แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) (ทุกสังกัด)
PA 1/ส
แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) (ทุกสังกัด)
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
ระหว่างวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2566
ผู้จัดทำข้อตกลง
ชื่อ นายจรัญ นามสกุล มูลจันทร์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ไม่มีวิทยฐานะ
สถานศึกษา โรงเรียนเทพศิรินทร์ลาดหญ้า กาญจนบุรี สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กาญจนบุร รับเงินเดือนในอันดับ คศ. 1 อัตราเงินเดือน 24,400 บาท
ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ (สามารถระบุได้มากกว่า 1 ประเภทห้องเรียน ตามสภาพการจัดการเรียนรู้จริง)
☑ ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน
□ห้องเรียนปฐมวัย
□ ห้องเรียนการศึกษาพิเศษ
□ ห้องเรียนสายวิชาชีพ
□ ห้องเรียนการศึกษานอกระบบ / ตามอัธยาศัย
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน ตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ซึ่งเป็น ตำแหน่งที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 38 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา การใช้โปรแกรมตารางงาน รหัสวิชา ว22202 จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกส์2 รหัสวิชา ว31235 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา WEB Design รหัสวิชา ว32226 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาชุมนุม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาวิทยาการคำนวณ รหัสวิชา ว23103 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา ออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว23104 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกส์ รหัสวิชา ว31225 จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา การสร้างงานแอนิเมชั่น รหัสวิชา ว31224 จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาวิทยาการคำนวณ รหัสวิชา ว32203 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา ออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว32204 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาชุมนุม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ฯลฯ
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 37 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 12 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 14 ชั่วโมง/สัปดาห์
2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งครู (ให้ระบุรายละเอียดของงานที่จะปฏิบัติในแต่ละด้าน ว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยอาจระบุระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการด้วยก็ได้)
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตำแหน่ง | งาน (Tasks) ที่จะดำเนินการพัฒนา ตามข้อตกลง ใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) | ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) | ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น (โปรดระบุ) |
1. ด้านการจัดการเรียนรู้ ลักษณะงานที่เสนอให้ ครอบคลุมถึง การสร้างและหรือ พัฒนาหลักสูตร การออกแบบ การจัดการเรียนรู้ การจัด กิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างและ หรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ การ วัดและประเมินผลการจัดการ เรียนรู้ การศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือ | 1.1 การสร้างและหรือ การพัฒนาหลักสูตร - จัดทำหลักสูตรและ หน่วยการเรียนรู้ที่ สอดคล้องกับมาตรฐาน การเรียนรู้ และตัวชี้วัด หรือผลการเรียนรู้ ตาม หลักสูตรเพื่อให้ผู้เรียนได้ พัฒนาสมรรถนะ และ การเรียนรู้เต็มตาม ศักยภาพ โดยมีการ | 1.ผู้เรียนได้รับการ จัดการเรียนรู้ตาม หลักสูตร และมีความรู้ ตามมาตรฐานและ ตัวชี้วัด 2.ผู้เรียนได้รับการพัฒนา คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ การอ่าน การ เขียน คิดวิเคราะห์ สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียน | 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด 2.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นเป็นไป ตามค่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด |
พัฒนาการเรียนรู้ การจัด บรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนา ผู้เรียน และการอบรมและพัฒนา คุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน | ประยุกต์ให้สอดคล้องกับ บริบทขอสถานศึกษา ผู้เรียน และชุมชน 1.2 การออกแบบการ จัดการเรียนรู้ - เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ ประจำวิชา คุณลักษณะ ประจำวิชา คุณลักษณะ อันพึ่งประสงค์ และ สมรรถนะ ที่สำคัญ ตาม หลักสูตร โดยมีการปรับ ประยุกต์ให้สอดคล้อง กับบริบทของ สถานศึกษา ผู้เรียน และ ชุมชน - จัดทำแผนที่เน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ สาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ตาม เป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด 1.3 การจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ -มีการอำนวยความ สะดวกในการเรียนรู้ และส่งเสริม ผู้เรียนได้ พัฒนาเต็มตามศักยภาพ เรียนรู้และทำงานร่วมกัน โดยมีการปรับประยุกต์ ให้สอดคล้องกับความ แตกต่างของผู้เรียนตาม บริบทของสถานศึกษา | 1.ผู้เรียนมีความรู้ ตาม มาตรฐานและตัวชี้วัด ตามธรรมชาติวิชา 2.ผู้เรียนได้รับการพัฒนา ในด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์และสมรรถนะ สำคัญตามหลักสูตร 1.ผู้เรียนได้รับการพัฒนา ตามศักยภาพตามความ แตกต่างของแต่ละบุคคล 2.ผู้เรียนมีนิสัยใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงานและ สามารถทำงานร่วมกับ ผู้อื่นได้เป็นอย่างดี | 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน 2.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีผลการประเมินในด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ และสมรรถนะสำคัญตาม หลักสูตรสูงขึ้นเป็นไป ตามค่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินตามสถานศึกษา กำหนด 2. ร้อยละ70 ของผู้เรียน มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงานและสามารถ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ เป็นอย่างดีเป็นไปตามค่า เป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด |
1.4 การสร้างและ พัฒนาสื่อนวัตกรรม -มีการสร้างและหรือ พัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่ง เรียนรู้โดยมีการปรับ ประยุกต์ให้สอดคล้องกับ กิจกรรมการเรียนรู้ -จัดทำสื่อที่ส่งเสริม พัฒนานักเรียนโดยใช้ เทคโนโลยี -พัฒนาแหล่งเรียนรู้ ห้องปฏิบัติการ คอมพิวเตอร์ให้พร้อม บริการ 1.5. การวัดและการ ประเมินผลการเรียนรู้ - มีการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ ด้วยวิธีการ ที่ หลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้องกับ มาตรฐาน การเรียนรู้ ให้ ผู้เรียนพัฒนาการเรียนรู้ อย่างต่อเนื่อง -สร้างเครื่องมือวัดและ ประเมินผลเพื่อการ พัฒนาผู้เรียนตามสภาพ จริงและวัดการคิด วิเคราะห์ | 1.ผู้เรียนได้รับความรู้ จากการใช้สื่อที่ หลากหลาย สอดคล้อง กับกิจกรรมการเรียนรู้ และทันสมัย 2.ผู้เรียนได้รับความรู้ จากการใช้แหล่งเรียนรู้ที่ หลากหลาย และ สอดคล้องกับการเรียนรู้ 1.ผู้เรียนได้รับการ ประเมินผลการเรียนรู้ อย่างต่อเนื่อง หลากหลาย 2.นำผลการประเมินมา ใช้ในการส่งเสริมหรือ ปรับปรุงแก้ไขการเรียนรู้ ของผู้เรียน | 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด 2.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นเป็นไป ตามค่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินเป็นไปตาม ระเบียบการวัดผล ประเมินผลของ สถานศึกษา 2.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นเป็นไป ตามค่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด |
1.6 การศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนาการเรียนรู้ - มีการศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อ แก้ปัญหา หรือ พัฒนาการเรียนรู้ที่ส่งผล ต่อคุณภาพผู้เรียน -วิเคราะห์ผู้เรียนเป็น รายบุคคล -จัดกลุ่มนักเรียน -วางแผนพัฒนานักเรียน ตามศักยภาพและความ แตกต่างระหว่างบุคคล 1.7 การจัดบรรยากาศที่ ส่งเสริมและพัฒนา ผู้เรียน - มีการจัดบรรยากาศที่ ส่งเสริมและพัฒนา ผู้เรียน ให้เกิด กระบวนการคิด ทักษะ ชีวิต ทักษะการทำงาน ทักษะการเรียนรู้ และ นวัตกรรม ทักษะด้าน สารสนเทศ สื่อ และ เทคโนโลยี -จัดบรรยากาศห้องเรียน ให้ได้มาตรฐานห้องเรียน คุณภาพ(Onsite) -จัดกระบวนการเรียนรู้ (Online) | 1.นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือพัฒนาใน ด้านการเรียนรู้ 2.นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือพัฒนา ด้านคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 3. นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือพัฒนา ด้านสมรรถนะสำคัญ ผู้เรียน 1.ผู้เรียนได้รับการพัฒนา ในด้านสมรรถนะสำคัญ ของผู้เรียน | 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินของสถานศึกษา 2.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีผลการประเมินในด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์และสมรรถนะ สำคัญตามหลักสูตร สูงขึ้นเป็นไปตามค่า เป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด 1. ร้อยละ 70 ของ ผู้เรียนมีผลการประเมิน ในด้านสมรรถนะสำคัญ ตามหลักสูตรสูงขึ้น เป็นไปตามค่าเป้าหมาย ที่สถานศึกษากำหนด |
1.8 อบรมและพัฒนา คุณลักษณะที่ดีของ ผู้เรียน - มีการอบรมบ่มนิสัยให้ ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ และ ค่านิยมความเป็นไทยที่ดี งาม -จัดกิจกรรมที่ส่งเสริม คุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 1. โรงเรียนวิถีพุทธ 2. โรงเรียนคุณธรรม 3. โรงเรียนสุจริต | 1.ผู้เรียนได้รับการพัฒนา ในด้านลักษณะนิสัยอัน พึงประสงค์ | 1. ร้อยละ 70 ของ ผู้เรียนมีผลการประเมิน ในด้านลักษณะนิสัยอัน พึงประสงค์ตามหลักสูตร สูงขึ้นเป็นไปตามค่า เป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด | |
2. ด้านการส่งเสริมและ สนับสนุน การจัดการเรียนรู้ ลักษณะงานที่เสนอให้ ครอบคลุมถึง การจัดทำข้อมูล สารสนเทศของผู้เรียน และ รายวิชาการดำเนินการ ตาม ระบบ ดูแลช่วยเหลือผู้เรียน การ ปฏิบัติงาน วิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษาและการประสาน ความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคี เครือข่าย และหรือสถาน ประกอบการ | 2.1 จัดทำข้อมูล สารสนเทศของผู้เรียน และรายวิชา - มีการจัดทำข้อมูล สารสนเทศของผู้เรียน และรายวิชา เพื่อใช้ใน การส่งเสริมสนับสนุน การเรียนรู้ และพัฒนา คุณภาพผู้เรียน -จัดทำข้อมูลสารสนเทศ และเผยแพร่ข้อมูลเพื่อ เป็นการให้ข้อมูล ย้อนกลับแก่ผู้เรียน/ ผู้ปกครอง 1.ผลการประเมิน ปพ.5 2.ระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียน | 1.นักเรียนได้รับการ สนับสนุน ช่วยเหลือดูแล ทั้งด้านวิชาการ ลักษณะ นิสัยอันพึงประสงค์ รวมทั้งสมรรถนะสำคัญ ผู้เรียน 2. นักเรียนได้รับการ แก้ไขหรือพัฒนาทั้งด้าน วิชาการ ลักษณะนิสัยอัน พึงประสงค์รวมทั้ง สมรรถนะสำคัญผู้เรียน | 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินของสถานศึกษา 2.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีผลการประเมินในด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์และสมรรถนะ สำคัญตามหลักสูตร สูงขึ้นเป็นไปตามค่า เป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด |
2.2 ดำเนินการตาม ระบบดูแลช่วยเหลือ ผู้เรียน -มีการใช้ข้อมูล สารสนเทศเกี่ยวกับ ผู้เรียนรายบุคคล และ ประสาน ความร่วมมือ กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อ พัฒนา และแก้ปัญหา ผู้เรียน -จัดทำช่องทางการ เผยแพร่ผลการประเมิน ผู้เรียนต่อผู้ปกครอง รายบุคคล เพื่อการ วางแผนพัฒนาผู้เรียน ร่วมกัน 2.3 ปฏิบัติงานวิชาการ และงานอื่นๆ ของ สถานศึกษา - ร่วมปฏิบัติงานทาง วิชาการ และงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา เพื่อ ยกระดับคุณภาพการจัด การศึกษาของ สถานศึกษา -ร่วมกิจกรรมการพัฒนา หลักสูตรสถานศึกษา -ร่วมกิจกรรมการจัดทำ แผนพัฒนาคุณภาพ สถานศึกษา -ร่วมกิจกรรมการจัดทำ SAR | 1.นักเรียนได้รับการ สนับสนุน ช่วยเหลือดูแล ทั้งด้านวิชาการ ลักษณะ นิสัยอันพึงประสงค์ รวมทั้งสมรรถนะสำคัญ ผู้เรียน 2. นักเรียนได้รับการ แก้ไขหรือพัฒนาทั้งด้าน วิชาการ ลักษณะนิสัยอัน พึงประสงค์รวมทั้ง สมรรถนะสำคัญผู้เรียน 1.ผู้เรียนมีความรู้ ตาม มาตรฐานและตัวชี้วัด 2.ผู้เรียนได้รับการพัฒนา ที่ดีขึ้น | 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินของสถานศึกษา 2.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีผลการประเมินในด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์และสมรรถนะ สำคัญตามหลักสูตร สูงขึ้นเป็นไปตามค่า เป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินเป็นไปตาม ระเบียบการวัดผล ประเมินผลของ สถานศึกษา 2.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน มีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นเป็นไป ตามค่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากำหนด |
2.4 ประสานความ ร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือ สถานประกอบการ - ประสานความร่วมมือ กับผู้ปกครอง ภาคี เครือข่าย และหรือสถาน ประกอบการ เพื่อ ร่วมกันพัฒนาผู้เรียน -ร่วมกิจกรรมประชุม ผู้ปกครอง 1 ครั้ง/ภาค เรียน -จัดให้มีช่องทางในการ ติดต่อสื่อสารกับ ผู้ปกครองและภาคี เครือข่าย | 1.นักเรียนได้รับการ สนับสนุน ช่วยเหลือการ ดูแลจากการ ประสานงานของครู ผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และสถานประกอบการ | 1.ร้อยละ 70 ของผู้เรียน ได้รับการดูแลจากการ ประสานงานของครู ผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และสถานประกอบการ | |
3. ด้านการพัฒนาตนเองและ วิชาชีพ ลักษณะงานที่เสนอให้ ครอบคลุมถึง การพัฒนาตนเอง อย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง การ มีส่วนร่วม ในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการ จัดการเรียนรู้ และการนำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการ พัฒนาตนเอง และวิชาชีพมาใช้ใน การพัฒนา การจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน และ การพัฒนานวัตกรรม การจัด การเรียนรู้ | 3.1 พัฒนาตนเองอย่าง เป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ ภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษเพื่อการ สื่อสาร และการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อ การศึกษา สมรรถนะ วิชาชีพครูและความรอบ รู้ในเนื้อหาวิชาและ วิธีการสอน -พัฒนาทักษะการใช้ ภาษาไทย -พัฒนาทักษะการใช้ ภาษาอังกฤษ -พัฒนาการใช้เทคโนโลยี | 1. นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือพัฒนาใน ด้านการเรียนรู้ นักเรียน ได้รับการใช้ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสาร และการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อ การศึกษา | 1.ร้อยละ 70 ได้รับการ แก้ปัญหาหรือพัฒนาใน ด้านการเรียนรู้ อยู่ใน ระดับ ดี |
3.2 การมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทาง วิชาชีพ เพื่อแก้ปัญหา และพัฒนาการจัดการ เรียนรู้ -มีส่วนร่วมในการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทาง วิชาชีพ (PLC) เพื่อแก้ไข ปัญหา และพัฒนาการ จัดการเรียนรู้ 3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ ได้จากการพัฒนาตนเอง และวิชาชีพมาใช้ในการ พัฒนาการจัดการเรียนรู้ การพัฒนา คุณภาพ ผู้เรียน และการพัฒนา นวัตกรรมการจัดการ เรียนรู้ | 1.ผู้เรียนได้รับการพัฒนา ตามแนวทางการจัด กิจกรรมชุมชนการ เรียนรู้ (PLC) ของครูเพื่อ แก้ไขปัญหาผู้เรียนและ ปรับปรุงพัฒนา กระบวนการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1.ผู้เรียนมีความพึงพอใจ ในการได้รับการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้ ใหม่ ด้วยนวัตกรรมที่ครู สร้างขึ้น | 1.ผู้เรียนร้อยละ 70 ผ่าน เกณฑ์การทำกิจกรรมที่ ได้จากการ PLC ของครู 1.ผู้เรียนร้อยละ 70 มี ความพึงพอใจในการ ได้รับการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้ ในระดับดี |
หมายเหตุ
1. รูปแบบการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน.ตามแบบ.PA.1.ให้เป็นไปตามบริบท และสภาพการ จัดการเรียนรู้ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการสถานศึกษา และข้าราชการครู ผู้จัดทำข้อตกลง
2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน ต้องเป็นงานในหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ที่ ส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน และให้นำเสนอรายวิชาหลักที่ทำการสอน โดยเสนอในภาพรวม ของ รายวิชาหลักที่ทำการสอนทุกระดับชั้น ในกรณีที่สอนหลายรายวิชา สามารถเลือกรายวิชาใดวิชาหนึ่ งได้ โดยจะต้อง แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางาน ตามข้อตกลง สามารถประเมินได้ตามแบบการประเมิน PA 2
3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ ของผู้เรียน (Outcomes) และตัวชี้วัด (Indicators) ที่เป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมิน ผลการพัฒนางาน ตามข้อตกลง ให้คณะกรรมการดำเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริง สภาพการจัดการเรียนรู้ใน บริบทของแต่ละสถานศึกษา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนางาน ตามข้อตกลงเป็นสำคัญ โดย ไม่เน้นการประเมินจากเอกสาร
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือการปรับประยุกต์การจัดการ เรียนรู้ และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกส์2 ด้วย กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-Based Learning) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
จากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้บอกไว้ว่าเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และรู้เท่าทันการ เปลี่ยนแปลง สามารถนำความรู้ไปเชื่อมโยงความรู้ที่เรียนกับชีวิตประจำวันทางด้านเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ ในการทำงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และแข่งขันในสังคมไทยและสากล เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการทำงาน และมีเจตคติที่ดีต่อการทำงานในอนาคตได้อย่างมีความสุข
จากกระบวนการ PLC ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ที่ผ่านมาพบว่าการจัดการเรียนรู้ใน รายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกส์2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 ที่ผ่านมา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ และไม่ ผ่านเกณฑ์ ตามที่สถานศึกษากำหนด เพราะนักเรียนมองว่าคอมพิวเตอร์กราฟิกส์เป็นเป็นเรื่องยาก ไกลตัว ไม่ สามารถเชื่อมโยงความรู้ที่เรียนกับชีวิตประจำวันได้ จึงรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่ค่อยสนใจ ไม่อยากเรียนรายวิชานี้
จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นข้าพเจ้าครูผู้สอนได้ไปศึกษาวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ทำให้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้นนั้นคือกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-
Based Learning)ของ บรูเนอร์ (Bruner. 1966: 89) โดยประกอบด้วย 4 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่1 การสังเกต (Observation) หลังจากกำหนดประเด็นปัญหา ให้นักเรียนสังเกตสภาพแวดล้อม ที่ก่อให้เกิดปัญหา พยายามนำความคิดรวบยอดเดิมมาแก้ปัญหาโดยคิดหาเหตุผล จัดลำดับความคิดใน รูปแบบต่างๆ ให้สอดคล้องสัมพันธ์กับสภาพการณ์อันเป็นปัญหานั้น
ขั้นที่ 2 การอธิบาย (Explanation) นักเรียนจัดระบบความคิด ตั้งสมมุติฐานเพื่ออธิบายความคิด รูปแบบต่างๆ ในการแก้ปัญหา ทบทวนความคิด และทำความเข้าใจปัญหานั้นๆให้ชัดเจน
ขั้นที่ 3 การทำนาย (Prediction) เมื่ออธิบายความคิดรูปแบบต่างๆ ในการแก้ปัญหาแล้วให้นักเรียน ทำนายหรือพยากรณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อีกว่าเมื่อเกิดแล้วผลเป็นอย่างไรและแก้ไขอย่างไร
ขั้นที่ 4 การนำไปใช้และสร้างสรรค์ (Control and Creativity) นักเรียนสามารถนาเหตุผลและ ความเข้าใจในการแก้ปัญหาไปใช้ประโยชน์ให้กว้างไกลในชีวิตประจาวันได้รวมทั้งมีความคิดสร้างสรรค์ นำไปใช้ในสภาพการณ์อื่นๆ
ดั้งนั้นนผู้สอนจึงได้ทำการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกส์2 ด้วย กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-Based Learning) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 เพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนดีขึ้น
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ประเด็นท้าทายเรื่องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกส์2 ด้วย กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-Based Learning) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3
ข้าพเจ้าได้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3
2. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้ แผนการจัดการเรียนรู้ , แบบทดสอบแบบ ปรนัย จำนวน 40 ข้อ แบบอัตนัย จำนวน 20 ข้อ รวม 60 ข้อ
3. การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
4. การเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง ใช้เวลา ทั้งหมด 8 ชั่วโมง
1. กลุ่มเป้าหมาย
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 3 จำนวน 32 คน โรงเรียนเทพศิรินทร์ลาดหญ้า กาญจนบุรี ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565
2. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
1. แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง Workshop ด้วยเทคนิคและวิธีสอนด้วยกระบวนการ จัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-Based Learning) จำนวน 4 แผน รวม 8 ชั่วโมง
2. แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้เรื่อง Workshop เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยจำนวน
40 ข้อ แบบอัตนัย จำนวน 20 ข้อ รวม 60 ข้อ
3. การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Workshop จำนวน 4 แผน จำนวน 8 ชั่วโมง มี ขั้นตอนการสร้างดังนี้
1. วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตร สถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้
2. ศึกษาเอกสาร แนวคิด เกี่ยวกับวิธีการ และขั้นตอนการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้
3. นำแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง Workshop ด้วยเทคนิคและวิธีสอนด้วยกระบวนการ จัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-Based Learning) ไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการเรียนรู้ รวม 3 คน เพื่อให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแผนการจัดการเรียนรู้ โดยได้ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 1.0
4. นำแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง Workshop ด้วยเทคนิคและวิธีสอนด้วยกระบวนการ จัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-Based Learning) นำไปสอนเพื่อแก้ปัญหา/พัฒนานักเรียน
4. วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
ข้าพเจ้าได้นำ เทคนิคและวิธีสอนด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-Based Learning) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โดย ผู้วิจัยดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง ใช้เวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมง ซึ่งดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
1. ทำความเข้าใจกับนักเรียนกลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับจุดประสงค์ของการใช้ เทคนิคและวิธี สอนด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-Based Learning) ในการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ และขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละชั่วโมง โดยขอความร่วมมือให้นักเรียนทุกคนเข้าร่วม และปฏิบัติกิจกรรมที่ครูจัดให้อย่างตั้งใจให้ครบถ้วนทุกกิจกรรม และในขณะทำกิจกรรมถ้านักเรียนเกิดข้อ สงสัยหรือไม่เข้าใจให้ซักถามครู
2. ทดสอบนักเรียนก่อนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนรู้ ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย จำนวน 40 ข้อ
3. ข้าพเจ้าดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามที่ได้กำหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง Workshop สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3จำนวน 4 แผน รวม 8 ชั่วโมง โดยดำเนินการจัดการ เรียนรู้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ถึง วันที่ 30 เมษายน 2566
4. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมครบ 8 ชั่วโมงแล้ว ให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนหลังเรียนรู้ ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย จำนวน 40 ข้อ (เป็นแบบทดสอบชุดเดียวกันกับ แบบทดสอบก่อนเรียน)
5. นำผลคะแนนที่ได้ในแต่ละส่วนของการวิจัยไปตรวจสอบ วิเคราะห์ และแปลผลเพื่อ ทดสอบสมมุติฐานที่ได้กำหนดไว้
3.ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนที่เรียน รายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกส์2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 ที่ผ่านการ จัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคและวิธีสอนด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน (Inquiry-Based Learning) ร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นจากเดิม
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนที่เรียน รายวิชา คอมพิวเตอร์กราฟิกส์2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงขึ้นจากเดิม
ลงชื่อ………………………………………………………………….
(นายจรัญ มูลจันทร์) ตำแหน่ง ครู
ผู้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน
1/ตุลาคม/2565
ความเห็นของผู้อำนวยการสถานศึกษา
( ) เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน
( ) ไม่เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมีข้อเสนอแนะเพื่อนำไปแก้ไข และเสนอ เพื่อพิจารณา อีกครั้ง ดังนี้
............................................................................................................................. .........................................
....................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ........................................................................
(นางวิชญาณี บุญทวี) ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์ลาดหญ้า กญจนบุรี
1/ตุลาคม/2565