กำรสิ้นสุดควำมคุ้มครอง ข้อกำหนดตัวอย่าง

กำรสิ้นสุดควำมคุ้มครอง. 9.1 ความคุ้มครองของผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ จะสิ้นสุดเมื่อมี เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นดังต่อไปนี้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน 9.1.1 ณ วันสิ้นสุดตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัย หรือ ณ วันที่ครบ รอบปีกรมธรรม์ประกันภัย ส�าหรับปีที่ผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ 100 ปีบริบูรณ์ 9.1.2 เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตจากสาเหตุที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง 9.1.3 เมื่อผู้เอาประกันภัยไม่ช�าระเบี้ยประกันภัยตามเงื่อนไขทั่วไปข้อ 4 9.1.4 เมื่อผู้เอาประกันภัยหรือบริษัทบอกเลิกสัญญาประกันภัยนี้ หรือ 9.1.5 เมื่อบริษัทไม่ต่ออายุสัญญาประกันภัย ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย โดยบริษัทจะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้เอาประกันภัย 9.1.6 เมื่อบริษัทได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจนครบจ�านวนเงินผลประโยชน์สูงสุด ตาม ที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว (ถ้ามี) 9.1.7 เมื่อผู้เอาประกันภัยถูกจองจ�าอยู่ในเรือนจ�าหรือทัณฑสถาน ส�าหรับการสิ้นสุด ความคุ้มครองตามข้อ 9.1.2 หรือ 9.1.7 บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้แก่ ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์โดยหักเบี้ยประกันภัยส�าหรับระยะเวลาที่ กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้ว ออกตามส่วน 9.2 ความคุ้มครองของผู้อยู่ในอุปการะแต่ละรายจะสนสุดลงเมอมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนงึ เกิดขึ้นดังต่อไปนี้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน 9.2.1 ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อผู้อยู่ในอุปการะสิ้นสภาพการเป็นบุคคล ผู้อยู่ในอุปการะตามค�าจ�ากัดความที่ก�าหนดไว้ 9.2.2 เมื่อผู้อยู่ในอุปการะเสียชีวิตจากสาเหตุที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง 9.2.3 เมื่อผู้เอาประกันภัยถูกจองจ�าอยู่ในเรือนจ�าหรือทัณฑสถาน 9.2.4 เมื่อกรมธรรม์ประกันภัยสิ้นสุดลง ตามเงื่อนไข ข้อ 9.1 ส�าหรับการสิ้นสุดความคุ้มครองตามข้อ 9.2.2 หรือ 9.2.3 บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้ แก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ โดยหักเบี้ยประกันภัยส�าหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน 9.3 ความคุ้มครองในแต่ละข้อตกลงคุ้มครองและ/หรือเอกสารแนบท้ายจะสิ้นสุด เมื่อบริษัท ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจนครบจ�านวนเงินผลประโยชน์สูงสุดตามที่ระบุไว้ในแต่ละ ข้อตกลงคุ้มครองและ/หรือเอกสารแนบท้ายนั้นแล้ว 9.4 กรมธรรม์ประกันภัยนี้ และการประกันภัยทั้งหลายตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้จะสิ้นสุด ในเวลา 16.30 น. ตามเวลาประเทศไทยในวันที่สิ้นสุดของกรมธรรม์ประกันภัย
กำรสิ้นสุดควำมคุ้มครอง. 9.1 ความคุ้มครองของผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ จะสิ้นสุดลงเมื่อมีเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นดังต่อไปนี้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน 9.1.1 ณ วันสิ้นสุดตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ 80 ปี 9.1.2 เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หรือถูกจองจ˚าอยู่ในเรือนจ˚าหรือทัณฑสถาน ซึ่งบริษัทจะคืน เบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์ โดยหักเบี้ยประกันภัยส˚าหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน 9.1.3 เมื่อผู้เอาประกันภัยไม่ช˚าระเบี้ยประกันภัย ตามเงื่อนไขทั่วไปข้อ 4.2 9.1.4 เมื่อบริษัทได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจนครบจ˚านวนเงินผลประโยชน์สูงสุดต่อปี (ถ้ามี) ตามที่ก˚าหนดไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว 9.2 ความคุ้มครองของผู้อยู่ในอุปการะแต่ละราย จะสิ้นสุดลงเมื่อมีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ดังต่อไปนี้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน 9.2.1 ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อผู้อยู่ในอุปการะสิ้นสภาพการเป็นบุคคลผู้อยู่ใน อุปการะตามค˚านิยามที่ก˚าหนดไว้ 9.2.2 เมื่อผู้อยู่ในอุปการะเสียชีวิต หรือถูกจองจ˚าอยู่ในเรือนจ˚าหรือทัณฑสถาน ซึ่งบริษัทจะคืน เบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์ โดยหักเบี้ยประกันภัยส˚าหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน 9.2.3 เมื่อกรมธรรม์ประกันภัยสิ้นสุดลงตามเงื่อนไข ข้อ 9.1 9.3 กรมธรรม์ประกันภัยนี้ และการประกันภัยทั้งหลายตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้จะสิ้นสุดในเวลา 16.30 น. ตามเวลาประเทศไทยในวันที่สิ้นสุดของกรมธรรม์ประกันภัย
กำรสิ้นสุดควำมคุ้มครอง. 7.1 ควำมคุ้มครองของผู้เอำประกันภัยตำมกรมธรรม์ประกันภัยฉบับน้ี จะสิ้ นสุดเมื่อมีเหตุกำรณ์ใด เหตุกำรณ์หน่ึงเกิดข้ึนดงั ต่อไปน้ี แลวแตเหตกุ่ ำรณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน 7.1.1 ณ วน ที่ผูเ้ อำประกน ภยเกษียณอำยุ หรือลำออก บริษท จะคืนเบ้ียประกน ภยให้แก่ผูถ ือกรมธรรม ประกันภัยและ/หรือผู้เอำประกันภัย โดยหักเบ้ียประกันภัยส˚ำหรับระยะเวลำท่ีกรมธรรม์ประกันภัยฉบับน้ ไดใ้ ชบ งั คบ มำแลว ออกตำมส่วน 7.1.2 เมื่อผูเ้ อำประกน ภยเสียชีวิตจำกสำเหตุที่ไม่ไดร ับควำมคุม ครอง ซ่ึงบริษท จะคืนเบ้ียประกนภย ใหแ ก่ผถู ือกรมธรรมป ระกน ภยั และ/หรือผรู้ ับประโยชน์ โดยหก เบ้ียประกน ภยสำ˚ หรับระยะเวลำท่ีกรมธรรมป ระกนภย ฉบบ น้ีไดใ้ ชบ งั คบ มำแลว ออกตำมส่วน 7.1.3 เมื่อผูถ ือกรมธรรม์ประกน ภยและ/หรือผูเ้ อำประกน ภยไม่ชำ˚ ระเบ้ียประกน ภยตำมเง่ือนไขทวไป และขอกำ˚ หนด ขอ 5 7.1.4 ณ วนท่ีส้ิ นสุ ดกำรว่ำจ้ำงท˚ำงำนของผู้เอำประกันภัย หรื อส้ิ นสุดสภำพกำรจ้ำง ซ่ึงบริ ษัท จะคืนเบ้ียประกน ภยให ก่ผูถ ือกรมธรรมป ระกน ภยและ/หรือผูเ้ อำประกนภย โดยหก เบ้ียประกน ภยส˚ำหรับระยะเวลำ ที่กรมธรรมป ระกน ภยั ฉบบ น้ีไดใ้ ชบ งั คบ มำแลว ออกตำมส่วน 7.1.5 ณ วน ที่ผูเ้ อำประกน ภยถูกจองจำ˚ อยู่ในเรือนจำ˚ หรือทณ ฑสถำน ซ่ึงบริษท จะคืนเบ้ียประกนภย ใหแ ก่ผถู ือกรมธรรมป ระกน ภยั และ/หรือผเู้ อำประกนภย โดยหก เบ้ียประกน ภยั สำ˚ หรับระยะเวลำท่ีกรมธรรมป ระกนภย ฉบบ น้ีไดใ้ ชบ งั คบ มำแลว ออกตำมส่วน 7.2 ควำมคุ้มครองของผูอ้ ยู่ในอุปกำระแต่ละคนจะสิ้นสุดลงเมื่อมีเหตุกำรณ์ใดเหตุกำรณ์หน่ึงเกิดข้ึน ดงั ต่อไปน้ี แลวแตเหตกุ่ ำรณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน 7.2.1 ณ วน ครบรอบปี กรมธรรม์ประกันภัย เมื่อผูอ ยู่ในอุปกำระสิ้นสภำพกำรเป็ นบุคคลผูอ ยู่ใน อุปกำระตำมคำ˚ จำ˚ กดควำมท่ีกำ˚ หนดไว 7.2.2 เมื่อผูอ ยูใ นอุปกำระเสียชีวิตจำกสำเหตุที่ไม่ไดร ับควำมคุม ครอง ซ่ึงบริษท จะคืนเบ้ียประกนภย ให้แก่ผูถ ือกรมธรรม์ประก ภยและ/หรือผูเ้ อำประกันภย และ/หรือผูร ับประโยชน์โดยหักเบ้ียประกนั ภัยส˚ำหรับ ระยะเวลำที่กรมธรรมป ระกน ภยั ฉบบ น้ีไดใ้ ชบ งั คบ มำแลว ออกตำมส่วน 7.2.3 ณ วน ที่ผูอ ยู่ในอุปกำระถูกจองจำ˚ อยู่ในเรือนจำ˚ หรือทณ ฑสถำน ซ่ึงบริษท จะคืนเบ้ียประกนภย ให้แก่ผูถ ือกรมธรรม์ประก ภยและ/หรือผูเ้ อำประกันภย และ/หรือผูอ ยู่ในอุปกำระ โดยหักเบ้ียประกน ภยส˚ำหรับ ระยะเวลำที่กรมธรรมป ระกน ภยั ฉบบ น้ีไดใ้ ชบ งั คบ มำแลว ออกตำมส่วน

Related to กำรสิ้นสุดควำมคุ้มครอง

  • ความคุ้มครอง แผนไทย กำรแพทยพ์ กำรแพทยแผนปัจจุบน ้ืนบำ้ นไทย กำรแพทยแ ผนจีน หรือวิธีกำรอื่นๆ ที่มิใช่ ถำกำรบำดเจ็บที่ไดร ับทำให้ผเ้ อำประกนภยตอ งรับกำรรักษำพยำบำลโดยแพทยหรือตอ งไดร้ ับกำรพยำบำล โดยพยำบำล ซ่ึงเกิดข้ึนภำยใน 52 สัปดำห์นับแต่วน ที่เกิดอุบ ิเหตุบริษท จะจ่ำยค่ำทดแทนส˚ำหรับค่ำใช้จ่ำยที่ จำ˚ เป็ นและสมควรซ่ึงเกิดข้ึนจำกกำรรักษำพยำบำลตำมควำมจำ˚ เป็ นทำงกำรแพทยและ มำตรฐำนทำงกำรแพทย สำหรับค่ำห้องสำ˚ หรับผูป้ ่ วยใน ค่ำหองสังเกตอำกำร ค่ำรักษำพยำบำล และค่ำกำรพยำบำลใหตำมจำนวนเงินที่จำ่ ย จริงท้งั น้ีไม่เกินจำ˚ นวนเงินเอำประกน (ถำมี) ภยที่ระบุไวในหนำ้ ตำรำงกรมธรรมป ระกน ภยหักดวยควำมรับผิดส่วนแรก แต่หำกผูเอำประกนภย ไดร ับกำรชดใชจำกสวส ดิกำรของรัฐ หรือสวส ดิกำรอื่นใดหรือจำกกำรประกนภย อื่นมำแลว บรษิ ทจะรบผิดชอบเพียั งจำนวนเงินค่ำรกั ษำพยำบำล และค่ำกำรพยำบำลส่วนที่ขำดเท่ำนน้ ผูเอำประกน ภยจะตอ งส่งหลก ฐานดงั ต่อไปน้ีให้แก่บริษท ภายใน 30 วน นับจากวน ที่ออกจากโรงพยาบาล สถานพยาบาลเวชกรรม หรือวนที่รับการรักษาจากคลินิก โดยค่าใชจ่ายของผเ้ อำประกนภย

  • ความรับผิดชอบในความชํารุดบกพร่องของงานจ้าง เมื่องานแล้วเสร็จบริบูรณ์ และผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้างหรือจากผู้รับจ้างรายใหม่ ใน กรณีที่มีการบอกเลิกสัญญาตามข้อ 7 หากมีเหตุชํารุดบกพร่องหรือเสียหายเกิดขึ้นจากการจ้างนี้ ภายในกําหนด 2 (สอง) ปี - เดือน นับถัดจากวันที่ได้รับมอบงานดังกล่าว ซึ่งความชํารุดบกพร่องหรือเสียหายนั้นเกิดจากความ บกพร่องของผู้รับจ้างอันเกิดจากการใช้วัสดุที่ไม่ถูกต้องหรือทําไว้ไม่เรียบร้อย หรือทําไม่ถูกต้องตามมาตรฐานแห่ง หลักวิชา ผู้รับจ้างจะต้องรีบทําการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยโดยไม่ชักช้า โดยผู้ว่าจ้างไม่ต้องออกเงินใดๆ ในการนี้ทั้งสิ้น หากผู้รับจ้างไม่กระทําการดังกล่าวภายในกําหนด 7 (เจ็ด) วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้าง หรือไม่ทําการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อยภายในเวลาที่ผู้ว่าจ้างกําหนด ให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะทําการนั้นเอง หรือจ้าง ผู้อื่นให้ทํางานนั้น โดยผู้รับจ้างต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น ในกรณีเร่งด่วนจําเป็นต้องรีบแก้ไขเหตุชํารุดบกพร่องหรือเสียหายโดยเร็ว และไม่อาจรอให้ผู้รับ จ้างแก้ไขในระยะเวลาที่กําหนดไว้ตามวรรคหนึ่งได้ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิเข้ าจัดการแก้ไขเหตุชํารุดบกพร่องหรือเสียหาย นั้นเอง หรือจ้างผู้อื่นให้ซ่อมแซมความชํารุดบกพร่องหรือเสียหาย โดยผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบชําระค่าใช้จ่ายทั้งหมด การที่ผู้ว่าจ้างทําการนั้นเอง หรือจ้างผู้อื่นให้ทํางานนั้นแทนผู้รับจ้าง ไม่ทําให้ผู้รับจ้างหลุดพ้นจาก ความรับผิดตามสัญญา หากผู้รับจ้างไม่ชดใช้ค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายตามที่ผู้ว่าจ้างเรียกร้องผู้ว่าจ้างมีสิทธิบังคับจาก หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาได้

  • การจ่ายเงินแก่ลูกจ้าง ผู้รับจ้างจะต้องจ่ายเงินแก่ลูกจ้างที่ผู้รับจ้างได้จ้างมาในอัตราและตามกําหนดเวลาที่ผู้รับจ้างได้ ตกลงหรือทําสัญญาไว้ต่อลูกจ้างดังกล่าว ถ้าผู้รับจ้างไม่จ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าทดแทนอื่นใดแก่ลูกจ้างดังกล่าวในวรรคหนึ่ง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่ จะเอาเงินค่าจ้างที่จะต้องจ่ายแก่ผู้รับจ้างมาจ่ายให้แก่ลูกจ้างของผู้รับจ้างดังกล่าว และให้ถือว่าผู้ว่าจ้างได้จ่ายเงิน จํานวนนั้นเป็นค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างตามสัญญาแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องจัดให้มีประกันภัยสําหรับลูกจ้างทุกคนที่จ้างมาทํางาน โดยให้ครอบคลุมถึงความ รับผิดทั้งปวงของผู้รับจ้าง รวมทั้งผู้รับจ้างช่วง (ถ้ามี) ในกรณีความเสียหายที่คิดค่าสินไหมทดแทนได้ตาม กฎหมาย ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุหรือภยันตรายใด ๆ ต่อลูกจ้างหรือบุคคลอื่นที่ผู้รับจ้าง หรือผู้รับจ้างช่วงจ้างมา ทํางาน ผู้รับจ้างจะต้องส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวพร้อมทั้งหลักฐานการชําระเบี้ยประกันให้แก่ผู้ว่าจ้างเมื่อ ผู้ว่าจ้างเรียกร้อง

  • ลําดบั งานจดั ซือÊ จดั จ้าง วงเงนิ งบประมาณ (ราคา กลาง) วธิ ีซือÊ /จ้าง ผู้เสนอราคาและราคา ท'ีเสนอ ผู้ได้รับคัดเลือกและราคา เหตุผลท'ี คัดเลือก โดยสรุป เลขท'ีและวนั ท'ีของสัญญา หรือข้อตกลงในการจดั ซอืÊ จดั จ้าง

  • การชําระเงิน (13 ก) ผู้ซ้ือตกลงชําระเงินค่าสิ่งของตามข้อ ๑ ให้แก่ผู้ขาย เมื่อผู้ซื้อได้รับมอบสิ่งของ ตามข้อ ๕ ไว้โดยครบถ้วนแล้ว (13 ข) ผู้ซื้อตกลงชําระเงินค่าส่ิงของตามข้อ ๑ ใหแก่ผู้ขาย ดังน้ี ๖.๑ เงินล่วงหน้า จํานวน……....................บาท (… ) จะจ่ายให้ภายใน…….…............(…….........……….) วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ทั้งน้ี โดยผู้ขายจะต้องนํา หลักประกันเงินล่วงหน้าเป็น (หนังสือคํ้าประกันหรือหนังสือค้ําประกันอิเล็กทรอนิกส์ของ ธนาคารภายในประเทศหรือพ ธบัตรรัฐบาลไทย)… เต็มตามจํานวนเงินล่วงหน้าท่ีจะได้รับ มามอบ ให้แก่ผู้ซื้อเป็นหลักประกันการชําระคืนเงินล่วงหน้าก่อนการรับชําระเงินล่วงหน้าน้ัน และผู้ซื้อจะคืน หลกประกันเงินล่วงหน้าให้แก่ผ ายเม่ ผู้ซื้อจ่ายเง ที่เหลือตามข

  • หลักฐานการยื่นข้อเสนอ ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอเอกสารหลักฐานยื่นมาพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้าง ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยแยกเป็น ๒ ส่วน คือ ๓.๑ ส่วนที่ ๑ อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้ (๑) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคล (ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด ให้ยื่นสําเนาหนังสือรับรองการจด ทะเบียนนิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสําเนาถูกต้อง (ข) บริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด ให้ยื่นสําเนาหนังสือรับรองการจด ทะเบียนนิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) และบัญชีผู้ถือหุ้นราย ใหญ่ (ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสําเนาถูกต้อง (๒) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่น สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้นั้น สําเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สําเนาบัตรประจําตัว ประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือสําเนาหนังสือเดินทางของผู้เป็นหุ้นส่วนที่มิได้ถือสัญชาติไทย พร้อมทั้งรับรองสําเนา ถูกต้อง (๓) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้ยื่นข้อเสนอร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสําเนา สัญญาของการเข้าร่วมค้า และเอกสารตามที่ระบุไว้ใน (๑) หรือ (๒) ของผู้ร่วมค้า แล้วแต่กรณี (๔.๒) สําเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี) (๕) บัญชีเอกสารส่วนที่ ๑ ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัด จ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ตามแบบในข้อ ๑.๗ (๑) โดยไม่ต้องแนบในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format) ทั้งนี้ เมื่อผู้ยื่นข้อเสนอดําเนินการแนบไฟล์เอกสารตามบัญชีเอกสารส่วนที่ ๑ ครบถ้วน ถูกต้องแล้ว ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์จะสร้างบัญชีเอกสารส่วนที่ ๑ ตามแบบใน ข้อ ๑.๗ (๑) ให้โดยผู้ยื่นข้อเสนอไม่ต้องแนบบัญชีเอกสารส่วนที่ ๑ ดังกล่าวในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format)

  • การรับประกันความชํารุดบกพร่อง ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้ทำสัญญาจ้าง ตามแบบ ดังระบุในข้อ ๑.๓ หรือข้อตกลงจ้างเป็นหนังสือแล้วแต่กรณี จะต้องรับประกันความชำรุดบกพร่องของงานจ้างที่เกิดขึ้นภายใน ระยะเวลา ไม่น้อยกว่า ๒ ปี นับถัดจากวันที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับมอบงาน โดยต้องรีบจัดการ ซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิมภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง

  • ความรับผิดของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดต่ออุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือภยันตรายใด ๆ อันเกิดจากการปฏิบัติงาน ของผู้รับจ้าง และจะต้องรับผิดต่อความเสียหายจากการกระทําของลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้รับจ้าง และจากการ ปฏิบัติงานของผู้รับจ้างช่วงด้วย (ถ้ามี) ความเสียหายใดๆ อันเกิดแก่งานที่ผู้รับจ้างได้ทําขึ้น แม้จะเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัยก็ตาม ผู้รับ จ้างจะต้องรับผิดชอบโดยซ่อมแซมให้คืนดีหรือเปลี่ยนให้ใหม่โดยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเอง เว้นแต่ความเสียหายนั้น เกิดจากความผิดของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ ความรับผิดของผู้รับจ้างดังกล่าวในข้อนี้จะสิ้นสุดลง เมื่อผู้ว่าจ้างได้รับมอบงาน ครั้งสุดท้าย ซึ่งหลังจากนั้นผู้รับจ้างคงต้องรับผิดเพียงในกรณีชํารุดบกพร่อง หรือความเสียหายดังกล่าวในข้อ 8 เท่านั้น ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการปฏิบัติงานของผู้ รับจ้าง หรือลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้รับจ้าง รวมถึงผู้รับจ้างช่วง (ถ้ามี) ตามสัญญานี้ หากผู้ว่าจ้างถูกเรียกร้องหรือ ฟ้องร้องหรือต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องดําเนินการใด ๆ เพื่อให้มีการว่าต่างแก้ต่าง ให้แก่ผู้ว่าจ้างโดยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเอง รวมทั้งผู้รับจ้างจะต้องชดใช้ค่าเสียหายนั้น ๆ ตลอดจนค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากการถูกเรียกร้องหรือถูกฟ้องร้องให้แก่ผู้ว่าจ้างทันที

  • การหักเงินประกันผลงาน ในการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้างแต่ละงวด ผู้ว่าจ้างจะหักเงินจำนวนร้อยละ - ของเงินที่ต้องจ่ายในงวดนนั้ เพื่อเป็นประกันผลงาน ในกรณีที่เงินประกันผลงานถูกหักไว้แลวเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า - บาท ผู้รับจ้างมีสิทธที่จะขอเงินประกันผลงาน คืน โดยนำหนังสือค้ำประกันของธนาคารหรือหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งออกโดยธนาคารภายในประเทศมามอบให้ผู้ว่าจ้างเพื่อ เป็นหลักประกันแทนก็ได้ ผู้ว่าจ้างจะคืนเงินประกันผลงาน และ/หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารดังกล่าวตามวรรคหนึ่งโดยไม่มี ดอกเบี้ยให้แก่ผู้รับจ้างพร้อมกับการจ่ายเงินค่าจ้างงวดสุดท้าย

  • การตรวจงานจ้าง ถ้าผู้ว่าจ้างแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน หรือบริษัท ที่ปรึกษา เพื่อควบคุมการทำงานของผู้ รับจ้าง คณะกรรมการตรวจ รับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน หรือบริษัทที่ปรึกษานนั้ มีอำนาจเข้าไปตรวจการงานในโรงงานและสถานที่ก่อสร้างได้ ทุกเวลา และผู้รับจ้างจะต้องอำนวยความสะดวกและให้ความชวยเหลือในการนั้นตามสมควร การที่มีคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน หรือบริษัทที่ปรึกษานั้น หาทำให้ผู้รับจ้างพน้ ความรับผิดชอบ ตามสัญญานี้ข้อใดข้อหนึ่งไม่