ABSTRACT
ความรับผด
1
xxxxxxxxแฟรนไชส์ช่วง
xxxxxxxx xxxxxxxx*
บทคดย่อ
ขณะน้ีประเทศไทยยงั ไม่มีกฎหมายท่ีใช
งคบ
กบสัญญาแฟรนไชส์โดยเฉพาะ การจะนา
xxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณิชยแ
ละพระราชบญ
ญติเคร่ืองหมายการคา้ มาปรับใชกบ
การอนุญาต
ให้ใชเ้ ครื่องหมายการคา้ ภายใตส
ัญญาแฟรนไชส์ ก็มีปัญหาเพราะไม่มีบทบญ
ญติในเรื่องความรับผิดทาง
แพ่งของผใู้ ห
ฟรนไชส์xxxxxxxxxx อีกท้งั ไม่มีบทบญ
ญติในเรื่องการอนุญาตใหใ้ ชเ้ ครื่องหมายการคา้ ช่วง
ภายใตก
ารให้แฟรนไชส์ช่วง จึงส่งผลกระทบต่อคู่สัญญาแฟรนไชส์และผูบ
ริโภคในการเรียกร้อง
เมื่อมีความxxxxxxxxxxเกิดข้ึน
การศึกษาน้ีxx
xxxการศึกษาวิจย
เอกสาร และพบว่าแมป
ระxxxxxxจะนา˚ ประมวลกฎหมาย
แพ่งและพาณิชยแ
ละพระราชบญ
ญติเครื่องหมายการคา้ มาปรับใช้กบ
การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมาย
การคา้ ในรูปแบบของสัญญาแฟรนไชส์ได้ แต่บทบญญติดงั กล่าวxxxxxxครอบคลุมในเรื่องความรับ
ผดxxxxxxxxแฟรนไชส์ช่วง ประกอบกบประเทศไทยยงั ไม่มีกฎหมายแฟรนไชส์เฉพาะเหมือนประเทศ
สหรัฐอเมริกา ทา˚ ให้ไม่มีความแน่ช ในการกา˚ หนดความรับผิด ซ่ึงถ้าหากมีการให้แฟรนไชส์ช่วง
เกิดข้ึน จะนา˚ หล
กฎหมายใดมาปรับใช้ และหากผูร
ับแฟรนไชส์ช่วงทา˚ ให้ชื่อเสียงทางการคา้ ของ
ผใู้ หแ
ฟรนไชส์และผูใ้ หแ
ฟรนไชส์ช่วงเส่ือมเสียหรือผบู
ริโภคฟ้องร้อง จะมีมาตรการทางกฎหมายใด
เขา้ มาแกไ
ขปัญหา กา˚ กบ
ดูแลสัญญาแฟรนไชส์ช่วงเพ่ือให้xxxxxxนา˚ มาใชไดอ
ยา่ งเหมาะสม และ
xxxxxxใหค
วามคุม
ครองและใหก
ารเยย
วยาแก่ผเู้ สียหายไดอ
ยา่ งครบถวน
เพ่ือแก้ปัญหาดง
กล่าว ผูศ
ึกษาขอเสนอแนวทางในการแก
ัญหาความรับผิดxxxxxxxx
แฟรนไชส์ช่วง ดว
ยการตราพระราชบญ
ญติวา่ ดว
ยการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์เป็ นการเฉพาะโดยมี
เน้ือหาของขอ
ตกลงในสัญญาแฟรนไชส์ ความสัมพน
ธ์ของคู่ส
ญาแฟรนไชส์ และความรับผิดของ
คู่สัญญาแฟรนไชส์ และครอบคลุมไปxxxxxxให้แฟรนไชส์ช่วงด
ย และควรนา˚ หลก
ผูผ
ลิตตามที่
ปรากฏ (Apparent Manufacturer) มาใชใ้ นการตีความตามบทบญ
ญติมาตรา 4 ของพระราชบญ
ญติความรับ
ผดต่อความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนจากสินคา้ xxxxxxปลอดภย
พ.ศ. ๒๕๕๑ มาใชกบ
กรณีผใู้ ห้ แฟรนไชส์และ
ผูใ้ หแ
ฟรนไชส์ช่วง ภายใตส
ัญญาแฟรนไชส์ช่วง
* บทความน้ีเรียบเรียงมาจากการคนควา้ xxxxx เร่ือง, “ความรับผิดxxxxxxxxแฟรนไชส์ช่วง,”
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ฑิต คณะxxxxxxxxxx มหาวท
xxxxx xx
สัมชญ
, 2558.
ABSTRACT
Thailand has no law applicable to the particular franchise agreement. Despite bringing the Civil and Commercial Code and the Trademark Act apply to apply to the trademark license agreement under the franchise agreement. However, since those laws have insufficient provisions in the civil liability of the franchisor and there is no provision on trademark under the sub-franchise agreement. Thus, this affecting the parties and consumers in claiming the damages caused by the sub-franchise agreement.
This study has been carried out through documentary research. It has found that in bringing Civil and Commercial Code and the Trademark Act apply to the trademark license agreement under the franchise agreement is insufficient. As those laws do not cover the liability under the sub-franchise agreement and unlike the United States. Thailand has no specific law on franchising. So, there is uncertainty in determining liability. The pending question is what law should be applied to the matters. If the sub-franchisee causes harm to trade reputation or legal action are brought by consumer of the franchisor or sub-franchisor; what would be the legal measure to bail them out. There should be a supervision of the sub- franchise agreement to guarantee the proper use of it and to extenol sufficient protection and remedy to the affected persons.
In order to solve the problem of lack of legislation, the author have proposed measures to solve the problem under sub-franchise agreement by enacting an act on franchise to govern content of the agreement franchising, obligations of the parties including the provision on sub-franchise agreement. Moreover, the Apparent Manufacturer principle should be brought to apply to the franchisor and the sub-franchisor under the sub-franchise agreement.
บทน˚า
สัญญาแฟรนไชส์เป็ นสัญญาทางธุรกิจประเภทหน่ึงที่มีลกษณะของตนเองโดยเฉพาะ เป็ น
สัญญาxxxxxxx ของเครื่องหมายการคา้ ใชป
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ากเครื่องหมายการคา
กล่าวคือ การ
อนุญาตให้ใชเ้ ครื่องหมายการคา้ ในรูปแบบของสัญญาแฟรนไชส์ (Franchising) โดยฝ่ ายผูใ้ ห้แฟรน
ไชส์ตอ
งถ่ายทอดเทคโนโลยีและให้xxxxxในการประกอบการภายใตช
ื่อเสียงทางการคา
เครื่องหมาย
การคา
และฝ่ ายผูร้ ับแฟรนไชส์น้น
จะตอ
งปฏิบต
ิภายใตเ้ งื่อนไข รูปแบบ ขอ
จา˚ กด
และการควบคุม
การดา˚ เนินธุรกิจภายใตข
อตกลงของผใู้ หแ
ฟรนไชส์ตามxxxxxต
กลงกน
ตลอดระยะเวลาของสัญญา
ในปัจจุบน
การประกอบธุรกิจในรูปแบบการใหแ
ฟรนไชส์เป็ xxxxxxxxมากข้ึน ในบางกรณีที่
เกิดข้ึนภายหลงั จากที่มีการทา˚ สัญญาการให
ฟรนไชส์กน
แลว
ผูร้ ับแฟรนไชส์ไดม
ีการทา˚ สัญญาอีก
xxx
หน่ึงกบ
บุคคลภายนอกอีกเพื่อให้บุคคลภายนอกน้น
ไดป
ระกอบธุรกิจแฟรนไชส์ท่ีผูร้ ับแฟรน
ไชส์ไดร้ ับxxxxxแฟรนไชส์มาจากผใู้ ห้แฟรนไชส์ต่ออีกทอดหน่ึง คือ สัญญาแฟรนไชส์หลก (Master
Franchise Agreement) ที่xxxxxxให้xxxxxรับช่วงแก่บุคคล กลุ่มบุคคล หรือนิติบุคคล ซ่ึงเรียกว่า
ผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วง (Sub-franchisor) ในพ้ืxxxxxxxกา˚ หนดให้ เพ่ืxxx xคคล กลุ่มบุคคล หรือนิติบุคคล
ดงกล่าว ทา˚ การขยายการให้xxxxxหน่วยย่อยเฉพาะบุคคล(Individual) หรือหลายหน่วย (Multi-unit
Franchise) บุคคลอ่ืนในพ้ืxxxxต่อไป การให้แฟรนไชส์รูปแบบน้ีทา˚ ให้เกิดสัญญาท่ีส˚าคญ 2 สัญญา
คือ สัญญาแฟรนไชส์ระหวา่ งผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วง (สัญญาแฟรนไชส์หลก) กบ
สัญญาแฟรนไชส์ระหวา่ งผูใ้ หแ้ ฟรนไชส์ช่วงและผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วง (สัญญาแฟรนไชส์ช่วง) โดย
ผูใ้ ห้แฟรนไชส์จะเป็ นผูร้ ับผิดชอบในภาระหน้าที่xxxxxxxxต่อผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วง หลงจากน้ัน
ความรับผิดชอบต่างๆ ในการพฒนาตลาด การดา˚ เนินนโยบายให้สัมฤทธ์ิผล การควบคุมดูแลผูร้ ับ
แฟรนไชส์ช่วงให้มีมาตรฐานและการปฏิบต
ิงานในรูปแบบเดียวกน
หมด ก็จะส่งผ่านไปยงั ผูใ้ ห
แฟรนไชส์ช่วง ซ่ึงผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงก็จะมีxxxxxในรายไดจากค่าxxxxxหรือค่าสินคา้ จากผูร้ ับแฟรน
ไชส์ช่วงดว
ย ท้งั น้ี xxxxx หxxx xxx ขอ
ผูกพน
xxxxxxxx ความรับผิดท้งั หมด ท่ีมีต่อผxxx xบแฟรนไชส์ช่วง
เป็ นของผใู้ หแฟรนไชส์ช่วง
อย่างไรก็ตามประเทศไทยยงั ไม่มีกฎหมายที่บงั คบ
ใชเ้ ฉพาะกบ
สัญญาแฟรนไชส์ จึงไม่มี
บทบญ
ญติถึงเร่ืองความหมาย ลก
ษณะ และความสัมพน
ธ์ในระหวา่ งคู่สัญญาของสัญญาแฟรนไชส์
จึงตอ
งนา˚ พระราชบญ
ญติเครื่องหมายการคา้ มาปรับใช้ ซ่ึงตามพระราชบญ
ญติเครื่องหมายการคา
พ.ศ. 2474 มิได้มีบทบญ
ญติเรื่องการอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการคา
(Trademark Licensing) การ
อนุญาตให
ชเ้ ครื่องหมายการคา้ เป็ นบทบญ
ญติใหม่ท่ีพระราชบญ
ญติเครื่องหมายการคา
พ.ศ. 2534
แกไ
ขxxxxxเติมโดยพระราชบญ
ญติเคร่ืองหมายการคา
(xxx
xxx 2) พ.ศ. 2543 มาตรา 68 วรรคหน่ึงและ
วรรคสอง ซ่ึงกา˚ หนดให้ เจา้ ของเครื่องหมายการคา้ ที่จดทะเบียนและจะทา˚ สัญญาอนุญาตให้ใช
เคร่ืองหมายการคา้ ได้ โดยการอนุญาตดง
กล่าวตอ
งทา˚ เป็ นหนง
สือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียน
ท้งั น้ี การอนุญาตดงั กล่าวตอ
งมีเง่ือนไขหรือขอ
กา˚ หนดที่ส˚าคญ
ก็คือ เง่ือนไขหรือขอ
กา˚ หนดระหวา่ ง
เจา้ ของเครื่องหมายการคา้ และผูข
อจดทะเบียนเป็ นผูไ
ดรับอนุญาตที่จะทา˚ ให้เจา
ของเครื่องหมาย
การคา้ น้น
xxxxxxควบคุมคุณภาพของสินคา้ ของผูข
อจดทะเบียนเป็ นผูร้ ับอนุญาตได้อย่างแทจ
ริง
นอกจากน้ีบทบญ
ญติท่ีเก่ียวขอ
งกบ
การอนุญาตให้ใช้เคร่ืองหมายการคา้ ดง
กล่าว มิไดใ
ห้คา˚ จา˚ กด
ความของคา˚ ว่า “คุณภาพ” และ “การควบคุม” ไวว
่า หมายความว่าอย่างไร รวมท้งั มิไดร
ะบุถึง “วิธีการ”
ของการควบคุมวา
จะตอ
งทา˚ อยา่ งไรเจา้ ของเคร่ืองหมายการคา้ จึงxxxxxxควบคุมคุณภาพของสินคา
ของผูข
อจดทะเบียนเป็ นผูไ
ดรับอนุญาตไดอ
ย่างแทจ
ริง อีกท้ง
ไม่มีบทบญ
ญติในเรื่องความรับผิด
ทางแพ่งของเจา้ ของเครื่องหมายการคา้ ต่อผบู
ริโภคภายใตส
ัญญาอนุญาตให้ใชเครื่องหมายการคา อน
เนื่องมาจากการด˚าเนินงานของผูได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่ องหมายการค้า และท่ีส˚าคัญคือไม่มี
บทบญ
ญติเกี่ยวกบ
การอนุญาตให้ใชเ้ คร่ืองหมายการคา้ ช่วง(แฟรนไชส์ช่วง) ดว
ยเหตุที่วา่ ผูใ้ ห้แฟรน
ไชส์ท่ีเพียงแต่อนุญาตให้ผูร้ ับแฟรนไชส์ใช้เคร่ืองหมายการคา้ เท่าน้ ซ่ึงส่วนใหญ่จะปรากฏใน
รูปแบบของแฟรนไชส์รูปแบบการดา˚ เนินธุรกิจ (Business Format) ผูใ้ ห้แฟรนไชส์จะสร้างรูปแบบ
การดา˚ เนินธุรกิจของตนเองข้ึนและถ่ายทอดต่อไปยงั เครือข่ายแฟรนไชส์ท้งหมด ซ่ึงมีผูร้ ับแฟรน
ไชส์เป็ นเจา้ ของกิจการxxxxxจากกน
แต่ดา˚ เนินกิจการเป็ นแบบอย่างเดียวกน
ดวยมาตรฐานเดียวกน
และมีบทบาทส˚าคญในการควบคุมคุณภาพของการดา˚ เนินงานในเครือข่ายแฟรนไชส์ ปัญหาคือ ดวย
บทบาทด หรือไม่
กล่าวของผูใ
ห้แฟรนไชส์จะต้องมีความผิดในการดา˚ เนินงานในเครือข่ายแฟรนไชส์
ปัญหาดง
กล่าวเป็ นปัญหาส˚าคญ
ที่ควรศึกษาวิเคราะห์ เพราะในบริบทของแฟรนไชส์การ
ดา˚ เนินการควบคุมคุณภาพหรือแมแ
ต่xxxxxในการควบคุมคุณภาพเป็ นลก
ษณะพ้ืนฐานของกิจการแฟ
รนไชส์ ท่ีถูกนา˚ มาพิจารณาเป็ นองคประกอบท่ีมีผลตอก่ ารกา˚ หนดความรบั ผิดแก่เจา้ ของเคร่ืองหมาย
การค้าที่มีการอนุญาตให้ผู้อื่นใช้เครื่ องหมายการค้า ผู้ให้แฟรนไชส์ซ่ึงอยู่ในฐานะเจ้าของ
เครื่องหมายการคา้ จึงตกอยู่ในสถานการณ์xxxxxxxxxx เพราะตามกฎหมายเครื่องหมายการคาเจา้ ของ
เครื่องหมายการคา้ ที่อนุญาตใหใ้ ชเ้ ครื่องหมายการคาตองควบคุมคุณภาพการดา˚ เนินงานทอี่ นญาุ ตให
ใช้เครื่องหมายการคา
มิฉะน้
การอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการคา้ อาจxxxxxxตกเป็ นโมฆะ และ
ส่งผลให้มีการเพิกถอนเคร่ืองหมายการคา้ ดวยเหตุที่ไม่มีการใชเ้ คร่ืองหมายการคา้ ได้ ขณะเดียวกน
เม่ือควบคุมคุณภาพแล
ก็อาจตอ
งรับผิดในการกระทา˚ ของผูอ
ื่นตามหลก
กฎหมายตว
แทน หรือมี
ความเสี่ยงที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ และเมื่อมีการให้แฟรนไชส์ช่วงก็จะยิ่งเป็ นปัญหาอาจจะก่อให้เกิด
ความไม่แน่นอนในxxxxx หxxx xxx ความรับผดระหวา่ งxxxxxxxxxx
ดงั น้น
ผเู้ ขียนจึงนา˚ กฎหมายของไทยท่ีxxxxxxนา˚ มาบงั คบ
ใชแ
ก่ผใู้ หแ
ฟรนไชส์และผใู้ หแฟ
รนไชส์ช่วงเพ่ือให้ความคุม
ครองแก่ผูบ
ริโภคหรือเยียวยาความเสียหายแก่ผูเ้ สียหายมาวิเคราะห์ ซ่ึง
ไดแ
ก่ กฎหมายตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ กฎหมายวา่ ดว
ยความรับผด
ต่อความxxxxxxxxxx
เกิดข้ึนจากสินxxx xxxปลอดภย
และกฎหมายเครื่องหมายการคา
ซ่ึงอาจสรุปไดด
งั น้
1. วิเคราะห์ความรับผิดของผู้ให้แฟรนไชส์ และผู้ให้แฟรนไชส์ ช่ วงต่อผู้บริโภคตาม
xxxxxxกฎหมายแพ่งและพาณชย์
สัญญา
1) ประเด็นความรับผด
ของผใู้ ห้แฟรนไชส์และผใู้ หแ
ฟรนไชส์ช่วงต่อผบู
ริโภคตาม
xxxxx˚ หลกความรับผิดเพื่อความชา˚ รุดบกพร่องของสินคา้ xxxxxxxxซื้อขาย
xxxxxxนาหลกความรับผด
ดงั กล่าวมาปรับใช้ เพื่อใหผ
แู ฟรนไชส์และผใู้ หแ
ฟรนไชส์ช่วงตอ
งรับผิด
เพื่อความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนจากสินคา้ ชา˚ รุดบกพร่องได้ ในกรณีที่ผูใ้ หแฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์
ช่วงเป็ นผผู คือ
ลิตและจา˚ หน่ายสินคา้ ภายใตส
ัญญาแฟรนไชส์ช่วง ซ่ึงหลก
ความรับผด
ดงั กล่าวมีขอ
จา˚ กด
(1) หลกกฎหมายเร่ืองความรับผิดเพื่อความชา˚ รุดบกพร่องในสัญญาซื้อขายจะ
เห็นไดว้ ่าการฟ้องคดีเก่ียวกบ
ความรับผิด กฎหมายxx
x˚ กด
เฉพาะคู่สัญญาระหว่างผูซ
้ือและผูขาย
เท่าน้น
ประกอบกบ
ความรับผิดก็จา˚ กด
เฉพาะความชา˚ รุดบกพร่องxxxxxxxxxxทา˚ ให้สินคา้ เสื่อมราคา
หรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อน
มุ่งจะใชx
xxxหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์ที่มุ่ง
หมายโดยสัญญาและตองเป็ นความชา˚ รุดxxxxxxxxxxมีอยู่ก่อนหรือในขณะทา˚ สัญญาเท่าน้ัน แต่ใน
ขอเท็จจริงผบู
ริxxxxxxมิใช่ผูท
ี่ซ้ือสินคา้ โดยตรงและในขณะเดียวกน
ผูข
ายก็อาจมิใช่ผผู
ลิตสินคา
ซ่ึง
อาจเป็ นผูใ
ห้แฟรนไชส์และผูใ
ห้แฟรนไชส์ช่วงท่ีทา˚ สัญญาอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้เคร่ืองหมาย
การคา้ ของตนเป็ นผูผ
ลิตสินคา
ดงน้
ผูบ
ริxxxxxxไม่xxxxxxxxxxผูใ้ ห้แฟรนไชส์และ ผูใ้ ห้แฟรน
ไชส์ช่วงที่ทา˚ สัญญาอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้เครื่องหมายการคา้ ในฐานะผูผ
ลิตสินคา
โดยอาศย
หลก
ความรับผด
ในทางสัญญาซ้ือขายได้
ความเสียหายตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา 472-474 เรื่อง
ความรับผด
เพื
ชา˚ รุดบกพร่องน้ี บทบญ
ญติกฎหมายดงั กล่าวประสงคใ์ หผ
ูขายตอ
งรับผิดเฉพาะกรณี
xxxxxx
xxxxxขายน้น
ชา˚ รุดบกพร่องเป็ นเหตุใหเ้ สื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อน
มุ่ง
จะใชเ้ ป็ นxxxxหรือประโยชน์ท่ีมุ่งหมายโดยสัญญาเท่าน้น
ในกรณีxxxxxx
xxxxxซ้ืxxxxxxx˚ รุดเป็ นเหตุ
ให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ สุขภาพ อนามย
หรือทรัพยส
ินของผูบ
ริโภค กฎหมายใน
เร่ืองน้ีมิไดบญ
ญติไวจ้ ึงxxxxxxจะตอ
งไปวา่ กล่าวตามกฎหมายลก
ษณะละเมิด
2) ประเด็นความรับผิดของผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงตามกฎหมาย
ลกษณะละเมิด
ความรับผิดผใู้ ห้แฟรนไชส์และผใู้ ห
ฟรนไชส์ช่วงตามกฎหมายลก
ษณะละเมิด
มาตรา 420 xxxxxxนา˚ หลก
ความรับผิดดง
กล่าวมาปรับใช้เพื่อเรียกร้องให้ผูใ
ห้แฟรนไชส์และ
ผูใ้ ห
ฟรนไชส์ช่วงท่ีอนุญาตxx
xคคลอ่ืนใชเ้ ครื่องหมายการคา้ ตอ
งรับผิดชดใชx
xxxxxxxxxxxxx
xxx ในกรณีที่ผูให้แฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงไม่ควบคุมคุณภาพของสินคา้ ตามท่ี พ.ร.บ.
เครื่องหมายการคา
พ.ศ. 2534 ไดก
า˚ หนดให้สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการคา
ตองมีเงื่อนไข
หรือขอ
กา˚ หนดเกี่ยวกบ
การควบคุมคุณภาพ การควบคุมคุณภาพของสินคา
ภายใตส
xxxxxxxxxxให
ใชเ้ ครื่องหมายการคา้ ถือเป็ นหxxx xxxตามกฎหมายxxxxxxของเครื่องหมายการคาตอ
งปฏิบต
ิ เพื่อคุมครอง
ผูบ
ริโภคมิให้ถูกหลอกลวงหลงผิดในแหล่งกา˚ เนิดหรือคุณภาพของสินค้า ดง
น้น
การที่ผูใ้ ห้แฟรน
ไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วง งดเวน
ไม่ควบคุมคุณภาพของสินคา้ เป็ นเหตุใหส้ ินxxx xxxไดม
าตรฐาน
หรือเกิดความบกพร่องก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ อนามย จิตใจหรือทรัพยสิน
ของผบู
ริโภคแลว
xxxxxx การงดเวน
ของผใู้ หแฟรนไชส์และผใู้ หแ
ฟรนไชส์ช่วงน้น
เป็ นละเมิด ผใู้ หแฟ
รนไชส์และผูใ
ห้แฟรนไชส์ช่วงจึงต
งรับผิดต่อความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนต่อผูบ
ริ โภค แต่ในการ
เรียกร้องให้ผูใ
ห้แฟรนไชส์ ผู้ให้แฟรนไชส์ช่วงและผูร
ับแฟรนไชส์ช่วงต้องรับผิดโดยอาศัย
บทบญ
ญติดงั กล่าวxxx
xตาม ผูบ
ริโภคจะประสบกบ
ปัญหาในการเยย
วยาความเสียหายก็คือ ผูบ
ริโภค
มีภาระการพิสูจน์ในเรื่อง (1) มีความเสียหายเกิดข้ึน (2) ความเสียหายน้นเกิดจากการกระทา˚ โดยจง
ใจหรือประมาทเลินเล่อของผูใ้ ห้แฟรนไชส์ ผูใ้ ห
ฟรนไชส์ช่วงและผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงอน
เป็ นการ
ละเมิดxxxxxของผูบ
ริโภคโดยผิดกฎหมายและ (3) ความสัมพน
ธ์ระหวา่ งเหตุแห่งการกระทา˚ และผล
แห่งการความเสียหาย
ภาระการพิสูจน์ในเร่ืองดง
กล่าวเป็ นภาระหนก
ท่ีตกแก่ผูบ
ริโภคแมผูบ
ริโภคจะ
xxxxxxxxxx
า่ ความเสียหายเกิดจากความชา˚ รุดบกพร่องก็ตาม แต่ผบู
ริโภคส่วนใหญ่ไม่xxxxxxพิสูจน์
xxx
xxxxxxวา
ผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงฝ่ าฝื นหxxx xxxxxxตอ
งใช้ความระมด
ระวงั ในการ
ควบคุมคุณภาพสินคา
หรือผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงจงใจหรือประมาทเลินเล่อมิไดใ
ช้ความระมด
ระวง
ตามxxxxxในการผลิตอยา่ งไร ประกอบกบ
ปัจจุบน
เทคโนโลยีในการผลิตสินคา้ น้น
มีความxxx xxxx
มาก กระบวนการผลิตมีความยุ่งยากซ
ซ น ผูบ
ริโภคยอ
มไม่มีความรู้xxxxxxxxxxจะพิสูจน์เกี่ยวกบ
กระบวนการผลิตต่างๆได้ การเรียกร้องค่าเสียหายตามกฎหมายลก
ษณะละเมิดจึงอาจไม่คุม
กับ
ค่าใชจ
่ายและเวลาที่ตอ
งเสียไป
3) ประเด็นความรับผิดผูใ ลกษณะตวการตวแทน
ห้แฟรนไชส์และผูใ
ห้แฟรนไชส์ช่วง ตามกฎหมาย
xxxxxxxxxxxxxxxxx xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
ธ์ระหว่างผูใ
ห้แฟรนไชส์
ผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงและผูร
ับแฟรนไชส์ช่วงน้ันจะเป็ นxxxxxต่อกน
ผูใ
ห้แฟรนไชส์ช่วงมิได้เป็ น
ตวแทนของผูใ้ หแ้ ฟรนไชส์ในการเปิ ดดา˚ เนินกิจการแฟรนไชส์และขายแฟรนไชส์และควบคุมการ
ดา˚ เนินงานของผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงให้เป็ นไปตามมาตรฐาน และผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงก็เป็ นเพียงผูท
ไดรับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการคา้ จากผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วง ซ่ึงสัญญาแฟรนไชส์ช่วงเป็ นการทา
สัญญาอนุญาตให้ใช้xxxxxxxxxโดยอาศยชื่อเสียงและความxxxxxxxxของเคร่ืองหมายการคา้ เป็ น
องคป
ระกอบส˚าคญ
ดงั น้น
สินคา้ ท่ีจะใชเ้ คร่ืองหมายการคา้ ที่อนุญาตใหใ้ ชจ
ึงตอ
xxxxxxxxx xxxxxx
และคุณลก
ษณะอ่ืนๆไดม
าตรฐานตามขอ
กา˚ หนดและเงื่อนไขของผใู้ ห้แฟรนไชส์ xxxxxxxน้น
แลวจะ
เกิดความเสียหายหลายประการแก่คู่สัญญาและผูบ
ริโภค ผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงแมจ
ะประกอบกิจการ
ในนามของตนเองแต่โดยสภาพของการทา˚ งานแลวทา˚ เพ่ือตนเองโดยหวงั กา˚ ไรจากผลิตและจา˚ หน่าย
สินคา้ มากกว่าการทา˚ แทนตว
การ ผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงจะตอ
งจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผูใ้ ห้แฟรนไชส์
ช่วง ในการที่ตนไดใ
ช้ประโยชน์จากเครื่องหมายการคา
xxxxเดียวกน
กบผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงที่ตอง
จ่ายค่าตอบแทนใหแ
ก่ผูใ้ ห้แฟรนไชส์ ในการที่ตนไดใ้ ชป
ระโยชน์จากเคร่ืองหมายการคา
และการที่
ผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห ฟรนไชส์ช่วงอนุญาตให้ใชเ้ ครื่องหมายการคา้ ของตนก็เป็ นการตอบแทน
ต่อค่าตอบแทนที่ผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงจ่ายใหแ
ก่ผใู้ ห
ฟรนไชส์และผใู้ ห
ฟรนไชส์ช่วงไม่ใช่เป็ นการ
มอบหมายให้กระทา
ดงน้ัน หลก
เกณฑ์ของกฎหมายในเรื่องตว
การ ตว
แทน xxxx ความรับผิดต่อ
บุคคลภายนอกจึงไม่xxxxxxนา˚ มาใช้ในสัญญาแฟรนไชส์ช่วงได้ ผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรน
ไชส์ช่วงไม่จา˚ ตอ
งรับผิดหรือมีความผูกพน
ใดๆ ซ่ึงผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงมีต่อบุคคลภายนอก ภายใต
สัญญาแฟรนไชส์ช่วง ผบู รโิ ภคและหรือบุคคลท่ีสามxxxxxร้ ับความเสียหายจงึ ไม่xxxxxxxxยี กร้องให
ผใ้ หแฟรนไชส์และผใู้ ห้แฟรนไชส์ช่วงรับผด
ร่วมกบ
ผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงโดยอาศยั บทบญ
ญติในเรื่อง
ละเมิด ตามมาตรา 427 ที่กา˚ หนดให้นา˚ กรณีการร่วมรับผิดมาใช้แก่ตวการxxx xxxxxxxxxxxx ตาม
กฎหมายxxx xxหลก
ตวแทนเชิดตามประมวลกฎหมายแพง
และพาณิชย์ มาตรา 821 ซ่ึงเทียบเคียงได
กบหลก
Apparent Authority ซ่ึงศาลสหรัฐอเมริกานา˚ มาใชก
า˚ หนดความรับผด
แก่ผูใ้ หแ
ฟรนไชส์ จึง
มีความเป็ นไปไดว
่า หากมีขอ
พิพาทข้ึนสู่ศาล ศาลฎีกาxxxxx˚ หลก
ตวแทนเชิดมาปรับใช
ก่ผูใ้ ห้แฟ
รนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงตองรับผิดทางละเมิดส˚าหรับความxxxxxxxxxxเกิดขึ้นจากสินคา้ ของ
ผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วง แต่ก็มีความเห็นทางวิชาการโตแ
ยง้ วา
ตวการตอ
งรับผิดทางละเมิดส˚าหรับการ
กระทา˚ ของตว
แทน ตามมาตรา 427 น้น
ไม่ควรตีความรวมไปถึงกรณีของตว
แทนเชิดตามมาตรา 821
ด้วย เพราะบทบญ
ญติมาตรา 427 มีพ้ืนฐานความสัมพน
xxxxxxxxxxระหว่างตว
การกับตว
แทน
ขณะที่ตว
แทนเชิดเป็ นหลก
xxxxxxxx xxxx xxxได้มีความสัมพน
xxxxxxxxxxระหว่างตว
การกับ
ตวแทนเชิด ซ่ึงเม่ือเปรียบเทียบกบ
หลก
Apparent Authority แลว
ก็ยงั แตกต่างกน
xxxเ่ พราะตว
แทน
เชิดของไทยไม่xxxxxxxxxตัวแทนมีอา
นาจกระทา
การแทนตัวการอย่างหลักApparent Authority
เพียงแต่xxxxxxตว
การตอ
งรับผิดต่อบุคคลภายนอกผูx
xxxxxเท่าน้น
ดงน้น
จึงยงั ไม่มีความแน่นอนว่า
เมื่อคดีข้ึนสู่ศาลแลว
ศาลจะตด
สินให้ผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงรับผิดส˚าหรับสินคา
ของผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงตามมาตรา 821 หรือไม่ ดงั น้น
หลก
ความรับผด
ทางละเมิดสา˚ หรับการกระทา
ของผอู
ื่นจึงไม่xxxxxนา˚ มาใชแ
ก่ผใู้ หแ
ฟรนไชส์และผใู้ หแ
ฟรนไชส์ช่วง
2. ปัญหาและแนวทางการน˚าพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความxxxxxxxxxxเกิดขึ้นจาก
สินค้าทไม่ปลอดภัย พ.ศ. 2551 มาใช้บังคับกับกรณป ประเทศไทย
ัญหาความรับผดxxxxxxxxแฟรนไชส์ช่วงของ
กฎหมายว่าด้วยความรับผิดต่อความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนจากสินค้าไม่ปลอดภัยเป็ น
กฎหมายคุม
ครองผูบ
ริxxx xxxมีความมุ่งหมายในการกา˚ หนดความรับผิดแก่บุคคลท่ีอยู่ในสายการ
จา˚ หน่ายสินคา้ ในทุกๆทอด บุคคลเหล่าน้ีจึงมีบทบาทต่อกระบวนการผลิตและจา˚ หน่ายสินคา จึงควร
มีมาตรการต่างๆเพ่ือสร้างความปลอดภย
ใหแ้ ก่สินคา้ ที่ตนจา˚ หน่ายและป้องกน
ความเสี่ยงต่อความ
เสียหายxxxxxxเกิดจากความไม่ปลอดภย
ของสินคา้ เหล่าน้น
หากบุคคลเหล่าน้ีไม่ปฏิบต
ิหxxx xxxดงั กล่าว
และปล่อยให้สินคา้ ออกวางจา˚ หน่ายในทอ
งตลาด บุคคลเหล่าน้ีจึงxxxxxตอ
งรับผิด รวมถึงบุคคลxxx
xxxไดx
xxใ่ นสายของการจา˚ หน่ายสินคา้ โดยตรง แต่มีความเกี่ยวขอ
งกบ
สินคา้ xxxxxxปลอดภย
ก็ตอ
งรับ
ผิดเพื่อความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนจากความไม่ปลอดภย
ของสินคา้ เหล่าน้น
ดวย ในกรณีดงั กล่าวคือการ
กา˚ หนดความรับผิดแก่ผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงที่อนุญาตให้ผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงใช เคร่ืองหมายการคา้ ในสินคา้ ของผxxx xบแฟรนไชส์ช่วง
ผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห
ฟรนไชส์ช่วงอาจตอ
งรับผิดโดยเคร่งครัดส˚าหรับสินคา้ xxxxx
ปลอดในกิจการแฟรนไชส์ช่วง ตามหลก Apparent Manufacturer ของสหรฐอเมรกิั า ซ่ึงประเทศไทย
ได้น˚าหลัก Apparent Manufacturer มาxxxxxxxในค˚านิยาม “ผู้ประกอบการ”ตามมาตรา 4 แห่ง
พระราชบญ
ญติความรับผิดต่อความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนจากสินคา้ xxxxxxปลอดภย
พ.ศ. ๒๕๕๑ หลกน้
กา˚ หนดความรับผิดแก่ผูท
่ีแสดงออกว่าเป็ นผูผ
ลิตให้ต้องรับผิดxxxxเดียวก
ก ผูผ
ลิต ตามหลัก
กฎหมายปิ ดปาก หากการแสดงออกน้น
สร้างความเช่ือให้แก่ผูบ
ริxxxxxxมีเหตุxxxxxว่าผูแ
สดงออก
น้น
เป็ นผูผ
ลิต และดว
ยความเช่ือดงั กล่าวเป็ นเหตุให้ซ้ือสินคา้ และไดร
ับความเสียหายจากความไม
ปลอดภยั ของสินคา้ น้นั
การน˚าหลัก Apparent Manufacturer มาใช้ตี ความบทบัญญัติมาตรา 4 แห่ ง
พระราชบญ
ญติฯ ของประเทศไทยน้น
โดยเปรียบเทียบกบ
การใชหลก
Apparent Manufacturer ตาม
Restatement (Third) of Torts: Products Liability ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซ่ึงได้xxxxxxxอย่าง
ชดxxxว่าหลก
Apparent Manufacturer ไม่นา˚ มาใช้แก่ผูอ
นุญาตให้ใช้เครื่องหมายการคา
ซ่ึงหมาย
รวมถึงผูใ้ ห้แฟรนไชส์ที่อนุญาตให้ผูร้ ับแฟรนไชส์ใช้เครื่องหมายการคา้ ของตน อยา่ งไรก็ตามการ
ตีความดงั กล่าวยงั xxมีความเห็นท่ีแตกต่างกนอยู่ ซ่ึงแบ่งเป็ นสองแนวทาง ดงั น้
แนวทางแรก เห็นวา
หลก
Apparent Manufacturer xxxxxxใชบ
งั คบ
แก่ผใู้ หแ้ ฟรนไชส์ที่
อนุญาตให้ผูรับแฟรนไชส์ใช้เครื่องหมายการค้าของตน เพราะหลัก Apparent Manufacturer มุ่ง
หมายจะใช้บงั คบ
แก่ผูข
ายสินคา
โดยเฉพาะผูข
ายปลีกที่เป็ นห้างสรรพสินคา้ ขนาดใหญ่ที่มีลก
ษณะ
เป็ น chain store และบริษทั รับส่ังซ้ือสินค้าทางไปรษณีย์ (mail order firms) แต่ผูให้แฟรนไชส์ที่
อนุญาตให้ผูร้ ับแฟรนไชส์ใช้เครื่องหมายการคา้ ของตนไม่xxx
xxxxxเป็ นผูข
ายหรือจา˚ หน่ายสินคา
ท้งั การใชเ้ ครื่องหมายการคา้ ภายใตส
ัญญาอนุญาตใหใ้ ชเ้ ครื่องหมายการคา้ เป็ นการสนบ
สนุนการขาย
เท่าน้ัน ผู้ให้แฟรนไชส์จึงไม่xxxxxxxxxxแสดงออกว่าเป็ นผู ลิต จึงxxxxxxถือเป็ น Apparent
Manufacturer หรือผูม Manufacturer
ีสถานะเสมือนผูผ
ลิตไดแ
ละไม่ตอ
งรับผิดโดยเคร่งครัดภายใตหลก
Apparent
แนวทางสอง เห็นวา
หลก
Apparent Manufacturer xxxxxxใชบ
งั คบ
แก่ผใู้ หแ
ฟรนไชส์
ที่อนุญาตให้ผูร
ับแฟรนไชส์ใช้เครื่องหมายการคา้ ของตน เพราะหลก
Apparent Manufacturer มี
พ้ืนฐานความรับผิดอยู่บนความคาดหวงั ของผูบ
ริโภค หรือความเชื่อถือของผูบ
ริxxxxxxมีต่อการใช
เครื่องหมายการคา
เมื่อตามทฤษฎีเครื่องหมายการคา้ ในปัจจุบน
xxxxxxเครื่องหมายการxxx xxxไดทา
หน้าท่ีแต่เพียงบ่งช้ีแหล่งท่ีมาของสินค้าเท่าน้ัน แต่ยงxxxxxxแสดงถึงคุณภาพของสินค้าท่ีใช
เคร่ืองหมายการคา้ ที่สอดxxx
xกน
ดวย ดงั น้น
การใชเ้ ครื่องหมายการคา้ แก่สินxx
xxxวา่ จะเป็ นการใช
โดยเจา้ ของเครื่องหมายการคาดวยตว
เองหรือการใชเ้ ครื่องหมายการคาโดยอนุญาตใหผ
ูอื่นใชภายใต
สัญญาแฟรนไชส์ ผูบริโภคจึงเชื่อถือเคร่ืองหมายการคา้ ของผูใ้ ห้แฟรนไชส์ในฐานะเป็ นส่ิงประกน
โดยปริยายถึงคุณภาพสินคา และผูใหแฟรนไชส์ในฐานะเป็ นเจาของxxxxxหมายื่ การคาจะรบผั ดชอบ
สา˚ หรับความไม่ปลอดภยั ของสินคาที่ปรากฏเครื่องหมายการคา
3. ปัญหาและแนวทางการน˚าพระราชบัญญติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แกไ้ ขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญต
ิเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2543 มาใช้บังคับกับกรณป
ัญหาความรับผิด
xxxxxxxxแฟรนไชส์ช่วงของประเทศไทย
1) กรณีที่ผใู้ หแฟรนไชส์และผูใ้ หแ
ฟรนไชส์ช่วงxxxxxxxxควบคุมคุณภาพของสินคา
ภายใตส
ัญญาแฟรนไชส์ช่วง พ.ร.บ. เครื่องหมายการคา้ กา˚ หนดให้ผูม
ีส่วนไดเ้ สียหรือนายทะเบียน
อาจร้องขอต่อคณะกรรมการให้ส่ังเพิกถอนการจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการคา้ ได
ซ่ึงการไม่ควบคุมคุณภาพของสินคา้ น้น
อาจถือไดวา
เจา้ ของเคร่ืองหมายการxxx xxxไดใ้ ชเ้ ครื่องหมาย
การคา้ เป็ นระยะเวลาหน่ึงอน
เป็ นเหตุใหค
ณะกรรมการฯ เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการคา
(มาตรา63) และในกรณีที่มีการเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าใด การอนุญาตให้ใช
เครื่องหมายการคา้ น้น
ยอมสิ้นผลไปดว
ย (มาตรา76) ซ่ึงมีผลใชบ
งั คบ
ระหวา่ งคู่สัญญาเท่าน้น
2) กรณีที่ผู้ให้แฟรนไชส์และผู้ให้แฟรนไชส์ช่วงได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรื อ
ขอกา˚ หนดเก่ียวกบการควบคุมคุณภาพของสินคา้ จนถึงขนาดเขา้ ไปมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิต
เกือบทุกข้นตอน หากสินคา้ ท่ีผลิตโดยผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงเกิดความชา˚ รุดบกพร่องก่อให้เกิดความ
เสียหายต่อผูบ
ริโภค ผูใ
ห้แฟรนไชส์ผูใ
ห้แฟรนไชส์ช่วง และผูร
ับแฟรนไชส์ช่วงจะต้องรับผิด
ร่วมกน
ในความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนประหน่ึงวา่ เป็ นผผู
ลิตสินคา้ เองตามหลก
กฎหมายละเมิด
3) กรณีที่ผู้ให้แฟรนไชส์และผู้ให้แฟรนไชส์ช่วงได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรื อ
ขอกา˚ หนดเกี่ยวกบการควบคุมคุณภาพของสินคา้ ตามธรรมดา (มิได้เป็ นการควบคุมคุณภาพของ
สินคา้ จนถึงขนาดเขา้ ไปมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิต) หากสินคา้ ท่ีผลิตโดยผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วง
เกิดความชา˚ รุดบกพร่องก่อให้เกิดความเสียหายกบ
ผูบ
ริโภคแลว
xxxxxxxxxผูใ้ หแ้ ฟรนไชส์และผูใ้ ห
แฟรนไชส์ช่วงเขา้ ไปมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตอยา่ งxxxxxxxxxxจะเป็ นเหตุใหต xxxxxxxxxxเกิดข้ึน
องรับผิดในความ
อยา่ งไรก็ตาม พ.ร.บ. เคร่ืองหมายการคา้ ดงั กล่าวมิไดม
ีบทบญ
ญติที่กา˚ หนดความรับผิด
ทางแพ่งในกรณีที่ผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงxxxxxxxxควบคุมคุณภาพของสินคา หาก
สินคา้ ท่ีผลิตข้ึนภายใตส
ัญญาแฟรนไชส์ช่วงน้น
เกิดความชา˚ รุดบกพร่องก่อให้เกิดความเสียหายแก่
ผบู
ริโภคแลว
ผูบ
ริxxxxxxx xxxxxเรียกร้องใหผ
ใู้ หแ
ฟรนไชส์ ผใู้ หแ
ฟรนไชส์ช่วงและผูร้ ับ แฟรน
ไชส์ช่วงรับผิดชดใช้ความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนโดยอาศย
บทบญ
ญติใน พ.ร.บ.เครื่องหมายการคา้ ได
ผูบ
ริโภคxxxxx
xบความเสียหายดง
กล่าวต้องเรียกร้องให้ผูใ
ห้แฟรนไชส์ ผูใ
ห้แฟรนไชส์ช่วงและ
ผxxx xบแฟรนไชส์ช่วงรับผดโดยอาศยั กฎหมายละเมิด
แมว
่าศาลอเมริกาได้ใช้ขอ
เท็จจริงเกี่ยวกบ
การควบคุมคุณภาพของผูใ้ ห้แฟรนไชส์มา
เป็ นขอ
พิจารณา โดยเฉพาะxxxxxในการควบคุมคุณภาพ ซ่ึงเป็ นขอ
สัญญาพ้ืนฐานของสัญญาแฟรน
ไชส์เพราะเป็ นการxxxxxxxxxxxxxปฏิบต
ิตามความตx
xxxxของกฎหมายเครื่องหมายการคา้ ในการ
ควบคุมคุณภาพข้น
ต่า˚ ท่ีสุดท่ีจะทา˚ ไดเ้ พ่ือป้องกน
การสูญเสียxxxxxในเครื่องหมายการคา
แต่ศาลกลบ
ไม่เคยอธิบายxxxxxxxใดจึงนา˚ องคป
ระกอบทางขอ
เท็จจริงเหล่าน้ีมาพิจารณาในการกา˚ หนดความรับ
ผด ดว
ยความไม่ชด
xxxของหลก
เกณฑ์ในการกา˚ หนดความรับผด
ทา˚ ใหผ
ใู้ หแ
ฟรนไชส์และผูใหแฟ
รนไชส์ช่วงตกxxxในสถานการณ์xxxxxxxxxx เพราะผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงในฐานะท่ี
เป็ นผู้อนุญาตให้ใช้เครื่ องหมายการค้ามีหน้าที่ต้องด˚าเนินการควบคุมคุณภาพตามกฎหมาย
เครื่องหมายการคา้ เพื่อรักษาxxxxxในเครื่องหมายการค้าไว้ ดงั น้น
ถา้ ผูใ้ ห
ฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรน
ไชส์ช่วงไม่ควบคุมคุณภาพก็อาจถูกเพิกถอนxxxxxในเคร่ืองหมายการคา
ในทางตรงกน
ขา้ ม เม่ือ
ดา˚ เนินการควบคุมคุณภาพกลบ
อาจทาใหต
องรับผิด xxxxxองคประกอบในเรื่องการควบคุมคุณภาพ
มาใช้ อาจส่งผลให
ใู้ หแ
ฟรนไชส์และผใู้ หแ
ฟรนไชส์ช่วง ตอ
งรับผด
สา˚ หรับสินคา้ ท่ีก่อใหเ้ กิดความ
เสียหายแก่ผูบ
ริโภคของผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วงในทุกกรณีโดยปริยาย เพราะห
ใจของแฟรนไชส์ คือ
การดา˚ เนินการควบคุมคุณภาพเพ่ือรักษาภาพล มาตรฐานเดียวกนั
ษณ์ของกิจการให้เป็ นแบบอย่างเดียวกัน และมี
ข้อเสนอแนะ
เมื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาในเรื่องหลกเกณฑ์การกา˚ หนดความรับผิดของผูใ้ ห้แฟรนไชส์และ
ผใู้ ห้แฟรนไชส์ช่วง อน
เกิดจากการดา˚ เนินงานของผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วง ภายใตส
ัญญาแฟรนไชส์ช่วง
ผเู้ ขียนเห็นวา
กฎหมายที่กา˚ หนดความรับผิดทางแพ่งของผูใ้ หแ
ฟรนไชส์และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงใน
ฐานะผูอนุญาตให้ใช้xxxxxในเครื่ องหมายการค้าและการเยียวยาความxxxxxxxxxxเกิดจากสัญญา
แฟรนไชส์ช่วง คือกฎหมายในเรื่องสัญญาและละเมิด แมว
า่ ผูใ้ ห้แฟรนไชส์และผูใ้ ห
ฟรนไชส์ช่วง
จะเป็ นเป้าหมายอนดบแรกส˚าหรบั ผเู้ สียหายที่จะถูกฟ้องดา˚ เนินคดี เพราะอยใู่ นฐานะท่ีxxxxxxxx˚ ระ
หน้ีxxx
xกว่าผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วง แต่มีเหตุขด
ของคือผูบ
ริxxxxxxxม
ีนิติสัมพน
ธ์กบ
ผูใ้ ห้แฟรนไชส์
และผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงตามหลก
คู่สัญญา อีกท้ง
การกา˚ หนดความรับผิดของผูใ้ ห้แฟรนไชส์และ
ผูใ้ ห้แฟรนไชส์ช่วงยงั ไม่มีความแน่ชด
ว่าเมื่อคดีข้ึนสู่ศาลแลว
ศาลจะตด
สินให้ผูใ้ ห้แฟรนไชส์และ
ผใู้ ห้แฟรนไชส์ช่วงรับผด
ส˚าหรับสินคา้ ที่ก่อใหเ้ กิดความเสียหายต่อผูบ
ริโภคของผูร้ ับแฟรนไชส์ช่วง
อย่างไร และพระราชบ
ญ ิเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขxxxxxเติมโดยพระราชบ
xxxx
เครื่องหมายการคา
(xxx
xxx 2) พ.ศ.2543 ก็มิไดม
ีบทบญ
ญติเกี่ยวกบ
ความรับผิดของผูใ้ ห้แฟรนไชส์
และผใู้ หแฟรนไชส์ช่วงไวโ้ ดยเฉพาะ ดงั น้ี ผเู้ ขียนจงึ ขอเสนอวา
1. ควรให้มีการตราพระราชบญญติการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์เป็ นการเฉพาะโดยมี
เน้ือหาของขอ
ตกลงในสัญญาแฟรนไชส์ ความสัมพน
ธ์ของคู่ส
ญาแฟรนไชส์ และความรับผิดของ
คู่สัญญาแฟรนไชส์ และครอบคลุมไปxxxxxxใหแฟรนไชส์ช่วงดวย
2. ควรนาหลก
Apparent Manufacturer ตามบทบญ
ญติมาตรา 4 ของพระราชบญ
ญติความ
รับผิดต่อความxxxxxxxxxxเกิดข้ึนจากสินคา้ xxxxxxปลอดภย
พ.ศ. 2551 ที่กา˚ หนดให้ “ผูท
ี่ใช้ชื่อ ชื่อ
ทางการคา
เครื่องหมายการคา
เครื่องหมาย ขอ
ความ หรือแสดงดว
ยวิธีใดๆxx
xxลก
ษณะที่จะทา˚ ให
เกิดความเขา้ ใจไดว
่าเป็ นผูผ
ลิต ผูx
xxxxx xผลิต หรือผูน
า˚ เขา้ สินคา้ ” xxxxxxเป็ นผูป
ระxxxxxxตอ
งรับ
ผิดโดยเคร่งครัดส˚าหรับความxxxxxxxxxxเกิดจากความไม่ปลอดภยของสินคา้ ที่มีเคร่ืองหมายการคา
ฯลฯ มาใชบ
งั คบ
แก่ผใู้ หแ
ฟรนไชส์และผใู้ หแ
ฟรนไชส์ช่วง ภายใตส
ัญญาแฟรนไชส์ช่วง