ขอบเขตการศึกษา ข้อกำหนดตัวอย่าง

ขอบเขตการศึกษา. วิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.3 ขั้นตอนการดําเนินงาน
ขอบเขตการศึกษา. ในการวิจัยครั้งนี้ได้กําหนดขอบเขตการศึกษา เพื่อเป็นกรอบหรือแนวทางในการศึกษาวิจัยไว้ 3 ด้าน ดังต่อไปนี้ 3.1.1 ขอบเขตด้านพื้นที่
ขอบเขตการศึกษา. ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับสัญญาจ้างบุคลากรภาครัฐ ศึกษากรณีสัญญาจ้างบุคลากร มหาวิทยาลัยในกํากับของรัฐ เนื่องจากบุคลากรภาครัฐในประเทศไทยมีขอบเขตและเนื้อหาการศึกษาที่ กว้างมาก วิทยานิพนธ์เล่มนี้จึงมุ่งศึกษาเฉพาะสัญญาจ้างบุคลกรมหาวิทยาลัยในกํากับของรัฐ โดยยก กรณีศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นหลัก โดยศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้าง การบริหารงานมหาวิทยาลัย ในกํากับของรัฐ โครงสร้างและการบริหารงานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตลอดจนสัญญาจ้าง พนักงานมหาวิทยาลัยประเภทต่างๆ และบุคลกรอื่นที่ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมทั้ง ศึกษาหลักกฎหมายที่เกี่ยวกับสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาทางปกครอง และหลักเกณฑ์การแบ่งแยก สัญญาทางแพ่งออกจากสัญญาทางปกครอง รวมทั้งแนวคําวินิจฉัยของศาล ความเห็นของ คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอํานาจหน้าที่ระหว่างศาลในเรื่องที่เกี่ยวกับสัญญาจ้างพนักงาน มหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศไทย
ขอบเขตการศึกษา. การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาวิเคราะห์โครงสร้าง การผลิต การตลาด และวิถีการตลาดการเลี้ยง เป็ดไล่ทุ่งในเขตภาคใต้ ปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบของปัจจัยเสี่ยงต่อการเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งในเขตภาคใต้และ แนวทางการปรับตัว การจัดการความเสี่ยงของเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งในเขตภาคใต้ จากการศึกษาพบว่า การเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งประกอบด้วยเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งที่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่ได้ขึ้นทะเบียน การศึกษา ครอบคลุมเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งที่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้ขึ้นทะเบียนจากพื้นที่ในจังหวัดพัทลุง นครศรีธรรมราช และสงขลา
ขอบเขตการศึกษา. ๗.๑ พืํนทีดาเนินการ (หมูบ้าน ตาบล จังหวัด ระบบนิเวศ เชน ลมน้า เชิงเขา) ขอบเขตพื้นทีศึกษา พ้ืนทีลมน้าสงครามตอนลาง จากเขตอาเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ อาเภอคาตากล้า อาเภออากาศอานวย จังหวัด สกลนคร และอาเภอศรีสงคราม จงั หวัดนครพนม ดังนี้ - ต.ทากกแดง อ.เซกา จ.บึงกาฬ - ต.ทาสะอาด, ต.หนองบัวสิม และ ต.ค้าตากลา้ อ.ค้าตากลา้ จ.สกลนคร - ต.โพนงาม อ.อากาศอานวย จ.สกลนคร - ต.สามผง, ต.ศรีสงคราม, ต.ทาบอสงคราม และ ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม แบงเป็น ๔ โซน โซนที ๒ เขต ต.โพนงาม อ.อากาศอานวย จ.สกลนคร จานวน ๒ ชมชน โซนที ๓ ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม จานวน ๒ ชมชน โซนที ๔ ต.ศรีสงคราม ต.ทาบอสงคราม และ ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนมจานวน ๖ชมชน ซึงแตละโซนมีความแตกตางทางนิเวศน และวิธีการ/ เครืองมือในการหาปลาของชมชน ๗.๒ ประชากรหรือกลมเป้าหมาย ๗.๓ ชวงเวลาทีสนใจศึกษา ๗.๔ ประเด็นศึกษา ๗.๔.๑ แนวคิดทฤษฎีทีเกียวข้อง - การจัดการทรัพยากรสวนรวมของออสตรอม - การประเมินความยังยืนนิเวศน DPSIR - Supply Chain/ Value Chain - การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
ขอบเขตการศึกษา. วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึงลักษณะ และผลทางกฎหมายของหลักกฎหมายที่เกี่ยวกับ ข้อตกลงที่ขัดต่อวัตถุประสงค์หลักของสัญญา และจะได้มีการศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายของ ต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศฝรั่งเศสและประเทศอังกฤษ ซึ่งมีแนวทางเกี่ยวกับหลักกฎหมายในเรื่อง ดังกล่าวที่แตกต่างกัน
ขอบเขตการศึกษา. 3.6.1 ศึกษาทบทวนความเหมาะสม การศึกษาทางเลือกของโครงการและเหตุผลประกอบ ใน รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจะต้องเสนอทางเลือกในการพัฒนาโครงการ ได้แก่ ประเภทการ พัฒนาที่เหมาะสม ที่ตั งหัวงานที่เหมาะสม ปริมาณน ําเก็บกักที่เหมาะสม พื นที่ชลประทานที่เหมาะสม ระบบ ชลประทานที่เหมาะสม เป็นต้น โดยต้องมีรายละเอียดเบื องต้น รวมทั งสรุปข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือก และ เหตุผลประกอบการตัดสินใจเลือกทางเลือกนั น ๆ ทั งทางด้านวิศวกรรม เศรษฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยคํานึงถึงความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการพัฒนาโครงการ และจะต้องระบุทางเลือกที่ เหมาะสมที่สุดที่จะดําเนินโครงการพร้อมแสดงเหตุผลและความจําเป็นประกอบ 3.6.2 ศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาโครงการ โดยให้ครอบคลุมองค์ประกอบ ทางสิ่งแวดล้อมและคุณค่าต่าง ๆ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้าน กายภาพ ด้านชีวภาพ ด้านคุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และด้านคุณค่าต่อคุณภาพชีวิต โดยประกอบด้วย การศึกษาสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการพัฒนาโครงการ มาตรการ ป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการชดเชย มาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทั งนี จะต้องดําเนินการตามแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางสังคม และแนวทางการประเมินผลกระทบทางสุขภาพในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมกระทบ สิ่งแวดล้อม 3.6.3 ดําเนินศึกษาผลกระทบด้านแผ่นดินไหว ต่อการพัฒนาโครงการ 3.6.4 ศึกษาวิเคราะห์ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อมของโครงการ ดังนี 1) ด้านเศรษฐศาสตร์ เป็นการวิเคราะห์ความเหมาะสมในเชิงเศรษฐกิจ โดยพิจารณา ผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อสังคม รวมทั งการวิเคราะห์ผลประโยชน์ที่เกิดขึ นกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการมี/ไม่มี โครงการ ให้นําเสนอผลการวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ของโครงการโดยไม่นําการประเมินมูลค่าของผลกระทบ สิ่งแวดล้อมมารวมไว้ โดยข้อมูลต้นทุนองค์ประกอบของโครงการและผลประโยชน์ที่เกิดจากโครงการทั งหมด ทั งทางตรงและทางอ้อมที่นํามาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลต้องแจกแจงรายละเอียดให้ชัดเจนทั งต้นทุนและ ผลประโยชน์ของโครงการ 2) ด้านเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม เป็นการนําผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาประเมินในเชิงมูลค่า เพื่อนําไปผนวกกับการวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ เพื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าของโครงการ โดยต้องระบุให้ ชัดเจนในเรื่องที่สามารถประเมินมูลค่าได้ และไม่สามารถประเมินได้ (ให้ประเมินในรูปคุณค่าและความสําคัญ ในประเด็นนั นแทน) และให้จําแนกต้นทุนและผลประโยชน์ทั งทางตรงและทางอ้อมให้ครอบคลุม ชัดเจน และ ครบถ้วนในทุกประเด็นอย่างละเอียด และนํามาประเมินมูลค่าให้เห็นอย่างชัดเจน พร้อมระบุแหล่งที่มาของ ข้อมูลที่นํามาใช้ในการคํานวณหรือ้างอิงให้ชัดเจน และราคาที่นํามาใช้ควรมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับ สภาพความเป็นจริงในพื นที่โครงการ รวมทั งควรเลือกใช้เครื่องมือทางด...

Related to ขอบเขตการศึกษา

  • หลักฐานการยื่นข้อเสนอ ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอเอกสารหลักฐานยื่นมาพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้าง ภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยแยกเป็น ๒ ส่วน คือ ๓.๑ ส่วนที่ ๑ อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้ (๑) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคล (ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด ให้ยื่นสําเนาหนังสือรับรองการจด ทะเบียนนิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสําเนาถูกต้อง (ข) บริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด ให้ยื่นสําเนาหนังสือรับรองการจด ทะเบียนนิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอํานาจควบคุม (ถ้ามี) และบัญชีผู้ถือหุ้นราย ใหญ่ (ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสําเนาถูกต้อง (๒) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่น สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของผู้นั้น สําเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สําเนาบัตรประจําตัว ประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือสําเนาหนังสือเดินทางของผู้เป็นหุ้นส่วนที่มิได้ถือสัญชาติไทย พร้อมทั้งรับรองสําเนา ถูกต้อง (๓) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้ยื่นข้อเสนอร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสําเนา สัญญาของการเข้าร่วมค้า และเอกสารตามที่ระบุไว้ใน (๑) หรือ (๒) ของผู้ร่วมค้า แล้วแต่กรณี (๔.๒) สําเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี) (๕) บัญชีเอกสารส่วนที่ ๑ ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัด จ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ตามแบบในข้อ ๑.๗ (๑) โดยไม่ต้องแนบในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format) ทั้งนี้ เมื่อผู้ยื่นข้อเสนอดําเนินการแนบไฟล์เอกสารตามบัญชีเอกสารส่วนที่ ๑ ครบถ้วน ถูกต้องแล้ว ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์จะสร้างบัญชีเอกสารส่วนที่ ๑ ตามแบบใน ข้อ ๑.๗ (๑) ให้โดยผู้ยื่นข้อเสนอไม่ต้องแนบบัญชีเอกสารส่วนที่ ๑ ดังกล่าวในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format)

  • การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ สำนักงาน สามารถนำผลการปฏิบัติงานแล้วเสร็จตามสัญญาของผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการ คัดเลือกให้เป็นผู้รับจ้างเพื่อนำมาประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ

  • แบบรูปและรายการละเอียดคลาดเคลื่อน ผู้รับจ้างรับรองว่าได้ตรวจสอบและทําความเข้าใจในแบบรูปและรายการละเอียดโดยถี่ถ้วนแล้ว หากปรากฏว่าแบบรูปและรายการละเอียดนั้นผิดพลาด หรือคลาดเคลื่อนไปจากหลักการทางวิศวกรรมหรือทาง เทคนิค ผู้รับจ้างตกลงที่จะปฏิบัติตามคําวินิจฉัยของผู้ว่าจ้าง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน หรือบริษัทที่ ปรึกษาที่ผู้ว่าจ้างแต่งตั้ง เพื่อให้งานแล้วเสร็จบริบูรณ์ คําวินิจฉัยดังกล่าว ให้ถือเป็นที่สุด โดยผู้รับจ้างจะคิดค่าจ้าง ค่าเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มขึ้นจากผู้ว่าจ้าง หรือขอขยายอายุสัญญาไม่ได้

  • หลักฐานการเสนอราคา ผู้ประสงค์จะเสนอราคาจะต้องเสนอเอกสารหลักฐาน แยกเป็น 2 ส่วน คือ 3.1 ส่วนที่ 1 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้ (1) ในกรณีผู้ประสงค์จะเสนอราคาเป็นนิติบุคคล (ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจ˚ากัด ให้ยื่นส˚าเนาหนังสือรับรองการ จดทะเบียนนิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอ˚านาจควบคุม (ถ้ามี) พร้อมรับรองส˚าเนาถูกต้อง /3.(ข) บริษัทจ˚ากัด.... (ข) บริษัทจ˚ากัดหรือบริษัทมหาชนจ˚ากัด ให้ยื่นส˚าเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติ บุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอ˚านาจควบคุม และบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่พร้อม รับรองส˚าเนาถูกต้อง (2) ในกรณีผู้ประสงค์จะเสนอราคาเป็นบุคคลธรรมดา หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลให้ยื่น ส˚าเนาบัตรประจ˚าตัวประชาชนของผู้นั้น ส˚าเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน(ถ้ามี) ส˚าเนาบัตรประจ˚าตัว ประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน พร้อมทั้งรับรองส˚าเนาถูกต้อง (3) ในกรณีผู้ประสงค์จะเสนอราคาเป็นผู้ประสงค์จะเสนอราคาร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้าให้ ยื่นส˚าเนาสัญญาของการเข้าร่วมค้า ส˚าเนาบัตรประจ˚าตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีที่ผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใด เป็นบุคคลธรรมดาที่มิใช่สัญชาติไทย ก็ให้ยื่นส˚าเนาหนังสือเดินทาง หรือผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคล ให้ยื่น เอกสารตามที่ระบุไว้ใน (1) (4) ส˚าเนาแบบแสดงการลงทะเบียนในระบบ e-GP, ส˚าเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมรับรองส˚าเนาถูกต้อง (5) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1 ทั้งหมดที่ได้ยื่นตามแบบในข้อ 1.9 (1)

  • สิทธิของผู้ว่าจ้างภายหลังบอกเลิกสัญญา ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญา ผู้ว่าจ้างอาจทํางานนั้นเองหรือว่าจ้างผู้อื่นให้ทํางานนั้นต่อจนแล้ว เสร็จก็ได้ ผู้ว่าจ้างหรือผู้ที่รับจ้างทํางานนั้นต่อมีสิทธิใช้เครื่องใช้ในการก่อสร้าง สิ่งที่สร้างขึ้นชั่วคราวสําหรับงาน ก่อสร้าง และวัสดุต่างๆ ซึ่งเห็นว่าจะต้องสงวนเอาไว้เพื่อการปฏิบัติงานตามสัญญาตามที่จะเห็นสมควร ในกรณีดังกล่าว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิริบหรือบังคับจากหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา ทั้งหมดหรือ บางส่วนตามแต่จะเห็นสมควร นอกจากนั้นผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบในค่าเสียหายซึ่งเป็นจํานวนเกินกว่าหลัก ประกันการปฏิบัติตามสัญญา รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการทํางานนั้นต่อให้แล้วเสร็จตามสัญญา ตลอดจนค่าใช้จ่าย ในการควบคุมงานเพิ่ม (ถ้ามี) ซึ่งผู้ว่าจ้างจะหักเอาจากเงินประกันผลงานหรือจํานวนเงินใด ๆ ที่จะจ่ายให้แก่ผู้รับจ้างก็ได้

  • ค่าปรับ หากผู้รับจ้างไม่สามารถทํางานให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กําหนดไว้ในสัญญาและผู้ว่าจ้างยังมิได้บอก เลิกสัญญา ผู้รับจ้างจะต้องชําระค่าปรับให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็นจํานวนเงิน วันละ ……………..บาท และจะต้องชําระ ค่าใช้จ่ายในการควบคุมงานในเมื่อผู้ว่าจ้างต้องจ้างผู้ควบคุมงานอีกต่อหนึ่งเป็นจํานวนเงิน วันละ บาท นับถัดจากวันที่กําหนดแล้วเสร็จตามสัญญาหรือวันที่ผู้ว่าจ้างได้ขยายให้จนถึงวันที่ ทํางานแล้วเสร็จจริง นอกจากนี้ ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากการที่ผู้รับจ้างทํางานล่าช้าเฉพาะส่วนที่เกินกว่าจํานวน ค่าปรับและค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้อีกด้วย ในระหว่างที่ผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญานั้น หากผู้ว่าจ้างเห็นว่าผู้รับจ้างจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญา ต่อไปได้ ผู้ว่าจ้างจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและใช้สิทธิตามข้อ 18 ก็ได้ และถ้าผู้ว่าจ้างได้แจ้ง ข้อเรียกร้องไปยัง ผู้รับจ้างเมื่อครบกําหนดแล้วเสร็จของงานขอให้ชําระค่าปรับแล้ว ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะปรับ ผู้รับจ้างจนถึงวันบอกเลิก สัญญาได้อีกด้วย

  • อัตราค่าปรับ ค่าปรับตามแบบสัญญาจ้างแนบท้ายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์นี้ หรือข้อตกลง จ้างเป็นหนังสือจะกำหนด ดังนี้ ๘.๑ กรณีที่ผู้รับจ้างนำงานที่รับจ้างไปจ้างช่วงให้ผู้อื่นทำอีกทอดหนึ่งโดยไม่ได้รับ อนุญาตจากสำนักงาน จะกำหนดค่าปรับสำหรับการฝ่าฝืนดังกล่าวเป็นจำนวนร้อยละ ๑๐.๐๐ ของวงเงินของ งานจ้างช่วงนั้น ๘.๒ กรณีที่ผู้รับจ้างปฏิบัติผิดสัญญาจ้างนอกเหนือจากข้อ ๘.๑ จะกำหนดค่าปรับ เป็นรายวันในอัตราร้อยละ ๐.๑๐ ของราคาค่าจ้าง

  • เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ

  • การจ้างช่วง ผู้รับจ้างจะต้องไม่เอางานทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแห่งสัญญานี้ไปจ้างช่วงอีกทอดหนึ่ง เว้นแต่การจ้างช่วงงาน แต่บางส่วนที่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้างแล้ว การที่ผู้ว่าจ้างได้อนุญาตให้จ้างช่วงงานแต่บางส่วนดังกล่าวนั้น ไม่เป็นเหตุให้ ผู้รับจ้างหลุดพ้นจาก ความรับผิดหรือพันธะหน้าที่ตามสัญญานี้ และผู้รับจ้างจะยังคงต้องรับผิดในความผิดและความประมาทเลินเล่อ ของผู้รับจ้างช่วง หรือของตัวแทนหรือลูกจ้างของผู้รับจ้างช่วงนั้นทุกประการ กรณีผู้รับจ้างไปจ้างช่วงงานแต่บางส่วนโดยฝ่าฝืนความในวรรคหนึ่ง ผู้รับจ้างต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็น จำนวนเงินในอัตราร้อยละ ๑๐ (สิบ) ของวงเงินของงานที่จ้างช่วงตามสัญญา ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิผู้ว่าจ้างในการบอกเลิกสัญญา

  • ความรับผิดของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดต่ออุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือภยันตรายใด ๆ อันเกิดจากการปฏิบัติงาน ของผู้รับจ้าง และจะต้องรับผิดต่อความเสียหายจากการกระทําของลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้รับจ้าง และจากการ ปฏิบัติงานของผู้รับจ้างช่วงด้วย (ถ้ามี) ความเสียหายใดๆ อันเกิดแก่งานที่ผู้รับจ้างได้ทําขึ้น แม้จะเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัยก็ตาม ผู้รับ จ้างจะต้องรับผิดชอบโดยซ่อมแซมให้คืนดีหรือเปลี่ยนให้ใหม่โดยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเอง เว้นแต่ความเสียหายนั้น เกิดจากความผิดของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ ความรับผิดของผู้รับจ้างดังกล่าวในข้อนี้จะสิ้นสุดลง เมื่อผู้ว่าจ้างได้รับมอบงาน ครั้งสุดท้าย ซึ่งหลังจากนั้นผู้รับจ้างคงต้องรับผิดเพียงในกรณีชํารุดบกพร่อง หรือความเสียหายดังกล่าวในข้อ 8 เท่านั้น ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการปฏิบัติงานของผู้ รับจ้าง หรือลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้รับจ้าง รวมถึงผู้รับจ้างช่วง (ถ้ามี) ตามสัญญานี้ หากผู้ว่าจ้างถูกเรียกร้องหรือ ฟ้องร้องหรือต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องดําเนินการใด ๆ เพื่อให้มีการว่าต่างแก้ต่าง ให้แก่ผู้ว่าจ้างโดยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเอง รวมทั้งผู้รับจ้างจะต้องชดใช้ค่าเสียหายนั้น ๆ ตลอดจนค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากการถูกเรียกร้องหรือถูกฟ้องร้องให้แก่ผู้ว่าจ้างทันที