การรักษาความลับ. 8.1 แต่ละฝ่ายตกลงที่จะรักษาข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดของอีกฝ่ายหนึ่งไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด และจะใช้มาตรการที่จำเป็นตามสมควรเพื่อรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ รวมถึง (1) ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันข้อมูลที่เป็นความลับ จากการเข้าถึงหรือการใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และ (2) เก็บรักษาข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดภายในการควบคุมของฝ่ายดังกล่าว ผู้รับข้อมูลจะต้อง ไม่ดำเนินการต่อไปนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้ข้อมูลก่อน (ก) เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก (ที่ไม่ใช่หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ ดูแลที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูล) เว้นแต่จะได้รับอนุญาตโดยประการอื่นภายใต้สัญญาที่มีอยู่ หรือ (ข) ใช้ข้อมูลความลับดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ที่นอกเหนือไปจากการใช้สิทธิหรือการ ปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของตนเองภายใต้สัญญาที่มีอยู่ แต่ละฝ่ายจะเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายหนึ่ง ได้เฉพาะ (1) ให้แก่บุคคลที่เป็นพนักงานและตัวแทนของตนเองผู้ซึ่งจำเป็นต้องรู้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว เพื่อใช้สิทธิของผู้รับข้อมูลดังกล่าวหรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของผู้รับข้อมูลดังกล่าวตามสัญญาที่มีอยู่ (2) ให้แก่หน่วยงานกำกับดูแลที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูล และ (3) ตามที่ได้รับอนุญาตโดยประการอื่นภายใต้สัญญา ที่มีอยู่ นอกจากนี้ ผู้รับข้อมูลอาจใช้หรือเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ (เว้นแต่ข้อมูลส่วนบุคคล) ตามขอบเขตที่ ผู้รับข้อมูลดังกล่าวถูกบังคับตามกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว โดยมีเงื่อน ไขว่า ผู้รับข้อมูล จะต้องใช้ความพยายามตามสมควรที่จะบอกกล่าวล่วงหน้าเกี่ยวกับการถูกบังคับให้เปิดเผยดังกล่าวแก่ผู้ให้ข้อมูล และจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้ให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความพยายามใด ๆ ที่จะป้องกันหรือจำกัดขอบเขต ของการเปิดเผยดังกล่าวและ/หรือการใช้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว แต่ละฝ่ายจะต้องใช้ความพยายามตาม สมควรที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายหนึ่งในการค้นหาหรือป้องกันการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับโดยไม่ได้ รับอนุญาตอย่างใด ๆ โดยไม่เป็นการจำกัดความข้างต้น แต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบทั นทีในกรณีที่ ฝ่ายดังกล่าวทราบว่าหรือมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าบุคคลใด ๆ ที่ได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับของฝ่ายดังกล่าวได้ฝ่าฝืน หรือมีเจตนาที่จะฝ่าฝืนข้อกำหนดของสัญญาที่มีอยู่และจะให้ความร่วมมือในการขอคำสั่งห้ามต่อบุคคลดังกล่าว 8.2 ข้อมูลที่เป็นความลับจะไม่รวมถึงข้อมูลซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า (1) ได้อยู่ในความครอบครองของฝ่ายรับอย่างถูกต้องจากแหล่งที่มาอื่น ก่อนเวลาที่มีการเปิดเผยข้อมูล ดังกล่าวให้แก่ฝ่ายรับภายใต้ข้อตกลงการประมวลผลนี้ (“เวลาที่ได้รับ”) (2) ได้กลายเป็นข้อมูลสาธารณะก่อนเวลาที่ได้รับ (3) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลสาธารณะหลังเวลาที่ได้รับโดยการพิมพ์โฆษณาหรือวิธีการอื่นใด เว้นแต่การกระทำหรือละเว้นการกระทำที่ไม่มีอำนาจ หรือฝ่าฝืนสัญญาที่มีอยู่ในส่วนของฝ่ายรับหรือพนักงานหรือ ตัวแทนของฝ่ายรับ หรือ (4) ได้ถูกจัดให้แก่ผู้รับข้อมูลหลังจากเวลาที่ได้รับ โดยไม่มีข้อห้ามของบุคคลภายนอกผู้ซึ่ง ไม่มีหน้าที่ผูกพันต่อผู้ให้ข้อมูลว่าจะต้องรักษาข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ 8.3 ผู้ให้บริการจะต้องดำเนินการให้แน่ใจว่าพนักงาน ตัวแทนแต่ละรายของตนเองจะปฏิบัติตาม ข้อตกลงการประมวลผลนี้ และก่อนที่พนักงาน ตัวแทน แต่ละรายของผู้ให้บริการจะให้บริการภายใต้สัญญา ที่มีอยู่ ผู้ให้บริการจะต้อง (1) ดำเนินการให้พนักงานหรือตัวแทนเข้าทำสัญญาเป็นหนังสือกับผู้ให้บริการโดยมีผลผูกพัน พนักงานหรือตัวแทนดังกล่าวตามเงื่อนไขของข้อตกลงการประมวลผลฉบับนี้เป็นอย่างน้อย และ (2) จัดส่งสำเนาสัญญาที่ลงนามโดยพนักงาน ตัวแทน ดังกล่าวเมื่อผู้ให้บริการร้องขอ
Appears in 1 contract
Samples: Data Processing Agreement
การรักษาความลับ. 8.1 6.1 แต่ละฝ่ายตกลงที่จะรักษาข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดของอีกฝ่ายหนึ่งไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด และจะใช้มาตรการที่จำเป็นตามสมควรเพื่อรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ รวมถึง (1) ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันข้อมูลที่เป็นความลับ จากการเข้าถึงหรือการใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และ (2) เก็บรักษาข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดภายในการควบคุมของฝ่ายดังกล่าว ผู้รับข้อมูลจะต้อง ไม่ดำเนินการต่อไปนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้ข้อมูลก่อน ผู้รับข้อมูลจะต้องไม่ ดำเนินการต่อไปนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้ข้อมูลก่อน (ก) เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก (ที่ไม่ใช่หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ ดูแลที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูลที่ไม่ใช่หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูล) เว้นแต่จะได้รับอนุญาตโดยประการอื่นภายใต้สัญญาที่มีอยู่ หรือ (ข) ใช้ข้อมูลความลับดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ที่นอกเหนือไปจากการใช้สิทธิหรือการ ปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของตนเองภายใต้สัญญาที่มีอยู่ ที่นอกเหนือไปจากการใช้สิทธิหรือการปฏิบัติ ตามหน้าที่ผูกพันของตนเองภายใต้สัญญาที่มีอยู่ แต่ละฝ่ายจะเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายหนึ่ง ได้เฉพาะ (1) ให้แก่บุคคลที่เป็นพนักงานและตัวแทนของตนเองผู้ซึ่งจำเป็นต้องรู้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว เพื่อใช้สิทธิของผู้รับข้อมูลดังกล่าวหรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของผู้รับข้อมูลดังกล่าวตามสัญญาที่มีอยู่ ให้แก่บุคคลที่เป็นพนักงานและตัวแทนของตนเองผู้ซึ่งจำเป็นต้องรู้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าวเพื่อ ใช้สิทธิของผู้รับข้อมูลดังกล่าวหรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของผู้รับข้อมูลดังกล่า วตามสัญญาที่มีอยู่ (2) ให้แก่หน่วยงานกำกับดูแลที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูล และ (3) ตามที่ได้รับอนุญาตโดยประการอื่นภายใต้สัญญา ที่มีอยู่ นอกจากนี้ ผู้รับข้อมูลอาจใช้หรือเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ (เว้นแต่ข้อมูลส่วนบุคคลเว้น แต่ข้อมูลส่วนบุคคล) ตามขอบเขตที่ ผู้รับข้อมูลดังกล่าวถูกบังคับตามกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว โดยมีเงื่อน ไขว่า ผู้รับข้อมูล ตามขอบเขต ที่ผู้รับข้อมูลดังกล่าวถูกบังคับตามกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่าผู้รับข้อมูล จะต้องใช้ความพยายามตามสมควรที่จะบอกกล่าวล่วงหน้าเกี่ยวกับการถูกบังคับให้เปิดเผยดังกล่าวแก่ผู้ให้ข้อมูล และจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้ให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความพยายามใด ๆ ที่จะป้องกันหรือจำกัดขอบเขต ของการเปิดเผยดังกล่าวและ/หรือการใช้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว แต่ละฝ่ายจะต้องใช้ความพยายามตาม สมควรที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายหนึ่งในการค้นหาหรือป้องกันการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับโดยไม่ได้ รับอนุญาตอย่างใด แต่ละฝ่ายจะต้องใช้ความพยายาม ตามสมควรที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายหนึ่งในการค้นหาหรือป้องกันการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่เป็นการจำกัดความข้างต้น โดยแต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบทันทีในกรณี ที่ฝ่ายดังกล่าวทราบว่าหรือมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าบุคคลใด ๆ โดยไม่เป็นการจำกัดความข้างต้น แต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบทั นทีในกรณีที่ ฝ่ายดังกล่าวทราบว่าหรือมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าบุคคลใด ๆ ที่ได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับของฝ่ายดังกล่าวได้ฝ่าฝืน หรือมีเจตนาที่จะฝ่าฝืนข้อกำหนดของสัญญาที่มีอยู่และจะให้ความร่วมมือในการขอคำสั่งห้ามต่อบุคคลดังกล่าวที่ได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับของฝ่ายดังกล่าวได้ ฝ่าฝืนหรือมีเจตนาที่จะฝ่าฝืนข้อกำหนดของสัญญาที่มีอยู่และจะให้ความร่วมมือในการขอคำสั่งห้ามต่อบุคคลดังกล่าว
8.2 ข้อมูลที่เป็นความลับจะไม่รวมถึงข้อมูลซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า (1) ได้อยู่ในความครอบครองของฝ่ายรับอย่างถูกต้องจากแหล่งที่มาอื่น ก่อนเวลาที่มีการเปิดเผยข้อมูล ดังกล่าวให้แก่ฝ่ายรับภายใต้ข้อตกลงการประมวลผลนี้ (“เวลาที่ได้รับ”) (2) ได้กลายเป็นข้อมูลสาธารณะก่อนเวลาที่ได้รับ (3) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลสาธารณะหลังเวลาที่ได้รับโดยการพิมพ์โฆษณาหรือวิธีการอื่นใด เว้นแต่การกระทำหรือละเว้นการกระทำที่ไม่มีอำนาจ หรือฝ่าฝืนสัญญาที่มีอยู่ในส่วนของฝ่ายรับหรือพนักงานหรือ ตัวแทนของฝ่ายรับ หรือ (4) ได้ถูกจัดให้แก่ผู้รับข้อมูลหลังจากเวลาที่ได้รับ โดยไม่มีข้อห้ามของบุคคลภายนอกผู้ซึ่ง ไม่มีหน้าที่ผูกพันต่อผู้ให้ข้อมูลว่าจะต้องรักษาข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ
8.3 ผู้ให้บริการจะต้องดำเนินการให้แน่ใจว่าพนักงาน ตัวแทนแต่ละรายของตนเองจะปฏิบัติตาม ข้อตกลงการประมวลผลนี้ และก่อนที่พนักงาน ตัวแทน แต่ละรายของผู้ให้บริการจะให้บริการภายใต้สัญญา ที่มีอยู่ ผู้ให้บริการจะต้อง (1) ดำเนินการให้พนักงานหรือตัวแทนเข้าทำสัญญาเป็นหนังสือกับผู้ให้บริการโดยมีผลผูกพัน พนักงานหรือตัวแทนดังกล่าวตามเงื่อนไขของข้อตกลงการประมวลผลฉบับนี้เป็นอย่างน้อย และ (2) จัดส่งสำเนาสัญญาที่ลงนามโดยพนักงาน ตัวแทน ดังกล่าวเมื่อผู้ให้บริการร้องขอ6.2 ข้อมูลที่เป็นความลับจะไม่รวมถึงข้อมูลซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า
Appears in 1 contract
Samples: Data Sharing Agreement
การรักษาความลับ. 8.1 แต่ละฝ่ายตกลงที่จะรักษาข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดของอีกฝ่ายหนึ่งไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด และจะใช้มาตรการที่จำเป็นตามสมควรเพื่อรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ รวมถึง (1) ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันข้อมูลที่เป็นความลับ จากการเข้าถึงหรือการใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และ (. ภายในกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงนี้ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับหรือความลับทางการค้าให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง โดยหากเป็นข้อมูลซึ่งอยู่ในรูปของเอกสาร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่บันทึกลงในสื่อต่างๆ หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นรูปธรรม จะต้องทำเครื่องหมาย “ลับ” หรือเครื่องหมายที่มีความหมายทำนองเดียวกันนี้ไว้กับสิ่งนั้นอย่างชัดเจน ส่วนกรณีที่เป็นการเปิดเผยด้วยวาจาหรือด้วยวิธีการอื่นใดที่ไม่เป็นรูปธรรม ซึ่งฝ่ายผู้ให้ข้อมูลได้แจ้งให้ฝ่ายผู้รับข้อมูลทราบ ณ เวลาเปิดเผยนั้นว่าเป็นการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ โดยฝ่ายผู้ให้ข้อมูลจะต้องสรุปสาระสำคัญของข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งทำเครื่องหมาย “ลับ” หรือเครื่องหมายที่มีความหมายทำนองเดียวกันนี้ไว้กับข้อความสรุปนั้นอย่างชัดเจน พร้อมทั้งส่งมอบข้อความสรุปดังกล่าวให้แก่ฝ่ายผู้รับข้อมูลภายในเจ็ดวัน นับตั้งแต่วันที่ฝ่ายผู้ให้ข้อมูลเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับนั้น ซึ่งในบันทึกข้อตกลงนี้รวมเรียกว่า “ข้อมูลที่เป็นความลับ” โดยฝ่ายผู้รับข้อมูลจะต้องรักษาความลับของข้อมูลที่เป็นความลับอย่างเคร่งครัดและต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่เป็นความลับที่ได้รับจากฝ่ายผู้ให้ข้อมูลเพื่อป้องกันมิให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับได้โดยง่าย
2) เก็บรักษาข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดภายในการควบคุมของฝ่ายดังกล่าว ผู้รับข้อมูลจะต้อง ไม่ดำเนินการต่อไปนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้ข้อมูลก่อน (ก) เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก (ที่ไม่ใช่หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ ดูแลที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูล) เว้นแต่จะได้รับอนุญาตโดยประการอื่นภายใต้สัญญาที่มีอยู่ หรือ (ข) ใช้ข้อมูลความลับดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ที่นอกเหนือไปจากการใช้สิทธิหรือการ ปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของตนเองภายใต้สัญญาที่มีอยู่ แต่ละฝ่ายจะเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายหนึ่ง ได้เฉพาะ (1) ให้แก่บุคคลที่เป็นพนักงานและตัวแทนของตนเองผู้ซึ่งจำเป็นต้องรู้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว เพื่อใช้สิทธิของผู้รับข้อมูลดังกล่าวหรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของผู้รับข้อมูลดังกล่าวตามสัญญาที่มีอยู่ (2) ให้แก่หน่วยงานกำกับดูแลที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูล และ (. ฝ่ายผู้รับข้อมูลอาจเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของฝ่ายผู้ให้ข้อมูลแก่พนักงาน ลูกจ้าง ที่ปรึกษาของฝ่ายผู้รับข้อมูล และ/หรือบุคคลภายนอกที่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว โดยฝ่ายผู้รับข้อมูลจะต้องดำเนินการให้พนักงาน ลูกจ้าง ที่ปรึกษาของฝ่ายผู้รับข้อมูล และ/หรือบุคคลภายนอกดังกล่าวมีหน้าที่ต้องรักษาข้อมูลที่เป็นความลับโดยมีข้อกำหนดเช่นเดียวกับข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลงนี้ด้วย
3) ตามที่ได้รับอนุญาตโดยประการอื่นภายใต้สัญญา ที่มีอยู่ นอกจากนี้ ผู้รับข้อมูลอาจใช้หรือเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ (เว้นแต่ข้อมูลส่วนบุคคล) ตามขอบเขตที่ ผู้รับข้อมูลดังกล่าวถูกบังคับตามกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว โดยมีเงื่อน ไขว่า ผู้รับข้อมูล จะต้องใช้ความพยายามตามสมควรที่จะบอกกล่าวล่วงหน้าเกี่ยวกับการถูกบังคับให้เปิดเผยดังกล่าวแก่ผู้ให้ข้อมูล และจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้ให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความพยายามใด ๆ ที่จะป้องกันหรือจำกัดขอบเขต ของการเปิดเผยดังกล่าวและ/หรือการใช้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว แต่ละฝ่ายจะต้องใช้ความพยายามตาม สมควรที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายหนึ่งในการค้นหาหรือป้องกันการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับโดยไม่ได้ รับอนุญาตอย่างใด ๆ โดยไม่เป็นการจำกัดความข้างต้น แต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบทั นทีในกรณีที่ ฝ่ายดังกล่าวทราบว่าหรือมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าบุคคลใด ๆ ที่ได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับของฝ่ายดังกล่าวได้ฝ่าฝืน หรือมีเจตนาที่จะฝ่าฝืนข้อกำหนดของสัญญาที่มีอยู่และจะให้ความร่วมมือในการขอคำสั่งห้ามต่อบุคคลดังกล่าว. การรักษาความลับของข้อมูลที่เป็นความลับตามบันทึกนี้ ให้มีผลบังคับตลอดระยะเวลาแห่งบันทึกข้อตกลงนี้ และยังคงมีผลต่อไปแม้บันทึกข้อตกลงนี้จะสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม เว้นแต่ข้อมูลนั้นจะกลายเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความลับด้วยเหตุอันชอบด้วยกฎหมาย หรือฝ่ายผู้รับข้อมูลได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากฝ่ายผู้ให้ข้อมูลให้สามารถเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับนั้นก่อนการเปิดเผยข้อมูลนั้น
8.2 ข้อมูลที่เป็นความลับจะไม่รวมถึงข้อมูลซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า (1) ได้อยู่ในความครอบครองของฝ่ายรับอย่างถูกต้องจากแหล่งที่มาอื่น ก่อนเวลาที่มีการเปิดเผยข้อมูล ดังกล่าวให้แก่ฝ่ายรับภายใต้ข้อตกลงการประมวลผลนี้ (“เวลาที่ได้รับ”) (2) ได้กลายเป็นข้อมูลสาธารณะก่อนเวลาที่ได้รับ (3) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลสาธารณะหลังเวลาที่ได้รับโดยการพิมพ์โฆษณาหรือวิธีการอื่นใด เว้นแต่การกระทำหรือละเว้นการกระทำที่ไม่มีอำนาจ หรือฝ่าฝืนสัญญาที่มีอยู่ในส่วนของฝ่ายรับหรือพนักงานหรือ ตัวแทนของฝ่ายรับ หรือ (4) ได้ถูกจัดให้แก่ผู้รับข้อมูลหลังจากเวลาที่ได้รับ โดยไม่มีข้อห้ามของบุคคลภายนอกผู้ซึ่ง ไม่มีหน้าที่ผูกพันต่อผู้ให้ข้อมูลว่าจะต้องรักษาข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ
8.3 ผู้ให้บริการจะต้องดำเนินการให้แน่ใจว่าพนักงาน ตัวแทนแต่ละรายของตนเองจะปฏิบัติตาม ข้อตกลงการประมวลผลนี้ และก่อนที่พนักงาน ตัวแทน แต่ละรายของผู้ให้บริการจะให้บริการภายใต้สัญญา ที่มีอยู่ ผู้ให้บริการจะต้อง (1) ดำเนินการให้พนักงานหรือตัวแทนเข้าทำสัญญาเป็นหนังสือกับผู้ให้บริการโดยมีผลผูกพัน พนักงานหรือตัวแทนดังกล่าวตามเงื่อนไขของข้อตกลงการประมวลผลฉบับนี้เป็นอย่างน้อย และ (2) จัดส่งสำเนาสัญญาที่ลงนามโดยพนักงาน ตัวแทน ดังกล่าวเมื่อผู้ให้บริการร้องขอ. ทั้งสองฝ่ายอาจตกลงกันเกี่ยวกับการรักษาความลับในข้อตกลงของแต่ละโครงการย่อยภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้เป็นหนังสือเป็นอย่างอื่นเป็นรายกรณีไป
Appears in 1 contract
Samples: Memorandum of Understanding (Mou)
การรักษาความลับ. 8.1 แต่ละฝ่ายตกลงที่จะรักษาข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดของอีกฝ่ายหนึ่งไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด และจะใช้มาตรการที่จำเป็นตามสมควรเพื่อรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ รวมถึง รวมถึง
(1) ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันข้อมูลที่เป็นความลับ จากการเข้าถึงหรือการใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันข้อมูลที่เป็นความลับจากการเข้าถึงหรือการใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และ
(2) เก็บรักษาข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดภายในการควบคุมของฝ่ายดังกล่าว ผู้รับข้อมูลจะต้อง ไม่ดำเนินการต่อไปนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้ข้อมูลก่อน ไม่ดำเนินการต่อไปนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้ข้อมูลก่อน
(ก) เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก (ที่ไม่ใช่หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ ดูแลที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูลที่ไม่ใช่หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูล) เว้นแต่จะได้รับอนุญาตโดยประการอื่นภายใต้สัญญาที่มีอยู่ หรือ หรือ
(ข) ใช้ข้อมูลความลับดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ที่นอกเหนือไปจากการใช้สิทธิหรือการ ปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของตนเองภายใต้สัญญาที่มีอยู่ แต่ละฝ่ายจะเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายหนึ่ง ได้เฉพาะ ที่นอกเหนือไปจากการใช้สิทธิหรือการปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของตนเองภายใต้สัญญาที่มีอยู่ แต่ละฝ่ายจะเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายหนึ่งได้เฉพาะ (1) ให้แก่บุคคลที่เป็นพนักงานและตัวแทนของตนเองผู้ซึ่งจำเป็นต้องรู้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว เพื่อใช้สิทธิของผู้รับข้อมูลดังกล่าวหรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของผู้รับข้อมูลดังกล่าวตามสัญญาที่มีอยู่ ให้แก่บุคคลที่เป็นพนักงานและตัวแทนของตนเองผู้ซึ่งจำเป็นต้องรู้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าวเพื่อใช้สิทธิของผู้รับข้อมูลดังกล่าวหรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ผูกพันของผู้รับข้อมูลดังกล่าวตามสัญญาที่มีอยู่ (2) ให้แก่หน่วยงานกำกับดูแลที่มีอำนาจเหนือผู้รับข้อมูล และ และ
(3) ตามที่ได้รับอนุญาตโดยประการอื่นภายใต้สัญญา ที่มีอยู่ ตามที่ได้รับอนุญาตโดยประการอื่นภายใต้สัญญาที่มีอยู่ นอกจากนี้ ผู้รับข้อมูลอาจใช้หรือเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ (เว้นแต่ข้อมูลส่วนบุคคล) ตามขอบเขตที่ ผู้รับข้อมูลดังกล่าวถูกบังคับตามกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว โดยมีเงื่อน ไขว่า ผู้รับข้อมูล จะต้องใช้ความพยายามตามสมควรที่จะบอกกล่าวล่วงหน้าเกี่ยวกับการถูกบังคับให้เปิดเผยดังกล่าวแก่ผู้ให้ข้อมูล ตามขอบเขตที่ผู้รับข้อมูลดังกล่าวถูกบังคับตามกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้รับข้อมูลจะต้องใช้ความพยายามตามสมควรที่จะบอกกล่าวล่วงหน้าเกี่ยวกับการถูกบังคับให้เปิดเผยดังกล่าวแก่ผู้ให้ข้อมูล และจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้ให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความพยายามใด ๆ ที่จะป้องกันหรือจำกัดขอบเขต ของการเปิดเผยดังกล่าวและ/หรือการใช้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว แต่ละฝ่ายจะต้องใช้ความพยายามตาม สมควรที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายหนึ่งในการค้นหาหรือป้องกันการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับโดยไม่ได้ รับอนุญาตอย่างใด ที่จะป้องกันหรือจำกัดขอบเขตของการเปิดเผยดังกล่าวและ/หรือการใช้ข้อมูลที่เป็นความลับดังกล่าว แต่ละฝ่ายจะต้องใช้ความพยายามตามสมควรที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายหนึ่งในการค้นหาหรือป้องกันการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างใด ๆ โดยไม่เป็นการจำกัดความข้างต้น แต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบทั นทีในกรณีที่ ฝ่ายดังกล่าวทราบว่าหรือมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าบุคคลใด แต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งให้ อีกฝ่ายหนึ่งทราบทันทีในกรณีที่ฝ่ายดังกล่าวทราบว่าหรือมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าบุคคลใด ๆ ที่ได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับของฝ่ายดังกล่าวได้ฝ่าฝืน หรือมีเจตนาที่จะฝ่าฝืนข้อกำหนดของสัญญาที่มีอยู่และจะให้ความร่วมมือในการขอคำสั่งห้ามต่อบุคคลดังกล่าวที่ได้เข้าถึงข้อมูล ที่เป็นความลับของฝ่ายดังกล่าวได้ฝ่าฝืนหรือมีเจตนาที่จะฝ่าฝืนข้อกำหนดของสัญญาที่มีอยู่และจะให้ความร่วมมือในการขอคำสั่งห้ามต่อบุคคลดังกล่าว
8.2 ข้อมูลที่เป็นความลับจะไม่รวมถึงข้อมูลซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า ข้อมูลที่เป็นความลับจะไม่รวมถึงข้อมูลซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า
(1) ได้อยู่ในความครอบครองของฝ่ายรับอย่างถูกต้องจากแหล่งที่มาอื่น ก่อนเวลาที่มีการเปิดเผยข้อมูล ดังกล่าวให้แก่ฝ่ายรับภายใต้ข้อตกลงการประมวลผลนี้ ก่อนเวลาที่มี การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่ฝ่ายรับภายใต้ข้อตกลงการประมวลผลนี้ (“เวลาที่ได้รับ”) )
(2) ได้กลายเป็นข้อมูลสาธารณะก่อนเวลาที่ได้รับ ได้กลายเป็นข้อมูลสาธารณะก่อนเวลาที่ได้รับ
(3) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลสาธารณะหลังเวลาที่ได้รับโดยการพิมพ์โฆษณาหรือวิธีการอื่นใด เว้นแต่การกระทำหรือละเว้นการกระทำที่ไม่มีอำนาจ หรือฝ่าฝืนสัญญาที่มีอยู่ในส่วนของฝ่ายรับหรือพนักงานหรือ ตัวแทนของฝ่ายรับ หรือ หรือฝ่าฝืนสัญญาที่มีอยู่ในส่วนของฝ่ายรับหรือพนักงานหรือตัวแทนของฝ่ายรับ หรือ
(4) ได้ถูกจัดให้แก่ผู้รับข้อมูลหลังจากเวลาที่ได้รับ โดยไม่มีข้อห้ามของบุคคลภายนอกผู้ซึ่ง ไม่มีหน้าที่ผูกพันต่อผู้ให้ข้อมูลว่าจะต้องรักษาข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ
8.3 ผู้ให้บริการจะต้องดำเนินการให้แน่ใจว่าพนักงาน ตัวแทนแต่ละรายของตนเองจะปฏิบัติตาม ข้อตกลงการประมวลผลนี้ ตัวแทนแต่ละรายของตนเองจะปฏิบัติตามข้อตกลงการประมวลผลนี้ และก่อนที่พนักงาน ตัวแทน แต่ละรายของผู้ให้บริการจะให้บริการภายใต้สัญญา ที่มีอยู่ ผู้ให้บริการจะต้อง ผู้ให้บริการจะต้อง
(1) ดำเนินการให้พนักงานหรือตัวแทนเข้าทำสัญญาเป็นหนังสือกับผู้ให้บริการโดยมีผลผูกพัน พนักงานหรือตัวแทนดังกล่าวตามเงื่อนไขของข้อตกลงการประมวลผลฉบับนี้เป็นอย่างน้อย และ ดำเนินการให้พนักงานหรือตัวแทนเข้าทำสัญญาเป็นหนังสือกับผู้ให้บริการโดยมีผลผูกพันพนักงานหรือตัวแทนดังกล่าวตามเงื่อนไขของข้อตกลงการประมวลผลฉบับนี้เป็นอย่างน้อย และ
(2) จัดส่งสำเนาสัญญาที่ลงนามโดยพนักงาน ตัวแทน ดังกล่าวเมื่อผู้ให้บริการร้องขอ
Appears in 1 contract
Samples: Data Processing Agreement