อ 45 – ผู้รับการเรียกร้อง
ในส่วนที่เกี่ยวกับการรับขนซึ่งปฏิบัติการโดยผู้ขนส่งตามความเป็นจริง การฟ้องคดีเพ่ือเรียกร้องxxxxxxxxxxxxxฟ้องต่อ ผู้ขนส่งตามความเป็นจริงหรือผู้ขนส่งxxxxxxxx หรือต่อทั้งสองรายรวมกันหรือแยกกันตามแต่โจทก์จะxxxxx xxxได้มีการ ฟ้องคดีต่อผู้ขนส่งตามความเป็นจริงหรือผู้ขนส่งxxxxxxxxเพียงรายเดียวในผู้ขนส่งเหล่านั้น ผู้ขนส่งที่ถูกxxxxxxxxxxxให้ เรียกผู้ขนส่งอื่นเข้ามาในคดีได้ กระบวนพิจารณาและผลแห่งคดีให้ใช้กฎหมายของศาลที่พิจารณาคดี
ข้อ 46 – เขตอํานาจศาลเพิ่มเติม
การฟ้องคดีใด ๆ เพ่ือเรียกรองค่าเสียหาย ซึ่งกําหนดไว้ในข้อ 45 ต้องฟ้องในอาณาเขตของรัฐภาคีหนึ่ง ไม่ว่าต่อศาลใดศาลหนึ่ง xxxxxxฟ้องผู้ขนส่งxxxxxxxxตามท่ีxxxxxxxไว้ในข้อ 33 หรือต่อศาลที่มีเขตอํานาจเหนือสถานxxxxxxผู้ขนส่งตามความเป็นจริง xxxxxxลําเนาหรือมีสํานกงานแห่งใหญ่ตงั อยู่ตามแต่โจทก์จะเลือก
ข้อ 47 - โมฆะกรรมของข้อกําหนดในสญญา
ข้อกําหนดใดๆ ในสัญญาที่มุ่งจะxxxxxxxxxxผู้ขนส่งxxxxxxxxหรือผู้ขนส่งตามความเป็นจริงให้หลุดพ้นจากความรับผิด ตามหมวดน้ี หรือที่มุ่งจะกําหนดจํานวนจํากัดความรับผิดให้ต่ํากว่าที่ใช้บังคับตามหมวดนี้ ย่อมเป็นโมฆะ แต่ความเป็น โมฆะของข้อกําหนดใดๆ xxxxว่าไม่ทําให้สัญญาท้ังฉบับเป็นโมฆะ ซ่ึงข้อกําหนดในสัญญาที่ยังxxอยู่ให้อยู่ภายใต้บังคับ บทบัญญัติของหมวดนี้
ข 48 – ความxxxxxxxxxxxxมีระหว่างกนของผู้ขนส่งตามสญญาและผูขนส่งตามความเป็นจริง
เว้นแต่ที่xxxxxxxไว้ในข้อ 45 ไม่มีบทบัญญัติใดในหมวดนี้กระทบต่อxxxxxและภาระผูกพันของผู้ขนส่งระหว่างกัน รวมถึงxxxxxxxxxxxxหรือการชดใช้ความเสียหายใดๆ
หมวด 6
บทบญxxxxอื่นๆ
ข้อ 49 – การบังคบใชกฎเกณฑ์อันพึงบังคับ
ข้อกําหนดใดๆ ท่ีมีอยู่ในสัญญารับขนและข้อตกลงพิเศษทั้งปวงซ่ึงมีผลใช้บังคับก่อนความเสียหายเกิดขึ้น โดยคู่สัญญา xxxxxxxxxxxจะละเมิดต่อxxxxxxxxxxกําหนดโดยxxxxxxxxxxx ไม่ว่าโดยการกําหนดกฎหมายท่ีจะใช้บังคับ หรือโดยการ เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์เก่ียวกับเขตอํานาจศาล ย่อมเป็นโมฆะ
ข้อ 50 – การประกันภัย
รัฐภาคีต้องเรียกให้ผู้ขนส่งของตนxxไว้ซึ่งการประกันภัยอันxxxxxxxxxxจะครอบถึงความรับผิดของผู้ขนส่งภายใต้xxxxxxxxxxx รัฐภาคีอาจเรียกให้ผู้ขนส่งที่ดําเนินการเข้ามาในรัฐนั้น ส่งพยานหลักฐานว่าผู้ขนส่งxxไว้ซ่ึงการประกันภัยอันxxxxxxxxxxจะ ครอบคลุมถึงความรับผิดของผูขนส่งภายใต้xxxxxxxxxxx
ข 51 – การรบขนท่ีกระทําในสถานการณ์พิเศษ
บทบัญญัติข้อ 3 ถึงข้อ 5 ข้อ 7 และข้อ 8 ท่ีเกี่ยวกับเอกสารการรับขน ไม่ใช้บังคับแก่การรับขนที่กระทําในสถานการณ์ พิเศษนอกขอบข่ายxxxxของธุรกิจของผู้ขนส่ง
คําว่า “ว
ข้อ 52 – นิยามของวัน
” เม่ือใช้ในอนุสญญาน้ี หมายความว่า วันตามปฏิทินมิใช่วันทําการ
หมวด 7
บทบญญ ิสุดท้าย
ข้อ 53 - การลงนาม การให้สตยาบนและการมีผลใชบงคับ
1. xxxxxxxxxxxเปิดให้รัฐลงนามที่เมืองมอนตริออล เมื่อครั้งที่รัฐน้ันๆ เข้าร่วมในการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วย กฎหมายอากาศซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองมอนตริออลตั้งแต่xxxxxx 10 ถึง 28 พฤษภาคม 1999 หลังจากxxxxxx 28 พฤษภาคม 1999 xxxxxxxxxxxเปิดให้รัฐทั้งปวงลงนาม ณ สํานักงานใหญ่ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในเมืองมอนตริออล จนกว่าxxxxxxxxxxxจะเริ่มมีผลใช้บงคับตามวรรค 6 ของข้อน้ี
2. xxxxxxxxxxxเปิดให้องค์การบูรณาการร่วมกันทางเศรษฐกิจระดับxxxxxxxลงนามxxxxเดียวกันเพ่ือความมุ่งxxxxxxx แห่งxxxxxxxxxxx “องค์การบูรณาการร่วมกันทางเศรษฐกิจระดับxxxxxxx” หมายถึง องค์การใดๆ ที่ประกอบขึ้นโดยรัฐxxxxxx แห่งxxxxxxxใดxxxxxxxหนึ่งซ่ึงมีอํานาจในบางเร่ืองท่ีxxxxxxxxxxxใช้บังคับและได้รับการมอบอํานาจอย่างถูกต้องเพ่ือลงนาม และเพื่อให้สัตยาบัน ยอมรับ รับรองหรือภาคยานุวัติxxxxxxxxxxx การอ้างถึง “รัฐภาคี” หรือ “บรรดารัฐภาคี” ใน xxxxxxxxxxxใช้บังคับโดยดุจเดียวกันแก่องค์การบูรณาการร่วมกันทางเศรษฐกิจระดับxxxxxxx เว้นแต่ในวรรค 2 ของข้อ 1, วรรค 1 (บี) ของข้อ 3, วรรค (บี) ของข้อ 5, ข้อ 23, ข้อ 33, ข้อ 46 และวรรค (บี) ของข้อ 57 เพื่อความมุ่งxxxxxxxแห่งข้อ 24 การอ้างถึง “รัฐภาคีส่วนใหญ่” และ “รัฐภาคีหนึ่งในสาม” ไม่ใช้บังคับแก่องค์การบูรณาการร่วมกันทางเศรษฐกิจระดับ xxxxxxx
3. xxxxxxxxxxxจะต้องได้รับสัตยาบันโดยรัฐและโดยองค์การบูรณาการร่วมกันทางเศรษฐกิจระดับxxxxxxxซึ่งได้ลงนามใน xxxxxxxxxxx
4. รัฐหรือองค์การบูรณาการร่วมกันทางเศรษฐกิจระดับxxxxxxxใดๆ ซ่ึงมิได้ลงนามในxxxxxxxxxxx อาจยอมรับ รับรอง หรือภาคยานุวัติxxxxxxxxxxx ณ เวลาใดๆ ก็ได้
5. สัตยาบันสาร xxxxxxxxxxxx xxxxxxให้การเห็นชอบหรือภาคยานุวัติสารให้มอบไว้กับองค์การการบินพลเรือน ระหว่างประเทศซ่ึงได้รับมอบหมายในท่ีนีให้เป็นผูเก็บรักษาอนุสัญญา
6. xxxxxxxxxxxจะเร่ิมมีผลใช้บังคับระหว่างรัฐซ่ึงได้มอบไว้ซึ่งสัตยาบันสาร xxxxxxxxxxxx xxxxxxให้การเห็นชอบ หรือภาคยานุวัติสารเมื่อxxxxxxหกสิบหลังจากxxxxxxมีการมอบสัตยาบันสาร xxxxxxxxxxxx xxxxxxให้การเห็นชอบหรือ ภาคยานุวัติสารที่สามสิบกับผู้เก็บรักษาอนุสัญญาตราสารที่มอบไว้โดยองค์การการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจจะไม่นํามานับ เพื่อความมุ่งxxxxxxxของวรรคน้ี
7. สําหรับรัฐอื่นและองค์การบูรณาการร่วมกันทางเศรษฐกิจระดับxxxxxxxอื่นๆ xxxxxxxxxxxจะมีผลใช้บังคับเมื่อxxxxxx หกสิบหลังจากxxxxxxมีการมอบสัตยาบันสาร xxxxxxxxxxxx xxxxxxให้การเห็นชอบหรือภาคยานุวัติสาร
8. ผู้เก็บรักษาอนุสัญญาตองxxxxxxxxไปยังบรรดารัฐผู้ลงนามและบรรดารัฐภาคีโดยxxxx ถึง
(เอ) การลงนามในxxxxxxxxxxxแต่ละครงั และxxxxxxลงนามนั้น
(บี) การมอบสัตยาบันสาร xxxxxxxxxxxx xxxxxxให้การเห็นชอบหรือภาคยานุวัติสารแต่ละครั้งและxxxxxxมอบ
สัตยาบันสาร xxxxxxยอมร xxxxxxใหการเห็้ นชอบหรือภาคยานุวตสารxxx xxน
(ซี) วนที่อนุสญญานีเร่ิมมีผลใชบ้ ังคับ
(ดี) วนที่การแก้ไขจํานวนจํากัดความรับผิดซ่ึงกําหนดภายใต้xxxxxxxxxxเริ่มมีผลใช้บังคับ
(อี) การบอกเลิกใด ๆ ภายใต้ข้อ 54
ข้อ 54 – การบอกเลิก
1. รฐภาคีใดๆ อาจบอกเลิกอนxx xญญานีโดยการแจงเป็นหนังสือถึงผ้เก็บรักษาอนุสัญญา
2. การบอกเลิกจะมีผลเมื่อxxxxxxหน่ึงร้อยแปดสิบหลังจากวนที่ผูเก็บรักษาxxxxxxxxxxxรบหนังสือแจ้ง
xxxxxxxxxxxมีผลใช
ข้อ 55 – ความเกี่ยวพันกับตราสารอนุสญญาวอร์ซออื่น
งคับเหนือกว่ากฎเกณฑ์ใดๆ ซ่ึงบังคบใช้กับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ
1. ระหว่างรฐภาคีแห่งxxxxxxxxxxx โดยอํานาจแห่งรัฐเหล่านันซ่ึงเป็นภาคีร่วมกันใน
(เอ) อนุสัญญาว่าดวยการรวบรวมกฎเกณฑบางประการเกียวกับการรับขนระ👉ว่างประเทศทางอากาศ
ลงนาม ณ กรุงวอร์ซอ เมื่อวนท่ี 12 xxxxxx 1929 (ต่อไปในท่ีนี้ เรียกว่า อนุสัญญาวอร์ซอ)
(บี) พิธีสารเพอื แก้ไขอนุสัญญาว่าด้วยการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระ👉ว่างประเทศ ทางอากาศ ลงนาม ณ กรุงวอร์ซอ เม่xxxxxxx 12 xxxxxx 1929 ทํา ณ กรุงเฮก เม่ืxxxxxxx 28 กนยายน 1955 (ต่อไปในท่ีน้ี เรียกว่า xxxxxxxxxx)
(ซี) อนุสัญญาเพิ่มเติมเพ รวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระ👉วางประเทศทางอากาศ่
ซึงกระทําโดยบุคคลอื่นนอกจากผ นสงตามสญญา ลงนาม ณ เมืองกวาดาxxxxxx เมื่อวนที่ 18 กันยายน
1961 (ต่อไปในท่ีนี้ เรียกว่า อนุสญญากวาดาxxxxxx)
(ดี) พิธีสารเพ
แก้ไขอนุสัญญาว่าด้วยการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเก
วกับการรับขนระ👉ว่างประเทศ
ทางอากาศ ลงนาม ณ กรุงวอร์ซอ เมือxxxxxx 12 xxxxxx 1929 ซึ่งแก้ไขโดยพิธสารซึงทํา ณ กรุงเฮก
เมือxxxxxx 28 กันยายน 1955 ลงนาม ณ กรุงกัวเตมาลาซิตี เมือวนที่ 8 มีนาคม 1971 (ต่อไปในน้ี เรียกว่า xxxxxxxxxxxxxxxxxxxx)
(อี) พิธีสารเพิ่มเติมxxxxxx 1 ถึง 3 และ พิธีสารมอนตริออลฉบับที่ 4 เพ่ือแกไขอนุสัญญาวอร์ซอ ซึ่งแกไขโดย พิธีสารกรุงเฮก หรืออนุสัญญาวอร์ซอทั้งซึ่งแกไขโดยพิธีสารกรุงเฮกและพิธีสารกวเตมาลาซิตี ลงนาม ณ เมืองมอนตริออล เมื่อxxxxxx 25 กันยายน 1975 (ต่อไปในนี้ เรียกว่า พิธีสารมอนตริออล) หรือ
2. ภายในอาณาเขตของรฐภาคีใดภาคีหน่ึงแห่งอนุสัญญานโี ดยอํานาจที่รัฐน้นเป็นภาคีในตราสารหน่ึงตราสารใด ดังกล่าวไว้ในอนุวรรค (เอ) ถึง (อี) ข้างต้น
ข 56 – รัฐซึ่งมีระบบกฎหมายมากกว่าหนึ่งระบบ
1. ถ้ารัฐหนึ่งมีหน่วยดินxxxสองหน่วยดินxxxหรือมากกว่าซึ่งใช้บังคับกฎหมายต่างระบบxxxxxxxxxกับเรื่องต่างๆ ที่ กําหนดโดยxxxxxxxxxxx รัฐนั้นอาจประกาศ ณ เวลาท่ีลงนาม ให้สัตยาบัน การยอมรับหรือการให้ความเห็นชอบหรือ ภาคยานุวัติว่าxxxxxxxxxxxจะครอบคลุมตลอดหน่วยดินxxxของตนหรือเพียงในหน่ึงหน่วยดินxxxหรือมากกว่าและอาจ แก้ไขเปล่ียนแปลงประกาศนีโดยการมอบคําประกาศอีกฉบับหนึ่ง ณ เวลาใดๆ ก็ได้
2. คําประกาศดังกล่าวใดๆ ตองxxxxxxxxไปยังผู้เก็บรักษาอนุสัญญาและต้องแจ้งหน่วยดินxxxที่xxxxxxxxxxxใช้บังคับ โดยชดแจง้
3. เกี่ยวกบรัฐภาคีซ่ึงได้ทําคําประกาศดังกล่าวแล้ว
(เอ) การกล่าวถึงในข้อ 23 ในเรื่อง “xxxxxxxxxxxของชาติ” จะต้องตีความโดยอางถึงสกุลเงินตราของหน่วย
ดินxxxท่ีเก่ียวข้องแห่งรัฐน และ
(บี) การกล่าวถึงในข้อ 28 ในเรื่อง “กฎหมายภายใน” จะต้องตีความโดยอ้างถึงกฎหมายของหน่วยดินxxx ที่เกี่ยวข้องแห่งรฐนั้น
ข้อ 57 – ขอสงวน
xxxxxxxxxxxxxxxxxทําข้อสงวนได้ เว้นแต่รัฐภาคีอาจประกาศ ณ เวลาใดๆ โดยทําหนังสือแจ้งไปยังผู้เก็บรักษาอนุสัญญา ว่าxxxxxxxxxxxจะไม่ใช้บงคับกับ
(เอ) การรับขนระหว่างประเทศทางอากาศที่กระทําและดําเนินการโดยรฐภาคีตามภาระหนาท่ีซ่ึงไม่มีวตถุxxxxxxx ทางการค้า ในฐานะท่ีเป็นรัฐxxxxxx และ/หรือ
(บี) การรับขนคนโดยสาร ของหรือสัมภาระ สําหรบราชการทหารของรัฐ โดยอากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐภาค หรืออากาศยานที่รัฐภาคีนั้นเช่ามา ซ่ึงระวางทงั หมดของอากาศยานได้สงวนไว้โดยหรือสงวนไว้ในนามของราชการทหาร ดงกล่าว