หลักการและเหตุผล. ในปีนี้ ชุมชนที่บริษัทดำาเนินงานอยู่ถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความสำาคัญเป็นพิเศษ จากการที่เราได้ขยายโครงสร้าง 3G ดงั นนชุมชนทอยรายล้อมเรา จึงเข้ามามีบทบาทสาำ คัญต่อการดาำ เนินงานของเรา และเอไอเอสมีความมงมนทจะสร้างหลักประกัน ว่าเราไม่เพียงแต่ดำาเนินธุรกิจโดยคำานึงถึงความคิดเห็น ความต้องการ และความกังวลของคนในชุมชนเท่านั้น แต่ยังสร้าง ความร่วมมือและนวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกับคนในชุมชนซึ่งเป็นจุดที่เราสามารถสร้างคุณค่าร่วมกันได้อีกด้วย นอกจากนี้ เรายงั เชื่อมน ว่า เราควรจะขยายผลเชิงบวกที่เราสร้างขึน ในฐานะผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมให้สามารถครอบคลุม สังคมโดยรวม และตอบโจทย์ประเด็นปัญหาที่มีความสำาคัญต่อประเทศไทยอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ เราจึงเลือกปัญหาที่มีความ สำาคัญคือการศึกษา โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในด้านเครือข่ายและเทคโนโลยีของเราเพื่อสนับสนุนครู อาจารย์ เยาวชน และบุคคลต้นแบบอื่นๆ เพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้และภูมิปัญญาร่วมกับสังคมในวงกว้าง นอกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เรายังมุ่งมนสร้างการยอมรับในการดำาเนินงานของเราจากชุมชนข้างเคียง โดยอาศัย ความเข้าใจในเชิงกลยุทธ์และการตอบสนองต่อข้อวิตกกังวลของพวกเขาเหล่านั้น มากยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนาตัวชี้วัดความ ต้องการของชุมชนจะเป็นขั้นตอนแรกที่จะทำาให้เราก้าวไปสู่เป้าหมายของการเป็นผู้นำาในธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ในอนาคต เราจะก้าวไปข้างหน้าโดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเราในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการ ของสังคมในวงกว้าง โดยอาศัยชุดโครงการสำาคัญซึ่งเรากำาลังพัฒนาอยู่ แม้ว่าในขณะนี้เรากำาลังดำาเนินโครงการ “สานรัก” และแผนงานพัฒนาสังคมอื่นๆ อยู่ก็ตาม เราก็พร้อมที่จะทำาประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมจากโครงสร้างพื้นฐาน 3G โดยใช้ เครือข่าย นวัตกรรม และตราสินค้าของเรา ช่วยปรับปรุงคุณภาพและความสามารถในการเข้าถึงการศึกษาของประเทศไทย และท้ายที่สุดคือชีวิตของคนไทย ประเด็นสำาคัญ ประสานสังคมของเราให้เป็นหนึ่งเดียว คำามั่นสัญญา • ทำาความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนและคำานึงถึงความต้องการของชุมชนข้างเคียง พร้อมตอบสนองอย่างมี กลยุทธ์ เป็นระบบ และบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้สังคมยอมรับในการดำาเนินงานของบริษัท • จากจุดแข็งในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายสู่การตอบสนองความต้องการของสังคมโดยรวม และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำาของอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เป้าหมาย เข้าใจความต้องการของชุมชนข้างเคียง จากจุดแข็งในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายสู่การ ตอบสนองความต้องการของสังคมโดยรวม
หลักการและเหตุผล. สัญญาที่หน่วยงานภาครัฐตกลงทํากับภาคเอกชนหรือภาคธุรกิจอาจปรากฏออกมาในหลายรูปแบบเช่น สัญญาจัดซื้อพัสดุ สัญญาจ้างทําของหรือสัญญาก่อสร้าง สัญญาจ้างที่ปรึกษา เป็นต้น สัญญาดังกล่าวมี พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ได้วางหลักเกณฑ์กําหนดสิทธิหน้าที่ในการ บริหารสัญญาไว้โดยเฉพาะแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อภาครัฐกับภาคเอกชนมีข้อพิพาทในสัญญา สิ่งที่จําเป็นจะต้อง พิจารณาเพื่อประกอบการตีความเนื้อหาในสัญญาด้วยเสมอ คือสัญญานั้นเป็นสัญญาทางแพ่ง ซึ่งภาครัฐตกลงทํากับ ภาคเอกชนในฐานะเป็นคู่สัญญาที่เท่าเทียมกัน หรือเป็นสัญญาทางปกครองที่ภาครัฐได้อาศัยอํานาจรัฐที่เหนือกว่าเข้า มากําหนดเนื้อหาความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน อันจะนําไปสู่นิติวิธีในการตีความสัญญาที่แตกต่างกันออกไปด้วย ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐจึงจําเป็นต้องทําความเข้าใจในนิติสัมพั นธ์ในทางแพ่งและทางปกครอง รวมถึง หลักเกณฑ์ วิธีการการบริหารสัญญาตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ทั้งนี้ เพื่อจัดการให้เกิดความสมดุลระหว่างประโยชน์สาธารณะกับประโยชน์ของเอกชน สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นถึงความสําคัญดังกล่าว จึงกําหนดจัด โครงการฝึกอบรมหลักสูตร กลยุทธ์การบริหารสัญญาภาครัฐอย่างมืออาชีพ (ออนไลน์) ปี 2565 ขึ้น
หลักการและเหตุผล. ตามที่กระทรวงการคลังได้แต่งตั้งคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ตามคำสั่งที่ ๔๒๘/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๐ ให้มีอำนาจหน้าที่สนับสนุนเศรษฐกิจของส่วนภูมิภาคให้เป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการประสานแผนงานและโครงการของกระทรวงการคลังตามนโยบาลรัฐบาล โดย มุ่งเน้นการดำเนินงาบอย่างบูรพาการการทำงาบของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังร่วมกันให้เป็นไปใน ท ิศทางเดียวกัน และจากมติในการประชุมของทีมเฉพาะกิจวายุภักษ์เพือการแปลงยุทธศาสตร์ กระทรวงการคลังสู,ภูมิภาค เมื่อวับที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เห็นชอบมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำ จังหวัด (คบจ.) ดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้กับ คบจ. ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา จำนวน ๔๓ รางวัล แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ๑) รางวัลระดับดีเลิศ ๒) รางวัลระดับดีเด่น ๓) รางวัลระดับดี ๔) รางวัล ระดับซมเชย ซึ่งคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดจันทบุรีได้รับรางวัลในระดับดีเลิศ โดยได้รับโล่รางวัล ใบ ประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล จำนวน ๑๒๐,๐๐๐ บาท (หนี่งแสนสองหมื่นบาทถ้วน) นั้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับหน่วยงานใน คบจ. ที'ได้ร่วมกันบูรณาการจนมีผลการ ดำเนินงานตามนโยบายในระดับดีเลิศ สมควรได้รับการยกย่องและเป็นที่ยอมรับ คณะผู้บริหารการคลังประจำ จังหวัดจันทบุรี จึงเห็นควรจัดโครงการ ‘'ศึกษาดูงานคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ขับเคลื่อนสู่ ความเป็นเลิศ” ของ คบจ.จันทบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ขึ้น โดยมุ่งหวังเพิมประสิทธิภาพในการ ขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงการคลังตามนโยบาลรัฐบาล และมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ การเรียนรู้ในพื้นที่ที่แตกต่างกันทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิงแวดล้อม เพื่อนำแนวทางประสบการณ์ที่ได้รับมา ประยุกต์ และพัฒนาเป็นแนวทางสู่ความเป็นเลิศของคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดจันทบุรีต่อไป
หลักการและเหตุผล. จากผลการจัดทําโครงการกิจกรรมสงเสริมความจําและชะลอภาวะสมองเสื่อม ในผูสูงอายุ ปงบประมาณ 2562 มีผูสูงอายุเขารวมโครงการเปนจํานวนมาก ซึ่งในการจัดกิจกรรมในครั้งนั้นไดมี การประเมิน Montreal Cognitive Assessment (MOCA) เพื่อประเมินความเสี่ยงตอการเกิดภาวะสมองเส่ือม พบวา รอยละ 70 ของผูเขารวมโครงการมีภาวะเสี่ยงตอการเกิดโรคสมองเสื่อม นอกจากนี้ยังมีการทดสอบการทรงตัว และ พบวาผูสูงอายุสวนใหญมีระดับการทรงตัวที่ต่ํา ซึ่งเปนผลทําใหผูสูงอายุเสี่ยงตอการหกลมไดงายกวาปกติ จากผลการ ประเมินความเสี่ยงตอการเกิดภาวะสมองเสื่อมและการทดสอบการทรงตัว ทําใหเห็นวาผูสูงอายุที่มีภาวะเสี่ยงตอการ เกิดภาวะสมองเสื่อมหรือกลุมผูสูงอายุที่เปน mind cognitive นั้นจะมีระดับการทรงตัวที่ต่ําไปดวย ดังนั้นเพื่อปองกันผูสูงอายุไมใหเปนโรคสมองเสื่อมและปองกันการลมในผูสูงอายุ ที่มีภาวะเสี่ยงตอการเกิดโรคสมองเสื่อมหรือกลุมผูสูงอายุที่เปน mind cognitive จึงไดจัดทําโครงการขยับขจัดสมอง เสื่อม เพื่อกระตุนสมองและชะลอการเกิดโรคสมองเสื่อมดวยการออกกําลังกายและฝกสมองดวยการทํากิจกรรมตาง ๆ ที่เนนการกระตุนสมองเปนหลัก วัตถุประสงค
หลักการและเหตุผล. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 250 บัญญัติไว้ว่า…องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่และอํานาจดูแลและจัดทําบริการสาธารณะ และกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชน ในท้องถิ่นตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น การจัดทําบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะใดที่สมควรให้เป็นหน้าที่และอํานาจโดยเ ฉพาะ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละรูปแบบ หรือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลัก ในการดําเนินการใด ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติซึ่งต้องสอดคล้องกับรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามวรรคสี่ และกฎหมายดังกล่าวอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับกลไกและขั้นตอนในการกระจายหน้าที่ และอํานาจ ตลอดจนงบประมาณและบุคลากรที่เกี่ยวกับหน้าที่และอํานาจดังกล่าวของส่วนราชการให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย ในการจัดทําบริการสาธารณะหรือกิจกรรมสาธารณะใดที่เป็นหน้าที่และอํานาจขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ถ้าการร่วมดําเนินการกับเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐหรือการมอบหมายให้เอกชน หรือหน่วยงาน ของรัฐดําเนินการ จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในท้องถิ่นมากกว่าการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะดําเนินการเอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะร่วมหรือมอบหมายให้เอกชนหรือหน่วยงานของรัฐดําเนินการนั้นก็ได้ รัฐต้องดําเนินการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้ของตนเองโดยจัดระบบภาษีหรือการจัดสรรภาษี ที่เหมาะสม รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาการหารายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถดําเนินการ ตามวรรคหนึ่งได้อย่างเพียงพอ ในระหว่างที่ยังไม่อาจดําเนินการได้ ให้รัฐจัดสรรงบประมาณ เพื่อสนับสนุน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปพลางก่อน
หลักการและเหตุผล. ในปัจจุบันไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชนให้ความสำคัญกับ “คน” หรือ “กำลังคน” เพราะถือว่าคน เป็นทรัพยากรอันมีค่าที่สุด เป็นทุนมนุษย์ (Human Capital) ที่ส่งผลให้หน่วยงานประสบความสำเร็จตาม เป้าหมาย กำลังคนเป็นทรัพยากรที่มีชีวิตจิตใจ และไม่สามารถนำมาทดแทนกันได้ในลักษณะที่มีความสามารถ เท่ากันแบบคนต่อคน เนื่องจากศักยภาพของคนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้น หัวใจสำคัญในการดำเนินงาน ของหน่วยงานจึงขึ้นอยู่กับ “คุณภาพของคนและจำนวนกำลังคนที่เหมาะสม” การเตรียมความพร้อมโดยการ วางแผนกำลังคน การมีแผนในการพัฒนาบุคลากรขององค์กร ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของสำนักงาน จึงเป็น ภารกิจที่สำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา จากพระราชบัญญัติ ราชบัณฑิตยสภา พ.ศ. ๒๕๕๘ ระบุให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภามีอำนาจหน้าที่เพิ่มขึ้นจากพระราชบัญญัติฉบับ เดิมหลายประการ เช่น จัดการศึกษาอบรมและพัฒนาทางวิชาการตามข้อบังคับราชบัณฑิตยสภา ส่งเสริมแ ละ สนับสนุนให้มีการแปลสรรพวิชาจากภาษาอื่นเป็นภาษาไทยหรือจากภาษาไทยเป็นภาษาอื่น และจัดสวัสดิการ การสงเคราะห์และสิทธิประโยชน์แก่สมาชิกราชบัณฑิต ประกอบกับสำนักงานราชบัณฑิตยสภาได้จัดทำแผน ยุทธศาสตร์ตามนโยบายภาษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2561 – 2564) เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการ ดำเนินงานตามนโยบายภาษาแห่งชาติที่ตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของภาษา ซึ่งถือเป็นกลไกหลัก ประการหนึ่งของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อันนำไปสู่การเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศภายใต้ทิศทางการ พัฒนาที่เปลี่ยนผ่านจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งสนับสนุนการดำเนินการของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) และกรอบการพัฒนาในช่วง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) นโยบายและแผนระดับชาติที่ว่าด้วย ความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2562 – 2565) ที่ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมและวางรากฐานในการ ยกระดับประเทศไทยให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และการสร้างสภาวะแวดล้อมที่สันติสุขในชาติ ทั้งนี้ นโยบาย ภาษาแห่งชาติมีความครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในนโยบายหลัก 6 นโยบาย ได้แก่
หลักการและเหตุผล. ปัจจุบันผู้ใช้ไฟฟ้าบางส่วนที่ชําระเงินค่าไฟฟ้าล่าช้าไม่ตรงตามกําหนดและไม่ได้รับหนังสือแจ้งเตือนเป็น ลายลักษณ์อักษรก่อนการงดจ่ายไฟ จึงเป็นสาเหตุทําให้ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากการถูกงดจ่ายไฟฟ้าและ ได้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนของผู้ใช้ไฟฟ้า แต่ละราย โดยคํานึงถึงระยะเวลาและสร้างความพึงพอใจในการให้บริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงได้กําหนด มาตรการการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ไฟฟ้าชําระเงินค่าไฟฟ้าก่อนจะดําเนินการงดจ่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก ๕ วัน (นับแต่วันที่ครบ กําหนดชําระเงินค่าไฟฟ้า) นอกจากนั้นผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มีหนังสือสั่งการให้ทุกการไฟฟ้าส่งหนังสือแจ้ง เตือนทุกราย เมื่อผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ชําระค่าไฟฟ้าตามกําหนดเวลา ณ สถานที่ที่ใช้ไฟฟ้า หรือสถานที่อื่นตามที่การไฟฟ้า คู่สัญญา ได้ตกลงกับผู้ใช้ไฟฟ้าไว้ โดยผู้ใช้ไฟฟ้าต้องชําระเงินค่าไฟฟ้าภายในกําหนดเวลาที่ปรากฏตามหนังสือแจ้ง เตือน ซึ่งการส่งหนังสือแจ้งเตือนทางไปรษณีย์ พบปัญหาส่งไม่ถึงหรือส่งล่าช้า ทําให้ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ได้รับใบแจ้งเตือน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงพัฒนาระบบงานแจ้งเตือนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ค้างชําระค่าไฟฟ้าเกินกําหนด โดยดําเนินการผ่านเว็บ แอพพลิเคชั่น และ Smart Phone เพื่อแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ได้รับการแจ้งเตือน หรือได้รับการแจ้งเตือนล่าช้า อีกทั้งยังเป็นการลดการใช้กระดาษ ในการสนับสนุนการดําเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอําเภอทุ่งใหญ่มีความประสงค์จ้างเหมาบุคคลภายนอกปฏิบัติเกี่ยวกับ มิเตอร์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (ยกเว้นมิเตอร์ที่ติดตั้งกับหม้อแปลงเฉพาะราย) ทําหน้าที่แจ้งเตือนก่อนการงด จ่ายไฟผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทเอกชนรายย่อย ตามข้อกําหนดของคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในเขตพื้นที่ ระบบจําหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอําเภอทุ่งใหญ่
หลักการและเหตุผล. ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ส่งผลให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงที่สำคัญทั่วโลก โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของมวลมนุษยชาติ วิกฤติทาง สาธารณสุขครั้งนี้ได้สร้างปัญหาทางเศรษฐกิจที่หนักที่สุดครั้งหนึ่งของโลก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง/รวดเร็ว/ และเป็นวงกว้างมากที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะองค์กรหลักด้านสุขภาพของประเทศ ได้บริหารจัดการ และรับมือกับ สถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความสำเร็จในการบริหารจัดการสถานการณ์ โควิด -19 ที่ได้รับ การชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างดีที่สุด โดยกระทรวงสาธารณสุข ยังคงเป็นผู้นำในการออกแบบระบบสาธารณสุข เพื่อสร้างระบบสาธารณสุขท่ีดีท่ีสุด เหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย และทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับมาตรฐานระบบสาธารณสุขไทยให้ก้าวไกลระดับโลก ด้วยการบริหารจัดการ และการเตรียมความ พร้อม จึงได้กำหนดแนวทางด้านสาธารณสุขเพื่อควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคระบาด ตลอดจนเพื่อให้ แน่ใจว่าองค์กร บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไป มีความพร้อมในการป้องกันสุขภาพ พร้อมด้วย วิธีการจัดการสิ่งแวดล้อมใหม่ภายใต้ระบบใหม่ การบรรลุเป้าหมายสู่การเป็นระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุดได้นั้น กิจกรรมไมซ์เป็นกลไกสำคัญในการ ขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จได้ ประเทศไทยมีองค์ความรู้ในการให้บริการส่งเสริมสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขเป็น เจ้าภาพร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย หรือ ททท. และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. จึงได้ร่วมกัน จัดทำ โครงการการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการจัดงาน “Thailand International Health Expo 2021 สร้างสุขภาพ เสริมเศรษฐกิจ เพื่อคุณภาพชีวิตประชาชน” เป็นโครงการที่จะประกาศศักยภาพ และ ความสำเร็จ ของการแพทย์ และระบบสาธารณสุขไทย ด้วยการสร้างความเชื่อมั่น และแสดงให้เห็นถึงการ บริหารจัดการ การควบคุมโรคระบาดโควิด-19 เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มคุณภาพชีวิตของ ประชาชน การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ภาครัฐ และเอกชน แสดงความเป็นผู้นำของกระทรวง สาธารณสุขไทย ด้วยการส่งเสริม แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การประชุม บทบาทการแพทย์ และระบบสาธารณสุข ไทย มาตรฐานสากล อีกทั้งยังเป็นโครงการที่จัดขึ้นสำหรับประชาชนทั่ว ไป บุคลากรด้านสุขภาพ และ ผู้ปฏิบัติงานทั่วโลก เพื่อแบ่งปันความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม ประสบการณ์ และศักยภาพทางด้านระบบ สาธารณสุขของไทยอีกด้วย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานตรงที่รับผิดชอบการ สนับสนุนส่งเสริมเพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าในประเทศไทย ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ดังกล่าว และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของการใช้งานแสดงสินค้าเป็นพื้นฐานของการสร้างงาน และสร้างคุณค่าให้กับ...
หลักการและเหตุผล. 1.1 ความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ไทย-นิวซีแลนด์ (Thailand-New Zealand Closer Economic Partnership Agreement: TNZCEP) ลงนามเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2548 และมี ผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2548 โดยความตกลงฯ ครอบคลุมการเปิดเสรีการค้าสินค้า การลงทุน และ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในสาขาต่างๆ ปัจจุบันไทยลดภาษีเป็น 0 ไปแล้วจํานวนร้อยละ 99.17 ของจํานวน รายการสินค้าทั้งหมด ในขณะที่นิวซีแลนด์ลดภาษีสินค้าทั้งหมดเป็น 0 แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558
หลักการและเหตุผล. การกํากับดูแลกิจการ (Governance) การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) และการปฏิบัติ ตามกฎระเบียบ (Compliance) ซึ่งรวมเรียกว่าการบูรณาการ Governance, Risk and Compliance หรือ GRC เป็นการกํากับดูแลองค์กรให้ดําเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสเละปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับ เพื่อมุ่งสู่การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการพิจารณาปัจจัยแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก ตลอดจนผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน พร้อมสื่อสารกลยุทธ์ นโยบาย และหลักการสําคัญต่างๆ ให้ทุกส่วนงานนําไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งครอบคลุมทั้ง “การบริหารความเสี่ยง” (Risk Management) ที่มีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงหรือเพิ่มโอกาสในการบรรลุวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์ที่กําหนดไว้ และ “การปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบต่างๆ” (Compliance) อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จึงนําหลักการ GRC มาประยุกต์ในองค์กรเพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบ การควบคุมมีความเหมาะสม การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล มีการระบุความเสี่ยง และใช้ทรัพยากร ในการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการดําเนินงานตามระบบการประเมินผลการดําเนินงาน รัฐวิสาหกิจ (SE-AM) ด้านการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน หัวข้อธรรมาภิบาลและวัฒนธรรม องค์กร โดยให้มีการกําหนดนโยบาย GRC การนํานโยบายไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการวัดประสิทธิผล ของนโยบายเพื่อนํามาปรับปรุงและพัฒนาการดําเนินงาน GRC ของ กฟภ. จึงดําเนินการจ้างที่ปรึกษาประเมิน ช่องว่าง (Gap) การดําเนินงาน GRC ของ กฟภ. ในปัจจุบัน เพื่อจัดทํากลยุทธ์และแผนงานพัฒนาการบูรณาการ GRC ของ กฟภ. (GRC Strategy and Roadmap) ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้ กฟภ. สามารถดําเนินงาน GRC ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนการบูรณาการ GRC ด้วยการ กําหนดฐานข้อมูลที่หน่วยงานใช้ร่วมกัน และนําระบบเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการบูรณาการงานด้าน GRC