การชดเชยสิทธิประโยชน์ ข้อกำหนดตัวอย่าง

การชดเชยสิทธิประโยชน์. 10.1 ในช่วงระยะเวลาการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และยังไม่ได้มีการส่งคืนหลักทรัพย์ที'ให้ยืมหรือหลักประกันนัน หากผู้ออก หลกั ทรัพย์ที'ให้ยืมหรือหลกั ประกันมีการให้สิทธิประโยชน์ตา่ งๆ เช่น เงินปันผลหรือดอกเบีย เป็ นต้น แก่ผู้ยืมหรือผ้ใู ห้ยืมที'เป็ นผ้ ถือหลกั ทรัพย์ที'ให้ยืมหรือหลกั ประกันหรือตราสารที'เป็ นหลกั ประกน และเป็ นสิทธิประโยชน์ที'คสู่ ญ ญาอีกฝ่ ายหนึ'งพึงได้รับหาก ยังคงถือหลักทรัพย์ที'ให้ยืมหรือหลักประกันไว้ (แล้วแต่กรณี) ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมที'ถือหลักทรัพย์ที'ให้ยืมหรือหลักประกันอยใู น ขณะนัน8 ตกลงจ่ายชดเชยสิทธิประโยชน์ดงั กล่าวให้แก่ที'คสู ญ ญาอีกฝ่ ายหนึ'งนัน เป็ นเงินจํานวนเท่ากับสิทธิประโยชน์ที'ผู้ออก หลกั ทรัพย์หรือตราสารจ่ายให้แก่ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมที'เป็ นผู้ถือหลกั ทรัพย์หรือตราสารนัน ทงั 8 นี 8 ไม่ว่าผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมที'เป็ นผู้ถือ หลกั ทรัพย์หรือตราสารนัน8 จะได้รับสิทธิประโยชน์นนั 8 หรือไม่ก็ตาม เว้นแตค่ สู่ ญ ญาจะได้ตกลงกน เป็ นอยา่ งอื'นเป็ นหนังสือ โดยผ้ ยืมหรือผู้ให้ยืมที'เป็ นผ้ถู ือหลกั ทรัพย์หรือตราสารนนั 8 นําหลกั ทรัพย์ที'ยืมไปดงั กลา่ วมาสง่ มอบให้แก่คสู่ ญ แตไ่ มเ่ กิน 3 (สาม) วนั ทําการหลงั จากวนั ที'พงึ ได้รับสิทธิประโยชน์นนั 8 ญาอีกฝ่ ายหนึ'งโดยเร็ว
การชดเชยสิทธิประโยชน์. 10.1 ในช่วงระยะเวลำกำรยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และยังไม่ได้มีกำรส่งคืนหลักทรัพย์ที่ให้ยืมหรือหลักประกันนั้น หำกผู้ออกหลักทรัพย์ที่ให้ยืมหรือหลักประกัน มีกำรให้สิทธิประโยชน์ต่ำงๆ เช่น เงินปันผลหรือดอกเบี้ย เป็นต้น แก่ผู้ยืมหรือผใู้ ห้ยืมที่เป็นผู้ถือหลักทรัพย์ที่ให้ยืมหรือหลักประกันหรือตรำสำรที่เป็น หลักประกัน และเป็นสิทธิประโยชน์ที่คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งพึงได้รับหำกยังคงถือหลักทรัพย์ที่ให้ยืมหรือหลักประกันไว้ (แล้วแต่กรณี) ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมที่ถือ หลักทรัพย์ที่ให้ยืมหรือหลักประกันอยู่ในขณะนั้นตกลงจ่ำยชดเชยสิทธิประโยชน์ดังกล่ำวให้แก่ที่คู่สัญญำอกฝ่ำยหนึ่งนั้น เป็นเงินจ˚ำนวนเท่ำกับสิทธิ ประโยชน์ที่ผู้ออกหลักทรัพย์หรือตรำสำรจ่ำยให้แก่ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมที่เป็นผู้ถือหลักทรัพย์หรือตรำสำรนั้น ทั้งนี้ ไม่ว่ำผู้ยืมหรือผใู้ ห้ยืมที่เป็นผู้ถือหลักทรัพย์ หรือตรำสำรนั้นจะได้รับสิทธิประโยชน์นั้นหรือไม่ก็ตำม เว้นแต่คู่สัญญำจะได้ตกลงกันเป็นอย่ำงอื่นเป็นหนังสือ โดยผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมที่เป็นผู้ถือหลักทรัพย์ หรือตรำสำรนั้นน˚ำหลักทรัพย์ที่ยืมไปดังกล่ำวมำส่งมอบให้แก่คู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งโดยเร็ว แต่ไม่เกิน 3 (สำม) วันท˚ำกำรหลังจำกวันที่พึงได้รับสิทธิ ประโยชน์นั้น
การชดเชยสิทธิประโยชน์. ในระหว่างที่มีการให้ยืมหลักทรัพย์ใดๆ และยังไม่ได้มีการคืน หากผู้ออกหลักทรัพย์ที่ให้ยืมมีการจ่ายผลประโยชน์ให้ผู้ถือ หลักทรัพย์ เช่น เงินปันผลที่เกิดจากการถือครองหลักทรัพย์ดังกล่าว ผู้ยืมต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ ดังกล่าวให้แก่ผู้ให้ยืม ทั้งนี้ไม่ว่าผู้ยืมจะได้รับผลประโยชน์นั้นหรือไม่ก็ตาม ในระหว่างที่มีการวางหลักประกันใดๆ และยังไม่ได้มีการคืน หากผู้ออกหลักทรัพย์หรือตราสารดังกล่าวที่ใช้วางเป็น หลักประกันมีการจ่ายผลประโยชน์ให้ผู้ถือหลักทรัพย์หรือตราสาร เช่นเงินปันผลหรือดอกเบี้ยที่เกิดจากการถือครอง หลักประกันหรือตราสารดังกล่าว ผู้ให้ยืมต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ดังกล่าวให้แก่ผู้ยืม ในกรณีที่มีการผิดนัดไม่ชำระเงินดังกล่าว คู่สัญญาฝ่ายที่ผิดนัดจะต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยของเงินจำนวนดังกล่าว ในอัตราที่เท่ากับต้นทุนในการจัดหาเงินทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งภาษี ของคู่สัญญาฝ่ายที่ไม่ผิดนัด นับจากวัน ครบกำหนดชำระเงินจำนวนดังกล่าว

Related to การชดเชยสิทธิประโยชน์

  • การจ่ายเงินแก่ลูกจ้าง ผู้รับจ้างจะต้องจ่ายเงินแก่ลูกจ้างที่ผู้รับจ้างได้จ้างมาในอัตราและตามกําหนดเวลาที่ผู้รับจ้างได้ ตกลงหรือทําสัญญาไว้ต่อลูกจ้างดังกล่าว ถ้าผู้รับจ้างไม่จ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าทดแทนอื่นใดแก่ลูกจ้างดังกล่าวในวรรคหนึ่ง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่ จะเอาเงินค่าจ้างที่จะต้องจ่ายแก่ผู้รับจ้างมาจ่ายให้แก่ลูกจ้างของผู้รับจ้างดังกล่าว และให้ถือว่าผู้ว่าจ้างได้จ่ายเงิน จํานวนนั้นเป็นค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างตามสัญญาแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องจัดให้มีประกันภัยสําหรับลูกจ้างทุกคนที่จ้างมาทํางาน โดยให้ครอบคลุมถึงความ รับผิดทั้งปวงของผู้รับจ้าง รวมทั้งผู้รับจ้างช่วง (ถ้ามี) ในกรณีความเสียหายที่คิดค่าสินไหมทดแทนได้ตาม กฎหมาย ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุหรือภยันตรายใด ๆ ต่อลูกจ้างหรือบุคคลอื่นที่ผู้รับจ้าง หรือผู้รับจ้างช่วงจ้างมา ทํางาน ผู้รับจ้างจะต้องส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวพร้อมทั้งหลักฐานการชําระเบี้ยประกันให้แก่ผู้ว่าจ้างเมื่อ ผู้ว่าจ้างเรียกร้อง

  • การปรับราคาค่างานก่อสร้าง การปรับราคาค่างานก่อสร้างตามสูตรการปรับราคาดังระบุในข้อ ๑.๕ จะนํามาใช้ในกรณีที่ ค่า งานก่อสร้างลดลงหรือเพิ่มขึ้น โดยวิธีการต่อไปนี้ ตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ สูตรและวิธีคํานวณที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๓๒ เรื่อง การพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้าง ตามหนังสือสํานักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๒๐๓/ว ๑๐๙ ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๓๒ สูตรการปรับราคา (สูตรค่า K) จะต้องคงที่ที่ระดับที่กําหนดไว้ในวันแล้วเสร็จตามที่กําหนดไว้ใน สัญญา หรือภายในระยะเวลาที่โรงเรียนได้ขยายออกไป โดยจะใช้สูตรของทางราชการที่ได้ระบุในข้อ ๑.๕

  • สิทธิของผู้ว่าจ้างภายหลังบอกเลิกสัญญา ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญา ผู้ว่าจ้างอาจทํางานนั้นเองหรือว่าจ้างผู้อื่นให้ทํางานนั้นต่อจนแล้ว เสร็จก็ได้ ผู้ว่าจ้างหรือผู้ที่รับจ้างทํางานนั้นต่อมีสิทธิใช้เครื่องใช้ในการก่อสร้าง สิ่งที่สร้างขึ้นชั่วคราวสําหรับงาน ก่อสร้าง และวัสดุต่างๆ ซึ่งเห็นว่าจะต้องสงวนเอาไว้เพื่อการปฏิบัติงานตามสัญญาตามที่จะเห็นสมควร ในกรณีดังกล่าว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิริบหรือบังคับจากหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา ทั้งหมดหรือ บางส่วนตามแต่จะเห็นสมควร นอกจากนั้นผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบในค่าเสียหายซึ่งเป็นจํานวนเกินกว่าหลัก ประกันการปฏิบัติตามสัญญา รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการทํางานนั้นต่อให้แล้วเสร็จตามสัญญา ตลอดจนค่าใช้จ่าย ในการควบคุมงานเพิ่ม (ถ้ามี) ซึ่งผู้ว่าจ้างจะหักเอาจากเงินประกันผลงานหรือจํานวนเงินใด ๆ ที่จะจ่ายให้แก่ผู้รับจ้างก็ได้

  • การเสนอราคา ๔.๑ ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่นข้อเสนอ และเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วย อิเล็กทรอนิกส์ตามที่กําหนดไว้ในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์นี้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และจะต้องกรอก ข้อความให้ถูกต้องครบถ้วน พร้อมทั้งหลักฐานแสดงตัวตนและทําการยืนยันตัวตนของผู้ยื่นข้อเสนอโดยไม่ต้องแนบใบ เสนอราคาในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format)

  • การจ้างช่วง ผู้รับจ้างจะต้องไม่เอางานทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแห่งสญญานี้ไปจ้างช่วงอีกทอดหนึ่ง เว้นแต่การจ้างช่วงงานแต่ บางส่วนที่ได้รับอนญาตเป็นหนงสือจากผู้ว่าจ้างแล้ว การที่ผว่าจ้างได้อนุญาตให้จ้างช่วงงานแต่บางส่วนดังกล่าวนั้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้าง หลุดพ้นจาก ความรับผิดหรือพันธะหนา้ ที่ตามสัญญานี้ และผู้รับจ้างจะยังคงต้องรับผิดในความผิดและความประมาทเลินเล่อของผู้รับจ้าง ช่วง หรือของตัวแทนหรือลูกจ้างของผู้รับจ้างช่วงนั้นทุกประการ กรณีผู้รับจ้างไปจ้างช่วงงานแต่บางส่วนโดยฝ่าฝืนความในวรรคหนึ่ง ผู้รับจ้างต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็น จำนวนเงินในอัตราร้อยละ ๑๐ (สิบ) ของวงเงินของงานที่จ้างชวงตามสัญญา ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิผว่าจ้างในการบอกเลิกสัญญา

  • การทําสัญญาจ้างก่อสร้าง ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์จะต้องทําสัญญาจ้างตามแบบสัญญา ดังระบุในข้อ ๑.๓ หรือทําข้อตกลงเป็นหนังสือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใน ๗ วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้ง และจะต้องวาง หลักประกันสัญญาเป็นจํานวนเงินเท่ากับร้อยละ ๕ ของราคาค่าจ้างที่ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยึดถือไว้ในขณะทําสัญญาโดยใช้หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

  • ข้อตกลงว่าจ้าง ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างทำงาน ซ่อมแซมถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านยานาง หมู่ที่ ๒ ปริมาณ งานกว้าง ๑.๕๐ เมตร ยาว ๒.๐๐ เมตร หนา ๐.๑๕ เมตร หรือมีพื้นที่เทคอนกรีตไม่น้อยกว่า ๓ ตร.ม. และซ่อมแซมถนนคอนกรีตเสริม เหล็ก บ้านโนนแต้ หมู่ที่ ๑๐ ปริมาณงานงานกว้าง ๑.๐๐ เมตร ยาว ๕.๐๐ เมตร หนา ๐.๑๕ เมตร หรือมีพื้นที่เทคอนกรีตไม่น้อยกว่า ๕ ตร.ม. (รายละเอียดตามแบบแปลนที่ อบต. กำหนด) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขแห่งสัญญานี้รวมทั้ง เอกสารแนบท้ายสัญญา ผู้รับจ้างตกลงทจะจัดหาแรงงานและวัสดุ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ ชนิดดีเพื่อใช้ในงานจ้าง ตามสัญญานี้

  • การรับประกันความชํารุดบกพร่อง ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้ทําสัญญาจ้าง ตามแบบ ดังระบุในข้อ ๑.๓ หรือ ข้อตกลงจ้างเป็นหนังสือแล้วแต่กรณี จะต้องรับประกันความชํารุดบกพร่องของงานจ้างที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา ไม่ น้อยกว่า ๒ ปี นับถัดจากวันที่โรงเรียนได้รับมอบงาน โดยต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิม ภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งความชํารุดบกพร่อง

  • หลักฐานการยื่นข้อเสนอ ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอเอกสารหลักฐานยื่นมาพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้าง ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยแยกเป็น ๒ ส่วน คือ

  • การทําสัญญาจ้าง ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์จะต้องทำสัญญาจ้างตามแบบสัญญา ดังระบุ ในข้อ ๑.๓ หรือทำข้อตกลงเป็นหนังสือกับสำนักงาน ภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้ง และจะต้องวาง หลักประกันสัญญาเป็นจำนวนเงินเท่ากับร้อยละ ๕ ของราคาค่าจ้างที่ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้ สำนักงานยึดถือไว้ในขณะทำสัญญา โดยใช้หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้